บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 219 ความช่วยเหลือ

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 219 ความช่วยเหลือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 219 ความช่วยเหลือ

 

พรึบ! พรึบ! ในเช้าวันหนึ่งอยู่ๆฝูงมังกรบินจํานวนมากก็ปรากฏเหนือท้องฟ้าของเมืองหลวงจํานวนปีกขนาดใหญ่ที่กางทั่วผืนฟ้าทําเอาแสงอาทิตย์แทบจะส่องลงมาไม่ได้

 

“นั่นมันอะไรกัน” เหล่าทหารของเมืองหลวงมองฝูงมฆังกรตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งเป็นช่วงสงครามเช่นนี้แล้วพวกมันย่อมระแวงไปก่อนอยู่ แล้วว่าพวกมันต้องเป็นของฝ่ายศัตรูเป็นแน่

 

“หยุดก่อน”อี้หมิงที่ออกมาดูสถาณการณ์สั่งห้ามให้เหล่าทหารหยุดมือเอาไว้เพราะมันยังไม่ทราบว่าฝูงมังกรมาทําอะไรที่นี่แถมบนหลังของพวกมันยังไม่มีคนขี่และไม่มี อานอีกด้วย

 

“ขอโทษที พวกเขาบางตนแปลงร่างเป็นมนุษย์ไม่เป็นก็เลยต้องมาทั้งๆแบบนี้”ไปจูเหวินว่าพลางขี่หลังมังกรตนหนึ่ง ลงมาจากท้องฟ้าตอนแรกไปจูเหวินก็ขี่หลังหลินหลิ นแล้วให้พวกมังกรบินตามมาอยู่หรอกแต่พอออกจาก เขตของผาไร้กันแล้วพวกมังกรเจอหน้ากับอสูรปักเป้าแล้วพากันแตกตื่นจนไปจูเหวิ นต้องบินไปพร้อมกันเพื่อให้พวกมันสงบใจได้

 

“นี่มันอะไรกัน”อูหมิงที่พึ่งเคยเห็นความสามารถของไปจู เหวินเป็นครั้งแรกถึงกับตกใจอย่างเห็นได้ชัด

 

“ พวกเขาจะมาช่วยขนเสบียงให้ไงล่ะ”ไปจูเหวินยิ้มพลางเรียกให้เหล่ามังกรบินลงมาภายในเขตวัง พวกที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ก็ลงมายืนในร่างม นุษย์กันส่วนพวกที่ไม่ได้ก็ลงมายืนเฉยๆโดยเก็บปีกเอาไว้ไม่ให้เกะกะภาพมังกรในร่างมนุษย์และในร่างมังกรเรียงแถวหน้ากระดานราวกับทหารของวังทําเอาคนรอบๆอึ้งจนพูดไม่ออก

 

“จะ จริงงั้นเหรอ”อู่หมิงยังไม่อยากจะเชื่อสายตา อสูรบินเป็นอสูรที่ใช้เดินทางได้ดี แต่การจะจับพวกมัน มาเป็นอสุรรับใช้ค่อนข้างยากเนื่องจากอสูรบินจําเป็นต้อง มีกําลังสูงในระดับหนึ่งถึงจะสามารถให้มนุษย์สามารถขี่หลังได้พวกอสูรวิหกทั่วไปไม่สามารถทําเช่นนั้นได้ อย่าง กลุ่มนักล่าอสูรเองก็มีอสูรบินที่สามารถขี่ได้ไม่ถึง 10 ตนเสีย ด้วยซ้ํา ซึ่งชิงหลงและจูเชี่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งวังหลวงยิ่งแล้วใหญ่ อสูรบินแทบจะมีให้เชื้อพระวงศ์ใช้เท่านั้น

 

“ขอรับองค์ชาย พวกเราได้รับคําสั่งจากนายน้อยและองค์ราชินีแห่งเราให้มาช่วยเหลือเรื่องการขนเสบียงขอรับ”ร่างจําแลงของมังกรตนหนึ่งตอบรับพลางคุกเข่าลงต่อหน้าอู่ห มิง

 

“พวกเขาบินเหนือชั้นเมฆ รับรองว่าศัตรูจะไม่เห็นแน่ๆแถมพวกเขายังสามารถสื่อสารได้และสามารถใช้มิติของตนเองได้ พวกเขาจึงสามารถทํางานเองได้โดยไม่ต้องให้มีคนไข่”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ พวกคนของ อาณาจักรอื่นที่คอยดักปล้นเสบียงคงไม่มีใครนําอสูรบินมาแน่ต่อให้น้ําอสูรปักษามาเพื่อตรวจตราบนท้องฟ้า แต่ พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้มังกรแน่ๆ ทําให้เรื่องการถูกดักปล้นนั้นหมดห่วงอย่างแน่นอน

 

“นี่มัน ยอดเยี่ยมจริงๆ ”อูหมิงชื่นชมพลางมองเหล่ามังกร ที่ยืนอยู่หน้าวังอย่างตื่นตาตื่นใจการได้มังกรมาช่วยนอก จากจะทําให้ปัญหาเรื่องเสบียงหายไปแล้ว ยังสามารถช่วย เรื่องจํานวนคนด้วยเนื่องจากไม่จําเป็นต้องใช้คนคุ้มกันเสบี ยง ทําให้สามารถส่งคงไปร่วมรบได้มากขึ้น

 

“แล้วก็…”ไปจูเหวินว่าพลางยื่นขวดแก้วขวดหนึ่งออก มาให้อู่หมิง

 

“มันคือ” อี้หมิงขมวดคิ้วพลางมองขวดแก้วตรงหน้าอย่าง ประหลาดใจ ภายในขวดแก้วบรรจุน้ําเปล่าเอาไว้ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็เป็นน้ําธรรมดาแน่ๆ

 

“มันเป็นน้ําจากบ่อชีพจรวารี ใช้มันหยดลงไปในบ่อน้ําที่เขตการเกษตร 1 หยด มันจะทําให้พืชที่รดน้ําจากบ่อนั้นเติบโตรวดเร็วขึ้นได้ยินเช่นนั้นอี้หมิงก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าไปจูเหวินทําเช่นนี้ได้อย่างไรแต่เหม่ยหลินและคนของกลุ่มนักล่าอสูรกลับไม่ค่อยแปลกใจเสียเท่าไหร่โดยเฉพาะเหม่ยหลินที่เก็บน้ําจากสระชีพจรวารีเอาไว้อยู่ แล้ว เพราะนางเคยเห็นต้นไม้ในปาวัฒนะที่นั่นต้นไม้ทั้งหม ดงอกงามและใหญ่กว่าต้นไม้ปกติมาก

 

“ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะรีบจัดการเรื่องเสบียงให้เสร็จ”อู่หมิงว่าพลางมองสิ่งต่างๆที่ไปจูเหวินนํามาอย่างตื้นตันใจมิน่าเล่าไปจูเหวินถึงมั่นใจนักว่าจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้

 

หลังจากนั้นอี้หมิงก็ประสานงานทั้งทางเขตการเก ษตรและแนวหน้าเรื่องการใช้มังกรส่งเสบียงนอกจากนี้ยังส่งขุนนางคนหนึ่งที่รับผิดชอบเรื่องการน้ําจากสระชีพจรวา รีไปหยดในบ่อน้ําสําหรับเพาะปลูกของเขตการเกษตรทั้งหมด ไม่นานระบบการใช้มังกรส่งเสบียงก็ทํางานอ ย่างมีประสิทธิภาพทําให้ปัญหาเรื่องเสบียงหมดลงไปอย่าง สิ้นเชิง ทําเอาเหล่าชาวเมืองต่างขนาดนามธุ์หมิงว่าเป็นจักรพรรดิผู้ควบคุมมังกรเลยทีเดียว แม่จริงๆจะคนคุ มจะเป็นไปจูเหวินก็ตาม

 

เพียงแต่ถึงการส่งเสบียงจะไม่มีปัญหาแล้วก็ตาม สถาณ การณ์รบก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ทุกวันนี้อาณาจักรอู่ก็ยังตกอยู่ในส ถาณการณ์ที่บีบบังคับให้ตั้งรับตลอดเพราะอาณาจักรอัว จง และ ซุย ยังโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง แถมอาณาจักรชูที่พึ่งจัดพิ ธีศพขององค์ชายชูเฟิงเสร็จไปยังมีท่าที่จะประกาศสงคราม กับอาณาจักรอู่อีกต่างหาก ยามนี้อยู่ที่ว่าคําสั่งเสียของชูเฟิงจะยังมีผลอยู่ถึงเมื่อไหร่ แม้ไม่ต้องไปยังอาณาจักรซูอี้หมิง ก็พอนึกภาพออกว่าองค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของอาณาจักรชูกําลังโดนเหล่าขุนนางกดดันแค่ไหน

 

“ไปจูเหวิน”อูหมิงที่เรียกไปจูเหวินเข้ามาในท้องพระโร งพูดพลางนําจวดแก้วขวดหนึ่งออกมาภายในนั้นปรากฏอสูรแมลงอย่างปรสิตนั้นเอง

 

“เจ้าสามารถควบคุมสิ่งนี้ได้หรือไม่” อู่หมิงถามเพราะ เห็นความสามารถควบคุมอสูรของไปจูเหวินมาแล้วกับตาคนที่สามารถควบคุมมังกรได้ทั้งฝูงย่อมมีความสามารถด้านนี้อย่างแน่นอน

 

“ได้ขอรับ”ไปจูเหวินตอบ อสุรปรสิตสามารถฟังภาษาม นุษย์ออก หากไปจูเหวินเป็นคนออกปากย่อมสามารถขอให้มันทําอะไรก็ได้

 

“เช่นนั้น เจ้าช่วยมากับข้าได้หรือไม่” คู่หมิง ว่าพลางลุกขึ้นยืน

 

“ไปที่ไหนกัน?”ไปจูเหวินขมวดคิ้ว เวลาสงครามเช่นนี้อู่ห มิงไม่ควรออกจากวังเสียด้วยซ้ํา

 

“ไปอาณาจักรชู ข้าอยากจะลบมลทินให้กับซู หลานและพูดคุยกับจักรพรรดิของอาณาจักรชูด้วย”อูหมิงตอบพลางมองเหล่าขุนนางรอบๆ พวกมันไม่มีท่าที่จะห้าม แต่อย่างไร เพราะพวกมันต่างทราบสถาณการณ์ดียามนี้ อาณาจักรอุ้ใช้สุดความสามารถต้านรับศึก 3 ด้านอยู่แล้วหากไม่ทําอะไรสักอย่างและปล่อยให้อาณจักรชูประกาศสงค รามมาอีกอาณาจักรยามนั้นคงได้แต่มองดูเมื่อ งค่อยๆโดนยึดไปที่ละเมืองเท่านั้น

 

“แน่ใจหรือ หากท่านพี่ไม่อยู่แล้วใครจะสั่งการ แทนล่ะ”จ่อหลานองค์หญิงอันดับ 1 ถามพลางมองอูหมิงที่เตรียมจะออกเดินทาง

 

“เรื่องนั้นข้าฝากเจ้าด้วย ตอนนี้เป็นช่วงดุเชิงคงไม่มีอะ ไรให้เจ้าปวดหัวมาก แต่หากเกิดอะไรขึ้นข้ามอบอํานาจให้เจ้าสั่งการได้เลย”อู่หมิงว่าพลางมองจื่อหลานนิ่ง

 

“จะดีหรือ หากข้าใช้แผนแย่ๆขึ้น มาล่ะ”จ่อหลานยิ้มพลางจ้องมองพี่ใหญ่ของตนนิ่ง

 

“ข้าเชื่อว่าเจ้าฉลาดกว่านั้น”อู่หมิงตอบเสียงเรียบ แม้ นางจะชอบพูดแผนร้ายๆออกมาก่อนอย่างการทิ้งประชาชนหรือปล้นประชาชน แต่ส่วนใหญ่ก็เพื่อลองใจอี้หมิงเท่านั้น

 

“แหม พี่ใหญ่ชมข้าเกินไปแล้ว” จื่อหลานว่าพลางยิ้มห วาน ตลอดเวลาที่นางช่วยเหลืองานธุ์หมิงมาเหล่าขุนนางก็ได้เห็นความสามารถของนางกันแล้ว ทําให้พวกมันไม่มีอะไรจะท้วงแต่อย่างไร

 

“ถ้างั้นข้าก็ขอฝากด้วยแล้วกัน” อูหมิงว่าพลางพาองค รักษ์ออกไปกับไปจูเหวิน โดยการเดินทางครั้งนี้พวกมันจะขี่มังกรตนหนึ่งที่อยู่รับใช้อยู่ที่วังเพื่อเดินทางไปยังเขตของอาณาจักรชู ทําให้ไปจูเหวินไม่ได้เอาพวกหลินหลินไปเหลือแต่อสูรปักเป้าเท่านั้นที่บินตามไปเอง

 

“เฮ้ย ทําไมจูเอ๋อเดินทางไปอาณาจักรอื่นอีกล่ะ”ราช สีห์เพลิงว่าพลางมองภาพเบื้องล่างจากบนหลังของไก่ฟ้าหงอนทอง

 

“เดี๋ยวสิ รอลูกน้องข้าขึ้นมารายงานก่อน”ไก่ฟ้า หงอนทองโวยพลางกระพือปีกถอยหลังออกไปเพราะกลัวว่าไปจูเหวินจะจับสัมผัสได้ ระยะจับสัมผัสของไปจู เหวินยิ่งกว้างกว่าปกติมากด้วย

 

“ทําไมลุกน้องเจ้าบินช้านักเล่า เอาตัวที่มันใหญ่ๆบินเร็วๆ มารายงานไม่ดีกว่าเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองลูกนกที่พยายามบินขึ้นมาหาไก่ฟ้าหงอนทองที่ลอยอยู่ด้านบน

 

“ขึ้นใช้ตัวใหญ่ๆจูเอ๋อก็จับสัมผัสได้พอดีกัน”ไก่ฟ้า หงอนทองว่าพลางรอให้ลูกนกตัวเท่าลูกเจี๊ยบบินขึ้นมาจนถึงข้างหูมันเจ้าลูกนกส่งเสียงจิ้บๆไม่นานไก่ฟ้า หงอนทองก็พยักหน้าเข้าใจช้าๆ

 

“ดูเหมือนจูเอ๋อจะไปกับองค์ชายเพื่อเจรจาเรื่องบางอย่าง ที่อาณาจักรงหรือจูนี่ล่ะ”ไก่ฟ้าหงอนทองตอบพลางกระพือปีกตามมังกรที่ไปจูเหวินขี่ไปช้าๆ

 

“จริงอย่างที่ลูกน้องเจ้าเลย สถาณการณ์แบบนี้ไม่สู้ดีจ ริงๆ” ขณะกําลังบินตามไปจูเหวิน พวกราชาก็ได้เห็นสภาพการรบเบื้องล่างระหว่างบินผ่าน เมืองหน้าด่านแต่ละเมื่อ งต่างโดนข้าศึกรุมล้อมไม่ต่ํากว่า 2 – 3 เท่าต้องบอกว่า เหลือเชื่อมากแล้วที่เมืองไม่แตกเสียที

 

“เอาไงดี ลงไปช่วยสักหน่อยไหม” ราชสีห์เพลิงถามพลาง เรียกลูกไฟออกมรอบๆตัว ด้านล่างมีคนระดับเทียนเซียนขั้น 10 อยู่ไม่น้อยบ้างยังมียอดฝีมืออีกด้วย ท่าทางจะได้สนุก แน่ๆ

 

“นี่ไม่ใช่เขตของเรานะ” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางเดินมามองส นามรบเบื้องล่าง ที่นี่เป็นเมืองต่อจากเมืองที่จัดพิธีอภิเษกขอ งซูหลาน ทําให้ภายในเมืองมีเซียนหมัดอยู่ด้วย แต่อีกฝั่งก็เตรียมตัวมาดีไม่น้อย คนระดับยอดฝีมือก็เอามาถึง 2 คนเพื่อจัดการเซียนหมัดโดยเฉพาะ

 

“ในฐานะราชาแล้ว เราไม่ควรเข้าไปสอดการต่อสู้ของ อาณาจักรอื่น” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางมองกองกําลังเบื้องล่างนิ่ง

 

“แต่ตอนนี้ราชามีแค่มังกรธรณีตนเดียวเท่านั้นไม่ใช่ เหรอ”ราชสีห์เพลิงยิ้มกว้าง ตอนนี้แม้จะยังถูกเรียกว่าราชาแต่พวกมันก็ยอดเขตทั้งหมดให้มังกรธรณีไปแล้วจริงๆ

 

“ก็ใช่ไง” เปรี้ยง! พยัคฆ์อัสนีพูดจบร่า งของมันก็แปลเปลี่ยนเป็นสายห้าพุ่งวาบลงไปกลางวงล้อมของศัตรูที่ล้อมเมืองของอาณาจักรอู่เอาไว้

 

“นานๆทีก็ออกแรงสักน่อยเถอะ”ราชสีห์เพลิงยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดลงไปร่วมการต่อสู้ด้วยอีกคน

 

ตูม! บริเวณที่ราชสีห์เพลิงตกลงไปทําเอารอบๆเผาไห ม้และกลายเป็นหลุมราวกับอุกกาบาตตกกระแทกพื้น

 

“เกิดอะไรขึ้น” นอกจากคนของฝ่ายอาณาจักรฮัวแล้วแม้ แต่พวกคนในเมืองของอาณาจักรอี้ยังพากันตกใจกันยกใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“มะ ไม่ทราบขอรับ เมื่อครู่เหมือนมีสายฟ้าฟาดใส่ กลางกลุ่มข้าศึก หลังจากนั้นก็มีลูกไฟตกลงมาอีกลูกขอรับ” ทหารรายงานด้วยสีหน้าแตกตื่น เพราะระยะ ห่างค่อนข้างมากพวกทหารของอาณาจักรภู่จึงไม่ทราบว่าที่ตกลงมาคืออะไร

 

“หรือสวรรค์จะลงทัณฑ์พวกมันแล้ว”เจ้า เมืองว่าพลางยิ้มออกมา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 219 ความช่วยเหลือ

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 219 ความช่วยเหลือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 219 ความช่วยเหลือ

 

พรึบ! พรึบ! ในเช้าวันหนึ่งอยู่ๆฝูงมังกรบินจํานวนมากก็ปรากฏเหนือท้องฟ้าของเมืองหลวงจํานวนปีกขนาดใหญ่ที่กางทั่วผืนฟ้าทําเอาแสงอาทิตย์แทบจะส่องลงมาไม่ได้

 

“นั่นมันอะไรกัน” เหล่าทหารของเมืองหลวงมองฝูงมฆังกรตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งเป็นช่วงสงครามเช่นนี้แล้วพวกมันย่อมระแวงไปก่อนอยู่ แล้วว่าพวกมันต้องเป็นของฝ่ายศัตรูเป็นแน่

 

“หยุดก่อน”อี้หมิงที่ออกมาดูสถาณการณ์สั่งห้ามให้เหล่าทหารหยุดมือเอาไว้เพราะมันยังไม่ทราบว่าฝูงมังกรมาทําอะไรที่นี่แถมบนหลังของพวกมันยังไม่มีคนขี่และไม่มี อานอีกด้วย

 

“ขอโทษที พวกเขาบางตนแปลงร่างเป็นมนุษย์ไม่เป็นก็เลยต้องมาทั้งๆแบบนี้”ไปจูเหวินว่าพลางขี่หลังมังกรตนหนึ่ง ลงมาจากท้องฟ้าตอนแรกไปจูเหวินก็ขี่หลังหลินหลิ นแล้วให้พวกมังกรบินตามมาอยู่หรอกแต่พอออกจาก เขตของผาไร้กันแล้วพวกมังกรเจอหน้ากับอสูรปักเป้าแล้วพากันแตกตื่นจนไปจูเหวิ นต้องบินไปพร้อมกันเพื่อให้พวกมันสงบใจได้

 

