ตัดขาม้า

ตลอดช่วงปิดเทอมที่ผ่านมานี้ประธานใหญ่ซุนฝึกเล่นกวนอวี่อย่างหนัก ตัวเองรู้สึกว่าเล่นจนเชี่ยวชาญแล้ว ตอนนี้เปิดเกมมาก็เอาบัฟแดงของอีกฝ่ายมาได้ ถึงแม้ว่าครีปชุดแรกจะไม่สามารถเอามาก็ยังรู้สึกว่ายอมรับได้ ป่าบัฟแดงยังไม่เห็นอีกฝ่ายมาป้องกัน เลนล่างก็ไม่มีใครไปดันป้อม ประธานใหญ่ซุนเดาว่าคนของคลื่น7 อาจจะไปขโมยบัฟฟ้าของพวกเขาก็ได้จึงรีบเร่งกลับไป

“กวนอวี่เวล 2 แล้ว” เหออวี้พูด

“มี Purify ด้วย ล้างได้สองรอบ” ม่อเซี่ยนพูด

“แยกกัน” เหออวี้กำลังจะบอกไอเดียออกมา แต่ฮัวมู่หลานของม่อเซี่ยนก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่เหออวี้คิดเอาไว้แล้ว ที่แท้ก็มีความเห็นเหมือนกับเขาโดยที่ไม่ต้องปรึกษากันล่วงหน้าเลย

กวนอวี่ของประธานใหญ่ซุนเข่นฆ่ามาถึงในพริบตา มองเห็นได้ทันทีว่าหลุมบัฟฟ้าของฝ่ายตนมันว่างเปล่า แต่ว่าดวงตาของม้าที่ตนเองขี่อยู่กลับเปล่งแสงสว่างออกมาเมื่อเข้าใกล้หลุมบัฟฟ้า

นี่ก็คือสิ่งที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ในข้อมูลสกิลของกวนอวี่ แต่ที่จริงแล้วเป็นวิธีการเล็กน้อยที่จะช่วยสำรวจพุ่มได้ : เวลาที่กวนอวี่อยู่ในสภาวะพุ่งชาร์จ ตอนที่เคลื่อนที่เข้าหาศัตรูจะเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ขึ้น 20% และในเวลาเดียวกันดวงตาของม้าก็จะส่องแสงด้วย ถึงแม้กวนอวี่ของประธานใหญ่ซุนจะเพิ่งเริ่มฝึก แต่ว่าก็มีประสบการณ์ในเกมมาก รู้ทริคเล็ก ๆ อันนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ทันที่ที่เห็นว่าดวงตาของม้าส่องแสงออกมา ในใจก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะไก่ของอีกฝ่าย : ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ว่ากวงอวี่ส่องพุ่มได้ก็เลยอยากจะซุ่มโจมตีจากในพุ่มงั้นสินะ

ระวังเถอะ!

กวนอวี่กระตุ้นม้าให้กระโจนออกไป จากนั้นก็เห็นเจงกิสข่านที่ขี่ม้าอยู่เหมือนกันรีบวิ่งหนีออกมาจากพุ่ม ดูเหมือนกับว่าอยากจะหลบเลี่ยงจากการพุ่งชาร์จนี้

น่าสงสาร…

ประธานใหญ่ซุนทอดถอนในใจ แต่เกือกเหล็กของม้ากวนอวี่ก็ได้เหยียบย่ำลงไปบนพุ่มแล้ว

มังกรเขียวเสี้ยวจันทร์!

กีบเท้าม้าย่ำลงไป ถึงแม้ว่าเจงกิสข่านจะหนีออกมาจากพุ่มแล้ว แต่ก็ยังโดนการกระโจนที่มีโจมตีระยะกว้างนี้ตีโดนเข้าจนกระเด็นไปด้านข้าง ประธานใหญ่ซุนได้ยินเสียงร้องดังมาจากนอกห้องก็ยิ่งรู้สึกภาคภูมิใจกว่าเดิม การโจมตีครั้งนี้ถ้าเขาใช้สกิลหนึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะตีวืดเข้าจริง ๆ แต่ว่าพอเลือกใช้สกิลสองที่มีระยะโจมตีกว้างและมีผลผลักก็กลับทำให้เจงกิสข่านไม่สามารถหลบได้ แต่ว่าน่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้ตำแหน่งของเจงกิสข่าน ทิศทางที่ผลักออกไปก็เลยควบคุมได้ไม่ค่อยเพอร์เฟ็ค ใช้สกิลหนึ่งโจมตีออกไปเลยก็ไม่น่าจะถึงมั้งเนี่ย

ประธานใหญ่ซุนไปคิดถึงเรื่องการโจมตีต่อจากนี้ของเขาแล้ว ไม่ได้ยินเลยว่าในเสียงร้องตะโกนของเหออวี้นั้นไม่ใช่ความตกใจ แต่เป็นประหลาดใจแกมยินดีมากกว่า

“ยกสกิลสองมาให้เฉยเลย!” เหออวี้บอกกับม่อเซี่ยนทันที

“อืม” ม่อเซี่ยนไม่ได้ตื่นเต้นขนาดเหออวี้ ส่งเสียงออกมาอย่างนิ่งมาก

สกิลสองของกวนอวี่สามารถล้างดีบัพแถมยังมีผลเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ด้วย สามารถเรียกได้ว่าเป็นสกิลหนีเอาตัวรอด ที่กวนอวี่ถูกจำกัดได้ยากมากก็มีผลมาจากสกิลอันนี้เลย แต่ตอนนี้ประธานใหญ่ซุนกลับเลือกใช้สกิลสองเป็นตัวเปิด ยิ่งไปกว่านั้นยังภาคภูมิใจในการเล่นนี้ของตัวเองอย่างไม่จบไม่สิ้นอีกด้วย แทบไม่รู้เลยว่าเขาที่ใช้สกิลสองนี่ไปแล้วในสายตาของเหออวี้กับม่อเซี่ยนไหนเลยเจ้าคนที่นั่งอยู่บนหลังม้าตัวนั้นยังจะเป็นกวนอวี่อีก ดูจากหัวจดเท้ายังไงมันก็บัฟแดงชัด ๆ เลย

“นายพร้อมนะ” เจงกิสข่านของเหออวี้เพิ่งจะโดนมังกรเขียวเสี้ยวจันทร์ของกวนอวี่ไปจนไถลไปทางขวาของปากทาง นี่เป็นทิศทางที่เขาอยากจะไปพอดี รู้สึกรักสกิลสองของกวนอวี่อันนี้แทบตายแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรผลผลักก็ยังเป็นการควบคุมสนามแบบหนึ่ง เจงกิสข่านไม่สามารถควบคุมได้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ กวนอวี่ไล่ตามมาจากในพุ่ม ดาบเดียวหาศัตรูอันหนึ่งหมุนควงฟันเข้าใส่เจงกิสข่าน

คอมโบสกิลสองอันซ้อนตกลงใส่เจงกิสข่านที่เป็นแครี่ตัวบางจนเจ็บหนัก เลือดหายไปทีเดียวครึ่งหลอด แต่เหออวี้ก็ต้องประหลาดใจแกมยินดีขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาเห็นว่ากวนอวี่ที่ไล่ตามเจงกิสข่านของเขาออกมาจากในพุ่มวิ่งเร็วเหมือนจะเหินบิน มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น! ในพุ่มเขาได้วางกับดักร้อยสังหารเอาไว้อันหนึ่ง กวนอวี่เหยียบโดนไปแล้ว กวนอวี่ที่ควรจะโดนลดความเร็วเคลื่อนที่ลง 30% แต่ตอนนี้ยังวิ่งได้เร็ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ติดสโลว์ นี่จะต้องปล่อย Purify ออกมาล้างผลลดความเร็วไปแล้วแน่ ๆ!

“Purify ก็ใช้แล้ว!” เหออวี้ร้อง

“อืม” ม่อเซี่ยนก็ยังคงนิ่งเฉยอยู่ ฮัวมู่หลานยังซุ่มนิ่งอยู่ในพุ่มต่อไป Purify นั้นนอกจากจะมีผลล้างดีบัพทั้งหมดออกจากร่างแล้ว ในเวลาเดียวกันก็มีผลให้ไม่โดนผลจากดีบัพอื่น ๆ เป็นเวลา 1.5 วินาทีอีกด้วย ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะลงมือ

เหออวี้ก็ย่อมทราบกระจ่างในจุดนี้ เจงกิสข่านไม่ใช้สกิลสองลดความเร็วกวนอวี่อีก แต่ใช้ Flicker พยายามที่จะหนีข้ามกำแพงไปตรง ๆ เลย ผลกลับเป็นการชนกับกำแพงจนร่วงลงไปในพุ่มอย่างทุลักทุเล

“ฮา ๆๆๆ” ห้องข้างในมีเสียงหัวเราะดังลั่นออกมา ทำให้เกาเกอที่สนใจด้านนี้อยู่แล้วอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเหออวี้แวบหนึ่ง “ยังจะแสดงละครอีก”

“ต้องแสดงสิครับ!” เหออวี้กล่าว

ถ้าไม่ใช้ Flicker นี้ออกมาก็เป็นไปได้มากว่าเขาจะถูกกวนอวี่ฟันจนตายไปแล้ว บนร่างของกวนอวี่ยังคงมีบัฟแดงอยู่ การโจมตีจะเพิ่มดาเมจแล้วก็ลดความเร็วด้วยนะ! แต่ถ้า Flicker ข้ามกำแพงไป กวนอวี่ไล่ตามมาทางอ้อม ๆ ก็ดูจะสะดวกกว่าหน่อย นั่นจะทำให้ม่อเซี่ยนซุ่มวืดไปเปล่า ๆ ดังนั้นสุดท้ายแล้วก็เลยกลายเป็น Flicker ชนกำแพงไปแบบนี้ ทั้งดึงระยะห่างออกจากตัวกวนอวี่ได้แต่กลับไม่ได้ข้ามกำแพงไป

“แน่มาก เจ้าเล่ห์มาก” สำหรับการแสดงรอบนี้ของเหออวี้เกาเกอไม่รู้ว่าควรจะชื่นชมดีรึเปล่าเลย

ด้านประธานใหญ่ซุนย่อมไม่ยินยอมปล่อยเจงกิสข่านของเหออวี้ไป กวนอวี่พุ่งเข้าไปในพุ่ม ทันใดนั้นเองก็มีกระบี่กวัดแกว่งขึ้นมา ภายในพริบตาเหนือหัวของกวนอวี่ก็มีสัญลักษณ์ที่เหมือนกับสัญลักษณ์ “ห้ามเข้า” ที่เห็นได้ทั่วไปปรากฏขึ้นมา

ใบ้!

ในขณะที่ฮัวมู่หลานใช้กระบี่เบาโจมตีธรรมดาและใช้สกิลทำดาเมจจะสามารถทำให้ฮีโร่ศัตรูโดนตราประทับดุลยภาพได้ ประทับได้รวม 5 ชั้น ซึ่งจะทำให้เป้าหมายติดใบ้แล้วก็ยังลดความเร็วเคลื่อนที่ของเป้าหมายได้ 50% เป็นเวลา 1.5 วินาที

“เฮ้ย!”

คราวนี้เสียงร้องอุทานดังมาจากห้องด้านใน ประธานใหญ่ซุนไม่เคยคาดคิดเลยว่าในพุ่มนี้จะยังมีการซุ่มโจมตีอยู่ด้วย สกิลล้างดีบัพทั้งหมดก็ติดคูลดาวน์อยู่ ตอนนี้เหมือนกับว่าจะถูกตัดขาม้าไป ได้แต่เกลียดที่ไม่สามารถจะลงจากหลังม้าได้ เจงกิสข่านที่เมื่อครู่นี้เพิ่งจะถูกเขาไล่จนต้องหนีอุตลุดตอนนี้ก็กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวา มุดออกมาจากพุ่มได้ก็ยิงใส่เป็นชุด กับดักร้อยสังหารถูกโยนออกมาใส่เส้นทางไปป้อมของกวนอวี่ สกัดทางหนีที่ใกล้ที่สุดของเขาเอาไว้

ประธานใหญ่ซุนเกิดความสิ้นหวังขึ้นมาในใจ ตอนนี้ก็ไม่สามารถให้เพื่อนร่วมทีมมาช่วยสนับสนุนได้เลยด้วย ได้แต่ดิ้นรนคืบคลานไปทางป้อมเท่านั้น ผลสโลว์ของฮัวมู่หลานหมดลงแล้วก็ไปเหยียบโดนกับดักของเจงกิสข่านอีก พอผลลดความเร็วของกับดักหายไป ตรงหน้าของตัวเองก็มีกับดักอันใหม่วางทิ้งเอาไว้อีกอัน…

กวนอวี่นั้นในช่วงต้นเกมก็ยังพอจะมีความอึดอยู่บ้าง อุปสรรคที่เหออวี้กับม่อเซี่ยนวางขัดขวางเอาไว้เป็นชั้น ๆ ถูกกระตุ้นไปทีละอัน เขาพยายามจะหนีเข้าป้อมไปอย่างยากลำบาก ปรารถนาจะได้ฮีลที่อยู่ใต้ป้อมข้างหน้านี้ แต่ช่วยไม่ได้ที่ความเร็วเคลื่อนที่ของเขามันยังไม่ฟื้นฟูเลย แล้วเจงกิสข่านที่ไล่ตามมาข้างหลังเขานั้นก็ดันเป็นตัวโจมตีระยะไกลคนหนึ่ง ส่งลูกศรแหลมคมไล่ตามมาจากนอกป้อมสักหน่อย กวนอวี่กับม้าของเขาสุดท้ายแล้วก็อยู่ห่างจากจุดฮีลที่เขาปรารถนาเพียงแค่ก้าวเดียวก็ล้มลงอย่างน่าสมเพช

“เชี่ย!” เสียงคำรามของประธานใหญ่ซุนดังลอดออดมาจากห้องด้านใน แสดงถึงความหงุดหงิดไม่ยินยอมพร้อมใจของเขาได้อย่างชัดแจ้ง

“เพื่อจะจัดการฉัน ฮัวมู่หลานวิ่งมาถึงเลนล่างแล้ว” ประธานใหญ่ซุนบอกกับเพื่อนร่วมทีมของเขา ก็ถือได้ว่าเป็นการอธิบายที่พอรับได้ด้วยว่าทำไมตัวเองถึงได้สิ้นชีพไปแบบนั้น ในความคิดของพวกเขา ฮัวมู่หลานก็ยังคงเป็นออฟเลนคนหนึ่ง ส่วนในเกมนี้ซัพพอร์ตของคลื่น7 ก็น่าจะเป็นหลิวปังถึงจะถูก ถึงแม้ว่าคนควบคุมดูจะแปลก ๆ ก็เถอะ แต่ว่าตำแหน่งซัพพอร์ตนี้ ในสายตาของผู้เล่นทั่วไปเป็นตำแหน่งที่ใครก็ไม่อยากจะเล่นด้วยกันทั้งนั้น การที่โจวม่อจะใช้หลิวปังเล่นเป็นซัพพอร์ตไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายสำหรับพวกเขาเลย อย่างน้อยเมื่อเทียบกับฮัวมู่หลานซัพพอร์ตก็ไม่เลยสักนิด

……………………………………………………………….

มีการแก้คำแปลเล็กน้อย

คือสองตอนที่แล้วตอนพูดถึงอาวุธของมู่หลานเราบอกว่าเป็นกระบี่คู่ (双剑) และดาบเอเป้ (重剑) แต่พอมาตอนนี้ถึงรู้ว่ากระบี่คู่นั้นเรียกอีกอย่างว่าเป็นกระบี่เบา (轻剑) ดังนั้นเมื่อดูไปแล้ว重剑 (ตัวแรกแปลว่าหนัก ตัวหลังแปลว่ากระบี่) ก็น่าจะไม่ใช่เป็นชื่อเฉพาะแบบดาบเอเป้ แต่เป็นคำบอกลักษณะของกระบี่ว่าเป็นกระบี่เบา-กระบี่หนักมากกว่า