จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์]

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์]

กล่าวได้ว่านี่คือการพบกันระหว่างว่าที่แม่ยายกับว่าที่ลูกเขย มันจึงยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

ขณะนี้ ฉู่ชวิ๋นถือว่าเป็นคนดัง ไม่ว่าจะเป็นในโลกยุทธภพหรือว่าโลกมนุษย์

“เดี๋ยวฉันจะจัดงานแต่งระหว่างคุณกับฮวาชิงหวู่ให้ทีหลัง ก็แล้วกันนะ” หยานหลานพูดกับฉู่ชวิ๋นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีการดุด่าเกิดขึ้นแม้แต่น้อย

“อ้าว แค่นี้เองเหรอ?” หลงอ๋าวอุทานอย่างไม่พอใจ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองตาขวาง ทำไมตาแก่นี่ถึงได้หน้าไม่อายขนาดนี้ คนอื่น ๆ ก็ดูจะผิดหวังเช่นกันที่เหตุการณ์นี้ผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไม่ว่าเป็นใครต่างก็อยากเห็นฉู่ชวิ๋นเขินอายอีกสักครั้งสองครั้ง

“ผมจะบอกให้นะ คุณพี่ คุณไม่น่า ยกลูกสาวให้ไอ้หมอนี่ง่าย ๆ เลยไอ้หมอนี่มันไม่ใช่ตัวดีหรอก ผมขอเอาหัวของตัวเองเป็นเดิมพัน” หลงอ๋าวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อยด้วยความขบขัน หลงอ๋าวมีอายุเกือบ สองร้อยปี แต่กลับเรียกหยานหลานว่า “คุณพี่” ได้อย่างไม่อายปากจริง ๆ หยานหลานมาจากตระกูลใหญ่พื้นเพเป็นคนสุภาพ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรจึงไม่พูดอะไรนอกจากหัวเราะตอบกลับไปเท่านั้น

ฮวาชิงหวู่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ “คุณลุงหลงคะ ที่คุณทำแบบนี้ก็เพื่อแก้แค้นที่ฉู่ชวิ๋นเอาไม้แขวนเสื้อฟาดหัวคุณใช่ไหม? อะไรนะ?” กลุ่มคนที่ยืนอยู่ถึงกับหันไปมองหลงอ๋าว ด้วยความสนใจทันที

ใบหน้าที่แก่เฒ่าของหลงอ๋าวแดงก่ำขึ้นมาแล้ว นี่คือความอับอายและเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตเกือบสองร้อยปีของเขา ชายชราไม่เคยถูกใครฟาดจนสลบมาก่อน ยิ่งคิด ก็ยิ่งปวดหัวขึ้นมาอีกแล้ว

“มิน่าล่ะไม่กี่วันก่อน หัวของตาลุงหลงอ๋าวถึงได้ตะปุ่มตะป่ำขนาดนั้น ไอ้เราก็นึกว่าโดนยุงกัดมาซะอีก” เฉินฮั่นหลงพึมพำ ทุกคนพากันยิ้มมุมปาก ยุงอะไรจะกัดจนหัวคนปูดได้ขนาดนั้น? พวกเขาต่างทราบดีว่า นี่คือการเหน็บแนมจากเฉินฮั่นหลงต่างหาก

“คุณลุงหลง หัวหายเจ็บหรือยังครับ? ผมมีน้ำยาเทวะอยู่นะ มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บได้ดี ผมเคยลองใช้มาแล้ว คุณอยากใช้สักหน่อยไหมล่ะ” เฉินฮั่นหลงพูดอย่างไม่กลัวตายอีกครั้ง

“ที่แท้คุณลุงหลงก็ถูกฟาดจนสลบนี่เอง ผมก็นึกว่า คุณลุงจะแข็งแกร่งเป็นเทพเซียนมังกรซะอีก” ซุนหยิงก็เป็นอีกคนที่กล้าล้อเล่นอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน

หลงอ๋าวโกรธจนควันออกหู ต้องระบายลมหายใจออกมายาวแรงเขาอยากจะใช้โอกาสนี้กลั่นแกล้งฉู่ชวิ๋น แต่กลับเป็นฝ่ายต้องเสียหน้าซะเอง

“โบราณกล่าวไว้ นายว่าขี้ข้าพลอยจริง ๆ พวกแกมันไม่ใช่ตัวดีสักตัว เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงอยู่กับไอ้เจ้าฉู่ชวิ๋นได้” หลงอ๋าวส่ายศีรษะแล้วเดินจากไป

ฉู่ชวิ๋นนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงร้องเรียกว่า “เดี๋ยวก่อนสิลุง”

“มีอะไรอีก?” หลงอ๋าวจะโกรธก็ไม่โกรธ จะแค้นก็ไม่แค้น สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ

“ได้โปรดอย่าเพิ่งมีโกรธไปผมมีอะไรจะถามหน่อย” ฉู่ชวิ๋นหยิบภาพวาดที่นำมาจากสำนักกระบี่ทองคำออกมา

“คุณเคยเห็นสิ่งนี้หรือเปล่า?” ฉู่ชวิ๋นชี้ไปยังกระถางสามขาที่อยู่ในภาพวาด หลงอ๋าวมีชีวิตอยู่ยืนยาวมาเกือบสองร้อยปี น่าจะรู้อะไรบางอย่างบ้าง เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ เดินเข้ามามองอย่างอยากรู้อยากเห็น

“นี่มันอะไรกัน? กระถางธูปเหรอ?” เฉินฮั่นหลงพูดกับตัวเอง

“แต่ทำไมกระถางธูปถึงใหญ่ขนาดนี้”

“พี่หลง นี่ไม่ใช่กระถางธูป นี่มันกระถางสามขา” ซุนหยิงพูดใหม่ให้ถูกต้อง

“พี่ซุน แน่ใจเหรอว่าสามขา ทำไมผมว่ามันเหมือนมีสี่ขานะ?” เจ้าหนุ่มร่างยักษ์ถาม

เฮ้อ! ซุนหยิงกลอกตามองบนและพูดว่า

“เจ้าโง่ กระถางสามขามันจะมีสี่ขาได้ยังไง”

“อ๋อ ครับ” ชายหนุ่มร่างยักษ์ยกมือเกาหัวตัวเองแกรก ๆ

เฉินฮั่นหลงพูดตัดบทขึ้นมาว่า “เลิกพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว นี่มันคือกระถางธูปน่าจะเป็นของโบราณหลายร้อยปี มูลค่าคงเป็นเงินมหาศาล”

ซุนหยิงอยากจะโต้แย้ง แต่เมื่อเห็นสายตาของเฉินฮั่นหลงที่จ้องมองมา เขาก็หน้าขาวซีดและได้แต่ยิ้มตอบไปว่า “พี่หลงพูดถูกแล้ว นี่คือกระถางธูป กระถางธูปจริง ๆ ด้วย…” เฉินฮั่นหลงมีสีหน้าภูมิอกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้างแล้วเอานิ้วจิ้มหัวเฉินฮั่นหลงทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองทางหลงอ๋าว พูดว่า “คุณลุงมีความเห็นว่ายังไงบ้าง?” หลงอ๋าวขมวดคิ้ว นิ่งคิดไปเล็กน้อย ก่อนพูดออกมาว่า “นี่คือหม้อยาจักรพรรดิ?”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า ดูเหมือนว่าหลงอ๋าวจะมีสายตาที่เฉียบแหลมไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มจึงจ้องมองชายชราอย่างมีความหวัง หลงอ๋าวนิ่งไปอึดใจใหญ่ ยกมือลูบเคราของตัวเอง หลังจากเงียบไปครึ่งค่อนวันก็พูดออกมาว่า

“ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อของหม้อยาจักรพรรดิเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน”

ฉู่ชวิ๋นลุ้นจนแทบลืมหายใจ ไม่รู้เหมือนกันว่า หลงอ๋าวจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกระถางใบนี้มากน้อยแค่ไหน?

“หม้อยาจักรพรรดิคืออะไรเหรอลุง?” เฉินฮั่นหลงถามด้วยความสงสัย

“พี่หลง กระถางปรุงยาเขาก็ต้องเอาไว้ปรุงยาน่ะสิ…” ซุนหยิงอธิบายพร้อมกับส่ายหน้าด้วยความระอาใจ

“ไม่ต้องพูดแล้ว!” เฉินฮั่นหลงตวาดเสียงดัง จนซุนหยิงไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแล้ว ฉู่ชวิ๋นผิดหวังอยู่ไม่น้อย แม้แต่หลงอ๋าวก็ไม่รู้อะไร ดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้พบเจอหม้อยาจักรพรรดิแล้วจริง ๆ

“ฉันเคยเห็นมันอยู่นะ” หยานหลานพลันโพล่งขึ้น ทุกคนรวมถึงฉู่ชวิ๋น พร้อมใจกันหันไปมองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ

“แม่ค่ะ แม่เคยเห็นที่ไหน?” ฮวาชิงหวู่ถาม เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อฉู่ชวิ๋นมาก หยานหลานเดินหายกลับเข้าไปในห้องพัก หลังจากนั้น ก็เดินกลับออกมาพร้อมกับแท็บเล็ต และยื่นส่งให้ทุกคนดู บนหน้าจอเป็นภาพประกอบข่าว และภาพนั้นก็เป็นภาพวาดของกระถางสีแดงใบหนึ่ง

ฉู่ชวิ๋นลุกพรวดขึ้นยืน ดวงตาเบิกโต ทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่า รูปของกระถางปรุงยาที่อยู่บนหน้าจอจะไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ก็แน่ใจได้เลยว่า มันเป็นกระถางอย่างเดียวกับที่อยู่ในภาพวาดโบราณ แต่เมื่อชายหนุ่มได้เห็นหัวข้อข่าว ปากของเขาก็กระตุกเล็กน้อย

ลั่วยวินฮาน นักสะสมของโบราณชื่อดัง จะเปิดประมูลของสะสมครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต หม้อยาจักรพรรดิ

ต่อจากนั้น ก็เป็นรายละเอียดของที่จะเข้ารับการประมูล คุณสมบัติของกระถางปรุงยาใบนี้ระบุเอาไว้ว่า มันเป็นกระถางปรุงยาสำหรับเทพเจ้าบนสวรรค์ ที่ส่งต่อสืบทอดกันมาหลายพันปีและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน นับว่าเป็นของวิเศษอย่างหนึ่งบนโลกมนุษย์ แน่นอนว่านี่เป็นแค่โฆษณาชวนซื้อเท่านั้น

“ฮั่นหลง จองตั๋วไปเมืองหยุนหยานให้ฉันหน่อย” ฉู่ชวิ๋นออกคำสั่ง บริษัทที่จะจัดการประมูลตั้งอยู่ในเมืองหยุนหยาน เวลาประมูลคือบ่ายโมงตรงวันมะรืนนี้

“ฉันไปด้วยนะ” ฮวาชิงหวู่พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ได้สิ” ฉู่ชวิ๋นไม่ปฏิเสธ ครอบครัวของฮวาชิงหวู่เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหยุนหยาน เมื่อมีครอบครัวของเธอคอยช่วยเหลือทุกอย่างก็จะราบรื่นขึ้นอีกเยอะ

“ฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน” หลงอ๋าวพูดขึ้นมาบ้าง ซุนหยิงและชายหนุ่มร่างยักษ์ยืดหัวขึ้นมาดูด้วยความสนใจ

“ลุงอยู่ที่นี่ดีกว่านะ ที่พักบนภูเขาเฉียนหลงใกล้จะเสร็จแล้ว ผมกลับมาเมื่อไหร่ผมจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้เลย” ฉู่ชวิ๋นโบกมือ

“เจ้าหนู นี่แก…” คำพูดของหลงอ๋าวถูกขัดด้วยคำพูดของฉู่ชวิ๋นที่กล่าวแทรกว่า “ถ้าลุงอยากจะเลื่อนระดับไปอีกขั้นก็ต้องอยู่ที่นี่เดียวผมกลับมาจัดการให้” หลงอ๋าวส่งเสียงฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดถึงเรื่องที่จะไปหยุนหยานด้วยอีกเลย

พลังฝีมือของเขาติดอยู่ที่ระดับแปด มามากกว่าสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เลื่อนขึ้นไประดับเก้า ไม่ได้สักที มีแต่เพียงฉู่ชวิ๋นคนเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยคลายจุดส่งเขาขึ้นสู่ระดับต่อไปได้ ดังนั้น ในตอนนี้หลงอ๋าวจึงต้องอดทนไว้ก่อนในอนาคต ค่อยหาโอกาสสั่งสอนเจ้าหนุ่มนี่ทีหลังก็ได้

บ่ายวันนั้น ฉู่ชวิ๋นกับฮวาชิงหวู่ก็บินไปที่เมืองหยุนหยาน พวกเขาเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างราบรื่นปลอดภัยที่หน้าสนามบิน ฮวาเซิ่งมารอคอยอยู่แล้ว

“นายท่านครับ” ฮวาเซิ่งยกมือทำความเคารพ

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าตอบกลับไป หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินมาขึ้นรถ

“นายท่านครับ ผมจัดการเรื่องที่นายท่านสั่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ฮวาเซิ่งพูดพร้อมกับยื่นซองเอกสารมาให้ ฉู่ชวิ๋นรับมาถือไว้และวางลงข้างตัว “บริษัทเชิญทุกคนที่เป็นตระกูลร่ำรวยในเมืองหยุนหยานให้เข้าร่วมการประมูล ตระกูลของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ” ฮวาเซิ่งพูด

ฉู่ชวิ๋นหันหน้าไปถามว่า “นายได้ตรวจสอบภูมิหลังบริษัทที่จัดประมูลแล้วหรือยัง?”

“ตรวจแล้วครับ แต่ไม่เจออะไร” ฮวาเซิ่งตอบด้วยน้ำเสียงเสียดาย

“ถ้างั้นมันก็มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างแรก บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทจัดประมูลธรรมดา ไม่มีอะไรแอบแฝง อย่างที่สอง เป็นบริษัทที่มีผู้หนุนหลังใหญ่โตจนเราไม่สามารถสืบประวัติได้” ฮวาชิงหวู่พูดด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด

“ครอบครัวของคุณถูกเชิญไปแบบนี้ พ่อแม่คุณว่ายังไงบ้าง?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พ่อแม่ฉันก็จะไปเหมือนกัน”

“จริงเหรอ?” ฉู่ชวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ฮวาเซิ่งเปิดกระเป๋าเอกสารที่อยู่ข้างตัว และหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาส่งให้ชายหนุ่มด้วยสองมืออย่างนอบน้อม “ลองอ่านดูครับ นายท่าน”

ฉู่ชวิ๋นกวาดตาอ่านเอกสาร เมื่ออ่านจบแล้วก็ต้องนั่งแผ่นหลังเหยียดตรง นี่คือเอกสารข้อมูลของลั่วยวินฮาน เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักสะสมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเก่าหายาก แถมยังมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาโบราณคดีด้านสิ่งประดิษฐ์โบราณในมหาวิทยาลัยอีกด้วย

ลั่วยวินฮานได้ให้ข้อมูลไว้ว่าหม้อยาจักรพรรดิ มีเวทมนตร์ที่แท้จริง สามารถปรุงยารักษาโรคได้ทุกชนิด ช่วยทำให้ชีวิตยืนยาว แม้ว่ายาที่ปรุงจะเป็นเพียงแค่สมุนไพรธรรมดาเท่านั้น ตัวเขาเองคือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ลั่วยวินฮานมีอายุมากกว่า หกสิบปีแล้ว แต่ใบหน้ายังคงอ่อนเยาว์ เส้นผมบนศีรษะเป็นสีดำสนิท ไม่มีผมขาวเลยสักเส้นเดียว เขาจึงดูเหมือนคนที่มีอายุแค่สี่สิบปีไม่มีผิด

ลั่วยวินฮานยอมรับว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาดื่มยาที่ปรุงจากหม้อยาจักรพรรดิ ที่สำคัญก็คือ เขานำรูปถ่ายจากหลายปีก่อนหน้านี้ มาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายของตนเองในปัจจุบัน สมัยก่อน เส้นผมบนศีรษะของเขาเต็มไปด้วยสีเทา นักศึกษาจำนวนมากเป็นพยานให้เขาได้เป็นอย่างดี

หม้อยาจักรพรรดิช่วยทำให้ชีวิตยืนยาว ยิ่งสมุนไพรที่นำไปปรุงดีมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในเรื่องของความอ่อนเยาว์และบำรุงร่างกาย แต่ด้วยประโยชน์มากมายมหาศาลเช่นนี้ หม้อยาจักรพรรดิจึงกลายเป็นที่หมายปองของคนทุกชนชั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นฉินผู้ครอบครองหกแผ่นดิน ไปจนถึงคนธรรมดาที่เป็นชาวยุทธจักร ล้วนแล้วแต่ก็อยากได้มันมาครอบครองทั้งสิ้น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์]

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 163 หม้อยาจักรพรรดิ[รีไรท์]

กล่าวได้ว่านี่คือการพบกันระหว่างว่าที่แม่ยายกับว่าที่ลูกเขย มันจึงยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

ขณะนี้ ฉู่ชวิ๋นถือว่าเป็นคนดัง ไม่ว่าจะเป็นในโลกยุทธภพหรือว่าโลกมนุษย์

“เดี๋ยวฉันจะจัดงานแต่งระหว่างคุณกับฮวาชิงหวู่ให้ทีหลัง ก็แล้วกันนะ” หยานหลานพูดกับฉู่ชวิ๋นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีการดุด่าเกิดขึ้นแม้แต่น้อย

“อ้าว แค่นี้เองเหรอ?” หลงอ๋าวอุทานอย่างไม่พอใจ ฉู่ชวิ๋นหันไปมองตาขวาง ทำไมตาแก่นี่ถึงได้หน้าไม่อายขนาดนี้ คนอื่น ๆ ก็ดูจะผิดหวังเช่นกันที่เหตุการณ์นี้ผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไม่ว่าเป็นใครต่างก็อยากเห็นฉู่ชวิ๋นเขินอายอีกสักครั้งสองครั้ง

“ผมจะบอกให้นะ คุณพี่ คุณไม่น่า ยกลูกสาวให้ไอ้หมอนี่ง่าย ๆ เลยไอ้หมอนี่มันไม่ใช่ตัวดีหรอก ผมขอเอาหัวของตัวเองเป็นเดิมพัน” หลงอ๋าวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อยด้วยความขบขัน หลงอ๋าวมีอายุเกือบ สองร้อยปี แต่กลับเรียกหยานหลานว่า “คุณพี่” ได้อย่างไม่อายปากจริง ๆ หยานหลานมาจากตระกูลใหญ่พื้นเพเป็นคนสุภาพ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรจึงไม่พูดอะไรนอกจากหัวเราะตอบกลับไปเท่านั้น

ฮวาชิงหวู่กะพริบตาปริบ ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ “คุณลุงหลงคะ ที่คุณทำแบบนี้ก็เพื่อแก้แค้นที่ฉู่ชวิ๋นเอาไม้แขวนเสื้อฟาดหัวคุณใช่ไหม? อะไรนะ?” กลุ่มคนที่ยืนอยู่ถึงกับหันไปมองหลงอ๋าว ด้วยความสนใจทันที

ใบหน้าที่แก่เฒ่าของหลงอ๋าวแดงก่ำขึ้นมาแล้ว นี่คือความอับอายและเป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตเกือบสองร้อยปีของเขา ชายชราไม่เคยถูกใครฟาดจนสลบมาก่อน ยิ่งคิด ก็ยิ่งปวดหัวขึ้นมาอีกแล้ว

“มิน่าล่ะไม่กี่วันก่อน หัวของตาลุงหลงอ๋าวถึงได้ตะปุ่มตะป่ำขนาดนั้น ไอ้เราก็นึกว่าโดนยุงกัดมาซะอีก” เฉินฮั่นหลงพึมพำ ทุกคนพากันยิ้มมุมปาก ยุงอะไรจะกัดจนหัวคนปูดได้ขนาดนั้น? พวกเขาต่างทราบดีว่า นี่คือการเหน็บแนมจากเฉินฮั่นหลงต่างหาก

“คุณลุงหลง หัวหายเจ็บหรือยังครับ? ผมมีน้ำยาเทวะอยู่นะ มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บได้ดี ผมเคยลองใช้มาแล้ว คุณอยากใช้สักหน่อยไหมล่ะ” เฉินฮั่นหลงพูดอย่างไม่กลัวตายอีกครั้ง

“ที่แท้คุณลุงหลงก็ถูกฟาดจนสลบนี่เอง ผมก็นึกว่า คุณลุงจะแข็งแกร่งเป็นเทพเซียนมังกรซะอีก” ซุนหยิงก็เป็นอีกคนที่กล้าล้อเล่นอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน

หลงอ๋าวโกรธจนควันออกหู ต้องระบายลมหายใจออกมายาวแรงเขาอยากจะใช้โอกาสนี้กลั่นแกล้งฉู่ชวิ๋น แต่กลับเป็นฝ่ายต้องเสียหน้าซะเอง

“โบราณกล่าวไว้ นายว่าขี้ข้าพลอยจริง ๆ พวกแกมันไม่ใช่ตัวดีสักตัว เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงอยู่กับไอ้เจ้าฉู่ชวิ๋นได้” หลงอ๋าวส่ายศีรษะแล้วเดินจากไป

ฉู่ชวิ๋นนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงร้องเรียกว่า “เดี๋ยวก่อนสิลุง”

“มีอะไรอีก?” หลงอ๋าวจะโกรธก็ไม่โกรธ จะแค้นก็ไม่แค้น สีหน้าจึงเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ

“ได้โปรดอย่าเพิ่งมีโกรธไปผมมีอะไรจะถามหน่อย” ฉู่ชวิ๋นหยิบภาพวาดที่นำมาจากสำนักกระบี่ทองคำออกมา

“คุณเคยเห็นสิ่งนี้หรือเปล่า?” ฉู่ชวิ๋นชี้ไปยังกระถางสามขาที่อยู่ในภาพวาด หลงอ๋าวมีชีวิตอยู่ยืนยาวมาเกือบสองร้อยปี น่าจะรู้อะไรบางอย่างบ้าง เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ เดินเข้ามามองอย่างอยากรู้อยากเห็น

“นี่มันอะไรกัน? กระถางธูปเหรอ?” เฉินฮั่นหลงพูดกับตัวเอง

“แต่ทำไมกระถางธูปถึงใหญ่ขนาดนี้”

“พี่หลง นี่ไม่ใช่กระถางธูป นี่มันกระถางสามขา” ซุนหยิงพูดใหม่ให้ถูกต้อง

“พี่ซุน แน่ใจเหรอว่าสามขา ทำไมผมว่ามันเหมือนมีสี่ขานะ?” เจ้าหนุ่มร่างยักษ์ถาม

เฮ้อ! ซุนหยิงกลอกตามองบนและพูดว่า

“เจ้าโง่ กระถางสามขามันจะมีสี่ขาได้ยังไง”

“อ๋อ ครับ” ชายหนุ่มร่างยักษ์ยกมือเกาหัวตัวเองแกรก ๆ

เฉินฮั่นหลงพูดตัดบทขึ้นมาว่า “เลิกพูดจาไร้สาระกันได้แล้ว นี่มันคือกระถางธูปน่าจะเป็นของโบราณหลายร้อยปี มูลค่าคงเป็นเงินมหาศาล”

ซุนหยิงอยากจะโต้แย้ง แต่เมื่อเห็นสายตาของเฉินฮั่นหลงที่จ้องมองมา เขาก็หน้าขาวซีดและได้แต่ยิ้มตอบไปว่า “พี่หลงพูดถูกแล้ว นี่คือกระถางธูป กระถางธูปจริง ๆ ด้วย…” เฉินฮั่นหลงมีสีหน้าภูมิอกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้างแล้วเอานิ้วจิ้มหัวเฉินฮั่นหลงทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองทางหลงอ๋าว พูดว่า “คุณลุงมีความเห็นว่ายังไงบ้าง?” หลงอ๋าวขมวดคิ้ว นิ่งคิดไปเล็กน้อย ก่อนพูดออกมาว่า “นี่คือหม้อยาจักรพรรดิ?”

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า ดูเหมือนว่าหลงอ๋าวจะมีสายตาที่เฉียบแหลมไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มจึงจ้องมองชายชราอย่างมีความหวัง หลงอ๋าวนิ่งไปอึดใจใหญ่ ยกมือลูบเคราของตัวเอง หลังจากเงียบไปครึ่งค่อนวันก็พูดออกมาว่า

“ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อของหม้อยาจักรพรรดิเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน”

ฉู่ชวิ๋นลุ้นจนแทบลืมหายใจ ไม่รู้เหมือนกันว่า หลงอ๋าวจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกระถางใบนี้มากน้อยแค่ไหน?

“หม้อยาจักรพรรดิคืออะไรเหรอลุง?” เฉินฮั่นหลงถามด้วยความสงสัย

“พี่หลง กระถางปรุงยาเขาก็ต้องเอาไว้ปรุงยาน่ะสิ…” ซุนหยิงอธิบายพร้อมกับส่ายหน้าด้วยความระอาใจ

“ไม่ต้องพูดแล้ว!” เฉินฮั่นหลงตวาดเสียงดัง จนซุนหยิงไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแล้ว ฉู่ชวิ๋นผิดหวังอยู่ไม่น้อย แม้แต่หลงอ๋าวก็ไม่รู้อะไร ดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้พบเจอหม้อยาจักรพรรดิแล้วจริง ๆ

“ฉันเคยเห็นมันอยู่นะ” หยานหลานพลันโพล่งขึ้น ทุกคนรวมถึงฉู่ชวิ๋น พร้อมใจกันหันไปมองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ

“แม่ค่ะ แม่เคยเห็นที่ไหน?” ฮวาชิงหวู่ถาม เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้มีความสำคัญต่อฉู่ชวิ๋นมาก หยานหลานเดินหายกลับเข้าไปในห้องพัก หลังจากนั้น ก็เดินกลับออกมาพร้อมกับแท็บเล็ต และยื่นส่งให้ทุกคนดู บนหน้าจอเป็นภาพประกอบข่าว และภาพนั้นก็เป็นภาพวาดของกระถางสีแดงใบหนึ่ง

ฉู่ชวิ๋นลุกพรวดขึ้นยืน ดวงตาเบิกโต ทำให้ทุกคนตกใจเล็กน้อย ถึงแม้ว่า รูปของกระถางปรุงยาที่อยู่บนหน้าจอจะไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ก็แน่ใจได้เลยว่า มันเป็นกระถางอย่างเดียวกับที่อยู่ในภาพวาดโบราณ แต่เมื่อชายหนุ่มได้เห็นหัวข้อข่าว ปากของเขาก็กระตุกเล็กน้อย

ลั่วยวินฮาน นักสะสมของโบราณชื่อดัง จะเปิดประมูลของสะสมครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต หม้อยาจักรพรรดิ

ต่อจากนั้น ก็เป็นรายละเอียดของที่จะเข้ารับการประมูล คุณสมบัติของกระถางปรุงยาใบนี้ระบุเอาไว้ว่า มันเป็นกระถางปรุงยาสำหรับเทพเจ้าบนสวรรค์ ที่ส่งต่อสืบทอดกันมาหลายพันปีและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน นับว่าเป็นของวิเศษอย่างหนึ่งบนโลกมนุษย์ แน่นอนว่านี่เป็นแค่โฆษณาชวนซื้อเท่านั้น

“ฮั่นหลง จองตั๋วไปเมืองหยุนหยานให้ฉันหน่อย” ฉู่ชวิ๋นออกคำสั่ง บริษัทที่จะจัดการประมูลตั้งอยู่ในเมืองหยุนหยาน เวลาประมูลคือบ่ายโมงตรงวันมะรืนนี้

“ฉันไปด้วยนะ” ฮวาชิงหวู่พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ได้สิ” ฉู่ชวิ๋นไม่ปฏิเสธ ครอบครัวของฮวาชิงหวู่เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหยุนหยาน เมื่อมีครอบครัวของเธอคอยช่วยเหลือทุกอย่างก็จะราบรื่นขึ้นอีกเยอะ

“ฉันก็จะไปด้วยเหมือนกัน” หลงอ๋าวพูดขึ้นมาบ้าง ซุนหยิงและชายหนุ่มร่างยักษ์ยืดหัวขึ้นมาดูด้วยความสนใจ

“ลุงอยู่ที่นี่ดีกว่านะ ที่พักบนภูเขาเฉียนหลงใกล้จะเสร็จแล้ว ผมกลับมาเมื่อไหร่ผมจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้เลย” ฉู่ชวิ๋นโบกมือ

“เจ้าหนู นี่แก…” คำพูดของหลงอ๋าวถูกขัดด้วยคำพูดของฉู่ชวิ๋นที่กล่าวแทรกว่า “ถ้าลุงอยากจะเลื่อนระดับไปอีกขั้นก็ต้องอยู่ที่นี่เดียวผมกลับมาจัดการให้” หลงอ๋าวส่งเสียงฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดถึงเรื่องที่จะไปหยุนหยานด้วยอีกเลย

พลังฝีมือของเขาติดอยู่ที่ระดับแปด มามากกว่าสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เลื่อนขึ้นไประดับเก้า ไม่ได้สักที มีแต่เพียงฉู่ชวิ๋นคนเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยคลายจุดส่งเขาขึ้นสู่ระดับต่อไปได้ ดังนั้น ในตอนนี้หลงอ๋าวจึงต้องอดทนไว้ก่อนในอนาคต ค่อยหาโอกาสสั่งสอนเจ้าหนุ่มนี่ทีหลังก็ได้

บ่ายวันนั้น ฉู่ชวิ๋นกับฮวาชิงหวู่ก็บินไปที่เมืองหยุนหยาน พวกเขาเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างราบรื่นปลอดภัยที่หน้าสนามบิน ฮวาเซิ่งมารอคอยอยู่แล้ว

“นายท่านครับ” ฮวาเซิ่งยกมือทำความเคารพ

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าตอบกลับไป หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินมาขึ้นรถ

“นายท่านครับ ผมจัดการเรื่องที่นายท่านสั่งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” ฮวาเซิ่งพูดพร้อมกับยื่นซองเอกสารมาให้ ฉู่ชวิ๋นรับมาถือไว้และวางลงข้างตัว “บริษัทเชิญทุกคนที่เป็นตระกูลร่ำรวยในเมืองหยุนหยานให้เข้าร่วมการประมูล ตระกูลของเราก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ” ฮวาเซิ่งพูด

ฉู่ชวิ๋นหันหน้าไปถามว่า “นายได้ตรวจสอบภูมิหลังบริษัทที่จัดประมูลแล้วหรือยัง?”

“ตรวจแล้วครับ แต่ไม่เจออะไร” ฮวาเซิ่งตอบด้วยน้ำเสียงเสียดาย

“ถ้างั้นมันก็มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างแรก บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทจัดประมูลธรรมดา ไม่มีอะไรแอบแฝง อย่างที่สอง เป็นบริษัทที่มีผู้หนุนหลังใหญ่โตจนเราไม่สามารถสืบประวัติได้” ฮวาชิงหวู่พูดด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด

“ครอบครัวของคุณถูกเชิญไปแบบนี้ พ่อแม่คุณว่ายังไงบ้าง?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด พ่อแม่ฉันก็จะไปเหมือนกัน”

“จริงเหรอ?” ฉู่ชวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ฮวาเซิ่งเปิดกระเป๋าเอกสารที่อยู่ข้างตัว และหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาส่งให้ชายหนุ่มด้วยสองมืออย่างนอบน้อม “ลองอ่านดูครับ นายท่าน”

ฉู่ชวิ๋นกวาดตาอ่านเอกสาร เมื่ออ่านจบแล้วก็ต้องนั่งแผ่นหลังเหยียดตรง นี่คือเอกสารข้อมูลของลั่วยวินฮาน เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักสะสมเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเก่าหายาก แถมยังมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์สอนวิชาโบราณคดีด้านสิ่งประดิษฐ์โบราณในมหาวิทยาลัยอีกด้วย

ลั่วยวินฮานได้ให้ข้อมูลไว้ว่าหม้อยาจักรพรรดิ มีเวทมนตร์ที่แท้จริง สามารถปรุงยารักษาโรคได้ทุกชนิด ช่วยทำให้ชีวิตยืนยาว แม้ว่ายาที่ปรุงจะเป็นเพียงแค่สมุนไพรธรรมดาเท่านั้น ตัวเขาเองคือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ลั่วยวินฮานมีอายุมากกว่า หกสิบปีแล้ว แต่ใบหน้ายังคงอ่อนเยาว์ เส้นผมบนศีรษะเป็นสีดำสนิท ไม่มีผมขาวเลยสักเส้นเดียว เขาจึงดูเหมือนคนที่มีอายุแค่สี่สิบปีไม่มีผิด

ลั่วยวินฮานยอมรับว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาดื่มยาที่ปรุงจากหม้อยาจักรพรรดิ ที่สำคัญก็คือ เขานำรูปถ่ายจากหลายปีก่อนหน้านี้ มาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายของตนเองในปัจจุบัน สมัยก่อน เส้นผมบนศีรษะของเขาเต็มไปด้วยสีเทา นักศึกษาจำนวนมากเป็นพยานให้เขาได้เป็นอย่างดี

หม้อยาจักรพรรดิช่วยทำให้ชีวิตยืนยาว ยิ่งสมุนไพรที่นำไปปรุงดีมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น มีประโยชน์มากโดยเฉพาะในเรื่องของความอ่อนเยาว์และบำรุงร่างกาย แต่ด้วยประโยชน์มากมายมหาศาลเช่นนี้ หม้อยาจักรพรรดิจึงกลายเป็นที่หมายปองของคนทุกชนชั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิแห่งแคว้นฉินผู้ครอบครองหกแผ่นดิน ไปจนถึงคนธรรมดาที่เป็นชาวยุทธจักร ล้วนแล้วแต่ก็อยากได้มันมาครอบครองทั้งสิ้น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+