ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต 10

Now you are reading ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต Chapter 10 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.10 – นามนั้นคือ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะ]

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

ในสมัยมอต้น มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นครอบครัวผมก็ได้จากไป แล้วก็ได้ไปอยู่กับคุณตา

อยู่ๆสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนกะทันหันจิตใจก็เลยแปรปรวน จนกลายเป็นจูนิเบียว

 

ชื่อจริงก็คือ[คิริว โชมะ(桐生正真)] แล้วเปลี่ยนคันจิให้เป็น[คิริว โชมะ(鬼竜翔魔)]

เพื่อให้เท่ยิ่งขึ้นก็เลยใช้ชื่อว่า[คิริวโอ โชมะ(鬼竜王翔魔)]

ทุกเย็นก็จะสวมผ้าคลุมดำ ขับจักรยานวนไปมาตอนกลางคืน ค้นหาศัตรูของโลก

ถึงจะยังไม่ถึงขั้นใส่ผ้าปิดตาก็เถอะ

 

ในตอนนั้นจิตใจผมแปรปรวนจริงๆ…

ตอนที่เสียครอบครัวไปผมคิดว่าเป็นฝีมือของโลก จึงออกค้นหา[ศัตรู]ที่ตัวผมเองก็ยังไม่รู้

 

[คิริวโอ โชมะ]นั้นสามารถใช้พลังได้4เผ่า (เซ็ตติ้งเอาไว้แบบนั้น)

 

พลังของยักษ์

พลังของมังกร

พลังของปักษา(ผู้ที่บินบนท้องฟ้า)

พลังของมาร(ผู้นำมาซึ่งหายนะ)

 

[王]ที่อยู่ใจกลางของชื่อก็คือ[“ราชา”ที่เป็น”แกนกลาง”] หรือก็คือจุดสูงสุดของทุกสิ่ง สามารถรับสิ่งต่างๆเข้ามาได้ด้วย[ภาชนะแห่งราชา] แล้วตัวอักษร[王]ก็อยู่ที่ใจกลางของทั้งห้าตัวเพื่อสนับสนุนทุกสิ่ง

ดังนั้นผม [คิริโอ โชมะ]ก็เลยสามารถใช้พลังทั้ง4ได้งั้นเหรออออออออ!

 

“เจ็บ ทรมานนนนนนนน!”

 

ผมกุมหัวอย่างเจ็บปวดทรมาน

ไม่ พอก่อนเลย สำหรับคนวัยสามสิบแบบผมแล้วความทรงจำนี้มันทรมานเกินไป

 

ตั้งชื่อดินสอ(鉛筆{えんぴつ})ว่า[ดินสอเพลิง(炎筆{えんぴつ})]วาดวงเวทขึ้นมา แล้วเรียก[อิฟรีต(ภูติแห่งไฟ)]–

เพื่อปลุกพลังพิเศษก็เลยอ่านหนังสือชี่กงแปลกๆ ปฏิบัติตามทุกเช้าเที่ยงเย็น ตั้งจิตนั่งสมาธิ พยายามเปิดจักระ–

 

วาดวงเวทออริจินัลขึ้นมาหลังอาคารร้างที่ไม่มีคน เพื่อรวบรวมพลังเวทในอากาศ–

 

ทันทีที่ตื่นกับก่อนนอนก็ต้องพูดว่า[จงสลักไว้กับจิตวิญญาณ นามอันแท้จริงของข้าก็คือ“คิริวโอ โชมะ”!]–

 

“อุหวาาาาาาาาาาาาาาาาา!!”

 

ลืม–ไป–เลย–

ลืมไปก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ!

 

ทำไมถึงลืมก็จำได้แล้ว มันเป็นคำสัญญากับคุณตาที่เอาผมมาเลี้ยง

ก่อนที่ผมจะเข้ามอปลายไม่นาน ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจนคุณตาทัตสึโกโร่ก็

 

“ด้วยนามแท้จริงข้า[ดราโกนิค อเวคกิ้ง วูล์ฟ(竜悟狼)] ขอผนึกพลังของเจ้า การสำแดงพลังของเจ้าบนโลกใบนี้ จะไม่มีอีกแล้ว หน้าที่ของเจ้าจบลงแล้ว จงใช้ชีวิตปกติในส่วนของพ่อแม่ไปก็ไม่เป็นไรแล้ว!”

 

–พูดแบบนั้น แล้วความจูนิเบียวของผมก็จบลง

 

แน่นอนว่า[ทัตสึโกโร่(竜悟狼)]ก็คือนามแท้จริงที่ผมตั้งให้คุณตา[ทัตสึโกโร่(辰五郎)]

 

คุณตาเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของผม และเป็นคนที่ใจดีขนาดยอมเล่นตามความจูนิเบียว

ดังนั้นผมจึงเชื่อฟังคำพูดนั้น แล้วผนึกความสามารถ(ที่คิดเอาไว้)

แม้แต่ตัวเอง ก็คิดว่าควรจะเลิกได้แล้ว ทั้งๆที่่ฝึกด้วยตัวเองมาหลายปีก็ยังไม่มีความสามารถพิเศษเกิดขึ้นมา ศัตรูของโลกก็หาไม่เจอ

 

ด้วยเหตุนั้นจึงไปเลือกหาโรงเรียนมอปลายไกลบ้าน ผมที่เลิกเป็นจูนิเบียวแล้วนั้นก็จบการศึกษาได้ตามปกติ ทำงาน แล้วก็เฝ้าคุณตาจนจากไป ในตอนนั้นก็ไม่ได้รับอนุญาตจากที่ทำงานให้ลามาเฝ้าก็เลยลาออก แล้วไปหางานใหม่ทำ

 

เรื่องสมัยจูนิเบียว–ทั้งๆที่ลืมไปสนิทแล้วแท้ๆ

ไม่สิ ยังไม่ลืมงั้นเหรอ?

 

ถึงจะคิดว่าลืม แต่จริงๆแล้วมันก็ยังหลงเหลืออยู่ในส่วนลึกของจิตใจ?

ดังนั้นก็เลยกล้าที่จะลาออกจากงานอันไร้เหตุผลได้แบบง่ายๆเหรอ?

 

แต่ว่า…ไม่เข้าใจเลย

ทำไมผมในตอนนี้ถึงใช้พลังของมังกร ยักษ์ แล้วก็ราชาได้กันล่ะ

ขนาดที่โลกเดิมฝึกขนาดไหนก็ยังไม่สามารถใช้งานได้แท้ๆ…

 

ไม่เข้าใจ

 

“…มีแต่ต้องถามคุณเทพธิดาเท่านั้นสินะ…”

 

ผมหยินปากกาลูกลื่นออกมาจาก[ภาชนะแห่งราชา]

ในจดหมายของคุณเทพธิเาเขียนเอาไว้ว่า“จะตอบคำถามให้ครั้งหนึ่ง” ข้างล่างก็มีช่องคำถามกว้างๆอยู่

บางที เขียนคำถามลงไปในนี้ก็พอสินะ

ลองดูละกัน

 

ผมค่อยๆสูดลมหายใจเข้าไปลึก แล้วเขียนข้อความลงในช่องคำถาม–

 

[มีเรื่องจะถามท่านเทพธิดาครับ ความสามารถของผม เกี่ยวอะไรกับเรื่องตอนที่ผมจูนิเบียวในโลกเดิมไหมครับ?]

 

จากนั้นก็รอ

ผ่านไปประมาณสิบวินาที ใต้คำถามของผมก็มีตัวอักษรโผล่ขึ้นมา

 

[ค่ะ ขอตอบนะคะ คุณคิริโอ โชมะ]

 

ขอบคุณ

แต่ว่าช่วยเลิกเรียกด้วยชื่อนั้นเถอะนะ

 

[ตอบ:จูนิเบียว? ของพรรค์นั้นไม่รู้จักหรอกค่ะ ความสามารถของคุณเป็นของที่มีมาตั้งแต่ก่อนการอัญเชิญค่ะ แต่เพราะว่าโลกที่คุณอยู่มีพลังเวทเบาบาง ดังนั้นถึงจะตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถใช้งานได้ค่ะ]

 

[ถาม:ตื่นเหรอ? ผมจำไม่เห็นได้เลยนะว่าเคยใช้สกิลได้ในโลกเดิมน่ะครับ!]

 

[ตอบ:ดังนั้นถึงได้บอกว่าโลกของคุณมีพลังเวทเบาบางไงคะ ถึงจะปลุกสกิลได้ขนาดไหน ถ้าพลังเวทไม่พอก็ใช้ไม่ได้ค่ะ บางที แม้แต่ตัวตนของสกิลก็ไม่รู้สึกถึงด้วยซ้ำค่ะ

คุณนี่น่าตกใจจริงๆค่ะ ทั้งๆที่เป็นโลกที่พลังเวทเบาบางแท้ๆ แต่กลับปลุกสกิลที่ทรงพลังขนาดนั้นขึ้นมาได้]

 

[ถาม:น่าแปลกนะครับ ตอนที่ผมจูนิเบียวมีนก็เป็นเรื่องนานกว่า10ปีมาแล้ว นานมาก–]

 

[ตอบ:ก็พึ่งผ่านมาไม่นานเองนี่คะ]

 

…สเกลเวลาของคุณเทพธิดานี่ผิดกันเลย

 

[ตอบ:แล้วตอนนี้จิตใจของคุณก็กลับมาเป็นช่วงวัยสิบกว่าค่ะ การที่ใช้พลังในตอนนั้นได้ นั่นเองก็เป็นเหตุค่ะ แต่ว่าสุดยอดไปเลยนะคะ การที่สามารถปลุกความสามารถได้ในโลกของคุณเนี่ย ถ้าไม่ได้ตั้งใจทำพิธีทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ]

 

[ถาม:อย่างเช่น?]

 

[ตอบ:อย่างการฝึกจินตนาการเพื่อให้ใช้วิชาได้ทุกวันโดยไม่ขาด]

 

ทำอยู่หรอก ทุกวันโดยไม่ขาด

 

[ตอบ:เชื่ออย่างสนิทใจว่าตัวเองมีพลังพิเศษ สลักชื่อลงไปในจิตวิญญาณ]

 

ก็ทำอยู่หรอก!

 

[ตอบ:ใช้งานวงเวทเพื่อกลั่นพลังเวทจากอากาศ]

 

ก็ทำจริงๆหรอก!!!

 

[ตอบ:คงจะไม่ได้ทำอะไรอย่างการดูดพลังเวทอันน้อยนิดจากอากาศหรอกนะคะ? ถ้าเกิดทำแบบนั้นในโลกพลังเวทเบาบางอย่างบ้านเกิดของคุณล่ะก็ จะเกิดภาระกับร่างกายแบบมหาศาลค่ะ

ให้พูดก็เหมือนกับการฝึกร่างกายในสถานที่ที่มีออกซิเจนเบาบางค่ะ ถ้าให้พูดในแบบโลกของคุณก็จะเป็น”การฝึกที่สูง”ฉบับพลังเวทค่ะ จะเกิดเป็นร่างกายที่มีสัมผัสพลังเวทที่ทรงพลัง และรับพลังเวทได้ง่ายขึ้นมา–อัตราการดูดกลืนพลังเวทในโลกนี้จึงสูงมากค่ะ

บางทีพริบตาที่ถูกพามายังโลกนี้ สกิลของคุณก็ดูดพลังเวทเข้าไปรวดเดียวจนทำงานขึ้นมาแบบก้าวกระโดดค่ะ แม้แต่เทพธิดาแบบฉันก็ไม่อาจจะเข้าไปยุ่งด้วยได้]

 

…ช่างมันไปเถอะ

 

[ถาม:หรือก็คือ…เรื่องที่ผมทำตอนเป็นจูนิเบียว…]

 

[ตอบ:คุณไม่ได้ทำอะไรพลาดสักอย่างเลยค่ะ คุณสามารถปลุกสกิลมาได้อย่างถูกต้องในโลกเดิมค่ะ เพียงแต่ พลังเวทของโลกนั้นมีไม่เพียงพอเท่านั้นเองค่ะ]

 

เป็นความจริงที่น่าตกใจ

…แต่ถึงจะมาพูดเรื่องแบบนั้นทำตอนนี้ก็มีแต่ปัญหา

 

[ตอบ:นั่นสินะคะ…ฉันเขียนชื่อที่สลักอยู่ในจิตวิญญาณของคุณไว้ในจดหมายสินะ นั่นไม่ใช่ชื่อในทะเบียนบ้านสินะคะ

แต่ว่า ฉันคิดว่าชื่อในจิตวิญญาณของคุณมันเท่มากเลยนะคะ คุณคิริวโอ โชมะ? ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธ์ คุณคิริวโอ โชมะ แม้แต่เทพธิดาอย่างฉันก็ยังตราตรึงไปทั่วหัวใจเลยค่ะ คุณคิริวโอ โชมะ!]

 

[หยุด~เลย~น้า~!]

 

แย่แล้วสิ ช่องว่างสำหรับเขียนจะไม่เหลือแล้ว

คำถามที่เหลือก็–

 

 

[ถาม:ถ้าอย่างนั้นพลังของผมก็จะไม่หายไป หรือเกิดใช้ไม่ได้ขึ้นมาสินะครับ?]

 

[ตอบ:การขโมยพลังของคุณ แม้แต่พระเจ้าก็ทำไม่ได้ค่ะ]

 

…ก็ถูกสลักอยู่กับจิตวิญญาณนี่นะ

 

[ตอบ:ดังนั้น ฉันจึงมอบสกิลให้คุณไม่ได้ค่ะ ให้พลังเกินๆไปก็มีแต่จะทำให้คุณอ่อนแอลงเปล่าๆค่ะ

แล้วเหตุผลที่อัญเชิญคุณมาผิดก็เพราะเหตุนั้นล่ะค่ะ

ท่านเทพสูงสุดได้สอนพิธีสำหรับอัญเชิญผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยโลกใบนี้ค่ะ ที่การอัญเชิญของฉันทำให้คุณติดมาด้วย…ก็เพราะว่าคุณเป็นคนที่เหมาะสมค่ะ…]

 

เป็นเทพธิดาที่พูดอะไรไร้ความรับผิดชอบจริงๆ

แต่ช่วงเถอะ ข้อมูลสกิลก็ได้มาแล้ว อย่างนี้ความเป็นไปได้ในการเอาตัวรอดก็มากขึ้น

 

[ถาม:คำถามสุดท้าย สกิลที่ได้มาในโลกนี้สามารถส่งต่อให้ใครได้ไหมครับ?]

 

[ตอบ:อยู่นอกเหนืออำนาจของฉันค่ะ แต่ว่า ถ้าเป็นคุณอาจจะพบวิธีการก็ได้นะคะ

ถ้าเป็นราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธ์ คุณคิริวโอ โชมะ แม้แต่ยุคมืดนี้ก็คงจะเอาตัวรอดได้สบายๆค่ะ

ดังนั้น…ไว้เจอกันใหม่นะคะ

ขอให้โชคดี ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธ์ คุณคิริวโอ โชมะ

 

จากเทพธิดาลูเคีย]

 

จบแค่นั้นก็ไม่มีตัวอักษรปรากฎขึ้นมา

…ในจดหมายเขียนว่า“หนึ่งครั้งเท่านั้น”…แสดงว่านี่จบแล้วสินะ

 

“…เรื่องที่อยากรู้ ก็เข้าใจเกือบหมดแล้ว”

 

[ภาชนะแห่งราชา][ปลุกเผ่ามังกร][ปลุกเผ่ายักษ์]นั้นเดิมทีคือสกิลที่ตื่นจากการที่พิธีที่ทำตอนเป็นจูนิเบียวในโลกเดิมสำเร็จ…

 

ทำไมถึงสามารถใช้ได้จากการที่ยืนยันตัวตนของยักษ์และมังกรก็เข้าใจแล้ว

 

ที่โลกเดิมนั้นไม่มีมังกรไม่มียักษ์ มนุษย์ที่สามารถบินบนท้องฟ้าด้วยร่างกายตัวเองก็ไม่มี ผมในสมัยจูนิเบียวถึงจะทำเป็น[ปลุกเผ่ามังกร]หรือ[ปลุกเผ่ายักษ์]ไปก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นผมในตอนนั้นจึงยอมแพ้

 

“โลกใบนี้ไม่มีมังกรและยักษ์ สกิลก็เลยไม่สามารถใช้ได้”–ประมาณนั้น

 

ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ตอนที่มายังโลกใบนี้ ก็คือผนึกของสกิลสินะ

ดังนั้นตอนที่ยืนยันตัวตนของมังกรกับยักษ์ได้ ผนึกจึงคลายและกลับมาใช้สกิลได้

 

ที่[ภาชนะแห่งราชา]สามารถใช้ได้ตั้งแต่ต้น… เป็นเพราะโลกเดิมก็มี[องค์ราชา]เป็นปกติ ผนึกก็เลยอ่อน…

 

แต่ว่า[Naming Bless(เพิ่มอัตลักษณ์ชื่อ)]กับ[ชีพจรมังกร]นั้นเป็นสกิลที่ได้รับมาจากความเข้าใจผิดว่าผมเป็นผู้สืบทอดจักรพรรดิมังกรจากการที่อยู่ใน[สุสานจักรพรรดิมังกร]

ดังนั้น ก็เลยไม่รู้วิธีใช้งานสกิลพวกนี้

 

แต่ว่า…สกิลของจักรพรรดิมังกร ผมรับไว้จะดีจริงๆเหรอ?

ควรจะคืนให้กับริเซ็ตที่เป็นผู้สืบสายเลือด[จักรพรรดิมังกร]มากกว่าหรือเปล่านะ

 

“…ถึงจะยังไม่รู้วิธีก็เถอะ”

 

ก่อนจะถึงเวลานั้นก็ควรจะอยู่ในหมู่บ้าน แล้วปกป้องริเซ็ตไปก่อนดีกว่า

ถ้าผมไม่ไปยุ่งแล้วเธอยังคงเปิดประตู[สุสานจักรพรรดิมังกร]ทุกวันเกิดไปเรื่อยๆ สักวันก็อาจจะได้มาก็ได้ สกิลของจักรพรรดิมังกรนี้น่ะ

 

“หึหึหื้ม~ ลาลาล้า~”

 

ได้ยินเสียงของริเซ็ตดังมาจากนอกหน้าต่าง

ดูเหมือนจะกำลังร้องเพลงไปพร้อมๆกับตักน้ำ

สงบใจจัง…ทำเอาง่วงเลย

 

จะว่าไปแล้วริเซ็ตบอกไว้ว่าข้าวเสร็จแล้วจะมาเรียกสินะ

–รู้สึกว่าเมื่อก่อนก็เคยมีอะไรคล้ายๆกัน อย่างสมัยวันหยุดฤดูร้อนตอนประถม

 

ตั้งแต่ตอนนั้นเลยสินะ

คิดถึงจังเลย…

 

–ต้องขอบคุณ…ริเซ็ตที่คอยดูแล…ด้วยสิ

 

ผมหลับตาลง

หลับลงไปในทันที

 

–ที่เห็นอยู่บางทีคงจะเป็นความฝันในช่วงมอต้น–

 

—————————————————————————————————————-

 

ข้อมูลของสกิลที่ปรากฎในคราวนี้

 

[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธ์ คิริวโอ โชมะ]

 

พลังเฉพาะตัวของคิริว โชมะที่เกิดขึ้นจากการหลอมรวมพลังเวทของต่างโลกเข้ากับการฝึกในวัยเด็ก พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวตนของเขาก็ได้

ตัวสกิลนั้นเดิมทีถูกปลุกขึ้นมาในโลกเดิม แต่ด้วยความที่ไม่มีพลังเวทที่เป็นเชื้อเพลิงก็เลยไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้แม้แต่นิดเดียว หลังจากได้รับพลังเวทอันเปี่ยมล้นของโลกทางนี้ สกิลก็สามารถใช้งานได้ในทันที

 

[คิริวโอ โชมะ]นั้นมีเกจพลังเวทของแต่ละตัวอักษร[ยักษ์(คิ)][มังกร(ริว)][ราชา(โอ)][ปักษา(โช)]มาร[(มะ)] จนกว่าจะใช้หมดก็จะสามารถใช้พลังตามตัวอักษรแต่ละตัวได้

 

กรณีพิเศษ [เก็บของ]กับ[แปลภาษา]ของ[ราชา]นั้นกินพลังเวทน้อยมาก(แถมยังฟื้นฟูกลับขึ้นมาไวกว่า)ทำให้สามารถใช้งานได้แม้เกจพลังเวทจะหมด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด