ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 511 ตัวไหมน้ำแข็ง

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 511 ตัวไหมน้ำแข็ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผ่านไปซักพัก ระลอกคลื่นในบ่อก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีฟองน้ำพุ่งออกมาเป็นครั้งครา แต่ยังไม่มีทีท่าว่าตัวไหมน้ำแข็งจะปรากฏออกมาเลย

จากคำเตือนของจินอวี้หวนในก่อนหน้านั้น หลิ่วหมิงก็รู้ว่าตัวไหมน้ำแข็งมีการตอบสนองที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นเขาก็ไม่กล้าปล่อยจิตออกไปตรวจสอบ ทำได้แค่อดทนรออย่างเงียบๆ

ทันใดนั้น มีเสียงน้ำแตกดังขึ้นมา กลุ่มแสงสีขาวปรากฏบนผิวน้ำ ดูเหมือนว่าจะเป็นร่างส่วนหนึ่งของตัวไหมน้ำแข็ง

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วขึ้นมา และกำลังจะทำอะไรบางอย่าง แต่หลังจากแสงสีขาวเปล่งประกาย ระลอกคลื่นบนผิวน้ำก็หายไปทันที ดูเหมือนว่าตัวไหมน้ำแข็งจะดำกลับเข้าไปแล้ว

ภายใต้สถานการณ์ที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ก็ได้แต่ข่มอารมณ์รอคอยอีกครั้งอย่างเงียบๆ

หลังเวลาผ่านไปราวๆ ครึ่งถ้วยชา ผิวน้ำที่สงบก็พวยพุ่งอย่างรุนแรง หัวหนอนยักษ์สีขาวหิมะแวววาวจนเกือบจะโปร่งแสงลอยขึ้นมาจากในนั้น

บนหัวของมันมีดวงตาสีเขียวที่จ้องมองรอบด้านอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ปีนขึ้นมาจากบ่อเย็น และโผเข้าหาไข่หนอนไม่ทราบชื่ออย่างรวดเร็ว

มันคือปีศาจไหมน้ำแข็งที่จินอวี้หวนพูดถึง!

อสูรตัวนี้มีขนาดสองสามจั้ง ลำตัวและหัวขาวแวววาวราวกับหิมะ มีจุดสีเขียวแก่เจ็ดแปดจุดอยู่ข้างตัวทั้งสองด้าน ขาสั้นๆ จำนวนมากที่อยู่ด้านล่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จนพอที่จะเทียบกับความเร็วในการเหินเวหาได้

ดูจากท่าทีซื่อๆ ไร้เดียงสาของหนอนตัวนี้แล้ว หลิ่วหมิงก็หลุดขำไม่ได้ แต่ก็ต้องรู้สึกเย็นสะท้านขึ้นมา!

ตัวไหมน้ำแข็งนี้มีสติปัญญาสูงมาก เพียงแค่เล่ห์เหลี่ยมการเสแสร้งในก่อนหน้านั้น ก็เหนือกว่าปีศาจอสูรจำนวนมากแล้ว จึงไม่อาจดูเบามันได้

พริบตาเดียว ก็มาถึงตรงมุมถ้ำและอ้าปากงับไข่หนอนทันที จากนั้นก็หมุนตัวเพื่อจะกลับลงไปในบ่อเย็น

แต่ขณะนั้นเอง เงาร่างสีขาวก็พุ่งเข้ามาจากอีกด้าน และขวางปากบ่อไว้ ซึ่งก็คือจินอวี้หวนนั่นเอง

นางแยกมือทั้งสองโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง และประกบเข้าด้วยกันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว แสงดาบสีเขียวหยกพุ่งออกจากใจกลางฝ่ามือทั้งสอง มันคือดาบยาวสีเขียวหยกเล่มนั้น พอสะบัดแค่ทีเดียว แสงดาบขนาดจั้งกว่าๆ ก็ก่อตัวขึ้น และฟันไปใส่หัวของตัวไหมน้ำแข็งอย่างโหดเหี้ยม

ภายใต้ความตกใจ ตัวไหมน้ำแข็งก็กลืนไข่หนอนลงไปด้วยตาที่เป็นประกาย จากนั้นก็อ้าปากพ่นน้ำค้างแข็งสีขาวหิมะออกมา พอมันสัมผัสกับแสงดาบสีเขียว ก็ระเบิดออกมาเป็นเกล็ดหิมะ

ไอเย็นม้วนตัวพวยพุ่งออกไป และเกาะผนึกแสงดาบสีเขียวไว้

“ฟู่!”

ตัวไหมน้ำแข็งพ่นแท่งน้ำแข็งออกมาโจมตีแสงดาบจนแตกกระจาย

จินอวี้หวนทำท่ามือและแตะลงบนตัวด้วยความตกใจ แสงสีแดงเปล่งประกายบนเกราะหนัง คลื่นความร้อนสีแดงพุ่งออกมาต้านทานน้ำค้างแข็งที่โจมตีเข้ามา

เห็นได้ชัดว่าตัวไหมน้ำแข็งถูกยั่วจนโมโหแล้ว ร่างส่วนหน้าของมันชูขึ้นมา ขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหวนั้น แสงกระบี่สีแดงที่ปะปนกับพายุร้อนก็พุ่งเข้ามา และฟันลงบนหลังของอสูรตัวนี้

ดูเหมือนตัวไหมน้ำแข็งจะค้นพบถึงความผิดปกติ มันจึงส่งเสียงร้อง และม้วนตัวกลมดิก

ขณะเดียวกัน ร่างขาวสะอาดก็แผ่ไอเย็นออกมา พริบตาเดียว มันก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งสีเงินกลมๆ

จินอวี้หวนมีสีหน้าเคร่งขรึมลง พอเปลี่ยนท่ามือ ดาบสีเขียวหยกที่ลอยอยู่ตรงหน้าก็พร่ามัวกลายเป็นคมดาบสีเขียวแวววาว และฟันออกไป

“เพล้ง!” “เพล้ง!”

แสงคมดาบและกระบี่ฟันลงบนก้อนน้ำแข็งติดต่อกัน ทำให้มันกระเด็นไปชนผนังถ้ำอย่างรุนแรง และกลิ้งลงบนพื้น

หลิ่วหมิงยกมือเรียกกระบี่บินกลับมาด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

การลงมือโจมตีอย่างกระทันหันในเมื่อครู่ ทิ้งรอยกระบี่จางๆ ไว้เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทำอะไรตัวไหมน้ำแข็งที่อยู่ด้านในได้

และแสงดาบที่จินอวี้หวนกระตุ้น กลับไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เลย

คิดไม่ถึงว่าตัวไหมน้ำแข็งจะมีวิชาป้องกันแข็งแกร่งเช่นนี้

จินอวี้หวนดวงตาเป็นประกาย นางพลิกฝ่ามือหยิบยันต์สีเหลืองมากดไว้บนพื้น ทันใดนั้น แสงสีเหลืองก็จมหายไปใต้ดินอย่างไร้สุ้มเสียง

ครู่ต่อมา หนามพสุธาจำนวนมากที่เปล่งแสงสีเหลือง ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดินที่อยู่ไม่ไกล และแทงใส่ก้อนน้ำแข็งอย่างแม่นยำ แม้จะไม่สามารถทำอะไรมันได้ แต่กลับตรึงมันไว้กับผนังถ้ำ

หลิ่วหมิงจำยันต์นี้ได้ในทันที พอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเขาก็โบกมือ จากนั้นแสงสีทองก็พุ่งออกจากแขนเสื้อ และกลายเป็นม่านทรายทองคำร่วงปกคลุมเต็มฟ้า หลังจากเกาะตัวเป็นกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่ง มันก็พุ่งยิงใส่ก้อนน้ำแข็งกลมๆ

ครู่ต่อมา แสงดาบสีทองสองลำก็ทอประสานกันอย่างรวดเร็ว และฟันไปยังก้อนน้ำแข็งกลมๆ อย่างโหดเหี้ยม

“เปรี๊ยะ!” หนามพสุธาที่หนีบก้อนน้ำแข็งกลมๆ อยู่ ค่อยๆ แตกออกมา และมีร่องรอยลึกๆ ปรากฏบนก้อนน้ำแข็ง

มีเสียงแหลมดังออกจากก้อนน้ำแข็งกลมๆ ชิ้นน้ำแข็งสีขาวค่อยๆ ร่วงลงมา และเผยให้เห็นร่างของตัวไหมน้ำแข็งที่อยู่ในนั้น

พอปีศาจหนอนตัวนี้คลี่ตัวออกมา มันก็ตกลงพื้นอีกครั้ง เมื่อมันสะบัดบั้นท้ายอย่างรุนแรง แสงดาบสีทองก็กระเด็นออกไป

ร่างสีขาวแวววาวของมันมีเลือดสีเขียวซึมออกมา ดวงตาสีเขียวจ้องมองจินอวี้หวนที่ขวางทางลงบ่อไว้ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังโกรธที่ได้รับบาดเจ็บ

“ระวัง! มันจะแลกชีวิตแล้ว!” หลิ่วหมิงรีบตะโกนออกมา ขณะเดียวกัน กระบี่บินสีแดงในมือก็พุ่งออกมาไป และกลายเป็นเงากระบี่สีแดงที่ยาวจั้งกว่าๆ ฟันลงบนหลังตัวไหมน้ำแข็ง

จินอวี้หวนได้ยินก็รีบควักยันต์ออกมาด้วยความตกใจ

แต่ทว่านางไม่ทันได้กระตุ้นยันต์ เท้าสั้นๆ สิบกว่าข้างของตัวไหมน้ำแข็งก็กลายเป็นเงา ร่างของมันเคลื่อนไหวพร่ามัวจนหลบแสงกระบี่สีแดงไปได้ และพุ่งเข้าหาจินอวี้หวนราวกับลมกรด

นางสะบัดดาบยาวสีเขียวหยกด้วยความตกใจ จนไม่ได้สนใจกระตุ้นยันต์ ทันใดนั้น มันก็กลายเป็นแสงสีเขียวฟันออกไป

แต่พอตัวไหมน้ำแข็งอ้าปากพ่นไหมละเอียดเล็กสีขาวแวววาวออกมา มันก็ทำลายดาบแสงจนแตกกระจาย และห่อหุ้มดาบยาวสีเขียวหยกไว้ ไม่ว่าอาวุธชิ้นนี้จะดิ้นรนเท่าใด ก็ไม่อาจหลุดออกมาได้

จินอวี้หวนกระตุ้นดาบยาวสีเขียวหยกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากการรัดพันของไหมละเอียดได้ และนางก็มีสีหน้าหวาดผงาโดยไม่รู้ตัว

แม้จะบอกว่าดาบยาวของนางจะเป็นแค่อาวุธจิตวิญญาณระดับสูง แต่อานุภาพเสริมกับอานุภาพเสริมกับชั้นจำกัดอันแหลมคมที่เสริมขึ้นมา นางย่อมรู้ดีว่ามันคมกริบระดับไหน แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถทำอะไรตัวไหมสีขาวนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

เมื่อไม่มีดาบยาวคอยขวางไว้ ตัวไหมน้ำแข็งก็กระโจนมาถึงตรงหน้าหญิงสาวอย่างรวดเร็ว และอ้าปากพ่นแท่งน้ำแข็งอันแหลมคมใส่นางทันที

จินอวี้หวนตระหนกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก การโจมตีระยะใกล้เช่นนี้ แม้นางอยากจะแสดงวิธีการต่างๆ เพื่อต้านทานก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แต่ส่งพลังเวทไปยังปราณแกร่งคุ้มร่างอย่างรวดเร็ว เพื่อต้านทานการโจมตีนี้

แต่ขณะนั้นเอง แสงสีทองก็เปล่งประกายตรงหน้าหญิงสาว ม่านทรายสีทองปรากฏออกมาในฉับพลัน และม้วนตัวกลายเป็นทรงกระบอกปกป้องนางไว้

มันคือทรายทองคำร่วงที่หลิ่วหมิงกระตุ้นให้มาช่วยนาง

หลังจากมีเสียงระเบิดดัง “ปังๆ!”

แท่งน้ำแข็งพุ่งใส่ม่านทรายสีทองติดต่อกัน และค่อยๆ ระเบิดออกมา ไอเย็นเสียดกระดูกม้วนตัวขึ้นมา และเกาะตัวเป็นชั้นน้ำแข็งหนาๆ บนม่านทราย

ครู่ต่อมา ภายใต้การหมุนวนของแสงสีทองบนม่านทราย ชั้นน้ำแข็งก็ค่อยๆ แตกร้าว และร่วงลงมา

แต่ตัวไหมน้ำแข็งกลับอ้าปากพ่นไหมสีขาวจำนวนมากออกมาอย่างไม่ลังเล มันกระพริบแต่ทีเดียว ก็กลายเป็นตาข่ายยักษ์ปกคลุมนางกับม่านทรายสีทองไว้

จากนั้นตาข่ายสีขาวก็รัดแน่นขึ้นมา และขังนางไว้ในนั้น

จินอวี้หวนมีสีหน้าซีดขาวในทันที ไม่ว่านางจะกระตุ้นวิชาต่างๆ โจมตีอย่างบ้าระห่ำแค่ไหน ก็มันอาจหลุดออกไปได้

ดีที่ว่ามีม่านทรายคุ้มกันอยู่ นางจึงไม่ค่อยได้รับอันตรายอะไรมากนัก

ขณะนั้นเอง หลิ่วหมิงกลับหายวับมาอยู่ห่างจากตัวไหมน้ำแข็งไม่ไกล พอทำท่ามือด้วยสีหน้าเยือกเย็น กระบี่แสงสีแดงที่ยาวจั้งกว่าๆ ก็พุ่งไปฟันหลังของตัวไหมน้ำแข็งราวกับสายรุ้งที่ยาวค้ำฟ้า

ตัวไหมน้ำแข็งทำราวกับมองไม่เห็น แสงสีเขียวบนหลังของมันเปล่งประกายอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นแสงสีเขียวเจ็ดแปดลำก็รวมตัวเข้าด้วยกัน และกลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่ต้านทานแสงกระบี่ที่ร่วงลงมาไว้ได้

“เอ๋?”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ต้องอุทานออกมาอย่างอดไม่ได้

เขาคิดไม่ถึงว่าตัวไหมน้ำแข็งจะยังมีความสามารถเช่นนี้ด้วย ขณะที่เขากำลังเพิ่มพลังเวทเพื่อโจมตีลำแสงขนาดใหญ่นั้น ตัวไหมน้ำแข็งก็หันกลับมาอย่างรวดเร็ว และพ่นไหมละเอียดสีขาวโพลนใส่เขา

ในเมื่อหลิ่วหมิงรู้ถึงความร้ายกาจของตัวไหมน้ำแข็งแล้ว เขาย่อมไม่อาจดูเบามันได้ พอร่างของเขาเคลื่อนไหวสองสามที ก็หายไปจากที่เดิม และไปปรากฏตัวอยู่ห่างออกไปเจ็ดแปดจั้ง

ตัวไหมน้ำแข็งรู้สึกอึ้งไปครู่หนึ่ง

จินอวี้หวนถือโอกาสที่ตัวไหมน้ำแข็งถูกหลิ่วหมิงดึงดูดความสนใจกัดฟันในทันที จากนั้นโลหิตบริสุทธิ์ก็กลายเป็นหมอกโลหิตพุ่งออกจากปาก ขณะเดียวกัน ภายใต้การชี้นำของท่ามือ มันก็ค่อยๆ จมหายไปในเกราะหนังสีแดงเข้ม

ทันใดนั้น เกราะหนังสีแดงเข้มบริเวณหน้าท้องก็เปล่งแสงสีแดงออกมา ค่ายกลสีแดงหลังหนึ่งลอยออกจากในนั้น และหมุนตัวติ้วๆ ก่อนที่จะพ่นเสาเพลิงสีแดงแก่อมม่วงออกมา

“ฟู่!” ตาข่ายด้านนอกถูกเสาเพลิงทะลวงจนเป็นรูขนาดใหญ่

จินอวี้หวนกระโดดออกมาด้วยความดีใจ จากนั้นก็พุ่งออกไปด้านหลัง และหยิบธงเล็กสีฟ้าออกมาอันหนึ่ง พอหมอกเมฆสีขาวทะลักออกมา มันก็ปกป้องนางไว้รอบด้าน

พอตัวไหมน้ำแข็งได้ยินเสียงดัง มันก็หันหน้ามาทันที พอเห็นว่าหญิงสาวหนีออกจากตาข่ายมาได้ มันก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง และแสงสีเขียวแปลกประหลาดก็เปล่งประกายในดวงตาของมัน

“ตู๊ม!”

ท่ามกลางบ่อน้ำที่อยู่ไม่ไกล ผิวน้ำพวยพุ่งอย่างรุนแรง เสาวารีขนาดเท่าถังน้ำพุ่งขึ้นมาในพริบตา และหมุนวนกลางอากาศหนึ่งรอบก่อนที่จะตกลงมาบริเวณหัวของตัวไหมน้ำแข็ง และก่อตัวเป็นเมฆวารีสีดำขนาดใหญ่หลายจั้ง

“ระวัง! ปีศาจหนอนตัวนี้กำลังจะแสดงความร้ายกาจอะไรบางอย่าง”

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็หรี่ตาทั้งคู่ลง พอโบกมือข้างหนึ่ง ม่านทรายทองคำที่อยู่ไม่ไกลก็ม้วนตัวออกมา และลอยมาอยู่ตรงหน้าเขา

จินอวี้หวนได้ยินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที อาวุธจิตวิญญาณที่ถือบนมือไม่อาจใช้การได้ พลังของนางอ่อนแอลงไปมาก ทันใดนั้นนางก็เอาเท้าแตะพื้นเพื่อที่จะพุ่งไปอยู่ข้างๆ หลิ่วหมิง

แต่ขณะนั้นเอง ตัวไหมน้ำแข็งก็พ่นหมอกน้ำแข็งออกมา และจมหายไปยังเมฆวารีที่อยู่เหนือหัว

แสงสีเงินเปล่งประกายแวววาวอยู่ภายในเมฆวารี อุณหภูมิในถ้ำลดลงอย่างกะทันหัน จนรู้สึกหนาวเย็นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

และครู่ต่อมา แท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็พุ่งออกจากเมฆวารีราวกับสายฝน และปกคลุมอากาศในระยะสิบกว่าจั้ง

จินอวี้หวนมีสีหน้าซีดขาวขึ้นมา จนไม่มีเวลาที่จะวิ่งไปทางหลิ่วหมิง จึงแต่กระตุ้นธงเล็กสีฟ้าในมือ ทันใดนั้น แสงสีฟ้าก็ม้วนตัวออกมา และกลายเป็นร่มปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของนาง

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด