ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 181 งานเลี้ยงครบรอบ (12) / 182 งานเลี้ยงครบรอบ (13)

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 181 งานเลี้ยงครบรอบ (12) / 182 งานเลี้ยงครบรอบ (13) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 181 งานเลี้ยงครบรอบ (12)

 

 

ทุกๆ ถ้อยคำ ทุกๆ ประโยคและทุกๆ สีหน้าท่าทางล้วนแล้วแต่ค่อยๆ หลอกล่อให้พวกเขาตกหลุมพรางที่เธอวางไว้ทีละก้าวๆ!

 

 

เธอดูเหมือนจะยินยอม ดูเหมือนจะจนมุม ทำให้พวกเขาค่อยๆ ลดความระแวงลงทีละน้อย แต่ในขณะที่พวกเขาแน่ใจว่าเธอจะกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่ายเอาไว้ ทว่าจู่ๆ เธอก็งัดท่าไม้ตายออกมา!

 

 

นังชั่ว!

 

 

นอกจากจะอดทนเก่ง ยังจะวางแผนได้ถึงขั้นนี้!

 

 

ทำไมสกุลเฉินกับสกุลซูจึงคาดไม่ถึงมาก่อนว่าเฉินฝานซิงจะถือไพ่เด็ดขนาดนั้นไว้ในมือ

 

 

รูปพวกนั้นเธอได้มาได้อย่างไรกันแน่

 

 

เจียงหรงหรงหรี่ตาลงจ้องเฉินฝานซิงเขม็ง

 

 

หลานสาวของเธอคนนี้ ทำไมถึงได้น่ากลัวนัก

 

 

เธอคนเดียวที่วางแผนทั้งหมดมาตั้งแต่เริ่ม วางแผนร้ายกับทุกคนที่อยู่ในงาน

 

 

คำพูดที่พวกเธอพูดขึ้นทุกถ้อยทุกคำเมื่อครู่ ทุกเรื่องที่ทำ ปฏิกิริยาของทุกคนในงาน ล้วนเป็นสิ่งที่เธอคิดมาแล้วทั้งหมด!

 

 

จนสุดท้ายคำพูดเพียงคำเดียวของเธอก็เปลี่ยนให้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นตัวตลก

 

 

ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกว่ามันผิดปกติตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะเห็นว่าหลานสาวยอมทำตามจึงได้เบาใจลง

 

 

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะสายตา สีหน้าอารมณ์ ก็ล้วนไม่ได้ส่อพิรุธแม้แต่น้อย!

 

 

เธออยู่มาจนปูนนี้แล้ว จู่ๆ ก็มาโดนหลานสาวสวมเขาเอาจนได้!

 

 

อายุยังน้อย ความฉลาดของเฉินฝานซิงนั้น จริงๆ แล้วลึกล้ำถึงเพียงไหนกันแน่

 

 

เจียงหรงหรง คืนนี้คุณทำให้ฉันตาสว่างมาก! เป็นหลานสาวของคุณเหมือนกัน แต่ความลำเอียงของคุณนี่ทำเอาฉันนับถือเลยจริงๆ ถึงฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณลงทุนออกหน้าจนคนทั้งสกุลเฉินพากันถือหางเฉินเชียนโหรวกันหมด แต่คุณจำเอาไว้นะ สักวัน ฉันจะทำให้คุณเสียใจ! ฉันจะทำให้คุณเสียใจจนนอนตายตาไม่หลับ!

 

 

จู่ๆ คำที่เฉินฝานซิงเพิ่งพูดไปไม่นานมานี้ดังก้องในสมอง ความหนาวสั่นพลันผุดขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

 

ในตอนนั้นเอง เธอก็เริ่มจะเชื่อขึ้นมาบ้างแล้วว่าประโยคนั้นของหลานสาวดูท่าจะจริง

 

 

เมื่อต้องเผชิญความวุ่นวายอย่างคาดไม่ถึงตรงหน้า ทุกคนล้วนไม่สบายใจ

 

 

โดยเฉพาะคนสกุลเฉิน จากเดิมที่พวกเขาคิดจะยืมไหล่ของเฉินฝานซิงมาแบกรับเรื่องราวทั้งหมด เพื่อเหยียบผลกระทบในด้านลบลงไปให้มิด

 

 

แต่สุดท้ายตอนนี้มันกลับสร้างผลลัพธ์ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว

 

 

หน้าของเฉินเชียนโหรวขาดเลือดหล่อเลี้ยงอยู่หลายนาที ด้านหนึ่งเธอก็รับฟังทุกคำวิจารณ์ที่ไม่เข้าหูพวกนั้น อีกด้านหนึ่งเธอก็ถลึงตามองพี่สาวจนกล้ามเนื้อแทบกระตุก

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยที่แสดงออกมาอย่างผู้กำชัย เฉินเชียนโหรวถึงกับบดฟันเข้าหากันเสียงดังกรอดๆ

 

 

แต่เธอก็ยังคงหลงเหลือสติอยู่เล็กน้อย

 

 

“พี่คะ พี่โหดร้ายที่สุด”

 

 

จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีอ่อนแออย่างเช่นเคย ตอนนี้ใบหน้าซีดเผือดเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ดวงตาของดอกสาลี่ต้องหยาดฝนนั้นดูน่าสงสารจับใจ

 

 

เสียงของเธอล่องลอยออกมาอย่างแผ่วเบา เดิมเธอก็เป็นดั่งดวงดาวที่ส่องแสงอยู่แล้ว เมื่อต้องอยู่บนเวทีที่เป็นเป้าสายตาแบบนั้น เธอก็ยังคงดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินฝานซิงก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างยากคาดเดา เธอผินหน้าไปเล็กน้อย เรียวปากยกขึ้นอย่างเยือกเย็น

 

 

ทั้งๆ ที่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา แต่ในสายตาของทุกคนกลับเห็นว่าท่าที่หยิ่งผยองนั้นกำลังท้าให้อีกฝ่ายพูดต่อ

 

 

เฉินเชียนโหรวกัดฟันแน่น เธอเกลียดเฉินฝานซิง เกลียดทุกอย่างที่เป็นเฉินฝานซิง!

 

 

เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด กำฝ่ามือเข้าหากันแน่นพร้อมกับเอ่ยออกมา

 

 

“พี่วางแผนจะทำให้เราขายหน้าในงานรวมตัวแบบนี้ใช่ไหม พี่วางแผนไว้ตั้งแต่แรก พี่เตรียมของพวกนี้ไว้ตั้งนานแล้ว พี่ไม่คิดว่าทั้งหมดนี่มันจะเกินไปหน่อยเหรอ พี่คะ หลานอวิ้นคือทั้งหมดของสกุลเฉินนะ…”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 182 งานเลี้ยงครบรอบ (13)

 

 

ด้วยคำพูดและสีหน้าท่าทางอ่อนแอของเฉินเชียนโหรว ทำให้ด้านล่างเวทีแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบงัน

 

 

ผู้คนที่มาร่วมงาน นอกจากนักข่าวและสื่อต่างๆ ที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นนักธุรกิจ สำหรับพวกเขาทุกคน ต่างก็เข้าใจหลักการอย่างหนึ่งตรงกันว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด

 

 

และเพื่อสิ่งเหล่านี้แล้ว การเสียสละเพียงเล็กน้อยก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ประธานเจียงตัดสินใจแบบนี้ นั่นก็เพื่อผลประโยชน์ของบริษัท ดูเหมือนจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไรมากนัก

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องก็ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว ทุกอย่างดูเหมือนจะเอนเอียงไปทางคุณหนูใหญ่สกุลเฉินหมดเลย ช่างเป็นอะไรที่ราบรื่นเกินไปจริงๆ …

 

 

ด้านล่างเวทีเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา สายตาที่มองมายังเฉินฝานซิงเริ่มกระอักกระอ่วน ดูไม่เป็นธรรมชาติ

 

 

แต่ทว่าเฉินฝานซิงกลับยิ้มออกมาหน้าตาเฉย ทั้งยังพูดด้วยแววตานิ่งเรียบ

 

 

“ก่อนอื่น ภาพด้านหลังพวกนั้น ฉันไม่ได้เตรียมมา อีกอย่าง ต่อให้ฉันเป็นคนเตรียมมาจริงๆ แล้วจะทำไมเหรอ หลันอวิ้นเป็นทั้งหมดของสกุลเฉินงั้นเหรอ เหอะ…”

 

 

สุดท้าย เฉินฝานซิงเพียงแค่แค่นหัวเราะในลำคอด้วยท่าทางประชดประชัน ไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

ด้านล่างเวทีก็มีเสียงหัวเราะเกรียวกราวดังขึ้น

 

 

“นั่นสิ พวกคุณทำเรื่องหน้าไม่อายเอง ยังจะมาห้ามไม่ให้คนอื่นเปิดโปง นี่มันตรรกะอะไรกัน”

 

 

“หลันอวิ้นคือทั้งหมดของสกุลเฉินงั้นเหรอ ถ้าตัวเองไม่ได้ไปให้ท่าคู่หมั้นของพี่สาว คืนนี้ก็คงไม่เกิดเรื่องน่าอับอายขนาดนี้ขึ้นหรอก ตอนนี้มาตัดพ้อว่าคนอื่นไม่ห่วงผลประโยชน์ของบริษัท น่าขำจริงๆ”

 

 

เฉินเชียนโหรวหน้าซีดเผือด

 

 

เฉินฝานซิงพูดยิ้มๆ

 

 

“เมื่อกี้เธอบอกว่า ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของฉัน เรื่องในคืนนี้มันราบรื่นเกินไปใช่ไหม”

 

 

เฉินฝานซิงหยุดนิ่งครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาพลางพยักหน้ากับตัวเอง “อื้ม ฉันก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันราบรื่นเกินไปเหมือนกัน”

 

 

คิ้วของเฉินเชียนโหรวคลายออก “เธอยอมรับแล้วเหรอ”

 

 

แพขนตางอนยาวทำให้เกิดเงาเล็กๆ บนใบหน้าขาวเนียนของเธอ “เรื่องนี้มีอะไรไม่น่ายอมรับเหรอ”

 

 

“เธอ…”

 

 

ครั้งนี้ไม่เพียงแค่เฉินเชียนโหรว แต่แม้แต่คนที่ยืนนิ่งทื่อจนดูไม่ออกว่ากำลังยินดีหรือยินร้ายอยู่อย่างซูเหิงก็ยังต้องเบนสายตามามองเธอ

 

 

ทว่าเฉินฝานซิงเพียงแค่กะพริบตาเบาๆ ภายในดวงตาสุกสว่างเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจิดจรัสราวกับแสงดาว แต่บนใบหน้าก็ยังคงมีเพียงความเย็นชา

 

 

“ถ้างั้นขอถามอะไรหน่อย ฉันใช้ให้ประธานเจียงขึ้นเวทีกับฉันงั้นเหรอ ฉันสั่งให้ประธานเจียงบอกทุกคนว่าฉันขอถอนหมั้นเพราะคุณชายติงเหรอ ฉันสั่งให้เธอขึ้นเวทีมาโวยวายใส่ฉันด้วยความแค้นเคืองว่าทำไมต้องหักหลังซูเหิงงั้นเหรอ หรือว่า…เป็นฉันเองเหรอ ที่ใช้ให้พวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่แรก”

 

 

“…”

 

 

“…”

 

 

“…”

 

 

หลังจากประโยคนี้ดังออกมา ทุกคนต่างก็เงียบสนิท

 

 

เฉินฝานซิงกลับพูดต่อ “ที่เรื่องเป็นไปด้วยความราบรื่นได้ขนาดนี้ เห็นทีคงต้องขอบคุณพวกคุณ ถึงแม้ไม่มีบท แต่ก็ให้ความร่วมมือกับฉันถึงขนาดนี้”

 

 

เฉินเชียนโหรวสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เธอกัดริมฝีปากแน่น โกรธจนอกจะแตก

 

 

“ฮ่าๆๆ…”

 

 

“ก็จริงนะเนี่ย ไม่เสียแรงที่เป็นนักแสดงฝีมือดี ไม่มีบทก็แสดงได้ดีขนาดนี้”

 

 

“ผิดแล้ว ผิดแล้ว น่าจะเป็นคุณหนูใหญ่สกุลเฉินผู้กำกับคนนี้มากกว่าที่ฝีมือดี”

 

 

“การเดินเรื่องสุดยอดไปเลย ต่อไปถ้าฉันจะลงทุนอำนวยการสร้างละคร ต้องเชิญคุณหนูใหญ่สกุลเฉินมากำกับซะแล้ว”

 

 

เฉินฝานซิงหัวเราะ ก่อนจะตอบรับ “ต้องขอขอบคุณคุณผู้ชายที่ชมฉันด้วยเหมือนกัน”

 

 

“ฮ่าๆๆ…”

 

 

ทุกคนหัวเราะดังลั่น

 

 

เฉินเชียนโหรวอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

 

 

ไม่นานนัก เฉินฝานซิงก็เก็บรอยยิ้มในดวงตา ก่อนจะพูดนิ่งๆ

 

 

“อย่างไรเสีย การกระทำของประธานเจียงในค่ำคืนนี้ทำให้ฉันได้รู้ซึ้งว่าสกุลเฉินไม่ได้แยแสหลานสาวคนนี้เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าจะถือโอกาสนี้ตัดความสัมพันธ์กันไปเลยก็ใช่จะไม่ได้ เพราะหลายปีมานี้ พวกคุณก็ไม่เคยเห็นฉันเป็นคนของสกุลเฉินตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

 

 

“อีกอย่าง เรื่องงานแต่งของฉันและประธานซูให้ถือเป็นโมฆะ ต่อไปจะรักใครชอบใคร ก็ไม่เกี่ยวกันอีก ความสัมพันธ์แปดปี ฉันไม่ต้องการแล้ว เพราะฉะนั้น มิตรภาพสิบกว่าปีพวกนั้น ฉันก็ไม่ขอเก็บไว้เหมือนกัน ไม่ต้องโผล่หน้ามาร้องขอให้ฉันอภัยอีกนะ ฉันไม่มีวันให้อภัยพวกคุณไปชั่วชีวิต”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด