บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 15 หนี

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 15 หนี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 15

หนี

 

“เถ้าแก่….”นอกจากไป๋จูเหวินแล้ว คงหาคนที่ควบคุมสติได้ยากเต็มที เพราะบัดนี้สิ่งที่ยืนอยู่แทนที่เถ้าแก่หวังผู้ผอมบางคือวานรเผือกที่มีมัดกล้ามใหญ่โต

“นี่คือโทษฐานที่คิดจะทำร้ายนายน้อย”เถ้าแก่หวังเงื้อกำปั้นใหญ่โตของตนขึ้นสูงก่อนจะหวดลงมาใส่ร่างของเฟยหลิงอย่างรุนแรง

โพล๊ะ! ราวกับทุบลงบนลูกแตงโม ร่างของเฟยหลิงแตกกระจายกลายเป็นกองเลือดในพริบตา สร้างภาพสยดสยองแก่เหล่าผู้ชมดูเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับอาเจียนออกมาเลยก็มี

“ท่านพี่……”เฟยอินมองพี่ของมันด้วยใบหน้าซีดขาวราวกับเผือก พี่ชายที่มันแสนจะภูมิใจโดนทุบจนร่างแหลกเละในกำปั้นเดียว อสูรตรงหน้าพวกมันช่างน่ากลัวจริงๆ

“ต่อไปก็ตาเจ้า”เถ้าแก่หวังสะบัดเลือดของเฟยหลิงออกจากกำปั้น ก่อนจะง้างกำปั้นขึ้นเพื่อเตรียมหวดใส่ร่างของเฟยอิน

“ช้าก่อนเถ้าแก่หวัง”ไป๋จูเหวินคงจะเป็นคนเดียวที่กล้าพอจะเอ่ยปากห้ามในตอนนี้

“นายน้อย?”เถ้าแก่หวังในร่างลิงเผือกหันมามองนายน้อยของตนอย่างประหลาดใจ ว่ากันตามตรงเฟยอินชั่วช้ากว่าเฟยหลิงเสียอีก เพียงแต่มันไม่มีพลังวิญญาณเท่านั้น แล้วเหตุใดนายน้อยถึงห้ามไม่ให้มันฆ่าเฟยอินไปด้วยเล่า

“ข้าว่าชาวเมืองสามารถจัดการกับมันเองได้”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางเดินมาขวางระหว่างเถ้าแก่หวังกับเฟยอินเอาไว้ คราแรกเฟยอินดีใจที่มีคนออกมาห้าม แต่พอฟังจากปากของไป๋จูเหวินแล้วใบหน้ามันยิ่งซีดเผือดเข้าไปใหญ่ แต่แรกมันกระทำเรื่องชั่วร้ายได้โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะทำอะไรมันเพราะมีพี่ชายอยู่ แต่บัดนี้พี่ชายมันโดนทุบกลายเป็นกองเลือดไปแล้ว หากปล่อยมันมีชีวิตต่อไม่เท่ากับปล่อยให้ชาวเมืองรุมประชาทันฑ์มันหรือ

“นายน้อยความคิดล้ำลึกยิ่ง”เถ้าแก่หวังได้ยินเช่นนั้นก็ลดกำปั้นลง ก่อนจะกลับเป็นร่างของเถ้าแก่หวังเช่นเดิม เพียงแต่สายตาโดยรอบไม่ได้มองเถ้าแก่เช่นเดิมตามไปด้วย บัดนี้ไม่ว่ามันจะเดินไปทางใดก็คงมีแต่คนหลีกทางให้และโรงเตี๊ยมของมันก็คงไม่มีใครมากพักเป็นแน่

“ไปกันเถิดนายน้อย เมืองนี้คงอยู่ไม่ได้แล้ว”เถ้าแก่หวังพูดพลางเดินนำนายน้อยออกไปทางประตูโดยไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางเลยแม้แต่คนเดียว

“ที่แท้เถ้าแก่ก็คือวานรเผือกแห่งป่าท้อขาวนี่เอง”ไป๋จูเหวินที่เดินตามเถ้าแก่หวังมาพูดพลางยิ้มอย่างอารมดี วานรแห่งป่าท้อขาวเป็นอสูรที่มีพลังอสูรอยู่ระดับ หยกขาว ขั้น 1 นับเป็นอสูรที่มีฝีมือทีเดียวในป่าวัฒนะ แถมยังเป็นอสูรที่มังกรธรณีใช้งานมาหาข้อมูลในแดนมนุษย์บ่อยๆด้วย

“กระผมยังสู้ท่านอาวุโสในป่าไม่ได้หรอกขอรับ ตอนนี้กระผมก็อยู่แค่ระดับ ทอง ขั้น 10 เท่านั้น”เถ้าแก่หวังพูดอย่างถ่อมตน ตัวมันแม้จะพัฒนามาหลายปีมากแล้วแต่ก็ติดนิสัยชอบเที่ยวเล่นระดับพลังอสูรเลยไม่ขึ้นสู่ขั้น หยก ที่เป็นระดับพื้นฐานของวานรเผือกเลย

“เถ้าแก่ นายน้อย”ขณะเถ้าแก่หวังและไป๋จูเหวินจะเดินออกจากเมืองไป ร่างของต้าชิงและต้าเฉินก็ปรากฏขึ้นเบื้องหลังพวกมัน ท่าทางทั้ง 2 คนจะวิ่งตามมาตั้งแต่พวกมันออกจากโรงเตี๊ยม

“เถ้าแก่ นายน้อย รอก่อนขอรับ”ทั้งสองคนพูดพลางพักหายใจเล็กน้อย

“ต้าชิง ต้าเฉิน พวกเจ้ามีอะไรหรือ”เถ้าแก่ถามอย่างประหลาดใจ เขานึกว่าพอกลับร่างแล้วจะโดนทั้ง 2 คนรังเกียจเสียอีก

“ขอบพระคุณมากขอรับ”ต้าชิงและต้าเฉินคุกเข่าลงกับพื้นแล้วกระแทกศีรษะลงกับพื้นอย่างแรงทันที คราวนี้ไม่ต้องให้ใครมาบังคับพวกมัน เป็นความต้องการของพวกมันเองทั้งสิ้น แน่นอนว่าพื้นดินสร้างบาดแผลให้กับผู้ฝึกพลังวิญญาณไม่ได้ แต่ต้าเฉินที่พึ่งโดนราดสุราใส่ศีรษะมากลับมีดินติดอยู่บนหน้าผากเต็มไปหมด

“ได้โปรดให้พวกเราติดตามท่านด้วยเถอะขอรับ”ต้าชิงและต้าเฉินพูดพลางก้มหัวลงอีกรอบ พวกมันเป็นผู้ฝึกพลังวิญญาณ ย่อมมีคนต้องการตัว อย่าว่าแต่อยู่ในเมืองนี้ต่อไปพวกมันก็สามารถครอบครองอำนาจได้ไม่ยาก แต่พวกมันอยู่กับเถ้าแก่มานาน แถมที่เถ้าแก่คืนร่างเดิมจนเป็นเรื่องเช่นนี้ก็เพราะพวกมันเป็นต้นเหตุแต่แรกด้วย

“ทำไมเจ้าถึงจะตามข้ามาอีก ข้าเป็นอสูรนะ”เถ้าแก่หวังถามพลางมองศีรษะที่ก้มนิ่งอยู่กับพื้น พวกมันไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยเพราะรู้จักเถ้าแก่หวังมานาน ไม่ว่าเถ้าแก่จะเป็นอสูรหรือมนุษย์พวกมันก็ยังคงนับถือ

“ไม่ได้ ข้าจะเดินทางกลับไปยังป่าท้อขาวในเขตอสูร”ได้ยินจุดหมายของเถ้าแก่หวังพวกต้าชิงก็ลอบใจหาย เขตอสูรเป็นสถานที่มนุษย์ไม่อาจแม้แต่จะคิดเข้าไป หากพวกมันตามไปคงไม่ต่างจากไปตายนัก

“แต่พวกเจ้าสามารถติดตามนายน้อยไป๋ได้”ได้ยินเถ้าแก่หวังพูดแบบนั้น ใบหน้าของทั้งสองคนก็มีความหวังขึ้นมาไม่น้อย

“นายน้อยไป๋”ทั้งสองประสานเสียงพลางก้มหัวให้ไป๋จูเหวิน คราวนี้มันไม่ได้คิดจะติดตามไป๋จูเหวินเพราะโดนสั่งอีกแล้ว แต่เป็นการติดตามเพื่อรับใช้ด้วยใจของมันเอง

“แบบนี้….”ไป๋จูเหวินไม่รู้จะพูดอย่างไร มันหันไปมองเถ้าแก่หวังราวกับจะถามว่าเหตุใดท่านถึงโยนทั้ง 2 มาให้

“อย่างที่ท่านน้าของนายน้อยบอก ท่านต้องรีบฝึกพลังวิญญาณโดยเร็ว แม้ท่านจะไม่แสดงพลังอสูรออกมาแต่มนุษย์บางพวกก็มีวิธีจับสัมผัสพลังอสูรในร่างเช่นกัน”เถ้าแก่หวังว่าพลางมองไปทางต้าชิงและต้าเฉิน

“พวกมันแม้ฝีมืออ่อนด้อย แต่ก็ช่วยเหลือนายน้อยได้ในหลายเรื่อง”เถ้าแก่หวังพูดพลางด้วยท่าทีจริงจัง ในเหล่ามนุษย์มีผู้ฝึกพลังวิญญาณจำพวกหนึ่งถูกเรียกว่านักล่าอสูร คนพวกนี้มีความสามารถในการจำแนกพลังอสูร นี่เป็นเหตุผลที่อสูรไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงในเมืองใหญ่ๆได้ อย่างน้อยหากนายน้อยได้พลังวิญญาณมาไว้ในครอบครองก็จะสามารถยืนยันตนเองได้ว่าเป็นมนุษย์จริงๆ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีมนุษย์ที่มีแต่พลังอสูรโดยไร้พลังวิญญาณเช่นนายน้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องฝากตัวกับพวกท่านอีกรอบแล้วกระมัง”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปทางต้าชิงและต้าเฉิน ทั้งคู่ต่างเงยหน้าขึ้นมาอย่างยินดี

“ไปเถอะ ข้าจะไปส่งท่านที่เมืองถัดไป”เถ้าแก่หวังว่าพลางเดินนำคนทั้ง 3 ไป แต่พอหันมามองหน้าต้าเฉินเถ้าแก่หวังก็อดเรียกถุงน้ำออกมาให้มันล้างหน้าไม่ได้เพราะนอกจากสุราที่โดนรดใส่หน้าแล้วยังมีเศษดินเต็มไปหมดอีกต่างหาก มันช่างเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่มอมแมมจริงๆ

ตัวเถ้าแก่หวังนั้นอยากจะเดินทางร่วมกับนายน้อยอยู่หรอก แต่เพราะตัวนักล่าอสูรทำให้มันไม่สามารถเดินทางไปกับนายน้อยได้ ยิ่งนายน้อยบอกว่าอยากจะเข้าสำนักเพื่อฝึกฝนพลังวิญญาณยิ่งแล้วใหญ่ ทำให้มันทำได้แค่ไปส่งเท่านั้น

.

.

“เถ้าแก่ ตกลงว่านายน้อยเป็นมนุษย์หรือขอรับ”หลังจากเดินทางมาได้ครึ่งทาง สุดท้ายท้องฟ้าก็มืดมิดเสียก่อนทั้ง 4 จึงพักอยู่กลางป่ากันชั่วคราว ด้วยเพราะในกลุ่มมีอสูรระดับทองขั้น 10 อยู่ 1 ตนพวกมันจึงไม่ต้องกลัวทั้งสัตว์ป่าและอสูรใดๆในป่าทำร้ายได้

“ข้าได้ยินมาอย่างนั้น….”เถ้าแก่ตอบด้วยท่าทีไม่มั่นใจพลางหันไปหาไป๋จูเหวินราวกับจะถามหาคำตอบที่ถูกต้อง

“ข้าถูกเก็บไปเลี้ยงในเขตอสูรตั้งแต่จำความได้”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ

“แต่เรื่องเป็นมนุษย์ก็เป็นเรื่องจริง”ได้ยินเช่นนั้นต้าชิงและต้าเฉินก็ยิ่งมีสีหน้าสับสน

“แล้วเหตุใดนายน้อยถึงมีพลังอสูรได้ละขอรับ”ต้าเฉินถามด้วยความอยากรู้ที่อัดแน่นในอก

“….”เถ้าแก่หวังไม่ได้ตอบ มันเพียงหันไปหานายน้อยเช่นเดิม

“ตอนเด็กข้ากลืนแก่นอสูรเข้าไป โชคดีที่ได้ท่านน้าช่วยเอาไว้เลยรอดมาได้ แต่มันก็ทำให้ข้ามีพลังอสูรอยู่ในร่างเช่นกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางเลี้ยงคำตอบว่าน้าของมันคือใครหรือแก่นอสูรที่มันกลืนเป็นของใคร

“เป็นเช่นนี้เอง นับว่านายน้อยดวงแข็งมากที่รอดมาได้”เถ้าแก่หวังรำพึงออกมาด้วยท่าทีโล่งใจราวกับมันเห็นเหตุการณ์ตอนไป๋จูเหวินกลืนแก่นอสูรไปต่อหน้า

“ข้าเคยได้ยินว่าหากมนุษย์กินเนื้อหรือส่วนใดของอสูรก็จะตายไม่ใช่หรือ”ต้าชิงถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่ผิด แต่นายน้อยหาใช่คนธรรมดาเช่นพวกเจ้าไม่”เถ้าแก่หวังพูดพลางยิ้มอย่างอารมดี มันไม่รู้ว่าพลังดึงดูดใจอสูรของนายน้อยมาจากที่ใด แต่ยิ่งมันอยู่กับนายน้อยนานวันยิ่งรักใคร่และเอ็นดูมากขึ้นๆ จนมันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมราชาทั้ง 5 ถึงได้รักนายน้อยเช่นนี้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด