[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 31 มิโกะมังกร

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 31 มิโกะมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 31

มิโกะมังกร

 

 

“โห สุดยอดชะมัด… เพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นใกล้ๆตอนนี้นี่แหละ”

 

  กีแต่งกายด้วยชุดสีขาว กลมกลืนไปกับสีขาวของต้นไม้และพุ่มไม้รอบๆ ซุ่มมองอยู่เงียบๆแม้กระทั่งตอนพูดยังยากที่จะได้ยิน คนที่อยู่ถัดจากกีคือซานา และถัดไปอีกคือเซเลน รอบๆก็มีนักรบของเผ่าเอลฟ์อีกหลายคน บัตเลอร์ที่ยังคงถูกควบคุมตัวก็มาพร้อมกับเซเลน เธอถูกจับสวมผ้าคลุมสีขาวทั้งตัว โผล่ออกมาแค่ใบหน้า จนดูเหมือนตุ๊กตาไล่ฝน เป็นผ้าคลุมที่มีผลทำให้ไม่สามารถรับรู้ตัวตนของเซเลนที่เป็นมนุษย์ได้

 

  ตามที่รายงานที่ได้มา มังกรเดินวนเวียนอยู่บริเวณที่มีต้นไม้น้อย ใกล้กับที่ที่เซเลนถูกจับ บางทีก็เขี่ยพงไม้หรือนอนหมอบบ้างเป็นครั้งคราว ดูเหมือนคนที่มีเวลาว่างเหลือเฟือ

 

“เดี่ยวจะให้เจ้าตัวเล็กออกไปเผชิญหน้าตามแผน คอยสังเกตปฏิกิริยาเอาไว้ด้วย”

“เดี๋ยวสิ! จะสังเวยเด็กตัวแค่นี้จริงๆเหรอ?”

 

  ซานาทักท้วงแผนการของกี

 

“ถึงขั้นนี้แล้วเธอยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับพวกเราสักหน่อย”

“โกหกชัดๆ มันเขียนอยู่บนหน้านายแหนะ ว่ากำลังโกหกอยู่”

“…เงียบไปเลยน่า”

 

  ถึงกีจะทำเป็นต่อว่าแต่จากน้ำเสียงก็เดาได้ว่าเขาเขินอายอยู่ ถึงจะเกลียดมนุษย์ที่บุกรุกเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากป่าสักแค่ไหน แต่การเสียสละเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผู้ไม่มีความผิด มันก็เกินกว่าจะยอมรับได้ หรือที่จริงก็น่าจะยอมรับได้เพราะจิตใจภายในของเซเลนเป็นชายแก่ ไม่ว่ามันจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็แล้วแต่ กีและคนอื่นๆเห็นเซเลนเป็นแค่เด็กน้อยผู้ใสซื่อคนหนึ่งเท่านั้น

 

“ถ้าพวกเราออกไปเองมันจะเสี่ยงเกินไป และถึงยังไงเจ้าตัวเล็กนี่ก็เกี่ยวข้องกับมังกรอยู่จริงๆ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไป ถ้าตายก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?”

“อือ”

 

  ไม่ใช่ซานาที่ยอมรับแผนการของกีอย่างง่ายๆ แต่เป็นเซเลนที่ตอบออกมาเองขณะที่ฟังอยู่จากด้านหลังพวกเขา ในมุมมองของเซเลน สถานการณ์นี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย มังกรแค่มารับเธอตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น แต่มันก็ทำให้กีแปลกใจที่เซเลนยอมรับเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย เป็นการเตรียมใจที่หนักแน่นกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ แม้แต่นักรบมากประสบการณ์ของเอลฟ์หลายคน เมื่อได้เห็นมังกรในระยะใกล้ก็ยังตัวสั่นไม่หาย

 

“เอาผ้าคลุมออกได้”

“นี่ เธอคิดดีแล้วเหรอ? ถึงทางนี้จะบอกว่าให้ไปก็เถอะ แต่เธอกำลังจะไปอยู่ต่อหน้าสิ่งที่อันตรายที่สุดเชียวนะ?”

“สบายมาก”

“…เข้าใจแล้ว”

 

  กีสั่งซานาให้ถอดผ้าคลุมปกปิดตัวตนของเซเลนที่สวมไว้ก่อนหน้านี้ เอลฟ์ที่เชี่ยวชาญในการควบคุมพลังเวทย์สามารถใช้เวทย์มนต์ปิดบังตัวตนของตัวเองสำหรับพรางตัวในป่าสีขาวนี้ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กชาวมนุษย์ เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้ และตอนนี้เธอก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้เพราะสิ่งสุดท้ายที่คุ้มครองเธออยู่ได้ถูกนำออกไปแล้ว แต่เซเลนก็ยังยิ้มอยู่

 

“บ๊ายบาย”

 

  คำพูดแปลกๆทำให้กีและซานายิ่งสับสนเข้าไปอีก เซเลนโบกมือให้และเดินแหวกพุ่มไม้ออกไปอย่างไม่ลังเล ปราศจากความหวาดกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เหมือนแค่ไปทักทายคนรู้จัก

 

  ทันทีที่เซเลนโผล่ออกมจากพุ่มไม้ มังกรก็วิ่งเข้าหาด้วยร่างกายที่ใหญ่โตจนพื้นดินสะเทือน

 

[“ช้ามาก! ไปอยู่ที่ไหนมา! ทำไมถึงปล่อยให้ข้าต้องรอ!”]

 

   มังกรส่งเสียงคำรามออกมารุนแรงจนรู้สึกถึงความร้อนจากลมหายใจที่ใกล้จะระเบิดออกมา บัตเลอร์จึงโผล่ออกมาเบื้องหน้าให้เห็นตัวอย่างรีบร้อน

 

[“โปรดฟังก่อนครับ ท่านมังกรแดง! เรื่องนี้มีเหตุผลครับ”]

[“งั้นเหรอ? หนู… บัตเลอร์ ไหนลองอธิบายให้ข้าฟังหน่อย ว่าเหตุผลของเจ้าคืออะไร?”]

[“อันที่จริง เมื่อวานนี้…………”]

[“งั้นเหรอ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสินะ”]

 

   บัตเลอร์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่แยกทางกันให้ฟัง ว่าพวกเขาถูกเอลฟ์จับตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน พวกเอลฟ์ที่สังเกตการณ์อยู่จากในพุ่มไม้ มองมาราวกับได้เห็นปาฏิหาริย์

 

“มังกรนั่งเงียบอย่างกับสุนัขเชื่องๆเลย…”

“บ้าไปแล้ว…? มังกรเชื่อฟังเด็กคนนั้น!?”

 

  กีและซานาอยากจะหยิกแก้มตัวเองเพราะภาพอันน่าเหลือเชื่อที่อยู่ตรงหน้า สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มังกรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดสำหรับโลกนี้ ลงนั่งและผงกหัวอยู่ต่อหน้าเด็กสาวตัวเล็กๆ เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ตามสามัญสำนึกของพวกเขา

 

  ผู้ที่กำลังพูดคุยอยู่ไม่ใช่เซเลนแต่เป็นบัตเลอร์ แต่พวกเขาไม่มีทางได้ยินเสียงของบัตเลอร์ จากมุมมองของกีและคนอื่นๆจะดูเหมือนเซเลนกำลังพูดกับมังกรอยู่

 

[“พูดสั้นๆว่า ขณะที่รอก็มีเอลฟ์มาโจมตี และถูกจับตัวไป ถูกต้องไหม?”]

[“ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วครับ”]

 

   บัตเลอร์พยายามอธิบายอยู่หลายครั้งจนในที่สุดมังกรแดงก็ดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องราว ถึงเซเลนจะเป็นคนที่สมองช้า แต่มังกรแดงตัวนี้สมองช้ายิ่งกว่าเซเลน หลังจากเรียบเรียงเรื่องราวในหัวเสร็จเรียบร้อย มังกรก็หลับตาลงและสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด

 

“กรร—…!!!”

 

  มังกรเงยหน้าไปยังท้องฟ้า คำรามออกมาเสียงดัง อากาศสั่นสะเทือนราวกับเกิดพายุ หางอันใหญ่โตของมังกรแดงเหวี่ยงไปกระแทกกับต้นไม้บริเวณนั้น ต้นไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านมานานหลายร้อยปีหักโค่นเหมือนก้านไม้ขีด

 

“เจ้าพวกเอลฟ์แห่งป่าสีขาว! ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่! อย่าคิดหลบซ่อนและแสดงตัวออกมาซะ! มิฉะนั้น เพลิงของข้าจะเปลี่ยนฝืนป่าสีขาวให้เป็นเถ้าถ่านสีดำ!”

 

   มังกรตะโกนออกมาเป็นคำพูดกับเอลฟ์ ต่างกับตอนที่สื่อสารกันทางจิตกับพวกของเซเลน เพื่อที่คนทั่วไปจะได้เข้าใจ ทุกลมหายใจเป็นสะเก็ดไฟและไอร้อนราวกับภูเขาไฟใกล้ประทุ แสดงถึงความเดือดดาล

 

“น-นี่! มังกรดูเหมือนจะโกรธสุดๆไปเลยไม่ใช่เหรอ!?”

“ก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่พวกเราคงไปสัมผัสถูกเกล็ดกลับด้านของมังกรเข้าแล้ว”

 

  เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามนุษย์ที่พวกเขาจับมาคือสิ่งที่ไม่ควรแตะต้องเป็นอันขาด กีกำลังใช้ความคิดอย่างเต็มที่ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้เลย ในเมื่อถูกมังกรสั่งให้ออกไปปรากฏตัวต่อหน้าก็ถอยหนีไม่ได้  คำพูดของมังกรเปรียบเสมือนคำบัญชาจากสวรรค์สำหรับเอลฟ์

 

“ผมไปก่อนนะ ซานา พวกเธอรออยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผมล่ะก็… ให้เธอช่วยจัดการที่เหลือแทนก็แล้วกัน”

“…เอ๋ เรื่องแบบนี้!”

“ฝากด้วยนะ”

 

   ก่อนที่ซานาจะหยุดเขาเอาไว้ กีก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากพุ่มไม้ ในใจยังหวาดกลัวกับพลังอันต่างชั้นที่อยู่เบื้องหน้าแต่ภายนอกก็ยังต้องแสดงบทบาทของหัวหน้าหมู่บ้านผู้มีเกียรติต่อไป เมื่อถึงเบื้องหน้าก็คุกเข่าอย่างนอบน้อมต่อหน้ามังกรแดง ข้างๆกับเซเลนที่ยืนอยู่

 

“ท่านมังกรแดง ผมมีชื่อว่ากี เป็นผู้นำของเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่าละแวกนี้”

“เจ้าน่ะเหรอผู้นำของเอลฟ์ เอลฟ์สมัยนี้เลือกผู้นำได้อ่อนเยาว์และโง่เขลายิ่งนัก”

“ผมยังอ่อนเยาว์อย่างทีท่านว่า แต่โง่เขลานี่ท่านหมายถึงสิ่งใด?”

“ข้ารู้มาว่าพวกเจ้ามีความคิดจะฆ่าสมบัติอันล้ำค่าของข้า ผู้ที่กระทำเช่นนั้นจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากไอ้โง่”

“สมบัติล้ำค่า… ท่านหมายถึงเด็กสาวมนุษย์ผู้นี้หรือ?”

“ถูกต้อง เธอผู้นี้คือคนที่ข้าจะให้ความคุ้มครองไปอีกร้อยปี”

“หา ร้อยปี!? เป็นความจริงหรือครับ?”

“ใช่แล้ว ข้าจะคุ้มครองเธอเพื่ออนาคตอันรุ่งโรจน์ของข้า”

 

  มังกรพูดเสียงดังอย่างมั่นใจและหันไปหาเซเลน กีมองตามไปที่เซเลนด้วยท่าทางแข็งทื่อ และเซเลนก็พยักหน้ายืนยัน 

 

“(หนึ่งร้อยปีสำหรับมนุษย์… ก็เท่ากับว่าจะได้รับความคุ้มครองไปชั่วชีวิตเลยไม่ใช่เหรอ?)”

 

  เหงื่อเย็นๆไหลไปตามแผ่นหลังของกีขณะที่เขาหันกลับไปหามังกรแดง แม้แต่กับเอลฟ์ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความคุ้มครองจากมังกรชั่วชีวิต ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ทั่วไปด้วยซ้ำ

 

   ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกี้ได้ยินว่าเซเลนจะนำพาอนาคตอันรุ่งโรจน์มาสู่มังกร เด็กสาวคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงจะไม่รู้เรื่องนั้นก็มั่นใจได้ว่าเด็กสาวที่พวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยคนนี้ เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ

 

   ที่จริงแล้ว เซเลนก็เป็นแค่เซเลนธรรมดา ชายวัยกลางคนในร่างสาวน้อยผู้งดงาม เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้

 

“ข้าเสียเวลามามากพอแล้ว เอลฟ์ที่ทำร้ายเซเลนจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต”

“ท่านมังกรแดง! เอลฟ์อย่างพวกเราบูชาท่านมังกรแดงมาตลอด! การตัดสินเช่นนี้มัน…!”

“หุบปาก! บาปที่บังอาจแตะต้องสมบัติของข้าก็จงรับกรรมไปซะ!”

 

   กีเงยหน้ามองอย่างตื่นตระหนก หากมังกรปลดปล่อยพลังออกมาแม้เพียงชั่วพริบตา จะเกิดเป็นภัยพิบัติอย่างรุนแรงกับเผ่าเอลฟ์ นี่คือการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่ส่งผ่านมังกร เพราะเขากระทำการหยาบคายกับสตรีผู้ที่เป็นนักบวชแห่งมังกร แม้จะทำไปเพราะความไม่รู้ก็ตาม

 

   แต่กีก็เป็นถึงผู้นำที่ต้องรับผิดชอบเอลฟ์ทั้งหมู่บ้าน จะให้ยอมรับความตายง่ายๆก็ทำไม่ได้ หนทางแก้ไขสถานการในตอนนี้นี้ก็ยังคิดไม่ออก ได้แต่ก้มหัวขอโทษให้ต่ำที่สุดจนหน้าผากจมไปในดินอยู่อย่างนี้

 

“หยุดก่อน”

 

  เสียงพูดห้ามที่ดังขึ้นมากะทันหัน เป็นคำพูดของเซเลน บุคคลที่เคยถูกพวกเอลฟ์ทำร้าย มังกรแดงไม่เข้าใจเจตนาของเซเลนจึงถามออกไป

 

“เอลฟ์พวกนี้เคยคิดจะฆ่าเจ้ากับบัตเลอร์ไม่ใช่รึ? ไม่มีเหตุผลที่ควรอภัยให้เลยสักนิด”

“เอลฟ์ ไม่ใช่คนร้าย คนร้าย คือคนอื่น”

 

   ‘คนร้าย’ที่เซเลนหมายถึงในที่นี้คือเจ้าชายแห่งความชั่วร้าย มิลาน ผู้ที่หลอกล่อเธอด้วยคำพูดอันสวยงามว่า สวนแห่งยูริ จนต้องมาเผชิญกับความโชคร้ายไม่รู้จบอยู่อย่างนี้ เอลฟ์เป็นแค่เหยื่อทางอ้อมเท่านั้น ต้นตอของความวุ่นวายทั้งหมดคือเจ้าชายนั่น ถ้าอยากฆ่าใครสักคนก็ต้องเป็นเขาก่อน

 

   เซเลนคิดไว้แค่นั้น เป็นเรื่องของความแค้นไม่ใช่ความเมตตา แต่คำพูดของเซเลนก็ได้ช่วยกีไว้ได้

 

“ท่านมังกรแดง เซเลน…พูดถูกต้องแล้ว พวกเราไม่ใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล เพราะมนุษย์บุกรุกเข้ามาในดินแดนของเรามากขึ้น ช่วงชิงอาหารของพวกเรา จึงไม่มีทางเลือก”

“อืม จะบอกว่าเจ้าเข้าใจผิด คิดว่าเซเลนคือ ‘คนร้าย’ ที่ว่านั่นสินะ”

“อันที่จริง พวกเราก็มีแผนการที่จะส่งตัวท่านเซเลนคืนให้กับมนุษย์ในอีกสองสัปดาห์อยู่แล้ว ถ้าแค่พวกเราทราบมาก่อนว่าเธอเป็นคนของท่านมังกรแดงก็จะไม่ทำเรื่องเสียมารยาทกับเธออย่างแน่นอน พวกเราจะเชิญเธอมาที่หมู่บ้านและต้อนรับอย่างแขกผู้มีเกียรติ”

 

  ถ้อยคำมากมายที่กีใช้อธิบายทำให้มังกรแดงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง และในที่สุดก็เริ่มพูดต่อ

 

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอมอบคำสั่งให้แก่เอลฟ์ ทำให้แน่ใจว่าเด็กสาวคนนี้จะกลับไปยังเมืองของมนุษย์อย่างปลอดภัยภายในสองสัปดาห์ แล้วข้าจะไม่เอาผิดเรื่องในคราวนี้”

“ขอบคุณในความเมตตาของท่าน!”

 

   กีก้มหัวติดพื้น

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ขอจบเรื่องแต่เพียงเท่านี้ ข้าจะไปทำสิ่งที่ต้องทำอยู่ทุกวันต่อ”

“นี่ เดี๋ยว อ๊า…!”

 

   เซเลนยังไม่ทันจะพูดว่า ‘นี่ เดี๋ยวก่อน! ไหนว่าจะพากลับไปส่งที่บ้านไง…’ มังกรแดงก็กางปีกทะยานขึ้นไปเหนือต้นไม้แล้ว

 

“ข้าไม่สามารถเฝ้าดูทุกเรื่องราวได้ เพราะฉะนั้น จนกว่าเด็กสาวผู้นี้จะกลับคืนสู่เมืองของมนุษย์ เจ้าต้องดูแลเธอให้ปลอดภัยที่สุด แม้แต่ยุงสักตัวก็อย่าให้มากัด”

“ครับ! ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านประสงค์!”

 

  กีตอบโดยที่ยังคุกเข่ากับมังกรแดงที่บินห่างออกไป ก่อนที่จะรู้ตัว ซานาและคนอื่นๆก็เข้ามาอยู่รอบๆกีแล้ว พวกเขาทั้งหมดคุกเข่าแสดงความเคารพต่อมังกรแดงและสตรีผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง เซเลน 

 

  ในความคิดของมังกรแดง การที่ต้องพาเซเลนไปส่งที่เมืองหลวงของเฮลิฟาเต้หมายถึงการออกนอกเส้นทางการบินปรกติ ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง จึงเห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่พวกเอลฟ์เข้าใจว่ามังกรแดงให้โอกาสพวกเขาได้แก้ตัว

 

“ไปซะแล้ว…”

[“ไปแล้วล่ะครับ…”]

 

   เซเลนและบัตเลอร์มองตามมังกรแดงที่ค่อยๆไกลออกไปจนลับสายตา จากนั้นก็ถูกพากลับไปยังหมู่บ้านเอลฟ์โดยได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นสิ่งเคารพบูชาตรงข้ามกับการถูกจับไปอย่างวุ่นวายเช่นเมื่อวานโดยสิ้นเชิง

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“อา! หวา!”

 

   สามวันผ่านไป เซเลนบิดขี้เกียจในร่างเปลือยเปล่า เซเลนและบัตเลอร์กลับมาที่หมู่บ้านของเอลฟ์ในฐานะ ‘นักบวชแห่งมังกร’ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยังได้ใช้บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติของหมู่บ้านเพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์อยู่เสมออีกด้วย

 

   ที่จริง เซเลนไม่ใช่คนที่ยึดติดกับการอาบน้ำ แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่เหล่าสาวงามชาวเอลฟ์ที่ถูกเซเลนเลือกให้มาช่วยเหลือเธอในการชำระล้างร่างกาย พวกเธอจะช่วยลูบไล้เช็ดถูร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า และบางครั้งเซเลนก็จะลูบไล้เช็ดถูพวกเธอกลับด้วยเช่นกัน เป็นสถานการณ์ที่ให้ความรู้สึกว่า ในที่สุดก็เจอดินแดนแห่งความฝันสักที

 

   โลกเอ๋ย นี่แหละ คือสวนแห่งยูริ เซเลนท่องกลอนแปลกๆอยู่ในใจ ตอนนี้เซเลนเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งชายแก่ครึ่งหญิงสาว ที่ไล่ตามกิเลสตัณหาจนได้รับชัยชนะ สิ่งมีชีวิตที่จะเป็นตำนาน

 

“สวรรค์ ชัดๆ”

 

   เซเลนเปล่งประกายทั้งร่างกายและจิตใจ ตอนนี้กำลังแช่อยู่ในบ่ออาบน้ำเพียงลำพัง เอาผ้าเช็ดตัวมาตีโป่งเล่นเป็นแมงกะพรุน ไม่มีความรู้สึกอยากกลับบ้านเหลืออยู่แม้แต่น้อย แต่ถึงยังไง อาลัวก็ยังอยู่ที่เมืองหลวง จึงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่เช่นนี้ตลอดไปได้

 

   พอคิดว่าจะต้องจากที่แห่งนี้ในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก็น่าเสียดาย มีวิธีไหนบ้างที่จะได้ใช้ชีวิตในดินแดนแห่งความฝันนี้ต่อไปได้อีก

 

   ทันใดนั้น กระแสไฟฟ้าในสมองของเซเลนก็ทำปฏิกิริยาเพื่อแสดงความอัจฉริยะออกมา ถ้าลองขอให้มังกรแดงจับตัวท่านพี่อาลัวมาด้วยอีกคนล่ะ อาลัวเป็นมนุษย์ที่มีพลังเวทย์อยู่แล้ว จึงอาศัยอยู่ในป่าสีขาวได้ไม่มีปัญหา และเนื่องจากเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด ก็สามารถใช้เรื่องนั้นเกลี้ยกล่อมมังกรแดงได้

 

“ให้บัตเลอร์ช่วย ก็แล้วกัน”

 

  เซเลนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ลุกออกจากบ่ออาบน้ำและเช็ดเส้นผมให้แห้ง เธอรู้ตัวดีว่าไม่มีความสามารถพอที่จะเจรจาด้วยตนเอง จึงจะขอให้บัตเลอร์ช่วยพูดกับมังกรแดงให้ จากนั้นพวกเธอสองพี่น้องก็จะได้เฉลิมฉลองอยู่ในสรวงสวรรค์กลางป่าสีขาวพร้อมกับเหล่าหญิงสาวชาวเอลฟ์ผู้งดงามที่คอยรับใช้

 

  ก่อนหน้านี้อาลัวเคยพูดไว้ว่า ‘พวกเราเป็นพี่น้องกัน และระหว่างผู้หญิงก็ไม่สามารถแต่งงานกันได้’ แต่ที่นี่เป็นดินแดนของเอลฟ์ ไม่สามารถใช้ตรรกะของมนุษย์กับพวกเราได้ที่นี่

 

“ใช่แล้ว!”

 

   เซเลนใช้สองมือตบแก้มเรียกสติ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เธอเอาแต่คิดหาวิธีกำจัดเจ้าชายจนนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน ถึงจะนอนก็ยังต้องคอยคิด แต่ในตอนนี้ หนทางที่จะได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องสู้ อยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

   เซเลนนั่งอยู่บนบัลลังก์อันหรูหราที่ประดับประดาด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน สวมเสื้อผ้าสีขาวหลวมๆที่ดูเหมือนผ้าคลุม ซึ่งเป็นชุดที่พวกเอลฟ์เตรียมมาให้เธอ ยกถ้วยทรงสูงใส่น้ำผลไม้ขึ้นมาเขย่าและจิบ นึกถึงอนาคตอันใกล้ที่ส่องสว่างสดใส 

                                                                

   ลาก่อน เจ้าชาย เหลือตัวคนเดียวแล้วหวังว่าจะมีความสุขนะ เซเลนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเป็นผู้ที่เหนือกว่า

 

  –เซเลนใช้ชีวิตสมใจอยากจนผ่านไปอีกสองวัน กลุ่มของมิลานก็เดินทางกลับถึงเฮลิฟาเต้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 31 มิโกะมังกร

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 31 มิโกะมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 31

มิโกะมังกร

 

 

“โห สุดยอดชะมัด… เพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นใกล้ๆตอนนี้นี่แหละ”

 

  กีแต่งกายด้วยชุดสีขาว กลมกลืนไปกับสีขาวของต้นไม้และพุ่มไม้รอบๆ ซุ่มมองอยู่เงียบๆแม้กระทั่งตอนพูดยังยากที่จะได้ยิน คนที่อยู่ถัดจากกีคือซานา และถัดไปอีกคือเซเลน รอบๆก็มีนักรบของเผ่าเอลฟ์อีกหลายคน บัตเลอร์ที่ยังคงถูกควบคุมตัวก็มาพร้อมกับเซเลน เธอถูกจับสวมผ้าคลุมสีขาวทั้งตัว โผล่ออกมาแค่ใบหน้า จนดูเหมือนตุ๊กตาไล่ฝน เป็นผ้าคลุมที่มีผลทำให้ไม่สามารถรับรู้ตัวตนของเซเลนที่เป็นมนุษย์ได้

 

  ตามที่รายงานที่ได้มา มังกรเดินวนเวียนอยู่บริเวณที่มีต้นไม้น้อย ใกล้กับที่ที่เซเลนถูกจับ บางทีก็เขี่ยพงไม้หรือนอนหมอบบ้างเป็นครั้งคราว ดูเหมือนคนที่มีเวลาว่างเหลือเฟือ

 

“เดี่ยวจะให้เจ้าตัวเล็กออกไปเผชิญหน้าตามแผน คอยสังเกตปฏิกิริยาเอาไว้ด้วย”

“เดี๋ยวสิ! จะสังเวยเด็กตัวแค่นี้จริงๆเหรอ?”

 

  ซานาทักท้วงแผนการของกี

 

“ถึงขั้นนี้แล้วเธอยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับพวกเราสักหน่อย”

“โกหกชัดๆ มันเขียนอยู่บนหน้านายแหนะ ว่ากำลังโกหกอยู่”

“…เงียบไปเลยน่า”

 

  ถึงกีจะทำเป็นต่อว่าแต่จากน้ำเสียงก็เดาได้ว่าเขาเขินอายอยู่ ถึงจะเกลียดมนุษย์ที่บุกรุกเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากป่าสักแค่ไหน แต่การเสียสละเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผู้ไม่มีความผิด มันก็เกินกว่าจะยอมรับได้ หรือที่จริงก็น่าจะยอมรับได้เพราะจิตใจภายในของเซเลนเป็นชายแก่ ไม่ว่ามันจะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็แล้วแต่ กีและคนอื่นๆเห็นเซเลนเป็นแค่เด็กน้อยผู้ใสซื่อคนหนึ่งเท่านั้น

 

“ถ้าพวกเราออกไปเองมันจะเสี่ยงเกินไป และถึงยังไงเจ้าตัวเล็กนี่ก็เกี่ยวข้องกับมังกรอยู่จริงๆ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไป ถ้าตายก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใช่ไหมล่ะ?”

“อือ”

 

  ไม่ใช่ซานาที่ยอมรับแผนการของกีอย่างง่ายๆ แต่เป็นเซเลนที่ตอบออกมาเองขณะที่ฟังอยู่จากด้านหลังพวกเขา ในมุมมองของเซเลน สถานการณ์นี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย มังกรแค่มารับเธอตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น แต่มันก็ทำให้กีแปลกใจที่เซเลนยอมรับเรื่องแบบนี้ได้หน้าตาเฉย เป็นการเตรียมใจที่หนักแน่นกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ แม้แต่นักรบมากประสบการณ์ของเอลฟ์หลายคน เมื่อได้เห็นมังกรในระยะใกล้ก็ยังตัวสั่นไม่หาย

 

“เอาผ้าคลุมออกได้”

“นี่ เธอคิดดีแล้วเหรอ? ถึงทางนี้จะบอกว่าให้ไปก็เถอะ แต่เธอกำลังจะไปอยู่ต่อหน้าสิ่งที่อันตรายที่สุดเชียวนะ?”

“สบายมาก”

“…เข้าใจแล้ว”

 

  กีสั่งซานาให้ถอดผ้าคลุมปกปิดตัวตนของเซเลนที่สวมไว้ก่อนหน้านี้ เอลฟ์ที่เชี่ยวชาญในการควบคุมพลังเวทย์สามารถใช้เวทย์มนต์ปิดบังตัวตนของตัวเองสำหรับพรางตัวในป่าสีขาวนี้ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กชาวมนุษย์ เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้ และตอนนี้เธอก็ไม่สามารถซ่อนตัวได้เพราะสิ่งสุดท้ายที่คุ้มครองเธออยู่ได้ถูกนำออกไปแล้ว แต่เซเลนก็ยังยิ้มอยู่

 

“บ๊ายบาย”

 

  คำพูดแปลกๆทำให้กีและซานายิ่งสับสนเข้าไปอีก เซเลนโบกมือให้และเดินแหวกพุ่มไม้ออกไปอย่างไม่ลังเล ปราศจากความหวาดกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เหมือนแค่ไปทักทายคนรู้จัก

 

  ทันทีที่เซเลนโผล่ออกมจากพุ่มไม้ มังกรก็วิ่งเข้าหาด้วยร่างกายที่ใหญ่โตจนพื้นดินสะเทือน

 

[“ช้ามาก! ไปอยู่ที่ไหนมา! ทำไมถึงปล่อยให้ข้าต้องรอ!”]

 

   มังกรส่งเสียงคำรามออกมารุนแรงจนรู้สึกถึงความร้อนจากลมหายใจที่ใกล้จะระเบิดออกมา บัตเลอร์จึงโผล่ออกมาเบื้องหน้าให้เห็นตัวอย่างรีบร้อน

 

[“โปรดฟังก่อนครับ ท่านมังกรแดง! เรื่องนี้มีเหตุผลครับ”]

[“งั้นเหรอ? หนู… บัตเลอร์ ไหนลองอธิบายให้ข้าฟังหน่อย ว่าเหตุผลของเจ้าคืออะไร?”]

[“อันที่จริง เมื่อวานนี้…………”]

[“งั้นเหรอ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสินะ”]

 

   บัตเลอร์เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่แยกทางกันให้ฟัง ว่าพวกเขาถูกเอลฟ์จับตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน พวกเอลฟ์ที่สังเกตการณ์อยู่จากในพุ่มไม้ มองมาราวกับได้เห็นปาฏิหาริย์

 

“มังกรนั่งเงียบอย่างกับสุนัขเชื่องๆเลย…”

“บ้าไปแล้ว…? มังกรเชื่อฟังเด็กคนนั้น!?”

 

  กีและซานาอยากจะหยิกแก้มตัวเองเพราะภาพอันน่าเหลือเชื่อที่อยู่ตรงหน้า สิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มังกรที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดสำหรับโลกนี้ ลงนั่งและผงกหัวอยู่ต่อหน้าเด็กสาวตัวเล็กๆ เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ตามสามัญสำนึกของพวกเขา

 

  ผู้ที่กำลังพูดคุยอยู่ไม่ใช่เซเลนแต่เป็นบัตเลอร์ แต่พวกเขาไม่มีทางได้ยินเสียงของบัตเลอร์ จากมุมมองของกีและคนอื่นๆจะดูเหมือนเซเลนกำลังพูดกับมังกรอยู่

 

[“พูดสั้นๆว่า ขณะที่รอก็มีเอลฟ์มาโจมตี และถูกจับตัวไป ถูกต้องไหม?”]

[“ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วครับ”]

 

   บัตเลอร์พยายามอธิบายอยู่หลายครั้งจนในที่สุดมังกรแดงก็ดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องราว ถึงเซเลนจะเป็นคนที่สมองช้า แต่มังกรแดงตัวนี้สมองช้ายิ่งกว่าเซเลน หลังจากเรียบเรียงเรื่องราวในหัวเสร็จเรียบร้อย มังกรก็หลับตาลงและสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด

 

“กรร—…!!!”

 

  มังกรเงยหน้าไปยังท้องฟ้า คำรามออกมาเสียงดัง อากาศสั่นสะเทือนราวกับเกิดพายุ หางอันใหญ่โตของมังกรแดงเหวี่ยงไปกระแทกกับต้นไม้บริเวณนั้น ต้นไม้ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านมานานหลายร้อยปีหักโค่นเหมือนก้านไม้ขีด

 

“เจ้าพวกเอลฟ์แห่งป่าสีขาว! ข้ารู้ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่! อย่าคิดหลบซ่อนและแสดงตัวออกมาซะ! มิฉะนั้น เพลิงของข้าจะเปลี่ยนฝืนป่าสีขาวให้เป็นเถ้าถ่านสีดำ!”

 

   มังกรตะโกนออกมาเป็นคำพูดกับเอลฟ์ ต่างกับตอนที่สื่อสารกันทางจิตกับพวกของเซเลน เพื่อที่คนทั่วไปจะได้เข้าใจ ทุกลมหายใจเป็นสะเก็ดไฟและไอร้อนราวกับภูเขาไฟใกล้ประทุ แสดงถึงความเดือดดาล

 

“น-นี่! มังกรดูเหมือนจะโกรธสุดๆไปเลยไม่ใช่เหรอ!?”

“ก็ไม่ค่อยเข้าใจนักหรอก แต่พวกเราคงไปสัมผัสถูกเกล็ดกลับด้านของมังกรเข้าแล้ว”

 

  เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามนุษย์ที่พวกเขาจับมาคือสิ่งที่ไม่ควรแตะต้องเป็นอันขาด กีกำลังใช้ความคิดอย่างเต็มที่ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้เลย ในเมื่อถูกมังกรสั่งให้ออกไปปรากฏตัวต่อหน้าก็ถอยหนีไม่ได้  คำพูดของมังกรเปรียบเสมือนคำบัญชาจากสวรรค์สำหรับเอลฟ์

 

“ผมไปก่อนนะ ซานา พวกเธอรออยู่ที่นี่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผมล่ะก็… ให้เธอช่วยจัดการที่เหลือแทนก็แล้วกัน”

“…เอ๋ เรื่องแบบนี้!”

“ฝากด้วยนะ”

 

   ก่อนที่ซานาจะหยุดเขาเอาไว้ กีก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากพุ่มไม้ ในใจยังหวาดกลัวกับพลังอันต่างชั้นที่อยู่เบื้องหน้าแต่ภายนอกก็ยังต้องแสดงบทบาทของหัวหน้าหมู่บ้านผู้มีเกียรติต่อไป เมื่อถึงเบื้องหน้าก็คุกเข่าอย่างนอบน้อมต่อหน้ามังกรแดง ข้างๆกับเซเลนที่ยืนอยู่

 

“ท่านมังกรแดง ผมมีชื่อว่ากี เป็นผู้นำของเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่าละแวกนี้”

“เจ้าน่ะเหรอผู้นำของเอลฟ์ เอลฟ์สมัยนี้เลือกผู้นำได้อ่อนเยาว์และโง่เขลายิ่งนัก”

“ผมยังอ่อนเยาว์อย่างทีท่านว่า แต่โง่เขลานี่ท่านหมายถึงสิ่งใด?”

“ข้ารู้มาว่าพวกเจ้ามีความคิดจะฆ่าสมบัติอันล้ำค่าของข้า ผู้ที่กระทำเช่นนั้นจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากไอ้โง่”

“สมบัติล้ำค่า… ท่านหมายถึงเด็กสาวมนุษย์ผู้นี้หรือ?”

“ถูกต้อง เธอผู้นี้คือคนที่ข้าจะให้ความคุ้มครองไปอีกร้อยปี”

“หา ร้อยปี!? เป็นความจริงหรือครับ?”

“ใช่แล้ว ข้าจะคุ้มครองเธอเพื่ออนาคตอันรุ่งโรจน์ของข้า”

 

  มังกรพูดเสียงดังอย่างมั่นใจและหันไปหาเซเลน กีมองตามไปที่เซเลนด้วยท่าทางแข็งทื่อ และเซเลนก็พยักหน้ายืนยัน 

 

“(หนึ่งร้อยปีสำหรับมนุษย์… ก็เท่ากับว่าจะได้รับความคุ้มครองไปชั่วชีวิตเลยไม่ใช่เหรอ?)”

 

  เหงื่อเย็นๆไหลไปตามแผ่นหลังของกีขณะที่เขาหันกลับไปหามังกรแดง แม้แต่กับเอลฟ์ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับความคุ้มครองจากมังกรชั่วชีวิต ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ทั่วไปด้วยซ้ำ

 

   ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกี้ได้ยินว่าเซเลนจะนำพาอนาคตอันรุ่งโรจน์มาสู่มังกร เด็กสาวคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ ถึงจะไม่รู้เรื่องนั้นก็มั่นใจได้ว่าเด็กสาวที่พวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยคนนี้ เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ

 

   ที่จริงแล้ว เซเลนก็เป็นแค่เซเลนธรรมดา ชายวัยกลางคนในร่างสาวน้อยผู้งดงาม เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้

 

“ข้าเสียเวลามามากพอแล้ว เอลฟ์ที่ทำร้ายเซเลนจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต”

“ท่านมังกรแดง! เอลฟ์อย่างพวกเราบูชาท่านมังกรแดงมาตลอด! การตัดสินเช่นนี้มัน…!”

“หุบปาก! บาปที่บังอาจแตะต้องสมบัติของข้าก็จงรับกรรมไปซะ!”

 

   กีเงยหน้ามองอย่างตื่นตระหนก หากมังกรปลดปล่อยพลังออกมาแม้เพียงชั่วพริบตา จะเกิดเป็นภัยพิบัติอย่างรุนแรงกับเผ่าเอลฟ์ นี่คือการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่ส่งผ่านมังกร เพราะเขากระทำการหยาบคายกับสตรีผู้ที่เป็นนักบวชแห่งมังกร แม้จะทำไปเพราะความไม่รู้ก็ตาม

 

   แต่กีก็เป็นถึงผู้นำที่ต้องรับผิดชอบเอลฟ์ทั้งหมู่บ้าน จะให้ยอมรับความตายง่ายๆก็ทำไม่ได้ หนทางแก้ไขสถานการในตอนนี้นี้ก็ยังคิดไม่ออก ได้แต่ก้มหัวขอโทษให้ต่ำที่สุดจนหน้าผากจมไปในดินอยู่อย่างนี้

 

“หยุดก่อน”

 

  เสียงพูดห้ามที่ดังขึ้นมากะทันหัน เป็นคำพูดของเซเลน บุคคลที่เคยถูกพวกเอลฟ์ทำร้าย มังกรแดงไม่เข้าใจเจตนาของเซเลนจึงถามออกไป

 

“เอลฟ์พวกนี้เคยคิดจะฆ่าเจ้ากับบัตเลอร์ไม่ใช่รึ? ไม่มีเหตุผลที่ควรอภัยให้เลยสักนิด”

“เอลฟ์ ไม่ใช่คนร้าย คนร้าย คือคนอื่น”

 

   ‘คนร้าย’ที่เซเลนหมายถึงในที่นี้คือเจ้าชายแห่งความชั่วร้าย มิลาน ผู้ที่หลอกล่อเธอด้วยคำพูดอันสวยงามว่า สวนแห่งยูริ จนต้องมาเผชิญกับความโชคร้ายไม่รู้จบอยู่อย่างนี้ เอลฟ์เป็นแค่เหยื่อทางอ้อมเท่านั้น ต้นตอของความวุ่นวายทั้งหมดคือเจ้าชายนั่น ถ้าอยากฆ่าใครสักคนก็ต้องเป็นเขาก่อน

 

   เซเลนคิดไว้แค่นั้น เป็นเรื่องของความแค้นไม่ใช่ความเมตตา แต่คำพูดของเซเลนก็ได้ช่วยกีไว้ได้

 

“ท่านมังกรแดง เซเลน…พูดถูกต้องแล้ว พวกเราไม่ใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล เพราะมนุษย์บุกรุกเข้ามาในดินแดนของเรามากขึ้น ช่วงชิงอาหารของพวกเรา จึงไม่มีทางเลือก”

“อืม จะบอกว่าเจ้าเข้าใจผิด คิดว่าเซเลนคือ ‘คนร้าย’ ที่ว่านั่นสินะ”

“อันที่จริง พวกเราก็มีแผนการที่จะส่งตัวท่านเซเลนคืนให้กับมนุษย์ในอีกสองสัปดาห์อยู่แล้ว ถ้าแค่พวกเราทราบมาก่อนว่าเธอเป็นคนของท่านมังกรแดงก็จะไม่ทำเรื่องเสียมารยาทกับเธออย่างแน่นอน พวกเราจะเชิญเธอมาที่หมู่บ้านและต้อนรับอย่างแขกผู้มีเกียรติ”

 

  ถ้อยคำมากมายที่กีใช้อธิบายทำให้มังกรแดงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง และในที่สุดก็เริ่มพูดต่อ

 

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอมอบคำสั่งให้แก่เอลฟ์ ทำให้แน่ใจว่าเด็กสาวคนนี้จะกลับไปยังเมืองของมนุษย์อย่างปลอดภัยภายในสองสัปดาห์ แล้วข้าจะไม่เอาผิดเรื่องในคราวนี้”

“ขอบคุณในความเมตตาของท่าน!”

 

   กีก้มหัวติดพื้น

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ขอจบเรื่องแต่เพียงเท่านี้ ข้าจะไปทำสิ่งที่ต้องทำอยู่ทุกวันต่อ”

“นี่ เดี๋ยว อ๊า…!”

 

   เซเลนยังไม่ทันจะพูดว่า ‘นี่ เดี๋ยวก่อน! ไหนว่าจะพากลับไปส่งที่บ้านไง…’ มังกรแดงก็กางปีกทะยานขึ้นไปเหนือต้นไม้แล้ว

 

“ข้าไม่สามารถเฝ้าดูทุกเรื่องราวได้ เพราะฉะนั้น จนกว่าเด็กสาวผู้นี้จะกลับคืนสู่เมืองของมนุษย์ เจ้าต้องดูแลเธอให้ปลอดภัยที่สุด แม้แต่ยุงสักตัวก็อย่าให้มากัด”

“ครับ! ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านประสงค์!”

 

  กีตอบโดยที่ยังคุกเข่ากับมังกรแดงที่บินห่างออกไป ก่อนที่จะรู้ตัว ซานาและคนอื่นๆก็เข้ามาอยู่รอบๆกีแล้ว พวกเขาทั้งหมดคุกเข่าแสดงความเคารพต่อมังกรแดงและสตรีผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง เซเลน 

 

  ในความคิดของมังกรแดง การที่ต้องพาเซเลนไปส่งที่เมืองหลวงของเฮลิฟาเต้หมายถึงการออกนอกเส้นทางการบินปรกติ ซึ่งเป็นการเพิ่มระยะทาง จึงเห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่พวกเอลฟ์เข้าใจว่ามังกรแดงให้โอกาสพวกเขาได้แก้ตัว

 

“ไปซะแล้ว…”

[“ไปแล้วล่ะครับ…”]

 

   เซเลนและบัตเลอร์มองตามมังกรแดงที่ค่อยๆไกลออกไปจนลับสายตา จากนั้นก็ถูกพากลับไปยังหมู่บ้านเอลฟ์โดยได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นสิ่งเคารพบูชาตรงข้ามกับการถูกจับไปอย่างวุ่นวายเช่นเมื่อวานโดยสิ้นเชิง

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“อา! หวา!”

 

   สามวันผ่านไป เซเลนบิดขี้เกียจในร่างเปลือยเปล่า เซเลนและบัตเลอร์กลับมาที่หมู่บ้านของเอลฟ์ในฐานะ ‘นักบวชแห่งมังกร’ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยังได้ใช้บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติของหมู่บ้านเพื่อชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์อยู่เสมออีกด้วย

 

   ที่จริง เซเลนไม่ใช่คนที่ยึดติดกับการอาบน้ำ แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่เหล่าสาวงามชาวเอลฟ์ที่ถูกเซเลนเลือกให้มาช่วยเหลือเธอในการชำระล้างร่างกาย พวกเธอจะช่วยลูบไล้เช็ดถูร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า และบางครั้งเซเลนก็จะลูบไล้เช็ดถูพวกเธอกลับด้วยเช่นกัน เป็นสถานการณ์ที่ให้ความรู้สึกว่า ในที่สุดก็เจอดินแดนแห่งความฝันสักที

 

   โลกเอ๋ย นี่แหละ คือสวนแห่งยูริ เซเลนท่องกลอนแปลกๆอยู่ในใจ ตอนนี้เซเลนเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งชายแก่ครึ่งหญิงสาว ที่ไล่ตามกิเลสตัณหาจนได้รับชัยชนะ สิ่งมีชีวิตที่จะเป็นตำนาน

 

“สวรรค์ ชัดๆ”

 

   เซเลนเปล่งประกายทั้งร่างกายและจิตใจ ตอนนี้กำลังแช่อยู่ในบ่ออาบน้ำเพียงลำพัง เอาผ้าเช็ดตัวมาตีโป่งเล่นเป็นแมงกะพรุน ไม่มีความรู้สึกอยากกลับบ้านเหลืออยู่แม้แต่น้อย แต่ถึงยังไง อาลัวก็ยังอยู่ที่เมืองหลวง จึงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่เช่นนี้ตลอดไปได้

 

   พอคิดว่าจะต้องจากที่แห่งนี้ในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก็น่าเสียดาย มีวิธีไหนบ้างที่จะได้ใช้ชีวิตในดินแดนแห่งความฝันนี้ต่อไปได้อีก

 

   ทันใดนั้น กระแสไฟฟ้าในสมองของเซเลนก็ทำปฏิกิริยาเพื่อแสดงความอัจฉริยะออกมา ถ้าลองขอให้มังกรแดงจับตัวท่านพี่อาลัวมาด้วยอีกคนล่ะ อาลัวเป็นมนุษย์ที่มีพลังเวทย์อยู่แล้ว จึงอาศัยอยู่ในป่าสีขาวได้ไม่มีปัญหา และเนื่องจากเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด ก็สามารถใช้เรื่องนั้นเกลี้ยกล่อมมังกรแดงได้

 

“ให้บัตเลอร์ช่วย ก็แล้วกัน”

 

  เซเลนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ลุกออกจากบ่ออาบน้ำและเช็ดเส้นผมให้แห้ง เธอรู้ตัวดีว่าไม่มีความสามารถพอที่จะเจรจาด้วยตนเอง จึงจะขอให้บัตเลอร์ช่วยพูดกับมังกรแดงให้ จากนั้นพวกเธอสองพี่น้องก็จะได้เฉลิมฉลองอยู่ในสรวงสวรรค์กลางป่าสีขาวพร้อมกับเหล่าหญิงสาวชาวเอลฟ์ผู้งดงามที่คอยรับใช้

 

  ก่อนหน้านี้อาลัวเคยพูดไว้ว่า ‘พวกเราเป็นพี่น้องกัน และระหว่างผู้หญิงก็ไม่สามารถแต่งงานกันได้’ แต่ที่นี่เป็นดินแดนของเอลฟ์ ไม่สามารถใช้ตรรกะของมนุษย์กับพวกเราได้ที่นี่

 

“ใช่แล้ว!”

 

   เซเลนใช้สองมือตบแก้มเรียกสติ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เธอเอาแต่คิดหาวิธีกำจัดเจ้าชายจนนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน ถึงจะนอนก็ยังต้องคอยคิด แต่ในตอนนี้ หนทางที่จะได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องสู้ อยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

   เซเลนนั่งอยู่บนบัลลังก์อันหรูหราที่ประดับประดาด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน สวมเสื้อผ้าสีขาวหลวมๆที่ดูเหมือนผ้าคลุม ซึ่งเป็นชุดที่พวกเอลฟ์เตรียมมาให้เธอ ยกถ้วยทรงสูงใส่น้ำผลไม้ขึ้นมาเขย่าและจิบ นึกถึงอนาคตอันใกล้ที่ส่องสว่างสดใส 

                                                                

   ลาก่อน เจ้าชาย เหลือตัวคนเดียวแล้วหวังว่าจะมีความสุขนะ เซเลนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเป็นผู้ที่เหนือกว่า

 

  –เซเลนใช้ชีวิตสมใจอยากจนผ่านไปอีกสองวัน กลุ่มของมิลานก็เดินทางกลับถึงเฮลิฟาเต้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+