[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 40 ลงทุน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 40 ลงทุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 40

ลงทุน

 

 

[“องค์หญิง กระผมตรวจสอบเงินรางวัลเสร็จแล้วครับ”]

“เยอะไหม?”

 

   ผ่านไปหนึ่งเดือน ที่เซเลนทำงานเป็นคนกลางในการติดต่อกับพวกเอลฟ์ และตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เธอต้องได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าตอบแทน ในตอนนั้นมิลานร่างเป็นหนังสือสัญญามาให้เซเลนรับทราบเพราะเชื่อว่าเซเลนต้องเข้าใจเนื้อหาเหล่านี้แน่ แต่น่าเสียดายที่เซเลนทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันไม่สำเร็จ ดังนั้นเรื่องนี้จึงตกเป็นหน้าที่ของบัตเลอร์

 

[“นี่มัน… น่าทึ่งจริงๆ”]

“มีอะไร?”

 

  บัตเลอร์แสดงความตื่นเต้นออกมาจนเซเลนยังต้องสงสัย เนื้อหาของงานก็มีแต่นั่งเฉยๆ จะได้ค่าจ้างสักเท่าไหร่กันเชียว นั่นคือสิ่งที่เธอคิด แต่บัตเลอร์ก็กระโดดขึ้นไปยืนบนเตียงและเริ่มอธิบายอย่างภาคภูมิใจ

 

[“ร้านค้าชั้นนำต้องทำกำไรติดต่อกันถึงห้าปีกว่าจะได้เงินจำนวนเท่านี้ครับ!”]

“ว่าไงนะ!?”

 

  จำนวนเงินมากมายอย่างคาดไม่ถึง ทำให้เซเลนต้องเปิดตากว้าง

 

  แต่ก็เป็นจำนวนที่สมเหตุสมผล เพราะอุปกรณ์เวทมนตร์เป็นสินค้าระดับสูงสำหรับมนุษย์ อย่างชุดสีขาวของอาร์คุยล่าทีเซเลนใส่อยู่เป็นประจำนี้ก็มีราคาตามตลาดเทียบเท่ากับบ้านหลายหลังแล้ว

 

  และสินค้าในครั้งนี้มีราคาเทียบเท่าหรือสูงกว่า อีกทังยังมีปริมาณมาก นอกจากนั้น มิลานยังเข้าใจถึงความสำคัญของตำแหน่งนี้ที่มีแต่เซเลนที่ทำได้ จึงมีการเพิ่มส่วนแบ่งให้เป็นพิเศษ

 

“เยอะจัง!”

[“แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครนอกจากองค์หญิงที่รับหน้าที่นี้ได้ กับผลประโยชน์ที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้รับ ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างถูกนะครับ”]

 

  บัตเลอร์พูดอย่างภูมิใจ เจ้านายของเขาคือผู้ที่จะถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์และเอลฟ์ นับเกียรติอย่างยิ่งที่ตนเองได้เป็นผู้ติดตามคนสนิทของคนคนนี้

 

“ใช้เงิน กับอะไรดี”

 

  บัตเลอร์กำลังตื่นเต้นด้วยหัวใจที่พองโต ส่วนเซเลนคิดว่าจะเอาเงินที่ได้มานี้ไปใช้กับอะไร เธอตั้งใจจะใช้เงินในทันที เพราะได้รับมาอย่างง่ายๆและมีจำนวนมาก

 

  ความสามารถในการเก็บเงินของเซเลนก็ไม่ต่างกับกระรอกที่ขุดหลุมฝังลูกโอ๊กไว้สำหรับฤดูหนาวและลืมพวกมันไปทั้งหมดเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ เพราะฉะนั้น ในชีวิตก่อน เธอจะใช้เงินไปจนเกือบหมดภายในไม่กี่วันหลังเงินเดือนออก และในตอนนี้เธอก็มีแนวทางการใช้เงินไม่ต่างกัน

 

  อย่างแรกที่คิดไว้คือของมึนเมาทั้งหลาย ในเมื่อตอนนี้กลายเป็นคนรวยแล้ว ก็ต้องหาสุราชั้นยอดมาลิ้มลองให้สมฐานะ กินคู่กับเนื้อย่างคุณภาพสูง ในสถานเริงรมย์ที่มีเหล่าสาวสวยมาคอยเอาใจ…

 

“…อ๊า!?”

 

  หลังจากคิดฟุ้งซ่านอยู่สักพัก เซเลนก็เอามือกุมหัว ลุกขึ้นจากเตียงและส่งเสียงดัง ทำให้บัตเลอร์หันไปมองด้วยความตกใจ และพูดกับเซเลนที่ตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

 

[“องค์หญิง!? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ!?”]

“บัตเลอร์ แผนที่”

[“แผนที่? แผนที่สำหรับสถานที่ใดหรือครับ?”]

“แผนที่ เฮลิฟาเต้ ขอดู!”

[“หมายถึงแผนที่เมืองรอบปราสาทเฮลิฟาเต้ใช่ไหมครับ?”]

 

   ไม่มีการระบุรายระเอียดไปมากกว่านั้น เซเลนพยักหน้าตอบบัตเลอร์

 

[“กระผมไม่ทราบเจตนาของท่าน แต่ถ้าเป็นความต้องการขององค์หญิง…”]

 

   ไม่สามารถคาดเดาความปรารถนาของเจ้านายได้ แต่ก็จะตอบรับ บัตเลอร์กระโดดลงจากเตียง ใช้หางกดและเดินลากไปตามพรมให้เป็นรูปร่างคร่าวๆของเมืองหลวงของเฮลิฟาเต้

 

  ข้อมูลจากหนูทุกตัวจะถูกส่งมาถึงบัตเลอร์ เขาจึงรู้จักทุกซอกทุกมุมของสถานที่แห่งนี้ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับมิลานด้วยซ้ำ เขารู้แม้กระทั่งเรื่องที่กษัตริย์ชวานยังสอดส่องไปไม่ถึง ถ้าเป็นรายกระเอียดภายในเมืองหลวงของเฮลิฟาเต้แห่งนี้ ไม่มีใครรู้ลึกเท่าบัตเลอร์อีกแล้ว

 

[“เมืองรอบปราสาทมีรูปร่างคล้ายพัดที่แผ่ออกมาจากพระราชวัง ตรงจากถนนสายหลัก จะเป็นย่านธุรกิจที่มีตลาดและร้านค้าต่างๆเปิดอยู่มากมาย เป็นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุด ไกลออกไปเป็นย่านอุสาหกรรม และไกลกว่านั้นก็จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม…”]

“เดี๋ยว!”

 

  เซเลนฟังบัตเลอร์อธิบายถึงตัวเมืองไปทีละส่วนด้วยรูปร่างคร่าวๆที่ถูกลากบนพรม แต่เซเลนก็หยุดไว้และชี้ไปที่ส่วนหนึ่งบนแผนที่ของบัตเลอร์

 

“แถวนี้ อะไร?”

[“ส่วนนั้นเป็นสถานที่… สำหรับผู้ใหญ่ ยังไม่ถึงเวลาที่องค์หญิงควรจะรับรู้ ผมจึงขอข้ามส่วนนี้ไปก่อนครับ”]

“ของ ผู้ใหญ่!?”

 

   นี่แหละ คือเรื่องที่อยากรู้ที่สุด เซเลนซักถาม แต่บัตเลอร์ก็ได้แต่เงียบ

 

[“(อืม… องค์หญิงอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่งั้นหรือ แต่เรื่องพวกนี้ยังให้รู้ไม่ได้…)”]

 

  บัตเลอร์ต้องคิดหนักว่าจะตอบคำถามเจ้านายอย่างไร เพราะเธอดูเหมือนจะสงสัยในกิจกรรมของผู้ใหญ่มาก

   ตามปรกติแล้ว บัตเลอร์จะไม่มีความลับ แต่เขาก็เป็นคนที่พูดถึงพื้นที่นั้นก่อน จนเซเลนชี้ไปที่ย่านบ่อนการพนัน ร้านเหล้า และสถานบริการทางเพศ อย่างตื่นเต้น

 

[“ราชาชวานเป็นผู้นำที่มองการณ์ไกล แทนที่จะปิดกั้นความสุขเล็กๆน้อยๆของประชาชน เขากลับเชื่อว่าควรมีพื้นที่ให้ประชาชนได้หาความสุขใส่ตัวบ้าง… เขตนี้จึงเป็นที่ที่รวบรวมสิ่งบันเทิงของผู้คนเอาไว้ครับ”]

“อธิบาย!”

[“ผู้คนที่ได้ความบันเทิงจะมีแต่ผู้ใหญ่ และแทบทั้งหมดก็เป็นผู้ชาย ไม่ใช่สิ่งที่องค์หญิงสงควรจะรับรู้ครับ”]

“…เข้าใจแล้ว”

[“เมืองหลวงของเฮลิฟาเต้มีความเจริญสูงอีกทั้งยังสวยงาม ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย เดี๋ยวกระผมจะแนะนำส่วนที่เหลือให้นะครับ”]

 

   บัตเลอร์พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำอื่นๆที่มีในเมืองหลวงเฮลิฟาเต้ แต่เซเลนก็ไม่ได้สนใจสถานที่แห่งอื่นแล้ว

 

 จากที่บัตเลอร์พยายามบ่ายเบี่ยง ประกอบกับคำพูดที่ค่อยๆหลุดออกมา ก็ทำให้เซเลนค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าที่ตรงนั้นจะต้องมีแหล่งอบายมุขแน่นอน บัตเลอร์กังวลว่าสิ่งไม่บริสุทธิ์เหล่านั้น มันจะไม่ดีต่อการเรียนรู้ของเจ้าหญิงผู้เยาว์วัย แต่จริงๆแล้วมันคือสิ่งที่เธอรู้อยู่เต็มอกและตามหาอยู่ต่างหาก

 

  หลังจากฟังคำอธิบายจนจบ เซเลนหยิบบัตเลอร์ขึ้นมาลูบหัวและวางไว้ในตะกร้าข้างเตียง นับจากเหตุการณ์ที่ป่าสีขาว บัตเลอร์ได้ถูกทุกคนยอมรับว่า หนูตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเซเลน และได้ที่นอนส่วนตัวมาไว้ครอบครอง โดยเป็นตะกร้าสานอย่างดีที่อยู่ข้างเตียง

 

“อะไรกัน”

 

   เซเลนล้มตัวลงนอน กัดฟันเจ็บใจ เพราะเพิ่งจะรับรู้ถึงอีกหนึ่งในข้องเสียที่ร้ายแรงของร่างกายนี้

 

  ไม่มีที่ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆได้ใช้บริการ แม้จะมีเงินมากแค่ไหนก็ตาม

 

  หลังจากที่เธอก่อเรื่องไว้ที่สถานศึกษาเฮลิฟาเต้ ทั้งการไล่ล่าด้วยรถม้าและต่อสู้กับมารี เซเลนถูกห้ามออกนอกเขตพระราชวังโดยลำพัง หากเธอต้องการออกไปข้างนอกก็ต้องขออนุญาตใครสักคนก่อน และต้องมีผู้ติดตามรวมถึงคนคุ้มกันตามไปด้วย 

 

   โดยพื้นฐานแล้ว เซเลนเป็นคนชอบเก็บตัว นอกจากไปหาอาลัวในครั้งนั้นแล้ว เธอไม่เคยตั้งใจออกไปข้างนอกด้วยตัวเองเลย แต่ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนความคิด เพราะมีเงิน จึงอยากจะเอาไปลงทุนในบ่อน หรืออยากจะลองพูด ‘เอาของที่แพงที่สุดในร้านมา’ ตามร้านเหล้าดูสักครั้ง

 

   แต่ก็ไม่มีทางที่จะออกไปข้างนอกโดยไม่มีคนอื่นคอยตามติดได้ ถึงจะหลบหนีออกไปโดยไม่มีใครเห็น ก็ไม่มีร้านไหนต้อนรับเด็กอย่างเธอให้เดินเข้าไปในร้านคนเดียว สั่งเหล้ามาดื่มจนเมาหัวทิ่มและเรียกสาวๆมาจับหน้าอกได้

 

  หากมีแนวคิดเรื่องสถานเริงรมย์สำหรับผู้หญิงที่แม้แต่เด็กแปดขวบก็ใช้บริการได้ เธอก็จะทุ่มเงินทุนทั้งหมดนี้เพื่อสร้างมันขึ้นมาอย่างไม่ลังเล แต่ก็ไม่มีใครคิดถึงธุรกิจที่ไร้สาระเช่นนี้ และเธอก็ไม่สามารถไปทาบทามว่า ‘มาสร้างสถานเริงรมย์ที่มีแต่ผู้หญิง เพื่อผู้หญิง กันเถอะ’ กับนักลงทุนทั่วไปได้

 

  ทั้งที่จริงก็มีวิธีใช้จ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพอยู่อีกหลายวิธี แต่นอกจากการหาความสุขใส่ตัวแล้ว เซเลนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย เหตุผลหลักๆก็เพราะว่าเธอคือเซเลนนั่นเอง

 

“ท่านพี่… ไม่ได้”

 

  อีกเรื่องที่อยู่ในหัวของเธอก็คืออาลัว แต่การมอบเงินจำนวนนี้ให้กับอาลัวเป็นการส่วนตัวก็มีข้อเสียอยู่ เนื่องจากเงินจำนวนนี้ยังอยู่ที่มิลาน เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากเขา หากส่งให้อาลัวก็จะเหมือนกับว่ามาจากมิลาน ซึ่งจะทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนเป็นหนี้เจ้าชาย แค่นี้ก็เสียเปรียบมากพอแล้ว ต้องไม่ทำให้เขาได้เปรียบมากขึ้นไปอีก

 

“ใช่แล้ว!”

[“องค์หญิง มีเรื่องกังวลใจอะไรหรือเปล่าครับ? กระผมพร้อมรับใช้ ให้คำปรึกษาเสมอครับ”]

“บัตเลอร์ ไปกัน”

 

   เซเลนรีบลุกออกจากเตียง เตรียมตัวออกไปนอกห้อง บัตเลอร์ก็กระโดดไปหาและไต่ขึ้นไปบนไหล่ของเธอทันทีที่ถูกเรียก

 

[“จะไปไหนหรือครับ?”]

“คุย ราชา”

[“ต้องการเข้าเฝ้าองค์ราชาชวาน? มีเหตุด่วนอะไรหรือเปล่าครับ?”]

“เรื่องดี”

 

  เซเลนยิ้มอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม บัตเลอร์พยายามหาคำตอบถึงความต้องการของเจ้านาย ถึงจะเค้นสมองคิดหาความน่าจะเป็นสักแค่ไหนก็ไม่สามารถคาดเดาความคิดอันลึกซึ้งของเซเลนได้

 

[“นกกระจอกไฉนจะรู้ใจพญาหงส์…*”]

 

  บัตเลอร์นึกถึงคำพูดที่เคยได้ยิน เหมือนกับตัวเขาในตอนนี้ที่ยังอ่อนด้อยยิ่งนัก ไม่เข้าใจการกระทำของผู้ยิ่งใหญ่

   เซเลนออกจากห้องโดยมีบัตเลอร์ตามติดอยู่บนไหล่ วิ่งผ่านโถงทางเดินจนมาถึงห้องทรงงานของราชาชวานที่อยู่สุดทาง บอกองครักษ์ที่อยู่หน้าห้องให้ไปแจ้งราชาว่าเธอมาขอเข้าพบ

 

   อันที่จริง ต้องมีขั้นตอนในการนัดพบมากมาย แต่ในตอนนี้ เซเลนถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเฮลิฟาเต้ และชวานเองก็ให้ความสำคัญกับเซเลนเทียบเท่ามารี ดังนั้นเซเลนจึงได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษอย่างง่ายดาย

 

“เซเลน มีธุระอะไรกับข้าล่ะ? มีสิ่งที่อยากได้รึ?”

“ข้อเสนอ กับองค์ราชา”

“มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับข้าล่ะ…?”

 

   ถึงพฤติกรรมเซเลนจะแปลกกว่าทุกทีแต่ชวานก็ตอบด้วยรอยยิ้ม เขาอยากจะรับฟังสิ่งที่เซเลนต้องการ เพราะเด็กคนนี้ไม่เคยเรียกร้องอะไรมาก่อน หากเซเลนอเรียกร้องสิ่งใด ชวานก็คิดจะจัดหามาให้อย่างสุดความสามารถ

 

  และเซเลนก็พูดเรื่องที่ทำให้ทั้งราชาชวานและบัตเลอร์ที่อย่บนไหล่ต้องตกใจ

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“คุณอาลัว หลังจากนี้พอมีเวลาหรือเปล่า?

 

  ในสถานศึกษาเฮลิฟาเต้ หลังคาบเรียนในช่วงเช้า ขณะที่อาลัวย้ายห้องเรียนสำหรับวิชาถัดไป ระหว่างนั้น เธอถูกเรียกโดยศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง

 

“ค่ะ ถ้ามีอะไรช่วย ก็กรุณาบอกมาได้เลยค่ะ”

“ไม่ได้จะขอให้ทำอะไรหรอก ผู้อำนวยการอยากพบเธอน่ะ…”

“ผู้อำนวยการ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”

 

  อาลัวเอียงคอสงสัย ถ้าถูกผู้อำนวยการเรียกก็ต้องไป แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเธอไปทำอะไรไว้ถึงถูกเรียก

 

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า….”

 

  อาลัวเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการ รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในวันแรกที่เธอยังที่แห่งนี้ เธอถูกมองว่าเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่ง แต่ก็พยายามมาตลอดจนติดอันดับนักเรียนดีเด่นของชั้นปี และเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมั่นใจได้ว่าตนเองไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้

 

   อะไรที่เธอทำได้ ก็ทำได้ดีมาตลอด ตั้งแต่อาลัวอาได้มาอยู่ในสถานศึกษาที่ขึ้นชื่อว่าอันดับหนึ่งเช่นนี้ พรสวรรค์ของเธอได้ถูกพัฒนาไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ จนไม่มีใครกล้าดูถูกเธออีกต่อไป และค่าตอบแทนของโอกาสที่ได้รับมาทั้งหมดนี้ ก็คือเซเลนนั่นเอง

 

“ต้องไม่ทำให้ความพยายามของเซเลนต้องศูนย์เปล่า…”

 

   น้องสาวคนสำคัญทำงานอย่างขันแข็งจนเมื่อเร็วๆนี้ได้มาเป็นบุคลสำคัญของประเทศนี้ เพราะฉะนั้น ตนเองจะไม่พยายามไม่ได้ และถึงตอนนี้จะยังคิดไมออก แต่ก็เชื่อว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรให้ถูกผู้อำนวยการเรียกพบแน่ๆ หรือผลการเรียนจะมีปัญหาโดยที่ยังไม่รู้ตัว แต่เพื่อเซเลนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องแก้ไขให้ได้

 

“อาลัว อาร์คุยล่า ขอเข้าพบค่ะ”

“เข้ามาได้”

 

  เมื่อเคาะประตูบานใหญ่ก็มีเสียงของชายที่ฟังดูมีอายุตอบรับในทันที อาลัวเปิดประตูเข้าไปด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก็พบกับชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐาน ผู้อำนวยการของสถานศึกษาแห่งนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับรับแขก กับคนอีกคนที่อาลัวเห็นแล้วนึกว่าตาฝาด เซเลนก็อยู่ตรงนั้นด้วย

 

  เซเลนนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งเดียวกับผู้อำนวยการ หยิบคุกกี้ขึ้นมาหักครึ่งและส่งให้กับหนูสีดำขาวที่อยู่บนตัก และยกถ้วยชากลิ่นหอมหวนขึ้นมาจิบ น่าจะเป็นขนมรับแขกที่ผู้อำนวยการนำมาให้

 

“มาหาแล้ว”

“เอ๋!? เซเลน!?”

 

  อาลัวตกใจจนมองข้ามผู้อำนวยการและเดินไปหาเซเลน ก่อนหน้านี้เซเลนเคยบุกรุกเข้ามาในสถานศึกษาเพื่อตามหาเจ้าชายสุดที่รัก ครั้งนี้เซเลนคงจะทำอะไรบางอย่างจนถูกควบคุมตัวมาไว้ที่นี่ และอาลัวซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเธอและตามตัวได้ง่ายที่สุดจึงถูกเรียกมา

 

“เซเลน หนีออกมาอีกแล้วเหรอ?”

“เปล่าหนิ?

 

  เซเลนเงยหน้าพูดกับอาลัวที่ยังพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ ดูแล้วเซเลนไม่น่าทำอะไรผิด และผู้อำนวยการก็ไม่ได้ดูเหมือนว่ากำลังโกรธอยู่

 

“คุณหนูคนนี้ เซเลน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาใดๆทั้งสิ้น วางใจเถอะ”

“เอ่อ… แล้ว ทำไมเซเลนถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ?”

 

  ในหัวอาลัวมีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ ผู้อำนวยการก็พอจะเดาสิ่งที่เธอสงสัยได้ จึงเริ่มอธิบายทีละอย่าง

 

“หนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่บอกมาว่าต้องการพบคุณอาลัว ก็เลยเรียกให้มาเจอกันที่นี่”

“ผู้สนับสนุน? เหรอคะ?”

 

   จากที่อาลัวเห็น ห้องนี้ไม่ได้ซับซ้อนมาก จึงแน่ใจว่า ถ้าไม่นับหนูของเซเลนตัวนั้น และนอกจากเซเลนกับผู้อำนวยการแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องนี้อีก ท่าทีของอาลัวดูแปลกเข้าไปทุกที ทำให้ผู้อำนวยการหัวเราะออกมา

 

“ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง คุณหนูผู้สนับสนุนรายใหญ่”

“เอ๋… ทำไม…”

“ให้เงิน โรงเรียน”

 

  คำตอบของเซเลนยิ่งทำให้อาลัวไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าจะพูดไม่เป็นประโยคเหมือนทุกที แต่อาลัวก็เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด เป็นที่การกระทำดังกล่าวต่างหาก ที่ทำให้สมองของเธอตามเรื่องไม่ทัน

 

“เอ่อ? เอ๋?”

 

  อาลัวยืนเหม่อและส่งเสียงแปลกๆเหมือนเด็กอยู่สักพัก ซึ่งถือว่าแปลกสำหรับคนที่สงบเสงี่ยมอย่างเธอ เธอโชคดีที่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาประจำชาติเฮลิฟาเต้ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของทวีปนี้ และผู้สนับสนุนรายใหญ่ของสถานศึกษานี้ก็คือน้องสาวของเธออีก

 

“ทำไม… ได้ยังไง? ล้อเล่นเหรอ?”

“จริง ราชา อนุญาต”

 

  อาลัวมองเซเลนที่ยิ้มให้เธออย่างร่าเริง แต่อาลัวก็คิดคำพูดไม่ออก ได้แต่มองอยู่เงียบๆ

 

“ท่านพี่”

“ม-มีอะไรเหรอ?”

“วันอื่น มาอีก”

 

   หลังจากพูดจบ เซเลนก็ลุกไปเปิดประตูออกจากห้อง ถึงอยากจะอยู่กับกับอาลัวให้นานกว่านี้แต่ต้องกลับไปทำงานในช่วงเย็น เพราะสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันมีมากมาย เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

  เซเลนหันกลับมาโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดประตู หนูของเธอก็ยืนสองขาและโค้งคำนับเหมือนมนุษย์อยู่บนไหล่ เหลือเพียงอาลัวกับผู้อำนวยการเจ้าของห้อง

 

“เอ่อ… ท่านผู้อำนวยการ เรื่องเมื่อกี้ จริงหรือเปล่าคะ?”

“จริงแน่นอน ทีแรกผมก็แปลกใจเหมือนกัน อยู่ดีๆก็มีคนจากวังหลวงมาหาพร้อมกับเด็กสาวคนนี้และมีจดหมายจากองค์ราชามายื่นให้ ในนั้นเขียนไว้ว่า ‘คุณหนูเซเลนมีความประสงค์จะบริจาคทรัพย์สินส่วนตัว และกำไรที่ได้จากการติดต่อซื้อขายกับเผ่าพันธุ์เอลฟ์นับจากนี้ทั้งหมด ให้กับสถานศึกษาประจำชาติเฮลิฟาเต้’ ถูกบอกมาเช่นนี้ จะคิดว่าเรื่องล้อเล่นก็ไม่แปลก”

“หืม…”

 

  อาลัวมองไปทางประตูที่น้องสาวเดินออกไป ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นเด็กแปลกๆ ชอบทำอะไรที่คนอื่นไม่เข้าใจ แต่ครั้งนี้ได้ทำเรื่องที่ใหญ่กว่ากว่าปรกติมาก

 

“ต้องไปคุยกับเจ้าชายมิลาน…”

 

  การกระทำของน้องสาว เจ้าชายมิลานจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า อาลัวได้แต่สงสัยก่อนจะพยักหน้าและเดินออกไป

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

 

 

“ท่านพ่อ นี่มันเป็นความจริงหรือ!?”

“ใช่สิ เซเลนมาหาข้าเพื่อบอกว่า ‘ขอนำเงินที่ได้มา ส่งต่อไปยังสถานศึกษาเฮลิฟาเต้’ เธอเป็นคนพูดออกมาเอง”

“นั่นมัน…”

 

   ขณะที่เซเลนออกไปหาอาลัว มิลานก็เข้ามาสอบถามกับชวานที่ห้องทรงงาน เงินจำนวนนั้น เขาตั้งใจไว้ว่าจะให้เซเลนเก็บไว้ใช้สำหรับอนาคต เพื่อที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในภายภาคหน้า แต่เซเลนกลับยกเงินทั้งหมดนั้นให้กับสถานศึกษาเฮลิฟาเต้

 

“นั่นเป็นเงินเก็บสำหรับอนาคตของเซเลนนะครับ”

“…และเซเลนก็คิดถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อนเหมือนทุกครั้ง จึงใช้มันสำหรับอนาคตของประเทศชาติ”

“อนาคตของประเทศ? เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือครับ?”

“เธอถูกนำตัวไปขังตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เคยได้รับการศึกษาทั้งๆที่เป็นถึงราชวงศ์ เธอจึงเข้าใจความสำคัญของการศึกษาเป็นอย่างดี”

 

  เงินทุนของสถานศึกษาแห่งชาติเฮลิฟาเต้ส่วนใหญ่จะมาจากราชาชวาน เนื่องจากชวานให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เพราะเชื่อว่าบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญ จึงต้องมีสถานที่สำหรับเพราะบ่มผู้คนเหล่านั้น ยิ่งสามารถรวบรามเงินทุนได้มากเท่าใด ก็จะยกระดับการศึกษาได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก

 

“ในเชิงธุรกิจ การออกทุนเพื่อการศึกษาคือสิ่งที่ไม่คุ้มค่า ตามปรกติแล้ว นักลงทุนจะไม่ใช้จ่ายกับเรื่องที่มีผลตอบแทนไม่แน่นอนและใช้เวลานานกันหรอก”

 

  ผู้ที่จบหลักสูตรการศึกษาแล้วออกมาทำประโยชน์ได้ทันทีนั้นมีน้อยมาก งานหลายๆอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ในการปฏิบัติงานจริง แต่การสะสมเพียงประสบการณ์โดยไม่มีความรู้ก็ไม่สามารถพัฒนาไปได้ไกล เพราะฉะนั้น บุคลากรที่ดีจะต้องมีทั้งความรู้และประสบการณ์อยู่ด้วยกัน

 

   ถึงอย่างนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เท่านั้น ตราบใดที่มีประสบการณ์ก็เท่ากับว่าพร้อมปฏิบัติงานได้จริงแทบทั้งหมดแล้ว แต่ในความจริงก็จะเป็นเพียงการรักษาสภาพในปัจจุบันเอาไว้เฉยๆ ไม่มีการพัฒนา ประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้ยาก

 

“หากคำนึงถึงความก้าวหน้าของประเทศชาติในอนาคตก็ต้องสนับสนุนการศึกษา เซเลนทำลงไปด้วยความคิดเช่นนี้แหละ”

“เธอยังเป็นแค่เด็ก อาจทำลงไปโดยไม่ได้คิด… มีความเป็นไปได้เหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ?”

“หากเซเลนต้องการใช้เงินเพื่ออะไรบางอย่าง ก็ต้องนำไปใช้กับเรื่องที่ตัวเองชอบสิ ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นสถานศึกษา แกหาเหตุผลอื่นได้หรือเปล่าล่ะ”

 

 ทั้งชวานและมิลานต่างก็นับถือการตัดสินใจของเซเลนในครั้งนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากมาย มาตอนนี้ เธอคำนึงถึงอนาคตของประเทศชาติ คิดในมุมมองเดียวกับพวกเขาและเสียสละทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อการนั้น เด็กสาวคนนี้จะแสดงพรสวรรค์ออกมาอีกมากสักแค่ไหนกัน

 

“มิลาน”

“ครับ”

“เด็กสาวที่พิเศษขนาดนี้จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในประเทศ… ไม่สิ จะแดนมนุษย์หรือเอลฟ์ก็ไม่มีใครอื่นอีกแน่ ถึงอดีตของเธอจะน่าเศร้า แต่เธอจะทำเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้ถ้ายังอยู่ในประเทศอันห่างไกลอย่างอาร์คุยล่า ต้องมีโชคชะตาบางอย่างนำพาแกไปพบกับเธอแน่”

“พบกัน ด้วยโชคชะตา…”

 

  เซเลนไม่ได้เป็นแค่เด็กสาวผู้งดงามตามที่คิดไว้ในตอนที่ได้พบกันครั้งแรก ถึงจะตัดสินใจพามาด้วยเพราะความสงสาร แต่เซเลนก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพระหว่างเอลฟ์และมนุษย์ มอบความรุ่งเรื่องให้กับเฮลิฟาเต้ทั้งประเทศและเอลฟ์ทั้งเผ่าพันธุ์ และที่สำคัญ มอบความสุขให้แก่ตัวเขาเอง

 

“การพบพานแห่งโชคชะตา…”

 

   คำพูดนั้นของพ่อ สั่นสะเทือนไปถึงหัวใจของมิลาน หากเส้นทางของเธอถูกกำหนดไว้ด้วยโชคชะตา แล้วโชคชะตานั้นจะยอมรับตัวเขาให้อยู่เคียงข้างเธอต่อไปในอนาคตด้วยหรือเปล่า ไม่สิ ต้องทำให้เป็นเช่นนั้นให้ได้ มิลานจดจำความตั้งใจในตอนนี้เอาไว้

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

“เส้นสาย เก็ท(get)”

 

   ภายในรถม้าขากลับ เซเลนที่นั่งแกว่งอยู่ข้างในก็ยิ้มร่าตลอดการเดินทาง คิดถึงแผนการที่ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

 

  ในเมื่อไม่สามารถใช้เงินนี้เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของเธอได้ ก็มาถึงสิ่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากัน อาลัว และต้องไม่ให้มีช่วงว่างให้เจ้าชายเข้ามาแทรกแซงได้

   ดังนั้นเซเลนจึงต้องเพิ่มลูกเล่นเข้าไปนิดหน่อย จนออกมาเป็น สินบนในรูปแบบของเงินบริจาคให้กับโรงเรียนที่อาลัวเรียนอยู่ยังไงล่ะ ในมุมมองของคนทั่วไปก็จะเห็นเป็นการบริจาคให้กับสาธารณะ ไม่ใช่การมอบผลประโยชน์ให้กับอาลัวโดยตรง และถ้าอ้างเรื่อง ‘ตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ ขึ้นมา ก็จะสามารถเข้าออกสถานศึกษาเฮลิฟาเต้เมื่อไหร่ก็ได้

 

   และมันยังเป็นการจองตัวเอาไว้โดยการพลิกแพลงความคิดที่ว่า ถ้าอยากจู๋จี๋กับไอดอล ก็ต้องไปเป็นโปรดิวเซอร์ หรือ ถ้าอยากมีแฟนเป็นนักพากย์ ก็ต้องไปเป็นผู้กำกับอนิเมะ

 

“หุ หุหุหุ…”

 

   เซเลนหัวเราะให้กับแผนการอันแยบยล ภูมิใจในสมองอันปราดเปรื่องที่คิดวิธีนี้ออกมาได้ ครั้งนี้ทำได้ดีมากจนอยากจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ตัวเองขึ้นมาเลยดีเดียว

 

   เพียงเท่านี้ เซเลนก็จะกลายมาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของสถานศึกษาแห่งชาติเฮลิฟาเต้ สามารถเข้าถึงได้ทุกส่วนภายในสถานศึกษานั้นโดยมีเบื้องหน้าคือ ‘ตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ แต่ก็ไม่ได้สนใจที่จะไปก้าวก่ายการดำเนินงานใดๆอยู่แล้ว

 

   หลังจากอิ่มเอิบใจกับการที่ถูกอาลัวกอดและลูบหัวไปเพียงเวลาสั้นๆ เธอก็กลับมาถึงพระราชวัง และได้เข้าร่วมการประชุมในตอนเย็นโดยที่ไม่คิดจะรับรู้ว่าคนพวกนั้นมาคุยเรื่องอะไรกัน และแน่นอนว่าตอนกลางวันยังต้องไปทำอาหารกลางวันไปวางยาเจ้าชายเหมือนทุกที ดังนั้น ถ้านับตามมาตรฐานเของเซเลน ก็จะพูดได้ว่า เซเลนจึงเป็นคนที่มีงานรัดตัวมาก

 

   หลังจากผ่านไปอีกเดือน เซเลนก็ได้กลายเป็นประเด็นของข่าวลือในสถานศึกษา ในตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเธออีกแล้ว เด็กสาวผู้งดงามกับรูปลักษณ์อันโดดเด่นที่มาปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ่อยๆ จึงเป็นที่สนใจของบรรดานักเรียนทั้งหลายได้ย่างง่ายๆ

 

   เทพธิดาสีขาวบริสุทธิ์ที่แม้แต่เอลฟ์ยังต้องออกจากป่ามายังเฮลิฟาเต้เพื่อยลโฉม อีกทั้งยังว่ากันว่าเธอได้บริจาคเงินมหาศาลให้กับสถานศึกษาแห่งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเธอล้วนคลุมเครือ

 

  สิ่งที่รู้แน่ชัดจะมีแค่เรื่องที่เธอสนิทสนมกับองค์ชายศักดิ์สิทธิ์มิลาน และคาดเดากันว่าเธอมาจากอาร์คุยล่า เนื่องจากเธอมักจะไปหาอาลัว อาร์คุยล่า และเรียกว่า ‘ท่านพี่’ อยู่บ่อยๆ แต่เมื่อไปสอบถามเรื่องนี้กับอาลัว เธอก็ปฏิเสธที่จะบอกเล่าถึงรายระเอียด

 

   เรื่องที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็คือเรื่องการเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้ากับเผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่จัดขึ้นในพระราชวัง ที่ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะเด็กสาวที่ชื่อเซเลนคนนี้ ในตอนนี้ การค้าขายกับเอลฟ์ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศ และมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาไปเข้าร่วม การที่เธอเป็นศูนย์กลางของการประชุมระดับนี้ แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาอันสูงส่งของเธอ

 

   ยิ่งไปกว่านั้น เงินจำนวนมากมายที่เซเลนได้รับจากการค้าขายกับเอลฟ์ ก็ถูกบริจาคให้กับสถานศึกษาแห่งนี้ทั้งหมด และเธอก็ยังมาตรวจสอบความถูกต้องรายจ่ายด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งหมายความว่าเธอเห็นความสำคัญของระบบการศึกษาเป็นอย่างดี 

 

   ตัวตนเซเลนถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย ได้รับการยกย่องจากเฮลิฟาเต้ทั้งประเทศ เป็นผู้ที่มีทั้งปัญญาและความงาม และเหนือสิ่งอื่นใด การสร้างสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์และมนุษย์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สิ่งที่คู่ควรแก่การถูกจารึกไว้

 

  ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถห้ามผู้คนไม่ให้พูดถึงได้ ชื่อและวีรกรรมของเซเลนจึงแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ

 

“หน้าอก, หน้าอก♪””

 

  แต่ก็ยังมีคนที่ไม่สนใจข่าวลือพวกนั้น เซเลนที่ร่าเริงจนร้องออกมาเป็นเพลงในรถม้า กำลังเดินทางไปหาอาลัวที่โรงเรียน โดยมี ‘การตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ เป็นเหตุผลบังหน้า ไม่ว่าจะถูกลือว่าอะไร เซเลนก็ยังเป็นเซเลนเหมือนทุกที

 

 

____________________

*

燕雀安んぞ鴻鵠の志を知らんや

นกกระจอกนกนางแอ่น ไฉนจะรู้ใจพญาหงส์

หมายถึง

คนผู้น้อยย่อมไม่เข้าใจความคิดของผู้สูงส่ง

 

คําพังเพยที่พบบ่อยในเรื่องสามก๊ก ส่วยใหญ่แปลไทย ว่า

‘นกน้อย ไยจะรู้จิตใจพญาครุฑ’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 40 ลงทุน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 40 ลงทุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 40

ลงทุน

 

 

[“องค์หญิง กระผมตรวจสอบเงินรางวัลเสร็จแล้วครับ”]

“เยอะไหม?”

 

   ผ่านไปหนึ่งเดือน ที่เซเลนทำงานเป็นคนกลางในการติดต่อกับพวกเอลฟ์ และตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เธอต้องได้รับส่วนแบ่งเป็นค่าตอบแทน ในตอนนั้นมิลานร่างเป็นหนังสือสัญญามาให้เซเลนรับทราบเพราะเชื่อว่าเซเลนต้องเข้าใจเนื้อหาเหล่านี้แน่ แต่น่าเสียดายที่เซเลนทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันไม่สำเร็จ ดังนั้นเรื่องนี้จึงตกเป็นหน้าที่ของบัตเลอร์

 

[“นี่มัน… น่าทึ่งจริงๆ”]

“มีอะไร?”

 

  บัตเลอร์แสดงความตื่นเต้นออกมาจนเซเลนยังต้องสงสัย เนื้อหาของงานก็มีแต่นั่งเฉยๆ จะได้ค่าจ้างสักเท่าไหร่กันเชียว นั่นคือสิ่งที่เธอคิด แต่บัตเลอร์ก็กระโดดขึ้นไปยืนบนเตียงและเริ่มอธิบายอย่างภาคภูมิใจ

 

[“ร้านค้าชั้นนำต้องทำกำไรติดต่อกันถึงห้าปีกว่าจะได้เงินจำนวนเท่านี้ครับ!”]

“ว่าไงนะ!?”

 

  จำนวนเงินมากมายอย่างคาดไม่ถึง ทำให้เซเลนต้องเปิดตากว้าง

 

  แต่ก็เป็นจำนวนที่สมเหตุสมผล เพราะอุปกรณ์เวทมนตร์เป็นสินค้าระดับสูงสำหรับมนุษย์ อย่างชุดสีขาวของอาร์คุยล่าทีเซเลนใส่อยู่เป็นประจำนี้ก็มีราคาตามตลาดเทียบเท่ากับบ้านหลายหลังแล้ว

 

  และสินค้าในครั้งนี้มีราคาเทียบเท่าหรือสูงกว่า อีกทังยังมีปริมาณมาก นอกจากนั้น มิลานยังเข้าใจถึงความสำคัญของตำแหน่งนี้ที่มีแต่เซเลนที่ทำได้ จึงมีการเพิ่มส่วนแบ่งให้เป็นพิเศษ

 

“เยอะจัง!”

[“แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครนอกจากองค์หญิงที่รับหน้าที่นี้ได้ กับผลประโยชน์ที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้รับ ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างถูกนะครับ”]

 

  บัตเลอร์พูดอย่างภูมิใจ เจ้านายของเขาคือผู้ที่จะถูกจดจำไว้ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์และเอลฟ์ นับเกียรติอย่างยิ่งที่ตนเองได้เป็นผู้ติดตามคนสนิทของคนคนนี้

 

“ใช้เงิน กับอะไรดี”

 

  บัตเลอร์กำลังตื่นเต้นด้วยหัวใจที่พองโต ส่วนเซเลนคิดว่าจะเอาเงินที่ได้มานี้ไปใช้กับอะไร เธอตั้งใจจะใช้เงินในทันที เพราะได้รับมาอย่างง่ายๆและมีจำนวนมาก

 

  ความสามารถในการเก็บเงินของเซเลนก็ไม่ต่างกับกระรอกที่ขุดหลุมฝังลูกโอ๊กไว้สำหรับฤดูหนาวและลืมพวกมันไปทั้งหมดเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ เพราะฉะนั้น ในชีวิตก่อน เธอจะใช้เงินไปจนเกือบหมดภายในไม่กี่วันหลังเงินเดือนออก และในตอนนี้เธอก็มีแนวทางการใช้เงินไม่ต่างกัน

 

  อย่างแรกที่คิดไว้คือของมึนเมาทั้งหลาย ในเมื่อตอนนี้กลายเป็นคนรวยแล้ว ก็ต้องหาสุราชั้นยอดมาลิ้มลองให้สมฐานะ กินคู่กับเนื้อย่างคุณภาพสูง ในสถานเริงรมย์ที่มีเหล่าสาวสวยมาคอยเอาใจ…

 

“…อ๊า!?”

 

  หลังจากคิดฟุ้งซ่านอยู่สักพัก เซเลนก็เอามือกุมหัว ลุกขึ้นจากเตียงและส่งเสียงดัง ทำให้บัตเลอร์หันไปมองด้วยความตกใจ และพูดกับเซเลนที่ตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

 

[“องค์หญิง!? มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ!?”]

“บัตเลอร์ แผนที่”

[“แผนที่? แผนที่สำหรับสถานที่ใดหรือครับ?”]

“แผนที่ เฮลิฟาเต้ ขอดู!”

[“หมายถึงแผนที่เมืองรอบปราสาทเฮลิฟาเต้ใช่ไหมครับ?”]

 

   ไม่มีการระบุรายระเอียดไปมากกว่านั้น เซเลนพยักหน้าตอบบัตเลอร์

 

[“กระผมไม่ทราบเจตนาของท่าน แต่ถ้าเป็นความต้องการขององค์หญิง…”]

 

   ไม่สามารถคาดเดาความปรารถนาของเจ้านายได้ แต่ก็จะตอบรับ บัตเลอร์กระโดดลงจากเตียง ใช้หางกดและเดินลากไปตามพรมให้เป็นรูปร่างคร่าวๆของเมืองหลวงของเฮลิฟาเต้

 

  ข้อมูลจากหนูทุกตัวจะถูกส่งมาถึงบัตเลอร์ เขาจึงรู้จักทุกซอกทุกมุมของสถานที่แห่งนี้ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับมิลานด้วยซ้ำ เขารู้แม้กระทั่งเรื่องที่กษัตริย์ชวานยังสอดส่องไปไม่ถึง ถ้าเป็นรายกระเอียดภายในเมืองหลวงของเฮลิฟาเต้แห่งนี้ ไม่มีใครรู้ลึกเท่าบัตเลอร์อีกแล้ว

 

[“เมืองรอบปราสาทมีรูปร่างคล้ายพัดที่แผ่ออกมาจากพระราชวัง ตรงจากถนนสายหลัก จะเป็นย่านธุรกิจที่มีตลาดและร้านค้าต่างๆเปิดอยู่มากมาย เป็นที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุด ไกลออกไปเป็นย่านอุสาหกรรม และไกลกว่านั้นก็จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม…”]

“เดี๋ยว!”

 

  เซเลนฟังบัตเลอร์อธิบายถึงตัวเมืองไปทีละส่วนด้วยรูปร่างคร่าวๆที่ถูกลากบนพรม แต่เซเลนก็หยุดไว้และชี้ไปที่ส่วนหนึ่งบนแผนที่ของบัตเลอร์

 

“แถวนี้ อะไร?”

[“ส่วนนั้นเป็นสถานที่… สำหรับผู้ใหญ่ ยังไม่ถึงเวลาที่องค์หญิงควรจะรับรู้ ผมจึงขอข้ามส่วนนี้ไปก่อนครับ”]

“ของ ผู้ใหญ่!?”

 

   นี่แหละ คือเรื่องที่อยากรู้ที่สุด เซเลนซักถาม แต่บัตเลอร์ก็ได้แต่เงียบ

 

[“(อืม… องค์หญิงอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่งั้นหรือ แต่เรื่องพวกนี้ยังให้รู้ไม่ได้…)”]

 

  บัตเลอร์ต้องคิดหนักว่าจะตอบคำถามเจ้านายอย่างไร เพราะเธอดูเหมือนจะสงสัยในกิจกรรมของผู้ใหญ่มาก

   ตามปรกติแล้ว บัตเลอร์จะไม่มีความลับ แต่เขาก็เป็นคนที่พูดถึงพื้นที่นั้นก่อน จนเซเลนชี้ไปที่ย่านบ่อนการพนัน ร้านเหล้า และสถานบริการทางเพศ อย่างตื่นเต้น

 

[“ราชาชวานเป็นผู้นำที่มองการณ์ไกล แทนที่จะปิดกั้นความสุขเล็กๆน้อยๆของประชาชน เขากลับเชื่อว่าควรมีพื้นที่ให้ประชาชนได้หาความสุขใส่ตัวบ้าง… เขตนี้จึงเป็นที่ที่รวบรวมสิ่งบันเทิงของผู้คนเอาไว้ครับ”]

“อธิบาย!”

[“ผู้คนที่ได้ความบันเทิงจะมีแต่ผู้ใหญ่ และแทบทั้งหมดก็เป็นผู้ชาย ไม่ใช่สิ่งที่องค์หญิงสงควรจะรับรู้ครับ”]

“…เข้าใจแล้ว”

[“เมืองหลวงของเฮลิฟาเต้มีความเจริญสูงอีกทั้งยังสวยงาม ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย เดี๋ยวกระผมจะแนะนำส่วนที่เหลือให้นะครับ”]

 

   บัตเลอร์พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำอื่นๆที่มีในเมืองหลวงเฮลิฟาเต้ แต่เซเลนก็ไม่ได้สนใจสถานที่แห่งอื่นแล้ว

 

 จากที่บัตเลอร์พยายามบ่ายเบี่ยง ประกอบกับคำพูดที่ค่อยๆหลุดออกมา ก็ทำให้เซเลนค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าที่ตรงนั้นจะต้องมีแหล่งอบายมุขแน่นอน บัตเลอร์กังวลว่าสิ่งไม่บริสุทธิ์เหล่านั้น มันจะไม่ดีต่อการเรียนรู้ของเจ้าหญิงผู้เยาว์วัย แต่จริงๆแล้วมันคือสิ่งที่เธอรู้อยู่เต็มอกและตามหาอยู่ต่างหาก

 

  หลังจากฟังคำอธิบายจนจบ เซเลนหยิบบัตเลอร์ขึ้นมาลูบหัวและวางไว้ในตะกร้าข้างเตียง นับจากเหตุการณ์ที่ป่าสีขาว บัตเลอร์ได้ถูกทุกคนยอมรับว่า หนูตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเซเลน และได้ที่นอนส่วนตัวมาไว้ครอบครอง โดยเป็นตะกร้าสานอย่างดีที่อยู่ข้างเตียง

 

“อะไรกัน”

 

   เซเลนล้มตัวลงนอน กัดฟันเจ็บใจ เพราะเพิ่งจะรับรู้ถึงอีกหนึ่งในข้องเสียที่ร้ายแรงของร่างกายนี้

 

  ไม่มีที่ให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆได้ใช้บริการ แม้จะมีเงินมากแค่ไหนก็ตาม

 

  หลังจากที่เธอก่อเรื่องไว้ที่สถานศึกษาเฮลิฟาเต้ ทั้งการไล่ล่าด้วยรถม้าและต่อสู้กับมารี เซเลนถูกห้ามออกนอกเขตพระราชวังโดยลำพัง หากเธอต้องการออกไปข้างนอกก็ต้องขออนุญาตใครสักคนก่อน และต้องมีผู้ติดตามรวมถึงคนคุ้มกันตามไปด้วย 

 

   โดยพื้นฐานแล้ว เซเลนเป็นคนชอบเก็บตัว นอกจากไปหาอาลัวในครั้งนั้นแล้ว เธอไม่เคยตั้งใจออกไปข้างนอกด้วยตัวเองเลย แต่ตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนความคิด เพราะมีเงิน จึงอยากจะเอาไปลงทุนในบ่อน หรืออยากจะลองพูด ‘เอาของที่แพงที่สุดในร้านมา’ ตามร้านเหล้าดูสักครั้ง

 

   แต่ก็ไม่มีทางที่จะออกไปข้างนอกโดยไม่มีคนอื่นคอยตามติดได้ ถึงจะหลบหนีออกไปโดยไม่มีใครเห็น ก็ไม่มีร้านไหนต้อนรับเด็กอย่างเธอให้เดินเข้าไปในร้านคนเดียว สั่งเหล้ามาดื่มจนเมาหัวทิ่มและเรียกสาวๆมาจับหน้าอกได้

 

  หากมีแนวคิดเรื่องสถานเริงรมย์สำหรับผู้หญิงที่แม้แต่เด็กแปดขวบก็ใช้บริการได้ เธอก็จะทุ่มเงินทุนทั้งหมดนี้เพื่อสร้างมันขึ้นมาอย่างไม่ลังเล แต่ก็ไม่มีใครคิดถึงธุรกิจที่ไร้สาระเช่นนี้ และเธอก็ไม่สามารถไปทาบทามว่า ‘มาสร้างสถานเริงรมย์ที่มีแต่ผู้หญิง เพื่อผู้หญิง กันเถอะ’ กับนักลงทุนทั่วไปได้

 

  ทั้งที่จริงก็มีวิธีใช้จ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพอยู่อีกหลายวิธี แต่นอกจากการหาความสุขใส่ตัวแล้ว เซเลนก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย เหตุผลหลักๆก็เพราะว่าเธอคือเซเลนนั่นเอง

 

“ท่านพี่… ไม่ได้”

 

  อีกเรื่องที่อยู่ในหัวของเธอก็คืออาลัว แต่การมอบเงินจำนวนนี้ให้กับอาลัวเป็นการส่วนตัวก็มีข้อเสียอยู่ เนื่องจากเงินจำนวนนี้ยังอยู่ที่มิลาน เพราะเป็นเงินที่ได้มาจากเขา หากส่งให้อาลัวก็จะเหมือนกับว่ามาจากมิลาน ซึ่งจะทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่เหมือนเป็นหนี้เจ้าชาย แค่นี้ก็เสียเปรียบมากพอแล้ว ต้องไม่ทำให้เขาได้เปรียบมากขึ้นไปอีก

 

“ใช่แล้ว!”

[“องค์หญิง มีเรื่องกังวลใจอะไรหรือเปล่าครับ? กระผมพร้อมรับใช้ ให้คำปรึกษาเสมอครับ”]

“บัตเลอร์ ไปกัน”

 

   เซเลนรีบลุกออกจากเตียง เตรียมตัวออกไปนอกห้อง บัตเลอร์ก็กระโดดไปหาและไต่ขึ้นไปบนไหล่ของเธอทันทีที่ถูกเรียก

 

[“จะไปไหนหรือครับ?”]

“คุย ราชา”

[“ต้องการเข้าเฝ้าองค์ราชาชวาน? มีเหตุด่วนอะไรหรือเปล่าครับ?”]

“เรื่องดี”

 

  เซเลนยิ้มอย่างอารมณ์ดีแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มเติม บัตเลอร์พยายามหาคำตอบถึงความต้องการของเจ้านาย ถึงจะเค้นสมองคิดหาความน่าจะเป็นสักแค่ไหนก็ไม่สามารถคาดเดาความคิดอันลึกซึ้งของเซเลนได้

 

[“นกกระจอกไฉนจะรู้ใจพญาหงส์…*”]

 

  บัตเลอร์นึกถึงคำพูดที่เคยได้ยิน เหมือนกับตัวเขาในตอนนี้ที่ยังอ่อนด้อยยิ่งนัก ไม่เข้าใจการกระทำของผู้ยิ่งใหญ่

   เซเลนออกจากห้องโดยมีบัตเลอร์ตามติดอยู่บนไหล่ วิ่งผ่านโถงทางเดินจนมาถึงห้องทรงงานของราชาชวานที่อยู่สุดทาง บอกองครักษ์ที่อยู่หน้าห้องให้ไปแจ้งราชาว่าเธอมาขอเข้าพบ

 

   อันที่จริง ต้องมีขั้นตอนในการนัดพบมากมาย แต่ในตอนนี้ เซเลนถือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเฮลิฟาเต้ และชวานเองก็ให้ความสำคัญกับเซเลนเทียบเท่ามารี ดังนั้นเซเลนจึงได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษอย่างง่ายดาย

 

“เซเลน มีธุระอะไรกับข้าล่ะ? มีสิ่งที่อยากได้รึ?”

“ข้อเสนอ กับองค์ราชา”

“มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับข้าล่ะ…?”

 

   ถึงพฤติกรรมเซเลนจะแปลกกว่าทุกทีแต่ชวานก็ตอบด้วยรอยยิ้ม เขาอยากจะรับฟังสิ่งที่เซเลนต้องการ เพราะเด็กคนนี้ไม่เคยเรียกร้องอะไรมาก่อน หากเซเลนอเรียกร้องสิ่งใด ชวานก็คิดจะจัดหามาให้อย่างสุดความสามารถ

 

  และเซเลนก็พูดเรื่องที่ทำให้ทั้งราชาชวานและบัตเลอร์ที่อย่บนไหล่ต้องตกใจ

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“คุณอาลัว หลังจากนี้พอมีเวลาหรือเปล่า?

 

  ในสถานศึกษาเฮลิฟาเต้ หลังคาบเรียนในช่วงเช้า ขณะที่อาลัวย้ายห้องเรียนสำหรับวิชาถัดไป ระหว่างนั้น เธอถูกเรียกโดยศาสตราจารย์ท่านหนึ่ง

 

“ค่ะ ถ้ามีอะไรช่วย ก็กรุณาบอกมาได้เลยค่ะ”

“ไม่ได้จะขอให้ทำอะไรหรอก ผู้อำนวยการอยากพบเธอน่ะ…”

“ผู้อำนวยการ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”

 

  อาลัวเอียงคอสงสัย ถ้าถูกผู้อำนวยการเรียกก็ต้องไป แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเธอไปทำอะไรไว้ถึงถูกเรียก

 

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า….”

 

  อาลัวเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการ รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในวันแรกที่เธอยังที่แห่งนี้ เธอถูกมองว่าเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่ง แต่ก็พยายามมาตลอดจนติดอันดับนักเรียนดีเด่นของชั้นปี และเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมั่นใจได้ว่าตนเองไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรไว้

 

   อะไรที่เธอทำได้ ก็ทำได้ดีมาตลอด ตั้งแต่อาลัวอาได้มาอยู่ในสถานศึกษาที่ขึ้นชื่อว่าอันดับหนึ่งเช่นนี้ พรสวรรค์ของเธอได้ถูกพัฒนาไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ จนไม่มีใครกล้าดูถูกเธออีกต่อไป และค่าตอบแทนของโอกาสที่ได้รับมาทั้งหมดนี้ ก็คือเซเลนนั่นเอง

 

“ต้องไม่ทำให้ความพยายามของเซเลนต้องศูนย์เปล่า…”

 

   น้องสาวคนสำคัญทำงานอย่างขันแข็งจนเมื่อเร็วๆนี้ได้มาเป็นบุคลสำคัญของประเทศนี้ เพราะฉะนั้น ตนเองจะไม่พยายามไม่ได้ และถึงตอนนี้จะยังคิดไมออก แต่ก็เชื่อว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรให้ถูกผู้อำนวยการเรียกพบแน่ๆ หรือผลการเรียนจะมีปัญหาโดยที่ยังไม่รู้ตัว แต่เพื่อเซเลนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องแก้ไขให้ได้

 

“อาลัว อาร์คุยล่า ขอเข้าพบค่ะ”

“เข้ามาได้”

 

  เมื่อเคาะประตูบานใหญ่ก็มีเสียงของชายที่ฟังดูมีอายุตอบรับในทันที อาลัวเปิดประตูเข้าไปด้วยท่าทางเคร่งเครียด ก็พบกับชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐาน ผู้อำนวยการของสถานศึกษาแห่งนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับรับแขก กับคนอีกคนที่อาลัวเห็นแล้วนึกว่าตาฝาด เซเลนก็อยู่ตรงนั้นด้วย

 

  เซเลนนั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งเดียวกับผู้อำนวยการ หยิบคุกกี้ขึ้นมาหักครึ่งและส่งให้กับหนูสีดำขาวที่อยู่บนตัก และยกถ้วยชากลิ่นหอมหวนขึ้นมาจิบ น่าจะเป็นขนมรับแขกที่ผู้อำนวยการนำมาให้

 

“มาหาแล้ว”

“เอ๋!? เซเลน!?”

 

  อาลัวตกใจจนมองข้ามผู้อำนวยการและเดินไปหาเซเลน ก่อนหน้านี้เซเลนเคยบุกรุกเข้ามาในสถานศึกษาเพื่อตามหาเจ้าชายสุดที่รัก ครั้งนี้เซเลนคงจะทำอะไรบางอย่างจนถูกควบคุมตัวมาไว้ที่นี่ และอาลัวซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเธอและตามตัวได้ง่ายที่สุดจึงถูกเรียกมา

 

“เซเลน หนีออกมาอีกแล้วเหรอ?”

“เปล่าหนิ?

 

  เซเลนเงยหน้าพูดกับอาลัวที่ยังพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ ดูแล้วเซเลนไม่น่าทำอะไรผิด และผู้อำนวยการก็ไม่ได้ดูเหมือนว่ากำลังโกรธอยู่

 

“คุณหนูคนนี้ เซเลน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาใดๆทั้งสิ้น วางใจเถอะ”

“เอ่อ… แล้ว ทำไมเซเลนถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ?”

 

  ในหัวอาลัวมีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ ผู้อำนวยการก็พอจะเดาสิ่งที่เธอสงสัยได้ จึงเริ่มอธิบายทีละอย่าง

 

“หนึ่งในผู้สนับสนุนรายใหญ่บอกมาว่าต้องการพบคุณอาลัว ก็เลยเรียกให้มาเจอกันที่นี่”

“ผู้สนับสนุน? เหรอคะ?”

 

   จากที่อาลัวเห็น ห้องนี้ไม่ได้ซับซ้อนมาก จึงแน่ใจว่า ถ้าไม่นับหนูของเซเลนตัวนั้น และนอกจากเซเลนกับผู้อำนวยการแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องนี้อีก ท่าทีของอาลัวดูแปลกเข้าไปทุกที ทำให้ผู้อำนวยการหัวเราะออกมา

 

“ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง คุณหนูผู้สนับสนุนรายใหญ่”

“เอ๋… ทำไม…”

“ให้เงิน โรงเรียน”

 

  คำตอบของเซเลนยิ่งทำให้อาลัวไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าจะพูดไม่เป็นประโยคเหมือนทุกที แต่อาลัวก็เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด เป็นที่การกระทำดังกล่าวต่างหาก ที่ทำให้สมองของเธอตามเรื่องไม่ทัน

 

“เอ่อ? เอ๋?”

 

  อาลัวยืนเหม่อและส่งเสียงแปลกๆเหมือนเด็กอยู่สักพัก ซึ่งถือว่าแปลกสำหรับคนที่สงบเสงี่ยมอย่างเธอ เธอโชคดีที่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาประจำชาติเฮลิฟาเต้ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของทวีปนี้ และผู้สนับสนุนรายใหญ่ของสถานศึกษานี้ก็คือน้องสาวของเธออีก

 

“ทำไม… ได้ยังไง? ล้อเล่นเหรอ?”

“จริง ราชา อนุญาต”

 

  อาลัวมองเซเลนที่ยิ้มให้เธออย่างร่าเริง แต่อาลัวก็คิดคำพูดไม่ออก ได้แต่มองอยู่เงียบๆ

 

“ท่านพี่”

“ม-มีอะไรเหรอ?”

“วันอื่น มาอีก”

 

   หลังจากพูดจบ เซเลนก็ลุกไปเปิดประตูออกจากห้อง ถึงอยากจะอยู่กับกับอาลัวให้นานกว่านี้แต่ต้องกลับไปทำงานในช่วงเย็น เพราะสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันมีมากมาย เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

  เซเลนหันกลับมาโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดประตู หนูของเธอก็ยืนสองขาและโค้งคำนับเหมือนมนุษย์อยู่บนไหล่ เหลือเพียงอาลัวกับผู้อำนวยการเจ้าของห้อง

 

“เอ่อ… ท่านผู้อำนวยการ เรื่องเมื่อกี้ จริงหรือเปล่าคะ?”

“จริงแน่นอน ทีแรกผมก็แปลกใจเหมือนกัน อยู่ดีๆก็มีคนจากวังหลวงมาหาพร้อมกับเด็กสาวคนนี้และมีจดหมายจากองค์ราชามายื่นให้ ในนั้นเขียนไว้ว่า ‘คุณหนูเซเลนมีความประสงค์จะบริจาคทรัพย์สินส่วนตัว และกำไรที่ได้จากการติดต่อซื้อขายกับเผ่าพันธุ์เอลฟ์นับจากนี้ทั้งหมด ให้กับสถานศึกษาประจำชาติเฮลิฟาเต้’ ถูกบอกมาเช่นนี้ จะคิดว่าเรื่องล้อเล่นก็ไม่แปลก”

“หืม…”

 

  อาลัวมองไปทางประตูที่น้องสาวเดินออกไป ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นเด็กแปลกๆ ชอบทำอะไรที่คนอื่นไม่เข้าใจ แต่ครั้งนี้ได้ทำเรื่องที่ใหญ่กว่ากว่าปรกติมาก

 

“ต้องไปคุยกับเจ้าชายมิลาน…”

 

  การกระทำของน้องสาว เจ้าชายมิลานจะรู้เรื่องด้วยหรือเปล่า อาลัวได้แต่สงสัยก่อนจะพยักหน้าและเดินออกไป

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

 

 

“ท่านพ่อ นี่มันเป็นความจริงหรือ!?”

“ใช่สิ เซเลนมาหาข้าเพื่อบอกว่า ‘ขอนำเงินที่ได้มา ส่งต่อไปยังสถานศึกษาเฮลิฟาเต้’ เธอเป็นคนพูดออกมาเอง”

“นั่นมัน…”

 

   ขณะที่เซเลนออกไปหาอาลัว มิลานก็เข้ามาสอบถามกับชวานที่ห้องทรงงาน เงินจำนวนนั้น เขาตั้งใจไว้ว่าจะให้เซเลนเก็บไว้ใช้สำหรับอนาคต เพื่อที่เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในภายภาคหน้า แต่เซเลนกลับยกเงินทั้งหมดนั้นให้กับสถานศึกษาเฮลิฟาเต้

 

“นั่นเป็นเงินเก็บสำหรับอนาคตของเซเลนนะครับ”

“…และเซเลนก็คิดถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อนเหมือนทุกครั้ง จึงใช้มันสำหรับอนาคตของประเทศชาติ”

“อนาคตของประเทศ? เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือครับ?”

“เธอถูกนำตัวไปขังตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่เคยได้รับการศึกษาทั้งๆที่เป็นถึงราชวงศ์ เธอจึงเข้าใจความสำคัญของการศึกษาเป็นอย่างดี”

 

  เงินทุนของสถานศึกษาแห่งชาติเฮลิฟาเต้ส่วนใหญ่จะมาจากราชาชวาน เนื่องจากชวานให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เพราะเชื่อว่าบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญ จึงต้องมีสถานที่สำหรับเพราะบ่มผู้คนเหล่านั้น ยิ่งสามารถรวบรามเงินทุนได้มากเท่าใด ก็จะยกระดับการศึกษาได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก

 

“ในเชิงธุรกิจ การออกทุนเพื่อการศึกษาคือสิ่งที่ไม่คุ้มค่า ตามปรกติแล้ว นักลงทุนจะไม่ใช้จ่ายกับเรื่องที่มีผลตอบแทนไม่แน่นอนและใช้เวลานานกันหรอก”

 

  ผู้ที่จบหลักสูตรการศึกษาแล้วออกมาทำประโยชน์ได้ทันทีนั้นมีน้อยมาก งานหลายๆอย่างไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ในการปฏิบัติงานจริง แต่การสะสมเพียงประสบการณ์โดยไม่มีความรู้ก็ไม่สามารถพัฒนาไปได้ไกล เพราะฉะนั้น บุคลากรที่ดีจะต้องมีทั้งความรู้และประสบการณ์อยู่ด้วยกัน

 

   ถึงอย่างนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เท่านั้น ตราบใดที่มีประสบการณ์ก็เท่ากับว่าพร้อมปฏิบัติงานได้จริงแทบทั้งหมดแล้ว แต่ในความจริงก็จะเป็นเพียงการรักษาสภาพในปัจจุบันเอาไว้เฉยๆ ไม่มีการพัฒนา ประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้ยาก

 

“หากคำนึงถึงความก้าวหน้าของประเทศชาติในอนาคตก็ต้องสนับสนุนการศึกษา เซเลนทำลงไปด้วยความคิดเช่นนี้แหละ”

“เธอยังเป็นแค่เด็ก อาจทำลงไปโดยไม่ได้คิด… มีความเป็นไปได้เหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ?”

“หากเซเลนต้องการใช้เงินเพื่ออะไรบางอย่าง ก็ต้องนำไปใช้กับเรื่องที่ตัวเองชอบสิ ทำไมต้องเจาะจงว่าเป็นสถานศึกษา แกหาเหตุผลอื่นได้หรือเปล่าล่ะ”

 

 ทั้งชวานและมิลานต่างก็นับถือการตัดสินใจของเซเลนในครั้งนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากมาย มาตอนนี้ เธอคำนึงถึงอนาคตของประเทศชาติ คิดในมุมมองเดียวกับพวกเขาและเสียสละทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อการนั้น เด็กสาวคนนี้จะแสดงพรสวรรค์ออกมาอีกมากสักแค่ไหนกัน

 

“มิลาน”

“ครับ”

“เด็กสาวที่พิเศษขนาดนี้จะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในประเทศ… ไม่สิ จะแดนมนุษย์หรือเอลฟ์ก็ไม่มีใครอื่นอีกแน่ ถึงอดีตของเธอจะน่าเศร้า แต่เธอจะทำเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ได้ถ้ายังอยู่ในประเทศอันห่างไกลอย่างอาร์คุยล่า ต้องมีโชคชะตาบางอย่างนำพาแกไปพบกับเธอแน่”

“พบกัน ด้วยโชคชะตา…”

 

  เซเลนไม่ได้เป็นแค่เด็กสาวผู้งดงามตามที่คิดไว้ในตอนที่ได้พบกันครั้งแรก ถึงจะตัดสินใจพามาด้วยเพราะความสงสาร แต่เซเลนก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพระหว่างเอลฟ์และมนุษย์ มอบความรุ่งเรื่องให้กับเฮลิฟาเต้ทั้งประเทศและเอลฟ์ทั้งเผ่าพันธุ์ และที่สำคัญ มอบความสุขให้แก่ตัวเขาเอง

 

“การพบพานแห่งโชคชะตา…”

 

   คำพูดนั้นของพ่อ สั่นสะเทือนไปถึงหัวใจของมิลาน หากเส้นทางของเธอถูกกำหนดไว้ด้วยโชคชะตา แล้วโชคชะตานั้นจะยอมรับตัวเขาให้อยู่เคียงข้างเธอต่อไปในอนาคตด้วยหรือเปล่า ไม่สิ ต้องทำให้เป็นเช่นนั้นให้ได้ มิลานจดจำความตั้งใจในตอนนี้เอาไว้

 

 

   ◆◇ ◆ ◇ ◆

 

“เส้นสาย เก็ท(get)”

 

   ภายในรถม้าขากลับ เซเลนที่นั่งแกว่งอยู่ข้างในก็ยิ้มร่าตลอดการเดินทาง คิดถึงแผนการที่ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

 

  ในเมื่อไม่สามารถใช้เงินนี้เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของเธอได้ ก็มาถึงสิ่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากัน อาลัว และต้องไม่ให้มีช่วงว่างให้เจ้าชายเข้ามาแทรกแซงได้

   ดังนั้นเซเลนจึงต้องเพิ่มลูกเล่นเข้าไปนิดหน่อย จนออกมาเป็น สินบนในรูปแบบของเงินบริจาคให้กับโรงเรียนที่อาลัวเรียนอยู่ยังไงล่ะ ในมุมมองของคนทั่วไปก็จะเห็นเป็นการบริจาคให้กับสาธารณะ ไม่ใช่การมอบผลประโยชน์ให้กับอาลัวโดยตรง และถ้าอ้างเรื่อง ‘ตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ ขึ้นมา ก็จะสามารถเข้าออกสถานศึกษาเฮลิฟาเต้เมื่อไหร่ก็ได้

 

   และมันยังเป็นการจองตัวเอาไว้โดยการพลิกแพลงความคิดที่ว่า ถ้าอยากจู๋จี๋กับไอดอล ก็ต้องไปเป็นโปรดิวเซอร์ หรือ ถ้าอยากมีแฟนเป็นนักพากย์ ก็ต้องไปเป็นผู้กำกับอนิเมะ

 

“หุ หุหุหุ…”

 

   เซเลนหัวเราะให้กับแผนการอันแยบยล ภูมิใจในสมองอันปราดเปรื่องที่คิดวิธีนี้ออกมาได้ ครั้งนี้ทำได้ดีมากจนอยากจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ตัวเองขึ้นมาเลยดีเดียว

 

   เพียงเท่านี้ เซเลนก็จะกลายมาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของสถานศึกษาแห่งชาติเฮลิฟาเต้ สามารถเข้าถึงได้ทุกส่วนภายในสถานศึกษานั้นโดยมีเบื้องหน้าคือ ‘ตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ แต่ก็ไม่ได้สนใจที่จะไปก้าวก่ายการดำเนินงานใดๆอยู่แล้ว

 

   หลังจากอิ่มเอิบใจกับการที่ถูกอาลัวกอดและลูบหัวไปเพียงเวลาสั้นๆ เธอก็กลับมาถึงพระราชวัง และได้เข้าร่วมการประชุมในตอนเย็นโดยที่ไม่คิดจะรับรู้ว่าคนพวกนั้นมาคุยเรื่องอะไรกัน และแน่นอนว่าตอนกลางวันยังต้องไปทำอาหารกลางวันไปวางยาเจ้าชายเหมือนทุกที ดังนั้น ถ้านับตามมาตรฐานเของเซเลน ก็จะพูดได้ว่า เซเลนจึงเป็นคนที่มีงานรัดตัวมาก

 

   หลังจากผ่านไปอีกเดือน เซเลนก็ได้กลายเป็นประเด็นของข่าวลือในสถานศึกษา ในตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเธออีกแล้ว เด็กสาวผู้งดงามกับรูปลักษณ์อันโดดเด่นที่มาปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ่อยๆ จึงเป็นที่สนใจของบรรดานักเรียนทั้งหลายได้ย่างง่ายๆ

 

   เทพธิดาสีขาวบริสุทธิ์ที่แม้แต่เอลฟ์ยังต้องออกจากป่ามายังเฮลิฟาเต้เพื่อยลโฉม อีกทั้งยังว่ากันว่าเธอได้บริจาคเงินมหาศาลให้กับสถานศึกษาแห่งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเธอล้วนคลุมเครือ

 

  สิ่งที่รู้แน่ชัดจะมีแค่เรื่องที่เธอสนิทสนมกับองค์ชายศักดิ์สิทธิ์มิลาน และคาดเดากันว่าเธอมาจากอาร์คุยล่า เนื่องจากเธอมักจะไปหาอาลัว อาร์คุยล่า และเรียกว่า ‘ท่านพี่’ อยู่บ่อยๆ แต่เมื่อไปสอบถามเรื่องนี้กับอาลัว เธอก็ปฏิเสธที่จะบอกเล่าถึงรายระเอียด

 

   เรื่องที่เป็นที่ฮือฮามากที่สุดก็คือเรื่องการเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้ากับเผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่จัดขึ้นในพระราชวัง ที่ประสบความสำเร็จได้ก็เพราะเด็กสาวที่ชื่อเซเลนคนนี้ ในตอนนี้ การค้าขายกับเอลฟ์ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศ และมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขาไปเข้าร่วม การที่เธอเป็นศูนย์กลางของการประชุมระดับนี้ แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาอันสูงส่งของเธอ

 

   ยิ่งไปกว่านั้น เงินจำนวนมากมายที่เซเลนได้รับจากการค้าขายกับเอลฟ์ ก็ถูกบริจาคให้กับสถานศึกษาแห่งนี้ทั้งหมด และเธอก็ยังมาตรวจสอบความถูกต้องรายจ่ายด้วยตัวเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งหมายความว่าเธอเห็นความสำคัญของระบบการศึกษาเป็นอย่างดี 

 

   ตัวตนเซเลนถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย ได้รับการยกย่องจากเฮลิฟาเต้ทั้งประเทศ เป็นผู้ที่มีทั้งปัญญาและความงาม และเหนือสิ่งอื่นใด การสร้างสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์และมนุษย์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สิ่งที่คู่ควรแก่การถูกจารึกไว้

 

  ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถห้ามผู้คนไม่ให้พูดถึงได้ ชื่อและวีรกรรมของเซเลนจึงแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ

 

“หน้าอก, หน้าอก♪””

 

  แต่ก็ยังมีคนที่ไม่สนใจข่าวลือพวกนั้น เซเลนที่ร่าเริงจนร้องออกมาเป็นเพลงในรถม้า กำลังเดินทางไปหาอาลัวที่โรงเรียน โดยมี ‘การตรวจสอบเส้นทางการเงิน’ เป็นเหตุผลบังหน้า ไม่ว่าจะถูกลือว่าอะไร เซเลนก็ยังเป็นเซเลนเหมือนทุกที

 

 

____________________

*

燕雀安んぞ鴻鵠の志を知らんや

นกกระจอกนกนางแอ่น ไฉนจะรู้ใจพญาหงส์

หมายถึง

คนผู้น้อยย่อมไม่เข้าใจความคิดของผู้สูงส่ง

 

คําพังเพยที่พบบ่อยในเรื่องสามก๊ก ส่วยใหญ่แปลไทย ว่า

‘นกน้อย ไยจะรู้จิตใจพญาครุฑ’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+