ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) 58

Now you are reading ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) Chapter 58 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เปลี่ยนเป็นเปิดด้วยแดง

 

โจวมู่ถงเพิ่งจะพูดจบก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างทิ่มแทงเขาจึงหดศีรษะลงไปตามสัญชาตญาณ จากนั้นมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าสายตาของจางเฉิงห่าวจ้องเขม็งมาที่เขาอยู่

“เอ่อ ต่อหน้าความแข็งแกร่งสูงสุดถึงจะมีหลุมพรางเราก็ทลายออกมาได้” โจวมู่ถงรีบแก้ตัวออกมาประโยคหนึ่งแล้วหันไปจ้องมองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง แล้วจู่ ๆ ก็ร้องขึ้นมาอีกรอบว่า “เชี่ย”

ทั้งการแบนและการเลือกจะสลับกันเล่นทั้งสองฝ่าย แต่ไม่เหมือนกับการแบนที่คุณหนึ่งฉันหนึ่ง เวลาที่เลือกตัวจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยระหว่างการสลับฝ่ายกัน ฝ่ายแรกสามารถเลือกฮีโร่ได้ตัวเดียวก่อน นั่นก็คือจางเฉิงห่าวที่เลือกลูน่ามาแล้ว พอถึงตาคลื่น7 กลับเลือกฮีโร่ได้สองตัวในคราวเดียว เห็นว่าคนแรกได้เลือกหยางเจี่ยนมาก่อน ซึ่งนี่ก็เป็นตัวที่โจวมู่ถงเก่งสุดด้วย เห็นว่าไม่ถูกแบนก็นึกว่าจะเอามาได้ ไม่คาดว่าคลื่น7 กลับเลือกแบน* นี่ก็คือสาเหตุของเสียง “เชี่ย” อันนั้น

ตามมาด้วยการเลือกของคนที่สอง ตอนแรกกดค้างอยู่ที่เหล่าฟู่จื่อเพียงแต่ว่ายังไม่ได้กดยืนยัน จางเฉิ่งห่าวมองไปยังด้านตรงข้ามเห็นพวกคลื่น7 หลายคนนั้นกำลังสุมหัวกระซิบกระซาบกันอยู่ ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจกันไม่ได้ จนเวลาเคาดาวน์ลงมาถึงตอนท้ายแล้วพวกเขาก็ยังเถียงอะไรกันอยู่เลย จนถึงวินาทีสุดท้ายภาพเหล่าฟู่จื่อในช่องที่สองถึงได้ถูกเปลี่ยนไป ท้ายที่สุดก็ล็อคไว้ที่แอสซาซินอาเคอ เกาเกอเหลือบมองจ้าวจิ้นหรานอย่างจนใจสุด ๆ

จางเฉิงห่าวหัวเราะขึ้นมาทันที พอเพื่อนร่วมทีมหันมามองเขาก็เพียงแต่ส่ายหน้าเบา ๆ ตอนนี้มาถึงตาพวกเขาเลือกฮีโร่อีกแล้ว แล้วก็สามารถเลือกได้ถึงสองตัวในคราวเดียวอีกด้วย ในใจจางเฉิงห่าวก็ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว

“เหล่าฟู่จื่อ จางเหลียง” จางเฉิงห่าวกล่าว

“ห๊ะ” โจวมู่ถงกับหยางจั๋วร้องโดยพร้อมเพรียง

พวกเขาสองคนคนหนึ่งออฟเลน คนหนึ่งเลนกลาง ฮีโร่สองตัวนี้เลือกมาก็คือจะเอามาให้พวกเขาใช้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเหล่าฟู่จื่อหรือจางเหลียงต่างก็ไม่ใช่ฮีโร่ที่พวกเขาชำนาญเป็นพิเศษ จางเฉิงห่าวอยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้คิดจะให้พวกเขาใช้ฮีโร่สองตัวนี้ขึ้นมานะ ไลน์อัพที่พวกเขาเคยคุยกันก่อนหน้านี้ไม่ได้มีทีมแบบนี้เลยนะ!

“เลือกแบน” จางเฉิงห่าวได้ยินความกังขาจากทั้งสองคนแล้วก็อิบายเพียงประโยคเดียว

สองคนนี้ว่าไปแล้วก็เป็น conqueror ตระหนักถึงบทบาทของฮีโร่สองตัวนี้ขึ้นมาทันที ท่าอัลติพลังแห่งปราชญ์ของเหล่าฟู่จื่อกักขังเป้าหมายในระยะแสงตะเกียงได้ 5 วินาที ท่าอัลติอักษรวิญญาณ.ควบคุมของจางเหลียงสามารถใช้พลังวิญญาณควบคุมเป้าหมายหนึ่งคนได้ 2 วินาที สกิลทั้งสองนี้ส่งผลคล้ายคลึงกับท่าอัลติของตงหวงไท่อีอย่างมาก จำกัดการเล่นของลูน่าได้ไม่เลว จุดประสงค์หลักของจางเฉิงห่าวก็คือไม่ปล่อยให้คลื่น7 ได้ฮีโร่สองตัวนี้ไป ทำให้ลูน่าของเขาได้มีเวทีเฉิดฉายอย่างเต็มที่

“เหล่าฟู่จื่อของฉันก็งั้น ๆ นะ…” เข้าใจจุดประสงค์ของจางเฉิงห่าว โจวมู่ถงก็ไม่ปฏิเสธเพียงแต่พูดอย่างไม่พอใจ

“จางเหลียงฉันด้วย” หยางจั๋วกล่าว

“วางใจเถอะ” จางเฉิงห่าวที่รู้สึกว่าตัวเองมองทะลุความคิดของศัตรูได้หมดแล้วปลอบเพื่อนร่วมทีมทั้งสองอย่างมั่นใจ

จากนั้นก็เป็นคลื่น7 เลือกอีกครั้ง จางเฉิงห่าวยังคงสังเกตดูสีหน้าของอีกฝ่าย เห็นว่าใบหน้าของเกาเกอกับโจวม่อต่างก็มีความจนใจอยู่ราง ๆ ตามมาด้วยฮีโร่เปี่ยนเชวี่ยกับซูลี่สองตัวที่ถูกคลื่น7 เลือกไป

“โอเค ที่เหลือปล่อยให้พวกนายเลือกเองแล้วกัน” จางเฉิงห่างอารมณ์ดีมาก ในสมองมีภาพลูน่าของตัวเองเคลื่อนไหวตามใจนึก พวกตัวเองยังมีฮีโร่อีกสองตัวที่ต้องเลือก เขาก็ไม่ได้สั่งการอะไรแต่ให้สองคนนั้นเลือกฮีโร่ของตัวเองไป

จากนั้นก็เป็นมาร์โคโปโลและจางเฟยที่ทยอยกันถูกเลือก แล้วก็เป็นตาคลื่น7 เลือกฮีโร่ตัวสุดท้ายอีกครั้ง สรุปว่าเป็นแครี่โฮ่วอี้

ดังนั้นเองไลน์อัพของทั้งสองฝ่ายก็สรุปได้แล้ว

หวงเฉา : เหล่าฟู่จื่อ, ลูน่า, จางเหลียง, มาร์โคโปโล, จางเฟย

คลื่น7 :  หยางเจี่ยน, อาเคอ, เปี่ยนเชวี่ย, โฮ่วอี้, ซูลี่

จากนั้นก็เป็นการปรับแต่งครั้งสุดท้ายของไลน์อัพ หลัก ๆ แล้วก็คือการเปลี่ยนฮีโร่ให้ตรงกับคนที่จะใช้มัน จางเฉิงห่าวจ้องเปี่ยนเชวี่ยของอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ หลังจากพบว่ามันไม่ได้ถูกส่งเข้ามือของเกาเกอแล้วก็ตั้งใจดู มองเห็นเกาเกอเอาตัวซูลี่ไป จางเฉิงห่าวอดแสดงสีหน้าเสียดายให้เธอไม่ได้

แต่ว่าตอนนี้เกาเกอไม่ได้เงยหน้าขึ้นเลย แต่ตั้งใจจดจ่ออยู่ที่โทรศัพท์มือถือในมือตัวเอง เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากการยืนยันไลน์อัพเป็นครั้งสุดท้าย ลูน่าของจางเฉิงห่าวซื้อมีดตีป่าตรงไปที่ป่าโซนแดง พร้อมกันนั้นก็สั่งการไปที่เลนกลาง “ช่วยฉันดูบัฟฟ้าหน่อย”

การที่เกมนี้จางเฉิงห่าวมุ่งมั่นอยากจะเป็นพระเอกแบกเกม เพื่อนร่วมทีมล้วนรู้สึกได้มาแต่แรกแล้ว แล้วตอนนี้ยังได้จับลูน่าที่ตัวเองชำนาญอย่างไม่คาดฝัน ความมุ่งมั่นนี้ก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นอีก แม้แต่สู่ไคหวยที่ถือฮีโร่ทำดาเมจที่ร้ายกาจอย่างมาร์โคโปโลก็ยังเตรียมตัวเตรียมใจทำตัวเป็นไม้ประดับที่ดีคนหนึ่ง เดินไปพร้อมกับจางเฟยของเจิงเสี่ยวปอล้อมลูน่าไปทางป่าโซนบัฟแดง เตรียมที่จะรอจนบัฟแดงเกิดแล้วช่วยลูน่าตีสักหน่อยให้การฟาร์มของนางมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ทีมเวดป่าของคลื่น7 ก็เดินมาถึงเขตป่าบัฟฟ้าของหวงเฉาแล้วพอมองเห็นว่าจางเฉิงห่าวเลือกที่จะเปิดจากบัฟแดงเกาเกอก็ปรับเปลี่ยนแผนการทันที “โฮ่วอี้ เปี่ยนเชวี่ย ไปเอาบัฟฟ้าบ้านเรา!”

“เปิดแดงเหรอครับ” เหออวี้ที่มีความตระหนักรู้ตัดสินสถานการณ์ในปัจจุบันได้ทันที เหออวี้ที่ตอนเปิดเกมอยู่เลนบนสลับตำแหน่งกับหยางเจี่ยนทิ้งครีปป่าริมแม่น้ำที่เพิ่งจะตีไปไม่เท่าไหร่รีบวิ่งไปที่ป่าบัฟฟ้าของพวกตัวเอง

ฝ่ายของหวงเฉาพอฟังที่จางเฉิงห่าวสั่งการ หยางจั๋วก็เชื่อฟังสุด ๆ ครีปอะไรก็ไม่สนใจยื่นหน้าไปส่องดูบัฟฟ้าก่อน ผลก็คือเห็นฮีโร่สามตัวของคลื่น7 ตรงมาทันที เห็นว่าในสามคนนั้นมีหยางเจี่ยนอยู่ด้วยก็แทบจะนึกว่าตาฝาดไป

แม้แต่หยางเจี่ยนก็มาด้วยเหรอ

เห็นหยางเจี่ยนที่น่าจะอยู่เลนบนโผล่มาที่นี่ทำให้หยางจั๋วรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นของคลื่น7 นี่รวมกับโฮ่วอี้ที่อยู่เลนล่างกับเปี่ยนเชวี่ยที่เดินมาจากเลนกลางก็เท่ากับว่าคลื่น7 ห้าคนออกมารวมตัวตั้งใจจะชิงบัพฟ้าแรกของลูน่าแล้วนะ!

“สู้ไม่ได้ แลกบัฟฟ้า!” หยางจั๋วเตือนทันที จางเหลียงไปที่ป่าบัฟฟ้าทิ้งสกิลสองไปหนึ่งทีพอเป็นพิธีแล้วก็รีบถอย

จางเฉิงห่าวดูจากมินิแมปก็เห็นด้านบัฟฟ้าบ้านตัวเองกำลังครึกครื้น การคงอยู่ของหยางเจี่ยนทำให้เขาได้ข้อสรุปอย่างเดียวกัน : คลื่น7 ทุ่มมาทั้งรัง นี่ทำให้เขารู้สึกว่าได้รับความสำคัญ ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวานฉ่ำอยู่บ้าง

“เอาบัฟฟ้า!” พอเอาบัฟแดงมาได้แล้วจางเฉิงห่าวไม่ตีครีปป่าตัวเล็ก ๆ เลยก็ไปรวมตัวกับจางเฟยกับมาร์โคโปโลไปเวดป่าบัฟฟ้าของอีกฝ่ายแล้ว ในเวลาเดียวกันจางเหลียงของหยางจั๋วจัดการครีปเสร็จแล้วก็เดินมาทางนี้เหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าในพุ่มริมแม่น้ำที่ติดกับเลนกลางดันมีขวดยาพิษหนึ่งขวดโยนมาที่เท้าของเขาเสียได้แล้วแตกระเบิดออกสาดยาพิษเข้าใส่เขาเต็ม ๆ ร่าง ตามมาด้วยสกิลสองวินิจฉัยดีร้ายตีเข้าแสกหน้าเขา

จังหวะการเล่นซุ่มตีจากพุ่มอันแสนคุ้นเคยทำให้หยางจั๋วเป็นเหมือนนกหวาดเสียงเกาทัณฑ์ ร้องด้วยความสยองออกมาทีหนึ่งแล้วก็ Flicker กลับวิ่งเข้าป้อมไปทันที

“พวกเขาคงจะไม่ได้แลกเปลี่ยนแอคเคาท์กันใช่ไหม” เมื่อเห็นว่าบนร่างมีตราพิษแปะอยู่ 4 ชั้น หยางจั๋วที่ยังกลัวไม่หายก็แสดงความคิดของเขาออกมา ไม่คาดว่าสุนัขเห่าฟ้าของหยางเจี่ยนจู่ ๆ ก็พุ่งออกมาจากด้านข้างกัดเขาเข้าให้ แล้วร่างของหยางเจี่ยนก็ตามมาติด ๆ ฆ่าจางเหลียงไปตรง ๆ ได้รับเฟิร์สบลัดมา

หยางจั๋วที่รอเกิดอยู่ในบ่อสมองว่างเปล่า ลูน่า มาร์โคโปโล และจางเฟยที่ไปเวดป่าบัฟฟ้าของคลื่น7 มองดูหลุมบัฟฟ้าที่ว่างเปล่าก็อึ้งงัน ในเวลาเดียวกันเหล่าฟู่จื่อของโจวมู่ถงเคลียร์ครีปเสร็จก็นำครีปตัวเล็กตัวน้อยไปเริ่มตีป้อมแล้วแต่กลับไม่มีใครสนใจจะมาดูแลเขาเลย ในขณะที่กำลังสับสนร่างของซูลี่ก็โผล่ขึ้นมาด้านหลังเขาอย่างปุบปับ เหล่าฟู่จื่อขยับร่างพยายามถอยหนี ซูลี่ใช้สกิลสองทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าดึงเขากลับมาอีกครั้ง ตอนนี้เองอาเคอก็กระโดดออกมาจากพุ่มด้วย ทำดาเมจเข้าใส่เหล่าฟู่จื่ออย่างรุนแรง ตัวเลขสีแดงเด้งรัว ๆ แต่กลับไม่ติดคริติคอลเลย เหล่าฟู่จื่อ Flicker แล้วก็เปิดสกิลสองพูดหนึ่งเปรียบได้สามวิ่งจู๊ดกลับไปที่ป้อมของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

“น่าเสียดาย” จ้าวจิ้นหรานที่ใช้สกิลไปหมดแล้วพูดด้วยความเสียดายมาก

“ถ้าติดคริก็ฆ่าได้แล้ว” เกาเกอพูด

“ใช่ โคตรซวยเลย เดี๋ยวไปออกถุงมือระเบิดพลังดีกว่า” จ้าวจิ้นหรานเสียดายจริงจัง

ช่องสื่อสารเงียบกริบทันใด เหออวี้กับโจวม่อผ่านไปพักใหญ่ก็ยังพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายก็ยังเป็นเกาเกอที่ถามอย่างสงบนิ่งมาประโยคหนึ่งว่า “ใครพานายขึ้น diamond”

“หลี่ซือเจี๋ยไง” จ้าวจิ้นหรานบอก

“เข้าใจแล้ว” เกาเกอพยักหน้า “นายเอาดาบยักษ์พายุคลั่งมาเลยเถอะ มีประโยชน์กว่าถุงมือระเบิดพลัง”

“แต่ว่าดาเมจของอาเคอมันขึ้นอยู่กับครินิ” จ้าวจิ้นหรานว่า

“พูดงั้นก็ไม่ผิด แต่ว่าการติดคริของอาเคอมันต้องใช้การควบคุม ใส่ของเพิ่มคริก็ไม่มีประโยชน์ นายไปอ่านพาสซิฟสกิลของนางให้ดี ๆ ก่อน” เกาเกอกล่าว

……………………………………….

*เลือกแบน (以选代ban) การแบนกันในเกมจะมีสองอย่าง อย่างแรกคือ ส่งแบน ที่จะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตัวฮีโร่และทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครใช้ฮีโร่ตัวนั้นได้ อย่างที่สองก็คือเลือกแบน คือการแย่งฮีโร่ที่อีกฝ่ายเล่นเก่งมาใช้เอง ซึ่งก็มีข้อแม้อยู่ด้วยว่าคนที่เอาไปต้องเล่นเป็นประมาณนึง ไม่ใช่เอามาแล้วเล่นกันไม่ได้จะเน่ากว่าเดิมซะเปล่า ๆ ความจริงคำนี้ก็ออกมาประปรายแล้ว เราแปลเป็นแย่งเลือกบ้างอะไรบ้าง แต่คิดว่าต่อไปนี้จะใช้ศัพท์ที่มันเฉพาะเจาะจงไปเลยดีกว่าค่ะ ไม่ค่อยมั่นใจว่าในไทยมีการตั้งศัพท์เฉพาะของคำนี้ด้วยไหมก็เลยคิดขึ้นมาเองเลย แต่ถ้าใครรู้ว่าเขาใช้คำไหนกันก็บอกเราด้วยนะคะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด