บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 131 เสริมพลังพระพุทธรูป

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 131 เสริมพลังพระพุทธรูป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทว่าเสียวหมี่ลี่ไม่เข้าใจ คิดว่ากระรอกน้อยมาเล่นกับเธอเลยหัวเราะจนปากปิดไม่ลง

ตอนนี้เองหมาป่าเดียวดายกลับมาด้วยความขี้เกียจ เสียวหมี่ลี่ตาเปล่งประกาย ชี้หมาป่าเดียวดายพลางถามฟางเจิ้ง “หัวโล้นใหญ่ นั่นหมาเหรอคะ?”

“อืม…คิดซะว่าเป็นบรรพบุรุษของหมาแล้วกัน เธออย่าดูแค่มันตัวใหญ่ จริงๆ มันอ่อนโยนนะ” ฟางเจิ้งหัวเราะให้เสียวหมี่ลี่

หมาป่าเดียวดายได้ยินดังนั้นจึงเชิดหน้าขึ้นสูง มองเมล็ดสนในมือเสียวหมี่ลี่กับกระรอกบนบ่า พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เมล็ดสนของเจ้าตัวหวงของอยู่ในมือเด็กน้อย จะต้องไม่ใช่เรื่องดี! ดังนั้นเจ้านี่จึงยกขาบิดก้นเตรียมจะหนีไป!

แต่ว่า…

ฟางเจิ้งลากมันกลับมา แล้ววางเสียวหมี่ลี่ลงบนหลังมัน ภายใต้การข่มขู่และหลอกล่อ ในที่สุดหมาป่าเดียวดายก็กลายเป็นเพื่อนเล่นตัวที่สองของเสียวหมี่ลี่อย่างขมขื่น พาเสียวหมี่ลี่ไปนอกวัด วิ่งเล่นไปทั่ว

มีหมาป่าเดียวดายกับกระรอกดูเสียวหมี่ลี่ ฟางเจิ้งเลยไม่กังวล เจ้าสองตัวนี้มีสติปัญญาสูงขึ้นเรื่อยๆ เขามักรู้สึกว่าพวกมันใกล้จะเปิดภูมิปัญญาได้แล้ว

ขณะเดียวกันมีเสียงสะอื้นไห้ดังแว่วมาจากในอุโบสถ!

ฟางเจิ้งมาถึงหน้าประตูอุโบสถ มองไปข้างในก็เห็นหลู่ซวงซวงคุกเข่าบนพื้น ร้องไห้หนักมาก

ฟางเจิ้งงงเล็กน้อย ในพุทธคัมภีร์ที่เขาเคยอ่านไม่ได้สอนว่าจะปลอบผู้หญิงร้องไห้ยังไง เข้าไป? หรือไม่เข้าไป?

ฟางเจิ้งลูบหัวโล้น ไม่มีความคิดอะไรเลย

“ติ๊ง! ต้องการความช่วยเหลือไหม?” ระบบถาม

“นายว่าไงล่ะ? ถ้าฉันมีผม ตอนนี้คงดึงจนหมดหัวไปแล้ว…ผู้หญิงร้องไห้น่ากลัวมาก แต่เธอก็เสียใจมากจริงๆ เหมือนกับ…เหมือนกับฉันตอนที่หลวงตาหนึ่งนิ้วมรณภาพ ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในใจเธอ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะปลอบยังไง” ฟางเจิ้งตอบในใจ

“พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรคือการขอพรสำหรับคนอื่น แต่สำหรับนายแล้วเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดีที่สุด บางทีนายควรจะขอให้เธอช่วย” ระบบกล่าว

ฟางเจิ้งงง “ขอให้พระโพธิสัตว์กวนอิมช่วย? ดะ…ได้เหรอ?”

ถึงระบบจะมหัศจรรย์ แต่ขอให้พระโพธิสัตว์ช่วย ฟางเจิ้งงงกับเรื่องนี้เล็กน้อย…นี่เป็นไปได้เหรอ?

“ไม่ใช่ขอร้องพระโพธิสัตว์ แต่เป็นความสามารถที่มากับภาพพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรบนป้ายอุโบสถหมื่นพุทธต่างหาก ก็เหมือนกับพระแม่กวนอิมปางประทานบุตรที่ให้นายให้ลูกคนอื่นได้ นี่เป็นเพียงการเหนี่ยวนำอภินิหารแบบพิเศษ” ระบบตอบ

“แล้วจะใช้ยังไง?” ฟางเจิ้งไม่รู้อะไรเลย

“ขอแค่นายอยู่ในวัดก็จะยืมพลังของภาพวาดมาทำเรื่องที่นายทำไม่ได้ให้สำเร็จได้ บางทีอาจเสริมความแกร่งของอภินิหารบางชนิดของนายก็ได้ อย่างเช่นการช่วยคนตั้งครรภ์ เนตรสวรรค์เป็นต้น แต่ของพวกนี้ต้องให้นายเป็นตัวหลัก พลังของภาพวัดเพียงแค่ช่วยเท่านั้น ใช้อภินิหารความฝันยามต้มข้าวฟ่างของนายดูเดี๋ยวจะเข้าใจเอง…” ระบบว่า

ฟางเจิ้งพยักหน้า มองหลู่ซวงซวงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ประนมสองมือ “อมิตาพุทธ!”

ตั้งแต่ที่หลู่ซวงซวงเข้ามาในอุโบสถก็คุกเข่าไม่ยอมขยับ ตอนแรกเธอคิดว่าทุกอย่างเป็นเหมือนที่เธอคิด เป็นแค่การหลอกตัวเอง หรือไม่ก็ได้แอบร้องไห้ระบายสักครั้งเท่านั้น

จากนั้นตอนที่เธอคุกเข่าบนเบาะนั่งและเอ่ยถึงความฉงนและเจ็บปวดในใจนั้น ป้ายหมื่นพุทธตรงหน้าพลันเปล่งแสงทอง แสงทองอ่อนมาก วูบเดียวก็หายไปราวกับภาพหลอน

หลู่ซวงซวงคิดว่ามันเป็นภาพหลอน แต่ตอนที่เหลือบไปมองป้ายหมื่นพุทธ ดวงตาพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรเหมือนขยับ แววตาน่าสงสารและน่าเศร้าทำให้เธอใจสั่นไหว! พลันเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าพระแม่กวนอิมบนป้ายหมื่นพุทธยังคงเดิม ไม่เคยขยับ

“จะต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ” หลู่ซวงซวงถอนหายใจ ตอนนี้เองเสียงสวดดังมาจากข้างหลัง “อมิตาพุทธ!”

หลู่ซวงซวงหันไปมองตามจิตใต้สำนึก พบว่าฟางเจิ้งกับเสียวหมี่ลี่หายไป ที่แปลกกว่านั้นคือต้นโพธิ์ในวัดออกดอก! หิมะละลาย ต่อมาดอกบัวเบ่งบานในวัด บนสันกำแพง ในลาน มีแต่ดอกบัวจำนวนมาก!

“นี่…” หลู่ซวงซวงมีสีหน้าตื่นตกใจ รีบวิ่งออกจากอุโบสถ ย่ำน้ำดังจั๊กๆ

เธอก้มหน้ามอง ใต้เท้าไม่ใช่ดิน แต่เป็นน้ำ! เงยหน้าอีกครั้งวัดหายไปแล้ว เหลือเพียงต้นโพธิ์ที่เบ่งบานอย่างยิ่ง!

หันไปมองอุโบสถก็หายไปเหมือนกัน! เหลือเพียงสระดอกบัวมองไปสุดลูกหูลูกตา…

“ฉันอยู่ที่ไหน?” หลู่ซวงซวงมองไปรอบๆ ถามขึ้นด้วยความสับสนซึ่งแฝงด้วยความเครียดและหวาดกลัวหลายส่วน

ทว่ารอบๆ มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครตอบ หลู่ซวงซวงหวาดกลัวกว่าเดิม…

ตอนนี้เองเสียงน้ำไหลดังขึ้น ต่อมาเส้นทางลอยขึ้นมาจากใต้เท้าเธอ เส้นทางยาวเหยียดไปยังส่วนลึกของสระบัว และเพราะมีดอกบัวบังอยู่เลยมองไม่เห็นของข้างใน

หลู่ซวงซวงเดินหน้าไปอย่างกล้าหาญ แหวกว่ายดอกบัวเดินไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไป…ดอกบัวเริ่มน้อยลง ข้างหน้าเหมือนมีคนกำลังคุยกัน

“มีคน!” หลู่ซวงซวงจะเดินหน้าไป พลันปรากฏเณรหัวโล้นอยู่ข้างหน้า สวมจีวรขาวสะอาด ทั่วร่างแผ่กระจายความสะอาดเชื่อมหาถึงกันหมด มองปราดเดียวจิตใจที่กลัดกลุ้มและหวาดกลัวสงบลง

“ไต้ซือฟางเจิ้ง?” หลู่ซวงซวงถาม

ฟางเจิ้งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พยักหน้าและก็ส่ายหน้า ก่อนเงยหน้ามองฟ้า

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้าตามฟางเจิ้งแล้วก็ตาค้าง!

เห็นว่าบนบัลลังก์ดอกบัวสีทองบนฟ้ามีนักบวชชุดคลุมขาวนั่งอยู่รูปหนึ่ง ข้างหลังมีมือพันมือทำปางมือต่างกัน ถือของล้ำค่าต่างกัน มีความเป็นธรรมะปะปนความน่าเกรงขาม ซ้ำยังมีความเมตตา! คนนี้ใหญ่ยักษ์ยิ่ง ปกคลุมไปครึ่งฟ้า!

“พระโพธิสัตว์กวนอิม?!” หลู่ซวงซวงถามอย่างเหลือเชื่อ

“อมิตาพุทธ อาตมาเอง หลู่ซวงซวง โยมเข้ามาที่วัดเอกดรรชนี ไหว้อาตมาด้วยความเคารพ บูชาด้วยธูป ในใจมีคำร้องขอ อาตมาย่อมช่วยโยม แต่ว่าปมในใจโยมต้องแก้ด้วยตัวเอง” พระโพธิสัตว์กวนอิมกล่าว

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้า ไม่ได้เห็นเลยว่าฟางเจิ้งข้างล่างกำลังขบคิดอย่างหนัก คิดว่าจะพูดยังไงต่อดี

ทุกอย่างเป็นภาพที่เขาสร้างขึ้นโดยการใช้พระพุทธรูปเหนี่ยวนำจริงๆ กระทั่งเขาเองยังไม่รู้เลยว่าควรทำยังไง แต่การเหนี่ยวนำของพระพุทธรูปเลือนรางมาก มีหลายอย่างที่เขาต้องคิดขึ้นเอง ตรึกตรองเอง ตระหนักรู้เองถึงจะสำเร็จ

พระพุทธรูปบนฟ้าไม่ใช่มายา แต่เป็นร่างแยกที่แสดงออกมาจากเงาสะท้อนพระพุทธรูปพระแม่กวนอิมของจริง ไม่มีจิตสำนึกของพระโพธิสัตว์ ฟางเจิ้งต้องควบคุมด้วยตัวเอง และร่างแยกนี้ไม่ใช่แค่เหนี่ยวนำมาได้ แต่ยังมีกลิ่นอายของพระโพธิสัตว์ด้วย มีผลให้คนจิตใจสงบลง

หลู่ซวงซวงมองพระโพธิสัตว์กวนอิมบนฟ้า รู้สึกถึงกลิ่นอายเมตตาที่แผ่มาจากพระโพธิสัตว์ เหมือนว่าได้เข้าใกล้ความอบอุ่นและจิตสงบตรงข้อพับแขนของหานเซี่ยวกั๋ว ราวกับหาอ่าวท่าเรือไว้หลบพายุพบ

หลู่ซวงซวงประนมสองมือแสดงความเคารพ “ได้โปรดพระโพธิสัตว์ช่วยฉันด้วย”

“คนที่โยมจะได้พบอยู่ข้างหน้า ไปเถอะ…” พระโพธิสัตว์กวนอิมชี้ไปข้างหน้า

หลู่ซวงซวงพยักหน้าแล้วเดินไป ผ่านหย่อมดอกบัวแน่นขนัด เธออึ้ง! ไม่มีสระดอกบัว แต่เป็นเมืองรุ่งเรืองอยู่ข้างหน้า!

……………………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 131 เสริมพลังพระพุทธรูป

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 131 เสริมพลังพระพุทธรูป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทว่าเสียวหมี่ลี่ไม่เข้าใจ คิดว่ากระรอกน้อยมาเล่นกับเธอเลยหัวเราะจนปากปิดไม่ลง

ตอนนี้เองหมาป่าเดียวดายกลับมาด้วยความขี้เกียจ เสียวหมี่ลี่ตาเปล่งประกาย ชี้หมาป่าเดียวดายพลางถามฟางเจิ้ง “หัวโล้นใหญ่ นั่นหมาเหรอคะ?”

“อืม…คิดซะว่าเป็นบรรพบุรุษของหมาแล้วกัน เธออย่าดูแค่มันตัวใหญ่ จริงๆ มันอ่อนโยนนะ” ฟางเจิ้งหัวเราะให้เสียวหมี่ลี่

หมาป่าเดียวดายได้ยินดังนั้นจึงเชิดหน้าขึ้นสูง มองเมล็ดสนในมือเสียวหมี่ลี่กับกระรอกบนบ่า พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เมล็ดสนของเจ้าตัวหวงของอยู่ในมือเด็กน้อย จะต้องไม่ใช่เรื่องดี! ดังนั้นเจ้านี่จึงยกขาบิดก้นเตรียมจะหนีไป!

แต่ว่า…

ฟางเจิ้งลากมันกลับมา แล้ววางเสียวหมี่ลี่ลงบนหลังมัน ภายใต้การข่มขู่และหลอกล่อ ในที่สุดหมาป่าเดียวดายก็กลายเป็นเพื่อนเล่นตัวที่สองของเสียวหมี่ลี่อย่างขมขื่น พาเสียวหมี่ลี่ไปนอกวัด วิ่งเล่นไปทั่ว

มีหมาป่าเดียวดายกับกระรอกดูเสียวหมี่ลี่ ฟางเจิ้งเลยไม่กังวล เจ้าสองตัวนี้มีสติปัญญาสูงขึ้นเรื่อยๆ เขามักรู้สึกว่าพวกมันใกล้จะเปิดภูมิปัญญาได้แล้ว

ขณะเดียวกันมีเสียงสะอื้นไห้ดังแว่วมาจากในอุโบสถ!

ฟางเจิ้งมาถึงหน้าประตูอุโบสถ มองไปข้างในก็เห็นหลู่ซวงซวงคุกเข่าบนพื้น ร้องไห้หนักมาก

ฟางเจิ้งงงเล็กน้อย ในพุทธคัมภีร์ที่เขาเคยอ่านไม่ได้สอนว่าจะปลอบผู้หญิงร้องไห้ยังไง เข้าไป? หรือไม่เข้าไป?

ฟางเจิ้งลูบหัวโล้น ไม่มีความคิดอะไรเลย

“ติ๊ง! ต้องการความช่วยเหลือไหม?” ระบบถาม

“นายว่าไงล่ะ? ถ้าฉันมีผม ตอนนี้คงดึงจนหมดหัวไปแล้ว…ผู้หญิงร้องไห้น่ากลัวมาก แต่เธอก็เสียใจมากจริงๆ เหมือนกับ…เหมือนกับฉันตอนที่หลวงตาหนึ่งนิ้วมรณภาพ ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในใจเธอ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะปลอบยังไง” ฟางเจิ้งตอบในใจ

“พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรคือการขอพรสำหรับคนอื่น แต่สำหรับนายแล้วเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดีที่สุด บางทีนายควรจะขอให้เธอช่วย” ระบบกล่าว

ฟางเจิ้งงง “ขอให้พระโพธิสัตว์กวนอิมช่วย? ดะ…ได้เหรอ?”

ถึงระบบจะมหัศจรรย์ แต่ขอให้พระโพธิสัตว์ช่วย ฟางเจิ้งงงกับเรื่องนี้เล็กน้อย…นี่เป็นไปได้เหรอ?

“ไม่ใช่ขอร้องพระโพธิสัตว์ แต่เป็นความสามารถที่มากับภาพพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรบนป้ายอุโบสถหมื่นพุทธต่างหาก ก็เหมือนกับพระแม่กวนอิมปางประทานบุตรที่ให้นายให้ลูกคนอื่นได้ นี่เป็นเพียงการเหนี่ยวนำอภินิหารแบบพิเศษ” ระบบตอบ

“แล้วจะใช้ยังไง?” ฟางเจิ้งไม่รู้อะไรเลย

“ขอแค่นายอยู่ในวัดก็จะยืมพลังของภาพวาดมาทำเรื่องที่นายทำไม่ได้ให้สำเร็จได้ บางทีอาจเสริมความแกร่งของอภินิหารบางชนิดของนายก็ได้ อย่างเช่นการช่วยคนตั้งครรภ์ เนตรสวรรค์เป็นต้น แต่ของพวกนี้ต้องให้นายเป็นตัวหลัก พลังของภาพวัดเพียงแค่ช่วยเท่านั้น ใช้อภินิหารความฝันยามต้มข้าวฟ่างของนายดูเดี๋ยวจะเข้าใจเอง…” ระบบว่า

ฟางเจิ้งพยักหน้า มองหลู่ซวงซวงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ประนมสองมือ “อมิตาพุทธ!”

ตั้งแต่ที่หลู่ซวงซวงเข้ามาในอุโบสถก็คุกเข่าไม่ยอมขยับ ตอนแรกเธอคิดว่าทุกอย่างเป็นเหมือนที่เธอคิด เป็นแค่การหลอกตัวเอง หรือไม่ก็ได้แอบร้องไห้ระบายสักครั้งเท่านั้น

จากนั้นตอนที่เธอคุกเข่าบนเบาะนั่งและเอ่ยถึงความฉงนและเจ็บปวดในใจนั้น ป้ายหมื่นพุทธตรงหน้าพลันเปล่งแสงทอง แสงทองอ่อนมาก วูบเดียวก็หายไปราวกับภาพหลอน

หลู่ซวงซวงคิดว่ามันเป็นภาพหลอน แต่ตอนที่เหลือบไปมองป้ายหมื่นพุทธ ดวงตาพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกรเหมือนขยับ แววตาน่าสงสารและน่าเศร้าทำให้เธอใจสั่นไหว! พลันเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าพระแม่กวนอิมบนป้ายหมื่นพุทธยังคงเดิม ไม่เคยขยับ

“จะต้องเป็นภาพหลอนแน่ๆ” หลู่ซวงซวงถอนหายใจ ตอนนี้เองเสียงสวดดังมาจากข้างหลัง “อมิตาพุทธ!”

หลู่ซวงซวงหันไปมองตามจิตใต้สำนึก พบว่าฟางเจิ้งกับเสียวหมี่ลี่หายไป ที่แปลกกว่านั้นคือต้นโพธิ์ในวัดออกดอก! หิมะละลาย ต่อมาดอกบัวเบ่งบานในวัด บนสันกำแพง ในลาน มีแต่ดอกบัวจำนวนมาก!

“นี่…” หลู่ซวงซวงมีสีหน้าตื่นตกใจ รีบวิ่งออกจากอุโบสถ ย่ำน้ำดังจั๊กๆ

เธอก้มหน้ามอง ใต้เท้าไม่ใช่ดิน แต่เป็นน้ำ! เงยหน้าอีกครั้งวัดหายไปแล้ว เหลือเพียงต้นโพธิ์ที่เบ่งบานอย่างยิ่ง!

หันไปมองอุโบสถก็หายไปเหมือนกัน! เหลือเพียงสระดอกบัวมองไปสุดลูกหูลูกตา…

“ฉันอยู่ที่ไหน?” หลู่ซวงซวงมองไปรอบๆ ถามขึ้นด้วยความสับสนซึ่งแฝงด้วยความเครียดและหวาดกลัวหลายส่วน

ทว่ารอบๆ มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครตอบ หลู่ซวงซวงหวาดกลัวกว่าเดิม…

ตอนนี้เองเสียงน้ำไหลดังขึ้น ต่อมาเส้นทางลอยขึ้นมาจากใต้เท้าเธอ เส้นทางยาวเหยียดไปยังส่วนลึกของสระบัว และเพราะมีดอกบัวบังอยู่เลยมองไม่เห็นของข้างใน

หลู่ซวงซวงเดินหน้าไปอย่างกล้าหาญ แหวกว่ายดอกบัวเดินไปเรื่อยๆ ทิวทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไป…ดอกบัวเริ่มน้อยลง ข้างหน้าเหมือนมีคนกำลังคุยกัน

“มีคน!” หลู่ซวงซวงจะเดินหน้าไป พลันปรากฏเณรหัวโล้นอยู่ข้างหน้า สวมจีวรขาวสะอาด ทั่วร่างแผ่กระจายความสะอาดเชื่อมหาถึงกันหมด มองปราดเดียวจิตใจที่กลัดกลุ้มและหวาดกลัวสงบลง

“ไต้ซือฟางเจิ้ง?” หลู่ซวงซวงถาม

ฟางเจิ้งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พยักหน้าและก็ส่ายหน้า ก่อนเงยหน้ามองฟ้า

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้าตามฟางเจิ้งแล้วก็ตาค้าง!

เห็นว่าบนบัลลังก์ดอกบัวสีทองบนฟ้ามีนักบวชชุดคลุมขาวนั่งอยู่รูปหนึ่ง ข้างหลังมีมือพันมือทำปางมือต่างกัน ถือของล้ำค่าต่างกัน มีความเป็นธรรมะปะปนความน่าเกรงขาม ซ้ำยังมีความเมตตา! คนนี้ใหญ่ยักษ์ยิ่ง ปกคลุมไปครึ่งฟ้า!

“พระโพธิสัตว์กวนอิม?!” หลู่ซวงซวงถามอย่างเหลือเชื่อ

“อมิตาพุทธ อาตมาเอง หลู่ซวงซวง โยมเข้ามาที่วัดเอกดรรชนี ไหว้อาตมาด้วยความเคารพ บูชาด้วยธูป ในใจมีคำร้องขอ อาตมาย่อมช่วยโยม แต่ว่าปมในใจโยมต้องแก้ด้วยตัวเอง” พระโพธิสัตว์กวนอิมกล่าว

หลู่ซวงซวงเงยหน้ามองฟ้า ไม่ได้เห็นเลยว่าฟางเจิ้งข้างล่างกำลังขบคิดอย่างหนัก คิดว่าจะพูดยังไงต่อดี

ทุกอย่างเป็นภาพที่เขาสร้างขึ้นโดยการใช้พระพุทธรูปเหนี่ยวนำจริงๆ กระทั่งเขาเองยังไม่รู้เลยว่าควรทำยังไง แต่การเหนี่ยวนำของพระพุทธรูปเลือนรางมาก มีหลายอย่างที่เขาต้องคิดขึ้นเอง ตรึกตรองเอง ตระหนักรู้เองถึงจะสำเร็จ

พระพุทธรูปบนฟ้าไม่ใช่มายา แต่เป็นร่างแยกที่แสดงออกมาจากเงาสะท้อนพระพุทธรูปพระแม่กวนอิมของจริง ไม่มีจิตสำนึกของพระโพธิสัตว์ ฟางเจิ้งต้องควบคุมด้วยตัวเอง และร่างแยกนี้ไม่ใช่แค่เหนี่ยวนำมาได้ แต่ยังมีกลิ่นอายของพระโพธิสัตว์ด้วย มีผลให้คนจิตใจสงบลง

หลู่ซวงซวงมองพระโพธิสัตว์กวนอิมบนฟ้า รู้สึกถึงกลิ่นอายเมตตาที่แผ่มาจากพระโพธิสัตว์ เหมือนว่าได้เข้าใกล้ความอบอุ่นและจิตสงบตรงข้อพับแขนของหานเซี่ยวกั๋ว ราวกับหาอ่าวท่าเรือไว้หลบพายุพบ

หลู่ซวงซวงประนมสองมือแสดงความเคารพ “ได้โปรดพระโพธิสัตว์ช่วยฉันด้วย”

“คนที่โยมจะได้พบอยู่ข้างหน้า ไปเถอะ…” พระโพธิสัตว์กวนอิมชี้ไปข้างหน้า

หลู่ซวงซวงพยักหน้าแล้วเดินไป ผ่านหย่อมดอกบัวแน่นขนัด เธออึ้ง! ไม่มีสระดอกบัว แต่เป็นเมืองรุ่งเรืองอยู่ข้างหน้า!

……………………………….

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+