ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 665 ขายโอสถ

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 665 ขายโอสถ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ในเมื่อเถ้าแก่พูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่อาจจะต่อราคาอีก ข้าจะรับของเหลวห้าแสงทั้งห้าขวดนี้ไว้ แต่หากว่าภายหลังมีของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงอีกล่ะก็ หวังว่าจะเก็บไว้ให้ข้าสักระยะหนึ่ง” หลิ่วหมิงได้ยินก็รีบฟื้นฟูสีหน้ากลับมาเป็นปกติ และกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

กล่าวจบก็หยิบถุงหินจิตวิญญาณออกจากแหวนย่อส่วน และโยนให้ชายฉกรรจ์

ชายฉกรรจ์รับหินจิตวิญญาณมาตรวจสอบดูอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากค้นพบว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว ก็รีบเก็บความดีใจไว้และกล่าวออกมา

“ไม่มีปัญหา หากภายหน้ามีของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงอีก ร้านเราจะเก็บไว้ให้สหายอย่างแน่นอน ใช่สิ! ยังไม่ทราบว่าสหายมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรเลย?”

“ข้าแซ่เย่” หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อเก็บขวดเล็กสีเงินทั้งห้าขวดเข้าไปในแหวนย่อส่วน

“ที่แท้ก็คือสหายเย่ นอกจากของเหลวห้าแสงแล้ว หากสหายยังมีอย่างอื่นที่ต้องการ อีก ร้านเราก็มีส่วนลดให้พิเศษเช่นกัน” ชายฉกรรจ์ลดเสียงลงเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมา

“เถ้าแก่เกรงใจเกินไปแล้ว ตอนนี้ข้ายังไม่มีสิ่งของอย่างอื่นที่อยากจะได้ หากมีจะต้องมาซื้อที่ร้านของท่านอย่างแน่นอน ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ ต้องขอตัวก่อนแล้ว” หลิ่วหมิงกล่าวคำอำลาออกมา

เวลาต่อมา หลิ่วหมิงก็เดินลงหอไปพร้อมกับเถ้าแก่วัยฉกรรจ์

พอเขาเดินออกจากร้าน ก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก่อนหายไปในตรอกเล็กๆ

เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้สถานะและที่พักของตัวเอง ดังนั้นจึงเดินวนในตลาดอีกหนึ่งชั่วยามแล้วค่อยกลับที่พัก

พอกลับถึงบ้านหลังเล็กๆ ในโรงเตี๊ยมแล้ว ก็เดินเข้าห้องลับโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง และนำของเหลวห้าแสงกับวัตถุดิบเสริมอื่นๆ วางไว้บนพื้น

พอสะบัดแขนเสื้อ เตาหลอมเล็กสีเขียวสลัวๆ ก็พุ่งออกมา หลังจากหมุนตัวติ้วๆ กลางอากาศแล้ว ก็กลายเป็นเตาหลอมที่สูงสองสามจั้ง ลวดลายจิตวิญญาณหลากสีเปล่งประกายบนพื้นผิวอยู่ไม่หยุด มันคือเตาหลอมลิ่วเสินนั่นเอง

ภายในระยะเวลาสามเดือนหลังจากนี้ หลิ่วหมิงออกจากห้องลับไปครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากไปชำระค่าเช่าอีกครึ่งปีแล้ว เวลาที่เหลือล้วนตั้งใจปรุงโอสถอยู่ในห้องลับไม่ออกไปไหนเลย

การปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณยากกว่าการปรุงโอสถผลึกเย็นมาก ดูจากสถานการณ์ของหลิ่วหมิงในก่อนหน้า ต่อให้จะมีวัตถุดิบที่เพียงพอ ก็รับประกันอัตราความสำเร็จได้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น และที่ปรุงออกมาก็เป็นโอสถระดับกลางทั้งหมด

สามเดือนต่อมา หลิ่วหมิงก็นำของเหลวห้าแสงทั้งหมดมาปรุงเป็นโอสถแฝงจิตวิญญาณยี่สิบกว่าเม็ด แต่ล้วนเป็นโอสถระดับกลางทั้งหมด ไม่มีโอสถระดับสูงเลยแม้แต่เม็ดเดียว

รวมกับโอสถที่ปรุงในถ้ำที่พักบนยอดเขาลั่วโยวแล้ว ตอนนี้เขามีโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับกลางทั้งหมดสี่สิบกว่าเม็ดแล้ว

และในแหวนย่อส่วนของหลิ่วหมิงยังคงมีหินจิตวิญญาณอยู่สิบล้านกว่า ดังนั้นก็ไม่ต้องรีบขายโอสถแฝงจิตวิญญาณในมือออกไป หลังจากเขาบรรลุระดับแล้ว แม้ว่าพลังเวทจะถูกทำให้บริสุทธิ์ไปหนึ่งรอบ แต่ก็ลดลงไปมาก

ดังนั้นหลังจากคิดใคร่ครวญไปหนึ่งรอบแล้ว จึงตัดสินใจนำโอสถแฝงจิตวิญญาณเหล่านี้ออกมาทานเอง เพื่อทำระดับผลึกให้มั่นคงก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ดังนั้นเขาจึงเก็บวัตถุดิบที่เหลือกับเตาหลอมลิ่วเสินเข้าไป จากนั้นก็โยนโอสถแฝงจิตวิญญาณเข้าไปในปาก

โอสถนี้สมกับเป็นสุดยอดโอสถในการเพิ่มพลังเวทของระดับผลึก พอมันเข้าไปในปาก ก็กลายเป็นพลังจิตวิญญาณบริสุทธิ์แผ่กระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว

เขาหลับตาทั้งคู่ลง หลังจากพลังจิตวิญญาณเหล่านี้ค่อยๆ ไหลผ่านแขนขาไปหลายรอบแล้ว ก็เริ่มรวมตัวกันภายในจุดตันเถียน ผลึกหนึ่งร้อยห้าสิบสามเม็ดที่ลอยอยู่ในทะเลจิตวิญญาณ เริ่มสั่นสะท้านเบาๆ และดูดซับพลังจิตวิญญาณบริสุทธิ์เหล่านี้อย่างรวดเร็ว

สองชั่วยามต่อมา หลิ่วหมิงรู้สึกสดชื่นขึ้นมา พลังเวทในร่างเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ผลลัพธ์ของโอสถแฝงจิตวิญญาณของระดับกลางนี้ เทียบเท่ากับการนั่งฝึกฝนเป็นเวลาสองถึงสามเดือนเลยทีเดียว

เวลาในหลายวันต่อมา หลิ่วหมิงทานโอสถแฝงจิตวิญญาณวันละหนึ่งเม็ด และนั่งขัดสมาธิกลั่นพลังโอสถสองชั่วยาม จากนั้นก็อาศัยพลังจิตของหนอนพลังจิตเข้าไปในแดนมายา เพิ่มประสบการณ์จริงของการใช้วิชาสายฟ้าสวรรค์และกระบี่บินว่างเปล่า

ครึ่งเดือนต่อมา หลิ่วหมิงทานโอสถเหล่านี้ไปจำนวนมาก และพลังเวทของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการคาดการณ์ของเขา การยกระดับพลังเวทของโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับกลางสี่สิบกว่าเม็ดนี้ พอที่จะให้เขาไม่ต้องนั่งฝึกฝนเป็นเวลานานถึงสิบปีแล้ว

หลังออกจากการเก็บตัว เขาปลอมตัวมาร้านโอสถแห่งนั้นอีกครั้ง และใช้ห้าล้านหินจิตวิญญาณซื้อของเหลวห้าแสงคุณภาพสูงมาสิบห้าขวดกับวัตถุดิบเสริมอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปเก็บตัวฝึกฝนในโรงเตี๊ยม

ผ่านไปครึ่งปีกว่า เขาหลอมโอสถรอบที่สองออกมาได้อย่างราบรื่น ซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดสิบกว่าเม็ด ทั้งยังปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณขั้นธรรมดาออกมาได้สองเม็ด แต่มีลายโอสถแค่เส้นเดียวเท่านั้น

ขณะนี้หินจิตวิญญาณในมือเขาก็เหลือแค่เจ็ดแปดล้านแล้ว หลังจากทำการสอบถามไปหนึ่งรอบ ถึงรู้ว่าขณะนี้ยังอยู่ห่างจากเวลาที่งานประมูลใหญ่จะเริ่มอีกสองปีกว่า

ดังนั้นหลิ่วหมิงจึงตัดสินใจไปจากตลาด เพื่อไปขายโอสถให้กับตลาดอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนี้

เพราะถ้าซื้อของเหลวห้าแสงจำนวนมากในตลาดเดียวกัน และขายโอสถแฝงจิตวิญญาณออกไปด้วยล่ะก็ ทำให้มีคนจับความเชื่อมโยงได้โดยง่าย และจะนำมาซึ่งปัญหาที่ไม่ต้องการ

เจ็ดวันต่อมา ภายในตลาดขนาดกลางที่อยู่ห่างจากตลาดเหมียวจงไปหลายพันลี้ หลิ่วหมิงที่ปลอมตัวเป็นบัญฑิตสุภาพผู้หนึ่ง กำลังเดินอยู่บนถนนใหญ่เส้นหนึ่ง

ชั่วเวลาหนึ่งถ้วยชาผ่านไป เขาเลือกเข้าไปในร้านที่ดูไม่เตะตาแต่กลับมีขนาดใหญ่เล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านโอสถที่ผู้ฝึกฝนจากภายนอกมาเปิด

ด้านหลังตู้สินค้าเป็นผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทาที่ดูมีอายุราวๆ ห้าสิบถึงหกสิบปี ใบหน้าแห้งเหี่ยวเล็กน้อย

“คุณชายผู้นี้ต้องการซื้อวัตถุดิบโอสถหรือโอสถ ร้านเราราคายุติธรรม เชื่อถือได้แน่นอน!” ขณะนี้ไม่มีแขกคนอื่นๆ อยู่ภายในร้าน ด้วยเหตุนี้พอผู้อาวุโสเห็นหลิ่วหมิงเดินเข้ามา ก็รีบเดินมารับด้วยรอยยิ้ม

“เถ้าแก่ นอกจากร้านของท่านจะขายวัตถุดิบโอสถกับโอสถแล้ว ยังรับซื้อโอสถด้วยหรือไม่?” หลิ่วหมิงหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวออกมา

“โอสถที่พบเจอได้บ่อยในตลาด ปกติร้านเราจะไม่รับ แต่หากเป็นโอสถที่พบเจอไม่มากนัก ร้านเราก็จะรับซื้ออยู่บ้าง ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการขายโอสถชนิดใด?” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทาดวงตาเป็นประกาย จากนั้นก็พูดออกมาเบาๆ

หลิ่วหมิงนำตลับหยกแวววาวออกจากแหวนย่อส่วนอย่างไม่รีบร้อน และยื่นออกไปให้

ผู้อาวุโสชุดเทารับตลับหยกมาเคาะเบาๆ พอฝาตลับค่อยๆ เปิดออกมา จะเห็นว่ามีโอสถสีขาววางอยู่ในนั้นห้าเม็ด บนผิวโอสถยังมีไอจิตวิญญาณจางๆ ลอยวนอยู่

“โอสถแฝงจิตวิญญาณ!” ผู้อาวุโสชุดเทาหลุดปากออกมาด้วยสีหน้าตกใจ

หลิ่วหมิงกลับจ้องมองผู้อาวุโสชุดเทาด้วยสีหน้าสงบ และไม่พูดอะไรออกมา ปฏิกิริยาของผู้อาวุโสเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว

โอสถแฝงจิตวิญญาณเป็นโอสถที่ระดับผลึกใช้เพิ่มพลังเวท เนื่องจากวิธีการปรุงที่ไม่ง่าย จึงไม่ค่อยมีขายตามท้องตลาด ซึ่งมีแต่มูลค่าแต่ไม่มีสิ่งของ

เพราะผู้ฝึกฝนจำนวนมากสามารถทานโอสถชนิดนี้เพื่อยกระดับพลังเวทอย่างรวดเร็วได้ และผู้ฝึกฝนที่สามารถทานโอสถนี้ได้เหล่านั้น มักจะไม่ขาดแคลนหินจิตวิญญาณอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่นำออกมาขาย

และปรมาจารย์ปรุงโอสถเหล่านั้น จะปรุงโอสถเหล่านี้เป็นครั้งคราว ส่วนมากจะมอบให้กับกลุ่มอิทธิพลโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะไม่ปล่อยออกไปในตลาด

หลังจากผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทาเก็บสีหน้าตกใจเข้าไปแล้ว ก็ระงับความตื่นเต้นไว้ และประสานมือกล่าวกับหลิ่วหมิง

“สหายผู้นี้ ลองย้ายไปพูดคุยรายละเอียดเรื่องนี้ในห้องลับดีหรือไม่?”

“ก็ดีเหมือนกัน” หลิ่วหมิงทำเป็นมองดูรอบด้านอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย

เวลาต่อมา ผู้อาวุโสชุดเทาก็เรียกพนักงานมาดูร้าน และตนเองก็นำหลิ่วหมิงเดินผ่านบันไดมืดๆ ด้านหลังร้านจนมาถึงชั้นใต้ดินของร้านแห่งนี้ ซึ่งเป็นห้องลับที่ค่อนข้างกว้างขวาง

ห้องลับมีพื้นที่หลายสิบจั้ง มุมทั้งสี่ต่างก็มีค่ายกลขนาดจั้งกว่าๆ ตั้งอยู่ พอหลิ่วหมิงเหลือบตามองออกไปก็ไม่รู้ว่ามันคือค่ายกลชนิดใด

และใจกลางห้องลับใต้ดินก็มีโต๊ะหินอ่อนสีดำตั้งอยู่ตัวหนึ่ง ด้านหนึ่งของห้องลับยังมีประตูอีกสองสามบาน ไม่รู้ว่าด้านหลังจะยังมีห้องลับอื่นๆ อยู่อีกหรือเปล่า

มีห้องลับขนาดใหญ่อยู่ใต้ร้านเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกใจเย็นสะท้านขึ้นมา

“คุณชายผู้นี้ เชิญนั่ง” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทาพูดเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม

แม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกว่าร้านนี้มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา แต่ขณะนี้เขาสำเร็จกระบี่บินพลังจิตวิญญาณแล้ว บวกกับฝึกฝนเครื่องมือสังหารอย่างวิชาสายฟ้าสวรรค์สำเร็จแล้ว ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับแก่นแท้ ก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาจึงนั่งลงไปในทันทีและกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบ

“เถ้าแก่ให้ข้าลงมาที่นี่ จะพูดคุยเรื่องอันใดหรือ โอสถของข้าเข้าตาท่านหรือไม่?”

“คุณชาย โอสถแฝงจิตวิญญาณเป็นโอสถที่ผู้ฝึกฝนระดับผลึกอยากได้แทบตายแต่ก็หาไม่ได้ ทางร้านเราย่อมยินดีรับซื้อไว้ โอสถห้าเม็ดในตลับหยกนี้ ร้านเรายอมซื้อเม็ดละสองแสนหินจิตวิญญาณ ห้าเม็ดก็หนึ่งล้านหินจิตวิญญาณ ไม่ทราบว่าสหายพอใจหรือไม่?” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทาเอานิ้วฟั่นหนวด และแสดงสีหน้ามุ่งมั่นจะเอามาให้ได้

หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย

อย่างที่รู้ว่าของเหลวห้าแสงหนึ่งขวดที่พอจะนับได้ว่ามีคุณภาพสูง ต่อให้จะมีอัตราการปรุงโอสถสำเร็จแค่ห้าส่วน แต่ก็ปรุงโอสถแฝงจิตวิญญาณออกมาได้สี่สิบถึงหกสิบเม็ด มีมูลค่าถึงหนึ่งล้านสองแสนหินจิตวิญญาณ และวัตถุดิบหลักกับวัตถุดิบเสริมที่ใช้ รวมกันแล้วก็แค่ห้าแสนกว่าหินจิตวิญญาณเท่านั้น

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขายังคงมีสีหน้าลังเลอยู่

“ราคาที่ร้านเราเสนอให้มันสูงมากแล้วจริงๆ แต่หากสหายยังมีโอสถนี้ และยินดีขายให้ร้านเราเป็นระยะยาวล่ะก็ ข้าจะให้ราคาสูงกว่านี้หนึ่งส่วน โอสถแฝงจิตวิญญาณห้าเม็ดหนึ่งล้านหนึ่งแสนหินจิตวิญญาณ” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีเทามองดูหลิ่วหมิงทีหนึ่ง หลังจากกลอกลูกตาไปมาแล้วก็กล่าวออกมา

หลิ่วหมิงได้ยินก็ยิ้มเล็กน้อย และหยิบตลับหยกสีเขียวออกจากแหวนย่อส่วนอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นก็ถามอย่างไม่สะทกสะท้าน

“เถ้าแก่ ไม่ทราบว่าโอสถแฝงจิตวิญญาณระดับสูงนี้มูลค่าเท่าใด?” หลิ่วหมิงเอามือลูบจมูก และกล่าวออกมา

“โอสถแฝงจิตวิญญาณระดับสูง!”

พอผู้อาวุโสชุดเทาได้ยินก็เกือบจะกระโดดขึ้นมา จากนั้นก็ก้าวเท้าสองเก้าไปรับตลับหยกอย่างรวดเร็ว พอมือข้างหนึ่งแตะลงบนนั้นเบาๆ ฝาตลับก็เปิดออกมา กลิ่นโอสถเข้มข้นโชยออกจากตลับ

ผู้อาวุโสใช้สองนิ้วคีบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และทำการสังเกตดูอย่างละเอียด

………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด