ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต 16

Now you are reading ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต Chapter 16 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.16 – ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ กำราบศัตรูด้วยคำพูด

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

 ──มุมมองริเซ็ต──

 

“ตัวที่3!”

 

ฉับ

ดาบยาวของริเซ็ตถูกเหวี่ยงเป็นวง

[ก็อบลินดำ]ที่ถูกฟันที่อกกระอักเลือดออกมาแล้วล้มลงไป

 

[กุก๊าาาาาาาาาาา!!]

“ต่อไป ตัวที่4!”

 

ที่โผล่ออกมาจากข้างหลังของอสูรที่ล้มลงไปก็คือ[ทหารดำ]ที่สวมชุดเกราะ

จิตความมืดชวนขยะแขยงทำให้ริเซ็ตขมวดคิ้ว

[ก็อบลินดำ]เป็นอสูรที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ แต่[ทหารดำ]คือสิ่งที่เหลือรอดจากอสูรต่างโลกที่[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]เคยใช้งาน

ทำให้จิตอันชั่วร้ายของมันเหม็นเป็นอย่างมาก

 

[เป็นแค่อมนุษย์! คิดว่าจะเอาชนะพวกเราที่บูชา“จักรพรรดิเพลิงทมิฬ”ได้งั้นหรือ!]

 

[ทหารดำ]พูดออกมาพร้อมกับเสียงเสียดสีของชุดเกราะ

 

[แผ่นดินของ–พวกอมนุษย์–มันไม่มีเหลืออีกแล้ว!]

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณจะมาตัดสินค่ะ?”

 

ดาบสีดำที่ทหารเหวี่ยงลงมาถูกหยุดไว้ด้วยดาบยาวของริเซ็ต

จากนั้นริเซ็ตก็พลิกข้อมือไหลไปตามดาบของศัตรู แล้วก็ใช้คมดาบตัดข้อมืออีกฝ่าย

[ดาบยาวโคตรแข็ง]ที่โชมะเสริมแกร่งให้ตัดผ่านเกราะมือของ[ทหารดำ]จนขาด

 

ริเซ็ตโจมตีต่อเนื่องไม่หยุดราวกับกำลังเต้นรำ

ใช้การโจมตีครั้งที่2ตัดแขน ทหารที่เสียอาวุธไปแล้วตั้งโล่มาไว้ตรงหน้า แต่คราวนี้โดนเล็งที่เท้า

จากนั้นก็ใช้[ดาบยาวโคตรแข็ง]แทงไปที่หน้าอกของทหารที่ล้มลงไปเพราะเสียสมดุล

 

[…มันอะไรกัน ดาบนั่น…?]

 

[ทหารดำ]กระอักหมอกพิษออกมาแล้วก็สลายไป

 

“ดาบมีชื่อที่ได้มาจากท่านพี่ของริเซ็ตค่ะ การที่ต้องมาใช้กับคุณนี่มันน่าเสียดายจริงๆค่ะ”

 

ริเซ็ตมองไปที่ดาบแล้วพยักหน้า

ทั้งๆที่เป็นของเหลือๆที่ซื้อมาจากพ่อค้า แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นดาบมีชื่อที่สามารถตัดชุดเกราะได้แล้ว

 

“เพราะท่านพี่โชมะทำให้การโจมตีสำเร็จอย่างงดงามได้ค่ะ”

 

ศัตรูที่มีกว่า40ตัวล้มลงไปเกินครึ่งแล้ว ที่เหลือก็มีแค่ที่กำลังต่อสู้อยู่กับพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน

จำนวนมีพอๆกันแล้ว ถ้าเพิ่มริเซ็ตกับฮารุกะเข้าไปก็ไม่แพ้แน่

แต่ไม่รู้ทำไม–ริเซ็ตถึงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

 

“…รู้สึกติดใจค่ะ”

 

แปลก…รู้สึกเหมือนมองข้ามอะไรไป

 

ริเซ็ตมองลึกเข้าไปในป่า

สุดนั่นมี[ปราสาทร้าง]อยู่ ที่นั่นเป็นฐานหลักของ[ก็อบลินดำ][ทหารดำ] แล้วก็บอสของพวกอสูร[อัศวินดำเมเซรัท]

ถ้าด้วยกำลังในตอนนี้อาจจะสามารถบุกไปถึงนั่นได้ก็ได้

 

“พี่ริส! ไม่เป็นไรใช่ไหม!?”

 

พร้อมกับเสียงของฮารุกะ ทหารที่สภาพเละตุ้มเป๊ะก็พุ่งเข้าใส่ขาของริเซ็ต

ทุกครั้งที่ฮารุกะเหวี่ยงกระบองก็จะมี[ก็อบลินดำ]กับ[ทหารดำ]ปลิวออกไป พริบตาที่ปลิวร่างกายของมันก็จะมีชิ้นส่วนที่แตกออก แล้วพวกมันที่เสียพลังต่อสู้ไปก็จะถูกพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านจัดการปิดท้าย

 

[เจ้าพวกอมนุษษษษษษษย์!!]

“จะว่าไปนายเป็นสัตว์ประหลาดที่[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]เรียกมาสินะ?”

 

ขวานที่[ทหารดำ]ฟาดลงมาถูกหยุดเอาไว้ด้วยกระบอง แล้วฮารุกะก็ยิ้มอย่างไร้เทียมทานออกมา

 

“เจ้าพวกนี้ แค่วิธีธรรมดาน่ะฆ่าไม่ได้หรอกค่ะ!!”

 

ฮารุกะเอาปลายกระบองจิ้มไปที่หน้าอกของ[ทหารดำ]

ใส่พลังเวทเข้าไป แล้วแทงรวดเดียว

 

ตูม

 

[ทหารดำ]ถูกซัดจนปลิวจากไปข้างๆ

ไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนหยุดนิ่งไม่ไหวติง

 

“[ทะลวงไร้สิ้นสุด]จากระยะศูนย์ ถ้าเป็นอาวุธที่เสริมแกร่งนี่ทนได้แน่ สมกับเป็นท่านพี่”

 

[ทะลวงไร้สิ้นสุด]คือหนึ่งในท่าทะลวงที่ฮารุกะใช้

ขณะที่เอาอาวุธแตะไปที่เป้าหมายก็จะใช้พลังเวทภายในร่างปล่อยออกมาเป็นกระทะลวงแบบเป็นระเบิด

พลังที่ถูกรวมเข้าเป็นจุดเดียวกันนั้นต่อให้เป็นเกราะก็แหลก แต่ก็ยังส่งภาระมาให้ตัวอาวุธด้วย ถ้าเป็นกระบองปกติ ใช้[ทะลวงไร้สิ้นสุด]แค่1ครั้งก็พังแล้ว ที่ผ่านมาก็เลยเป็นท่าไม้ตายที่ฮารุกะใช้เพียงแค่1ครั้งใน1การต่อสู้

 

“ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะยึด[ปราสาทร้าง]ได้จริงๆก็ได้นะ พี่ริส”

“…นั่นสินะ”

“…? พี่ริส…ทำไมเหรอ?”

 

ฮารุกะเห็นหน้าของริเซ็ตจึงถามออกไป

ริเซ็ตที่กำดาบแน่นก็หันไปมองฮารุกะ

 

“ฮารุกะ…เห็น[อัศวินดำเมเซรัท]บ้างไหม?”

“ไม่นิ เจ้านั่นก็อยู่ที่[ปราสาทร้าง]ล่ะมั้ง?”

“ริเซ็ตก็เคยคิดแบบนั้นค่ะ แต่ว่า มันแปลกค่ะ ทำไมพวกอสูรถึงไม่หนีกันเลยคะ?”

