บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 197 ระแวง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 197 ระแวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 197 ระแวง

 

“ทําอะไรกันอยู่เหรอจะ” หญิงสาวใบหน้าสระสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ประตูของพระราชวังแห่งอาณาจักรอู๋ด้วยท่าที่ประหลาดใจ เพราะในยามเช้าที่นางกําลังเดินเล่นชมสวนอยู่นั้น นางก็ได้เห็นเด็กสาว 2 คนกําลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวประตูทางเข้า หากไม่เห็นว่าเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆนางคงเรียกทหารมาจัดการไปแล้ว

 

“….”เด็กทั้งสองหันมามองนางด้วยท่าทีตกใจ แต่ทันทีที่เด็กทั้ง 2 คนหันมาตัวนางเองก็ได้เห็นสร้อยคอที่พวกนางสวมเอาไว้ มันคือสร้อยคอของอสูรประจําตัวของเชื้อพระวงศ์ นั่นหมายความว่าเด็กทั้ง 2 คืออสูรงั้นหรือ

 

“ข้ารอพี่ไป๋อยู่” หลินหลินว่าพลางมองไปที่ประตู ท่าทางนางคงจะรอให้อิหมิงพาไป๋จูเหวินกลับมาเร็วๆ

 

“พี่ไป๋? เขาไปไหนงั้นเหรอ” หญิงสาวถามพลางนั่งลงข้างๆจุดที่หลินหลินกับปิงปิงยืนแอบอยู่

 

“พี่ไป๋โดนคนชั่วจับตัวไป พี่หมิง เลยจะไปช่วย” หลินหลินตอบโดยมีปิงปิงที่หลบอยู่ด้านหลัง นางพยักหน้าเหมือนจะช่วยยืนยันอีกแรง

 

“งั้นเหรอ พวกเจ้าคงเป็นห่วงน่าดูสินะ” หญิงสาวว่าพลางยิ้มออกมามาด้วยท่าที่อ่อนโยน

 

“พี่ไป๋ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ข้าอยากเจอพี่ไป๋เร็วๆ” หลินหลินตอบพลางทําหน้ามุ่ย เพราะอูหมิงต้องไปหาองค์ชายชูเฟิงก่อน ทําให้ไม่สามารถพาพวกอสูรรวมถึงเหม่ยหลินและพวกต้าชิงกับต้าเฉินไปด้วยได้ พวกหลินหลินเลยได้แต่รออยู่ที่วังเท่านั้น

 

“อย่างงั้นเหรอ…จริงสิขากําลังจะไปไหว้พระ พวกเจ้าไปขอพรกับข้าดีหรือไม่” หญิงสาวว่าพลางมองสองสาวอย่างเอ็นดู

 

“ขอพร? ขอพรคืออะไรเหรอ” หลินหลินถามด้วยสีหน้างุนงง จะว่าไม่แปลกก็คงได้ที่อสูรจะไม่รู้จักคําว่าขอพร

 

“เป็นการภาวนาขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองคนที่เรารักยังไงล่ะ” หญิงสาวตอบ

 

“ถ้าไปขอพรแล้วพี่ไป๋จะกลับมาเร็วๆหรือเปล่า” หลินหลินถามด้วยท่าที่สนใจ

 

“ก็อาจจะนะ” หญิงสาวตอบพลางหัวเราะออกมาแน่นอนว่าการขอพรไม่ได้ทําให้เกิดผลลับทันที แต่ก็ทําเพื่อความสบายใจและภาวนาเท่านั้น

 

“ถ้างั้นข้าจะไปด้วย” หลินหลินตอบโดยปิงปิงที่อยู่ด้านหลังก็พยักหน้าเช่นกัน

 

“พระมเหสี มีอะไรหรือขอรับ”เหล่าองครักษ์ที่โผล่มาจากด้านหลังถามเมื่อเห็นพระมเหสีของพวกมันลงไปนั่งกับพื้น

 

“ไม่มีอะไร ข้าแค่จะชวนเด็ก 2 คนนี้ไปกับพวกเราด้วย” พระมเหสีว่าพลางจับมือของหลินหลินแล้วพาหลินหลินเดินมาร่วมขบวนเสด็จของตน น่าเสียดายที่ซูหลานกับอู๋หมิงไม่อยู่คราวนี้เลยไม่ได้ไปไหว้พระด้วยกันเหมือนคราวก่อน

 

“หลินหลิน เป็นอย่างไรบ้าง ที่นี่สวยดีใช่ไหม” หลังจากเดินทางมาถึงวัด พระมเหสีก็ถามหลินหลินกับปิงปิงที่นั่งอยู่บนรถม้าของตนอย่างอารมณ์ดี

 

“เจ้าค่ะ” หลินหลินหยักหน้าพลางมองไปรอบๆ

 

“สวยแล้วก็…น่ากิน…” หลินหลินรําพึงพลางมองรูปแกะสลักที่ทําจากหยกและมรกตจํานวนมากที่ถูกตั้งเรียงรายตามวัดทําเอาพระมเหสีทําหน้างงออกมา แต่นางก็คิดว่าหลินหลินคงเห็นพวกรูปปั้นหยกแล้วนึกถึงลูกกวาดกระมัง

 

หลังจากพาหลินหลินเข้ามาในวัด พระมเหสีก็ตามเจ้าอาวาสเข้าไปในโบสถ์ พลางสอนหลินหลินกับปิงปิงท่องบทสวดและขอพรให้ไป๋จูเหวินกลับมาโดยปลอดภัย หลังจากขอพรเสร็จนางก็ขอตัวไปพูดคุยกับเจ้าอาวาสปล่อยให้หลินหลินอยู่กับพวกองครักษ์ไปก่อน

 

“พวกนี้กินไม่ได้จริงๆเหรอ” หลินหลินบ่นพลางมองรูปปั้นหยกด้วยสายตาละห้อย หยกที่ไป๋จูเหวินซื้อมาก่อนหน้านี้เริ่มจะร่อยหลอแล้ว หากนางกินรูปปั้นพวกนี้เป็นอาหารหยกในมิติของนางก็จะยังอยู่ต่อได้อีกพักเลย

 

ก๊อก ก๊อก.. หลินหลินกับปิงปิงเดินไปได้พักหนึ่ง เสียงค้อนและสิ่วก้ดังออกมาจากมุมหนึ่งของวัด แน่นอนว่ามันดึงความสนใจของหลินหลินได้เป็นอย่างดี

 

ก๊อก..ก๊อก.. หลินหลินปีนกําแพงขึ้นไปดูว่าเสียงมาจากไหน และทันทีที่เห็นว่ามีคนกําลังแกะสลักรูปปั้นหยกอยู่จริงๆนั้นสายตาของหลินหลินก็พลันมองไปยังเศษหยกที่แตกออกมาจากการแกะสลักทันที หากเป็นหยกพวกนั้นอาจจะกินได้ก็ได้

 

“…”แต่ยังไม่ทันเข้าไปถาม หลินหลินก็สะดุดตาเข้ากับคนลงมือแกะสลักเข้าเสียก่อน

 

“พี่เวย” หลินหลินตกใจมากที่ได้เห็นหยงเวยอยู่ตรงหน้าตนเอง เพราะครั้งสุดท้ายที่เจอกับหยงเวย มันเป็นฝ่ายเข้ามาทําร้ายตนเอง

 

“…” หลินหลินกลับไปมองปิงปิงด้วยท่าที่เป็นห่วง นางไม่ทราบว่าหยงเวยปรับตัวแล้วเพราะนางแทบไม่ได้เจอมันเลย แต่หากหยงเวยโจมตีปิงปิงเข้านางจะต้องโกรธมากแน่ๆ 

 

“นี่แนะ” หลินหลินชักใยแมงมุมพุ่งเข้าไปมัดร่างของหยงเวยเอาไว้ในพริบตา แต่เพราะหลินหลินปล่อยจิตสังหารออกมาทําให้หยงเวยรู้ตัวเสียก่อน

 

ฉับ.! หยงเวยเรียกดาบมรกตออกมาฟันใยแมงมุมของหลินหลินอย่างง่ายดาย แต่พอมองไปดูว่าใครคือคนโจมตีมัน ดาบในมือของหยงเวยก็ลดลงแทบทันที

 

“หลินหลิน” หยงเวยว่าพลางเก็บดาบไป นั่นเพราะมันไม่มีความจําเป็นต้องทําอะไรหลินหลินอยู่แล้ว

 

“นี่แนะ” หลินหลินกระโดดโหม่งเข้าที่ตัวของหยงเวยในทันที หากไม่ใช่เพราะวัดแคบเกินไปหลินหลินคงกลายร่างเป็นแมงมุมไปแล้ว

 

กร้อป! หลินหลินอ้าปากกัดลงไปที่แขนของหยงเวยจนได้ยินเสียงเหมือนอะไรแตก ทําเอาหยงเวยรู้สึกตกใจอย่างมากเพราะแขนมรกตด้านขวาของมันโดนหลินหลินกัดจนแตกทั้งๆที่มันสามารถใช้แขนข้างนี้รับการโจมตีจากคนอื่นได้แท้ๆ

 

“ใจเย็นก่อน” หยงเวยพยายามห้าม แต่เหมือนหลินหลินจะไม่ยอมฟังสักเท่าไหร่ ทําให้หยงเวยต้องจับปากของหลินหลินเอาไว้ไม่ให้เข้ามากัดตัวเอง ยังดีที่พลังของมันเหนือกว่าหลินหลินทําให้สามารถหยุดหลินหลินไม่ให้เข้ามากัดได้

 

“เอ็บอะ” หลินหลินว่าพลางพยายามเอามือของหยงเวยออก

 

“เจ้าเจ็บงั้นเหรอ” หยงเวยเบิกตาเล็กน้อยพลางลดแรงจับลง

 

“อากกก”ยังไม่ทันได้ปล่อยหลินหลินอยู่ๆที่ด้านหลังของมันก็ปรากฏไอเย็นเฉียบแล่นเข้ามาในร่างของมัน ทําให้หยงเวยต้องรีบสร้างเกราะมรกตขึ้นมากันความเย็นไม่ให้เข้าสู่ผิวหนังโดยตรงทันที

 

“…” พอเห็นว่าไอเย็นใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ปิงปิงก็ถอยออกมา แต่เพราะการแช่แข็งเมื่อครู่เลยทําให้หลินหลินดิ้นหลุดจากมือของหยงเวยมาได้

 

“ปิงปิง เจ้าระวังให้ดีพี่เวยน่ากลัวมากเลย” หลินหลินว่าพลางถอยออกมาตั้งหลักข้างๆปิงปิง

 

“เดี่ยว พวกเจ้าใจเย็นก่อน” หยงเวยพยายามแก้ตัว แต่หลินหลินที่เคยโดนหยงเวยโจมตีใส่จะยังระแวงไม่หาย

 

“จัดการเลย” หลินหลินว่าพลางกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทําเอาหยงเวยได้แต่เหงื่อตกเพราะไม่ทราบจะจัดการกับหลินหลินอย่างไร แม้ภาย นอกหลินหลินจะเป็นเด็กสาวท่าทางไม่มีพิษมีภัย แต่นางก็เป็นอสูรระดับหยกขาว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากพอจะสู้กับหยงเวยได้ในระดับหนึ่งเลยที่เดียว

 

ฟุบ! ใยแมงมุมของปิงปิงพุ่งออกมาเป็นอย่างแรกทําให้หยงเวยต้องเรียกดาบมรกตออกมาอีกครั้ง แต่ทันทีที่ตัดเข้าที่ใยแมงมุมของปิงปิงใยแมงมุมที่เป็นเศษใยแมงมุมไปแล้วกลับยังสามารถสร้างไอเย็นได้อยู่ พริบตาที่ตกลงมาบนเกราะมรกตของหยงเวยมันก็สร้างไอเย็นจนเกราะของมันมีน้ำแข็งเกาะเต็มไปหมด

 

กร้อป! หริบตาที่มัวสนใจปิงปิง หลินหลินก็เข้ามาประชิดตัวหยงเวยเสียแล้ว แถมเกราะมรกตที่มันภูมิใจยังโดนหลินหลินกัดเสียแตกไม่มีชิ้นดี ทําให้หยงเวยรีบสร้างแขนมรกตกลับมาอีกครั้งใช้ทั้งสองมือจับไปที่แก้มของหลินหลิน

 

“เจ็บๆๆๆ” หลินหลินโวยวายทันทีที่โดนจับแก้วเอาไว้ ตอนนี้หยงเวยแอบดึงแรงขึ้นนิดหน่อยเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัว

 

“ข้ายอกให้เจ้าหยุดไง ข้าไม่ทําอะไรเจ้าแล้ว”หยงเวยว่าพลางถอนหายใจออกมา

 

“ไม่เชื่อพี่เวยยังเคยโจมตีข้าเลย” หลินหลินว่าพลางดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากมือของหยงเวยให้ได้

 

“ข้าไม่ทําแล้ว”หยงเวยถอนหายใจออกมาพลางเหล่มองปิงปิง ท่าทางนางจะไม่เข้ามาแล้ว

 

“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก” หลินหลินว่าพลางดิ้นต่อไม่ยอมหยุด

 

“ถ้าเป็นเด็กดีข้าจะเอาหยกให้เจ้า” หยงเวยว่าพลางชี้ไปที่รูปปั้น ไม่ทราบทําไมพลังของมันถึงสร้างหยกขึ้นมาได้เองตามธรรมดชาติ แต่มันก็เอามาต่อรองกับหลินหลินได้เกินพอเลยทีเดียว เพราะแทบจะทันทีที่พูดออกไปหลินหลินก็ไม่ดิ้นต่อเลย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 197 ระแวง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 197 ระแวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 197 ระแวง

 

“ทําอะไรกันอยู่เหรอจะ” หญิงสาวใบหน้าสระสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ประตูของพระราชวังแห่งอาณาจักรอู๋ด้วยท่าที่ประหลาดใจ เพราะในยามเช้าที่นางกําลังเดินเล่นชมสวนอยู่นั้น นางก็ได้เห็นเด็กสาว 2 คนกําลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวประตูทางเข้า หากไม่เห็นว่าเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆนางคงเรียกทหารมาจัดการไปแล้ว

 

“….”เด็กทั้งสองหันมามองนางด้วยท่าทีตกใจ แต่ทันทีที่เด็กทั้ง 2 คนหันมาตัวนางเองก็ได้เห็นสร้อยคอที่พวกนางสวมเอาไว้ มันคือสร้อยคอของอสูรประจําตัวของเชื้อพระวงศ์ นั่นหมายความว่าเด็กทั้ง 2 คืออสูรงั้นหรือ

 

“ข้ารอพี่ไป๋อยู่” หลินหลินว่าพลางมองไปที่ประตู ท่าทางนางคงจะรอให้อิหมิงพาไป๋จูเหวินกลับมาเร็วๆ

 

“พี่ไป๋? เขาไปไหนงั้นเหรอ” หญิงสาวถามพลางนั่งลงข้างๆจุดที่หลินหลินกับปิงปิงยืนแอบอยู่

 

“พี่ไป๋โดนคนชั่วจับตัวไป พี่หมิง เลยจะไปช่วย” หลินหลินตอบโดยมีปิงปิงที่หลบอยู่ด้านหลัง นางพยักหน้าเหมือนจะช่วยยืนยันอีกแรง

 

“งั้นเหรอ พวกเจ้าคงเป็นห่วงน่าดูสินะ” หญิงสาวว่าพลางยิ้มออกมามาด้วยท่าที่อ่อนโยน

 

“พี่ไป๋ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ข้าอยากเจอพี่ไป๋เร็วๆ” หลินหลินตอบพลางทําหน้ามุ่ย เพราะอูหมิงต้องไปหาองค์ชายชูเฟิงก่อน ทําให้ไม่สามารถพาพวกอสูรรวมถึงเหม่ยหลินและพวกต้าชิงกับต้าเฉินไปด้วยได้ พวกหลินหลินเลยได้แต่รออยู่ที่วังเท่านั้น

 

“อย่างงั้นเหรอ…จริงสิขากําลังจะไปไหว้พระ พวกเจ้าไปขอพรกับข้าดีหรือไม่” หญิงสาวว่าพลางมองสองสาวอย่างเอ็นดู

 

“ขอพร? ขอพรคืออะไรเหรอ” หลินหลินถามด้วยสีหน้างุนงง จะว่าไม่แปลกก็คงได้ที่อสูรจะไม่รู้จักคําว่าขอพร

 

“เป็นการภาวนาขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองคนที่เรารักยังไงล่ะ” หญิงสาวตอบ

 

“ถ้าไปขอพรแล้วพี่ไป๋จะกลับมาเร็วๆหรือเปล่า” หลินหลินถามด้วยท่าที่สนใจ

 

“ก็อาจจะนะ” หญิงสาวตอบพลางหัวเราะออกมาแน่นอนว่าการขอพรไม่ได้ทําให้เกิดผลลับทันที แต่ก็ทําเพื่อความสบายใจและภาวนาเท่านั้น

 

“ถ้างั้นข้าจะไปด้วย” หลินหลินตอบโดยปิงปิงที่อยู่ด้านหลังก็พยักหน้าเช่นกัน

 

“พระมเหสี มีอะไรหรือขอรับ”เหล่าองครักษ์ที่โผล่มาจากด้านหลังถามเมื่อเห็นพระมเหสีของพวกมันลงไปนั่งกับพื้น

 

“ไม่มีอะไร ข้าแค่จะชวนเด็ก 2 คนนี้ไปกับพวกเราด้วย” พระมเหสีว่าพลางจับมือของหลินหลินแล้วพาหลินหลินเดินมาร่วมขบวนเสด็จของตน น่าเสียดายที่ซูหลานกับอู๋หมิงไม่อยู่คราวนี้เลยไม่ได้ไปไหว้พระด้วยกันเหมือนคราวก่อน

 

“หลินหลิน เป็นอย่างไรบ้าง ที่นี่สวยดีใช่ไหม” หลังจากเดินทางมาถึงวัด พระมเหสีก็ถามหลินหลินกับปิงปิงที่นั่งอยู่บนรถม้าของตนอย่างอารมณ์ดี

 

“เจ้าค่ะ” หลินหลินหยักหน้าพลางมองไปรอบๆ

 

“สวยแล้วก็…น่ากิน…” หลินหลินรําพึงพลางมองรูปแกะสลักที่ทําจากหยกและมรกตจํานวนมากที่ถูกตั้งเรียงรายตามวัดทําเอาพระมเหสีทําหน้างงออกมา แต่นางก็คิดว่าหลินหลินคงเห็นพวกรูปปั้นหยกแล้วนึกถึงลูกกวาดกระมัง

 

หลังจากพาหลินหลินเข้ามาในวัด พระมเหสีก็ตามเจ้าอาวาสเข้าไปในโบสถ์ พลางสอนหลินหลินกับปิงปิงท่องบทสวดและขอพรให้ไป๋จูเหวินกลับมาโดยปลอดภัย หลังจากขอพรเสร็จนางก็ขอตัวไปพูดคุยกับเจ้าอาวาสปล่อยให้หลินหลินอยู่กับพวกองครักษ์ไปก่อน

 

“พวกนี้กินไม่ได้จริงๆเหรอ” หลินหลินบ่นพลางมองรูปปั้นหยกด้วยสายตาละห้อย หยกที่ไป๋จูเหวินซื้อมาก่อนหน้านี้เริ่มจะร่อยหลอแล้ว หากนางกินรูปปั้นพวกนี้เป็นอาหารหยกในมิติของนางก็จะยังอยู่ต่อได้อีกพักเลย

 

ก๊อก ก๊อก.. หลินหลินกับปิงปิงเดินไปได้พักหนึ่ง เสียงค้อนและสิ่วก้ดังออกมาจากมุมหนึ่งของวัด แน่นอนว่ามันดึงความสนใจของหลินหลินได้เป็นอย่างดี

 

ก๊อก..ก๊อก.. หลินหลินปีนกําแพงขึ้นไปดูว่าเสียงมาจากไหน และทันทีที่เห็นว่ามีคนกําลังแกะสลักรูปปั้นหยกอยู่จริงๆนั้นสายตาของหลินหลินก็พลันมองไปยังเศษหยกที่แตกออกมาจากการแกะสลักทันที หากเป็นหยกพวกนั้นอาจจะกินได้ก็ได้

 

“…”แต่ยังไม่ทันเข้าไปถาม หลินหลินก็สะดุดตาเข้ากับคนลงมือแกะสลักเข้าเสียก่อน

 

“พี่เวย” หลินหลินตกใจมากที่ได้เห็นหยงเวยอยู่ตรงหน้าตนเอง เพราะครั้งสุดท้ายที่เจอกับหยงเวย มันเป็นฝ่ายเข้ามาทําร้ายตนเอง

 

“…” หลินหลินกลับไปมองปิงปิงด้วยท่าที่เป็นห่วง นางไม่ทราบว่าหยงเวยปรับตัวแล้วเพราะนางแทบไม่ได้เจอมันเลย แต่หากหยงเวยโจมตีปิงปิงเข้านางจะต้องโกรธมากแน่ๆ 

 

“นี่แนะ” หลินหลินชักใยแมงมุมพุ่งเข้าไปมัดร่างของหยงเวยเอาไว้ในพริบตา แต่เพราะหลินหลินปล่อยจิตสังหารออกมาทําให้หยงเวยรู้ตัวเสียก่อน

 

ฉับ.! หยงเวยเรียกดาบมรกตออกมาฟันใยแมงมุมของหลินหลินอย่างง่ายดาย แต่พอมองไปดูว่าใครคือคนโจมตีมัน ดาบในมือของหยงเวยก็ลดลงแทบทันที

 

“หลินหลิน” หยงเวยว่าพลางเก็บดาบไป นั่นเพราะมันไม่มีความจําเป็นต้องทําอะไรหลินหลินอยู่แล้ว

 

“นี่แนะ” หลินหลินกระโดดโหม่งเข้าที่ตัวของหยงเวยในทันที หากไม่ใช่เพราะวัดแคบเกินไปหลินหลินคงกลายร่างเป็นแมงมุมไปแล้ว

 

กร้อป! หลินหลินอ้าปากกัดลงไปที่แขนของหยงเวยจนได้ยินเสียงเหมือนอะไรแตก ทําเอาหยงเวยรู้สึกตกใจอย่างมากเพราะแขนมรกตด้านขวาของมันโดนหลินหลินกัดจนแตกทั้งๆที่มันสามารถใช้แขนข้างนี้รับการโจมตีจากคนอื่นได้แท้ๆ

 

“ใจเย็นก่อน” หยงเวยพยายามห้าม แต่เหมือนหลินหลินจะไม่ยอมฟังสักเท่าไหร่ ทําให้หยงเวยต้องจับปากของหลินหลินเอาไว้ไม่ให้เข้ามากัดตัวเอง ยังดีที่พลังของมันเหนือกว่าหลินหลินทําให้สามารถหยุดหลินหลินไม่ให้เข้ามากัดได้

 

“เอ็บอะ” หลินหลินว่าพลางพยายามเอามือของหยงเวยออก

 

“เจ้าเจ็บงั้นเหรอ” หยงเวยเบิกตาเล็กน้อยพลางลดแรงจับลง

 

“อากกก”ยังไม่ทันได้ปล่อยหลินหลินอยู่ๆที่ด้านหลังของมันก็ปรากฏไอเย็นเฉียบแล่นเข้ามาในร่างของมัน ทําให้หยงเวยต้องรีบสร้างเกราะมรกตขึ้นมากันความเย็นไม่ให้เข้าสู่ผิวหนังโดยตรงทันที

 

“…” พอเห็นว่าไอเย็นใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ปิงปิงก็ถอยออกมา แต่เพราะการแช่แข็งเมื่อครู่เลยทําให้หลินหลินดิ้นหลุดจากมือของหยงเวยมาได้

 

“ปิงปิง เจ้าระวังให้ดีพี่เวยน่ากลัวมากเลย” หลินหลินว่าพลางถอยออกมาตั้งหลักข้างๆปิงปิง

 

“เดี่ยว พวกเจ้าใจเย็นก่อน” หยงเวยพยายามแก้ตัว แต่หลินหลินที่เคยโดนหยงเวยโจมตีใส่จะยังระแวงไม่หาย

 

“จัดการเลย” หลินหลินว่าพลางกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทําเอาหยงเวยได้แต่เหงื่อตกเพราะไม่ทราบจะจัดการกับหลินหลินอย่างไร แม้ภาย นอกหลินหลินจะเป็นเด็กสาวท่าทางไม่มีพิษมีภัย แต่นางก็เป็นอสูรระดับหยกขาว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากพอจะสู้กับหยงเวยได้ในระดับหนึ่งเลยที่เดียว

 

ฟุบ! ใยแมงมุมของปิงปิงพุ่งออกมาเป็นอย่างแรกทําให้หยงเวยต้องเรียกดาบมรกตออกมาอีกครั้ง แต่ทันทีที่ตัดเข้าที่ใยแมงมุมของปิงปิงใยแมงมุมที่เป็นเศษใยแมงมุมไปแล้วกลับยังสามารถสร้างไอเย็นได้อยู่ พริบตาที่ตกลงมาบนเกราะมรกตของหยงเวยมันก็สร้างไอเย็นจนเกราะของมันมีน้ำแข็งเกาะเต็มไปหมด

 

กร้อป! หริบตาที่มัวสนใจปิงปิง หลินหลินก็เข้ามาประชิดตัวหยงเวยเสียแล้ว แถมเกราะมรกตที่มันภูมิใจยังโดนหลินหลินกัดเสียแตกไม่มีชิ้นดี ทําให้หยงเวยรีบสร้างแขนมรกตกลับมาอีกครั้งใช้ทั้งสองมือจับไปที่แก้มของหลินหลิน

 

“เจ็บๆๆๆ” หลินหลินโวยวายทันทีที่โดนจับแก้วเอาไว้ ตอนนี้หยงเวยแอบดึงแรงขึ้นนิดหน่อยเพราะความหมั่นไส้ส่วนตัว

 

“ข้ายอกให้เจ้าหยุดไง ข้าไม่ทําอะไรเจ้าแล้ว”หยงเวยว่าพลางถอนหายใจออกมา

 

“ไม่เชื่อพี่เวยยังเคยโจมตีข้าเลย” หลินหลินว่าพลางดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดจากมือของหยงเวยให้ได้

 

“ข้าไม่ทําแล้ว”หยงเวยถอนหายใจออกมาพลางเหล่มองปิงปิง ท่าทางนางจะไม่เข้ามาแล้ว

 

“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก” หลินหลินว่าพลางดิ้นต่อไม่ยอมหยุด

 

“ถ้าเป็นเด็กดีข้าจะเอาหยกให้เจ้า” หยงเวยว่าพลางชี้ไปที่รูปปั้น ไม่ทราบทําไมพลังของมันถึงสร้างหยกขึ้นมาได้เองตามธรรมดชาติ แต่มันก็เอามาต่อรองกับหลินหลินได้เกินพอเลยทีเดียว เพราะแทบจะทันทีที่พูดออกไปหลินหลินก็ไม่ดิ้นต่อเลย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+