บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 89

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 89 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ส่วนเรื่องหมาป่าไหว้พระ ทางหน่วยงานราชการไม่เอ่ยถึง ฟางเจิ้งเห็นแบบนั้นก็โล่งอก คุกเข่าไหว้พระครั้งหนึ่ง หมาป่าเดียวดายได้กินข้าวเพิ่มหนึ่งเท่า เขาแทบจะเลี้ยงไม่ไหวแล้ว! ถ้าหน่วยงานราชการรายงาน แน่นอนว่าต้องมีคนขึ้นเขามาดู ถึงตอนนั้นหมาป่านี่จะมีเรื่องให้ทำทุกวัน เขาต้องอดอยากแน่นอน

“วัดไม่ได้เลี้ยงไว้เหรอ?”

“แต่ในข่าวบอกว่าวัดเลี้ยงนี่ แถมยังเคยกัดคนตายด้วย?”

ในโลกโซเชียลเกิดความฉงนสงสัยขึ้น

ตอนนี้เอง ในที่สุดต้นฉบับของไชฟางก็ถูกปล่อยออกมา รายงานของไชฟางมีจรรยาบรรณมาก ไม่มีการบรรยายเพิ่มเติมหรือใส่ความรู้สึกลงไป แค่เขียนบรรยายสถานการณ์ในวันนั้นง่ายๆ

หลังจากทุกคนอ่านก็ไม่เข้าใจ ทำไมหมาป่าถึงอยู่ในวัดได้? ส่วนเรื่องการประลองพู่กันจีนกลับไม่มีใครสนใจเลย

ต่อจากนั้นบทความของจิ่งเหยียนก็ตีพิมพ์ด้วยเช่นกัน

แต่สองวันนี้จิ่งเหยียนไม่ได้ว่างเลย เธอเดินทางไปหมู่บ้านเอกดรรชนีเพื่อศึกษาโดยเฉพาะ และแฉข้อมูลที่เฉินจิ้งใส่ร้ายพวกนั้น! มีบันทึกภาพ มีคำให้การของชาวบ้าน และสิ่งที่เธอเห็นมากับตาตัวเองด้วย…

หลังออกข่าวไป บนโลกโซเชียลก็มีกระแสด่าทอ!

“สำนักพิมพ์หน้าต่างนี่รายงานอะไรของมันวะ! ทำให้พวกเราคล้อยตามไปด้วยเลย!”

“บ้าเอ๊ย บอกว่าหมาป่าเคยกัดคน แต่ในหมู่บ้านข้างๆ หมาป่าที่กัดคนตายถูกยิงตายไปนานแล้ว! แถมนี่มันเรื่องเมื่อสิบปีก่อนอีกต่างหาก!”

“หลายปีมานี้ไม่เห็นหมาป่าเลย จะเจอสัตว์ป่าไม่ง่ายหรอกนะ เจ้านี่อยากให้พวกเราด่าจนตายรึไง! ใช้ไม่ได้จริงๆ!”

…………….

สำนักพิมพ์หน้าต่าง

“เฉินจิ้ง ไหนคุณสาบานว่าที่พูดมาทั้งหมดนี่เป็นความจริงไง?!” หัวหน้ากองบรรณาธิการฟาดกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่หน้าเฉินจิ้ง จากนั้นด่าทอด้วยความโกรธ “คุณมันขยะ! เสียแรงที่ผมไว้ใจ แต่กลับตอบแทนผมแบบนี้เหรอ?”

“หัวหน้า ผะ…ผม…” เฉินจิ้งอยากอธิบายบางอย่าง

“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จะออกไปเองอย่างมีเกียรติหรือจะให้ผมส่ง?” หัวหน้ากองบรรณาธิการกล่าว

เฉินจิ้งได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจ เขาลงแรงกับงานนี้ไปมากถึงมีตำแหน่งอย่างตอนนี้ เขาจะทำใจลาออกได้อย่างไร? ดังนั้นจึงรีบเอ่ย “หัวหน้าครับ ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ?”

“ให้โอกาสอีกครั้งเหรอ ผมให้โอกาสคุณ แล้วใครจะให้โอกาสผม? บนโลกโซเชียลเขาด่ากันจนเละ สำนักพิมพ์หน้าต่างของเราชื่อเสียงป่นปี้หมดแล้ว! นายใหญ่โกรธด้วย! ตำแหน่งของผมสั่นคลอนแล้ว คุณจะให้ผมให้โอกาสคุณอีกหรือไง? ตอนนี้ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

ส่วนพั่งจื่อนั่งยองลงด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มอยู่ในสถานีตำรวจ โหวจื่อหัวเราะฮี่ๆ อยู่ข้างนอก บอกว่า “พั่งจื่อ ให้นายฝึกวิทยายุทธ์ เป็นไงสนุกไหม?”

“ไอ้เวร ก็นั่งยองแบบนี้หลายวันไม่ใช่เหรอ? นั่งก็นั่งเถอะ ใช่ว่าไม่เคยนั่งซะที่ไหน อืม…นั่งยองหลายวัน ได้เงินมาห้าแสน หึๆ คุ้มว่ะ” พั่งจื่อหัวเราะ

โหวจื่อก็หัวเราะด้วย “นายเลิกคิดถึงมันเถอะ เมียนายช่วยนายรับเงินไปแล้ว”

“อะไรนะ? ไอ้โหวจื่อบ้า ไหนว่าคุยกันแล้วไงว่าจะปกปิดบัญชีให้ฉันไง? อ๊าก…” พั่งจื่อร้องโหยหวน ตอนที่ถูกจับเข้ามาก็ไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอะไร แต่ตอนนี้เสียใจจริงๆ แล้ว

ขณะเดียวกัน ในหอพักมหาวิทยาลัยจี๋หลิน ฟางอวิ๋นจิ้งยิ้มพูดว่า “หม่าเจวียน พ่อเธอเก่งจริงๆ นะ ช่วยไต้ซือแก้ปัญหาได้ขนาดนี้เลย!”

หม่าเจวียนทำเสียงหึๆ “แน่นอนอยู่แล้ว! แต่ไม่เห็นพ่อฉันทำอะไรเลย! ส่วนฉันนี่สิหนังปากแทบฉีกอยู่แล้ว พ่อฉันส่งคนไปตรวจสอบหมู่บ้านเอกดรรชนี อำเภอซงอู่ เมืองเฮยซาน จนมั่นใจว่าไม่มีหมาป่าทำร้ายคนจริงๆ ถึงกล้าช่วยหรอก ไม่อย่างนั้นเธอคิดหรอว่าคนที่เหมือนเปาบุ้นจิ้นแบบนั้นจะยอมช่วย?”

“เอาล่ะ พ่อเธอก็ยุติธรรมเที่ยงตรงแหละ หม่าเจวียน เรื่องนี้ให้ฉันช่วยเธอให้ได้ความดีความชอบเอาไหม?” ฟางอวิ๋นจิ้งถามยิ้มๆ

หม่าเจวียนรีบส่ายหน้า “อย่าเลย! ไต้ซือช่วยชีวิตฉันไว้ นี่ก็ถือว่าทดแทนกันไป อืม ถ้าใช้คำทางพุทธศาสนาก็เรียกว่าผลกรรม!”

“ว้าว พี่หม่าพูดคำว่ากรรมได้ด้วย?” ฟางอวิ๋นจิ้งหัวเราะอีก

“กล้าหัวเราะฉันเหรอ มาให้จับซะดีๆ!” หม่าเจวียนกระโจนไปหาฟางอวิ๋นจิ้ง สองคนจึงล้มกลิ้งไปด้วยกัน

ฟางเจิ้งไม่รู้สิ่งที่เฉินจิ้งพบเจอ ไม่รู้ว่าหม่าเจวียนลงมือช่วยเหลือ เรื่องของเขาถึงผ่านไปได้ง่ายๆ แถมยังคิดว่าแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองอีก ส่วนตอนนี้เขากำลังนับเงินอย่างเบิกบานใจ ดูเงินในบัญชีธนาคารตัวเองทุกวัน แม้แต่ฝันยังตื่นขึ้นมายิ้ม!

“มีเงินแล้วรู้สึกดีจริงๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะหิวแล้ว เหอะๆ…” ฟางเจิ้งพลิกตัวอย่างสบายใจ แล้วหลับฝันต่อ

เรื่องวัดเอกดรรชนีไม่ได้ใหญ่โตขึ้น แต่ชื่อเสียงของวัดกลับขจรขจายออกไป มีคนจำนวนมากอยากรู้อยากเห็นว่าวัดเอกดรรชนีที่มีหมาป่าจะเป็นวัดแบบไหน ดังนั้นคนที่อยากรู้จำนวนหนึ่งจึงเริ่มมาดูที่วัด และเอาใส่ไว้ในแผนการเดินทางในอนาคต

นี่ถือว่าฟางเจิ้งได้โชคจากภัยกระมัง…

คนแบบนี้มาเยอะขึ้นเรื่อยๆ คนที่วิพากษ์วิจารณ์กันก็มากขึ้น สุดท้าย…

“ติ๊ง! ยินดีด้วย ชื่อเสียงของวัดถึงจุดที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยแล้ว ได้รับโอกาสจับรางวัลฟรีหนึ่งครั้ง จะจับเลยไหม?”

“อะไรนะ? มีชื่อเสียงก็ได้จับเหรอ?” ฟางเจิ้งงุนงง

“ใช่แล้ว หากถึงระดับที่กำหนดแล้ว จะได้จับทันที”

“ระดับที่กำหนดอะไร? ยากไหม?” ฟางเจิ้งถามต่อ

“ไม่ยาก รู้จักทั้งอำเภอก็จะบรรลุระดับมีชื่อเสียงเล็กน้อย จากนั้นจึงจะเป็นเมือง มณฑล ประเทศ ภูมิภาค ทวีป และทั่วโลกเป็นต้น ทุกครั้งที่ถึงหนึ่งระดับ นายจะได้รับโอกาสจับรางวัลฟรีหนึ่งครั้ง น่าตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ ใช่รึเปล่า?”

“ตื่นเต้น? แหะๆ…” ฟางเจิ้งหัวเราะแห้งๆ สองที อำเภอได้ เมืองก็คิดว่าได้ แต่มีชื่อเสียงทั่วมณฑล? ยาก! ทั่วประเทศ? ยากเหมือนปีนขึ้นสวรรค์! ส่วนทั่วโลก? พุทธศาสนาที่อยู่มาพันปียังทำไม่ได้เลย แล้วเขาจะทำได้เหรอ? เป็นไปไม่ได้ ไม่มีหวัง!

“ระบบ พวกเรามาคุยเรื่องที่เป็นจริงกันหน่อยเถอะ จับรางวัลน่ะ” ฟางเจิ้งส่ายหน้า ไม่ฝันกลางวันแล้ว แต่อยู่กับความเป็นจริง

“ติ๊ง! ยินดีด้วยนายได้รับอภินิหาร ฝันยามต้มข้าวฟ่าง[1]!”

“อะไรนะ?” ฟางเจิ้งงงงัน จึงถามต่อ “อะไรคือฝันยามต้มข้าวฟ่าง?”

“ฝันยามต้มข้าวฟ่าง หนึ่งแววตา หนึ่งการกระทำ ชาหนึ่งถ้วย เพลงหนึ่งบท ทุกการกระทำตามอำเภอใจจะดึงให้คนเข้าฝัน ในความฝันนายคือเทพ นายทำให้อีกฝ่ายเจอเรื่องใดก็ได้ในความฝัน ดินแดนความฝันไม่ชัดเจนเอามากๆ ต่อให้ตื่นมาแล้วเหตุการณ์ก็ยังคงเด่นชัดในความทรงจำ ฝันยามต้มข้าวฟ่างจะปลุกความรู้ความเข้าใจที่อยู่ลึกที่สุดของมนุษย์ จากนั้นมองผ่านคุณลักษณะของอีกฝ่าย เพียงแค่หนึ่งความคิด จากมารกลายเป็นพุทธหรือจากพุทธกลายเป็นมารได้!”

“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว ใช้กับนายได้ไหม?” ฟางเจิ้งตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนพลันถามต่อ

“นายเดาสิ”

“เดาเหรอ…เหอะๆ…ไม่เดาดีกว่า!” ฟางเจิ้งแทบจะด่าโดยจิตใต้สำนึก สุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้

“จะรับอภินิหารไปเลยไหม?”

“รับ…ไม่สิ! รอเดี๋ยว!” ฟางเจิ้งรีบออกไปดื่มน้ำ จากนั้นปิดประตูวัด นอนลงบนเตียง หลังจากกำชับหมาป่าเดียวดายให้เฝ้าวัดแล้วก็พูดขึ้น “เริ่มได้!”

“นายมั่นใจนะว่าเตรียมตัวพร้อมแล้ว นี่คือขั้นตอนการถ่ายทอดอภินิหารแขนงหนึ่ง ไม่ใช่ของธรรมดา”

…………………….

[1] ฝันยามต้มข้าวฟ่าง เป็นสำนวนเปรียบเปรย หมายถึงฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 89

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 89 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ส่วนเรื่องหมาป่าไหว้พระ ทางหน่วยงานราชการไม่เอ่ยถึง ฟางเจิ้งเห็นแบบนั้นก็โล่งอก คุกเข่าไหว้พระครั้งหนึ่ง หมาป่าเดียวดายได้กินข้าวเพิ่มหนึ่งเท่า เขาแทบจะเลี้ยงไม่ไหวแล้ว! ถ้าหน่วยงานราชการรายงาน แน่นอนว่าต้องมีคนขึ้นเขามาดู ถึงตอนนั้นหมาป่านี่จะมีเรื่องให้ทำทุกวัน เขาต้องอดอยากแน่นอน

“วัดไม่ได้เลี้ยงไว้เหรอ?”

“แต่ในข่าวบอกว่าวัดเลี้ยงนี่ แถมยังเคยกัดคนตายด้วย?”

ในโลกโซเชียลเกิดความฉงนสงสัยขึ้น

ตอนนี้เอง ในที่สุดต้นฉบับของไชฟางก็ถูกปล่อยออกมา รายงานของไชฟางมีจรรยาบรรณมาก ไม่มีการบรรยายเพิ่มเติมหรือใส่ความรู้สึกลงไป แค่เขียนบรรยายสถานการณ์ในวันนั้นง่ายๆ

หลังจากทุกคนอ่านก็ไม่เข้าใจ ทำไมหมาป่าถึงอยู่ในวัดได้? ส่วนเรื่องการประลองพู่กันจีนกลับไม่มีใครสนใจเลย

ต่อจากนั้นบทความของจิ่งเหยียนก็ตีพิมพ์ด้วยเช่นกัน

แต่สองวันนี้จิ่งเหยียนไม่ได้ว่างเลย เธอเดินทางไปหมู่บ้านเอกดรรชนีเพื่อศึกษาโดยเฉพาะ และแฉข้อมูลที่เฉินจิ้งใส่ร้ายพวกนั้น! มีบันทึกภาพ มีคำให้การของชาวบ้าน และสิ่งที่เธอเห็นมากับตาตัวเองด้วย…

หลังออกข่าวไป บนโลกโซเชียลก็มีกระแสด่าทอ!

“สำนักพิมพ์หน้าต่างนี่รายงานอะไรของมันวะ! ทำให้พวกเราคล้อยตามไปด้วยเลย!”

“บ้าเอ๊ย บอกว่าหมาป่าเคยกัดคน แต่ในหมู่บ้านข้างๆ หมาป่าที่กัดคนตายถูกยิงตายไปนานแล้ว! แถมนี่มันเรื่องเมื่อสิบปีก่อนอีกต่างหาก!”

“หลายปีมานี้ไม่เห็นหมาป่าเลย จะเจอสัตว์ป่าไม่ง่ายหรอกนะ เจ้านี่อยากให้พวกเราด่าจนตายรึไง! ใช้ไม่ได้จริงๆ!”

…………….

สำนักพิมพ์หน้าต่าง

“เฉินจิ้ง ไหนคุณสาบานว่าที่พูดมาทั้งหมดนี่เป็นความจริงไง?!” หัวหน้ากองบรรณาธิการฟาดกระดาษหนังสือพิมพ์ใส่หน้าเฉินจิ้ง จากนั้นด่าทอด้วยความโกรธ “คุณมันขยะ! เสียแรงที่ผมไว้ใจ แต่กลับตอบแทนผมแบบนี้เหรอ?”

“หัวหน้า ผะ…ผม…” เฉินจิ้งอยากอธิบายบางอย่าง

“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จะออกไปเองอย่างมีเกียรติหรือจะให้ผมส่ง?” หัวหน้ากองบรรณาธิการกล่าว

เฉินจิ้งได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจ เขาลงแรงกับงานนี้ไปมากถึงมีตำแหน่งอย่างตอนนี้ เขาจะทำใจลาออกได้อย่างไร? ดังนั้นจึงรีบเอ่ย “หัวหน้าครับ ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ?”

“ให้โอกาสอีกครั้งเหรอ ผมให้โอกาสคุณ แล้วใครจะให้โอกาสผม? บนโลกโซเชียลเขาด่ากันจนเละ สำนักพิมพ์หน้าต่างของเราชื่อเสียงป่นปี้หมดแล้ว! นายใหญ่โกรธด้วย! ตำแหน่งของผมสั่นคลอนแล้ว คุณจะให้ผมให้โอกาสคุณอีกหรือไง? ตอนนี้ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

ส่วนพั่งจื่อนั่งยองลงด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มอยู่ในสถานีตำรวจ โหวจื่อหัวเราะฮี่ๆ อยู่ข้างนอก บอกว่า “พั่งจื่อ ให้นายฝึกวิทยายุทธ์ เป็นไงสนุกไหม?”

“ไอ้เวร ก็นั่งยองแบบนี้หลายวันไม่ใช่เหรอ? นั่งก็นั่งเถอะ ใช่ว่าไม่เคยนั่งซะที่ไหน อืม…นั่งยองหลายวัน ได้เงินมาห้าแสน หึๆ คุ้มว่ะ” พั่งจื่อหัวเราะ

โหวจื่อก็หัวเราะด้วย “นายเลิกคิดถึงมันเถอะ เมียนายช่วยนายรับเงินไปแล้ว”

“อะไรนะ? ไอ้โหวจื่อบ้า ไหนว่าคุยกันแล้วไงว่าจะปกปิดบัญชีให้ฉันไง? อ๊าก…” พั่งจื่อร้องโหยหวน ตอนที่ถูกจับเข้ามาก็ไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอะไร แต่ตอนนี้เสียใจจริงๆ แล้ว

ขณะเดียวกัน ในหอพักมหาวิทยาลัยจี๋หลิน ฟางอวิ๋นจิ้งยิ้มพูดว่า “หม่าเจวียน พ่อเธอเก่งจริงๆ นะ ช่วยไต้ซือแก้ปัญหาได้ขนาดนี้เลย!”

หม่าเจวียนทำเสียงหึๆ “แน่นอนอยู่แล้ว! แต่ไม่เห็นพ่อฉันทำอะไรเลย! ส่วนฉันนี่สิหนังปากแทบฉีกอยู่แล้ว พ่อฉันส่งคนไปตรวจสอบหมู่บ้านเอกดรรชนี อำเภอซงอู่ เมืองเฮยซาน จนมั่นใจว่าไม่มีหมาป่าทำร้ายคนจริงๆ ถึงกล้าช่วยหรอก ไม่อย่างนั้นเธอคิดหรอว่าคนที่เหมือนเปาบุ้นจิ้นแบบนั้นจะยอมช่วย?”

“เอาล่ะ พ่อเธอก็ยุติธรรมเที่ยงตรงแหละ หม่าเจวียน เรื่องนี้ให้ฉันช่วยเธอให้ได้ความดีความชอบเอาไหม?” ฟางอวิ๋นจิ้งถามยิ้มๆ

หม่าเจวียนรีบส่ายหน้า “อย่าเลย! ไต้ซือช่วยชีวิตฉันไว้ นี่ก็ถือว่าทดแทนกันไป อืม ถ้าใช้คำทางพุทธศาสนาก็เรียกว่าผลกรรม!”

“ว้าว พี่หม่าพูดคำว่ากรรมได้ด้วย?” ฟางอวิ๋นจิ้งหัวเราะอีก

“กล้าหัวเราะฉันเหรอ มาให้จับซะดีๆ!” หม่าเจวียนกระโจนไปหาฟางอวิ๋นจิ้ง สองคนจึงล้มกลิ้งไปด้วยกัน

ฟางเจิ้งไม่รู้สิ่งที่เฉินจิ้งพบเจอ ไม่รู้ว่าหม่าเจวียนลงมือช่วยเหลือ เรื่องของเขาถึงผ่านไปได้ง่ายๆ แถมยังคิดว่าแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองอีก ส่วนตอนนี้เขากำลังนับเงินอย่างเบิกบานใจ ดูเงินในบัญชีธนาคารตัวเองทุกวัน แม้แต่ฝันยังตื่นขึ้นมายิ้ม!

“มีเงินแล้วรู้สึกดีจริงๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะหิวแล้ว เหอะๆ…” ฟางเจิ้งพลิกตัวอย่างสบายใจ แล้วหลับฝันต่อ

เรื่องวัดเอกดรรชนีไม่ได้ใหญ่โตขึ้น แต่ชื่อเสียงของวัดกลับขจรขจายออกไป มีคนจำนวนมากอยากรู้อยากเห็นว่าวัดเอกดรรชนีที่มีหมาป่าจะเป็นวัดแบบไหน ดังนั้นคนที่อยากรู้จำนวนหนึ่งจึงเริ่มมาดูที่วัด และเอาใส่ไว้ในแผนการเดินทางในอนาคต

นี่ถือว่าฟางเจิ้งได้โชคจากภัยกระมัง…

คนแบบนี้มาเยอะขึ้นเรื่อยๆ คนที่วิพากษ์วิจารณ์กันก็มากขึ้น สุดท้าย…

“ติ๊ง! ยินดีด้วย ชื่อเสียงของวัดถึงจุดที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยแล้ว ได้รับโอกาสจับรางวัลฟรีหนึ่งครั้ง จะจับเลยไหม?”

“อะไรนะ? มีชื่อเสียงก็ได้จับเหรอ?” ฟางเจิ้งงุนงง

“ใช่แล้ว หากถึงระดับที่กำหนดแล้ว จะได้จับทันที”

“ระดับที่กำหนดอะไร? ยากไหม?” ฟางเจิ้งถามต่อ

“ไม่ยาก รู้จักทั้งอำเภอก็จะบรรลุระดับมีชื่อเสียงเล็กน้อย จากนั้นจึงจะเป็นเมือง มณฑล ประเทศ ภูมิภาค ทวีป และทั่วโลกเป็นต้น ทุกครั้งที่ถึงหนึ่งระดับ นายจะได้รับโอกาสจับรางวัลฟรีหนึ่งครั้ง น่าตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ ใช่รึเปล่า?”

“ตื่นเต้น? แหะๆ…” ฟางเจิ้งหัวเราะแห้งๆ สองที อำเภอได้ เมืองก็คิดว่าได้ แต่มีชื่อเสียงทั่วมณฑล? ยาก! ทั่วประเทศ? ยากเหมือนปีนขึ้นสวรรค์! ส่วนทั่วโลก? พุทธศาสนาที่อยู่มาพันปียังทำไม่ได้เลย แล้วเขาจะทำได้เหรอ? เป็นไปไม่ได้ ไม่มีหวัง!

“ระบบ พวกเรามาคุยเรื่องที่เป็นจริงกันหน่อยเถอะ จับรางวัลน่ะ” ฟางเจิ้งส่ายหน้า ไม่ฝันกลางวันแล้ว แต่อยู่กับความเป็นจริง

“ติ๊ง! ยินดีด้วยนายได้รับอภินิหาร ฝันยามต้มข้าวฟ่าง[1]!”

“อะไรนะ?” ฟางเจิ้งงงงัน จึงถามต่อ “อะไรคือฝันยามต้มข้าวฟ่าง?”

“ฝันยามต้มข้าวฟ่าง หนึ่งแววตา หนึ่งการกระทำ ชาหนึ่งถ้วย เพลงหนึ่งบท ทุกการกระทำตามอำเภอใจจะดึงให้คนเข้าฝัน ในความฝันนายคือเทพ นายทำให้อีกฝ่ายเจอเรื่องใดก็ได้ในความฝัน ดินแดนความฝันไม่ชัดเจนเอามากๆ ต่อให้ตื่นมาแล้วเหตุการณ์ก็ยังคงเด่นชัดในความทรงจำ ฝันยามต้มข้าวฟ่างจะปลุกความรู้ความเข้าใจที่อยู่ลึกที่สุดของมนุษย์ จากนั้นมองผ่านคุณลักษณะของอีกฝ่าย เพียงแค่หนึ่งความคิด จากมารกลายเป็นพุทธหรือจากพุทธกลายเป็นมารได้!”

“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว ใช้กับนายได้ไหม?” ฟางเจิ้งตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนพลันถามต่อ

“นายเดาสิ”

“เดาเหรอ…เหอะๆ…ไม่เดาดีกว่า!” ฟางเจิ้งแทบจะด่าโดยจิตใต้สำนึก สุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้

“จะรับอภินิหารไปเลยไหม?”

“รับ…ไม่สิ! รอเดี๋ยว!” ฟางเจิ้งรีบออกไปดื่มน้ำ จากนั้นปิดประตูวัด นอนลงบนเตียง หลังจากกำชับหมาป่าเดียวดายให้เฝ้าวัดแล้วก็พูดขึ้น “เริ่มได้!”

“นายมั่นใจนะว่าเตรียมตัวพร้อมแล้ว นี่คือขั้นตอนการถ่ายทอดอภินิหารแขนงหนึ่ง ไม่ใช่ของธรรมดา”

…………………….

[1] ฝันยามต้มข้าวฟ่าง เป็นสำนวนเปรียบเปรย หมายถึงฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+