[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.16: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8)

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.16: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 16

เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8)

 

 

   งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากต่างแดนจบลง ทุกฝ่ายต่างอิ่มหนําสําราญกันถ้วนหน้า เวลาก็ล่วงเลยมาถึงยามสาม(ราวๆตีสอง) กลางดึกอันเงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงลม หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายพูดคุยกันอยู่ในมุมมืด

 

“หวังว่าผลของยาเปลี่ยนผันจะดีอย่างที่ว่าไว้นะ”

“หึหึ ดูเอาเองเถอะ”

 

   หญิงสาวขยับตัวในความมืด เปิดประตูหลังให้ชายผู้ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีดำเข้าไปข้างใน คนวางแผนเละคนลงมือ ชายชุดดำตามเข้าไปอย่างไม่ลังเล สาวใช้ที่อ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและขอกลับไปก่อน จริงๆแล้วเธอไม่ได้ไปไหน แต่คอยดูต้นทาง ซ่อนตัวเพื่อสังเกตการณ์อยู่รอบๆจนกว่าจะถึงเวลาให้ชายคนนี้ลงมือ

 

  ภายในรั้วบ้านของคาเงะโทระมีการจัดเวรยามอย่างรัดกุมทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เวลานี้ เวรยามดังกล่าวกลับนั่งหลับนอนหลับกันเกลื่อนกลาดอยู่ตามมุมเสา ผู้บุกรุกเลือกใช้ประตูหลังที่มีการรักษาความปลอดภัยเบาบาง แต่จากสภาพที่เห็น แม้แต่ประตูหน้า พวกเขาก็สามารถเปิดเข้ามาได้โดยไม่ถูกพบเจอ

 

“รีบฆ่าฮิโนเอะและรีบหนีกันดีกว่า ราบรื่นเกินไปมันก็น่าระแวง”

“ช่างเหมาะกับ เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้* ดีเหลือเกิน”

 

   มันคือประโยคที่ใช้ระบุตัวผู้ที่เป็นแนวร่วมของงานนี้ หมายถึง ‘เรื่องร้ายที่ไม่คาดฝัน’ หญิงสาวพูดขึ้นมาเหมือนประชด เพราะคาเงะโทระที่ดูเหมือนจะเมาไม่รู้เรื่องอยู่ตอนนี้ ไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อได้สติอีกที ฮิโนเอะที่เขาหวงแหนนักหนาก็จะกลายเป็นศพไปแล้ว

 

“เอาเถอะ ข้าจะรีบทำให้มันจบๆ”

 

   ชายชุดดำให้หญิงสาวรออยู่ตรงนั้นและเข้าไปในตัวบ้านเพียงลำพัง ทุกก้าวย่างไร้สุ้มเสียง เขาเป็นมืออาชีพที่ทำงานลอบเร้นเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาจึงรวดเร็วว่องไวและเงียบงันไม่ต่างกับฝีเท้าของแมว แม้เป็นพื้นไม้เก่าๆก็ไม่ทำให้เกิดเสียง เรื่องโครงสร้างภายในตัวบ้านก็ได้ฟังมาจากหญิงสาวแล้ว จึงรู้ว่าห้องของฮิโนเอะอยู่ตรงไหน เขาตรงไปที่นั่นทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

 

   ทั่วทั้งบ้านเงียบสงบ เวรยามที่ละทิ้งหน้าที่ไม่ได้มีแต่ที่หน้าประตู แต่มีอยู่ทั่วทุกแห่ง ชายฉกรรจ์เหล่านั้นดูเหมือนจะเมามายเพราะฤทธิ์สุราจนไม่เป็นอันทำงาน

 

“ผลของพลังต้องสาป น่ารังเกียจจริงๆ”

 

   ชายชุดดำพูดออกมาเบาๆ แม้แต่นักรบผู้เก่งกาจก็ยังถูกพลังต้องสาปเล่นงานจนไม่เป็นผู้เป็นคน บิดาของฮิโนเอะพยายามกำจัดขนาดนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ ในเมื่อลูกสาวแท้ๆมีพลังแบบเดียวกันอยู่ใกล้ๆ เจ้าทานุกิเฒ่านั่นจะกล้าหลับสนิทในแต่ละคืนได้อย่างไร

 

   ไม่นาน ชายชุดดำก็มาอยู่หน้าห้องของฮิโนเอะโดยไม่มีใครพบเจอ จากนี้ก็แค่เปิดประตูเข้าไป ใช้เชือกที่เตรียมมารัดลำคอของเธอให้แน่น แม้การใช้มีดแทงกลางหัวใจจะทำได้รวดเร็วกว่า แต่การรัดคอก็ช่วยป้องกันการส่งเสียงร้องและไม่ต้องห่วงเรื่องรอยเลือด

 

“ผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

“หืม!?”

 

  เมื่อจับไปที่บานประตูเลื่อนก็มีเสียงเรียกมาจากอีกฝั่ง ชายชุดดำชักมีดสั้นออกมาจากข้างในเสื้อ เตรียมพร้อมต่อสู้ทันที แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็มีเพียงฮิโนเอะอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เธอนั่งอยู่เฉยๆบนฟูกนอน ไม่ได้พยายามหลบหนีหรือส่งเสียงร้อง

 

“แม่หนูช่างโชคร้ายเหลือเกิน หากหลับอยู่ก็ไม่ต้องหวาดกลัวหรือทรมานแท้ๆ”

 

   คนอื่นๆหมดสภาพเพราะยาเปลี่ยนผัน อีกทั้งยังเมามายด้วยฤทธิ์สุรา ต่อให้ฮิโนเอะกรีดร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครสนใจ ชายชุดดำชี้มีดสั้นไปทางฮิโนเอะเพื่อบอกให้รู้ว่าถ้าส่งเสียงจะลงมือทันที แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องฆ่าเธออยู่ดี

 

“ดูเหมือนเป้าหมายของท่านคือชีวิตของข้าน้อย”

“รู้ตัวก็ดี ถึงข้ากับเจ้าจะไม่มีความแค้นต่อกัน ในเมื่อข้ารับงานมาแล้วก็มีแต่ต้องทำให้สำเร็จ ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้ายอมอยู่เฉยๆ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ทรมาน”

“ข้าน้อยไม่ขัดขืนหรือร้องขอชีวิตหรอกเจ้าค่ะ ตั้งแต่ถูกท่านคาเงะโทระอุปการะมาที่บ้านหลังนี้ แม้ต้องตาย ก็ตายตาหลับแล้วเจ้าค่ะ”

 

   ทั้งที่มีคมมีดใกล้เข้ามาจนแทบจะทิ่มแทง ฮิโนเอะก็ยังคงใจแข็งสงบนิ่ง หากตัดเรื่องพลังต้องสาปออกไปก็เรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ายกย่องคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของชายในชุดดำเปลี่ยนไป

 

“เพราะข้าน้อยเป็นผู้ครอบครองพลังต้องสาป หากความตายของข้าน้อยช่วยลดภาระของท่านคาเงะโทระได้ก็ยินดี เพียงแต่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องการถามจากท่านเจ้าค่ะ”

“โง่หรือเปล่า คนใกล้ตาย รู้แล้วจะทำอะไรได้”

“ถูกต้องแล้ว อีกไม่นานข้าน้อยก็จะตายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะฉะนั้น ถึงรู้ไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…”

“แล้วยังไง?”

“ข้าน้อยเชื่อว่าท่านยังมีหัวใจอยู่บ้าง ดังนั่น กรุณาบอกได้หรือไม่ว่าใครกัน คือคนที่อยากได้ชีวิตของข้าน้อยจนต้องส่งท่านมา? ข้าน้อยไม่อยากตายไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ถือเป็นของฝากไปโลกหน้า…”

 

   ชายชุดดำใจอ่อน เขาเองก็ไม่ได้ชื่นชอบการสังหารเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฮิโนเอะ เขาทำเพียงเพราะมันเป็นงาน ที่ฮิโนเอะพูดก็ฟังดูมีเหตุผล ทุกอย่างที่เด็กสาวโชคร้ายคนนี้รู้จะไม่ถูกแพร่งพราย คนตายพูดไม่ได้ เขาจึงคิดจะตอบออกไปตามตรง

 

“…บิดาของเจ้า ไม่อยากให้หลงเหลือผู้ครอบครองพลังต้องสาปไว้ในตระกูล”

“เป็นเขานี่เอง… คิดไว้ไม่มีผิด”

 

   ฮิโนเอะถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมาอีก

 

“ใจแข็งยิ่งนัก สมกับเป็นผู้มีสายเลือดนักรบผู้เก่งกล้า รักษาเกียรติได้จนวาระสุดท้าย น่าเสียดายที่ครอบครองพลังต้องสาป หากไม่มีอะไรค้างคาแล้ว ข้าก็ขอลงมือโดยไม่ให้ทรมานตามสัญญา”

“…ถ้าเช่นนั้น ทุกท่าน ขอความกรุณาด้วยเจ้าค่ะ”

 

  ขณะที่ชายชุดดำเล็งไปที่ลำคอของฮิโนเอะ ฮิโนเอะกลับเอ่ยคำพูดที่เหมือนจะพูดกับคนอื่น

   เพียงเท่านั้น ประตูเลื่อนรอบๆก็เปิดออก ชายชุดดำชะงักถอยออกมาในทันที แต่ข้างหลังเขาก็มีกลุ่มคนติดอาวุธยืนรออยู่เช่นกัน เหล่ายามที่ถูกวางยาเปลี่ยนผันก่อนหน้านี้ กำลังถือหอกชักดาบอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ชายชุดดำถูกล้อมไว้โดยสมบูรณ์

 

“พวกแก!?”

“ขอบคุณท่านมือสังหาร ที่ยอมสารภาพออกมาง่ายๆ”

 

   ถัดจากกลุ่มคนติดอาวุธที่คุมะฮาจินำเข้ามา ก็มีคาเงะโทระยืนพูดอยู่ข้างหลัง ในตอนที่ชายชุดดำพยายามถอย คุมะฮาจิก็เข้ามาขวางฮิโนเอะเอาๆไว้ และพาถอยกลับไปหาคาเงะโทระ ในระยะที่อีกฝ่ายไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป

 

“เจ้าโง่คนนี้! บังอาจมาก่อเรื่องตอนที่ฉันอยู่ที่นี่ ถูกจับไปซะ สมน้ำหน้า!”

“ไม่ให้อภัย คนไม่ดี!”

 

   มารีพูดเยอะเย้ยอยู่ข้างหลังคาเงะโทระ และเซเลนที่อยู่ข้างๆก็แสดงความโกรธออกมา

 

“ทำไมกัน!? ผลของยาเปลี่ยนผันล่ะ!?”

“ของแบบนั้นน่ะ คุณหนูเซเลนรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้ว ข้าสั่งให้เทเหล้าทิ้งทั้งหมดและใส่น้ำเปล่าเข้าไปแทน งานฉลองทั้งที กลับไม่ได้ดื่มสุราสักหยด เสียบรรยากาศจนน่าโมโห คงต้องให้เจ้าชดใช้เสียแล้ว”

 

   คาเงะโทระพูดเหมือนเรื่องขบขัน แต่แววตาไม่ได้ล้อเล่น หากใช้แววตาฆ่าคนได้ คงมีคนตายไปแล้วสิบคน

 

“ยัยเด็กนั่น! รู้ได้ยังไง! ตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“มีคน เล่าให้ฟัง”

“บ้าน่า! ข้อมูลรั่วไหลงั้นเหรอ!”

 

   ชายชุดดำเดาะลิ้น ไม่รู้ว่าเธอพูดถึงใครคนไหน เพราะพรรคพวกของเขาทุกคนระวังตัวอย่างมาก จะพูดถึงแผนการนี้ก็ตอนที่มั่นใจว่าไม่มีคนนอกอยู่ใกล้ๆแล้วเท่านั้น หรืออาจจะมีสายลับแทรกซึมอยู่ทางฝั่งเขาด้วยเหมือนกัน ชายชุดดำเริ่มสับสน แต่คิดอย่างไรก็ไม่ได้คำตอบ

 

  แน่นอนว่าไม่ได้ระวังไปถึงหนูที่มีอยู่ทั่วไป

 

“ดูเหมือนเจ้าจะบอกฮิโนเอะว่า ‘ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์’ สินะ? ขอใช้ประโยคเดียวกันนี้กับเจ้าด้วยก็แล้วกัน เหมือนกับผู้หญิงทรยศที่อยู่ข้างนอกนั่น”

 

   คาเงะโทระหันหน้าออกไปมองทางสวน ยามของคาเงะโทระจับกุบสาวใช้คนนั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

“ชิ!”

 

  ชายชุดดำตัดสินใจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แสดงความสามารถทางร่างกายที่ถูกฝึกมาอย่างดีของเขา ยกแขนสองข้างป้องกันใบหน้า กระโจนฝ่าวงล้อมคมหอกและคมดาบ ถูกฟันแทงจนบาดเจ็บก็ยังดีกว่าถูกจับตรงนี้ เขาเชื่อว่าสามารถลอดผ่านช่องว่างระหว่างกลุ่มคนไปได้แม้อาจจะต้องแลกมาด้วยบาดแผลเล็กน้อยก็ยังพอทน

 

  ยามทั้งหลายก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ อาวุธในมือถูกกวัดแกว่ง แต่ชายชุดดำว่องไวกว่า เขาก้มต่ำแทบติดพื้น พุ่งตัวไปด้วยมือและเท้าเหมือนสัตว์ป่า

 

  สาวใช้ที่ถูกจับกุมพยายามตะโกนเรียกเขา แต่ในเมื่อแผนการนี้ล้มเหลวก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก เขาจึงเมินเฉยและให้ความสำคัญกับอิสรภาพของตนเองเป็นอันดับแรก เมื่อฝ่าวงล้อมออกมาได้ ยามที่อยู่ข้างหลังก็หันกลับมาไล่ล่าเขา แต่ชายชุดดำก็มั่นใจในความเร็วของตนเอง ในที่นี้ไม่มีใครไล่ตามชายชุดดำได้ทัน

 

“(โธ่เว้ย! โธ่เว้ย! อีกแค่นิดเดียว!)”

 

   ชายชุดดำมั้นใจความสามารถในการมองเห็นในที่มืดของเขาพอๆกับความเร็ว ตอนที่ถูกล้อมก็ทำให้ตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่โชคดีที่มีช่องโหว่พอให้แทรกตัวผ่านออกไป ถ้าฝ่าวงล้อมออกมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทิ้งห่างได้ง่ายๆ–

 

“อัก!?”

 

   ขณะคิดแผนการหลบหนีขั้นต่อไป ก็มีแรกกระแทกอันหนักหน่วงเข้าประทะแผ่นหลังของชายชุดดำ จนเขาต้องกลิ้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะล้มลงเพื่อลดแรงประทะดังกล่าว

 

“เจ้าคนชั้นต่ำ อย่าคิดว่าจะหนีจากข้าน้อยพ้น”

“…แก ลูกชายไม่ได้ความของรุ่นก่อนสินะ!”

 

   ชายชุดดำกัดฟัน คนที่ไล่หลังเขามาคือน้องชายของคาเงะโทระ ชื่อว่าคุมะฮาจิ บุตรคนที่สองของหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน เป็นคนที่หาดีไม่ได้จนต้องออกจากบ้านไปเร่ร่อนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ถูกคนเช่นนี้ก้มมองอย่างดูถูกถือเป็นความอัปยศอย่างมาก

 

“คนชั้นต่ำไม่มีสิทธิเรียกข้าน้อยว่าคนไม่ได้ความ คำพูดของแกไม่มีค่าควรรับฟัง จงมาเป็นเป็นเป้าให้ข้าน้อยลองดาบเล่มนี้เถอะ”

 

  ดาบของคุมะฮาจิเป็นของใหม่เอี่ยมคมกริบที่เขาออกไปหาซื้อเมื่อตอนกลางวัน เขาตั้งใจคัดเลือกมาอย่างดีจึงเป็นของชั้นยอดอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“(เร็ว! แต่ก็แค่นั้น!)”

 

  วิชาดาบอันรวดเร็วและทรงพลังทำให้ชายชุดดำรู้สึกประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้น ก็เกิดเสียง ‘เคร้ง’ และมีเพียงเนื้อผ้าที่เป็นชุดของชายชุดดำเท่านั้นที่ขาดออก

 

“หืม เกราะโซ่ถักตัวนั้น”

“ใช่แล้ว มันคือของวิเศษที่สร้างด้วยอาคม คนอย่างแกคงไม่รู้สินะ? ว่าพลังต้องสาปสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วย อาคมลับที่ทำให้สิ่งของแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า”

“…อันที่จริงก็เคยเห็นจนชินแล้ว”

 

  คุมะฮาจิเอือมระอาจนเผลอถอนหายในออกมา สิ่งที่ชายคนนี้โอ้อวดอย่างภูมิใจนักหนาคือเรื่องปรกติในผืนทวีปที่แม้แต่เด็กยังรู้ ส่วนชายชุดดำเริ่มสับสนอยู่ในใจ เขาเปิดเผยความลับนี้ออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าการโจมตีทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ แต่คนที่อยู่เบื้องหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆออกมาเลย

 

   แต่ก็จะมาเสียเวลาตรงนี้ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ เป้าหมายหลักไม่ใช่การเอาชนะชายคนนี้ แต่เป็นการหลบหนีตั้งแต่แรก

 

“ข้าน้อยขอเตือนว่า ถ้ายังรักชีวิตก็อย่าคิดหนีจะดีกว่า”

“คิดหรือว่าจะมีไอ้โง่ที่ไหนทำตามที่แกสั่ง! ฝันไปเถอะ!”

 

  เมื่อเห็นว่าคุมะฮาจิไม่มีท่าทีจะเข้ามา ซ้ำยังเก็บดาบเข้าฝักทั้งที่ยังตั้งท่าเตรียมพร้อม แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร แต่ชายชุดดำก็ลุกขึ้นหันหลังเพื่อหลบหนี…

 

“อะ…อ๊าก!?”

 

   ทันทีที่ชายชุดดำยืนด้วยขาขึ้นมาได้ เลือดสีแดงก็สาดกระจายออกมาจากหน้าอกของเขา เกราะโซ่ถักเสริมเวทมนตร์จนแข็งแกร่งไร้เทียมทานขาดสะบั้นเหมือนเต้าหู้ถูกผ่า ชายชุดดำบาดเจ็บสาหัสล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง แต่ก็ยังก้มหน้าคลานหนีต่อไปอย่างสิ้นหวังจนกระทั่งคุมะฮาจิเข้ามาใช้เท้าเหยียบเขาเอาไว้

 

“ไม่ต้องห่วง ข้าน้อยยั้งมือไว้แล้ว ถ้าไม่เคลื่อนไหวจนเสียเลือดมากเกินไปก็ไม่อันตรายถึงชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น หากฆ่าคนตายในบ้านของท่านพี่ ข้าน้อยคงโดนบ่นหูชาแน่”

“บ้าน่า ไม่มีทาง! เกราะวิเศษมัน…!”

“ออ ยังไม่มีใครบอกหรือ ข้าน้อยมีชื่อเสียงอยู่ในทวีป ในฐานะผู้ที่สามารถตัดเกล็ดมังกรได้ ไม่สิ เทียบกับเกล็ดมังกรคงไม่ไหว ประตูผนึกของห้องเก็บของในอาร์คุยล่ายังดีกว่าเสื้อเกราะตัวนี้เลย”

“ประตู ห้องเก็บของ…?”

 

 สติของชายชุดดำค่อยๆดับมืดไปช้าๆขณะถูกเหยียบย่ำไปจนถึงความภาคภูมิใจจนน่าอดสู แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็คิดถึงเรื่องหลังจากนี้ที่ทำให้เขายังวางใจได้

 

   ครั้งนี้จะยอมรับความพ่ายแพ้ก็ได้ แต่อย่าคิดว่าจะจบเพียงเท่านี้ ยังมีพรรคพวกมือสังหารอีกหลายคนพร้อมสานต่องานของเขา ถึงเขาจะล้มเหลว แต่คนอื่นๆในแผนการลอบสังหารฮิโนเอะยังคงอยู่ พรรคพวกของเขาจะทำให้มันสำเร็จได้สักวัน ชายชุดดำหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะหมดสติไป

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

[“นี่น่ะหรือ มือสังหารของประเทศนี้ ไม่เป็นเก่งจริงอย่างที่ได้ยินมาเลย”]

 

   ณ บ้านตระกูลเดิมของฮิโนเอะ บัตเลอร์ไต่อยู่บนตัวของคนที่ล้มพับหมดสติอยู่ตามพื้น พรรคพวกที่ชายชุดดำคนนั้นไว้ใจ นักฆ่ามืออาชีพผู้สวมชุดสีดำสนิทปิดบังทั้งร่างกายและใบหน้า ไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ก็ยังถูกบัตเลอร์และฝูงหนูเข้าโจมตีจนหมดสภาพ

 

  ไม่ว่ากลุ่มมือสังหารจะเก่งกาจและคุ้นเคยกับการต่อสู้ในความมืดสักเพียงใด ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหยุดยังการบุกจู่โจมอย่างกะทันหันของฝูงหนูนับพันตัวได้ และมือสังหารทั้งหลายก็ได้พ่ายแพ้ต่อฝูงหนูไปในที่สุด

 

[“องค์หญิงช่างหลังแหลมยิ่งนัก”]

 

   ในตอนเย็นของวันนี้ บัตเลอร์ไปรายงานให้เซเลนฟัง เรื่องการลอบสังหารฮิโนเอะที่เขาได้ยินมาจากหนูในพื้นที่ ในตอนนั้นบัตเลอร์คิดจะทำการกำจัดมือสังหารก่อนที่จะบุกรุกเข้ามา

 

   ด้วยความสามารถระดับบัตเลอร์ก็จะหยุดยังแผนการลอบสังหารในครั้งนี้ก่อนที่อีกผ่ายจะเริ่มลงมือได้ง่ายๆ แต่ก็ถูกคัดค้านโดยเซเลน 

 

  ถึงจะกำจัดพวกปลายแถวไปมากสักแค่ไหน ตราบใดที่ผู้บงการยังอยู่ ก็จะมีคนประเภทนี้ถูกส่งมาอีกไม่จบสิ้น

 

  เซเลนจึงต้องยอมใช้ฮิโนเอะเป็นเหยื่อล่อ โดยมีคนคุ้มกันผีมือดีที่สุดหลบซ่อนเพื่อเฝ้าระวังอยู่รอบๆห้องของฮิโนเอะ คอยคุมสถานการณ์ไว้ให้เข้าไปช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ ส่วนคนที่เหลือก็ให้ทำตัวเอ้อระเหยอยู่รอบบ้าน

 

  แสร้งทำเป็นถูกวางยาให้อีกฝ่ายตายใจจนบุกเข้ามาซึ่งๆหน้า โดยที่ฮิโนเอะจะชวนพูดคุยจนมือสังหารสารภาพออกมาให้ทุกคนในที่นี้เป็นพยาน จากนั้นคุมะฮาจิก็จะปรากฏตัวเข้ามาพร้อมกับทหารชั้นยอดเพื่อจับกุมผู้บุกรุกในที่เกิดเหตุทันที ส่วนบัตเลอร์ก็จะไปกวาดล้างผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นๆให้สิ้นซาก ถึงคนพวกนี้ไปบอกใครต่อว่าถูกฝูงหนูเล่นงานมาก็ไม่มีใครเชื่อ อย่างมาก็เป็นได้แค่ตำนานเรื่องเล่าภายในกลุ่มนักลอบสังหารเท่านั้น

 

[“เอาล่ะ ควบคุมตัวคนพวกนี้ไว้ด้วย”]

 

   บัตเลอร์บอกกับหนูทั้งหลายให้ช่วยกันปิดปากมัดมือมัดเท้าคนร้ายทั้งหมด  ภารกิจของเขาจบลงเพียงเท่านี้ ส่วนมือสังหารที่บุกไปที่บ้านของคาเงะโทระก็คงจะถูกจับตัวได้แล้วเช่นกัน ต่อให้ฝ่าวงล้อมของยามออกมาได้ แต่ก็ไม่มีทางเอาชนะคุมะฮาจิที่เคยต่อสู้กับมังกรมาแล้วได้

 

[“กระผมคงต้องขอตัวกลับก่อน ทำงานหนักจนเช้าติดต่อกันสองคืนแม้เป็นกระผมเองก็คงไม่ไหว ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือ”]

 

   ฝูงหนูนับพันส่งเสียงแหลมเล็กๆออกมาเบาๆหลังจากที่บัตเลอร์กล่าวปิดงาน เพื่อสรรเสริญบัตเลอร์ ราชาผู้ยิ่งใหญ่

 

[“เหล่าผู้กล้าที่ช่วยทำตามคำขอขององค์หญิงเซเลนผู้ยิ่งใหญ่ สมควรได้รับรางวัลอย่างเหมาะสม”]

 

   บัตเลอร์ยืนกอดอกเท้าคางสักพักก่อนจะยิ้มที่มุมปาก

 

[“อาหารและข้าวของเครื่องใช้รวมถึงทรัพย์สินมีค่าที่หยิบฉวยได้ทั้งหมดภายในบ้านหลังนี้ เชิญพวกคุณทั้งหลายเลือกนำไปใช้ได้ตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องเหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียว เพื่อให้สาสมกับความผิดที่ทำให้องค์หญิงเซเลนและสหายคนสำคัญของเธอต้องเดือดร้อน”]

 

   หลังจากให้คำอนุญาต บัตเลอร์ก็จากไปโดยที่ไม่ได้นำอะไรติดตัวไปด้วย เพราะอยากให้เจ้านายรับรู้ถึงความสำเร็จของแผนการนี้โดยเร็วที่สุด เขาหันกลับไปมองฝูงหนูกระจายตัวออกจากโรงเก็บของวิ่งพล่านไปทั่วบ้านราวกับกระสุน

 

   และแล้ว แผนหยุดยั้งการลอบสังหารฮิโนเอะของเซเลนก็เสร็จสิ้นทุกกระบวนการ

 

   เช้าวันถัดมา ทรัพย์สินทุกอย่างของบ้านตระกูลนักรบผู้หนึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เหลือแม้แต่ข้าวสารสักเม็ด เขาจึงกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวเพียงชั่วข้ามคืน ได้แต่เอะอะโวยวายไม่เป็นคำพูดไม่ต่างกับคนบ้า ซึ่งคืนนั้นเป็นคืนที่บิดาของฮิโนเอะหลับสนิทที่สุดในรอบหลายปี เพราะความด่างพร้อยในตระกูลได้ถูกกำจัด เขาไม่มีทางรู้เลยว่าจะตื่นขึ้นมาพบกับเหตุการณ์เช่นนี้

 

 

____________________

*

月に叢雲 花に風 / เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้

คำพังเพย หมายถึง มีเรื่องร้ายเข้ามาขัดจังหวะเรื่องดี

เช่น ชมจันทร์อยู่ก็มีเมฆมาบัง ชมดอกไม้อยู่ก็มีลมพัดกลีบดอกไม้ปลิวไปหมด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.16: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8)

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.16: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 16

เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน8)

 

 

   งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากต่างแดนจบลง ทุกฝ่ายต่างอิ่มหนําสําราญกันถ้วนหน้า เวลาก็ล่วงเลยมาถึงยามสาม(ราวๆตีสอง) กลางดึกอันเงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงลม หนึ่งหญิงกับหนึ่งชายพูดคุยกันอยู่ในมุมมืด

 

“หวังว่าผลของยาเปลี่ยนผันจะดีอย่างที่ว่าไว้นะ”

“หึหึ ดูเอาเองเถอะ”

 

   หญิงสาวขยับตัวในความมืด เปิดประตูหลังให้ชายผู้ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีดำเข้าไปข้างใน คนวางแผนเละคนลงมือ ชายชุดดำตามเข้าไปอย่างไม่ลังเล สาวใช้ที่อ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและขอกลับไปก่อน จริงๆแล้วเธอไม่ได้ไปไหน แต่คอยดูต้นทาง ซ่อนตัวเพื่อสังเกตการณ์อยู่รอบๆจนกว่าจะถึงเวลาให้ชายคนนี้ลงมือ

 

  ภายในรั้วบ้านของคาเงะโทระมีการจัดเวรยามอย่างรัดกุมทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เวลานี้ เวรยามดังกล่าวกลับนั่งหลับนอนหลับกันเกลื่อนกลาดอยู่ตามมุมเสา ผู้บุกรุกเลือกใช้ประตูหลังที่มีการรักษาความปลอดภัยเบาบาง แต่จากสภาพที่เห็น แม้แต่ประตูหน้า พวกเขาก็สามารถเปิดเข้ามาได้โดยไม่ถูกพบเจอ

 

“รีบฆ่าฮิโนเอะและรีบหนีกันดีกว่า ราบรื่นเกินไปมันก็น่าระแวง”

“ช่างเหมาะกับ เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้* ดีเหลือเกิน”

 

   มันคือประโยคที่ใช้ระบุตัวผู้ที่เป็นแนวร่วมของงานนี้ หมายถึง ‘เรื่องร้ายที่ไม่คาดฝัน’ หญิงสาวพูดขึ้นมาเหมือนประชด เพราะคาเงะโทระที่ดูเหมือนจะเมาไม่รู้เรื่องอยู่ตอนนี้ ไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อได้สติอีกที ฮิโนเอะที่เขาหวงแหนนักหนาก็จะกลายเป็นศพไปแล้ว

 

“เอาเถอะ ข้าจะรีบทำให้มันจบๆ”

 

   ชายชุดดำให้หญิงสาวรออยู่ตรงนั้นและเข้าไปในตัวบ้านเพียงลำพัง ทุกก้าวย่างไร้สุ้มเสียง เขาเป็นมืออาชีพที่ทำงานลอบเร้นเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาจึงรวดเร็วว่องไวและเงียบงันไม่ต่างกับฝีเท้าของแมว แม้เป็นพื้นไม้เก่าๆก็ไม่ทำให้เกิดเสียง เรื่องโครงสร้างภายในตัวบ้านก็ได้ฟังมาจากหญิงสาวแล้ว จึงรู้ว่าห้องของฮิโนเอะอยู่ตรงไหน เขาตรงไปที่นั่นทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

 

   ทั่วทั้งบ้านเงียบสงบ เวรยามที่ละทิ้งหน้าที่ไม่ได้มีแต่ที่หน้าประตู แต่มีอยู่ทั่วทุกแห่ง ชายฉกรรจ์เหล่านั้นดูเหมือนจะเมามายเพราะฤทธิ์สุราจนไม่เป็นอันทำงาน

 

“ผลของพลังต้องสาป น่ารังเกียจจริงๆ”

 

   ชายชุดดำพูดออกมาเบาๆ แม้แต่นักรบผู้เก่งกาจก็ยังถูกพลังต้องสาปเล่นงานจนไม่เป็นผู้เป็นคน บิดาของฮิโนเอะพยายามกำจัดขนาดนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ ในเมื่อลูกสาวแท้ๆมีพลังแบบเดียวกันอยู่ใกล้ๆ เจ้าทานุกิเฒ่านั่นจะกล้าหลับสนิทในแต่ละคืนได้อย่างไร

 

   ไม่นาน ชายชุดดำก็มาอยู่หน้าห้องของฮิโนเอะโดยไม่มีใครพบเจอ จากนี้ก็แค่เปิดประตูเข้าไป ใช้เชือกที่เตรียมมารัดลำคอของเธอให้แน่น แม้การใช้มีดแทงกลางหัวใจจะทำได้รวดเร็วกว่า แต่การรัดคอก็ช่วยป้องกันการส่งเสียงร้องและไม่ต้องห่วงเรื่องรอยเลือด

 

“ผู้ใดหรือเจ้าคะ?”

“หืม!?”

 

  เมื่อจับไปที่บานประตูเลื่อนก็มีเสียงเรียกมาจากอีกฝั่ง ชายชุดดำชักมีดสั้นออกมาจากข้างในเสื้อ เตรียมพร้อมต่อสู้ทันที แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็มีเพียงฮิโนเอะอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เธอนั่งอยู่เฉยๆบนฟูกนอน ไม่ได้พยายามหลบหนีหรือส่งเสียงร้อง

 

“แม่หนูช่างโชคร้ายเหลือเกิน หากหลับอยู่ก็ไม่ต้องหวาดกลัวหรือทรมานแท้ๆ”

 

   คนอื่นๆหมดสภาพเพราะยาเปลี่ยนผัน อีกทั้งยังเมามายด้วยฤทธิ์สุรา ต่อให้ฮิโนเอะกรีดร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครสนใจ ชายชุดดำชี้มีดสั้นไปทางฮิโนเอะเพื่อบอกให้รู้ว่าถ้าส่งเสียงจะลงมือทันที แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องฆ่าเธออยู่ดี

 

“ดูเหมือนเป้าหมายของท่านคือชีวิตของข้าน้อย”

“รู้ตัวก็ดี ถึงข้ากับเจ้าจะไม่มีความแค้นต่อกัน ในเมื่อข้ารับงานมาแล้วก็มีแต่ต้องทำให้สำเร็จ ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ แต่ถ้ายอมอยู่เฉยๆ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ทรมาน”

“ข้าน้อยไม่ขัดขืนหรือร้องขอชีวิตหรอกเจ้าค่ะ ตั้งแต่ถูกท่านคาเงะโทระอุปการะมาที่บ้านหลังนี้ แม้ต้องตาย ก็ตายตาหลับแล้วเจ้าค่ะ”

 

   ทั้งที่มีคมมีดใกล้เข้ามาจนแทบจะทิ่มแทง ฮิโนเอะก็ยังคงใจแข็งสงบนิ่ง หากตัดเรื่องพลังต้องสาปออกไปก็เรียกได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ายกย่องคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจของชายในชุดดำเปลี่ยนไป

 

“เพราะข้าน้อยเป็นผู้ครอบครองพลังต้องสาป หากความตายของข้าน้อยช่วยลดภาระของท่านคาเงะโทระได้ก็ยินดี เพียงแต่ยังมีอีกเรื่องที่ต้องการถามจากท่านเจ้าค่ะ”

“โง่หรือเปล่า คนใกล้ตาย รู้แล้วจะทำอะไรได้”

“ถูกต้องแล้ว อีกไม่นานข้าน้อยก็จะตายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะฉะนั้น ถึงรู้ไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…”

“แล้วยังไง?”

“ข้าน้อยเชื่อว่าท่านยังมีหัวใจอยู่บ้าง ดังนั่น กรุณาบอกได้หรือไม่ว่าใครกัน คือคนที่อยากได้ชีวิตของข้าน้อยจนต้องส่งท่านมา? ข้าน้อยไม่อยากตายไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลย ถือเป็นของฝากไปโลกหน้า…”

 

   ชายชุดดำใจอ่อน เขาเองก็ไม่ได้ชื่นชอบการสังหารเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฮิโนเอะ เขาทำเพียงเพราะมันเป็นงาน ที่ฮิโนเอะพูดก็ฟังดูมีเหตุผล ทุกอย่างที่เด็กสาวโชคร้ายคนนี้รู้จะไม่ถูกแพร่งพราย คนตายพูดไม่ได้ เขาจึงคิดจะตอบออกไปตามตรง

 

“…บิดาของเจ้า ไม่อยากให้หลงเหลือผู้ครอบครองพลังต้องสาปไว้ในตระกูล”

“เป็นเขานี่เอง… คิดไว้ไม่มีผิด”

 

   ฮิโนเอะถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมาอีก

 

“ใจแข็งยิ่งนัก สมกับเป็นผู้มีสายเลือดนักรบผู้เก่งกล้า รักษาเกียรติได้จนวาระสุดท้าย น่าเสียดายที่ครอบครองพลังต้องสาป หากไม่มีอะไรค้างคาแล้ว ข้าก็ขอลงมือโดยไม่ให้ทรมานตามสัญญา”

“…ถ้าเช่นนั้น ทุกท่าน ขอความกรุณาด้วยเจ้าค่ะ”

 

  ขณะที่ชายชุดดำเล็งไปที่ลำคอของฮิโนเอะ ฮิโนเอะกลับเอ่ยคำพูดที่เหมือนจะพูดกับคนอื่น

   เพียงเท่านั้น ประตูเลื่อนรอบๆก็เปิดออก ชายชุดดำชะงักถอยออกมาในทันที แต่ข้างหลังเขาก็มีกลุ่มคนติดอาวุธยืนรออยู่เช่นกัน เหล่ายามที่ถูกวางยาเปลี่ยนผันก่อนหน้านี้ กำลังถือหอกชักดาบอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ชายชุดดำถูกล้อมไว้โดยสมบูรณ์

 

“พวกแก!?”

“ขอบคุณท่านมือสังหาร ที่ยอมสารภาพออกมาง่ายๆ”

 

   ถัดจากกลุ่มคนติดอาวุธที่คุมะฮาจินำเข้ามา ก็มีคาเงะโทระยืนพูดอยู่ข้างหลัง ในตอนที่ชายชุดดำพยายามถอย คุมะฮาจิก็เข้ามาขวางฮิโนเอะเอาๆไว้ และพาถอยกลับไปหาคาเงะโทระ ในระยะที่อีกฝ่ายไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป

 

“เจ้าโง่คนนี้! บังอาจมาก่อเรื่องตอนที่ฉันอยู่ที่นี่ ถูกจับไปซะ สมน้ำหน้า!”

“ไม่ให้อภัย คนไม่ดี!”

 

   มารีพูดเยอะเย้ยอยู่ข้างหลังคาเงะโทระ และเซเลนที่อยู่ข้างๆก็แสดงความโกรธออกมา

 

“ทำไมกัน!? ผลของยาเปลี่ยนผันล่ะ!?”

“ของแบบนั้นน่ะ คุณหนูเซเลนรู้ตัวตั้งแต่แรกแล้ว ข้าสั่งให้เทเหล้าทิ้งทั้งหมดและใส่น้ำเปล่าเข้าไปแทน งานฉลองทั้งที กลับไม่ได้ดื่มสุราสักหยด เสียบรรยากาศจนน่าโมโห คงต้องให้เจ้าชดใช้เสียแล้ว”

 

   คาเงะโทระพูดเหมือนเรื่องขบขัน แต่แววตาไม่ได้ล้อเล่น หากใช้แววตาฆ่าคนได้ คงมีคนตายไปแล้วสิบคน

 

“ยัยเด็กนั่น! รู้ได้ยังไง! ตั้งแต่เมื่อไหร่!”

“มีคน เล่าให้ฟัง”

“บ้าน่า! ข้อมูลรั่วไหลงั้นเหรอ!”

 

   ชายชุดดำเดาะลิ้น ไม่รู้ว่าเธอพูดถึงใครคนไหน เพราะพรรคพวกของเขาทุกคนระวังตัวอย่างมาก จะพูดถึงแผนการนี้ก็ตอนที่มั่นใจว่าไม่มีคนนอกอยู่ใกล้ๆแล้วเท่านั้น หรืออาจจะมีสายลับแทรกซึมอยู่ทางฝั่งเขาด้วยเหมือนกัน ชายชุดดำเริ่มสับสน แต่คิดอย่างไรก็ไม่ได้คำตอบ

 

  แน่นอนว่าไม่ได้ระวังไปถึงหนูที่มีอยู่ทั่วไป

 

“ดูเหมือนเจ้าจะบอกฮิโนเอะว่า ‘ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์’ สินะ? ขอใช้ประโยคเดียวกันนี้กับเจ้าด้วยก็แล้วกัน เหมือนกับผู้หญิงทรยศที่อยู่ข้างนอกนั่น”

 

   คาเงะโทระหันหน้าออกไปมองทางสวน ยามของคาเงะโทระจับกุบสาวใช้คนนั้นไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

“ชิ!”

 

  ชายชุดดำตัดสินใจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แสดงความสามารถทางร่างกายที่ถูกฝึกมาอย่างดีของเขา ยกแขนสองข้างป้องกันใบหน้า กระโจนฝ่าวงล้อมคมหอกและคมดาบ ถูกฟันแทงจนบาดเจ็บก็ยังดีกว่าถูกจับตรงนี้ เขาเชื่อว่าสามารถลอดผ่านช่องว่างระหว่างกลุ่มคนไปได้แม้อาจจะต้องแลกมาด้วยบาดแผลเล็กน้อยก็ยังพอทน

 

  ยามทั้งหลายก็ไม่ยอมปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นได้ง่ายๆ อาวุธในมือถูกกวัดแกว่ง แต่ชายชุดดำว่องไวกว่า เขาก้มต่ำแทบติดพื้น พุ่งตัวไปด้วยมือและเท้าเหมือนสัตว์ป่า

 

  สาวใช้ที่ถูกจับกุมพยายามตะโกนเรียกเขา แต่ในเมื่อแผนการนี้ล้มเหลวก็ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีก เขาจึงเมินเฉยและให้ความสำคัญกับอิสรภาพของตนเองเป็นอันดับแรก เมื่อฝ่าวงล้อมออกมาได้ ยามที่อยู่ข้างหลังก็หันกลับมาไล่ล่าเขา แต่ชายชุดดำก็มั่นใจในความเร็วของตนเอง ในที่นี้ไม่มีใครไล่ตามชายชุดดำได้ทัน

 

“(โธ่เว้ย! โธ่เว้ย! อีกแค่นิดเดียว!)”

 

   ชายชุดดำมั้นใจความสามารถในการมองเห็นในที่มืดของเขาพอๆกับความเร็ว ตอนที่ถูกล้อมก็ทำให้ตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่โชคดีที่มีช่องโหว่พอให้แทรกตัวผ่านออกไป ถ้าฝ่าวงล้อมออกมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทิ้งห่างได้ง่ายๆ–

 

“อัก!?”

 

   ขณะคิดแผนการหลบหนีขั้นต่อไป ก็มีแรกกระแทกอันหนักหน่วงเข้าประทะแผ่นหลังของชายชุดดำ จนเขาต้องกลิ้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะล้มลงเพื่อลดแรงประทะดังกล่าว

 

“เจ้าคนชั้นต่ำ อย่าคิดว่าจะหนีจากข้าน้อยพ้น”

“…แก ลูกชายไม่ได้ความของรุ่นก่อนสินะ!”

 

   ชายชุดดำกัดฟัน คนที่ไล่หลังเขามาคือน้องชายของคาเงะโทระ ชื่อว่าคุมะฮาจิ บุตรคนที่สองของหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน เป็นคนที่หาดีไม่ได้จนต้องออกจากบ้านไปเร่ร่อนอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ถูกคนเช่นนี้ก้มมองอย่างดูถูกถือเป็นความอัปยศอย่างมาก

 

“คนชั้นต่ำไม่มีสิทธิเรียกข้าน้อยว่าคนไม่ได้ความ คำพูดของแกไม่มีค่าควรรับฟัง จงมาเป็นเป็นเป้าให้ข้าน้อยลองดาบเล่มนี้เถอะ”

 

  ดาบของคุมะฮาจิเป็นของใหม่เอี่ยมคมกริบที่เขาออกไปหาซื้อเมื่อตอนกลางวัน เขาตั้งใจคัดเลือกมาอย่างดีจึงเป็นของชั้นยอดอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“(เร็ว! แต่ก็แค่นั้น!)”

 

  วิชาดาบอันรวดเร็วและทรงพลังทำให้ชายชุดดำรู้สึกประหลาดใจ แต่ถึงอย่างนั้น ก็เกิดเสียง ‘เคร้ง’ และมีเพียงเนื้อผ้าที่เป็นชุดของชายชุดดำเท่านั้นที่ขาดออก

 

“หืม เกราะโซ่ถักตัวนั้น”

“ใช่แล้ว มันคือของวิเศษที่สร้างด้วยอาคม คนอย่างแกคงไม่รู้สินะ? ว่าพลังต้องสาปสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ด้วย อาคมลับที่ทำให้สิ่งของแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า”

“…อันที่จริงก็เคยเห็นจนชินแล้ว”

 

  คุมะฮาจิเอือมระอาจนเผลอถอนหายในออกมา สิ่งที่ชายคนนี้โอ้อวดอย่างภูมิใจนักหนาคือเรื่องปรกติในผืนทวีปที่แม้แต่เด็กยังรู้ ส่วนชายชุดดำเริ่มสับสนอยู่ในใจ เขาเปิดเผยความลับนี้ออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าการโจมตีทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ แต่คนที่อยู่เบื้องหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆออกมาเลย

 

   แต่ก็จะมาเสียเวลาตรงนี้ไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากความ เป้าหมายหลักไม่ใช่การเอาชนะชายคนนี้ แต่เป็นการหลบหนีตั้งแต่แรก

 

“ข้าน้อยขอเตือนว่า ถ้ายังรักชีวิตก็อย่าคิดหนีจะดีกว่า”

“คิดหรือว่าจะมีไอ้โง่ที่ไหนทำตามที่แกสั่ง! ฝันไปเถอะ!”

 

  เมื่อเห็นว่าคุมะฮาจิไม่มีท่าทีจะเข้ามา ซ้ำยังเก็บดาบเข้าฝักทั้งที่ยังตั้งท่าเตรียมพร้อม แม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร แต่ชายชุดดำก็ลุกขึ้นหันหลังเพื่อหลบหนี…

 

“อะ…อ๊าก!?”

 

   ทันทีที่ชายชุดดำยืนด้วยขาขึ้นมาได้ เลือดสีแดงก็สาดกระจายออกมาจากหน้าอกของเขา เกราะโซ่ถักเสริมเวทมนตร์จนแข็งแกร่งไร้เทียมทานขาดสะบั้นเหมือนเต้าหู้ถูกผ่า ชายชุดดำบาดเจ็บสาหัสล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง แต่ก็ยังก้มหน้าคลานหนีต่อไปอย่างสิ้นหวังจนกระทั่งคุมะฮาจิเข้ามาใช้เท้าเหยียบเขาเอาไว้

 

“ไม่ต้องห่วง ข้าน้อยยั้งมือไว้แล้ว ถ้าไม่เคลื่อนไหวจนเสียเลือดมากเกินไปก็ไม่อันตรายถึงชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น หากฆ่าคนตายในบ้านของท่านพี่ ข้าน้อยคงโดนบ่นหูชาแน่”

“บ้าน่า ไม่มีทาง! เกราะวิเศษมัน…!”

“ออ ยังไม่มีใครบอกหรือ ข้าน้อยมีชื่อเสียงอยู่ในทวีป ในฐานะผู้ที่สามารถตัดเกล็ดมังกรได้ ไม่สิ เทียบกับเกล็ดมังกรคงไม่ไหว ประตูผนึกของห้องเก็บของในอาร์คุยล่ายังดีกว่าเสื้อเกราะตัวนี้เลย”

“ประตู ห้องเก็บของ…?”

 

 สติของชายชุดดำค่อยๆดับมืดไปช้าๆขณะถูกเหยียบย่ำไปจนถึงความภาคภูมิใจจนน่าอดสู แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็คิดถึงเรื่องหลังจากนี้ที่ทำให้เขายังวางใจได้

 

   ครั้งนี้จะยอมรับความพ่ายแพ้ก็ได้ แต่อย่าคิดว่าจะจบเพียงเท่านี้ ยังมีพรรคพวกมือสังหารอีกหลายคนพร้อมสานต่องานของเขา ถึงเขาจะล้มเหลว แต่คนอื่นๆในแผนการลอบสังหารฮิโนเอะยังคงอยู่ พรรคพวกของเขาจะทำให้มันสำเร็จได้สักวัน ชายชุดดำหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะหมดสติไป

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

[“นี่น่ะหรือ มือสังหารของประเทศนี้ ไม่เป็นเก่งจริงอย่างที่ได้ยินมาเลย”]

 

   ณ บ้านตระกูลเดิมของฮิโนเอะ บัตเลอร์ไต่อยู่บนตัวของคนที่ล้มพับหมดสติอยู่ตามพื้น พรรคพวกที่ชายชุดดำคนนั้นไว้ใจ นักฆ่ามืออาชีพผู้สวมชุดสีดำสนิทปิดบังทั้งร่างกายและใบหน้า ไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา แต่ก็ยังถูกบัตเลอร์และฝูงหนูเข้าโจมตีจนหมดสภาพ

 

  ไม่ว่ากลุ่มมือสังหารจะเก่งกาจและคุ้นเคยกับการต่อสู้ในความมืดสักเพียงใด ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหยุดยังการบุกจู่โจมอย่างกะทันหันของฝูงหนูนับพันตัวได้ และมือสังหารทั้งหลายก็ได้พ่ายแพ้ต่อฝูงหนูไปในที่สุด

 

[“องค์หญิงช่างหลังแหลมยิ่งนัก”]

 

   ในตอนเย็นของวันนี้ บัตเลอร์ไปรายงานให้เซเลนฟัง เรื่องการลอบสังหารฮิโนเอะที่เขาได้ยินมาจากหนูในพื้นที่ ในตอนนั้นบัตเลอร์คิดจะทำการกำจัดมือสังหารก่อนที่จะบุกรุกเข้ามา

 

   ด้วยความสามารถระดับบัตเลอร์ก็จะหยุดยังแผนการลอบสังหารในครั้งนี้ก่อนที่อีกผ่ายจะเริ่มลงมือได้ง่ายๆ แต่ก็ถูกคัดค้านโดยเซเลน 

 

  ถึงจะกำจัดพวกปลายแถวไปมากสักแค่ไหน ตราบใดที่ผู้บงการยังอยู่ ก็จะมีคนประเภทนี้ถูกส่งมาอีกไม่จบสิ้น

 

  เซเลนจึงต้องยอมใช้ฮิโนเอะเป็นเหยื่อล่อ โดยมีคนคุ้มกันผีมือดีที่สุดหลบซ่อนเพื่อเฝ้าระวังอยู่รอบๆห้องของฮิโนเอะ คอยคุมสถานการณ์ไว้ให้เข้าไปช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ ส่วนคนที่เหลือก็ให้ทำตัวเอ้อระเหยอยู่รอบบ้าน

 

  แสร้งทำเป็นถูกวางยาให้อีกฝ่ายตายใจจนบุกเข้ามาซึ่งๆหน้า โดยที่ฮิโนเอะจะชวนพูดคุยจนมือสังหารสารภาพออกมาให้ทุกคนในที่นี้เป็นพยาน จากนั้นคุมะฮาจิก็จะปรากฏตัวเข้ามาพร้อมกับทหารชั้นยอดเพื่อจับกุมผู้บุกรุกในที่เกิดเหตุทันที ส่วนบัตเลอร์ก็จะไปกวาดล้างผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นๆให้สิ้นซาก ถึงคนพวกนี้ไปบอกใครต่อว่าถูกฝูงหนูเล่นงานมาก็ไม่มีใครเชื่อ อย่างมาก็เป็นได้แค่ตำนานเรื่องเล่าภายในกลุ่มนักลอบสังหารเท่านั้น

 

[“เอาล่ะ ควบคุมตัวคนพวกนี้ไว้ด้วย”]

 

   บัตเลอร์บอกกับหนูทั้งหลายให้ช่วยกันปิดปากมัดมือมัดเท้าคนร้ายทั้งหมด  ภารกิจของเขาจบลงเพียงเท่านี้ ส่วนมือสังหารที่บุกไปที่บ้านของคาเงะโทระก็คงจะถูกจับตัวได้แล้วเช่นกัน ต่อให้ฝ่าวงล้อมของยามออกมาได้ แต่ก็ไม่มีทางเอาชนะคุมะฮาจิที่เคยต่อสู้กับมังกรมาแล้วได้

 

[“กระผมคงต้องขอตัวกลับก่อน ทำงานหนักจนเช้าติดต่อกันสองคืนแม้เป็นกระผมเองก็คงไม่ไหว ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือ”]

 

   ฝูงหนูนับพันส่งเสียงแหลมเล็กๆออกมาเบาๆหลังจากที่บัตเลอร์กล่าวปิดงาน เพื่อสรรเสริญบัตเลอร์ ราชาผู้ยิ่งใหญ่

 

[“เหล่าผู้กล้าที่ช่วยทำตามคำขอขององค์หญิงเซเลนผู้ยิ่งใหญ่ สมควรได้รับรางวัลอย่างเหมาะสม”]

 

   บัตเลอร์ยืนกอดอกเท้าคางสักพักก่อนจะยิ้มที่มุมปาก

 

[“อาหารและข้าวของเครื่องใช้รวมถึงทรัพย์สินมีค่าที่หยิบฉวยได้ทั้งหมดภายในบ้านหลังนี้ เชิญพวกคุณทั้งหลายเลือกนำไปใช้ได้ตามใจชอบ ไม่จำเป็นต้องเหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียว เพื่อให้สาสมกับความผิดที่ทำให้องค์หญิงเซเลนและสหายคนสำคัญของเธอต้องเดือดร้อน”]

 

   หลังจากให้คำอนุญาต บัตเลอร์ก็จากไปโดยที่ไม่ได้นำอะไรติดตัวไปด้วย เพราะอยากให้เจ้านายรับรู้ถึงความสำเร็จของแผนการนี้โดยเร็วที่สุด เขาหันกลับไปมองฝูงหนูกระจายตัวออกจากโรงเก็บของวิ่งพล่านไปทั่วบ้านราวกับกระสุน

 

   และแล้ว แผนหยุดยั้งการลอบสังหารฮิโนเอะของเซเลนก็เสร็จสิ้นทุกกระบวนการ

 

   เช้าวันถัดมา ทรัพย์สินทุกอย่างของบ้านตระกูลนักรบผู้หนึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เหลือแม้แต่ข้าวสารสักเม็ด เขาจึงกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวเพียงชั่วข้ามคืน ได้แต่เอะอะโวยวายไม่เป็นคำพูดไม่ต่างกับคนบ้า ซึ่งคืนนั้นเป็นคืนที่บิดาของฮิโนเอะหลับสนิทที่สุดในรอบหลายปี เพราะความด่างพร้อยในตระกูลได้ถูกกำจัด เขาไม่มีทางรู้เลยว่าจะตื่นขึ้นมาพบกับเหตุการณ์เช่นนี้

 

 

____________________

*

月に叢雲 花に風 / เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้

คำพังเพย หมายถึง มีเรื่องร้ายเข้ามาขัดจังหวะเรื่องดี

เช่น ชมจันทร์อยู่ก็มีเมฆมาบัง ชมดอกไม้อยู่ก็มีลมพัดกลีบดอกไม้ปลิวไปหมด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+