บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 167 กลับบ้าน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 167 กลับบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 167 กลับบ้าน

 

หลังจากได้องค์หญิง 2 ช่วยเจรจากับองค์จักรพรรดิ ในที่สุดองค์จักรพรรดิก็ยอมให้ไป๋จูเหวินเข้าถวายการรักษา แน่นอนว่ามีเหล่าขุนนางไม่ยอมหลายฝ่ายแต่เพราะองค์หญิง 2 ช่วยพวกมันเลยทําได้แค่เข้ามาดูการรักษาว่าไม่มีอะไรผิดพลาดเท่านั้น

 

“เริ่มเลย” องค์จักรพรรดิว่าพลางมองไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงของพระองค์ โดยภายในห้องนั้นนอกจากผู้ช่วยของไป๋จูเหวินอย่างหัวหน้าแพทย์หลวงและยู่หยวนแล้วก็มีเหล่าขุนนางกว่า 30 คนคอยจับตามองพวกมันไม่วางตา

 

“เชิญเจ้าค่ะ” ยู่หยวนนํายาสีขาวเม็ดหนึ่งมาวางเอาไว้ที่ข้างเตียงขององค์จักรพรรดิ ยาตัวนี้คือยาสลบที่ไป๋จูเหวิน ได้อธิบายไว้แล้วว่าจะให้องค์จักรพรรดิกินเข้าไปเพื่อให้องค์จักรพรรดิหลับระหว่างทําการผ่าตัด

 

“อืม” องค์จักรพรรดิตอบรับพลางนํายาเข้าปากอย่างช้าๆ หลังจากทานยาลงไปองค์จักรพรรดิก็ค่อยๆหลับตาลง เพียงแต่ไป๋จูเหวินก็ไม่ได้ลงมือทําอะไรในทันทีเพราะองค์จักรพรรดิยังหลับไม่ลึกพอ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 5 นาทีไป๋จูเหวินจึงเริ่มขยับ

 

วูมม อยู่ๆรอบตัวของไป๋จูเหวินก็ปรากฏลมร้อนสายหนึ่ง พุ่งออกมาพร้อมพลังอสูรที่ไป๋จูเหวินใช้ เพียงการกระทําเท่านี้ก็มากพอที่จะทําให้เหล่าขุนนางฝายบู๊ลุกขึ้นเตรียมโจมตีแล้ว แต่ไป๋จูเหวินก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายให้พวกมันเข้าใจได้อย่างไรว่ามันเพียงสร้างห้องปลอดเชื้อเท่านั้น 

 

“เริ่มกันเลย”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองเหล่าขุนนางที่อยู่รอบนอก ตอนนี้มันระแวงเหล่าขุนนางมากกว่าฝีมือของมันเองเสียอีก

 

วูบ..ดวงตาของไป๋จูเหวินเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพื่อดูทะลุผ่านร่างกายขององค์จักรพรรดิ พริบตาเดียวไป๋จูเหวินก็สามารถประเมินได้ในทันที่ว่าควรลงมีดตรงไหน

 

ฟุบ! ในมือของไป๋จูเหวินถือมีดน้ำแข็งเล่มหนึ่งเอาไว้ มันคือมีดวิเศษที่องค์หญิง 2 ให้ไป๋จูเหวินยืมมาจากคลังของวังหลวง นางเห็นว่าหากใช้มีดเล่มนี้น่าจะผ่าตัดได้ง่ายขึ้น 

 

“…” เหล่าขุนนางลุกพรวดขึ้นอีกครั้งเมื่อปลายมีดกรีดลงไปที่ท้องขององค์จักรพรรดิ แต่เมื่อเห็นว่าบาดแผลไม่ได้ใหญ่มากพวกมันเลยไม่ได้ทําอะไร

 

ฟุบ.ฟุบ… เมื่อเปิดปากแผลแล้วดวงตาสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเพื่อให้มองภาพตรงหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทําให้ยามนี้มือของไป๋จูเหวินขยับไปมาอย่างรวดเร็วราวกับมี มือนับสิบมือกําลังช่วยกันทํางาน เพียงอึดใจเดียวไส้ติ่งที่ถูกมัดด้วยใยแมงมุมของไป๋จูเหวินก็ถูกดึงออกมาจากบาดแผลอย่างง่ายดาย

 

“นั่นนะเหรอ” เหล่าขุนนางพากันมองด้วยสีหน้าอึ้ง พวกฝ่ายยังพอว่าเพราะพวกมันเห็นเลือดกันเป็นปกติ แต่พวกขุนนางฝายปั่นกลับพากันหน้าเสียเก็บท่าที่กระอักกระอ่วนกันเป็นการใหญ่

 

ฟุบๆๆ หลังจากนําไส้ติ่งออกไปแล้ว ไป๋จูเหวินก็ใช้ใยแมงมุมที่มันสร้างเองแทนเส้นด้าย ด้วยคุณสมบัติที่เหนียวและทนทานมันดีกว่าการใช้เส้นด้ายมากมายนัก พริบตาเดียว แผลบนลําไส้ขององค์จักรพรรดิก็ถูกเย็บปิดจนสนิท ก่อนที่ไปษจูเหวินจะใช้พลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาลําไส้ขององค์จักรพรรดิก่อนจะเริ่มเย็บแผลภายนอกด้วยด้ายปกติเพราะหากมันเย็บด้วยใยแมงมุมกว่าบาดแผลจะหายมันคงเดินทางไปไกลแล้ว และการจะตัดยัยแมงมุมของมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับคนธรรมดาเสียด้วย

 

“เสร็จแล้วขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้พลังศักดิ์สิทธิ์รักษาบาดแผลภายนอกอีกครั้ง เพราะแผลคราวนี้ลึกกว่า แผลขององค์หญิง 2 มากทําให้พลังของไป๋จูเหวินช่วยได้แค่ให้ปากแผลปิดเข้าหากันจนสนิทเท่านั้น

 

“อะไรกัน…” เหล่าขุนนางต่างพากันมองด้วยสีหน้าตกตะลึง หากไม่มีเส้นด้ายมัดอยู่บนท้องขององค์จักรพรรดิ พวกมันก็แทบจะมองไม่ออกเสียด้วยซ้ำว่ามีบาดแผลอยู

 

“องค์จักรพรรดิจะมีอาการเจ็บอยู่อีก 4 หรือ 5 วันขอรับ หลังจากนี้ให้ท่านใช้ยาฟื้นฟูก็ปลอดภัยแล้วขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปในมิติของตนเองก่อนเพื่อความเรียบร้อย

 

“อะ อืม…เจ้าไปได้”เหล่าขุนนาง่ายบันต่างตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ แม้ขุนนางฝ่ายบู๊จะมองทันว่าไป๋จูเหวินทําอะไร แต่สําหรับฝ่ายบันที่ไม่ได้ฝึกวิชายุทธนั้นกลับเห็นแค่ว่าไป๋จูเหวินขยับมือไปมาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

 

“คิกๆ เจ้าน่าจะได้เห็นตอนขุนนางพวกนั้นออกมาจากห้องของเสด็จพ่อนะ” องค์หญิง 2 หัวเราะพลางนั่งลงตรงข้ามที่นั่งของไป๋จูเหวิน

 

“ข้ากังวลแทบแย่ นึกว่าพวกเขาจะโจมตีเข้ามาตอนข้าลงมีดซะอีก”ไป๋จูเหวินถอนหายใจพลางนํามีดน้ำแข็งที่ทําความสะอาดแล้วออกมาคืนให้องค์หญิง 

 

“วิธีของเจ้ามันแปลกนี่นา ถ้าเจ้าไม่อธิบายวิธีรักษาโดยละเอียดอย่าหวังเลยว่าพวกเขาจะยอมให้เจ้าลงมือ” องค์หญิง 2 ว่าพลางรับมีดมาถือเอาไว้ในมือก่อนจะเก็บมันลงแหวนมิติอย่างรวดเร็ว

 

“แล้วอาการขององค์จักรพรรดิเป็นอย่างไรบ้าง ข้ายังไม่ได้รับอนุยาตให้เข้าพบเลย”ไป๋จูเหวินถามออกไปเพราะหลังจากการผ่าตัดคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลองค์จัก รพรรดิต่อคือหัวหน้าแพทย์หลวงที่ภวายงานมานานแล้ว พวกขุนนางเลยไว้ใจมันมากกว่า

 

“พอตื่นขึ้นมาท่านก็มีท่าที่โล่งใจมาก ท่านบอกว่าตอนหลับไปท่านกลัวมากทีเดียว”องค์หญิง 2 ว่าพลางยิ้มบางๆ

 

“แล้วอาการบาดเจ็บละขอรับ”ไป๋จูเหวินถามต่ออย่างสนใจเพราะมันก็พึ่งเคยลงมือจริงๆครั้งแรก

 

“ท่านบอกว่ารู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าตอนยังไม่ผ่าตัดมาก”องค์หญิง 2 ตอบ อาการขององค์จักรพรรดิค่อน ข้างแย่ที่เดียวหากท่านไม่ได้ใช้ยาจํานวนมากประคองอาการเอาไว้ไส้ติ่งคงแตกและกลายเป็นติดเชื้อในกระแสเลือดไปแล้วแน่ๆ

 

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้านะที่ช่วยสเด็จพ่อเอาไว้”องค์หญิง 2 ยิ้มพลางก้มหัวให้ไป๋จูเหวินอย่างนอบน้อม ทําเอายู่หยวนที่อยู่ด้านหลังหลบการคํานับขององค์หญิง 2 แทบไม่ทัน

 

“ไม่หรอก ข้ารับตําแหน่งหัวหน้าสมาคมแพทย์มาแล้ว การรักษาพระองค์ถือเป็นหน้าที่ของข้า”ไป๋จูเหวินตอบพลางประคองไหล่ขององค์หญิงขึ้นไม่ให้ก้มหัวลงไปมากกว่านี้ 

 

“ข้าแค่กลัวว่าท่านพ่อจะจากข้าไปแล้วซะอีก”องค์หญิง 2 พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ท่าทางนางจะเก็บท่าที่ไม่อยู่เสียแล้ว

 

“ทั้งๆที่พวกข้าอยากให้ท่านฝึกฝนพลังวิญญาณแท้ๆ แต่ท่านกลับไม่ยอมฝึก เอาแต่บอกว่างานของบ้านเมืองต้องมาก่อนอยู่ได้”องค์หญิง 2 ว่าพลางยืดตัวตรงอีกครั้ง แม้จะหลุดท่าที่ไปบ้างแต่นางก็กลับมาทําท่าที่สงบได้เช่นเดิมอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

“องค์หญิง” ขณะกําลังยกนิ้วเช็ดขอบตาของตนเอง องครักษ์คนหนึ่งของนางก็เข้ามาด้วยท่าทีแร่งรีบ

 

“มีอะไร”องค์หญิง 2 ว่าพลางหันไปมององครักษ์ของตน ด้วยท่าทีสง่างามเช่นเดิม

 

“องค์ชาย…องค์ชายใหญ่กลับมาแล้วขอรับ”ได้ยินที่องครักษ์รายงาน ดวงตาขององค์หญิง 2 ก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที

 

“พี่ใหญ่นะเหรอ”องค์หญิง 2 พูดออกมาด้วยท่าที่ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด พี่ใหญ่ของนางไม่ได้กลัววังมานับสิบปี แล้วภาพความทรงจําของนางมีแค่ภาพพ์ใหญ่ในอดีตที่อายุไม่กี่ขวบเท่านั้น นางรู้สึกตื่นเต้นมากทีเดียที่พี่ใหญ่ของนางกลับมาในครั้งนี้

 

“ขอรับ ท่านอยู่ที่ห้องโถงกลาง กําลังจะเข้าไปพบองค์จักรพรรดิขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นองค์หญิง 2 ก็รีบลุกขึ้นทันที่

 

“องค์หญิง”องครักษ์ที่มารายงานข่าวถึงกับอึ้งเมื่อเห็นองค์หญิง 2 ที่มักจะวางท่าที่สง่างามอยู่ตลอดวิ่งออกจากห้องไปราวกับเด็ก แต่พอเห็นว่านางรีบไปหาพี่ชายของนางเหล่าองครักษ์ก็ได้แต่อมยิ้มเท่านั้น

 

“…”ส่วนทางด้านไป๋จูเหวินนั้นเห็นว่าพี่ใหญ่ขององค์หญิง 2 มาก็ทราบอยู่แล้วว่าใครคือพี่ใหญ่ของนาง ทําให้มันลุกขึ้นยืนเดินตามองค์หญิงไปช้าๆเพราะเขตห้องโถงของวังหลวงไม่ได้ห้ามมันเข้าเสียหน่อย

 

“พี่ใหญ่” ทันทีที่องค์หญิง 2 เห็นร่างของอูหมิง ดวงตาของนางก็ส่องประกายราวกับคนละคน นางรีบเข้าไปกอดอูหมิงเอาไว้แน่นพลางยิ้มกว้างราวกับเด็กๆไม่มีผิด 

 

“เจ้าโตขึ้นมากเลยนะซูหลาน” อูหมิงว่าพลางรับกอดน้องสาวอย่างเอ็นดู

 

“พี่ใหญ่ ท่านกลับมามีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”องหญิง 2 หรือ อูซูหลาน ถามพลางมองคนที่ตามพี่ชายของนางมา หนึ่งคือเซียนดาบอีกหนึ่งคือหยุนฟางนั้นเอง

 

“ข้ามาพบอาจารย์ แต่พวกองครักษ์บอกข้าว่าสเด็จพ่อล้มป่วยข้าเลยจะไปเยี่ยมท่านก่อน”อูหมิงว่าพลางมองซูหลานอย่างเอ็นดู ตัวมันโดนขังเอาไว้ในถ้ำหลายเดือนเลยไม่ทราบข่าวภายนอกเลย

 

“ไม่ต้องห่วงหรอก สเด็จพ่ออาการดีขึ้นมากแล้วหลังจากได้รับการรักษา” ซูหลานว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“จริงสิ ข้าได้ข่าวว่าหมอที่มารักษาใช้วิชาแพทย์ที่แปลกมากเลยนี่นา”อูหมิงถามด้วยท่าที่สนใจ แต่อยู่ๆสายตาของมันก็พลันมองไปเห็นชายคนหนึ่งที่เดินตามซูหลานมาเสียอย่างนั้น

 

“ไป๋จูเหิวน”อูหมิงเบิกตากว้างพลางมองร่างของคนที่ตน ไม่คิดว่าจะได้เจอในวังหลวง

 

“ไป๋จูเหวิน เจ้ามาที่นี้ได้ยังไง” หยุนฟางถามพลางเดินออกมาอย่างรวดเร็ว นางไม่ได้เจอมันตั้งแต่งานชุมนุม ทําไมมันถึงมาอยู่ในวังหลวงได้

 

“เรื่องมันยาว…”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางยิ้มเงื่อนๆออกมา ไม่ทราบมันจะเริ่มเล่าตั้งแต่เรื่องไหนก่อนดี

 

“เขาเป็นหัวหน้าสมาคมแพทย์ แล้วก็เป็นคนรักษาสเด็จพ่อด้วย ท่านพี่รู้จักเขางั้นเหรอ” ซูหลานว่าพลางกระพริบตาปริบๆ จะว่าไปนางก็ไม่เคยถามชื่อหัวหน้าสมาคมแพทย์เลยนี่นา แต่ชื่อไป๋จูเหวินนี่คุ้นๆหรือเปล่านะ เหมือนนางเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 167 กลับบ้าน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 167 กลับบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 167 กลับบ้าน

 

หลังจากได้องค์หญิง 2 ช่วยเจรจากับองค์จักรพรรดิ ในที่สุดองค์จักรพรรดิก็ยอมให้ไป๋จูเหวินเข้าถวายการรักษา แน่นอนว่ามีเหล่าขุนนางไม่ยอมหลายฝ่ายแต่เพราะองค์หญิง 2 ช่วยพวกมันเลยทําได้แค่เข้ามาดูการรักษาว่าไม่มีอะไรผิดพลาดเท่านั้น

 

“เริ่มเลย” องค์จักรพรรดิว่าพลางมองไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่ข้างๆเตียงของพระองค์ โดยภายในห้องนั้นนอกจากผู้ช่วยของไป๋จูเหวินอย่างหัวหน้าแพทย์หลวงและยู่หยวนแล้วก็มีเหล่าขุนนางกว่า 30 คนคอยจับตามองพวกมันไม่วางตา

 

“เชิญเจ้าค่ะ” ยู่หยวนนํายาสีขาวเม็ดหนึ่งมาวางเอาไว้ที่ข้างเตียงขององค์จักรพรรดิ ยาตัวนี้คือยาสลบที่ไป๋จูเหวิน ได้อธิบายไว้แล้วว่าจะให้องค์จักรพรรดิกินเข้าไปเพื่อให้องค์จักรพรรดิหลับระหว่างทําการผ่าตัด

 

“อืม” องค์จักรพรรดิตอบรับพลางนํายาเข้าปากอย่างช้าๆ หลังจากทานยาลงไปองค์จักรพรรดิก็ค่อยๆหลับตาลง เพียงแต่ไป๋จูเหวินก็ไม่ได้ลงมือทําอะไรในทันทีเพราะองค์จักรพรรดิยังหลับไม่ลึกพอ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 5 นาทีไป๋จูเหวินจึงเริ่มขยับ

 

วูมม อยู่ๆรอบตัวของไป๋จูเหวินก็ปรากฏลมร้อนสายหนึ่ง พุ่งออกมาพร้อมพลังอสูรที่ไป๋จูเหวินใช้ เพียงการกระทําเท่านี้ก็มากพอที่จะทําให้เหล่าขุนนางฝายบู๊ลุกขึ้นเตรียมโจมตีแล้ว แต่ไป๋จูเหวินก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายให้พวกมันเข้าใจได้อย่างไรว่ามันเพียงสร้างห้องปลอดเชื้อเท่านั้น 

 

“เริ่มกันเลย”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองเหล่าขุนนางที่อยู่รอบนอก ตอนนี้มันระแวงเหล่าขุนนางมากกว่าฝีมือของมันเองเสียอีก

 

วูบ..ดวงตาของไป๋จูเหวินเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพื่อดูทะลุผ่านร่างกายขององค์จักรพรรดิ พริบตาเดียวไป๋จูเหวินก็สามารถประเมินได้ในทันที่ว่าควรลงมีดตรงไหน

 

ฟุบ! ในมือของไป๋จูเหวินถือมีดน้ำแข็งเล่มหนึ่งเอาไว้ มันคือมีดวิเศษที่องค์หญิง 2 ให้ไป๋จูเหวินยืมมาจากคลังของวังหลวง นางเห็นว่าหากใช้มีดเล่มนี้น่าจะผ่าตัดได้ง่ายขึ้น 

 

“…” เหล่าขุนนางลุกพรวดขึ้นอีกครั้งเมื่อปลายมีดกรีดลงไปที่ท้องขององค์จักรพรรดิ แต่เมื่อเห็นว่าบาดแผลไม่ได้ใหญ่มากพวกมันเลยไม่ได้ทําอะไร

 

