[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ 138 เรียกว่าสามี / 139 ไม่กล้าต่อต้าน

Now you are reading [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Chapter 138 เรียกว่าสามี / 139 ไม่กล้าต่อต้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 138 เรียกว่าสามี  

 

 

“ถามนายอยู่นะ ทำไมพอถึงช่วงเวลาสำคัญทีไรถึงมัวแต่ชักช้าอยู่ได้” หลูจื้อเห็นชุยหังไม่พูดไม่จาอยู่นาน และไม่มีการแสดงออกใดๆ จึงรู้สึกกังวลร้อนใจนิดหน่อย  

 

 

ในหัวของชุยหังพยายามตอบสนองต่อคำพูดของหลูจื้อเมื่อครู่อยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก  

 

 

สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง ต้องการจะคบกับตนจริงๆ?  

 

 

“ได้ไม่ได้ ขอประโยคตรงไปตรงมาสักประโยค อย่าทำเหมือนเป็นพวกผู้หญิง ชักๆ ช้าๆ” หลูจื้อโกรธแล้ว น้ำเสียงก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย  

 

 

อันที่จริงเมื่อครู่นี้ชุยหังก็เข้าใจแล้ว เพียงแต่มึนงงนิดหน่อย ภาพฉากนี้เป็นความหวังของเขาไม่ผิดอย่างแน่นอน  

 

 

แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะมาถึงกะทันหันแบบนี้  

 

 

เขาถามขึ้นอีกประโยค: “นายจะไม่เสียใจภายหลังหรอ”  

 

 

“ฉันแม่งจะต้องเสียใจภายหลังอะไรอีก งานก็โอนย้ายกลับมาแล้ว แฟนก็เลิกเพื่อนายไปแล้ว นายยังอยากให้ฉันพูดอะไรอีก” หลูจื้อกล่าว  

 

 

ชุยหังคิดอยู่พักหนึ่ง ตนเองในตอนนี้ขนาดได้ของถูกยังดีอกดีใจจนออกนอกหน้านอกตาเลย  

 

 

“อืม” ชุยหังว่า  

 

 

“อืมหมายความว่าไง ก็คือตกลง?” หลูจื้อเอ่ยถาม  

 

 

ชุยหังพยักหน้าแล้วพูดว่า: “อืม”  

 

 

อืม คำเดียวอีกแล้ว หลูจื้อไม่พอใจแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันพูดไปตั้งเยอะขนาดนั้น ขับรถมาหานายด้วย แค่อืมคำเดียวก็อยากจะผลักส่งฉันออกแล้ว? นายรีบพูดมาว่าตกลงไม่ตกลง ทำไมต้องให้เปลืองแรงขนาดนี้ล่ะ”  

 

 

ชุยหังรู้สึกว่าใบหน้าของเขากำลังจะมีไข้อีกแล้ว จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาพูดขึ้นว่า: : “ตกลง…”  

 

 

ในที่สุดหลูจื้อก็ยิ้มแล้ว จากนั้นก็ลูบสัมผัสใบหน้าของชุยหัง  

 

 

ชุยหังก็รู้สึกโล่งใจเช่นกัน หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นไม่อยากจะเชื่อนิดหน่อย  

 

 

เขากับครูฝึกหลูคบกันแล้ว?   

 

 

“ต่อไปฉันก็เป็นแฟนหนุ่มของนายแล้วใช่ไหม” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังพยักหน้าพลางยิ้มโง่ๆ ออกมา  

 

 

“งั้นนายเป็นอะไรของฉัน แฟนสาว?” หลูจื้อแสดงออกว่าไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด  

 

 

ใบหน้าของชุยหังมีเส้นสีดำปรากฏขึ้นมาและพูดว่า: “ไม่ใช่ เป็นBF”  

 

 

“แปลว่าอะไร” หลูจื้อถาม  

 

 

“ก็คือ BOYFRIEND”  

 

 

“แฟนหนุ่มน่ะสิ งั้นมันก็เหมือนฉันไม่ใช่หรอ” หลูจื้อดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจกับการเรียกแบบนี้สักเท่าไหร่  

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ก็พวกเราทั้งสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่นี่นา ก็ไม่สามารถเรียกว่าแฟนสาวได้อยู่แล้วไง”  

 

 

“ภรรยาล่ะ?” หลูจื้อถามขึ้นอีกครั้ง  

 

 

ชุยหังหน้าแดงไปหมด ชื่อเรียกนี้อันที่จริงเมื่อครู่นี้เขาก็นึกถึงมันเหมือนกัน แต่ว่าไม่กล้าบอกกับหลูจื้อ กลัวเขาจะบอกว่าคำเรียกนี้ของตนมันน่าเกียจเกินไป  

 

 

“ไม่พูดแสดงว่าโอเค?” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังพยักหน้า ภายในใจเต็มไปด้วยความสุข  

 

 

“งั้นนายจะเรียกฉันว่าอะไร” หลูจื้อถามขึ้นอย่างกะทันหัน  

 

 

ชุยหังผงะแล้วพูดว่า: “ครูฝึกไง”  

 

 

หลูจื้อพูดขึ้นทันทีว่า: “เป็นไปไม่ได้แน่นอน ฉันเรียกนายว่าภรรยา นายต้องเรียกฉันว่าสามี เร็วๆ ลองเรียกให้ฉันฟังหน่อย”  

 

 

ชุยหังมึนไปแล้ว รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเรียกออกปากได้  

 

 

ในตอนนี้ถึงได้รู้สึกว่าชื่อเรียกชื่อนี้มันน่าสะอิดสะเอียนมากจริงๆ  

 

 

ระหว่างพวกเขาสองคน อันที่จริงก็ควรจะใช้สรรพนามรองเรียกกัน  

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นกระบวนการนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจอย่างอธิบายไม่ถูกเลย  

 

 

ก่อนหน้านี้ยังตัดสินใจแล้วว่าต่อไปจะลืมหลูจื้อ แล้วจะไม่ติดต่อเขาอีก ค่อยๆ ปล่อยให้เขาเลือนหายไปกับกาลเวลา  

 

 

ตอนนี้ตนกลับกำลังนั่งอยู่บนรถของหลูจื้อ แล้วยังกำลังพิจารณากับเขาอีกว่าต่างฝ่ายจะเรียกกันว่ายังไง  

 

 

แม้ว่าเมื่อก่อนจะเรียกหลิวเฮ่อแบบนี้เหมือนกันแต่มันก็เฉพาะตอนส่งข้อความ ยังไม่เคยพูดด้วยวาจาเลยสักครั้ง  

 

 

ไม่ใช่ว่าคนที่เป็นทหารต่างก็จะเข้มงวดจริงจังไม่ใช่หรอ ทำไมช่องทางของหลูจื้อคนนี้ถึงได้โล่งกว้างขนาดนี้ล่ะ?   

 

 

“ถ้าวันนี้นายไม่อยากกลับไป เก่งนักก็ไม่ต้องเรียกให้มันได้แบบนี้ตลอด แล้วพวกเราสองคนก็จะนั่งอยู่ในรถแบบนี้แหละ” หลูจื้อว่า  

 

 

ชุยหังจนปัญญาแล้ว  นี่มันวิธีการอะไร? กักบริเวณ?   

 

 

“ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนายก็รู้ ถ้ายังไม่ยอมเรียกล่ะก็…”  

 

 

“สามี…”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 139 ไม่กล้าต่อต้าน  

 

 

ก่อนที่หลูจื้อจะเลือกที่จะลงมือ ในที่สุดชุยหังก็เรียกสองคำนี้ออกมาอย่างอ่อนแรง  

 

 

สีหน้าที่แสดงออกของหลูจื้อยอดเยี่ยมมาก มันเป็นความสุขหลังจากได้เติมเต็มในสิ่งที่คาดหวังตั้งตารอ แถมยังมีความสับสนกระวนวายที่ไม่รู้ว่าต่อไปควรจะทำยังไงต่ออยู่ด้วย  

 

 

“เฮ้อ ถ้าต่อไปในอนาคตนายเชื่อฟังแบบนี้มันก็ดีออกไม่ใช่หรอ…” เขาว่า  

 

 

ชุยหังพูดขึ้นว่า: “ก็คงไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังทุกอย่างไหม…”  

 

 

หลูจื้อพูดตอบ: “งั้นนายก็คงจะตายอย่างน่าเกลียดมาก”  

 

 

“ในเมื่อตายไปแล้ว ยังจะสนดูดีดูไม่ดีอะไรอีก” ชุยหังกล่าว  

 

 

หลูจื้อพูดขึ้น: “เริ่มจะเถียงอีกแล้วใช่ไหม”  

 

 

ชุยหังเห็นว่าเขากำลังจะพุ่งเข้ามาทางนี้อีกก็รีบพูดขึ้นว่า: “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น…”  

 

 

“ตอนนี้ถึงรู้ว่าไม่ได้หมายความแบบนั้น? สายไปแล้ว…” เมื่อหลูจื้อพูดจบก็จูบแรงๆ ลงบนหน้าของชุยหัง  

 

 

จากนั้นทั้งสองคนก็นิ่งเงียบอยู่ข้างในรถ  

 

 

“แบบนี้พวกเราก็ถือว่าตกลงปลงใจกันแล้ว?” ชุยหังถาม  

 

 

ในความเป็นจริงหลูจื้อก็มึนงงเล็กน้อย พลางถามขึ้น: “ไม่งั้นจะยังไง? ยังต้องการอะไรอีก หรือว่าจะให้ฉันนอนกับนายในรถสักตื่น?”  

 

 

ชุยหังถึงกับผงะและพูดว่า: “ไม่จำเป็นแล้วล่ะ วันนี้นายหยุดพักหรอ”  

 

 

“ฉันพักผ่อนพักร้อนอะไรล่ะ ฉันขอลาออกมา” หลูจื้อกล่าว  

 

 

“วันหยุดสุดสัปดาห์พวกนายก็ไม่ได้พัก?” ชุยหังถาม  

 

 

“ใครกำหนดว่าวันหยุดสุดสัปดาห์จะต้องหยุดพัก?” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังเหมือนจะเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยว่าทำไมแต่ก่อนหลูจื้อถึงไม่มีเวลาอยู่กับแฟน จนนำไปสู่การเลิกรา  

 

 

เวลาของเขาดูเหมือนจะไม่เพียงพอเอามากๆ  

 

 

“ต่อไปฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ออกมาบ่อยหรือน้อยมากแค่ไหน แต่ว่าฉันจะพยายาม ขอเพียงแค่สามารถออกมาได้ฉันก็จะมาหานาย” หลูจื้อกล่าว  

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ไม่ต้อง ฉันก็วิ่งหนีไม่ได้อยู่แล้ว”  

 

 

“วิ่ง? ขานายแข็งแรงไหม” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังผงะแล้วถามขึ้น: “อะไร”  

 

 

“ถ้านายคิดว่าขาของนายแข็งแรง ไม่โดนตีหักง่ายๆ นายก็หนีดู” หลูจื้อมองเขาอย่างเคร่งขรึม  

 

 

ชุยหังรู้สึกว่าตนคว้าเจอพวกคลั่งความรุนแรงหรือเปล่า  ทำไมเวลาพูดกับตนถึงได้เอาแต่ข่มขู่ล่ะ?   

 

 

“นายพาฉันเข้ามา แล้วนายก็จะหนีไป นายว่าฉันจะปล่อยนายไปได้ไหม” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังคิดอยู่พักหนึ่งก็ดูเหมือนว่ามันจะสมเหตุสมผล  

 

 

แต่เมื่อเขาย้อนกลับไปคิด นี่มันควรจะเป็นอะไรที่ฉันและเธอปรารถนาร่วมกันมากกว่าไหม?  

 

 

“ฉันไม่ได้ถือมีดบีบบังคับให้นายเข้ามา…” เขาบ่นพึมพำ  

 

 

“พูดอีกสิ?” หลูจื้อถาม  

 

 

ชุยหังตื่นกลัวในทันที เมื่อก่อนเคยถูกหลูจื้อรังแกมาหลายครั้งเกินไปจริงๆ  

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นสองสามวันนี้ตนก็ได้ทรมานหลูจื้อไปหน่อยแล้ว บล็อกโทรศัพท์มือถือ ลบวีแชท ทำให้หลูจื้อที่ต่อให้อยากติดต่อเขาก็ติดต่อเขาไม่ได้  

 

 

ถึงแม้ตัวเขาเองก็ลำบากใจ แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อหาหลูจื้อก่อน แล้วก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียสละอะไรเพื่อหลูจื้อเลย อย่างดีที่สุดก็แค่เฝ้ารอตลอดก็เท่านั้น  

 

 

แต่ทว่าหลูจื้อทำเพื่อเขาตั้งมากมายขนาดนั้น เวลาที่เขาต้องการอยากจะรายงานผลกลับพบว่าไม่มีทางติดต่อเขาได้อีกแล้ว อารมณ์ความรู้สึกแบบนั้นคงจะน่าสงสารมากขึ้นไปอีก  

 

 

โชคดีที่เขาไม่ได้โทรเข้าไปที่โทรศัพท์ของห้องพักโดยตรง มิฉะนั้นชุยหังจะยิ่งอายไม่มีหน้ากล้ามาเจอหลูจื้อเข้าไปใหญ่  

 

 

ดังนั้นเขาอยากจะพูดอะไรก็ให้เขาพูดไปเถอะ ในเมื่อระบายไปหมดแล้วก็ควรจะกลับมาสงบใจเย็นได้  

 

 

“บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของฉันเอาไว้ดีๆ ด้วย ถ้าลบหรือว่าบล็อกอีกนายจะไม่ได้เห็นแสงตะวันของวันพรุ่งนี้แน่” หลูจื้อกล่าว  

 

 

ชุยหังกำลังคิดว่าในเมื่อคบเป็นแฟนกับเขาแล้ว ทำไมยังต้องลบข้อมูลติดต่อของเขาอีก ตนไม่ได้ปัญญาอ่อนสักหน่อย  

 

 

“อันนี้ให้นาย” หลูจื้อพูดพร้อมกับหยิบกล่องช็อกโกแลตจากด้านหลังออกมา  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด