ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) 2

Now you are reading ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) Chapter 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.2 – เด็กหนุ่มผู้แนะนำการเล่น

Translator : Asiran / Author

 

ตอนที่ – เด็กหนุ่มผู้แนะนำการเล่น

 

ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป ฤดูใบไม้ร่วงผ่านมา เวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้ว

เมื่อมองดูใบไม้แห้งนอกหน้าต่าง ในใจของเหอเหลียงก็เศร้าซึมเล็กน้อย วันนี้เป็นวันเริ่มต้นการแข่งขัน KPL ของฟอลซีซั่น เป็นวันที่เขาได้เริ่มต้นเส้นทางชีวิตเส้นใหม่เมื่อห้าปีที่แล้ว หลังจากนั้นไม่ว่าจะต้องยุ่งจนหัวหมุนอย่างไรเขาก็ยังตื่นเต้นและคาดหวังต่ออนาคต แต่มาตอนนี้…

“เหอเหลียง แผนผังที่นั่งสำหรับพิธีต้อนรับพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้วรึยัง” คนผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องทำงานแล้วร้องตะโกนเสียงดัง

ความคิดของเหอเหลียงถูกดึงกลับมาที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้าตามเสียงตะโกน พูดโดยไม่ก้มศีรษะว่า “ได้แล้ว”

ตอนนี้เหอเหลียงเป็นนักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัยที่ทำงานให้กับงานกิจการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตงเจียง แม้ว่ามีเวลาว่างมากกว่าตอนเป็นนักเล่นเกมอาชีพไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แต่ชีวิตแบบนี้กลับไม่มีความคาดหวังและความกระตือรือร้นอย่างในอดีตเลย อนาคตจะเป็นอย่างไรหรือ ในใจของเหอเหลียงไม่มีคำตอบใด ๆ ได้แต่ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไปก่อน

“เร็ว ๆ เข้า ก่อนมืดต้องไปวาดเส้นแบ่งที่สนามอีกนะ ตอนนี้ได้แต่รอแผนผังของนายนี่แหละ” เสียงจากด้านหลังกล่าวเร่งต่อไป

“นายไม่ไปก็เสร็จไปนานแล้ว” ในขณะที่เหอเหลียงพูดมือก็เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว เสียงเม้าส์และคีย์บอร์ดดังขึ้นอย่างไม่เว้นจังหวะ บนหน้าจอปรากฎภาพร่างของตำแหน่งที่นั่งของคณะต่าง ๆ ทุกคณะแบ่งแยกออกไปอย่างรวดเร็ว

“ความเร็วมือดีจริง ๆ สมแล้วที่เป็นอดีตนักเล่นเกมอาชีพ!” ผู้มาที่ยืนอยู่ด้านหลังมองดูการพิมพ์อย่างรวดเร็วของเขาด้วยความอึ้งทึ่ง

“เกมฉันเป็นเกมมือถือนะ” เหอเหลียงพูด

“เหมือนกันแหละ เหมือนกันแหละ”

ในขณะที่ผู้มาถอนหายใจชื่นชมแผนผังบนหน้าจอก็วางจนเกือบจะเสร็จแล้ว เหอเหลียงรีบวาดจนเสร็จแล้วส่งไฟล์ไปที่มือถือของผู้มาตรง ๆ

“เยี่ยม ฉันลงไปก่อนนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา” ผู้มากล่าว

“ยังจะมาทำไมอีก” เหอเหลียงว่า

“ช่วยฉันไต่แรงค์หน่อยสิ!” ผู้มาที่มีความสูงกว่าเจ็ดฟุตพูดพลางขยิบตาให้เหอเหลียง ทำเอาเหอเหลียงรู้สึกคลื่นไส้

“วันนี้ไม่ว่าง” เหอเหลียงพูดอย่างไร้อารมณ์ โหมดจัดอันดับเป็นหนึ่งในโหมดการเล่นที่สำคัญที่สุดของ The Kings of Glory มีการให้รางวัลผู้ชนะและลงโทษผู้แพ้ ในการนี้มีการแบ่งแยกผู้เล่นออกเป็นเจ็ดแรงค์ตั้งแต่ bronze ไปจนถึง conqueror มันเป็นการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของผู้เล่นคนหนึ่ง แต่สำหรับนักเล่นเกมอาชีพแล้วแค่โหมดจัดอันดับไม่สามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาได้เลย พวกเขาเป็นยอดฝีมือที่ปลีกตัวออกมาจากอีกฝ่ายมานานแล้ว เหอเหลียงในอดีตก็มีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นดาวเด่นในด้านการลงป่าของ KPL ตอนนี้ในสายตาของเพื่อนร่วมงานแล้วเขาได้กลายเป็นอาวุธอันร้ายกาจในการไต่แรงค์ แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกว่างเปล่า หลังจากที่เขาวางมือก็ไม่เคยคิดที่จะแตะเกมอีกเลย ใครจะไปรู้ว่าหลังจากนั้นเจ้าเพื่อนร่วมงานที่ชื่อพานรุ่ยหมิงคนนี้กลับตื้อจะเป็นจะตายจนทนไม่ได้ต้องกลับมาเล่นเกมอีกครั้ง ทุก ๆ สามวันห้าวันก็จะมาให้เขาช่วยไต่แรงค์ไปถึงระดับสูงสุด ตอนนี้ในโหมดจัดอันดับเพิ่งจะเปิดซีซั่นใหม่ พานรุ่ยหมิงก็มาง้องแง้งให้เหอเหลียงช่วยไต่แรงค์ให้มาหลายวันแล้ว แต่วันนี้เหอเหลียงปฏิเสธอย่างหนักแน่นมาก ไม่ยอมเปิดโอกาสให้พานรุ่ยหมิงมาตื้อเลยสักนิด คว้าเสื้อแจ็คเก็ตได้ก็ออกจากห้องไปเลย

“นายจะไปไหน” เมื่อเห็นเหอเหลียงที่ปกติแล้วคุยด้วยได้ง่ายมากกลับมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นในวันนี้ก็ทำให้พานรุ่ยหมิงแปลกใจมาก อดไม่ได้ที่จะถามไปประโยคหนึ่ง

“น้องชายฉันรายงานตัววันนี้ ฉันจะไปรับเขา” เหอเหลียงพูดจบก็เดินออกไปโดยไม่เหลียวหลัง

“น้องชายนายเหรอ เด็กใหม่น่ะเหรอ คณะไหนล่ะ นี่! ฉันใช้คอมนายหน่อยนะ!” พานรุ่ยหมิงถามรัว ๆ แต่เหอเหลียงก็หายไปไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว พานรุ่ยหมิงก็ไม่สนใจ นั่งลงตรงหน้าคอมพิวเตอร์ของเหอเหลียง ส่งต่อแผนผังที่นั่งที่เพิ่งจะทำเสร็จไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วออกไป จากนั้นก็กดโทรศัพท์พูดคุยสองสามคำแล้วเปิดแอปเกม The Kings of Glory บนมือถืออย่างสบายอกสบายใจ

“หนีไปแล้ว” เขาพึมพำแล้วเริ่มเกมไต่แรงค์แบบเดี่ยว

ตอนที่มีเหอเหลียงช่วยเล่นก็มั่นใจในชัยชนะได้เลย แต่ปัญหาก็คือจำนวนเกมที่เขาเล่นเองมันมากกว่าที่เหอเหลียงช่วยเขาเล่นเยอะมาก วันนี้เหอเหลียงส่งเขาไปถึงระดับ conqueror ได้ อีกสองวันเขาก็กลับมาที่ระดับ diamond ได้ ส่วนวันเวลาที่ไม่มีเหอเหลียงช่วยเล่นนั้นโหมดจัดอันดับของพานรุ่ยหมิงก็ร่วงระนาวแพ้รวดติดต่อกันเป็นเลขสองหลัก แล้วก็มีข้อความด่ากับข้อความลงโทษจากระบบจำนวนนับไม่ถ้วน*

ซีซั่นที่แล้วยิ่งเว่อร์ที่สุด เหอเหลียงพาเขาไปจนถึงระดับ conqueror แล้วก็เลิกสนใจ ในหนึ่งสัปดาห์พานรุ่ยหมิงก็เล่นแพ้รวดเดียวตกไปถึงระดับ gold พูดอย่างไม่ได้เกินจริงเลยก็คือ ถ้าไม่เพราะว่ามีการปกป้องจากระบบเกมให้ไม่สามารถตกลงมาถึงระดับ bronze แล้วล่ะก็ คิดว่าพานรุ่ยหมิงคงตกไปถึงระดับ bronze I ได้อย่างไร้กังวลเลยล่ะ เท่านี้ก็บอกถึงระดับความสามารถของพานรุ่ยหมิงได้แล้ว แต่ตัวเขาเองกลับไม่เคยตระหนักถึงจุดนี้ได้เลย เอาแต่พูดว่าเพื่อนร่วมทีมมันไก่เกิน ดังนั้นเพื่อจะแก้ไขปัญหาข้อนี้พานรุ่ยหมิงที่เพิ่งจะเข้าเกมมาไต่แรงค์ระดับ gold ก็ส่งข้อความด้วยความมั่นอกมั่นใจออกไปว่า “ยอดฝีมือ มาเลย”

ฮีโร่ที่แตกต่างกันเก่งในตำแหน่งที่ไม่เหมือนกัน การเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมในการรวมทีมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ พานรุ่ยหมิงที่ประกาศตัวออกมาก็ทำตัวมีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือมาก — ให้เพื่อนร่วมทีมเลือกฮีโร่และตำแหน่งที่ตัวเองเก่งก่อนแล้วสุดท้ายค่อยเลือกตำแหน่งที่ขาดไปในทีม

สมาชิกอีกสี่คนที่เหลือก็ไม่รู้ว่าสังเกตเห็นเขารึเปล่า พริบตาเดียวก็เลือกฮีโร่กันเสร็จหมดแล้ว พานรุ่ยหมิงเหลือบมองดู จากตำแหน่งทั้งห้าของเกม ออฟเลน เลนกลาง แครี่ ซัพพอร์ตทั้งสี่ตำแหน่งมีคนเอาไปแล้ว ขาดแต่ตำแหน่งลงป่า ก็เลยเลือกฮีโร่แอสซาซินหลานหลิงหวังทันที

“ฉันลงป่า เดี๋ยวแบกเอง” พานรุ่ยหมิงพูดด้วยความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มที่

เกมเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พานรุ่ยหมิงที่ถูกเหอเหลียงพาไปจนถึงระดับ conqueror ไม่เห็นเกมของระดับ gold เช่นนี้อยู่ในสายตาเลยสักนิดเดียว ฮัมเพลงพื้นบ้านพลางตรงไปที่บัฟฟ้าของบ้านตัวเอง ตำแหน่งป่าเป็นตำแหน่งที่ต้องรับค่าประสบการณ์กับการเงินจากการล่าครีปป่า ปกติแล้วเป็นคนที่จะเกิดได้เร็วที่สุดในทีมและอาศัยจุดนี้นำจังหวะการเคลื่อนไหวของทีม พานรุ่ยหมิงฮัมเพลงไปตีไป ในใจก็คิดคำนวณไปแล้วว่าจะทำยังไงถึงจะล่าสังหารทุกคนไปทั้งสี่ทิศได้ ทางป่าด้านบนของศัตรูก็มีฮีโร่ศัตรูสองตัวโผล่ออกมาอย่างกะทันหันพุ่งตรงมาหาเขา

พานรุ่ยหมิงรีบถอยหนี ฮีโร่ศัตรูทั้งสองคนก็ฆ่าตัวบัฟฟ้าที่เขาตีไปครึ่งทางแล้วได้อย่างง่ายดาย คว้าเอาบัฟฟ้าตัวแรกของศัตรูที่สำคัญมาก ๆ ไปได้ พานรุ่ยหมิงโกรธจนควันขึ้น เปิดเสียงด่าออกไปว่า “ออฟเลน ทำไมนายไม่ดูให้ฉัน!”

“ดูแมพก็เห็นแล้วปะ แครี่กับซัพพอร์ตของอีกฝ่ายไม่ปรากฏตัว ไม่ไปตีบัฟแดงก็ต้องไปตีบัฟฟ้าอยู่แล้ว”

เพื่อนร่วมทีมในเกมยังไม่ทันตอบพานรุ่ยหมิงก็ได้ยินประโยคนี้ดังขึ้นจากด้านหลังแล้ว เขาแปลกใจจนเกือบเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือออกไป พอหันหลังกลับไปมองก็เห็นเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษายืนอยู่ข้างหลังเขา สายตาจดจ้องอยู่ที่หน้าจอมือถือ

“แต่คุณมีสกิล Punish อีกฝ่ายไม่มี ยังไงก็มีโอกาสตั้งเยอะที่จะฆ่าสำเร็จ หนีมาทำไมเนี่ย” จากนั้นเด็กหนุ่มคนนั้นก็กล่าวต่อ Punish เป็นสกิลชาเลนเจอร์ ปกติแล้วมีแต่ฮีโร่ตำแหน่งป่าที่เลือกใช้ สกิลนี้สามารถทำให้เกิดดาเมจแท้จริงที่สูงมากกับครีปป่า ทำให้มีข้อได้เปรียบสูงมากเหมือนกับมีดาบที่ใหญ่กว่า แต่พานรุ่ยหมิงไม่ใช้ข้อได้เปรียบนี้สู้เอาบัฟฟ้าตัวนี้มาแต่กลับถอยหนีไปเลย

“นายเป็นใคร” พานรุ่ยหมิงมองเด็กหนุ่มที่แนะนำการเล่นให้เขาขึ้น ๆ ลง ๆ

“อ้อ ผมมาหาเหอเหลียง นี่ไม่ใช่ห้องทำงานของเขาเหรอครับ” เด็กหนุ่มกล่าว ในที่สุดก็ละสายตาออกมาจากโทรศัพท์มือถือของพานรุ่ยหมิง

“เขาออกไปข้างนอก ไม่อยู่” พานรุ่ยหมิงพูดจบแล้วก็หันกลับไปเล่นเกมต่อ ตัวป่าที่เสียบัฟฟ้าไปทำให้ล้าหลังไปมาก หลานหลิงหวังเก็บกวาดครีปป่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหลือแล้วก็ไปรวมกลุ่มสู้กับเพื่อนร่วมทีมจนสุดท้ายมาถึงเลเวลสี่ รีบเปิดท่าอัลติของหลานหลิงหวังทันที — สกิลที่สาม วิชาลับ-ลอบโจมตี ทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะล่องหนแล้วแอบย่องไปทางป่าโซนบัฟฟ้าของศัตรู

“ตัวป่าของฝ่ายตรงข้ามอยู่โซนบัฟแดง ถ้าคุณอยากจะไปตีตัวป่าเขาก็ไปที่ป่าโซนบัฟแดงตอนนี้ได้เลย” อยู่ ๆ ก็มีเสียงอีกประโยคดังขึ้นจากข้างหลังเขา

“นายยังไม่ไปอีกเหรอ” พานรุ่ยหมิงที่สะดุ้งตกใจอีกครั้งกรีดร้อง แต่แล้วก็หันไปสนใจเกมต่อทันที “นายรู้ได้ไงว่าเขาอยู่ป่าโซนแดง”

“เมื่อกี้คุณก็เห็นที่เลนกลางว่าเขาเพิ่งเดินผ่านจอไป คุณไม่ได้สังเกตเห็นบัฟบนตัวเขาเหรอ” เด็กหนุ่มพูด

“เห็นดิ แต่ใครบอกนายว่าฉันอยากจะไปล่าเขากัน ฉันจะไปเอาบัฟฟ้าของศัตรู ไม่เห็นเหรอว่าบัฟฟ้าของฉันกำลังจะหมดแล้ว” พานรุ่ยหมิงไม่เปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินของหลานหลิงหวัง

“อีกฝ่ายไปหาบัฟแดง งั้นกว่าบัฟฟ้าจะเกิดใหม่ก็อย่างน้อย 60 วินาทีเลยนะ คุณไม่ไปเอาบัฟฟ้าจากบ้านตัวเองเลยล่ะ น่าจะเร็วกว่าอีกนะ” เด็กหนุ่มพูด

“นายจะไปรู้อะไร ฉันอยากจะซุ่มโจมตีเขา เอาบัฟฟ้าด้วย เอาหัวเขาด้วย!” พานรุ่ยหมิงพูด

“รอซุ่ม 60 วิเลยเหรอครับ” เด็กหนุ่มสับสน อย่าว่าแต่นี่เป็นตอนต้นเกมที่ต้องแข่งกับเวลาเลย แม้แต่ในช่วงกลางเกมและปลายเกมการใช้เวลา 60 วินาทีนั่งซุ่มเงียบอยู่เฉย ๆ ก็เป็นเรื่องที่เสียเวลามากสุด ๆ จะเล่นแบบนี้ได้ยังไงกัน

แต่เขายังไม่ทันพูดออกมาหลานหลิงหวังของพานรุ่ยหมิงก็ไปจ๊ะเอ๋กับหลี่ไป๋ที่เป็นตัวป่าของอีกฝ่ายเข้าให้แล้ว

“เห็นป่ะ” พานรุ่ยหมิงพออกพอใจกับตัวเองมาก หลานหลิงหวังรีบเดินย่องเข้าหาหลี่ไป๋

“หลี่ไป๋ยังมีท่าอัลตินะ!” พอเด็กหนุ่มเห็นแสงเรือง ๆ บนกระบี่ในมือหลี่ไป๋ก็รีบกล่าวเตือนพานรุ่ยหมิง แต่ว่าหลานหลิงหวังของพานรุ่ยหมิงก็โจมตีออกไปแล้ว มีดล่องหนบินไปหาหลี่ไป๋ จากนั้นก็ตามมาด้วยสกิลวิชาลับ-ร่างแฝด หลานหลิงหวังเรียกร่างแฝดหนึ่งตัวออกมาโจมตีหลี่ไป๋ไปพร้อม ๆ กัน

การลอบโจมตีอย่างกะทันหันจากสภาวะล่องหนนั้นยากที่จะป้องกันจริง ๆ แต่พอหลี่ไป๋โดนสกิลมีดล่องหนเข้าแล้วเขาก็รีบกดสกิลสองพู่กันเทพจุติ กระบี่ในมือกลายเป็นคลื่นกระบี่ปทุมเขียวปกป้องหลี่ไป๋จากการโจมตีของหลานหลิงหวังกับร่างแฝดของเขา จากนั้นเขาก็ปล่อยท่าอัลติเพลงกระบี่ปทุมเขียว หลี่ไป๋รวมร่างกับกระบี่พุ่งเข้าสังหารหลานหลิงหวัง

“เชี่ย!” กินไปสองสกิลแถมร่างแฝดของตัวเองก็ยังทำดาเมจไม่ได้อีกต่างหาก พานรุ่ยหมิงสบถเสร็จก็ใช้สกิลอัลติของหลานหลิงหวังเพื่อลอบโจมตีอีกครั้ง เด็กหนุ่มเห็นดังนั้นก็อึ้งจนใบ้กิน

ตอนที่เริ่มใช้ท่านี้ครั้งแรก หลานหลิงหวังจะต้องใช้เวลา 1.5 วินาทีก่อนจะเข้าสู่สภาวะล่องหน 30 วินาที ในช่วงเวลานี้ถ้าหากกดใช้ท่านี้อีกครั้งหลานหลิงหวังก็จะพุ่งเข้าโจมตีศัตรูในทิศทางที่ระบุไว้ ปัญหาก็คือตอนนี้หลี่ไป๋ยังเปิดท่าอัลติเพลงกระบี่ปทุมเขียวอยู่เลย ซึ่งก็เหมือนกับตอนที่เขาใช้พู่กันเทพจุติคือไม่สามารถที่จะเลือกโจมตีเขาได้ การลอบโจมตีอีกครั้งของหลานหลิงหวังตอนนี้กดก็เหมือนไม่ได้กด

โจมตีไปสามสกิล หลานหลิงหวังจั่วลมไปสอง ทำได้แค่ slow หลี่ไป๋จากมีดล่องหนแค่นั้นเอง หลี่ไป๋ใช้สกิลดาบเมามายวาร์ปมาประชิดหลานหลิงหวังได้สำเร็จ พานรุ่ยหมิงทำอะไรไม่ถูกสุดท้ายก็ถูกกระบี่ฟาดจนจมดิน

“เชี่ย!” พานรุ่ยหมิงหัวร้อนมาก แต่รอบนี้เป็นการเล่นของตัวเองคนเดียว จะโทษเพื่อนร่วมทีมก็ไม่ได้ สายตาที่เกลียดชังจึงตกลงบนตัวของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลัง

“หนวกหูชะมัด ดูดิ!” พานรุ่ยหมิงพาล

“ก็น่าจะรอให้ท่าอัลติของหลี่ไป๋ปิดผนึกก่อนค่อยบวกสิครับ” เด็กหนุ่มพูด ท่าอัลติเพลงกระบี่ปทุมเขียวของหลี่ไป๋ปกติแล้วจะปิดผนึกใช้ไม่ได้ มีแต่หลังจากโจมตีธรรมดาครั้งที่สี่สำเร็จภายใน 3 วินาทีถึงจะเปิดสกิลติดตัวเส้นทางอัศวินขึ้นมา ตอนนั้นเองที่ผนึกของเพลงกระบี่ปทุมเขียวจะถูกยกออก ระยะห่างของช่วงเวลาก็แค่ 5 วินาทีเอง อีก 5 วินาทีเพลงกระบี่ปทุมเขียวก็จะกลับไปปิดผนึกแล้ว

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าท่าอัลติมันจะปิดผนึกรึเปล่า” พานรุ่ยหมิงพูดอย่างอารมณ์เสีย

“ตอนที่ไม่ปิดผนึกกระบี่ก็จะเรืองแสงไงครับ!” เด็กหนุ่มแปลกใจมากที่พานรุ่ยหมิงมาถามเขา

“ใครมันจะไปสนเรื่องจิ๊บจ๊อยพรรคนี้กัน! ถามหน่อยซิ นายเป็นใครกันแน่เนี่ย” พานรุ่ยหมิงตะลึง เขาเล่นเกมมาเกือบจะพันครั้งแล้วยังไม่รู้เลยว่าท่าอัลติของหลี่ไป๋มีรายละเอียดแบบนี้ด้วย ทางหนึ่งก็แอบจดจำเงียบ ๆ แต่อีกทางก็ยังไม่อยากยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเอง และสุดท้ายก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

“ผมชื่อเหออวี้ มาหาพี่ของผมเหอเหลียง” เด็กหนุ่มกล่าว

“เอ๊ะ นายก็คือน้องชายของเหอเหลียงเองน่ะเหรอ”

………………………………………..

*คือเกมนี้ต้องเล่นเป็นทีม ถ้ามีใคกากมากจนทำทีมแพ้ก็จะโดนด่าสนั่น แล้วถ้าระบบคิดว่าคุณแกล้งแพ้ก็จะมีบทลงโทษหักแต้มคุณธรรมด้วยค่ะ

ชื่อแร้งค์ขอพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ พิมพ์ไทยแล้วมันอ่านยาก ๆ ยังไงไม่รู้

ชื่อสกิลหลานหลิงหวังที่มี วิชาลับ- อะไรนั่นมามาจากชื่อจีนค่ะ ตอนกลอรี่ก็จะมีเหมือนกันที่เป็นวิชาของอาชีพนินจาว่า วิชานินจา-xxx

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด