[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / 157 ผู้น้อย

Now you are reading [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Chapter 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / 157 ผู้น้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน

 

 

[เรื่องนั้นไม่ใช่อย่างที่นายคิดแบบนั้นเลย นายคิดดูนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น ฉันจะให้เขารับสายทำไม ต่อมาฉันกับเขาก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้] การตอบกลับของหลิวเฮ่อทำให้ชุยหังยิ่งดูแคลนเขาไปอีก

 

 

‘เพราะว่าเรื่องนั้น พวกเขาเลยมีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเขาแม้แต่ปลายเล็บด้วยหรือไง’

 

 

‘หรือว่าเพราะว่าสายโทรศัพท์นั้นทำให้ตัวเองรู้แล้วว่าหลิวเฮ่อทางนั้นก็มีอีกคนอยู่แล้ว?’

 

 

‘เพียงแต่ว่าเขาอยากเหยียบเรือสองแคม ไม่อยากเปิดเผย อยากจะซุ่มดูก่อนงั้นเหรอ’

 

 

‘คนหนึ่งวางแผนระยะยาว? อีกคนใช้มาแก้ปัญหาแรงกระตุ้นทางร่างกาย?’

 

 

เดิมทีชุยหังไม่อยากจะให้ความสนใจเขา แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อจะส่งข้อความมาอีกว่า

 

 

[นายบล็อกวีแชทฉันอีกวีแชทนึง ฉันหมดหนทางจะแอดนาย ฉันก็เลยสมัครวีแชทอีกวีแชทหนึ่งมา นายให้ฉันแชทเสร็จก่อนได้ไหม]

 

 

ชุยหังชะงักมือตัวเองที่เพิ่งจะเลือกลบหลิวเฮ่อลง

 

 

[ระหว่างพวกเรา ที่จริงไม่มีอะไรที่น่าจะต้องพูดกันแล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลาอะไรกับนายแล้ว ในเมื่อนายคบกับคนอื่นไปแล้ว ก็อย่ามาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ฉันอีกเลย] ชุยหังพิมพ์ตอบกลับไป

 

 

หลิวเฮ่อรีบตอบกลับมาในทันใด [เลิกกันแล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม]

 

 

[ไม่ได้] ชุยหังตอบกลับอย่างเด็ดขาด

 

 

หลังจากนั้นเขาก็ลบเบอร์นี้ของหลิวเฮ่อไปทันที

 

 

หลังจากลบแล้ว เขาถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อครู่นี้ตัวเองควรจะบล็อกไปด้วย

 

 

แต่ว่าก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้ว ต่อให้เขามาก่อกวนตัวเองอีก ตัวเองก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก็โอเคแล้ว

 

 

‘เขาคิดได้ยังไง คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหน้ามาติดต่อตัวเองได้’

 

 

‘ตัวเองเป็นคนประเภทที่นึกจะเรียกให้มาก็มา นึกจะเรียกให้ไปก็ไปหรือไง’

 

 

เขาเพิ่งจะลบหลิวเฮ่อไป ทางนั้นก็เริ่มจะแอดเขาไม่หยุด

 

 

[ฉันเลิกกับเขาแล้ว นายอย่าโกรธเลยนะ]

 

 

[ตอนนั้นฉันอดใจไม่ได้ชั่ววูบ นายได้โปรดอภัยเถอะนะ ต่อไปฉันจะชดเชยให้นายแน่]

 

 

[เอ่อใช่ นายมีเงินใช้พอหรือเปล่า ฉันให้นายเอาไหม]

 

 

ข้อความยืนยันมาต่อกันเรื่อยๆ มันหนักหัวชุยหังแล้ว

 

 

ชุยหังทนไม่ไหว ติดต่อเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ส่งข้อความเข้าไป

 

 

[ฉันไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับนายแล้ว ฉันเองก็ไม่ใช่ขอทาน เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ใช้เงินของนาย ต่อไปก็ไม่มีทาง นายไม่ต้องมาใช้วิธีที่น่าสะอิดสะเอียนแบบนี้มาพูดอะไรกับฉันแล้ว]

 

 

ชุยหังเป็นคนที่หักดิบง่ายมาก เขาไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าที่เลิกกันแล้วอีก

 

 

ถ้าเวลาผ่านไปนาน คนสองคนไม่ชอบอีกฝ่ายแล้ว เพราะเกิดปัญหาในความรักความสัมพันธ์จริงๆ แบบนั้นได้

 

 

แต่ว่านี่เป็นเรื่องของหลักการ เป็นหลิวเฮ่อที่หักหลังเขา ตัวเองไม่มีความยับยั้งชั่งใจ

 

 

ชุยหังไม่ไปคิดอยากจะตำหนิเด็กผู้ชายคนนั้น เพราะว่านี่เป็นปัญหาของหลิวเฮ่อ

 

 

ขอเพียงแต่หลิวเฮ่อเองต้องการจะหักหลัง ต่อให้ไม่ใช่เด็กผู้ชายคนนั้น ก็ต้องเป็นคนอื่นอยู่ดี

 

 

ผู้ชายที่เปลี่ยนใจไปแล้วคนหนึ่ง ถ้าปัดความรับผิดชอบให้บุคคลที่สามด้วยความเคยตัวตลอดก็ยิ่งจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว

 

 

[จะไม่เกี่ยวได้ยังไง นายกลับมาเถอะ หรือว่าฉันเข้าไปหางาน แบบนี้นายจะได้เห็นฉันได้แล้ว] หลิวเฮ่อตอบกลับมา

 

 

ชุยหังยิ้มหัวเราะ เวลานี้ยังจะมาใช้อะไรที่เรียกว่าความโรแมนติกแบบนี้มามอมเมาตัวเอง

 

 

[ไม่ต้องหรอก ตอนนี้นายจะไปไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น วันหลังฉันจะไปไหนก็ไม่ต้องให้นายมาเป็นห่วงหรอก พวกเราต่างคนต่างอยู่]

 

 

คิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อยังมีคำพูดที่ทำลายทัศนคติต่อโลก ชีวิต และคุณค่าสามสิ่งนี้ของชุยหังด้วย เขาส่งเข้ามาทันที

 

 

[เรื่องนี้จะโทษฉันทั้งหมดก็ไม่ได้หรอกมั้ง ถ้าไม่ใช่ว่าตอนแรกนายแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา ไม่ให้ฉันแตะเนื้อต้องตัวอยู่ตลอด ฉันอึดอัดถึงขั้นกลายเป็นแบบนี้ไหม]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 157 ผู้น้อย

 

 

ชุยหังเห็นข้อความนี้ เขาแทบจะเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงแล้ว

 

 

‘นี่มันอะไรกัน เขานอกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ให้เขาแตะเนื้อต้องตัวงั้นเหรอ…

 

 

…แล้วตัวเองยังตกเป็นจำเลยโทษฐานที่แกล้งทำเป็นไร้เดียงสางั้นเหรอ…

 

 

…เขาเห็นตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว เป็นเครื่องมือระบายความใคร่ให้เขางั้นเหรอ…

 

 

…คนอย่างเขาคนแบบนี้ หรือว่าตัวเองทำให้เขาได้ตัวแล้ว เขาก็จะไม่นอกใจแล้วงั้นเหรอ’

 

 

ผู้ชายกากเดนก็คือผู้ชายกากเดน มีความเฉพาะตัวของเขาโดยแท้

 

 

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ชุยหังรู้สึกว่าหลิวเฮ่อเป็นแบบนี้  ตัวเองจริงใจด้วยไม่ไหวหรอก

 

 

[ส่งเหอะๆ ให้นายอีก นายไปทำความเข้าใจเองแล้วกัน] ชุยหังตอบกลับ

 

 

[หรือว่าไม่ใช่เหรอ คนสองคนคบกัน หรือว่าเรื่องทางนั้นไม่สำคัญ? ฉันเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนธรรมดา มีความต้องการก็เป็นเรื่องปกตินี่] หลิวเฮ่อยังคงเถียงข้างๆ คูๆ

 

 

ชุยหังโกรธจนมือไม้อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว หนังศีรษะก็ชาไปด้วย

 

 

[อืม ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่านายก็เป็นแค่อวัยวะสืบพันธุ์เดินได้ อะไรก็ไม่ต้องพูดแล้ว ในสายตาคนอย่างพวกนาย ในเมื่อฉันเป็นคนผิด งั้นก็ปลอบใจตัวเองแบบนี้ ฉันไม่มีเวลาว่างมาคุยไร้สาระกับนายขนาดนั้น]

 

 

[แน่จริงนายก็อย่าบล็อกฉันสิ ฉันจะต้องจีบนายกลับมาให้ได้ นายเชื่อไหม] ไม่รู้ว่าหลิวเฮ่อไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

 

 

แต่ว่าเขาเตือนชุยหังแล้วจริงๆ บล็อกเด็ดขาด

 

 

‘คนแบบนี้ ตัวเองจะเก็บเขาไว้ทำอะไร’

 

 

นึกถึงคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ของหลิวเฮ่อ จู่ๆ ชุยหังก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทไปก่อนหน้านี้ช่างไร้ค่า

 

 

‘ตัวเองรักนวลสงวนตัว เพื่อแลกความคิดแบบนี้กลับมาเหรอ…

 

 

…อีกอย่างเขายังมีเหตุผลมากอีก…

 

 

…หรือว่าตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ …

 

 

…นี่เป็นปัญหาของตัวเอง หรือเป็นปัญหาของคนอื่น…

 

 

…ถ้าเป็นปัญหาของตัวเองจริงๆ แล้วหลูจื้อจะมีความคิดเหมือนหลิวเฮ่อหรือเปล่า อึดอัดจนรู้สึกแย่’

 

 

เดิมทีที่วันนี้ซ่งไข่โทรมาคุยกับเขาเสร็จ หลังจากที่เขารู้สถานการณ์ของหลูจื้อทางนั้นแล้ว เขาก็กลุ้มใจมากแล้ว

 

 

ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรแบบนี้เพิ่มมาอีก

 

 

เขาหมดหนทางจะนอนได้แล้ว นอนไม่หลับโดยสิ้นเชิง

 

 

เขาพลิกตัวลงจากเตียง แล้วคว้ากะละมัง ไปห้องน้ำล้างตัว

 

 

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าพูดกับหลูจื้อว่าตัวเองลบไปแล้ว

 

 

คิดดูแล้ว เขาส่งวีแชทหาหลูจื้อ [รูปถ่ายพวกนั้นก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันล้างประวัติในวีแชท เผลอลบไปไม่ทันระวัง ส่งมาให้ฉันอีกหน่อยสิ]

 

 

แน่นอนเขาไม่มีทางจะยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่อยากจะลบเอง แบบนั้นคาดว่าตัวเองจะตายอย่างหน้าอนาถมากจริงๆ

 

 

หลูจื้อไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อยู่นานสองนาน ชุยหังไม่รู้ว่าเขากำลังยุ่งกับงานหรือว่ายุ่งกับการดูตัวอยู่

 

 

ถ้าไม่มีคำพูดเหล่านั้นที่ซ่งไข่พูดกับเขา เขาก็จะไม่นึกถึงเรื่องหาคู่ดูตัวเรื่องนี้เด็ดขาด

 

 

แต่ว่าครอบครัวแบบนั้น หลูจื้อเองก็คงจะทำอะไรมากไม่ได้เหมือนกัน

 

 

ตอนที่หลูจื้อตัดสินใจจะคบกับตัวเอง การตัดสินใจของหลูจื้อที่จริงแล้วยิ่งใหญ่กว่าตัวเองเสียอีก

 

 

เว้นเสียแต่ว่าเขาแค่เพียงอยากจะเล่นๆ กันเท่านั้น

 

 

แต่ว่าชุยหังเองก็ยังไม่เคยเห็นคนที่โยกย้ายงานแลกกับเส้นทางที่เลื่อนขั้นอย่างยากลำบากกว่าเดิมได้เล่นอย่างนี้มาก่อน

 

 

พุ่งชนด้วยจุดนี้ เขาจึงยอมเชื่อหลูจื้อ ยอมรอเขาเอ่ยปากกับตัวเอง

 

 

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ได้ข่าวคราวของหลูจื้อสักที

 

 

[ไม่มีอะไรทำมาล้างประวัติวีแชทอะไร]

 

 

ชุยหางรีบอธิบาย [มือถือเครื่องเดินช้าแล้ว เลยล้างขยะสักหน่อย]

 

 

[ก็เลยลบรูปฉันลงถังขยะไปด้วยเลย?] คำถามของหลูจื้อทำให้ชุยหังระแวงขึ้นมาในทันใด

 

 

‘เจ้าหมอนี่ เรื่องเยอะจริงๆ ให้นายส่งก็ส่งมาสิ จะมาพล่ามอะไรมากมายขนาดนั้น’

 

 

แต่ว่าเขาก็ทำได้แค่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ ไม่กล้าส่งออกไปตรงๆ

 

 

[ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย…นายส่งให้ฉันอีกได้ไหม]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / 157 ผู้น้อย

Now you are reading [นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ Chapter 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน / 157 ผู้น้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 156 ความโรแมนติกที่น่าสะอิดสะเอียน

 

 

[เรื่องนั้นไม่ใช่อย่างที่นายคิดแบบนั้นเลย นายคิดดูนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น ฉันจะให้เขารับสายทำไม ต่อมาฉันกับเขาก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้] การตอบกลับของหลิวเฮ่อทำให้ชุยหังยิ่งดูแคลนเขาไปอีก

 

 

‘เพราะว่าเรื่องนั้น พวกเขาเลยมีปากเสียงกัน เกี่ยวกับเขาแม้แต่ปลายเล็บด้วยหรือไง’

 

 

‘หรือว่าเพราะว่าสายโทรศัพท์นั้นทำให้ตัวเองรู้แล้วว่าหลิวเฮ่อทางนั้นก็มีอีกคนอยู่แล้ว?’

 

 

‘เพียงแต่ว่าเขาอยากเหยียบเรือสองแคม ไม่อยากเปิดเผย อยากจะซุ่มดูก่อนงั้นเหรอ’

 

 

‘คนหนึ่งวางแผนระยะยาว? อีกคนใช้มาแก้ปัญหาแรงกระตุ้นทางร่างกาย?’

 

 

เดิมทีชุยหังไม่อยากจะให้ความสนใจเขา แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อจะส่งข้อความมาอีกว่า

 

 

[นายบล็อกวีแชทฉันอีกวีแชทนึง ฉันหมดหนทางจะแอดนาย ฉันก็เลยสมัครวีแชทอีกวีแชทหนึ่งมา นายให้ฉันแชทเสร็จก่อนได้ไหม]

 

 

ชุยหังชะงักมือตัวเองที่เพิ่งจะเลือกลบหลิวเฮ่อลง

 

 

[ระหว่างพวกเรา ที่จริงไม่มีอะไรที่น่าจะต้องพูดกันแล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลาอะไรกับนายแล้ว ในเมื่อนายคบกับคนอื่นไปแล้ว ก็อย่ามาสร้างเรื่องวุ่นวายให้ฉันอีกเลย] ชุยหังพิมพ์ตอบกลับไป

 

 

หลิวเฮ่อรีบตอบกลับมาในทันใด [เลิกกันแล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม]

 

 

[ไม่ได้] ชุยหังตอบกลับอย่างเด็ดขาด

 

 

หลังจากนั้นเขาก็ลบเบอร์นี้ของหลิวเฮ่อไปทันที

 

 

หลังจากลบแล้ว เขาถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อครู่นี้ตัวเองควรจะบล็อกไปด้วย

 

 

แต่ว่าก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้ว ต่อให้เขามาก่อกวนตัวเองอีก ตัวเองก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นก็โอเคแล้ว

 

 

‘เขาคิดได้ยังไง คิดไม่ถึงว่าจะยังมีหน้ามาติดต่อตัวเองได้’

 

 

‘ตัวเองเป็นคนประเภทที่นึกจะเรียกให้มาก็มา นึกจะเรียกให้ไปก็ไปหรือไง’

 

 

เขาเพิ่งจะลบหลิวเฮ่อไป ทางนั้นก็เริ่มจะแอดเขาไม่หยุด

 

 

[ฉันเลิกกับเขาแล้ว นายอย่าโกรธเลยนะ]

 

 

[ตอนนั้นฉันอดใจไม่ได้ชั่ววูบ นายได้โปรดอภัยเถอะนะ ต่อไปฉันจะชดเชยให้นายแน่]

 

 

[เอ่อใช่ นายมีเงินใช้พอหรือเปล่า ฉันให้นายเอาไหม]

 

 

ข้อความยืนยันมาต่อกันเรื่อยๆ มันหนักหัวชุยหังแล้ว

 

 

ชุยหังทนไม่ไหว ติดต่อเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ส่งข้อความเข้าไป

 

 

[ฉันไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับนายแล้ว ฉันเองก็ไม่ใช่ขอทาน เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้ใช้เงินของนาย ต่อไปก็ไม่มีทาง นายไม่ต้องมาใช้วิธีที่น่าสะอิดสะเอียนแบบนี้มาพูดอะไรกับฉันแล้ว]

 

 

ชุยหังเป็นคนที่หักดิบง่ายมาก เขาไม่อยากจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าที่เลิกกันแล้วอีก

 

 

ถ้าเวลาผ่านไปนาน คนสองคนไม่ชอบอีกฝ่ายแล้ว เพราะเกิดปัญหาในความรักความสัมพันธ์จริงๆ แบบนั้นได้

 

 

แต่ว่านี่เป็นเรื่องของหลักการ เป็นหลิวเฮ่อที่หักหลังเขา ตัวเองไม่มีความยับยั้งชั่งใจ

 

 

ชุยหังไม่ไปคิดอยากจะตำหนิเด็กผู้ชายคนนั้น เพราะว่านี่เป็นปัญหาของหลิวเฮ่อ

 

 

ขอเพียงแต่หลิวเฮ่อเองต้องการจะหักหลัง ต่อให้ไม่ใช่เด็กผู้ชายคนนั้น ก็ต้องเป็นคนอื่นอยู่ดี

 

 

ผู้ชายที่เปลี่ยนใจไปแล้วคนหนึ่ง ถ้าปัดความรับผิดชอบให้บุคคลที่สามด้วยความเคยตัวตลอดก็ยิ่งจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว

 

 

[จะไม่เกี่ยวได้ยังไง นายกลับมาเถอะ หรือว่าฉันเข้าไปหางาน แบบนี้นายจะได้เห็นฉันได้แล้ว] หลิวเฮ่อตอบกลับมา

 

 

ชุยหังยิ้มหัวเราะ เวลานี้ยังจะมาใช้อะไรที่เรียกว่าความโรแมนติกแบบนี้มามอมเมาตัวเอง

 

 

[ไม่ต้องหรอก ตอนนี้นายจะไปไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น วันหลังฉันจะไปไหนก็ไม่ต้องให้นายมาเป็นห่วงหรอก พวกเราต่างคนต่างอยู่]

 

 

คิดไม่ถึงว่าหลิวเฮ่อยังมีคำพูดที่ทำลายทัศนคติต่อโลก ชีวิต และคุณค่าสามสิ่งนี้ของชุยหังด้วย เขาส่งเข้ามาทันที

 

 

[เรื่องนี้จะโทษฉันทั้งหมดก็ไม่ได้หรอกมั้ง ถ้าไม่ใช่ว่าตอนแรกนายแกล้งทำเป็นไร้เดียงสา ไม่ให้ฉันแตะเนื้อต้องตัวอยู่ตลอด ฉันอึดอัดถึงขั้นกลายเป็นแบบนี้ไหม]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 157 ผู้น้อย

 

 

ชุยหังเห็นข้อความนี้ เขาแทบจะเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงแล้ว

 

 

‘นี่มันอะไรกัน เขานอกใจ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ให้เขาแตะเนื้อต้องตัวงั้นเหรอ…

 

 

…แล้วตัวเองยังตกเป็นจำเลยโทษฐานที่แกล้งทำเป็นไร้เดียงสางั้นเหรอ…

 

 

…เขาเห็นตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว เป็นเครื่องมือระบายความใคร่ให้เขางั้นเหรอ…

 

 

…คนอย่างเขาคนแบบนี้ หรือว่าตัวเองทำให้เขาได้ตัวแล้ว เขาก็จะไม่นอกใจแล้วงั้นเหรอ’

 

 

ผู้ชายกากเดนก็คือผู้ชายกากเดน มีความเฉพาะตัวของเขาโดยแท้

 

 

ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ชุยหังรู้สึกว่าหลิวเฮ่อเป็นแบบนี้  ตัวเองจริงใจด้วยไม่ไหวหรอก

 

 

[ส่งเหอะๆ ให้นายอีก นายไปทำความเข้าใจเองแล้วกัน] ชุยหังตอบกลับ

 

 

[หรือว่าไม่ใช่เหรอ คนสองคนคบกัน หรือว่าเรื่องทางนั้นไม่สำคัญ? ฉันเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนธรรมดา มีความต้องการก็เป็นเรื่องปกตินี่] หลิวเฮ่อยังคงเถียงข้างๆ คูๆ

 

 

ชุยหังโกรธจนมือไม้อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว หนังศีรษะก็ชาไปด้วย

 

 

[อืม ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ว่านายก็เป็นแค่อวัยวะสืบพันธุ์เดินได้ อะไรก็ไม่ต้องพูดแล้ว ในสายตาคนอย่างพวกนาย ในเมื่อฉันเป็นคนผิด งั้นก็ปลอบใจตัวเองแบบนี้ ฉันไม่มีเวลาว่างมาคุยไร้สาระกับนายขนาดนั้น]

 

 

[แน่จริงนายก็อย่าบล็อกฉันสิ ฉันจะต้องจีบนายกลับมาให้ได้ นายเชื่อไหม] ไม่รู้ว่าหลิวเฮ่อไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

 

 

แต่ว่าเขาเตือนชุยหังแล้วจริงๆ บล็อกเด็ดขาด

 

 

‘คนแบบนี้ ตัวเองจะเก็บเขาไว้ทำอะไร’

 

 

นึกถึงคำพูดเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ของหลิวเฮ่อ จู่ๆ ชุยหังก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทไปก่อนหน้านี้ช่างไร้ค่า

 

 

‘ตัวเองรักนวลสงวนตัว เพื่อแลกความคิดแบบนี้กลับมาเหรอ…

 

 

…อีกอย่างเขายังมีเหตุผลมากอีก…

 

 

…หรือว่าตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ …

 

 

…นี่เป็นปัญหาของตัวเอง หรือเป็นปัญหาของคนอื่น…

 

 

…ถ้าเป็นปัญหาของตัวเองจริงๆ แล้วหลูจื้อจะมีความคิดเหมือนหลิวเฮ่อหรือเปล่า อึดอัดจนรู้สึกแย่’

 

 

เดิมทีที่วันนี้ซ่งไข่โทรมาคุยกับเขาเสร็จ หลังจากที่เขารู้สถานการณ์ของหลูจื้อทางนั้นแล้ว เขาก็กลุ้มใจมากแล้ว

 

 

ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรแบบนี้เพิ่มมาอีก

 

 

เขาหมดหนทางจะนอนได้แล้ว นอนไม่หลับโดยสิ้นเชิง

 

 

เขาพลิกตัวลงจากเตียง แล้วคว้ากะละมัง ไปห้องน้ำล้างตัว

 

 

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าพูดกับหลูจื้อว่าตัวเองลบไปแล้ว

 

 

คิดดูแล้ว เขาส่งวีแชทหาหลูจื้อ [รูปถ่ายพวกนั้นก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันล้างประวัติในวีแชท เผลอลบไปไม่ทันระวัง ส่งมาให้ฉันอีกหน่อยสิ]

 

 

แน่นอนเขาไม่มีทางจะยอมรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่อยากจะลบเอง แบบนั้นคาดว่าตัวเองจะตายอย่างหน้าอนาถมากจริงๆ

 

 

หลูจื้อไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อยู่นานสองนาน ชุยหังไม่รู้ว่าเขากำลังยุ่งกับงานหรือว่ายุ่งกับการดูตัวอยู่

 

 

ถ้าไม่มีคำพูดเหล่านั้นที่ซ่งไข่พูดกับเขา เขาก็จะไม่นึกถึงเรื่องหาคู่ดูตัวเรื่องนี้เด็ดขาด

 

 

แต่ว่าครอบครัวแบบนั้น หลูจื้อเองก็คงจะทำอะไรมากไม่ได้เหมือนกัน

 

 

ตอนที่หลูจื้อตัดสินใจจะคบกับตัวเอง การตัดสินใจของหลูจื้อที่จริงแล้วยิ่งใหญ่กว่าตัวเองเสียอีก

 

 

เว้นเสียแต่ว่าเขาแค่เพียงอยากจะเล่นๆ กันเท่านั้น

 

 

แต่ว่าชุยหังเองก็ยังไม่เคยเห็นคนที่โยกย้ายงานแลกกับเส้นทางที่เลื่อนขั้นอย่างยากลำบากกว่าเดิมได้เล่นอย่างนี้มาก่อน

 

 

พุ่งชนด้วยจุดนี้ เขาจึงยอมเชื่อหลูจื้อ ยอมรอเขาเอ่ยปากกับตัวเอง

 

 

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ได้ข่าวคราวของหลูจื้อสักที

 

 

[ไม่มีอะไรทำมาล้างประวัติวีแชทอะไร]

 

 

ชุยหางรีบอธิบาย [มือถือเครื่องเดินช้าแล้ว เลยล้างขยะสักหน่อย]

 

 

[ก็เลยลบรูปฉันลงถังขยะไปด้วยเลย?] คำถามของหลูจื้อทำให้ชุยหังระแวงขึ้นมาในทันใด

 

 

‘เจ้าหมอนี่ เรื่องเยอะจริงๆ ให้นายส่งก็ส่งมาสิ จะมาพล่ามอะไรมากมายขนาดนั้น’

 

 

แต่ว่าเขาก็ทำได้แค่บ่นอุบอิบอยู่ในใจ ไม่กล้าส่งออกไปตรงๆ

 

 

[ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย…นายส่งให้ฉันอีกได้ไหม]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+