ฟุบ.ฟุบ… เมื่อเปิดปากแผลแล้วดวงตาสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีเพื่อให้มองภาพตรงหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทําให้ยามนี้มือของไป๋จูเหวินขยับไปมาอย่างรวดเร็วราวกับมี มือนับสิบมือกําลังช่วยกันทํางาน เพียงอึดใจเดียวไส้ติ่งที่ถูกมัดด้วยใยแมงมุมของไป๋จูเหวินก็ถูกดึงออกมาจากบาดแผลอย่างง่ายดาย

 

“นั่นนะเหรอ” เหล่าขุนนางพากันมองด้วยสีหน้าอึ้ง พวกฝ่ายยังพอว่าเพราะพวกมันเห็นเลือดกันเป็นปกติ แต่พวกขุนนางฝายปั่นกลับพากันหน้าเสียเก็บท่าที่กระอักกระอ่วนกันเป็นการใหญ่

 

ฟุบๆๆ หลังจากนําไส้ติ่งออกไปแล้ว ไป๋จูเหวินก็ใช้ใยแมงมุมที่มันสร้างเองแทนเส้นด้าย ด้วยคุณสมบัติที่เหนียวและทนทานมันดีกว่าการใช้เส้นด้ายมากมายนัก พริบตาเดียว แผลบนลําไส้ขององค์จักรพรรดิก็ถูกเย็บปิดจนสนิท ก่อนที่ไปษจูเหวินจะใช้พลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษาลําไส้ขององค์จักรพรรดิก่อนจะเริ่มเย็บแผลภายนอกด้วยด้ายปกติเพราะหากมันเย็บด้วยใยแมงมุมกว่าบาดแผลจะหายมันคงเดินทางไปไกลแล้ว และการจะตัดยัยแมงมุมของมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับคนธรรมดาเสียด้วย

 

“เสร็จแล้วขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้พลังศักดิ์สิทธิ์รักษาบาดแผลภายนอกอีกครั้ง เพราะแผลคราวนี้ลึกกว่า แผลขององค์หญิง 2 มากทําให้พลังของไป๋จูเหวินช่วยได้แค่ให้ปากแผลปิดเข้าหากันจนสนิทเท่านั้น

 

“อะไรกัน…” เหล่าขุนนางต่างพากันมองด้วยสีหน้าตกตะลึง หากไม่มีเส้นด้ายมัดอยู่บนท้องขององค์จักรพรรดิ พวกมันก็แทบจะมองไม่ออกเสียด้วยซ้ำว่ามีบาดแผลอยู

 

“องค์จักรพรรดิจะมีอาการเจ็บอยู่อีก 4 หรือ 5 วันขอรับ หลังจากนี้ให้ท่านใช้ยาฟื้นฟูก็ปลอดภัยแล้วขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเก็บอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปในมิติของตนเองก่อนเพื่อความเรียบร้อย

 

“อะ อืม…เจ้าไปได้”เหล่าขุนนาง่ายบันต่างตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ แม้ขุนนางฝ่ายบู๊จะมองทันว่าไป๋จูเหวินทําอะไร แต่สําหรับฝ่ายบันที่ไม่ได้ฝึกวิชายุทธนั้นกลับเห็นแค่ว่าไป๋จูเหวินขยับมือไปมาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

 

“คิกๆ เจ้าน่าจะได้เห็นตอนขุนนางพวกนั้นออกมาจากห้องของเสด็จพ่อนะ” องค์หญิง 2 หัวเราะพลางนั่งลงตรงข้ามที่นั่งของไป๋จูเหวิน

 

“ข้ากังวลแทบแย่ นึกว่าพวกเขาจะโจมตีเข้ามาตอนข้าลงมีดซะอีก”ไป๋จูเหวินถอนหายใจพลางนํามีดน้ำแข็งที่ทําความสะอาดแล้วออกมาคืนให้องค์หญิง 

 

“วิธีของเจ้ามันแปลกนี่นา ถ้าเจ้าไม่อธิบายวิธีรักษาโดยละเอียดอย่าหวังเลยว่าพวกเขาจะยอมให้เจ้าลงมือ” องค์หญิง 2 ว่าพลางรับมีดมาถือเอาไว้ในมือก่อนจะเก็บมันลงแหวนมิติอย่างรวดเร็ว

 

“แล้วอาการขององค์จักรพรรดิเป็นอย่างไรบ้าง ข้ายังไม่ได้รับอนุยาตให้เข้าพบเลย”ไป๋จูเหวินถามออกไปเพราะหลังจากการผ่าตัดคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลองค์จัก รพรรดิต่อคือหัวหน้าแพทย์หลวงที่ภวายงานมานานแล้ว พวกขุนนางเลยไว้ใจมันมากกว่า

 

“พอตื่นขึ้นมาท่านก็มีท่าที่โล่งใจมาก ท่านบอกว่าตอนหลับไปท่านกลัวมากทีเดียว”องค์หญิง 2 ว่าพลางยิ้มบางๆ

 

“แล้วอาการบาดเจ็บละขอรับ”ไป๋จูเหวินถามต่ออย่างสนใจเพราะมันก็พึ่งเคยลงมือจริงๆครั้งแรก

 

“ท่านบอกว่ารู้สึกเจ็บนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าตอนยังไม่ผ่าตัดมาก”องค์หญิง 2 ตอบ อาการขององค์จักรพรรดิค่อน ข้างแย่ที่เดียวหากท่านไม่ได้ใช้ยาจํานวนมากประคองอาการเอาไว้ไส้ติ่งคงแตกและกลายเป็นติดเชื้อในกระแสเลือดไปแล้วแน่ๆ

 

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้านะที่ช่วยสเด็จพ่อเอาไว้”องค์หญิง 2 ยิ้มพลางก้มหัวให้ไป๋จูเหวินอย่างนอบน้อม ทําเอายู่หยวนที่อยู่ด้านหลังหลบการคํานับขององค์หญิง 2 แทบไม่ทัน

 

“ไม่หรอก ข้ารับตําแหน่งหัวหน้าสมาคมแพทย์มาแล้ว การรักษาพระองค์ถือเป็นหน้าที่ของข้า”ไป๋จูเหวินตอบพลางประคองไหล่ขององค์หญิงขึ้นไม่ให้ก้มหัวลงไปมากกว่านี้ 

 

“ข้าแค่กลัวว่าท่านพ่อจะจากข้าไปแล้วซะอีก”องค์หญิง 2 พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ท่าทางนางจะเก็บท่าที่ไม่อยู่เสียแล้ว

 

“ทั้งๆที่พวกข้าอยากให้ท่านฝึกฝนพลังวิญญาณแท้ๆ แต่ท่านกลับไม่ยอมฝึก เอาแต่บอกว่างานของบ้านเมืองต้องมาก่อนอยู่ได้”องค์หญิง 2 ว่าพลางยืดตัวตรงอีกครั้ง แม้จะหลุดท่าที่ไปบ้างแต่นางก็กลับมาทําท่าที่สงบได้เช่นเดิมอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

“องค์หญิง” ขณะกําลังยกนิ้วเช็ดขอบตาของตนเอง องครักษ์คนหนึ่งของนางก็เข้ามาด้วยท่าทีแร่งรีบ

 

“มีอะไร”องค์หญิง 2 ว่าพลางหันไปมององครักษ์ของตน ด้วยท่าทีสง่างามเช่นเดิม

 

“องค์ชาย…องค์ชายใหญ่กลับมาแล้วขอรับ”ได้ยินที่องครักษ์รายงาน ดวงตาขององค์หญิง 2 ก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที

 

“พี่ใหญ่นะเหรอ”องค์หญิง 2 พูดออกมาด้วยท่าที่ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด พี่ใหญ่ของนางไม่ได้กลัววังมานับสิบปี แล้วภาพความทรงจําของนางมีแค่ภาพพ์ใหญ่ในอดีตที่อายุไม่กี่ขวบเท่านั้น นางรู้สึกตื่นเต้นมากทีเดียที่พี่ใหญ่ของนางกลับมาในครั้งนี้

 

“ขอรับ ท่านอยู่ที่ห้องโถงกลาง กําลังจะเข้าไปพบองค์จักรพรรดิขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นองค์หญิง 2 ก็รีบลุกขึ้นทันที่

 

“องค์หญิง”องครักษ์ที่มารายงานข่าวถึงกับอึ้งเมื่อเห็นองค์หญิง 2 ที่มักจะวางท่าที่สง่างามอยู่ตลอดวิ่งออกจากห้องไปราวกับเด็ก แต่พอเห็นว่านางรีบไปหาพี่ชายของนางเหล่าองครักษ์ก็ได้แต่อมยิ้มเท่านั้น

 

“…”ส่วนทางด้านไป๋จูเหวินนั้นเห็นว่าพี่ใหญ่ขององค์หญิง 2 มาก็ทราบอยู่แล้วว่าใครคือพี่ใหญ่ของนาง ทําให้มันลุกขึ้นยืนเดินตามองค์หญิงไปช้าๆเพราะเขตห้องโถงของวังหลวงไม่ได้ห้ามมันเข้าเสียหน่อย

 

“พี่ใหญ่” ทันทีที่องค์หญิง 2 เห็นร่างของอูหมิง ดวงตาของนางก็ส่องประกายราวกับคนละคน นางรีบเข้าไปกอดอูหมิงเอาไว้แน่นพลางยิ้มกว้างราวกับเด็กๆไม่มีผิด 

 

“เจ้าโตขึ้นมากเลยนะซูหลาน” อูหมิงว่าพลางรับกอดน้องสาวอย่างเอ็นดู

 

“พี่ใหญ่ ท่านกลับมามีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”องหญิง 2 หรือ อูซูหลาน ถามพลางมองคนที่ตามพี่ชายของนางมา หนึ่งคือเซียนดาบอีกหนึ่งคือหยุนฟางนั้นเอง

 

“ข้ามาพบอาจารย์ แต่พวกองครักษ์บอกข้าว่าสเด็จพ่อล้มป่วยข้าเลยจะไปเยี่ยมท่านก่อน”อูหมิงว่าพลางมองซูหลานอย่างเอ็นดู ตัวมันโดนขังเอาไว้ในถ้ำหลายเดือนเลยไม่ทราบข่าวภายนอกเลย

 

“ไม่ต้องห่วงหรอก สเด็จพ่ออาการดีขึ้นมากแล้วหลังจากได้รับการรักษา” ซูหลานว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“จริงสิ ข้าได้ข่าวว่าหมอที่มารักษาใช้วิชาแพทย์ที่แปลกมากเลยนี่นา”อูหมิงถามด้วยท่าที่สนใจ แต่อยู่ๆสายตาของมันก็พลันมองไปเห็นชายคนหนึ่งที่เดินตามซูหลานมาเสียอย่างนั้น

 

“ไป๋จูเหิวน”อูหมิงเบิกตากว้างพลางมองร่างของคนที่ตน ไม่คิดว่าจะได้เจอในวังหลวง

 

“ไป๋จูเหวิน เจ้ามาที่นี้ได้ยังไง” หยุนฟางถามพลางเดินออกมาอย่างรวดเร็ว นางไม่ได้เจอมันตั้งแต่งานชุมนุม ทําไมมันถึงมาอยู่ในวังหลวงได้

 

“เรื่องมันยาว…”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางยิ้มเงื่อนๆออกมา ไม่ทราบมันจะเริ่มเล่าตั้งแต่เรื่องไหนก่อนดี

 

“เขาเป็นหัวหน้าสมาคมแพทย์ แล้วก็เป็นคนรักษาสเด็จพ่อด้วย ท่านพี่รู้จักเขางั้นเหรอ” ซูหลานว่าพลางกระพริบตาปริบๆ จะว่าไปนางก็ไม่เคยถามชื่อหัวหน้าสมาคมแพทย์เลยนี่นา แต่ชื่อไป๋จูเหวินนี่คุ้นๆหรือเปล่านะ เหมือนนางเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+