ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต 25

Now you are reading ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต Chapter 25 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.25 – [นายที่แท้จริง]ของเด็กสาวแปลกหน้ากับความทะเยอทะยานของเธอ

Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author

“เธอมาผิดที่แล้ว ที่นี่ต้องการทหาร ไม่ได้ต้องการวีรบุรุษหรือผู้กล้า”

 

ทหารหันไปหาเด็กสาวที่กองอยู่กับพื้นแล้วพูดออกมา

 

“แต่ว่า ฉันใช้เวทมนตร์ได้นะคะ! ทำประโยชน์กับท่านเจ้าเมืองได้แน่ค่ะ!”

 

เด็กสาวที่ชื่อยูกิโนะโบกมือเล็กๆ

บนฝ่ามือก็มีดอกไม้น้ำแข็งเกิดขึ้นมา ถึงจะเล็กแต่ก็ละเอียดมาก

 

“ตะ ตอนนี้แค่หิวเท่านั้นล่ะถึงทำได้แค่นี้ค่ะ!”

“ที่นี่ไม่ได้รับสมัครผู้ใช้เวทมนตร์”

 

แต่ว่าทหารก็ส่ายหน้า

 

“ที่ที่นี่ต้องการก็คือทหารที่สามารถรบร่วมกันได้ แล้ว งานก็คือการทำร่วมกับคนที่ใกล้เคียงกัน ร่างกายเล็กๆของเธอนอกจากจะทำให้แถวปั่นป่วนแล้ว ยังใช้ข่มขู่ศัตรูไม่ได้ด้วย”

“ฉันใช้ความสามารถอย่างอื่นได้ด้วยนะคะ!”

“ถ้ามีความสามารถขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีชื่อเสียงล่ะ?”

“…เรื่องนั้น–”

“ถ้าเกิดมีความสามารถจริงๆล่ะก็…ตรงไปที่ปราสาทของท่าน[เจ้าเมืองคิโทล]จะดีกว่า องค์หญิงกำลังตามหาคนแบบนั้นอยู่ ถ้ารอสัก3เดือนก็คงจะสมหวัง ระหว่างนั้นก็หยุดน้ำเสียงอวดดีเมื่อกี้นั้นไปสักพักเถอะ”

 

ทหารยื่นคางหันไปทางประตูเมือง

 

“ปราสาทของท่านเจ้าเมืองอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ เดินไปสัก2วันก็ถึงแล้ว”

“…แบบนั้นมัน”

“เธอมาผิดที่แล้วล่ะ”

 

ทหารมองไปทางอื่นไม่สนใจเด็กสาว

เด็กสาวก้มหัวลงในท่านั่งกับพื้น

 

“คือว่านะ ฮารุกะ”

“ค่ะ ท่านพี่”

“ทำไมทหารถึงปฏิเสธเด็กคนนั้นล่ะ? ถ้าเป็นยุคมืด ก็น่าจะต้องการคนที่มีประโยชน์ไม่ใช่เหรอ?”

 

ในตอนนี้ผมเองก็ยินดีต้อนรับอมนุษย์ทุกคน

ถ้าลัทธืชั่วร้ายเกิดอาละวาดขึ้นมา จำเป็นต้องมีกำลังคนไว้จัดการ

 

“…ท่านเจ้าเมืองคิโทล…เอ พี่ริสบอกเอาไว้ว่าเป็นพวก[หัวอนุรัก]ที่[ตามแบบความถูกต้องของพวกที่สืบสายเลือดจากส่วนกลาง]ล่ะ”

 

ฮารุกะทำท่านึกแล้วพูดออกมา

 

“…คอยรับใช้กลุ่มข้าราชบริพารมารุ่นต่อรุ่น ทั้งการก่อตั้งและจัดการกองทัพทั้งหมดก็ถูกตัดสินใจให้ทั้งหมด ไม่คิดจะเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น”

“ทั้งที่เป็นยุคมืดเนี่ยนะ?”

“เพราะว่าเป็นยุคมืดนี่ล่ะค่ะ ท่านพี่”

 

ฮารุกะเอาริมฝีปากเข้ามาใกล้หูของผม

 

“ในยุคมืดมีคนอยู่2ประเภทค่ะ คนที่ใช้ประโยชน์จากยุคมืดในการกอบโกยกับคนที่พยายามปกป้องสิ่งที่ตัวเองมีสุดชีวิตจากยุคมืด บางที ท่าน[เจ้าเมืองคิโทล]คงจะเป็นแบบหลัง ดังนั้น–”

“ก็เลยไม่มีที่ว่างให้คนแปลกๆสินะ”

 

ผมไม่เข้าใจวิธีคิดแบบนั้นหรอก

เพราะคาดการณ์ไม่ได้ว่ายุคมืดจะไปในทิศทางไหน ถ้าไม่รู้จักการเปลี่ยนแปลงก็ไม่น่าจะเอาตัวรอดได้ไม่ใช่เหรอ

 

“…เพราะเป็นคนแบบนั้น ถึงถูกฝากฝังอยู่ใกล้กับชายแดนที่มีอมนุษย์ยังไงล่ะ ท่านพี่”

“…ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ก็คงจะไม่เป็นพวกเดียวกับอมนุษย์ หรือยอมจับมือกับอมนุษย์ เหรอ?”

 

ฮารุกะพยักหน้าให้กับคำพูดของผม

 

[ประเทศอาริเชีย]ในตอนนี้นั้นกำลังไล่ต้อนอมนุษย์ ดังนั้นเผ่ายักษ์ ฮาร์ปี้ หรือเผ่ามังกรอย่างริเซ็ตถึงจะร่วมมือกับเจ้าเมืองจนสร้างผลงานขึ้นมาได้ ประเทศก็มีแต่ต้องยอมรับความสำเร็จนั้น

ดังนั้นก็เลยให้มนุษย์ที่ไม่มีทางทำแบบนั้นขึ้นมาปกครอง

 

“ถ้าอย่างนั้น แล้วคนอย่าง[องค์หญิง]ที่รวบรวมกำลังคนอยู่ที่ปราสาทล่ะ?”

“…ขอโทษนะ ท่านพี่ เราเองก็ไม่รู้ขนาดนั้น…”

 

ฮารุกะส่ายหน้า

น่าสงสัยจังเลยนะ ถ้าเป็นคนที่รวบรวมคนที่มีความสามารถแปลกๆหรืออมนุษย์ ก็อยากจะลองไปเจอดู

 

“…ต้องไป”

 

อยู่ๆเด็กสาวที่กองอยู่กับพื้นก็ลุงขึ้น แล้วก็เดินไปอย่างโซซัดโซเซ

จะว่าไปบอกว่ามาจากเมืองหลวงสินะ แล้วก็กำลังหิว

 

“ฮารุกะ ข้าวกล่องที่เอามาจากหมู่บ้านยังเหลือไหม?”

“ถึงจะยังเหลืออยู่เยอะก็เถอะ…แต่ส่วนของเราก็ลดลงสิ”

“ไม่ต้องทำหน้าจะร้องแบบนั้นก็ได้”

 

ฮารุกะกินเก่งนี่นะ

 

“จะแบ่งส่วนของผมให้ เป็นค่าข้อมูลนะ ใช้เจ้านี่ถามเรื่องราวจากเด็กคนนั้นเถอะ”

 

ถึงจะไม่รู้ว่าเด็กสาวคนนั้นเป็นใคร แต่ข้อมูลจากศูนย์กลางที่มีลูกหลานของจักรพรรดิมังกรกับ[สิบปราชญ์]อยู่เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพวกผม

แถม[แผน]ที่เธอพูด…ก็อาจจะเอามาใช้อ้างอิงได้

 

จนกว่ายุคมืดจะจบลงผมต้องใช้ชีวิตรอดอยู่ในชายแดนนี้ให้ได้

จะโกงก็ช่าง ถ้ามีข้อมูลแล้วใช้เวทมนตร์ได้ ก็เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า

 

“คนตรงนั้น–ยูกิโนะ สินะ ขอเวลาเดี๋ยวได้ไหม?”

 

ผมพูดออกไป

เด็กสาวผมสีฟ้าที่เดินโซซัดโซเซ ยูกิโนะหันกลับมา

 

“พวกเรา–เป็นคนที่มาซื้อขายในเมืองนี้น่ะ”

 

ไม่ได้โกหก ก็มาขายผลึกเวทอยู่นี่นา

 

“สนใจว่าที่เมืองหลวงเป็นยังไงน่ะ ถ้ายังไงขอถามอะไรหน่อยได้ไหม จะกินข้าวด้วยกันก็ได้–เอ๊ะ”

“ฟุหวา…”

 

กึก

 

ร่างกายของเด็กสาวเอียงลง

ฮารุกะพุ่งออกไปทันที ก่อนที่ร่างกายของเด็กสาวจะล้มลงฮารุกะก็อุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน

 

“ขะ ขอโทษค่ะ ที่อยู่ๆก็รีบเดินเข้ามา…คือว่า ไม่ค่อยได้มีอะไรกิน…”

 

เด็กสาวถอนหายใจแล้วพูดออกมา

 

“โชคร้ายหน่อยนะ ถ้าไปที่ปราสาทของท่านเจ้าเมือง ก็อาจจะหางานได้แล้วแท้ๆ”

“…ไม่หรอกค่ะ…นายที่แท้จริงของฉัน มีคนบอกว่า…อยู่ที่ชายแดนกว่านั้นค่ะ…”

 

เด็กสาวสายหน้าเล็กน้อยให้กับคำถามของผม

 

“นายที่แท้จริง?”

“ค่ะ เพราะเชื่อแบบนั้นก็เลยตรงมาที่ชายแดนค่ะ ตอนแรกก็ถูกบอกมาว่า[จะเลือกคนที่ต้องรับใช้ให้]อยู่หรอก แต่เจ้านายที่อยากจะรับใช้น่ะมีอยู่แล้วค่ะ”

 

เหนื่อยมากเลยสินะ

เด็กสาวหลับตาลงบนหน้าอกของฮารุกะ

 

“เจ้านายที่ฉันอยากจะรับใช้–มาตลอดตั้งแต่ชาติก่อน”

“…[ตั้งแต่ชาติก่อน…]?”

 

–อย่าบอกนะว่า

 

 

 

[ทั้งๆที่ต้องพาดวงวิญญาณหนุ่มสาวที่ตายแล้วและมีความเหมาะสมมาแท้ๆ…]

 

 

 

ตอนที่ผมมาที่โลกนี้ครั้งแรก คุณเทพธิดาพูดเอาไว้แบบนั้น

 

หรือก็คือผู้ถูกอัญเชิญคนอื่นๆนอกจากผมนั้นทุกคนตายในโลกเดิมแล้วถูกอัญเชิญมาโลกนี้

ไม่รู้ว่าจะคืนชีพในร่างเดิม หรือว่าได้รับร่างกายใหม่

แล้วมาคิดกับการการที่เด็กสาวยูกิโนะคนนี้ไม่รู้เรื่องราวหรือนโยบายของเจ้าเมืองคิโทลสักนิด–

 

(…เด็กคนนี้ คือมนุษย์ที่ถูกอัญเชิญอย่างถูกต้องงั้นเหรอ?)

 

ไม่สิ จะรีบตัดสินไปมันไม่ดี

ถ้าุถามไปว่า[เป็นผู้ที่ถูกอัญเชิญมาเหรอ?] ก็จะถูกรู้เอาได้ว่าทางนี้รู้ข้อมูลนั้น

ยังไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู

แต่ว่าถ้าหิวก็ต้องช่วย การปล่อยเด็กที่หิวให้อดตาย ได้เสียใจภายหลังแน่ๆ

 

“ยังไงก็ตาม ถ้าสงบลงแล้วก็พักกันเถอะ ได้นะ ท่านพี่”

 

ฮารุกะอุ้มเด็กสาวฮารุกะตัวน้อยขึ้นหลัง

เพราะว่ามองมาทางนี้เหมือนกำลังขอคำยืนยัน ผมเลยพยักหน้า

 

“ตามสบาย ฮารุกะเลือกสถานที่ได้เลย”

“รับทราบ ท่านพี่!”

“ถ้าจะไปที่ปราสาทของท่านเจ้าเมืองก็ต้องฟื้นฟูร่างกาย ก่อนอื่นก็กินข้าวกล่องของพวกเราซะสิ แล้วมีเรื่องอยากจะถามหน่อย สำหรับค่าข้อมูลจะให้จ่ายเป็นค่าที่พักก็ได้”

 

เงินจำนวนนั้น–ถ้าให้ริเซ็ตขายผลึกเวทไป–ก็มีอยู่

 

“…ขอบคุณ มากค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่ค่าข้อมูล”

 

ผมตอบเด็กสาวที่พึมพำด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน

ผมเดินไปคู่กับฮารุกะที่อุ้มเด็กสาวไว้ที่หลัง เด็กสาวก็เอาตัวพิงติดหลังของฮารุกะ

 

…อะไรล่ะเนี่ย ทำเอานึกถึงเรื่องตอนโลกก่อนเลย

รู้สึกเหมือนตอนจูนิเบียวก็มีอะไรคล้ายๆแบบนี้

 

ผมในตอนนั้นคิดว่า[ถ้าช่วยคนสะสมบุญไปเรื่อยๆ จะต้องปลุกสกิลได้แน่ๆ!] ก็เลยไปช่วยเด็กหลงหรือคนแก่ที่แบกของเยอะๆ

…มาคิดเอ่าตอนนี้ ไอ้การถูกเด็กมอต้นที่สวมผ้าคลุมสีดำแล้วก็กำไลกับแหวนแปลกๆมาช่วย คงรู้สึกแปลกๆน่าดู คุณป้ากับเด็กประถม…แล้วก็เด็กสาวที่เป็นโรคโลหิตจางที่เจอตรงทางข้ามถนน…พอคิดแล้วก็รู้สึกอายชะมัด…

 

“…บุญคุณนี้…จะไม่มีทางลืมค่ะ”

 

เด็กสาวถอนหายใจออกมาบนหลังของฮารุกะ

มองมาทางผมแล้วก้มหน้าลง พอถูกทำแบบนี้ก็รู้สึกอายแฮะ

ผมก็แค่ทำเพื่อความต้องการของตัวเองเท่านั้น เพื่อที่จะรู้ว่าเธอ–ยูกิโนะเป็นผู้ที่ถูกอัญเชิญแบบถูกต้องหรือเปล่า–

 

“มีคนใจดีใส่แบบนี้ ตั้งแต่มาโลกนี้………ก็เป็นครั้งที่สองเองค่ะ”

 

–เดี๋ยว อยู่ๆก็หลุดออกมาเลยเหรอ!?

จะดีเหรอน่ะ คุณเทพธิดา จะปิดปากเอานะ!?

 

“ชื่อของฉันคือยูกิโนะ คลาวดี้ ดราก้อนไชนด์–ผู้ที่มาเพื่อที่จะช่วยโลกใบนี้–”

 

ท่าทางจะเหนื่อย

หลังเด็กสาวยูกิโนะพึมพำออกมาเบาๆก็ฟุบหลับบนหลังของฮารุกะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด