ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 931 ศึกใหญ่กับมนุษย์ปีศาจ (กลาง)

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 931 ศึกใหญ่กับมนุษย์ปีศาจ (กลาง) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มนุษย์ปีศาจคำรามเบาๆ คำหนึ่งแล้วเหวี่ยงแขนที่มีแส้มารพันอยู่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เงาแส้ยาวสีม่วงหนาหลายจั้งเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งรวดเร็วออกมา

อากาศตรงที่มันสัมผัสเกิดคลื่นพลังจิตวิญญาณรุนแรงระลอกหนึ่ง เพลิงปราณสีม่วงอ่อนสายแล้วสายเล่าให้ความรู้สึกราวกับว่าจะทำให้ทุกสิ่งมลายสิ้น

“เปรี๊ยะ”

เงาแส้สีม่วงฟาดผ่านจนเกิดรอยแยกมิติสีดำสนิทเส้นหนึ่ง ทว่าเงาร่างของจินเทียนชื่อโฉบหายไปจากที่เดิมแล้ว

ร่างกายของจินเทียนชื่อปรากฏตัวบนพื้นไม่ไกลนัก เขาไม่กล้ารั้งรอแต่อย่างใด แสงดาวรอบร่างสว่างวูบหนึ่งก็กลายเป็นแสงสีขาวสายหนึ่งมุดลงไปในดินโคลนเบื้องล่างทันที

มนุษย์ปีศาจเห็นเช่นนี้พลันแค่นเสียงหยัน มือข้างหนึ่งโจมตีหนึ่งฝ่ามือลงบนพื้นดินในทันใด ไอปีศาจสีดำสลับม่วงสายหนึ่งก่อตัวกลางอากาศ เงาฝ่ามือยักษ์ขนาดเท่าตึกข้างหนึ่งร่วงลงมา

เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง บนพื้นดินบังเกิดหลุมใหญ่หนึ่งร้อยกว่าจั้ง

เงาสีขาวร่างหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้าออกมาจากหลุม มันกะพริบไม่กี่ครั้งก็โผล่มาด้านหลังมนุษย์ปีศาจอย่างน่าอัศจรรย์ แสงดาวสีขาวสายหนึ่งก่อตัวกลายเป็นฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งตบเข้าใส่มนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจเผยสีหน้าดูแคลนออกมานิดๆ เขาหมุนตัวดั่งสายฟ้าแลบแล้วตบหนึ่งฝ่ามือสวน

เมฆรูปเห็ดสีขาวแทรกด้วยสีดำสลับม่วงลอยขึ้นมาจากพื้น!

จินเทียนชื่อกับมนุษย์ปีศาจแทบจะถอยพรวดออกไปพร้อมกัน

เพียงแต่มือข้างหนึ่งของจินเทียนชื่อไม่รู้คว้าปลายแส้ยาวสีม่วงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

เสียงอสนีฟาดดังเปรี้ยงปร้างดังลอยมา!

เส้นสายฟ้าสีทองเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งรวดเร็วย้อนตามแส้ยาวกลับไปหามนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจก็ปฏิกิริยาว่องไวอย่างที่สุด เขาขยับแขนครั้งเดียว แส้ยาวสีม่วงก็บิดสะบัดจินเทียนชื่อออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นเพลิงปราณสีม่วงบนแส้ก็ลุกโชนเผาเส้นสายฟ้าจนเกลี้ยง

จินเทียนชื่อพลิกตัวกลางอากาศหลายตลบติดกันกว่าจะตั้งหลักได้ ขณะที่สูดลมหายใจเข้าลึกเลือกว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อนั่นเอง ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เอี้ยวศีรษะมองไปยังหุบเขาแคบเบื้องหลังทันที

แล้วเขาก็เห็นลำแสงสีดำสายหนึ่งที่ขอบฟ้ากำลังมุ่งมาด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง

“จิ๊ๆ! ดูท่าจะยังมีสหายเผ่ามนุษย์คนอื่นมาอีก” มนุษย์ปีศาจผู้นั้นคล้ายจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติตั้งแต่ไกลเช่นกัน มือจึงเคลื่อนไหวช้าลงแล้วหัวเราะเสียงประหลาดฟังดูชั่วร้าย

ผู้ที่มาก็คือหลิ่วหมิงที่กำลังเหาะมาอย่างรวดเร็ว!

เวลานี้ตัวเขาที่เหยียบอยู่บนเมฆสีดำคิ้วขมวดแน่น สีหน้าเคร่งเครียด เห็นชัดว่าเขามองเห็นหลุมยักษ์มหึมาที่สะดุดตาและน่าตกตะลึงหลุมนั้นตั้งแต่ไกล

เหนือหลุมยักษ์มนุษย์ปีศาจมหึมาสูงเจ็ดแปดจั้งคนนั้นพลังปราณแข็งแกร่งกว่าครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่เล็กน้อย

เมื่อเทียบกันสภาพของจินเทียนชื่อที่อยู่อีกด้านหนึ่งตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด แม้บนร่างเขาไม่เห็นบาดแผลอะไร แต่หากสังเกตให้ละเอียด คลื่นปราณจิตวิญญาณรอบร่างเขาขึ้นลงไม่แน่นอน เห็นชัดว่าร่างกายบาดเจ็บแล้วและอาจถึงขั้นเสียพลังปราณไปไม่น้อย

“เจ้าเองหรือ? ดูท่านางปีศาจตนนั้นคงจะใจดีกับเจ้าไม่เลวถึงปล่อยเจ้ารอดออกจากที่นั่นมาได้?”

เมื่อหลิ่วหมิงอยู่ห่างจากทั้งสองคนไม่ถึงสองสามร้อยจั้ง เสียงประหลาดของมนุษย์ปีศาจก็พลันดังขึ้นในหู

หลิ่วหมิงไม่ตอบสักนิด ปราณดำรอบร่างพลุ่งพล่านออกมา เพียงชั่วครู่ให้หลังทั้งร่างก็ส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ แขนสองข้างขยายขนาดกลางอากาศแล้วต่อยออกไปด้านหน้าอย่างรุนแรง

เผชิญหน้ากับมนุษย์ปีศาจพลังระดับดาราพยากรณ์คนนี้ หลิ่วหมิงไม่กล้าออมมือแม้แต่น้อย ลงมือก็ใช้พลังเวทเต็มสิบส่วนในทันที

เสียงมังกรคำรามกับพยัคฆ์คำรามสะเทือนแก้วหูแทบดับดังขึ้น!

มังกรสีดำยาวยี่สิบกว่าจั้งห้าตัวกับพยัคฆ์หมอกที่มีปราณดำวนเวียนอยู่ห้าตัวพุ่งออกมาจากบนแผ่นหลังของเขาแล้วโถมตรงเข้าไปหามนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจแรกสุดตกตะลึง แต่จากนั้นก็สะบัดมือครั้งหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจสักนิด แส้มารสีม่วงในมือขยับวูบเดียวบนผิวแส้ก็มีเพลิงมารสีม่วงลุกโชนขึ้นก่อตัวเป็นเงาอสรพิษมารสีม่วงตัวหนึ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันเลือนหายไปไม่กี่ครั้งก็ฟาดลงบนร่างพยัคฆ์หมอกสีดำกับมังกรสีดำ

เสียง “ปังๆ” ดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง

ทันทีที่มังกรหมอกสีดำกับพยัคฆ์หมอกสีดำสัมผัสถูกอสรพิษมารสีม่วง มันก็ถูกหวดกระจายสลายกลายเป็นแสงสีดำทั่วฟ้า

“คุกมืด!”

หลิ่วหมิงจี้ดัชนีข้างหนึ่งใส่อากาศ แสงสีดำเต็มฟ้าฉับพลันรวมตัวเข้ามาตรงกลางกลืนร่างมนุษย์ปีศาจทั้งหมดเข้าไปด้านในแล้วกลายเป็นลูกบอลแสงสีดำขนาดหลายสิบจั้งลูกหนึ่ง

ทว่าลูกบอลแสงลูกนี้เพิ่งก่อตัว ด้านในก็มีเสียงดังสนั่น พร้อมกันนั้นแสงสีดำบนผิวก็ปะทุปั่นป่วนคล้ายกับว่าอีกอึดใจจะพังทลาย!

ในเวลานี้เองด้านนอกลูกบอลแสงสีดำฉับพลันมีแสงดาวดวงแล้วดวงเล่าบินเข้ามา จินเทียนชื่อลงมืออย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

แม้ว่าเขาจะหน้าซีดอยู่บ้าง แต่สองมือยังคงทำท่าเคล็ดวิชาเป็นลำดับ แสงดาวดวงแล้วดวงเล่าบินพุ่งออกมาจากในแขนเสื้อสีทองที่ขาดรุ่งริ่งยิ่งนักสองข้าง หลังจากมาถึงนอกคุกมืดพวกมันก็หมุนรอบหนึ่งแล้วก่อตัวกลายเป็นม่านแสงสีขาวที่เจิดจ้าสะดุดตาชั้นหนึ่งล้อมลูกบอลแสงสีดำทั้งหมดไว้ด้านใน ทำให้การพังทลายของมันเชื่องช้าลง

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง เงาเลือนรางสายหนึ่งโฉบผ่านไป เงาคนร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นนอกม่านแสงสีขาว

หลิ่วหมิงที่บนหลังมีปีกเนื้อสีเงินสองข้างนั่นเอง!

เขาลูบมือข้างหนึ่งแผ่วเบาบนหน้าอกจากนั้นทำท่ามือท่าหนึ่งอย่างเร็วไวขณะที่ปากเอ่ยท่องมนตร์ บนแก่นเสมือนเหนือทะเลจิตวิญญาณ สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าที่ถูกกดไว้สายแล้วสายเล่ากระตุกเต้นอยู่ เขาคิดจะปล่อยสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าออกมาอีกเส้น

นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาเสี่ยงอันตรายเก็บสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าดวงหนึ่งมาจากในซากโบราณสถาน ในที่สุดเขาก็ใช้สายฟ้าเทพที่เกินมาโจมตีศัตรูได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องจิตมารจะกลืนกินเกินไปนัก

ในเวลานี้เองแรงกดดันจิตวิญญาณน่าตะลึงสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นฟ้าออกมาจากในคุกมืด แสงประหลาดสีม่วงสายแล้วสายเล่าฉายออกมาจากแสงสีดำอย่างบ้าคลั่ง หลังจากเสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง คุกมืดทั้งหมดก็ระเบิดออก แสงสีดำกับแสงสีม่วงกะพริบวูบวาบไม่หยุดอยู่บนม่านแสงสีขาว อากาศทั้งบริเวณนั้นสั่นไหวบิดเบี้ยวท่าทางประหนึ่งจะแยกออกเป็นชิ้นๆ

จินเทียนชื่อเห็นเช่นนี้พลันสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่พูดพร่ำอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งออกมา  จากนั้นสองมือก็จี้ดัชนีใส่โลหิตบริสุทธิ์อย่างเร็วไว

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้น โลหิตบริสุทธิ์กลายเป็นแสงสีเลือดสายหนึ่งจมเข้าไปในม่านแสงสีขาว

ม่านแสงสีขาวสั่นไหวอย่างรุนแรงอยู่หลายครั้งก่อนจะมั่นคงขึ้นเล็กน้อย ทว่าเพลิงปราณสีม่วงก็ยังคงพุ่งโจมตีม่านแสงไม่หยุด

แต่เพราะสองลมหายใจนี้ที่จินเทียนชื่อซื้อเวลาให้ สายฟ้าเทพห้าสีที่เรียวเล็กดุจเส้นผมในแก่นเสมือนของหลิ่วหมิงท้ายที่สุดจึงส่องสว่างพุ่งออกมาจากนิ้วข้างหนึ่งของเขา

เสียง “ฟิ้ว” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

สายฟ้าห้าสีที่ดูเรียวเล็กดุจเส้นผมนี้ก็พุ่งออกมา ก่อนจะขยายจนหนาเท่าชามข้าวพุ่งปราดเดียวทะลุผ่านม่านแสงเข้าไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง

“สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า! คนที่ลงมือในซากโบราณสถานคือเจ้าจริงๆ!” เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของมนุษย์ปีศาจดังเลือนรางออกมาจากด้านในคุกมืด

เขาสะบัดแส้สะท้านฟ้าในมือด้วยความเร็วถึงขีดสุด แส้ยาวสีม่วงขดม้วนล้อมตัวเขาจากบนจรดล่างไว้อย่างแน่นหนาประหนึ่งอสรพิษตัวยาว

เสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง!

คลื่นปราณสีขาว สีดำและสีม่วงสายแล้วสายเล่าถาโถมรุนแรง ท้องนภาทั้งผืนสั่นสะเทือน ยอดเขาสูงเตี้ยไม่เท่ากันไกลออกไปพริบตาสลายกลายเป็นขี้เถ้าท่ามกลางคลื่นปราณที่ส่งเสียงดัง

หลิ่วหมิงรีบกระตุ้นเคล็ดวิชาเกราะอสูร แสงสีเงินปกคลุมตำแหน่งต่างๆ บนร่างของเขาไว้ในพริบตา พร้อมกันนั้นทั้งร่างก็ถอยพรวดออกไป

ส่วนจินเทียนชื่อร่างกายสั่นสะท้านเฮือกหนึ่งทั้งร่างก็ถูกปลายคลื่นพัดปลิวถอยไป ร่างกายลอยคว้างอยู่กลางอากาศขณะที่กระอักเลือดออกมา

แสงสีเงินส่องสว่างวูบหนึ่ง

หลิ่วหมิงหายตัวมาปรากฏกายข้างจินเทียนชื่อแล้วดึงเขาไว้ จากนั้นแปลงเป็นแสงสีเงินพุ่งเร็วรี่ออกไป เขาหนีพรวดเดียวออกมาห่างร้อยกว่าจั้งแล้วถึงปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง

หลังจากคลื่นสั่นสะเทือนหลากสีจางหายไป ใจกลางคุกมืดก็หลงเหลือเพียงไอหมอกสีดำสลับม่วงก้อนหนึ่งที่กะพริบวูบวาบไม่หยุด ด้านในซ่อนเงาร่างของมนุษย์ปีศาจที่ถูกล้อมด้วยประกายแสงสีม่วงวงแล้ววงเล่าอยู่ เขาแผ่ปราณโหดเหี้ยมแข็งแกร่งจนทำให้คนยากจะเชื่อออกมา

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ในใจก็เคร่งเครียดทันที

ครั้งนี้เขาเสี่ยงอันตรายปล่อยสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าออกไปสายหนึ่ง ทำให้จิตมารที่ถูกตราประทับสายฟ้าสะกดไว้ขยับแล้ว แต่ยังถูกมารตัวนี้ต้านไว้ได้อีก

จินเทียนชื่อล้วงโอสถเม็ดหนึ่งออกมากลืนลงไปอย่างเร็วไวด้วยสีหน้าเย็นชา

“ในเมื่อเจ้าหนูเผ่ามนุษย์อย่างเจ้าใช้สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าได้จริงๆ ถ้าเช่นนั้นย่อมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”

เสียงคำรามแผดลั่นของมนุษย์ปีศาจดังออกมาจากด้านในกลางกลุ่มหมอกสีดำสลับม่วง เพลิงปราณสีม่วงบนร่างเขาลุกโชน เสกแส้มารที่ทอแสงจิตวิญญาณแวววาวเส้นหนึ่งออกมาอีกครั้ง

ครู่ต่อมาไอหมอกสีดำสลับม่วงพลันระเบิดกลายเป็นแสงแสบตานับไม่ถ้วน เงาสีม่วงเส้นหนึ่งส่องสว่างพุ่งเร็วรี่ออกมา มันยืดยาวมาโผล่ตรงหน้าทั้งสองคนอย่างน่าประหลาด และเมื่อเห็นแขนของอีกฝ่ายยกขึ้นมาด้านหน้ารางๆ ลวดลายจิตวิญญาณบนแส้ยาวพลันส่องสว่าง แสงแส้สีม่วงมากมายพุ่งเร็วรี่ออกมาในทันที

หลิ่วหมิงหมุนตัวจากนั้นปีกสีเงินมหึมาทั้งคู่ก็โบกกระพือในทันใด พร้อมกันนั้นเท้าก็กระทืบพื้นพุ่งพรวดไปด้านหลัง

ทั่วทั้งร่างของจินเทียนชื่อก็มีแสงดาราสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา หลบออกไปอีกด้านหนึ่งเช่นกัน

มนุษย์ปีศาจแทบจะไม่ต้องคิด ร่างกายขยับวูบหนึ่งเงาแส้มากมายถี่ยิบก็พุ่งไล่ตามหลิ่วหมิงไปอย่างรีบร้อน เมินจินเทียนชื่อเหมือนมองไม่เห็น มืออีกข้างก็ยกขึ้นจี้ดัชนีมาทางหลิ่วหมิงด้วย

ปราณสีดำปนสีเขียวหม่นสายหนึ่งก่อตัวขึ้นที่ปลายนิ้ว แสงสีดำหนาเท่านิ้วหัวแม่มือสายหนึ่งพุ่งวูบหายไป พริบตาเดียวก็มาถึงตรงหน้าหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงตกตะลึง ทว่าเขายังฝืนกระตุ้นเคล็ดวิชาเกราะอสูรรวมถึงเกล็ดมังกรสีชาดในร่างป้องกันส่วนหน้าของร่างกายได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ร่างจะขยับหายไปในทันใด

เสียง “ปัง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

หลิ่วหมิงรู้สึกว่าหัวไหล่ร้อนวูบ ความเจ็บปวดรุนแรงส่งผ่านมา

บนหัวไหล่ข้างซ้ายของเขาเกิดรูเลือดหนาเท่านิ้วมือรูหนึ่ง ไอปีศาจสีเขียวหม่นสายแล้วสายเล่าวนเวียนอยู่บนนั้นไม่หยุด ในเวลาเดียวกันนี้เหนือศีรษะเขาสูงขึ้นไปเจ็ดแปดจั้งแสงแส้สีม่วงเส้นแล้วเส้นเล่าก็กระหน่ำฟาดลงมาติดกันดังปั้กๆ

ในห้วงเวลาวิกฤตินี่เองเสียงครวญทุ้มต่ำฟังดูโหยหวนพลันดังขึ้นกลางท้องฟ้า หลิ่วหมิงรู้สึกว่าหลังร่างมีสายลมแรงหอบหนึ่งพัดผ่าน จากนั้นแสงดาบสีแดงฉานยาวร้อยกว่าจั้งเส้นหนึ่งก็พุ่งตามมาติดๆ

เสียง “ปัง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

เงาที่เกิดจากแส้ยาวสีม่วงกับแสงดาบปะทะกันอยู่เหนือศีรษะของหลิ่วหมิง พวกมันส่งเสียงดัง ฉึบหลายครั้งแล้วหดกลับไปอย่างรวดเร็ว

จินเทียนชื่อนั่นเองที่ลงมือจากไกลๆ ช่วยหลิ่วหมิงขวางการโจมตีนี้ไว้

“บาดเจ็บจนเป็นเช่นนั้นยังกล้ายุ่งเรื่องของข้า จิ๊ๆ เจ้าใจกล้าไม่เบาจริงๆ!” ร่างกายที่อยู่ในลำแสงของมนุษย์ปีศาจชะงักแล้วหันศีรษะมองไปหาจินเทียนชื่อด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เขาเห็นชายหนุ่มชุดทองมีดาบเล่มน้อยสีแดงฉานยาวหนึ่งฉื่อกว่าเล่มหนึ่งอยู่ในมือ บนตัวดาบมียันต์แวววาวดุจวัตถุจริงชั้นแล้วชั้นเล่ากะพริบวูบวาบไม่หยุดสร้างวงแหวนแสงชั้นแล้วชั้นออกมา ทว่าบนตัวดาบกลับมีรอยร้าวเรียวเล็กเส้นหนึ่งอยู่เลือนราง เห็นชัดว่าแม้ต้านแส้เมื่อครู่ไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่พลังจิตวิญญาณของต้นแบบอาวุธเวทชิ้นนี้ก็เสียหายไปไม่น้อย

แต่จินเทียนชื่อทำเหมือนไม่เห็นสิ่งนี้ เขาฟังคำพูดของอีกฝ่ายแล้วก็ทำเพียงพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งลงไปในดาบน้อยสีแดงฉานด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกเท่านั้น

ทันใดนั้นผิวของดาบเล่มน้อยพลันมีแสงเจิดจ้าเคลื่อนไหว แสงดาบพุ่งออกมาทำให้อากาศรอบด้านสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงอื้ออึง แสงดาบสีแดงฉานยาวร้อยกว่าจั้งเส้นหนึ่งพุ่งโถมเข้าใส่มนุษย์ปีศาจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ 931 ศึกใหญ่กับมนุษย์ปีศาจ (กลาง)

Now you are reading ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ Chapter 931 ศึกใหญ่กับมนุษย์ปีศาจ (กลาง) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มนุษย์ปีศาจคำรามเบาๆ คำหนึ่งแล้วเหวี่ยงแขนที่มีแส้มารพันอยู่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เงาแส้ยาวสีม่วงหนาหลายจั้งเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งรวดเร็วออกมา

อากาศตรงที่มันสัมผัสเกิดคลื่นพลังจิตวิญญาณรุนแรงระลอกหนึ่ง เพลิงปราณสีม่วงอ่อนสายแล้วสายเล่าให้ความรู้สึกราวกับว่าจะทำให้ทุกสิ่งมลายสิ้น

“เปรี๊ยะ”

เงาแส้สีม่วงฟาดผ่านจนเกิดรอยแยกมิติสีดำสนิทเส้นหนึ่ง ทว่าเงาร่างของจินเทียนชื่อโฉบหายไปจากที่เดิมแล้ว

ร่างกายของจินเทียนชื่อปรากฏตัวบนพื้นไม่ไกลนัก เขาไม่กล้ารั้งรอแต่อย่างใด แสงดาวรอบร่างสว่างวูบหนึ่งก็กลายเป็นแสงสีขาวสายหนึ่งมุดลงไปในดินโคลนเบื้องล่างทันที

มนุษย์ปีศาจเห็นเช่นนี้พลันแค่นเสียงหยัน มือข้างหนึ่งโจมตีหนึ่งฝ่ามือลงบนพื้นดินในทันใด ไอปีศาจสีดำสลับม่วงสายหนึ่งก่อตัวกลางอากาศ เงาฝ่ามือยักษ์ขนาดเท่าตึกข้างหนึ่งร่วงลงมา

เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง บนพื้นดินบังเกิดหลุมใหญ่หนึ่งร้อยกว่าจั้ง

เงาสีขาวร่างหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้าออกมาจากหลุม มันกะพริบไม่กี่ครั้งก็โผล่มาด้านหลังมนุษย์ปีศาจอย่างน่าอัศจรรย์ แสงดาวสีขาวสายหนึ่งก่อตัวกลายเป็นฝ่ามือยักษ์ข้างหนึ่งตบเข้าใส่มนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจเผยสีหน้าดูแคลนออกมานิดๆ เขาหมุนตัวดั่งสายฟ้าแลบแล้วตบหนึ่งฝ่ามือสวน

เมฆรูปเห็ดสีขาวแทรกด้วยสีดำสลับม่วงลอยขึ้นมาจากพื้น!

จินเทียนชื่อกับมนุษย์ปีศาจแทบจะถอยพรวดออกไปพร้อมกัน

เพียงแต่มือข้างหนึ่งของจินเทียนชื่อไม่รู้คว้าปลายแส้ยาวสีม่วงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่

เสียงอสนีฟาดดังเปรี้ยงปร้างดังลอยมา!

เส้นสายฟ้าสีทองเส้นแล้วเส้นเล่าพุ่งรวดเร็วย้อนตามแส้ยาวกลับไปหามนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจก็ปฏิกิริยาว่องไวอย่างที่สุด เขาขยับแขนครั้งเดียว แส้ยาวสีม่วงก็บิดสะบัดจินเทียนชื่อออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นเพลิงปราณสีม่วงบนแส้ก็ลุกโชนเผาเส้นสายฟ้าจนเกลี้ยง

จินเทียนชื่อพลิกตัวกลางอากาศหลายตลบติดกันกว่าจะตั้งหลักได้ ขณะที่สูดลมหายใจเข้าลึกเลือกว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อนั่นเอง ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป เอี้ยวศีรษะมองไปยังหุบเขาแคบเบื้องหลังทันที

แล้วเขาก็เห็นลำแสงสีดำสายหนึ่งที่ขอบฟ้ากำลังมุ่งมาด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง

“จิ๊ๆ! ดูท่าจะยังมีสหายเผ่ามนุษย์คนอื่นมาอีก” มนุษย์ปีศาจผู้นั้นคล้ายจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติตั้งแต่ไกลเช่นกัน มือจึงเคลื่อนไหวช้าลงแล้วหัวเราะเสียงประหลาดฟังดูชั่วร้าย

ผู้ที่มาก็คือหลิ่วหมิงที่กำลังเหาะมาอย่างรวดเร็ว!

เวลานี้ตัวเขาที่เหยียบอยู่บนเมฆสีดำคิ้วขมวดแน่น สีหน้าเคร่งเครียด เห็นชัดว่าเขามองเห็นหลุมยักษ์มหึมาที่สะดุดตาและน่าตกตะลึงหลุมนั้นตั้งแต่ไกล

เหนือหลุมยักษ์มนุษย์ปีศาจมหึมาสูงเจ็ดแปดจั้งคนนั้นพลังปราณแข็งแกร่งกว่าครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่แค่เล็กน้อย

เมื่อเทียบกันสภาพของจินเทียนชื่อที่อยู่อีกด้านหนึ่งตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด แม้บนร่างเขาไม่เห็นบาดแผลอะไร แต่หากสังเกตให้ละเอียด คลื่นปราณจิตวิญญาณรอบร่างเขาขึ้นลงไม่แน่นอน เห็นชัดว่าร่างกายบาดเจ็บแล้วและอาจถึงขั้นเสียพลังปราณไปไม่น้อย

“เจ้าเองหรือ? ดูท่านางปีศาจตนนั้นคงจะใจดีกับเจ้าไม่เลวถึงปล่อยเจ้ารอดออกจากที่นั่นมาได้?”

เมื่อหลิ่วหมิงอยู่ห่างจากทั้งสองคนไม่ถึงสองสามร้อยจั้ง เสียงประหลาดของมนุษย์ปีศาจก็พลันดังขึ้นในหู

หลิ่วหมิงไม่ตอบสักนิด ปราณดำรอบร่างพลุ่งพล่านออกมา เพียงชั่วครู่ให้หลังทั้งร่างก็ส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ แขนสองข้างขยายขนาดกลางอากาศแล้วต่อยออกไปด้านหน้าอย่างรุนแรง

เผชิญหน้ากับมนุษย์ปีศาจพลังระดับดาราพยากรณ์คนนี้ หลิ่วหมิงไม่กล้าออมมือแม้แต่น้อย ลงมือก็ใช้พลังเวทเต็มสิบส่วนในทันที

เสียงมังกรคำรามกับพยัคฆ์คำรามสะเทือนแก้วหูแทบดับดังขึ้น!

มังกรสีดำยาวยี่สิบกว่าจั้งห้าตัวกับพยัคฆ์หมอกที่มีปราณดำวนเวียนอยู่ห้าตัวพุ่งออกมาจากบนแผ่นหลังของเขาแล้วโถมตรงเข้าไปหามนุษย์ปีศาจ

มนุษย์ปีศาจแรกสุดตกตะลึง แต่จากนั้นก็สะบัดมือครั้งหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจสักนิด แส้มารสีม่วงในมือขยับวูบเดียวบนผิวแส้ก็มีเพลิงมารสีม่วงลุกโชนขึ้นก่อตัวเป็นเงาอสรพิษมารสีม่วงตัวหนึ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า มันเลือนหายไปไม่กี่ครั้งก็ฟาดลงบนร่างพยัคฆ์หมอกสีดำกับมังกรสีดำ

เสียง “ปังๆ” ดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง

ทันทีที่มังกรหมอกสีดำกับพยัคฆ์หมอกสีดำสัมผัสถูกอสรพิษมารสีม่วง มันก็ถูกหวดกระจายสลายกลายเป็นแสงสีดำทั่วฟ้า

“คุกมืด!”

หลิ่วหมิงจี้ดัชนีข้างหนึ่งใส่อากาศ แสงสีดำเต็มฟ้าฉับพลันรวมตัวเข้ามาตรงกลางกลืนร่างมนุษย์ปีศาจทั้งหมดเข้าไปด้านในแล้วกลายเป็นลูกบอลแสงสีดำขนาดหลายสิบจั้งลูกหนึ่ง

ทว่าลูกบอลแสงลูกนี้เพิ่งก่อตัว ด้านในก็มีเสียงดังสนั่น พร้อมกันนั้นแสงสีดำบนผิวก็ปะทุปั่นป่วนคล้ายกับว่าอีกอึดใจจะพังทลาย!

ในเวลานี้เองด้านนอกลูกบอลแสงสีดำฉับพลันมีแสงดาวดวงแล้วดวงเล่าบินเข้ามา จินเทียนชื่อลงมืออย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

แม้ว่าเขาจะหน้าซีดอยู่บ้าง แต่สองมือยังคงทำท่าเคล็ดวิชาเป็นลำดับ แสงดาวดวงแล้วดวงเล่าบินพุ่งออกมาจากในแขนเสื้อสีทองที่ขาดรุ่งริ่งยิ่งนักสองข้าง หลังจากมาถึงนอกคุกมืดพวกมันก็หมุนรอบหนึ่งแล้วก่อตัวกลายเป็นม่านแสงสีขาวที่เจิดจ้าสะดุดตาชั้นหนึ่งล้อมลูกบอลแสงสีดำทั้งหมดไว้ด้านใน ทำให้การพังทลายของมันเชื่องช้าลง

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง เงาเลือนรางสายหนึ่งโฉบผ่านไป เงาคนร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นนอกม่านแสงสีขาว

หลิ่วหมิงที่บนหลังมีปีกเนื้อสีเงินสองข้างนั่นเอง!

เขาลูบมือข้างหนึ่งแผ่วเบาบนหน้าอกจากนั้นทำท่ามือท่าหนึ่งอย่างเร็วไวขณะที่ปากเอ่ยท่องมนตร์ บนแก่นเสมือนเหนือทะเลจิตวิญญาณ สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าที่ถูกกดไว้สายแล้วสายเล่ากระตุกเต้นอยู่ เขาคิดจะปล่อยสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าออกมาอีกเส้น

นับตั้งแต่ครั้งก่อนที่เขาเสี่ยงอันตรายเก็บสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าดวงหนึ่งมาจากในซากโบราณสถาน ในที่สุดเขาก็ใช้สายฟ้าเทพที่เกินมาโจมตีศัตรูได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องจิตมารจะกลืนกินเกินไปนัก

ในเวลานี้เองแรงกดดันจิตวิญญาณน่าตะลึงสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นฟ้าออกมาจากในคุกมืด แสงประหลาดสีม่วงสายแล้วสายเล่าฉายออกมาจากแสงสีดำอย่างบ้าคลั่ง หลังจากเสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง คุกมืดทั้งหมดก็ระเบิดออก แสงสีดำกับแสงสีม่วงกะพริบวูบวาบไม่หยุดอยู่บนม่านแสงสีขาว อากาศทั้งบริเวณนั้นสั่นไหวบิดเบี้ยวท่าทางประหนึ่งจะแยกออกเป็นชิ้นๆ

จินเทียนชื่อเห็นเช่นนี้พลันสีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่พูดพร่ำอ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งออกมา  จากนั้นสองมือก็จี้ดัชนีใส่โลหิตบริสุทธิ์อย่างเร็วไว

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้น โลหิตบริสุทธิ์กลายเป็นแสงสีเลือดสายหนึ่งจมเข้าไปในม่านแสงสีขาว

ม่านแสงสีขาวสั่นไหวอย่างรุนแรงอยู่หลายครั้งก่อนจะมั่นคงขึ้นเล็กน้อย ทว่าเพลิงปราณสีม่วงก็ยังคงพุ่งโจมตีม่านแสงไม่หยุด

แต่เพราะสองลมหายใจนี้ที่จินเทียนชื่อซื้อเวลาให้ สายฟ้าเทพห้าสีที่เรียวเล็กดุจเส้นผมในแก่นเสมือนของหลิ่วหมิงท้ายที่สุดจึงส่องสว่างพุ่งออกมาจากนิ้วข้างหนึ่งของเขา

เสียง “ฟิ้ว” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

สายฟ้าห้าสีที่ดูเรียวเล็กดุจเส้นผมนี้ก็พุ่งออกมา ก่อนจะขยายจนหนาเท่าชามข้าวพุ่งปราดเดียวทะลุผ่านม่านแสงเข้าไปพร้อมเสียงดังกึกก้อง

“สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า! คนที่ลงมือในซากโบราณสถานคือเจ้าจริงๆ!” เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของมนุษย์ปีศาจดังเลือนรางออกมาจากด้านในคุกมืด

เขาสะบัดแส้สะท้านฟ้าในมือด้วยความเร็วถึงขีดสุด แส้ยาวสีม่วงขดม้วนล้อมตัวเขาจากบนจรดล่างไว้อย่างแน่นหนาประหนึ่งอสรพิษตัวยาว

เสียง “บึ๊ม” ดังสนั่นขึ้นครั้งหนึ่ง!

คลื่นปราณสีขาว สีดำและสีม่วงสายแล้วสายเล่าถาโถมรุนแรง ท้องนภาทั้งผืนสั่นสะเทือน ยอดเขาสูงเตี้ยไม่เท่ากันไกลออกไปพริบตาสลายกลายเป็นขี้เถ้าท่ามกลางคลื่นปราณที่ส่งเสียงดัง

หลิ่วหมิงรีบกระตุ้นเคล็ดวิชาเกราะอสูร แสงสีเงินปกคลุมตำแหน่งต่างๆ บนร่างของเขาไว้ในพริบตา พร้อมกันนั้นทั้งร่างก็ถอยพรวดออกไป

ส่วนจินเทียนชื่อร่างกายสั่นสะท้านเฮือกหนึ่งทั้งร่างก็ถูกปลายคลื่นพัดปลิวถอยไป ร่างกายลอยคว้างอยู่กลางอากาศขณะที่กระอักเลือดออกมา

แสงสีเงินส่องสว่างวูบหนึ่ง

หลิ่วหมิงหายตัวมาปรากฏกายข้างจินเทียนชื่อแล้วดึงเขาไว้ จากนั้นแปลงเป็นแสงสีเงินพุ่งเร็วรี่ออกไป เขาหนีพรวดเดียวออกมาห่างร้อยกว่าจั้งแล้วถึงปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง

หลังจากคลื่นสั่นสะเทือนหลากสีจางหายไป ใจกลางคุกมืดก็หลงเหลือเพียงไอหมอกสีดำสลับม่วงก้อนหนึ่งที่กะพริบวูบวาบไม่หยุด ด้านในซ่อนเงาร่างของมนุษย์ปีศาจที่ถูกล้อมด้วยประกายแสงสีม่วงวงแล้ววงเล่าอยู่ เขาแผ่ปราณโหดเหี้ยมแข็งแกร่งจนทำให้คนยากจะเชื่อออกมา

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ในใจก็เคร่งเครียดทันที

ครั้งนี้เขาเสี่ยงอันตรายปล่อยสายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าออกไปสายหนึ่ง ทำให้จิตมารที่ถูกตราประทับสายฟ้าสะกดไว้ขยับแล้ว แต่ยังถูกมารตัวนี้ต้านไว้ได้อีก

จินเทียนชื่อล้วงโอสถเม็ดหนึ่งออกมากลืนลงไปอย่างเร็วไวด้วยสีหน้าเย็นชา

“ในเมื่อเจ้าหนูเผ่ามนุษย์อย่างเจ้าใช้สายฟ้าเทพเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าได้จริงๆ ถ้าเช่นนั้นย่อมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”

เสียงคำรามแผดลั่นของมนุษย์ปีศาจดังออกมาจากด้านในกลางกลุ่มหมอกสีดำสลับม่วง เพลิงปราณสีม่วงบนร่างเขาลุกโชน เสกแส้มารที่ทอแสงจิตวิญญาณแวววาวเส้นหนึ่งออกมาอีกครั้ง

ครู่ต่อมาไอหมอกสีดำสลับม่วงพลันระเบิดกลายเป็นแสงแสบตานับไม่ถ้วน เงาสีม่วงเส้นหนึ่งส่องสว่างพุ่งเร็วรี่ออกมา มันยืดยาวมาโผล่ตรงหน้าทั้งสองคนอย่างน่าประหลาด และเมื่อเห็นแขนของอีกฝ่ายยกขึ้นมาด้านหน้ารางๆ ลวดลายจิตวิญญาณบนแส้ยาวพลันส่องสว่าง แสงแส้สีม่วงมากมายพุ่งเร็วรี่ออกมาในทันที

หลิ่วหมิงหมุนตัวจากนั้นปีกสีเงินมหึมาทั้งคู่ก็โบกกระพือในทันใด พร้อมกันนั้นเท้าก็กระทืบพื้นพุ่งพรวดไปด้านหลัง

ทั่วทั้งร่างของจินเทียนชื่อก็มีแสงดาราสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา หลบออกไปอีกด้านหนึ่งเช่นกัน

มนุษย์ปีศาจแทบจะไม่ต้องคิด ร่างกายขยับวูบหนึ่งเงาแส้มากมายถี่ยิบก็พุ่งไล่ตามหลิ่วหมิงไปอย่างรีบร้อน เมินจินเทียนชื่อเหมือนมองไม่เห็น มืออีกข้างก็ยกขึ้นจี้ดัชนีมาทางหลิ่วหมิงด้วย

ปราณสีดำปนสีเขียวหม่นสายหนึ่งก่อตัวขึ้นที่ปลายนิ้ว แสงสีดำหนาเท่านิ้วหัวแม่มือสายหนึ่งพุ่งวูบหายไป พริบตาเดียวก็มาถึงตรงหน้าหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงตกตะลึง ทว่าเขายังฝืนกระตุ้นเคล็ดวิชาเกราะอสูรรวมถึงเกล็ดมังกรสีชาดในร่างป้องกันส่วนหน้าของร่างกายได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ร่างจะขยับหายไปในทันใด

เสียง “ปัง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

หลิ่วหมิงรู้สึกว่าหัวไหล่ร้อนวูบ ความเจ็บปวดรุนแรงส่งผ่านมา

บนหัวไหล่ข้างซ้ายของเขาเกิดรูเลือดหนาเท่านิ้วมือรูหนึ่ง ไอปีศาจสีเขียวหม่นสายแล้วสายเล่าวนเวียนอยู่บนนั้นไม่หยุด ในเวลาเดียวกันนี้เหนือศีรษะเขาสูงขึ้นไปเจ็ดแปดจั้งแสงแส้สีม่วงเส้นแล้วเส้นเล่าก็กระหน่ำฟาดลงมาติดกันดังปั้กๆ

ในห้วงเวลาวิกฤตินี่เองเสียงครวญทุ้มต่ำฟังดูโหยหวนพลันดังขึ้นกลางท้องฟ้า หลิ่วหมิงรู้สึกว่าหลังร่างมีสายลมแรงหอบหนึ่งพัดผ่าน จากนั้นแสงดาบสีแดงฉานยาวร้อยกว่าจั้งเส้นหนึ่งก็พุ่งตามมาติดๆ

เสียง “ปัง” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง!

เงาที่เกิดจากแส้ยาวสีม่วงกับแสงดาบปะทะกันอยู่เหนือศีรษะของหลิ่วหมิง พวกมันส่งเสียงดัง ฉึบหลายครั้งแล้วหดกลับไปอย่างรวดเร็ว

จินเทียนชื่อนั่นเองที่ลงมือจากไกลๆ ช่วยหลิ่วหมิงขวางการโจมตีนี้ไว้

“บาดเจ็บจนเป็นเช่นนั้นยังกล้ายุ่งเรื่องของข้า จิ๊ๆ เจ้าใจกล้าไม่เบาจริงๆ!” ร่างกายที่อยู่ในลำแสงของมนุษย์ปีศาจชะงักแล้วหันศีรษะมองไปหาจินเทียนชื่อด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เขาเห็นชายหนุ่มชุดทองมีดาบเล่มน้อยสีแดงฉานยาวหนึ่งฉื่อกว่าเล่มหนึ่งอยู่ในมือ บนตัวดาบมียันต์แวววาวดุจวัตถุจริงชั้นแล้วชั้นเล่ากะพริบวูบวาบไม่หยุดสร้างวงแหวนแสงชั้นแล้วชั้นออกมา ทว่าบนตัวดาบกลับมีรอยร้าวเรียวเล็กเส้นหนึ่งอยู่เลือนราง เห็นชัดว่าแม้ต้านแส้เมื่อครู่ไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่พลังจิตวิญญาณของต้นแบบอาวุธเวทชิ้นนี้ก็เสียหายไปไม่น้อย

แต่จินเทียนชื่อทำเหมือนไม่เห็นสิ่งนี้ เขาฟังคำพูดของอีกฝ่ายแล้วก็ทำเพียงพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งลงไปในดาบน้อยสีแดงฉานด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกเท่านั้น

ทันใดนั้นผิวของดาบเล่มน้อยพลันมีแสงเจิดจ้าเคลื่อนไหว แสงดาบพุ่งออกมาทำให้อากาศรอบด้านสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงอื้ออึง แสงดาบสีแดงฉานยาวร้อยกว่าจั้งเส้นหนึ่งพุ่งโถมเข้าใส่มนุษย์ปีศาจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+