 

พวกอสูรนั้นเสียเปรียบในเรื่องจำนวนแล้ว

ไม่สามารถต่อการกับอาวุธที่โชมะให้มาได้ ถ้าปล่อยไว้ก็คงจะถูกจัดการหมด

เรื่องแค่นั้น พวกอสูรก็น่าจะรู้อยู่แล้วแท้ๆ–

 

“…แต่ก็ยังไม่หนี หมายความว่ามันยังคิดว่าพลิกสถานการณ์ได้ หรือมีเหตุผลที่หนีไม่ได้ สินะคะ”

“[อัศวินดำเมเซรัท]คงจะสั่งการจากสักที่? แต่ว่า ก็ไม่ได้มาตรงนี้”

“เจ้านั่นเป็นเผ่าชั้นสูงที่มีนิสัยโหดร้ายมากแม้แต่ในอสูรด้วยกันเอง เมื่อกี้ก็เกือบจะได้ฆ่าพวกชาวบ้านแล้ว…ไม่มีทางที่จะไม่มาโผล่ในสนามรบแน่ค่ะ แล้ว ต้องทำการโจมตีด้วยวิธีที่น่ารังเกียจที่สุดแน่”

 

ริเซ็ตเอามือแตะหัวแล้วก็คิด

สังหรณ์ใจไม่ดี–ถ้าตัวเองเป็นอัศวินดำจะทำอะไรล่ะ

 

ตอนที่พวกริเซ็ตมาถึง ชาวบ้านถูกล้อมอยู่

ที่เปิดก็มีแค่ทางไปหมู่บ้านเท่านั้น ถ้าพวกริเซ็ตมาช้าไปกว่านี้พวกชาวบ้านอาจจะวิ่งกลับไปหมู่บ้านก็ได้ แล้วต้องทำยังไงถึงจะจัดการได้ดีที่สุดล่ะ?

 

โจมตีชาวบ้านที่กำลังหนีจากด้านข้างสินะ–

หรือก็คือร่วมมือกับทหารและก็อบลินดำล้อมไว้หมดเรียบร้อยแล้ว

 

“ทะลวงศัตรูไปเร็วค่ะ ฮารุกะ ตามมาค่ะ!”

“พี่ริส?”

“ถ้าเดาผิดก็ดีอยู่หรอก–”

 

ริเซ็ตกำดาบวิ่งออกไป

 

“เหมือนกับที่พวกริเซ็ตบุกจากข้างหลังของศัตรู–บางที[อัศวินดำ]ก็ อาจจะอ้อมไปอยู่ที่ข้างหลังพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็ได้ค่ะ โจมตีจากทางไปหมู่บ้าน ถ้าเป็นแบบนี้ ตอนนี้ ที่นั่นก็คง–”

“[อัศวินดำเมเซรัท]อยู่กับท่านพี่เหรอ!?”

 

ฮารุกะเหวี่ยงกระบองตามหลังริเซ็ตมา

 

“…ท่านพี่ ไม่เป็นอะไรนะ…ท่านพี่…ท่านพี่โชมะ!!”

 

หัวของริเซ็ตว่างเปล่าไปหมด

 

“รอก่อนนะคะ ท่านพี่โชมะ!”

 

จะปล่อยให้ตายไม่ได้เด็ดขาด

คนคนนั้นเป็น[คนที่ถูกเลือกโดยจักรพรรดิมังกร]–เป็นครอบครัวของริเซ็ตนี่นา

 

──มุมมองโชมะ──

 

“–ชิ!”

 

แกร๊งงง!!

กระบองที่ผมฟาดลงไป กระแทกเข้ากับดาบสีดำ

ศัตรูแรงเยอะมาก–จนถูกดันเข้ามา แย่แล้วสิ–

 

“ใช้งาน! [Orge Force(พลังยักษ์)]!”

 

ผมใช้พลังในสภาพ[ปลุกเผ่ายักษ์]เหวี่ยงกระบองกลับไป

เจ้าคนที่ฟันเข้ามาถอยดาบกลับพร้อมกระโดดถอยไปด้านหลัง พร้อมกับม้า

 

“…ขี่ม้ากลางป่าเนี่ยนะ”

 

สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมก็คือ อัศวินที่มีสีดำเต็มตัว

ขี่ม้าสีดำเมี่ยม สวมเกราะสีดำ

แล้วก็มีแขน4ข้าง ที่แขนมีหอก2เล่มกับโล่อีก2อัน

ถึงจะไปว่าคนอื่นเขาไม่ได้ก็เถอะ–แต่นี่มันพิศดาร

 

ผมปกป้องหลังของพวกชาวบ้านเอาไว้อยู่

นี่คือทางไปหมู่บ้าน คิดว่าคงไม่มีศัตรูมาหรอก–แต่ก็อาจจะมีแอบหลบสายตาเข้ามาก็ได้

ก็เลยดูเผื่อไว้ แล้วก็ดันถูก

 

[คิดว่าชนะแล้วหรือไง?]

 

เจ้าสิ่งมีชีวิตนั่นพูดออกมา

 

[ก็ไม่รู้หรอกว่าทำได้ยังไง แต่เก่งนี่ที่อ้อมมาข้างหลังได้]

“…เหรอ”

[แต่ว่า ทางนี้เองก็เหมือนกัน “อสูรดำ”นั้นถือกำเนิดมาจากความบิดเบี้ยวของโลกใบนี้ ทั้งสงคราม ทั้งเวทมนต์ดำ ทุกสิ่งนั้นจะกลายเป็นพลังให้กับพวกเรา แถม…ถึงจะจัดการไปก็มีอสูรมาเพิ่ม จนสุดท้ายพวกเจ้า–]

“อา พอเข้าใจแล้วล่ะ”

 

ผมพูดออกมา

 

“พวกแกอาศัยความบิดเบี้ยวของโลกเป็นแหล่งพลังงานในการถือกำเนิดขึ้นมา แล้วด้วยเวทมนตร์ดำที่เจ้า[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]ใช้ทำให้เกิดอสูรอย่างก็อบลินดำขึ้นมา แกเองก็เป็นพวกที่เกิดมาจากสิ่งนั้น ไม่ก็เป็นพวกที่กลายพันธุ์เป็นอสูรสินะ

แล้วพวกแกก็คิดจะใช้[ปราสาทร้าง]เป็นฐานหลัก ถ้าปล่อยให้ทางนี้บุกต่อไปล่ะก็อาจจะไปถึง[ปราสาทร้าง]ก็ได้ ดังนั้นก็เลยออกมาแบบนี้สินะ”

[…อะ? อา?]

“อยู่ไม่สุขเลยนะ พูดถูกล่ะสิ”

[อะไรกันน่ะแก ยักษ์เหรอ…หรือมนุษย์? แกรู้อะไรกันแน่?]

 

ก็แทบไม่รู้อะไรสักนิดล่ะนะ

ให้พูดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงสัก10เปอร์เซ็นต์ได้

 

เจ้านี่ดูน่าจะเป็นบอส พลังก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ไม่อยากสู้ด้วยเลย แล้วก็ไม่อยากให้พวกชาวบ้านมาสู้ด้วย ดังนั้น รอให้อสูรทั้งหมดถูกจัดการแล้วให้ริเซ็ตกับฮารุกะรุมจัดการมันคงจะดีที่สุด

 

แล้วจะให้ผ่านตรงนี้ไปตอนนี้ไม่ได้

พวกชาวบ้านกำลังสู้กับพวกอสูรอยู่ข้างหลังผม กำลังใช้สมาธิกันอยู่ ถ้าปล่อยให้ผ่านตรงนี้ไปได้ ได้ถูกทะลวงหลังกันพอดี ผมเองก็เป็นหน่วยป้องกันหมู่บ้านนะ แค่ถ่วงเวลาน่ะทำได้อยู่แล้ว ต่อให้ต้องใช้วิธีแบบไหนก็ตาม

 

…ถึงจะไม่อยากจะใช้วิธีนี้ก็เถอะ

 

“ลงมาซะเจ้าโง่!”

 

ผมกระแทกกระบองลงพื้น

 

“เป็นแค่อสูรแท้ๆแต่บังอาจมองลงมาจากบนม้างั้นหรือ! นั่นคือท่าทางที่แกปฏิบัติต่อราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์งั้นหรือ!?”

[ราชาผู้พิชิต…แห่งต่างพันธุ์งั้นเหรอ!?]

 

แสงสีแดงกระพริบจากภายในหมวกเกราะคาบุโตะของอัศวินสีดำ

 

[จักรพรรดิของโลกใบนี้มีแค่จักรพรรดิมังกรกับลูกหลานของมันเท่านั้น ถ้าอย่างนั้น แกก็เป็นหนึ่งในราชาปลอมสินะ?]

“หึ พูดได้แค่นั้นเองเหรอ แกรู้แค่นั้นเองสินะ!?”

[อะไรนะ!?]

“แล้วยังจะคิดมายืนต่อหน้าราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะอีก ช่างน่าขำ!!”

 

ผมยืดอกพูดออกไป

อัศวินดำหยุดเคลื่อนไหว

มันกำหอกด้วยสองมือแน่นจ้องมาที่ผม

 

“โลกแคบๆของแก คงจะมองห้วงลึกของโลกใบนี้ไม่เห็นล่ะสิ!”

 

ถ้าอย่างนั้น ก็ขอดันกลับไปทั้งอย่างนี้ล่ะ!

 

[บ้าน่า!]

 

อัศวินเหวี่ยงหอกลงมา

 

[แกจะมารู้ดีอะไร! จะมนุษย์หรืออมนุษย์ไอ้พวกที่ทำเป็นแค่บูชาจักรพรรดิมังกรน่ะ มันตายไปหมดแล้ว! พวกเราผู้ถือกำเนิดจาก“ความบิดเบี้ยว”นี่ล่ะ คือชนชั้นสูงแห่งโลกใบใหม่!]

“เรื่องของเจ้า!”

 

–มาแล้ว!

อัศวินดำเหวี่ยงหอกลงมา ผมก็กำกระบองไว้แล้วกะเวลา

ระยะห่างก็ได้พอคารแล้ว

จะโดนก็ช่าง ไว้ค่อยใช้[Orge Force(พลังยักษ์)]ดันกลับไปก็พอ!

 

แกร๊ง!

 

[บ้าน่า!? กระบองไม้ทำไมถึงผลักหอกของข้าได้!?]

 

ศัตรูผงะบนลงม้า

 

“…หึ ได้แค่นี้เองเหรอ”

 

ผมทำเสียงหัวเราะด้วยจมูกอีกครั้ง

 

[…อึก]

 

อัศวินดำกำลังระแวงทางนี้อยู่ เลยไม่คิดจะเข้ามาใกล้

 

ผมมองขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย ฮาร์ปี้บนฟ้ากำลังใช้สองมือสร้าง[คมดาบ]ขึ้นมา ริเซ็ตกับฮารุกะ แล้วก็พวกชาวบ้านก็ดูเหมือนจะจัดการอสูรใกล้จะหมดแล้ว

งานของผมก็มีแค่ถ่วงเวลาอยู่อย่างนี้สินะ

 

[พวกเราอสูรชั้นสูงจะสร้างประเทศใหม่ขึ้นมาแทนเจ้าพวกมนุษย์และอมนุษย์ ที่นี่คือฐานที่มั่นที่ถูกเลือกไว้แล้ว อมนุษย์อย่างพวกแก–]

“พูดซะให้พอ”

 

แต่ว่า จะถ่วงเวลายังไงดี?

อัศวินดำกำหอกมองมาทางนี้

 

ความได้เปรียบของทางนี้คือ อีกฝ่ายไม่รู้ข้อมูลของผม

ผมใช้วิธีที่มันไม่รู้จักมาที่นี่แล้วนำอาวุธจำนวนที่ไม่น่าจะขนมาได้มาส่ง มันไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นจึงระแวงจนไม่กล้าเข้าใกล้

ถ้าอย่างนั้นก็ลองเพิ่มไปอีกสักนิดหน่อย…

 

“ถ้าอยากตาย ก็เข้ามา”

 

ที่โลกเดิมก็เป็นได้แค่–ฝันกลางวัน

แต่ว่า ถ้าเป็นโลกนี้ที่มีอสูรและเวทมนตร์ จะเป็นยังไงกันนะ?

 

“ราชาแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะผู้นี้ แม้แต่เทพธิดาบนสวรรค์ชั้น8ยังต้องหวาดกลัว จนถูกผนึกอยู่ในร่างมนุษย์ การที่ต้องมาเกลือกกลั้วกับคนอย่างแก ศัตรูคู่อาฆาตบนสรวงสวรรค์คงได้หัวเราะตายกันพอดี จงกลับไปสู่ความว่างเปล่า กลายเป็นเถ้าธุลีเสียเถิด เจ้าอสูรเอ๋ย!”

 

เพราะว่ามันทำท่าจะบุกเข้ามาจริงๆ ผมเลยรีบพูดออกไป

 

[เทพธิดาบนสวรรค์ชั้น8!? ศัตรูคู่อาฆาตบนสรวงสวรรค์งั้นเหรอ!?]

 

อัศวินดำเบิกตาในหมวกเกราะคาบุโตะกว้าง

นี่คือเซ็ตติ้งของ[คิริวโอ โชมะ]ที่คิดไว้ในอดีต

ไหนๆละ ก็เอามาใช้ที่นี่หน่อย

 

“พวกเขาอาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์และรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่ถูกกับข้าผู้ซึ่งเป็นนายแห่งเผ่าพันธุ์อันผิดแผก เพราะความโกลาหลที่เทพสูงสุดจงเกลียดจงชัง  คือสิ่งที่ข้ารักยังไงล่ะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นความชอบที่ไม่อาจจะถูกยอมรับได้…”

 

…จำได้ผิดคาดเลยนะเนี่ย ไอ้เซ็ตติ้งเก่าๆพวกนี้

แถมยังดูน่าเชื่อถืออีก

อัศวินดำหยุดนิ่ง แขนที่ถือหอกสั่นไม่หยุด

 

“ที่ข้ามาปกครองเหล่าอมนุษย์ก็เพราะรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าจากความโกลาหลที่พวกเขามียังไงล่ะ ถ้าแกเป็น[ความบิดเบี้ยว]ที่ถูกต้องล่ะก็คงจะได้รับความเมตตาจากข้าเป็นแน่ แต่ แกน่ะ? ปล่อยให้ลูกน้องสู้ แล้วตัวเองทำแค่ไปปิดศัตรู…ช่างน่าเบื่อ ราชาของแกชอบผลลัพธ์แบบนั้นหรือไงกัน?”

[กะ แก ทั้งๆที่มาลอบโจมตีข้างหลังลูกน้องของข้าแท้ๆ!]

“อา ก็อย่างที่แกพูดนั่นล่ะ มือของข้านั้นได้เปื้อนเลือดไปเสียแล้ว ทั้งหมดก็เพื่อเผ่าพันธุ์ที่ทวยเทพไม่รัก…”

[แก…เป็นใคร แกเป็นใครกันแน่!?]

 

ก็แค่คนวัยเกือบสามสิบที่ถูกอัญเชิญมาผิดเอง

ถึงจะมีสกิล แต่ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้และความมั่นใจเลย

อีกแปปเดียวเท่านั้น จนกว่าริเซ็ตกับฮารุกะจะมา…ก็ขู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ–

 

“–อัศวินดำ!?”

 

ตอนที่คิดแบบนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังของผม

 

“พี่ชายที่ขนอาวุธมาให้กำลังโดนโจมตี!”

“รอก่อนนะ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”

 

–อ๊ะ เฮ้ยหยุดก่อน ไม่ต้องเข้ามาก็ได้!!

อุตส่าห์ถ่วงเวลาให้แท้ๆ–

 

ก่อนที่ผมจะได้ตะโกนออกไป–ชาวบ้านเผ่ายักษ์สองคนก็พุ่งเข้าใส่[อัศวินดำ]พร้อมกัน–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด