[นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ 9 Technology (1)

Now you are reading [นิยายแปล] Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ Chapter 9 Technology (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การก่อตั้งอาณาจักรใหม่เสร็จสิ้น ทาคุโตะและอาโทวได้เริ่มต้นก้าวแรกในโลกใบนี้อย่างเป็นทางการ

ไกลออกมาจากสถานที่ที่เหล่าดาร์คเอลฟ์อาศัยอยู่ พวกเขาได้กลับมายังแท่นหินที่เคยอยู่ ท่าทางของพวกเขาดูมืดมน

“ปัญหาเป็นกองเลย”

“ใช่ค่ะ”

ทาคุโตะที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หินกระซิบกับอาโทวที่ตอบกลับอย่างแผ่วเบาเช่นกัน แมลงขายาวเองก็ส่งเสียงร้อง กีกี้ อยู่ไกลๆ 

“แต่ฉันชอบที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอนะ”

“ฉันเองก็มีความสุขที่ได้อยู่กับท่านทาคุโตะค่ะ”

พวกเขาสบตากัน และทาคุโตะก็พูดด้วยรอยยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน ในขณะเดียวกัน อาโทวเองก็กุมมือเขาอย่างอ่อนโยนและยิ้มตอบ

“………………………..” 

ในความเงียบเล็กๆนี้ เป็นความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

พวกเขาทั้งคู่กลิ้งไปบนพื้นหญ้าโดยที่ไม่กลัวว่าเสื้อผ้าจะสกปรกอย่างพึงพอใจ

“เป็นไปได้ยังไงเนี่ย ใน 1 ทวีป มีอาณาจักรที่เป็นฝ่ายดีอยู่ตั้ง 2 อาณาจักร!”

“ยิ่งไปกว่านั้น เผ่ามนุษย์ที่เชื่อในเทพฝ่ายดี แล้วก็ยังมีพวกเอลฟ์ที่บูชาธรรมชาติอีก! ….ตายแน่ พวกเราตายแน่ๆ!!”

นี่เป็นปัญหาที่ทำให้พวกเขาทั้งคู่หดหู่ในทันที

หลังจากก่อตั้งอาณาจักรแล้ว พวกเขาได้ฟังเรื่องราวของผู้เฒ่ามอลทาร์ สถานการณ์ที่ถูกเผ่าพวกนี้ล้อมรอบไม่ใช่เรื่องดีสำหรับไมน็อกกราห์

มนุษย์และเอลฟ์

ถึงทั้งสองเผ่าจะเป็นปฏิปักษ์กับพวกเผ่าปีศาจ ทั้งคู่ก็ยังเป็นเผ่าที่ยอดเยี่ยม นอกจากนั้น พวกเขายังเป็นมหาอำนาจที่เต็มไปด้วยอารยธรรมอันดับต้น และยังมีดินแดนที่กว้างใหญ่

พวกเขาสรุปได้ว่า มันมีอาณาจักรและทวีปที่ไม่รู้จัก โลกที่ไม่มีข้อมูล ดินแดนที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ และศัตรูที่ไม่อาจรู้ได้

สถานการณ์นี้มันไม่ใช่แค่ระดับยากแล้ว นี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน

“ฉันเกลียดแมพนี้! สถานที่แย่มาก!”

“รีเซ็ตใหม่กันเถอะค่ะ ราชาของฉัน!! ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน!!… พวกทรัพยากรทำให้หมดอารมณ์ไปเลย! …แถมในป่านี้ก็ยังไม่มีทั้งอาหาร แร่ แล้วก็พลังเวทย์อีก ศักยภาพในการผลิตเป็นศูนย์!! ”

นอกจากทั้งสองอาณาจักรที่อาจจะเป็นศัตรูของพวกเขาแล้ว ดินแดนต้องสาปที่ตั้งรกรากอยู่มีผลผลิตเป็นศูนย์ และไม่มีทรัพยากรเลยแม้แต่น้อย

ตามปกติแล้ว ป่ายังสามารถผลิตอาหาร และแร่ ออกมาได้ ถึงจะไม่ได้พัฒนามันก็ตาม

แม้กระทั่งในเกมก็ยังมีสัญลักษณ์ทรัพยากรแสดงไว้ให้ผู้เล่นสามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติและอาหารได้

นั่นเป็นสถานการณ์ตามปกติ …แต่มันไม่มีของอย่างทรัพยากรอยู่ในดินแดนนี้

ไม่แปลกใจเลยที่ผู้คนเรียกที่นี่ว่าดินแดนต้องสาป

เป็นเรื่องปกติที่เหล่าดาร์คเอลฟ์จะหิวโหย แล้วก็ยังเป็นเรื่องปกติเช่นกันที่ทาคุโตะกับอาโทวจะโอดครวญอยู่บนพื้น

“โอ้ ฉันอยากตายเดี๋ยวนี้เลย แต่พวกเราไม่มีทางเลือกนอกจากเดินหน้าต่อ พวกดาร์คเอลฟ์ได้กลายเป็นประชากรของอาณาจักรนี้เรียบร้อย ถึงงการที่ได้ครอบครองเผ่าอื่นตั้งแต่เริ่มเกมถือได้ว่าเป็นโบนัสพิเศษก็เถอะ…”

“ใช่ แถมยังมีเรื่องที่พวกเราไม่รู้อยู่อีก…อ๊ะ? พวกเขามาแล้ว”

หลังจากที่ดาร์คเอลฟ์ได้กลายเป็นประชากรแล้ว ทาคุโตะสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของพวกเขาได้

เขาสั่งให้พวกนั้นบอกข้อมูลทุกอย่าง ในหลายวันที่ผ่านมานี้เขาได้ฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย รวมไปถึงสถานการณ์ของอาณาจักรข้างเคียงด้วย

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผู้เฒ่ามอลทาร์มาเพื่อเล่าเรื่องต่อ

เขามาหลังจากที่พระอาทิตย์ขึ้นเล็กน้อย

ทั้งคู่นอนอาบแดดอยู่บนพื้นหญ้า จ้องมองกันในขณะที่สังเกตุการเคลื่อนไหวของผู้เฒ่ามอลทาร์

“ลุกกันเลยไหม?”

“ค่ะ ราชาของฉัน เดี๋ยวฉันทำความสะอาดให้นะคะ โปรดรอตรงนั้นสักครู่”

ขณะที่ทำความสะอาดชุดคนไข้ที่เขาใส่อยู่ ทาคุโตะรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เขาต้องทำ รวมไปถึงการผลิตเสื้อผ้าด้วย

◇ ◇ ◇

“โอ้ อรุณสวัสดิ์ขอรับ ฝ่าบาท และท่านอาโทวด้วยเช่นกัน ครั้งนี้ ข้ามาเพื่อบอกกล่าวเรื่องราวของโลก ที่ข้าไม่ได้เล่าไปเมื่อครั้งที่แล้ว”

ผู้เฒ่ามอลทาร์กล่าวทักทายเมื่อเขาปรากฏตัวอยู่หน้าบัลลังก์ สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติ

ถึงแม้ว่าสถานการณ์ขาดแคลนอาหารก่อนหน้านี้จะถูกแก้ไขแล้ว เขาก็ยังมีร่างกายที่เหมือนกับกิ่งไม้แห้งๆ แต่ไม่มีสีหน้าเหมือนคนตายแบบก่อนหน้านี้แล้ว

“ฝ่าบาท! ข้าเองก็เช่นกัน! ครั้งนี้ข้าพาลูกน้องมาด้วย เอมัล!”

นี่คือหัวหน้านักรบ ไกอา และลูกน้องของเขา เอมัล

เอมัล ผู้ที่มีรูปร่างผอมเพรียว และสวมใส่แว่นตา เป็นคนดูแลด้านข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับข้อมูลและข่าวลือจากอาณาจักรอื่นๆ เนื่องจากทาคุโตะและอาโทวต้องการข้อมูลจำนวนมาก เขาจึงเป็นคนที่เหมาะที่สุด

อาโทวพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับท่าทีของพวกเขาด้วยท่าทางน่าเกรงขาม ราวกับท่าทีน่าสมเพชก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

อาโทวก้าวออกมาเป็นตัวแทนของราชาที่สื่อสารได้ไม่ดีนัก

“ใช่แล้ว ราชาพึงพอใจกับความทุ่มเทของพวกเจ้า องค์ราชาเองก็ตั้งตารอวันนี้เช่นกัน พวกเจ้าไม่ต้องกลัวไป องค์ราชาเกลียดพวกพิธีรีตอง แล้วก็ไม่สนใจพวกพิธีกรรมด้วย อีกอย่าง พวกเจ้าได้กลายเป็นประชากรของอาณาจักรเราแล้ว”

ความจงรักภักดีของพวกเขานั้นสูงมาก ไม่ต้องสงสัยเลย

แต่ความจงรักภักดีที่เกิดจากความกลัวทำให้ทาคุโตะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนิดหน่อย

อย่างแรก เขาเป็นแค่คนธรรมดา คนที่เติบโตมาในครอบครัวปกติทั่วไป ท่าทางของผู้เฒ่ามอลทาร์กับคนของเขาทำให้ทาคุโตะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“แต่ เช่นนั้นแล้ว… พวกเราจะแสดงความจงรักภักดีอย่างไร….”

ทาคุโตะกำลังพยายามให้อาโทวเปลี่ยนทัศนคติของพวกเขา

สำหรับดาร์คเอลฟ์แล้ว มันเป็นคำแนะนำที่น่าประหลาดใจ ทำให้สามัญสำนึกของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ…

“ความจงรักภักดีไม่ใช่การแสดงออก แต่เป็นความรู้สึก องค์ราชารู้ว่าพวกเจ้าเชื่อในตัวท่านแค่ไหน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

“โอ้ ท่านอิระผู้ยิ่งใหญ่ ช่างเป็นคำพูดที่เมตตายิ่งนัก! … ถ้าพระองค์พูดเช่นนั้นล่ะก็ พวกเราจะยกเลิกพิธี!”

ผู้เฒ่ามอลทาร์กำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี แต่เขารู้สึกซาบซึ้งมากที่ราชากล่าวเช่นนั้น

สำหรับพวกเขาแล้ว ราชานั้นถูกอยู่เสมอ ต่อให้ทาคุโตะพูดแบบนั้นก็ตาม มันเป็นสามัญสำนึกตามปกติ ที่พวกเขาเชื่อมาจนทุกวันนี้ และเหมือนกับที่อาโทวกล่าว ไม่ว่าทาคุโตะจะพูดอะไรก็จะไม่ส่งผลกับความจงรักภักดีของพวกเขา

ในทางกลับกัน ความเอาใจใส่ของราชาทำให้พวกเขามีความสุขยิ่ง

ผู้เฒ่ามอลทาร์แน่ใจว่าเรื่องนี้จะส่งผลมากกว่าครั้งที่แล้ว

เขามั่นใจมาก แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายยังไง

“อ่า ก่อนหน้านั้น ข้าอยากจะอธิบายเกี่ยวกับการปกครองสักเล็กน้อย มันค่อนข้างสะดวก เพราะผู้เฒ่ามอลทาร์กับหัวหน้านักรบไกอาอยู่ที่นี่พอดี”

พวกเขารับทราบและผงกหัวพร้อมๆกัน

ถึงแม้ว่าจะมีแค่หมู่บ้านและบัลลังก์ ไมน็อกกราห์ก็เป็นอาณาจักร ไม่ใช่สมาคมของคนทั่วๆไป

ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็ง เป็นธรรมดาที่จะต้องตัดสินใจเรื่องแนวทางการปกครอง ถ้าพวกเขาอยากชนะ

ผู้เฒ่ามอลทาร์ และไกอา เป็นผู้นำของเหล่าดาร์คเอลฟ์

แน่นอนว่าพวกเขามีหลายสิ่งที่ต้องทำ พวกเขาตั้งใจที่จะใช้กำลังทั้งหมดในการปรับปรุงเขตที่พักของกษัตริย์ เพื่อเป็นเกียรติที่ได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้

“พวกเจ้าจะดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารของอาณาจักรไมน็อกกราห์ นี่คือพระราชโองการขององค์ราชา ผู้เฒ่ามอลทาร์ จำเป็นผู้นำในการบริหารจัดการต่างๆ เขาสามารถใช้เวทมนต์ได้ ดังนั้นพวกเราจึงคาดหวังกับเจ้าอยู่ และในส่วนของทหาร ไกอาจะเป็นผู้นำด้านการทหารของไมน็อกกราห์ ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นผู้จัดการเอง หากไม่ติดปัญหาอะไร เจ้าสามารถใช้คนของตัวเองได้”

พวกเขาทั้งหมดพยักหน้า

เนื้อหาเกือบทั้งหมดเป็นไปตามที่ผู้เฒ่ามอลทาร์คิดไว้ แน่นอนว่าการที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะทำมันเล่นๆได้ พวกเขาตั้งใจที่จะตอบแทนอย่างแน่วแน่

ในแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หัวหน้านักรบไกอาทุบไปยังอกของตนเอง

“ข้าขอยอมรับหน้าที่นี้ เพื่อองค์ราชาแล้ว ขอเพียงมีรับสั่ง ข้าจะจัดการกับศัตรูทั้งมวล แม้แต่ทารกก็จะสังหารให้สิ้น!”

คำประกาศของไกอาดังก้องไปทั่วทั้งป่า

อาโทวพยักหน้า และดูพึงพอใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำตอบของไกอา

ไกอามั่นใจว่าทุกอย่างจะเริ่มต้นขึ้นที่นี่ เขาวาดฝันไว้ ด้วยคำสั่งของกษัตริย์ เขาจะเข้าสู่สนามรบ และสังหารศัตรูจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม

“น่ากลัว!”

“เอ๊!!!!!!”

ไกอาตกตะลึง และเผลอส่งเสียงดังออกมา ปฏิกิริยาตอบกลับของราชาอยู่นอกเหนือจากที่เขาคิดไว้ ดวงตาของเขาเบิกกว้างและตัวสั่นเทา

หรือว่าเขาพูดอะไรหยาบคายออกไป?

เขาคิดย้อนกลับไป แต่เขาก็หาจุดผิดพลาดในคำพูดตัวเองไม่เจอเลย

“สงครามมันป่าเถื่อน”

“องค์ราชาชอบความสงบสุข”

มันต่างไปจากที่ควรจะเป็น ทาคุโตะพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว และอาโทวก็อธิบายเพิ่มเติม

ในชั่วขณะ ไกอาคิดว่า “ทำไมราชาแห่งการทำลายล้างถึงชอบความสงบกัน?!”

เขาคิดว่าราชาน่าจะต้องมีความคิดที่ลึกซึ้ง ที่เขาไม่อาจเข้าใจได้แน่ๆ

เขาเอ่ยคำถามออกมาอย่างหวาดกลัว

“มะ–ไม่ใช่โดยตรง ท่านกำลังคิดจะนำพาความพินาศมาสู่โลกใบนี้โดยทางอ้อมหรือครับ?”

“ไม่”

“องค์ราชาชอบจัดการกิจการภายใน จงจำเอาไว้”

“คะ ครับ”

หลังจากที่ราชาปฏิเสธอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง ไกอาก็สับสน

ผู้เฒ่ามอลทาร์ที่มองอยู่ด้านข้างลูบเคราอย่างมีความสุข

มอลทาร์ขยิบหยอกล้อให้กับความโง่เง่าของเขา ไกอาที่ปกติใจเย็นเริ่มจะหงุดหงิด แต่เขายังอยู่ต่อหน้ากษัตริย์ ดังนั้นเขาจึงเงียบ

หากราชากล่าวเช่นนั้น ก็ถูกต้องแล้ว

ถึงไกอาจะหน้าแตกไปเรียบร้อยแล้ว การที่เขากลายเป็นปีศาจ เขาก็ไม่ได้อยากจะฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

พวกเขามีชีวิตที่ยากลำบากมาเป็นเวลานาน

หากราชาต้องการความสงบ นั่นเป็นสิ่งดีที่สุด ทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่องค์ราชาต้องการ

ไกอาเชื่อมั่นแบบนั้น

“เริ่มงานโดยทันที อย่างแรกพักผ่อนให้ดี ข้าอยากให้รูปร่างพวกเจ้าดูดีกว่านี้ จากนั้น…อาจจะเป็นเรื่องการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้มันเหมาะสม”

ขณะที่ไกอากำลังจัดการกับคำถามในจิตใจของเขา อาโทวก็ให้คำแนะนำ

เป็นการแนะนำให้พวกเขาพักผ่อน มันเหมือนกับเรือที่ช่วยต่อชีวิตให้พวกเขา

ผู้เฒ่ามอลทาร์และลูกน้องของเขาอาจจะไม่เป็นไร แต่คนอื่นๆยังคงอ่อนเพลียอยู่

ราชาได้สั่งให้พวกเขาพักผ่อนราวกับนั่นเป็นเรื่องปกติ ความจงรักภักดีของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างลับๆอีกครั้ง

“ฮ่าฮ่า เป็นพระกรุณาอย่างยิ่ง พวกเราขอขอบพระทัย แต่บางทีข้าอาจจะสามารถทำงานได้ แตกต่างพวกนั้น ไม่เหมือนกับไกอา ที่ใช้แต่กำลัง ข้านั้นสามารถทำประโยชน์ให้ได้หลายอย่าง”

มอลทาร์ล้อเลียนพร้อมหันหน้าไปยังไกอา เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่เห็น

(ตาแก่นี่! พออิ่มท้องหน่อย ก็มีเรี่ยวมีแรงเชียวนะ)

ไกอาข่มความรู้สึกรำคาญที่ถูกเยาะเย้ยไว้ในใจ สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่สามารถลบหลู่ได้

“ข้าคิดว่าพวกเจ้าก็พักผ่อนได้นะ ท่านทาคุโตะ ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นพวกบ้างานนะคะ ท่านอยากให้พวกเขาไปรวบรวมวัตถุดิบและเลือกจุดก่อสร้างเลยไหมคะ?”

อาจจะเป็นข้อเสนอที่ไม่คาดคิด อาโทวดูมีปัญหานิดหน่อย แต่ดีใจที่สามารถขอคำปรึกษาจากราชาของเธอได้

ขณะที่ทาคุโตะไม่อยากให้พวกเขาตื่นเต้นมากเกินไป แต่ในเมื่อพวกเขามีแรงจูงใจและถามหางานแล้ว ทาคุโตะจึงคิดถึงความสามารถของเผ่าดาร์คเอลฟ์

คุณสมบัติเฉพาะของเผ่านั้นแตกต่างกันไป การสร้างสิ่งปลูกสร้างให้เหมาะ และมอบหมายงานอย่างถูกต้องจะช่วยให้มีความได้เปรียบในเกม

ขณะที่กำลังนึกถึงข้อมูลต่างๆอยู่ในหัว ทันใดนั้นเขาก็ผุดไอเดียขึ้นมา

“อ๊ะ!”

อาโทวตอบสนองต่อเสียงของทาคุโตะทันที เธอเกือบจะหลุดถามว่า “มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?”

เธอเอียงคอเล็กน้อย และเบนสายตาไปยังเขา รอคอยคำตอบอยู่เงียบๆ

“ถ้าเป็นการปรับผืนดินโดยไม่ทำลายป่าล่ะ?”

อาโทวปรบมือให้กับคำพูดของราชา

กล่าวเพียงหนึ่ง รู้ถึงสิบ

อาโทวเป็นผู้ใต้บัญชาที่ดี

“อ๊ะ!…. พวกเจ้าเป็นดาร์คเอลฟ์ใช่ไหม? ผู้เฒ่ามอลทาร์ ข้าอยากยืนยันว่าเป็นไปได้ไหมที่พวกเจ้าจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยที่ไม่ทำลายผืนป่า?”

เอลฟ์คือผืนป่า และผืนป่าก็คือเอลฟ์

มันเป็นความรู้พื้นฐาน ไม่ใช่แค่ใน ‘Eternal Nations’ แต่ยังเป็นพื้นฐานทั่วไปของโลกแฟนตาซีด้วย

และภายในเกม เผ่าเอลฟ์มีความสามารถเฉพาะในการสร้างสิ่งต่างๆโดยที่ไม่ต้องทำลายป่า

ผืนป่านั้นสร้างได้หลากหลายสิ่ง การที่จะสร้างสิ่งปลูกสร้างพื้นฐาน คุณจะต้องตัดไม้ทำลายป่า และทำดินแดนให้มั่นคง

แน่นอนว่าเมื่อทำลายป่าไป โบนัสหลายๆอย่างในป่าก็จะหายไปด้วย

ในสถานการณ์แบบนี้ เผ่าเอลฟ์ที่สามารถสร้างสิ่งต่างๆ ในขณะที่ป่ายังอยู่เหมือนเดิมนั้น เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในเกม

มันเป็นการถามเพื่อยืนยันคุณสมบัติเฉพาะพวกนั้น แต่ดูเหมือนทาคุโตะจะคิดถูก

“ถึงแม้จะไม่เท่าพวกเอลฟ์แห่งแสง แต่สำหรับพวกเราก็ถือว่าป่าคือบ้านเช่นกัน สิ่งก่อสร้างที่ลอยอยู่โดนใช้ต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นที่ที่พวกเราชอบมากกว่าอยู่บนดิน”

“โอ้!!”

“องค์ราชาชอบการพัฒนาโดยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม”

สีหน้าของทาคุโตะดูมีความสุข

โบนัสพิเศษของป่ามีผลใหญ่หลวง โดยเฉพาะการปรับปรุงสุขอนามัยจะส่งผลอย่างมากต่อการเติบโตของประชากรและการบำรุงรักษาในอนาคต

เมื่อใครสักคนรู้ว่าในอนาคตเขาจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เป็นธรรมดาที่จะมีความสุข

“ดูเหมือนความสามารถของเผ่าจะเป็นสิ่งที่พระองค์โปรดปราน นั่นทำให้พวกเราภาคภูมิใจยิ่งนัก”

“อู…”

 ไม่ใช่ว่าป่าควรจะถูกทำลายเพราะราชาแห่งความพินาศหรอกรึ? ไกอาที่กำลังคิดเช่นนั้นส่งเสียงออกมาโดยไม่ตั้งใจ

หลังจากที่เขาทำสีหน้าปั้นยากอยู่พักหนึ่ง ไกอาพยายามจะยืนยันว่าสามัญสำนึกของเขาผิดเพี้ยนหรือไม่ และพยายามฟังสิ่งที่ราชาพูดกับอาโทว

บางทีอาจจะเป็นเพราะไกอายังคงหนุ่มอยู่ทำให้เขาไม่อาจยอมรับสามัญสำนึกที่ผิดเพี้ยนได้

“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บพวกไม้ แล้วก็ทรัพยากรอื่นๆ เท่าที่ทำได้โดยไม่ต้องทำลายป่า”

“ป่าได้รับผลของ 《浸透志向》แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องที่ดี ฉันคาดหวังที่จะได้เห็นมันนะ” 

“ทราบแล้วค่ะ ราชาของฉัน”

การสนทนากับราชาได้จบลง

ระหว่างการพูดคุยของดาร์คเอลฟ์กับอาโทว ทาคุโตะกำลังคิดหลายๆเรื่องอยู่ทำให้เขาเผลอพูดออกไป

ผู้เฒ่ามอลทาร์หยุดคำถามไว้เพราะคำพูดเหล่านั้นไม่ได้คุยกับพวกเขาโดยตรง

พวกเขายังไม่ลืมสถานะของตนเอง

จากนี้ไป พวกเขาจะฟื้นฟูเผ่าภายใต้องค์ราชา มันยังมีหลายๆคนที่พลัดหลงไปยังสถานที่อื่น

เพื่อที่จะได้ต้อนรับพวกเขาเหล่านั้นสู่อาณาจักรในอนาคต พวกเขาจะต้องแสดงให้ราชาเห็นว่ามีประโยชน์

มอลทาร์และผู้ติดตามของเขาจะอุทิศทุกอย่างให้แก่ราชา เพื่อจุดประสงค์นั้น พวกเขาจะพยายามทำให้ดีที่สุดโดยไม่นึกเสียใจ

“ทำให้ดีที่สุด และก็อย่าลืม [ปลูกป่า]”

ในที่สุด ราชาพูดให้กำลังใจพวกเขา ด้วยคำพูดง่ายๆ

ขณะที่พวกเขากำลังรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ไกอาก็ไม่พลาดโอกาสและทำการถามราชาโดยตรง

“ขอประทานอภัย ราชาผู้ยิ่งใหญ่! ข้ามีคำถาม!”

อาโทวรีบเข้าไปแทรกอย่างรวดเร็ว ไกอาอยากได้ยินคำพูดของราชามากกว่านี้ และเขามั่นใจว่าพระองค์จะฟังเขา ดังนั้นจึงไม่เป็นไร

“คำถาม?”

ถึงมันจะน่าอายที่แสดงความโง่ของตนออกมา แต่การแกล้งทำเป็นเข้าใจและไม่ยอมรับความโง่เขลาของตนเองเป็นสิ่งที่น่าอายยิ่งกว่า

ดังนั้น เขาจึงถามอย่างกลัวๆ

“ขออภัยด้วย แต่การปลูกป่า…. สิ่งนั้นมันคืออะไรหรือครับ?”

อาเร๊ะ!?….สีหน้าแบบนั้นปรากฏบนใบหน้าของอาโทว

ครั้งนี้ เป็นไกอาที่ทำให้บรรยากาศเหมือนถูกแช่แข็ง

—————————————————————-

《浸透志向》 อันนี้ไม่รู้จะใช้คำไหนจริงๆ แปลไม่ถูกเลย

ถ้าทราบก็แนะนำมาได้นะครับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด