ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 532 ไข่หนอนพลังจิต

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 532 ไข่หนอนพลังจิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อย่าลืมสิ! ห้ามต่อสู้กันในตลาด หรือเจ้าจะทำลายกฎนี้” บัณฑิตวัยกลางคนมีสีหน้ากลับมาสงบดังเดิม ประจักษ์ชัดว่าโดยปกติทำการฝึกฝนได้ดีมาก เทียบกันแล้วบัณฑิตหนุ่มยังห่างชั้นอีกมาก

“แต่ว่า?” บัณฑิตหนุ่มกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“ไม่ต้องพูดแล้ว ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ไข่หนอนไปก่อน จะยกให้คนอื่นหรือไม่นั้น มันก็แล้วแต่เขา พวกเราไปกันเถอะ!” บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหน้า ดวงตาเผยแววชั่วร้ายออกมาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกไปจากร้าน

บัณฑิตหนุ่มบ่นพึมพำเบาๆ ไปหนึ่งประโยค และรีบตามออกไป หลังจากออกจากประตูใหญ่ไปแล้ว ก็รีบถามออกมา

“อาจารย์ ไข่จักจั่นเขียวใบนั้นมีอะไรพิเศษกันแน่ เหตุใดอาจารย์อาถึงเสนอราคาสูงเช่นนี้”

“หากดูไม่ผิดล่ะก็ คงจะเป็นไข่ของจักจั่นเขียวกลายพันธุ์” ขณะที่เดินไปด้วย บัณฑิตวัยกลางคนขยับปากส่งเสียงให้ชายหนุ่มไปด้วย

“ไข่หนอนกลายพันธุ์?” ชายหนุ่มได้ยินก็รู้สึกตกใจมาก

“ไม่ผิด! ข้ารับรู้ได้ถึงกลิ่นไอขุ่นข้นบนไข่หนอนใบนั้น จักจั่นเขียวเป็นปีศาจอสูรประเภทแมลงมายา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีกลิ่นไอระดับนี้ ไข่หนอนกลายพันธุ์พบเจอได้น้อยมาก ราคาสูงกว่าไข่หนอนทั่วไปสิบเท่าขึ้นไป” บัณฑิตวัยกลางคนค่อยๆ กล่าวออกมา

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย! น่าชิงชังเสียจริง ถูกคนผู้นั้นเอาไปจนได้” ชายหนุ่มได้ยินตอนแรกก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ฉายแววละโมบออกมา

มูลค่าสูงกว่าไข่หนอนธรรมดาสิบเท่า กล่าวคือไข่จักจั่นเขียวกลายพันธุ์มีราคาอย่างน้อยสามแสนหินจิตวิญญาณ หากไข่ฟักออกมาเป็นตัว และมีพลังพิเศษอื่นๆ ล่ะก็ มันยังเพิ่มมูลค่าได้อีกหลายเท่า

หินจิตวิญญาณจำนวนมากเช่นนี้ ย่อมทำให้ผู้ฝึกฝนระดับผลึกผู้นี้ใจเต้นขึ้นมาได้

อีกด้านหนึ่ง หลังจากหลิ่วหมิงไปจากร้านขายอสูรแล้ว ก็รีบแฝงตัวเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว และเดินเตร่ในตลาดต่อ

ครึ่งวันต่อมา หลังจากดูเหมือนว่าจะเดินดูร้านค้าไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว เขาก็หาสถานที่เปล่าเปลี่ยวเปลี่ยนแปลงหน้าตาให้กลับมาเหมือนเดิม

พอกลับมาถึงหอร้อยหลอม หลิ่วหมิงก็ขึ้นไปบนห้องลับชั้นสามโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาปล่อยพลังกระตุ้นชั้นจำกัดทั้งหมด จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิลงบนเบาะกลมๆ อันหนึ่ง

หลังจากปรับลมหายใจเล็กน้อยแล้ว ก็หยิบกล่องหยกออกมาจากอก และเปิดเอาไข่จักจั่นเขียวออกมาสังเกตอย่างละเอียด

ไข่สีเขียวที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือนี้ นอกจากมีจุดสีดำอยู่บนพื้นผิวจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีจุดใดที่พิเศษอีก พอปล่อยพลังเวททั่วไปเข้าไปในนั้น ก็ไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ

หลังจากหลิ่วหมิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจสอบถามหลัวโหลวให้กระจ่าง

ดังนั้นพอเขาหลับตาทั้งคู่ลง ก็ใช้จิตกวาดดูในทะเลจิตรับรู้ และค่อยๆ ใส่พลังเวทเข้าไปในศิลาหุนเทียน

ไม่นาน ศิลาหุนเทียนก็เปล่งแสงออกมา ดวงตาทั้งสองของเขาดับมืดลง จากนั้นก็นำไข่หนอนเข้ามาในห้องว่างเปล่าลึกลับ

เมื่อเขาค่อยๆ ลืมตาทั้งคู่ขึ้นมา ก็ค้นพบว่าหลัวโหวได้รออยู่ที่นั่นแล้ว

“ผู้อาวุโสหลัวโหว ไข่นี้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับไอปีศาจแท้ ตอนนี้บอกข้าได้หรือยัง” หลิ่วหมิงเองก็ไม่พูดจาให้มากความ จึงพูดออกมาตามตรง

“ตอนนี้ข้าไม่อาจยืนยันได้ จำต้องตรวจสอบด้วยตนเองก่อน” หลัวโหวพูดอย่างราบเรียบหนึ่งประโยค จากนั้นก็โบกมือเบาๆ

หลิ่วหมิงเพียงแค่รู้สึกว่านิ้วมือทั้งห้าสั่นสะท้าน ไข่หนอนในมือพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และค่อยๆ หล่นลงบนมือของหลัวโหว

ไม่รู้ว่าหลัวโหวใช้เคล็ดวิชาอะไร หลังจากร่ายคาถาออกมาแล้ว ไข่จักจั่นเขียวในมือก็เปล่งแสงทรงกลดสีขาวออกมา และมีคลื่นแปลกประหลาดออกมาด้วย

ครู่ต่อมา ไอดำเข้มข้นก็พุ่งออกจากจุดสีดำบนไข่หนอน และหมุนวนประสานกันไปมารอบๆ ไข่หนอน

หลิ่วหมิงในขณะนี้ กลับรับรู้ได้ถึงกลิ่นไอเย็นยะเยือกที่โจมตีเข้ามา

เป็นเช่นนี้ได้ราวๆ เวลาครึ่งถ้วยชา ในที่สุดหลัวโหวก็เผยรอยยิ้มออกมา และพยักหน้ากล่าว

“ที่แท้ไข่หนอนใบนี้ไม่ใช่ไข่จักจั่นเขียว มันคือไข่หนอนพลังจิตในสมัยบรรพกาล สามารถจัดอยู่ในสามสิบอันดับแรกของไข่หนอนมหัศจรรย์ได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงถูกไอปีศาจแท้แปดเปื้อน ตอนนี้ได้กลายเป็นไข่หนอนปีศาจที่มีคุณค่าบางอย่าง ดังนั้นจึงมีจุดดำอยู่บนพื้นผิว แลดูเป็นไข่หนอนสีเขียวธรรมดา และเป็นเพราะแปดเปื้อนไอปีศาจ ถึงทำให้ไม่อาจฟักออกมาได้”

“ในเมื่ออยู่สามสิบอันดับแรกของหนอนมหัศจรรย์ในสมัยบรรพกาลได้ เจ้าหนอนพลังจิตนี้มีความสามารถอันใดกันแน่?” หลิ่วหมิงได้ยินหลัวโหวกล่าวเช่นนี้ ก็ถามด้วยความตกใจ

“ตัวอ่อนที่ฟักออกมามีพลังต่ำมาก แม้กระทั่งสามารถพูดได้ว่าไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย และยังมีพรสวรรค์แค่อย่างเดียว นั่นก็คือเลียนแบบพลังจิตของนายมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเมื่อถึงคราวจำเป็นก็จะส่งพลังจิตให้กับเจ้าของ จากนั้นก็สามารถฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณที่สูญเสียไปได้ด้วยความเร็วเท่ากับเจ้าของ พูดอีกแบบก็คือ หากมีคนได้หนอนพลังจิตตัวนี้ไป ก็สามารถเพิ่มพลังจิตของตนเองได้หนึ่งเท่าขึ้นไป และความเร็วในการฟื้นฟูก็สูงกว่าคนทั่วไปหนึ่งเท่าขึ้นไป เพราะเจ้าของกับหนอนสามารถฟื้นฟูพลังจิตที่สูญเสียไปพร้อมกันได้” หลัวโหวเงยหน้ามองหลิ่วหมิงทีหนึ่ง และอธิบายด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

หลิ่วหมิงฟังจบก็รู้สึกตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง

แม้คำพูดของหลัวโหวจะดูไม่หนักหนาอะไร แต่พลังของหนอนพลังนี้ ก็ออกจะเกินขอบเขตไปหน่อย

คนอื่นไม่ต้องพูดถึง หากเขามีหนอนตัวนี้ ไม่ต้องพูดถึงการลดระยะเวลาในการฝึกฝนตามปกติกับการแสดงเคล็ดวิชามหัศจรรย์บางอย่าง ลำพังแค่ใช้พลังของหนอนพลังจิตเข้าไปในแดนมายาที่ดวงตามายาปีศาจสร้างขึ้น ก็ได้รับผลโยชน์อย่างน่าตกใจแล้ว

เพราะด้วยระดับความเร็วในการฟื้นฟูของเขาในตอนนี้ โดยปกติต้องนั่งเข้าฌานหนึ่งวันหนึ่งคืน ถึงจะฟื้นฟูพลังจิตที่สูญเสียไปกลับมาได้ดังเดิม

และหลังออกจากห้องว่างเปล่าลึกลับมา เพื่อการฝึกฝนตามปกติและกลัวว่าจะเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น เขาจึงไม่กล้าเข้าไปในห้องว่างเปล่าลึกลับ และสูญเสียพลังจิตมหาศาลเพื่อกระตุ้นดวงตามายาปีศาจให้สร้างแดนมายาโดยง่าย

และหากตอนนี้สามารถฟักไข่หนอนพลังจิตออกมาได้ มันย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เขาเพียงแค่สูญเสียพลังเวทของตนเองเพียงเล็กน้อย เพื่อเข้าไปในศิลาหุนเทียน จากนั้นก็ให้หนอนพลังจิตใช้พลังจิตส่งเขาเข้าไปในแดนมายา ทีนี้ก็ไม่ต้องรอจนฟองอากาศลึกลับดูดพลังเวทแล้วถึงค่อยเข้าไปฝึกฝนในดวงตามายาปีศาจแล้ว

หลิ่วหมิงคิดอยู่เช่นนี้ และมองดูไข่หนอนในมือหลัวโหวด้วยความดีใจ จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด

“เมื่อครู่ผู้อาวุโสบอกว่าไข่หนอนใบนี้แปดเปื้อนไอปีศาจแท้ ดังนั้นจึงไม่อาจฟักออกมาได้ ผู้อาวุโสคงมีวิธีจัดการไอปีศาจแท้นี้ และฟักไข่หนอนใบนี้ออกมาได้”

“ไข่หนอนพลังจิตนี้ ได้ถูกไอปีศาจแท้แปดเปื้อนโดยสมบูรณ์แล้ว ต่อให้จะฝืนฟักออกมา มันก็จะระเบิดตัวจนเสียชีวิตทันที” หลัวโหวยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วกล่าวออกมา

คำพูดของหลัวโหวราวกับน้ำเย็นที่สาดเข้ามา จนเขารู้สึกใจสั่นสะท้านในพริบตา

“แต่ว่าหากอาศัยพลังของกรงขังล่ะก็ ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถดูดซับไอปีศาจส่วนหนึ่งออกจากร่างของหนอนตัวนี้ได้ และทำให้มันฟักออกมาอย่างปลอดภัย แต่เจ้าก็ต้องทำตามเงื่อนไขถึงจะได้” หลัวโหวหัวเราะ และเปลี่ยนหัวเรื่องในฉับพลัน

“ขอผู้อาวุโสโปรดให้ความกระจ่างด้วย!” หลิ่วหมิงรู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็ประสานมือคารวะ และเอ่ยปากออกมา

“หลังจากหนอนตัวนี้ฟักออกมาแล้ว เจ้าจะต้องเก็บมันไว้กับตัว และให้กรงขังสามารถดูดซับไอปีศาจแท้ที่เกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลา แต่ว่าที่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ ก็เพราะว่าในร่างของเจ้ามีพลังของจิตปีศาจแฝงอยู่ มิเช่นนั้นหากเป็นคนอื่นที่ทำเช่นนี้ สุดท้ายอาจถูกเศษไอปีศาจที่เหลือในร่างของหนอนแปดเปื้อนได้ สุดท้ายก็กลายเป็นปีศาจ และเป็นบ้าจนเสียชีวิต” หลัวโหวมองดูหลิ่วหมิงทีหนึ่ง และค่อยๆ กล่าวออกมา

หลิ่วหมิงฟังจบก็รู้สึกเย็นสะท้านอย่างอดไม่ได้ แต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ประสานมือคารวะและถามออกไปตรงๆ

“ผู้อาวุโสหลัวโหว ก่อนหน้านั้นท่านซ่อนตัวไม่ยอมมาพบกับผู้น้อย แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดครั้งนี้ถึงได้มีท่าทีเปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่จะเตือนให้ผู้น้อยซื้อไข่หนอนที่มีไอปีศาจแท้แฝงอยู่ ทั้งยังบอกวิธีการฟักไข่หนอนใบนี้ด้วย”

“ข้าเคยพูดไว้ นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรงขังแล้ว ข้าจะไม่ยื่นมือช่วยเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น! ข้าสามารถฟักหนอนตัวนี้ออกมาได้ แต่เจ้าจะต้องรับปากเงื่อนไขข้อหนึ่งก่อน” หลัวโหวมีสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย และค่อยๆ กล่าวด้วยแววตาเยือกเย็น

“ผู้อาวุโสพูดมาเถอะ!” หลิ่วหมิงได้เตรียมใจไว้ก่อนแล้ว จึงถามด้วยสีหน้าสงบ

“เพื่อสนองความต้องการของกรงขัง เมื่อบ่มเพาะหนอนพลังจิตจนโตเต็มวัยแล้ว จะต้องนำหนอนตัวนี้มาไว้ในห้องว่างเปล่าลึกลับ ให้กรงขังดูดพลังจิตของมันหนึ่งร้อยปีขึ้นไปถึงจะได้ เพราะพอหนอนตัวนี้โตเต็มวัยแล้ว มันจะเลียนแบบพลังจิตของเจ้าของสองเท่า ซึ่งเพียงพอที่จะสนองความต้องการของกรงขังและพลังส่วนหนึ่งที่มันต้องการได้ แน่นอนว่าฟองอากาศลึกลับก็อาจจะดูดซับไอปีศาจแท้ของหนอนพลังจิตอย่างต่อเนื่อง จะได้ซ่อมแซมผนังของผนึกพอดี” หลังโหวกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“เงื่อนไขของผู้อาวุโสม ผู้น้อยสามารถรับปากได้” แม้หลิ่วหมิงจะเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา แต่ในใจก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตอบรับออกไป

หลัวโหวพยักหน้า และเผยสีหน้าพอใจออกมาเช่นกัน

“แต่ว่าผู้อาวุโส ข้าน้อยยังมีความกังวลอย่างหนึ่ง ในเมื่อหนอนพลังจิตมีไอปีศาจแท้แฝงอยู่ และผู้น้อยก็พกมันไว้กับตัว มันจะถูกผู้มีพลังแข็งแกร่งมองออกหรือไม่?” หลิ่วหมิงเลิกคิ้วและถามออกไป

“สำหรับเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวลมาก เพียงแค่พกหนอนตัวนี้ติดตัวไว้ก็พอ พลังของกรงขังจะบดบังไอปีศาจแท้บนหนอนตัวนี้ไปจนหมดสิ้น” หลัวโหวกล่าวด้วยสีหน้าสงบ

ต่อมาหลัวโหวก็ร่ายคาถาแปลกๆ และชี้ไปยังไข่หนอน และไอปีศาจสีดำบนตัวไข่หนอนก็รวมตัวเข้าด้วยกัน

ครู่ต่อมา พอหลัวโหวพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง ไอสีดำเหล่านี้ก็มุดเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

“ข้าได้ยืมพลังของกรงขังเก็บไอปีศาจแท้บนไข่หนอนใบนี้แล้ว แต่นี่เป็นแค่แผนชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานหนอนตัวนี้ก็จะให้กำเนิดไอปีศาจแท้ออกมาอีกครั้ง เจ้าจักต้องฟักมันออกมาในระหว่างเวลานี้ นอกจากนี้ ไข่หนอนใบนี้หลับใหลมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงตอนนี้ พลังชีวิตของมันเหลือขีดต่ำสุดแล้ว หากจะฟักมันออกมาได้อย่างราบรื่น จะต้องเสริมพลังต้นกำเนิดให้มันมากๆ เจ้าต้องไปหาโลหิตบริสุทธิ์ของตะพาบน้ำจิตวิญญาณที่มีอายุหมื่นปีมาแช่ถึงจะได้”

หลังจากหลัวโหวอธิบายไปรอบหนึ่งแล้ว ก็โยนไข่ไปให้หลิ่วหมิงเบาๆ คิดไม่ถึงว่าจะจัดการไอปีศาจแท้ได้ง่ายถึงเพียงนี้

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด