ท้าทายลิขิตสวรรค์ 1 กลับไปตอนอายุห้าขวบ

Now you are reading ท้าทายลิขิตสวรรค์ Chapter 1 กลับไปตอนอายุห้าขวบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1 กลับไปตอนอายุห้าขวบ

 

“แกกล้าพูดได้ยังไงว่าคนอย่างฉันจะต้องเจอกับภัยพิบัติ ปากดีนักนะ! นังคนเจ้าเล่ห์ อย่างนี้ต้องทุบตีให้ตาย!”

 

ชายผู้มีรอยแผลเป็นที่แก้มซ้ายดวงตาสว่างเป็นประกายขึ้นด้วยความดุร้ายขณะที่ชี้ไปยังร่างอันสั่นเทาที่หมอบอยู่เบื้องหน้าตนเอง

 

โดยผู้หญิงตัวเล็กและผอมบางคนนั้นสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ เขาตะโกนออกมาสุดเสียงว่า

 

“ช่วยฉันด้วย!”

 

ผู้หญิงที่มีใบหน้าซีดขาวจับขาของเขาเพื่อขอร้อง

 

“ยกโทษให้ฉันที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เจ้านาย! ฉันพูดผิดไปดวงดาวนำโชคของคุณส่องแสงเจิดจ้าและกำลังนำพาคุณไปสู่ความมั่งคั่ง……”

 

ชายคนนั้นสะบัดขาของเขาออกจากผู้หญิงตรงหน้าและเตะเธออย่างโหดเหี้ยมด้วยรองเท้าหนังคู่นั้นและกระทืบเข้าที่หน้าอกของเธออย่างแรงจนกระดูกซี่โครงหลายซี่หัก

 

และความเจ็บปวดนั้นทำให้หญิงสาวนอนขดตัว ขณะที่ปรากฎความหวาดกลัวขึ้นในดวงตาของเธอเพิ่มขึ้น

 

“แกไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ยังกล้าออกมาโกหกหลอกลวง แกมันเป็นคนปลิ้นปล้อน?

 

วันนี้พ่อคนนี้จะบังคับใช้ความยุติธรรมของสวรรค์และกำจัดแก!

 

เฮ้ยพวกเรา! ทุบตีเธอให้ตายแล้วลากเอาไปทิ้งที่ภูเขาโน่น”

 

***

 

“ลูกรัก..ลูกรัก..ลูกรัก…“

 

หยางซือเหมยได้ยินเสียงร้องไห้ที่คุ้นเคยและโศกเศร้าราวกับว่าเสียงนั้นกำลังปลุกวิญญาณของเธอให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา

 

แม่?

 

เธอเสียชีวิตไปแล้ว แล้วตอนนี้เธอเห็นแม่ที่จากไปนานแล้วได้ยังไง?

 

เธอพยายามที่จะลืมตา และภาพที่สะท้อนให้เห็นคือมารดาของเธอหวงซิ่วลี่ ผู้ซึ่งมีใบหน้าที่ซีดเซียวและวิตกกังวลของ และผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างพร้อมกับมีแว่นตาหนา ๆ สวมอยู่คือบิดาของเธอเอง ‘หยางชิง’

 

และอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่มีท่าทางน่าเกรงขามคือคุณปู่ที่มีรูปร่างผอมบางที่มีชื่อว่า ‘หยางไป๋’ ส่วนคนที่อุ้มทารกคือเซิงฮุ่ย ผู้ซึ่งเป็นคุณย่าของเธอ

 

เธอ…ตายไปแล้วจริงเหรอ?

 

ซึ่งนั่นคงจะเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงสามารถมองเห็นวิญญาณของคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่และน้องสาวของตนเองได้?

 

เมื่อเธอเงยหน้ามองเพดานจึงเห็นกระเบื้องหลังคาโทรม ๆ ผนังอิฐสีเข้ม ซึ่งทำให้ทุกอย่างภายในดูมืดสลัว ซึ่งมันดูเหมือนกับตอนที่เธอยังเป็นเด็ก มันแปลกเกินไปหรือเปล่า?

 

“ที่รัก ตื่นแล้วเหรอ?”

 

หวงซิ่วลี่จ้องมองไปยังดวงตาสีดำที่กำลังกระพริบถี่ของเด็กน้อย พร้อมกับส่งเสียงร้องเรียกด้วยความดีใจและเอื้อมมือไปดึงร่างของเธอเข้าสู่อ้อมกอดแน่นขณะที่สะอึกสะอื้น…

 

ทำไมมันถึงอุ่น?!

 

หรือว่ามันเป็นเรื่องจริง!

 

นอกจากนี้เธอยังสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจและลมหายใจของมารดาได้อย่างชัดเจน

 

ถ้าเป็นวิญญาณจะมีสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

 

ดวงตาที่ว่างเปล่าของเธอเบิกกว้างขณะที่จ้องมองไปยังปฏิทินที่แขวนอยู่…

 

26 มีนาคม 1992?

 

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบห้าขวบของเธอไม่ใช่เหรอ?

 

มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

 

ตอนนี้เธอยังฝันอยู่หรือเปล่า?

 

เธอยกมือขึ้นและพบว่ามันเล็กและบอบบางมาก จากนั้นจึงกวาดสายตามองลงไปยังร่างกายของตนเอง ทำให้เห็นว่าทุกส่วนเล็กไม่หมด ขณะที่เธอกำลังสวมเสื้อผ้าตัวน้อยที่คุณยายของเธอตัดเย็บให้

 

เธอ…

 

อะไรเนี่ย?

 

“แม่…”

 

ในขณะที่เธอพูดก็ค้นพบว่าน้ำเสียงของตนเองดูเป็นเด็กมากขณะที่ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า

 

“ลูกรัก…“

 

เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเด็กผู้หญิงตรงหน้า หวงซิ่วลี่ก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นที่สุด จนทำให้น้ำตาของเธอไหลผ่านใบหน้าลงมา

 

“ดี..ดีมากในที่สุดลูกก็ฟื้นขึ้นมา แม่กลัวมากเลย กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป!”

 

สถานการณ์นี้คุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเธอจำได้ว่าปีนั้นตอนที่ตนเองมีอายุห้าขวบเธอป่วยหนักมาก และมีไข้สูงโดยไม่มีวี่เเววว่าจะลดลงเลย จากนั้นก็หมดสติไป

 

และเมื่อตื่นขึ้นมาก็จำได้ว่ามารดาของเธอกล่าวคำเหล่านี้

 

จากนั้นเธอจึงมองไปยังบิดาของตนเองทันที จึงเห็นหยางชิงกำลังถอดแว่นตาหนา ๆ ออกเพื่อเช็ดน้ำตาที่มุมตาของเขาอย่างแผ่วเบา

 

และคุณย่าของเธอที่ชื่อเซงฮุ่ยก็รู้สึกสะเทือนใจมาก ขณะที่หญิงชราประสานฝ่ามือเพื่อขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองหลานสาว

 

คุณปู่หยางไป๋ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมกับเหลือบมองเธอ และยืนขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ประตู…

 

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้เหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด!

 

เธอแอบหยิกที่แขนเล็ก ๆ ของตนเองเพื่อตรวจสอบ ซึ่งมันก็เจ็บจริง

 

เธอไม่ได้ฝันไปเและไม่ได้กลายเป็นผี แต่ย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาที่ตนเองอายุห้าขวบเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง และเมื่อนึกถึงสิ่งนี้เธอก็รู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาไหลริน

 

มารดารีบเข้ามาอุ้มเธอขึ้นเพื่อพยุงหลังของเธอในขณะที่ปลอบโยนอย่างต่อเนื่อง:

 

“ลูกรักอย่าร้องไห้..แม่อยู่ที่นี่”

 

เมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านี้มันก็ทำให้เธอย้อนคิดถึงเรื่องราวในอดีตของตนเอง

 

ในการเกิดครั้งที่แล้วเมื่อเธออายุได้หกขวบ อยู่ดี ๆ ครอบครัวของเธอก็พังพินาศและเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม

 

คราวนี้เธอกลับไปตอนที่อายุห้าขวบ ดังนั้นยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งปีก่อนที่โศกนาฏกรรมจะเริ่มต้นขึ้น

 

เธอจะต้องพบเจอกับโศกนาฏกรรมในชีวิตเหมือนเดิมอีกครั้งหรือเปล่า?

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่ต้องการเกิดใหม่อีกแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด