บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 191 อาสา

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 191 อาสา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 191 อาสา

 

“อัก บ้าเอ้ย” หลังจากกลับขึ้นมาบนขบวนรถขององค์ชายจากอาณาจักรชู องครักษ์คนที่โดนอสูรปักเป้าเล่นงานก็ทิ้งตัวลงกับพื้นพลางพยายามรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองทันที

 

“เจ้าอสูรนั่นมันอะไรกันแน่” องครักษณ์อีกคนพูดพลางมองอาการบาดเจ็บของเพื่อน เพียงกระสุนวายุครั้งเดียวก็ทําเอาคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 9 บาดเจ็บหนักขนาดนี้ เพราะนอกจากเกราะวิเศษบนตัวมันจะแตกละเอียดไม่มีชิ้นดีแล้ว มันยังโดนกระแทกจนเกิดรอยม่วงดําไปทั้งหน้าอก ท่าทางจะบาดเจ็บภายในอย่างมาก

 

“ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินที่ตกอยู่ในสถานะ นักโทษพูดพลางมองหน้าอกของชายที่โดนโจมตี จะว่าโชคร้ายก็ว่าได้เพราะคนที่โดนโจมตีไม่ใช่คนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เพราะหากเป็นระดับ 10 คงสามารถต้านทานกระสุนวายุของอสูรปักเป้าได้ในระดับหนึ่ง อย่างราชาอสูรเองก็สามารถต้านกระสุนวายุของอสูรปักเป้าได้

 

“เจ้าไม่ต้องยุ่ง” ชายอีกคนว่าพลางยกแขนขึ้นมากันระหว่างไป๋จูเหวินกับสหายของมันเอาไว้

 

“ข้าเป็นหมอ ข้าช่วยเพื่อนของท่านได้ไป๋จูเหวินว่าพลางมองขวดยาที่คนเจ็บนําออกมา ที่มันกินไปเมื่อครู่เป็นเพียงยาระดับต่ําเท่านั้น การที่กลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูไม่มีความสามารถพอทําให้การหาสมุนไพรของ อาณาจักรชูอ่อนด้อยกว่าอาณาจักรอู๋พอสมควรเลย

 

“อย่างน้อยก็ให้เขากินยานี่เถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นขวดยาที่ตนเป็นคนทําให้ชายที่เข้ามาขวางตนเองเอาไว้ 

 

“…”ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่งพลางหยิบยาในมือของไป๋จูเหวินมาสูดดมเพื่อตรวจสอบว่าเป็นยารักษาจริงหรือไม่พอเห็นว่าเป็นยารักษาจริงๆ มันก็นําให้สหายของมันกินเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

 

“ขอบใจ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บว่าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ยามนี้มันเข้าใจแล้วว่าทําไมราชาอสูรถึงได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น

 

“ไม่เป็นไร”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้ดวงตาสีเขียวตรวจสอบ ร่างกายขององครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บต้องบอกว่าเกราะวิเศษ ที่มันใส่เอาไว้ช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นด้วยความแรงที่สามารถตัดแขนของอาวุโสแห่งกลุ่มนักล่าอสูรได้ง่ายๆคงคร่าชีวิตของมันไปแล้ว

 

“ทั้งๆที่มีอสูรแบบนั้น ทําไมเจ้าถึงยอมให้พวกเราจับมาได้ง่ายๆกัน หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว ชายที่ได้รับบาดเจ็บก็เอ่ยถามไป๋จูเหวินขึ้นมา ภายในรถม้าคุมขังแห่งนี้มีเพียงมันกับสหายอีก 3 คนที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เท่านั้น หากองค์ชายอยู่ที่นี่มันคงไม่กล้าพูดคุยเรื่อยเปื่อยเป็นแน่ 

 

“หากข้าสู้ มันจะเกิดอะไรต่อจากนี้ละ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มรับ ตอนนี้มันไม่ทราบว่าทําไมองค์ชายถึงไม่ใช้ เรื่องนี้จุดชนวนสงคราม แต่หากลงมือสังหารคนขององค์ชายหรือตัวองค์ชายเองภายในอาณาจักรอู่แห่งนี้ คงไม่อาจเลี่ยงสงครามได้แน่ๆ

 

“ถ้าเจ้าฆ่าพวกเราตรงนี้ เราจะเสียกําลังคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ไป 7 คน อาณาจักรของเจ้าที่มีอสูรระดับนั้น คงสามารถเอาชนะพวกเราได้ไม่ยาก” ชายคนที่เข้ามาขวาง ไป๋จูเหวินก่อนหน้านี้ถามออกมาในขบวนรถขององค์ชายมีองครักษ์หลายสิบคนในจํานวนนั้นมีถึง 7 คนที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ต่อให้ไม่นับราชาอสูรที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ก็ยังมีกันถึง 6 คน ด้วยจํานวนขนาดนี้สามารถทําให้อาณาจักรธุ์ได้เปรียบหากมีสงครามเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“หากชนะพวกท่านแล้วจะเป็นยังไงต่อล่ะ”ไป๋จูเหวินถามเสียงเรียบ สภาพของอาณาจักรต่างๆในตอนนี้เรียกได้ว่ารักษาสันติสุขมากันอย่างยากลําบาก ในแต่ละอาณาจักรต่าง มีคนที่จ้องจะเปิดสงครามกันทั้งนั้น แน่นอนว่าในอาณาจักรอื่นๆเองก็เช่นกัน หากอาณาจักรอู๋เปิดสงครามกับอาณาจักรชู ต่อให้ชนะก็เกิดควาเสียหายไม่มากก็น้อย ยามนั้นอาณาจักรอื่นๆที่อยู่รอบๆอาณาจักรอู๋ก็จะหันมาโจมตีอาณาจักรอู๋ที่อ่อนแรงอย่างไม่ต้องสงสัย และต่อให้อาณาจักรอู๋ไม่ได้โจมตีอาณาจักรอื่นที่ทราบข่าวก็อาจจะโจมตีก็ได้ การสูญเสียผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนถึง 7 คนในครั้งเดียวทําให้อาณาจักรชูอ่อนแอลงอย่างไม่ต้องสงสัย อาณาจักรอื่นที่พร้อมจะบุกยึดอาณาจักรชูอยู่แล้วคงไม่รอช้าแน่ๆ หลังจากนั้นอาณาจักรอื่นๆก็จะเริ่มหันมาโจมตีกัน พอถึงตอนนั้นต่อให้อาณาจักรอู่รักษาความเป็นกลางเอาไว้ ก็คงมีแต่โดนกดดันจนต้องลงไปโดนไฟสงครามแผดเผาเป็นแน่

 

“สุดท้ายทั้งคนของอาณาจักรข้าและคนของอาณาจักรท่านก็ต้องหลั่งเลือดอยู่ดี สงครามมันได้ส่งผลเสียแค่ข้าเท่านั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา

 

“และข้าก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อยากให้ต้องลําบากกับสิ่งที่ข้าก่อขึ้นด้วย”ในตอนนี้ อู๋หมิงยังเป็นแค่รัชทายาท แน่นอนว่าอู๋หมิงยังไม่พร้อมที่จะขึ้นครองราชย์ในตอนนี้ แต่ หากเกิดสงครามขึ้น องค์จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันคงไม่อาจนําอาณาจักรได้ สุดท้ายก็คงต้องส่งให้อู๋หมิงอย่างเร่งด่วน และเมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะถาโถมเข้าไปหาอู๋ห มิงอย่างแน่นอน ในฐานะเพื่อนมันไม่อยากสร้างปัญหาให้อู๋หมิงเลย

 

“เจ้าก็เลยยอมโดนจับมารคนเดียวงั้นเหรอ” ชายผู้บาดเจ็บถาม

 

“ขอรับ แล้วข้าก็มีเรื่องที่อยากจะทําที่อาณาจักรด้วย”ไป๋จูเหวินว่าพลางหันไปมององครักษ์ที่คุมตัวมันอยู่

 

“ข้าอยากจะขอร้ององค์ชาย ให้ส่งข้าไปที่เขตของนักล่าอสูร”ไป๋จูเหวินพูดเสียงเรียบ

 

“จะให้ส่งเจ้าไปที่นั่นงั้นเหรอ ทําไม?” ชายผู้บาดเจ็บถาม

 

“ข้าได้ยินว่ามีคนบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน อย่างน้อยข้าก็อยากจะช่วยรักษาพวกเขา”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้น เหล่าองครักษ์ก็พากันขมวดคิ้ว ตอนนี้ไป๋จูเหวินอยู่ในฐานะนักโทษจะไปมีสิทธิ์กําหนดได้อย่างไรว่าตนจะไปที่ไหน แต่สําหรับไป๋จูเหวินแล้ว มันอยากจะไปรักษาให้ได้ เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นศัตรูกับไป๋จูเหวิน แม้หัวหน้าจะวางแผนอะไรไว้ แต่ลูกน้องไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย แถมไป๋จูเหวินยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ากลุ่มที่ไป๋จูเหวินเจอในเขตอสูรปะการังเป็นอย่างไรบ้าง

 

“ข้าจะเรียนองค์ชายให้ ว่าเจ้าอยากจะไปที่เขตของกลุ่มนักล่าอสูร” ชายที่ได้รับบาดเจ็บเอามือทาบหน้าอกตัวเอง พลางเดินพลังดูครู่หนึ่ง มันพบว่าอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ทุเลาลงมาก ท่าทางเรื่องที่เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นหมอจะไม่ใช่เรื่องโกหก

 

“ขอบคุณท่านมาก”ไป๋จูเหวนยิ้มกว้าง นอกจากเรื่องปัญหาที่อาจจะเกิดหากมันโจมตีกลุ่มขององค์ชาย ไป๋จูเหิวนยังกังวลเรื่องของผู้บาดเจ็บอีกต่างหาก แม้ส่วนใหญ่พวกมันคงจะบาดเจ็บจากเศษซากเมือง แต่คงยังมีบางส่วนได้รับพิษจากอสูรปักเป้าเป็นแน่ และในดินแดนของมนุษย์คงไม่มีใครสามารถปรุงยาแก้พิษปลาปักเป้าได้อย่างแน่นอน

 

.

 

.

 

“เจ้าว่าอะไรนะ” ระหว่างหยุดพักรถ องค์ชายแห่งอาณาจักรชูก็ได้รับเรื่องจากองครักษ์ของตน มันเองแปลกใจอย่างมากที่ไป๋จูเหวินร้องขอให้ส่งตัวมันไปที่เขตของกลุ่มนักล่าอสูร

 

“ข้าอยากจะไปช่วยรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่นั่นขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินมาข้างหน้าองค์ชายของอาณาจักรชูช้าๆ

 

“เจ้าเนี่ยนะ จะไปรักษา”องค์ชายถามพลางขมวดคิ้วมุ่น

 

“ระหว่างทางมามันได้ให้ยารักษากับข้าน้อยแล้วขอรับ มันมีความสามารถด้านพยาบาลจริงๆ”ชายที่ได้รับบาดเจ็บตอบ

 

“นั่นไม่เกี่ยวกับเจ้า ที่นั่นมีแพทย์คอยดูแลอยู่แล้ว” องค์ชายส่ายหัวพลางปฏิเสธเรื่องที่ไป๋จูเหวินขอ

 

“แต่แพทย์ของท่านไม่สามารถรักษาพิษปักเป้าได้ไม่ใช่หรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางจ้ององค์ชายนิ่ง

 

“แล้วเจ้ารักษาได้หรืออย่างไร”องค์ชายขมวดคิ้วมองมาทางไป๋จูเหวิน เรื่องพิษปักเป้ามันได้รับรายงานมาแล้ว และคนที่ได้รับพิษปักเป้าแล้วยังรอดชีวิตมาได้นั้น คือคนที่โดนโจมตีตรงๆแล้วรอดมาได้ทั้งสิ้น หรือก็คือต่างเป็นผู้มีพลังฝีมือสูงส่งในระดับหนึ่งทั้งนั้น พูดอีกอย่างก็คือเป็นบุคลากรมีคุณค่านั้นเอง

 

“หากท่านไม่ไว้ใจ ข้าจะรักษาชายคนนั้นให้ท่านเห็น”ไป๋จูเหวินว่าพลางชี้มาทางราชาอสูร แน่นอนว่ามันต้องเป็นคนที่ได้รับพิษปักเป้าเข้าไปแล้วแน่ๆ แม้พิษจะไม่ถึงขั้นทําให้ตายได้ทันที แต่ที่น่ากลัวคือพิษของอสูรปักเป้าไม่มียารักษานั้นเอง

 

“ถ้าเจ้าทําได้ก็ลองดู” องค์ชายว่าพลางมองไปทางราชาอสูร แม้จะแขนขาดขาขาดแต่มันก็ยังเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หากรักษามันได้ก็ย่อมเป็นผลดี

 

“ขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองขึ้นไปบนฟ้า

 

วี้ดด… ไป๋จูเหวินส่งเสียงเรียกอสูรปักเป้าที่ลอยอยู่บนฟ้า แม้จะถูกสั่งห้ามโจมตี แต่ก็ไม่มีใครห้ามอสูรปักเป้าไม่ให้ตามไป๋จูเหวินมาได้อยู่แล้ว

 

“กิ้ว..”อสูรปักเป้าได้ยินเสียงผิวปากของไป๋จูเหวินก็ร่อนลงมาที่พื้นทันที เล่นเอาเหล่าองครักษ์วงแตกในทันที พวกมันแทบจะคว้าอาวุธและเครื่องป้องกันออกมาทันทีที่ทําได้เลย

 

“ไม่เป็นไร พวกท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่ให้เขาโจมตีพวกท่านหรอก”ไป๋จูเหิวนว่าพลางพูดบางอย่างกับอสูรปักเป้า ก่อนที่มันจะแทงหนามของตนเองออกมานอกผิวหนัง 

 

ฉีก! หนามชิ้นหนึ่งถูกยิงออกมาจากผิวหนังของอสูรปักเป้า แต่เพราะมันยังตัวเล็กอยู่ทําให้หนามพิษของมันมีรูปร่างเหมือนเข็มเท่านั้นเอง

 

ฉีบ.. ไป๋จูเหวินปลดพลังคุ้มกันของตน ก่อนจะใช้มีดกรีดที่แขนส่วนที่ไม่ได้เป็นผิวหนังสีขาวซีดเพื่อให้เลือกไหลออกมา

 

ไป๋จูเหวินนพเลือดของตนเองใส่ลงไปในถ้วยชา ก่อนจะหยิบเข็มพิษของอสูรปักเป้าใส่ลงไปในเลือดของตนเอง พริบตานั้นเลือดของไป๋จูเหวินก็เกิดฟองอากาศขึ้นมาราวกับกําลังต่อต้านพิษของอสูรปักเป้าอยู่ ไม่นานฟองพวกนั้นก็หายไปเหลือเพียงเลือดธรรมดาเท่านั้น

 

“ดื่มซะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นถ้วยชาที่มีเลือดของตนเองอยู่ครึ่งถ้วยให้ราชาอสูร ด้วยผลของสมุนไพรต่างๆในร่างของไป๋จูเหวิน ทําให้พิษไม่มีผล เมื่อเลือดของไป๋จูเหวินสัมผัสเข้ากับพิษมันจะผลิตยาแก้พิษออกมาทําลายพิษของอสูรปักเป้าทันที นั่นทําให้เลือดของมันในถ้วยนี้เต็มไปด้วยยารักษาพิษปักเป้านั้นเอง

 

“จะ เจ้าจะบ้าหรืออย่างไร”ราชาอสูรว่าพลางถอยออกห่างไป๋จูเหวิน ในสายตามันก็แค่เลือดที่ผสมพิษปักเป้าเท่านั้น หากกินเข้าไปมีหวังได้ติดพิษมากกว่าเดิมแน่ๆ

 

“กิ้ว”อสูรปักเป้าเห็นราชาอสูรมีท่าทีขัดขืน มันเลยลอยมาอยู่ตรงหน้าไป๋จูเหวินราวกับจะมารับหน้าแทน 

 

ฟุบ! ไป๋จูเหวินจัดการกรอกยาลงไปในปากของราชาอสูร ระหว่างที่มันเผลอและตกใจกับอสูรปักเป้า

 

“อ้ากกก เจ้ากรอกพิษข้า”ราชาอสูรว่าพลางใช้แขนที่มีข้างเดียวจับไปที่คอของตนเอง แต่ไม่นานร่างกายของมันก็รู้สึกร้อนรุ่ม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พิษของอสูรปักเป้าทําให้ปลายนิ้วมันเย็นเฉียบมาตลอดแท้ๆ

 

“นี่มัน”ไม่กี่นาทีต่อมา ราชาอสูรก็เบิกตากว้าง เพราะอาการติดพิษของมันหายไปแล้วนั่นเอง

“พิษของเจ้าหายไปแล้วงั้นเหรอ”องค์ชายถามพลางมองราชาอสูรที่มัวแต่ตกตะลึงอยู่

 

“ขอรับ” ราชาอสูรตอบราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าเลือดของไป๋จูเหิวนสามารถรักษาพิษของอสูรปักเป้าได้จริงๆ

 

“องค์ชาย ได้โปรดให้ข้าได้รักษาผู้บาดเจ็บด้วย”ไป๋จูเหวินพูดด้วยสายตาจริงจัง มันไม่อาจปล่อยให้คนบริสุทธิ์ที่บาดเจ็บเพราะมันต้องทนทรมานได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 191 อาสา

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 191 อาสา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 191 อาสา

 

“อัก บ้าเอ้ย” หลังจากกลับขึ้นมาบนขบวนรถขององค์ชายจากอาณาจักรชู องครักษ์คนที่โดนอสูรปักเป้าเล่นงานก็ทิ้งตัวลงกับพื้นพลางพยายามรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองทันที

 

“เจ้าอสูรนั่นมันอะไรกันแน่” องครักษณ์อีกคนพูดพลางมองอาการบาดเจ็บของเพื่อน เพียงกระสุนวายุครั้งเดียวก็ทําเอาคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 9 บาดเจ็บหนักขนาดนี้ เพราะนอกจากเกราะวิเศษบนตัวมันจะแตกละเอียดไม่มีชิ้นดีแล้ว มันยังโดนกระแทกจนเกิดรอยม่วงดําไปทั้งหน้าอก ท่าทางจะบาดเจ็บภายในอย่างมาก

 

“ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินที่ตกอยู่ในสถานะ นักโทษพูดพลางมองหน้าอกของชายที่โดนโจมตี จะว่าโชคร้ายก็ว่าได้เพราะคนที่โดนโจมตีไม่ใช่คนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เพราะหากเป็นระดับ 10 คงสามารถต้านทานกระสุนวายุของอสูรปักเป้าได้ในระดับหนึ่ง อย่างราชาอสูรเองก็สามารถต้านกระสุนวายุของอสูรปักเป้าได้

 

“เจ้าไม่ต้องยุ่ง” ชายอีกคนว่าพลางยกแขนขึ้นมากันระหว่างไป๋จูเหวินกับสหายของมันเอาไว้

 

“ข้าเป็นหมอ ข้าช่วยเพื่อนของท่านได้ไป๋จูเหวินว่าพลางมองขวดยาที่คนเจ็บนําออกมา ที่มันกินไปเมื่อครู่เป็นเพียงยาระดับต่ําเท่านั้น การที่กลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรชูไม่มีความสามารถพอทําให้การหาสมุนไพรของ อาณาจักรชูอ่อนด้อยกว่าอาณาจักรอู๋พอสมควรเลย

 

“อย่างน้อยก็ให้เขากินยานี่เถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นขวดยาที่ตนเป็นคนทําให้ชายที่เข้ามาขวางตนเองเอาไว้ 

 

“…”ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่งพลางหยิบยาในมือของไป๋จูเหวินมาสูดดมเพื่อตรวจสอบว่าเป็นยารักษาจริงหรือไม่พอเห็นว่าเป็นยารักษาจริงๆ มันก็นําให้สหายของมันกินเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ

 

“ขอบใจ” ชายที่ได้รับบาดเจ็บว่าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ยามนี้มันเข้าใจแล้วว่าทําไมราชาอสูรถึงได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น

 

“ไม่เป็นไร”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้ดวงตาสีเขียวตรวจสอบ ร่างกายขององครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บต้องบอกว่าเกราะวิเศษ ที่มันใส่เอาไว้ช่วยชีวิตมันเอาไว้ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นด้วยความแรงที่สามารถตัดแขนของอาวุโสแห่งกลุ่มนักล่าอสูรได้ง่ายๆคงคร่าชีวิตของมันไปแล้ว

 

“ทั้งๆที่มีอสูรแบบนั้น ทําไมเจ้าถึงยอมให้พวกเราจับมาได้ง่ายๆกัน หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว ชายที่ได้รับบาดเจ็บก็เอ่ยถามไป๋จูเหวินขึ้นมา ภายในรถม้าคุมขังแห่งนี้มีเพียงมันกับสหายอีก 3 คนที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เท่านั้น หากองค์ชายอยู่ที่นี่มันคงไม่กล้าพูดคุยเรื่อยเปื่อยเป็นแน่ 

 

“หากข้าสู้ มันจะเกิดอะไรต่อจากนี้ละ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มรับ ตอนนี้มันไม่ทราบว่าทําไมองค์ชายถึงไม่ใช้ เรื่องนี้จุดชนวนสงคราม แต่หากลงมือสังหารคนขององค์ชายหรือตัวองค์ชายเองภายในอาณาจักรอู่แห่งนี้ คงไม่อาจเลี่ยงสงครามได้แน่ๆ

 

“ถ้าเจ้าฆ่าพวกเราตรงนี้ เราจะเสียกําลังคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ไป 7 คน อาณาจักรของเจ้าที่มีอสูรระดับนั้น คงสามารถเอาชนะพวกเราได้ไม่ยาก” ชายคนที่เข้ามาขวาง ไป๋จูเหวินก่อนหน้านี้ถามออกมาในขบวนรถขององค์ชายมีองครักษ์หลายสิบคนในจํานวนนั้นมีถึง 7 คนที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ต่อให้ไม่นับราชาอสูรที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ก็ยังมีกันถึง 6 คน ด้วยจํานวนขนาดนี้สามารถทําให้อาณาจักรธุ์ได้เปรียบหากมีสงครามเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“หากชนะพวกท่านแล้วจะเป็นยังไงต่อล่ะ”ไป๋จูเหวินถามเสียงเรียบ สภาพของอาณาจักรต่างๆในตอนนี้เรียกได้ว่ารักษาสันติสุขมากันอย่างยากลําบาก ในแต่ละอาณาจักรต่าง มีคนที่จ้องจะเปิดสงครามกันทั้งนั้น แน่นอนว่าในอาณาจักรอื่นๆเองก็เช่นกัน หากอาณาจักรอู๋เปิดสงครามกับอาณาจักรชู ต่อให้ชนะก็เกิดควาเสียหายไม่มากก็น้อย ยามนั้นอาณาจักรอื่นๆที่อยู่รอบๆอาณาจักรอู๋ก็จะหันมาโจมตีอาณาจักรอู๋ที่อ่อนแรงอย่างไม่ต้องสงสัย และต่อให้อาณาจักรอู๋ไม่ได้โจมตีอาณาจักรอื่นที่ทราบข่าวก็อาจจะโจมตีก็ได้ การสูญเสียผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนถึง 7 คนในครั้งเดียวทําให้อาณาจักรชูอ่อนแอลงอย่างไม่ต้องสงสัย อาณาจักรอื่นที่พร้อมจะบุกยึดอาณาจักรชูอยู่แล้วคงไม่รอช้าแน่ๆ หลังจากนั้นอาณาจักรอื่นๆก็จะเริ่มหันมาโจมตีกัน พอถึงตอนนั้นต่อให้อาณาจักรอู่รักษาความเป็นกลางเอาไว้ ก็คงมีแต่โดนกดดันจนต้องลงไปโดนไฟสงครามแผดเผาเป็นแน่

 

“สุดท้ายทั้งคนของอาณาจักรข้าและคนของอาณาจักรท่านก็ต้องหลั่งเลือดอยู่ดี สงครามมันได้ส่งผลเสียแค่ข้าเท่านั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา

 

“และข้าก็มีเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่อยากให้ต้องลําบากกับสิ่งที่ข้าก่อขึ้นด้วย”ในตอนนี้ อู๋หมิงยังเป็นแค่รัชทายาท แน่นอนว่าอู๋หมิงยังไม่พร้อมที่จะขึ้นครองราชย์ในตอนนี้ แต่ หากเกิดสงครามขึ้น องค์จักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันคงไม่อาจนําอาณาจักรได้ สุดท้ายก็คงต้องส่งให้อู๋หมิงอย่างเร่งด่วน และเมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะถาโถมเข้าไปหาอู๋ห มิงอย่างแน่นอน ในฐานะเพื่อนมันไม่อยากสร้างปัญหาให้อู๋หมิงเลย

 

“เจ้าก็เลยยอมโดนจับมารคนเดียวงั้นเหรอ” ชายผู้บาดเจ็บถาม

 

“ขอรับ แล้วข้าก็มีเรื่องที่อยากจะทําที่อาณาจักรด้วย”ไป๋จูเหวินว่าพลางหันไปมององครักษ์ที่คุมตัวมันอยู่

 

“ข้าอยากจะขอร้ององค์ชาย ให้ส่งข้าไปที่เขตของนักล่าอสูร”ไป๋จูเหวินพูดเสียงเรียบ

 

“จะให้ส่งเจ้าไปที่นั่นงั้นเหรอ ทําไม?” ชายผู้บาดเจ็บถาม

 

“ข้าได้ยินว่ามีคนบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน อย่างน้อยข้าก็อยากจะช่วยรักษาพวกเขา”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้น เหล่าองครักษ์ก็พากันขมวดคิ้ว ตอนนี้ไป๋จูเหวินอยู่ในฐานะนักโทษจะไปมีสิทธิ์กําหนดได้อย่างไรว่าตนจะไปที่ไหน แต่สําหรับไป๋จูเหวินแล้ว มันอยากจะไปรักษาให้ได้ เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้เป็นศัตรูกับไป๋จูเหวิน แม้หัวหน้าจะวางแผนอะไรไว้ แต่ลูกน้องไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย แถมไป๋จูเหวินยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่ากลุ่มที่ไป๋จูเหวินเจอในเขตอสูรปะการังเป็นอย่างไรบ้าง

 

“ข้าจะเรียนองค์ชายให้ ว่าเจ้าอยากจะไปที่เขตของกลุ่มนักล่าอสูร” ชายที่ได้รับบาดเจ็บเอามือทาบหน้าอกตัวเอง พลางเดินพลังดูครู่หนึ่ง มันพบว่าอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ทุเลาลงมาก ท่าทางเรื่องที่เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นหมอจะไม่ใช่เรื่องโกหก

 

“ขอบคุณท่านมาก”ไป๋จูเหวนยิ้มกว้าง นอกจากเรื่องปัญหาที่อาจจะเกิดหากมันโจมตีกลุ่มขององค์ชาย ไป๋จูเหิวนยังกังวลเรื่องของผู้บาดเจ็บอีกต่างหาก แม้ส่วนใหญ่พวกมันคงจะบาดเจ็บจากเศษซากเมือง แต่คงยังมีบางส่วนได้รับพิษจากอสูรปักเป้าเป็นแน่ และในดินแดนของมนุษย์คงไม่มีใครสามารถปรุงยาแก้พิษปลาปักเป้าได้อย่างแน่นอน

 

.

 

.

 

“เจ้าว่าอะไรนะ” ระหว่างหยุดพักรถ องค์ชายแห่งอาณาจักรชูก็ได้รับเรื่องจากองครักษ์ของตน มันเองแปลกใจอย่างมากที่ไป๋จูเหวินร้องขอให้ส่งตัวมันไปที่เขตของกลุ่มนักล่าอสูร

 

“ข้าอยากจะไปช่วยรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่นั่นขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินมาข้างหน้าองค์ชายของอาณาจักรชูช้าๆ

 

“เจ้าเนี่ยนะ จะไปรักษา”องค์ชายถามพลางขมวดคิ้วมุ่น

 

“ระหว่างทางมามันได้ให้ยารักษากับข้าน้อยแล้วขอรับ มันมีความสามารถด้านพยาบาลจริงๆ”ชายที่ได้รับบาดเจ็บตอบ

 

“นั่นไม่เกี่ยวกับเจ้า ที่นั่นมีแพทย์คอยดูแลอยู่แล้ว” องค์ชายส่ายหัวพลางปฏิเสธเรื่องที่ไป๋จูเหวินขอ

 

“แต่แพทย์ของท่านไม่สามารถรักษาพิษปักเป้าได้ไม่ใช่หรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางจ้ององค์ชายนิ่ง

 

“แล้วเจ้ารักษาได้หรืออย่างไร”องค์ชายขมวดคิ้วมองมาทางไป๋จูเหวิน เรื่องพิษปักเป้ามันได้รับรายงานมาแล้ว และคนที่ได้รับพิษปักเป้าแล้วยังรอดชีวิตมาได้นั้น คือคนที่โดนโจมตีตรงๆแล้วรอดมาได้ทั้งสิ้น หรือก็คือต่างเป็นผู้มีพลังฝีมือสูงส่งในระดับหนึ่งทั้งนั้น พูดอีกอย่างก็คือเป็นบุคลากรมีคุณค่านั้นเอง

 

“หากท่านไม่ไว้ใจ ข้าจะรักษาชายคนนั้นให้ท่านเห็น”ไป๋จูเหวินว่าพลางชี้มาทางราชาอสูร แน่นอนว่ามันต้องเป็นคนที่ได้รับพิษปักเป้าเข้าไปแล้วแน่ๆ แม้พิษจะไม่ถึงขั้นทําให้ตายได้ทันที แต่ที่น่ากลัวคือพิษของอสูรปักเป้าไม่มียารักษานั้นเอง

 

“ถ้าเจ้าทําได้ก็ลองดู” องค์ชายว่าพลางมองไปทางราชาอสูร แม้จะแขนขาดขาขาดแต่มันก็ยังเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 หากรักษามันได้ก็ย่อมเป็นผลดี

 

“ขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองขึ้นไปบนฟ้า

 

วี้ดด… ไป๋จูเหวินส่งเสียงเรียกอสูรปักเป้าที่ลอยอยู่บนฟ้า แม้จะถูกสั่งห้ามโจมตี แต่ก็ไม่มีใครห้ามอสูรปักเป้าไม่ให้ตามไป๋จูเหวินมาได้อยู่แล้ว

 

“กิ้ว..”อสูรปักเป้าได้ยินเสียงผิวปากของไป๋จูเหวินก็ร่อนลงมาที่พื้นทันที เล่นเอาเหล่าองครักษ์วงแตกในทันที พวกมันแทบจะคว้าอาวุธและเครื่องป้องกันออกมาทันทีที่ทําได้เลย

 

“ไม่เป็นไร พวกท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่ให้เขาโจมตีพวกท่านหรอก”ไป๋จูเหิวนว่าพลางพูดบางอย่างกับอสูรปักเป้า ก่อนที่มันจะแทงหนามของตนเองออกมานอกผิวหนัง 

 

ฉีก! หนามชิ้นหนึ่งถูกยิงออกมาจากผิวหนังของอสูรปักเป้า แต่เพราะมันยังตัวเล็กอยู่ทําให้หนามพิษของมันมีรูปร่างเหมือนเข็มเท่านั้นเอง

 

ฉีบ.. ไป๋จูเหวินปลดพลังคุ้มกันของตน ก่อนจะใช้มีดกรีดที่แขนส่วนที่ไม่ได้เป็นผิวหนังสีขาวซีดเพื่อให้เลือกไหลออกมา

 

ไป๋จูเหวินนพเลือดของตนเองใส่ลงไปในถ้วยชา ก่อนจะหยิบเข็มพิษของอสูรปักเป้าใส่ลงไปในเลือดของตนเอง พริบตานั้นเลือดของไป๋จูเหวินก็เกิดฟองอากาศขึ้นมาราวกับกําลังต่อต้านพิษของอสูรปักเป้าอยู่ ไม่นานฟองพวกนั้นก็หายไปเหลือเพียงเลือดธรรมดาเท่านั้น

 

“ดื่มซะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นถ้วยชาที่มีเลือดของตนเองอยู่ครึ่งถ้วยให้ราชาอสูร ด้วยผลของสมุนไพรต่างๆในร่างของไป๋จูเหวิน ทําให้พิษไม่มีผล เมื่อเลือดของไป๋จูเหวินสัมผัสเข้ากับพิษมันจะผลิตยาแก้พิษออกมาทําลายพิษของอสูรปักเป้าทันที นั่นทําให้เลือดของมันในถ้วยนี้เต็มไปด้วยยารักษาพิษปักเป้านั้นเอง

 

“จะ เจ้าจะบ้าหรืออย่างไร”ราชาอสูรว่าพลางถอยออกห่างไป๋จูเหวิน ในสายตามันก็แค่เลือดที่ผสมพิษปักเป้าเท่านั้น หากกินเข้าไปมีหวังได้ติดพิษมากกว่าเดิมแน่ๆ

 

“กิ้ว”อสูรปักเป้าเห็นราชาอสูรมีท่าทีขัดขืน มันเลยลอยมาอยู่ตรงหน้าไป๋จูเหวินราวกับจะมารับหน้าแทน 

 

ฟุบ! ไป๋จูเหวินจัดการกรอกยาลงไปในปากของราชาอสูร ระหว่างที่มันเผลอและตกใจกับอสูรปักเป้า

 

“อ้ากกก เจ้ากรอกพิษข้า”ราชาอสูรว่าพลางใช้แขนที่มีข้างเดียวจับไปที่คอของตนเอง แต่ไม่นานร่างกายของมันก็รู้สึกร้อนรุ่ม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พิษของอสูรปักเป้าทําให้ปลายนิ้วมันเย็นเฉียบมาตลอดแท้ๆ

 

“นี่มัน”ไม่กี่นาทีต่อมา ราชาอสูรก็เบิกตากว้าง เพราะอาการติดพิษของมันหายไปแล้วนั่นเอง

“พิษของเจ้าหายไปแล้วงั้นเหรอ”องค์ชายถามพลางมองราชาอสูรที่มัวแต่ตกตะลึงอยู่

 

“ขอรับ” ราชาอสูรตอบราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าเลือดของไป๋จูเหิวนสามารถรักษาพิษของอสูรปักเป้าได้จริงๆ

 

“องค์ชาย ได้โปรดให้ข้าได้รักษาผู้บาดเจ็บด้วย”ไป๋จูเหวินพูดด้วยสายตาจริงจัง มันไม่อาจปล่อยให้คนบริสุทธิ์ที่บาดเจ็บเพราะมันต้องทนทรมานได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+