“นี่มันอะไรกัน”อูหมิงที่พึ่งเคยเห็นความสามารถของไปจู เหวินเป็นครั้งแรกถึงกับตกใจอย่างเห็นได้ชัด

 

“ พวกเขาจะมาช่วยขนเสบียงให้ไงล่ะ”ไปจูเหวินยิ้มพลางเรียกให้เหล่ามังกรบินลงมาภายในเขตวัง พวกที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ก็ลงมายืนในร่างม นุษย์กันส่วนพวกที่ไม่ได้ก็ลงมายืนเฉยๆโดยเก็บปีกเอาไว้ไม่ให้เกะกะภาพมังกรในร่างมนุษย์และในร่างมังกรเรียงแถวหน้ากระดานราวกับทหารของวังทําเอาคนรอบๆอึ้งจนพูดไม่ออก

 

“จะ จริงงั้นเหรอ”อู่หมิงยังไม่อยากจะเชื่อสายตา อสูรบินเป็นอสูรที่ใช้เดินทางได้ดี แต่การจะจับพวกมัน มาเป็นอสุรรับใช้ค่อนข้างยากเนื่องจากอสูรบินจําเป็นต้อง มีกําลังสูงในระดับหนึ่งถึงจะสามารถให้มนุษย์สามารถขี่หลังได้พวกอสูรวิหกทั่วไปไม่สามารถทําเช่นนั้นได้ อย่าง กลุ่มนักล่าอสูรเองก็มีอสูรบินที่สามารถขี่ได้ไม่ถึง 10 ตนเสีย ด้วยซ้ํา ซึ่งชิงหลงและจูเชี่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งวังหลวงยิ่งแล้วใหญ่ อสูรบินแทบจะมีให้เชื้อพระวงศ์ใช้เท่านั้น

 

“ขอรับองค์ชาย พวกเราได้รับคําสั่งจากนายน้อยและองค์ราชินีแห่งเราให้มาช่วยเหลือเรื่องการขนเสบียงขอรับ”ร่างจําแลงของมังกรตนหนึ่งตอบรับพลางคุกเข่าลงต่อหน้าอู่ห มิง

 

“พวกเขาบินเหนือชั้นเมฆ รับรองว่าศัตรูจะไม่เห็นแน่ๆแถมพวกเขายังสามารถสื่อสารได้และสามารถใช้มิติของตนเองได้ พวกเขาจึงสามารถทํางานเองได้โดยไม่ต้องให้มีคนไข่”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ พวกคนของ อาณาจักรอื่นที่คอยดักปล้นเสบียงคงไม่มีใครนําอสูรบินมาแน่ต่อให้น้ําอสูรปักษามาเพื่อตรวจตราบนท้องฟ้า แต่ พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้มังกรแน่ๆ ทําให้เรื่องการถูกดักปล้นนั้นหมดห่วงอย่างแน่นอน

 

“นี่มัน ยอดเยี่ยมจริงๆ ”อูหมิงชื่นชมพลางมองเหล่ามังกร ที่ยืนอยู่หน้าวังอย่างตื่นตาตื่นใจการได้มังกรมาช่วยนอก จากจะทําให้ปัญหาเรื่องเสบียงหายไปแล้ว ยังสามารถช่วย เรื่องจํานวนคนด้วยเนื่องจากไม่จําเป็นต้องใช้คนคุ้มกันเสบี ยง ทําให้สามารถส่งคงไปร่วมรบได้มากขึ้น

 

“แล้วก็…”ไปจูเหวินว่าพลางยื่นขวดแก้วขวดหนึ่งออก มาให้อู่หมิง

 

“มันคือ” อี้หมิงขมวดคิ้วพลางมองขวดแก้วตรงหน้าอย่าง ประหลาดใจ ภายในขวดแก้วบรรจุน้ําเปล่าเอาไว้ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็เป็นน้ําธรรมดาแน่ๆ

 

“มันเป็นน้ําจากบ่อชีพจรวารี ใช้มันหยดลงไปในบ่อน้ําที่เขตการเกษตร 1 หยด มันจะทําให้พืชที่รดน้ําจากบ่อนั้นเติบโตรวดเร็วขึ้นได้ยินเช่นนั้นอี้หมิงก็ยิ่งงงไปกันใหญ่ว่าไปจูเหวินทําเช่นนี้ได้อย่างไรแต่เหม่ยหลินและคนของกลุ่มนักล่าอสูรกลับไม่ค่อยแปลกใจเสียเท่าไหร่โดยเฉพาะเหม่ยหลินที่เก็บน้ําจากสระชีพจรวารีเอาไว้อยู่ แล้ว เพราะนางเคยเห็นต้นไม้ในปาวัฒนะที่นั่นต้นไม้ทั้งหม ดงอกงามและใหญ่กว่าต้นไม้ปกติมาก

 

“ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะรีบจัดการเรื่องเสบียงให้เสร็จ”อู่หมิงว่าพลางมองสิ่งต่างๆที่ไปจูเหวินนํามาอย่างตื้นตันใจมิน่าเล่าไปจูเหวินถึงมั่นใจนักว่าจะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้

 

หลังจากนั้นอี้หมิงก็ประสานงานทั้งทางเขตการเก ษตรและแนวหน้าเรื่องการใช้มังกรส่งเสบียงนอกจากนี้ยังส่งขุนนางคนหนึ่งที่รับผิดชอบเรื่องการน้ําจากสระชีพจรวา รีไปหยดในบ่อน้ําสําหรับเพาะปลูกของเขตการเกษตรทั้งหมด ไม่นานระบบการใช้มังกรส่งเสบียงก็ทํางานอ ย่างมีประสิทธิภาพทําให้ปัญหาเรื่องเสบียงหมดลงไปอย่าง สิ้นเชิง ทําเอาเหล่าชาวเมืองต่างขนาดนามธุ์หมิงว่าเป็นจักรพรรดิผู้ควบคุมมังกรเลยทีเดียว แม่จริงๆจะคนคุ มจะเป็นไปจูเหวินก็ตาม

 

เพียงแต่ถึงการส่งเสบียงจะไม่มีปัญหาแล้วก็ตาม สถาณ การณ์รบก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ทุกวันนี้อาณาจักรอู่ก็ยังตกอยู่ในส ถาณการณ์ที่บีบบังคับให้ตั้งรับตลอดเพราะอาณาจักรอัว จง และ ซุย ยังโจมตีมาอย่างต่อเนื่อง แถมอาณาจักรชูที่พึ่งจัดพิ ธีศพขององค์ชายชูเฟิงเสร็จไปยังมีท่าที่จะประกาศสงคราม กับอาณาจักรอู่อีกต่างหาก ยามนี้อยู่ที่ว่าคําสั่งเสียของชูเฟิงจะยังมีผลอยู่ถึงเมื่อไหร่ แม้ไม่ต้องไปยังอาณาจักรซูอี้หมิง ก็พอนึกภาพออกว่าองค์จักรพรรดิองค์ปัจจุบันของอาณาจักรชูกําลังโดนเหล่าขุนนางกดดันแค่ไหน

 

“ไปจูเหวิน”อูหมิงที่เรียกไปจูเหวินเข้ามาในท้องพระโร งพูดพลางนําจวดแก้วขวดหนึ่งออกมาภายในนั้นปรากฏอสูรแมลงอย่างปรสิตนั้นเอง

 

“เจ้าสามารถควบคุมสิ่งนี้ได้หรือไม่” อู่หมิงถามเพราะ เห็นความสามารถควบคุมอสูรของไปจูเหวินมาแล้วกับตาคนที่สามารถควบคุมมังกรได้ทั้งฝูงย่อมมีความสามารถด้านนี้อย่างแน่นอน

 

“ได้ขอรับ”ไปจูเหวินตอบ อสุรปรสิตสามารถฟังภาษาม นุษย์ออก หากไปจูเหวินเป็นคนออกปากย่อมสามารถขอให้มันทําอะไรก็ได้

 

“เช่นนั้น เจ้าช่วยมากับข้าได้หรือไม่” คู่หมิง ว่าพลางลุกขึ้นยืน

 

“ไปที่ไหนกัน?”ไปจูเหวินขมวดคิ้ว เวลาสงครามเช่นนี้อู่ห มิงไม่ควรออกจากวังเสียด้วยซ้ํา

 

“ไปอาณาจักรชู ข้าอยากจะลบมลทินให้กับซู หลานและพูดคุยกับจักรพรรดิของอาณาจักรชูด้วย”อูหมิงตอบพลางมองเหล่าขุนนางรอบๆ พวกมันไม่มีท่าที่จะห้าม แต่อย่างไร เพราะพวกมันต่างทราบสถาณการณ์ดียามนี้ อาณาจักรอุ้ใช้สุดความสามารถต้านรับศึก 3 ด้านอยู่แล้วหากไม่ทําอะไรสักอย่างและปล่อยให้อาณจักรชูประกาศสงค รามมาอีกอาณาจักรยามนั้นคงได้แต่มองดูเมื่อ งค่อยๆโดนยึดไปที่ละเมืองเท่านั้น

 

“แน่ใจหรือ หากท่านพี่ไม่อยู่แล้วใครจะสั่งการ แทนล่ะ”จ่อหลานองค์หญิงอันดับ 1 ถามพลางมองอูหมิงที่เตรียมจะออกเดินทาง

 

“เรื่องนั้นข้าฝากเจ้าด้วย ตอนนี้เป็นช่วงดุเชิงคงไม่มีอะ ไรให้เจ้าปวดหัวมาก แต่หากเกิดอะไรขึ้นข้ามอบอํานาจให้เจ้าสั่งการได้เลย”อู่หมิงว่าพลางมองจื่อหลานนิ่ง

 

“จะดีหรือ หากข้าใช้แผนแย่ๆขึ้น มาล่ะ”จ่อหลานยิ้มพลางจ้องมองพี่ใหญ่ของตนนิ่ง

 

“ข้าเชื่อว่าเจ้าฉลาดกว่านั้น”อู่หมิงตอบเสียงเรียบ แม้ นางจะชอบพูดแผนร้ายๆออกมาก่อนอย่างการทิ้งประชาชนหรือปล้นประชาชน แต่ส่วนใหญ่ก็เพื่อลองใจอี้หมิงเท่านั้น

 

“แหม พี่ใหญ่ชมข้าเกินไปแล้ว” จื่อหลานว่าพลางยิ้มห วาน ตลอดเวลาที่นางช่วยเหลืองานธุ์หมิงมาเหล่าขุนนางก็ได้เห็นความสามารถของนางกันแล้ว ทําให้พวกมันไม่มีอะไรจะท้วงแต่อย่างไร

 

“ถ้างั้นข้าก็ขอฝากด้วยแล้วกัน” อูหมิงว่าพลางพาองค รักษ์ออกไปกับไปจูเหวิน โดยการเดินทางครั้งนี้พวกมันจะขี่มังกรตนหนึ่งที่อยู่รับใช้อยู่ที่วังเพื่อเดินทางไปยังเขตของอาณาจักรชู ทําให้ไปจูเหวินไม่ได้เอาพวกหลินหลินไปเหลือแต่อสูรปักเป้าเท่านั้นที่บินตามไปเอง

 

“เฮ้ย ทําไมจูเอ๋อเดินทางไปอาณาจักรอื่นอีกล่ะ”ราช สีห์เพลิงว่าพลางมองภาพเบื้องล่างจากบนหลังของไก่ฟ้าหงอนทอง

 

“เดี๋ยวสิ รอลูกน้องข้าขึ้นมารายงานก่อน”ไก่ฟ้า หงอนทองโวยพลางกระพือปีกถอยหลังออกไปเพราะกลัวว่าไปจูเหวินจะจับสัมผัสได้ ระยะจับสัมผัสของไปจู เหวินยิ่งกว้างกว่าปกติมากด้วย

 

“ทําไมลุกน้องเจ้าบินช้านักเล่า เอาตัวที่มันใหญ่ๆบินเร็วๆ มารายงานไม่ดีกว่าเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองลูกนกที่พยายามบินขึ้นมาหาไก่ฟ้าหงอนทองที่ลอยอยู่ด้านบน

 

“ขึ้นใช้ตัวใหญ่ๆจูเอ๋อก็จับสัมผัสได้พอดีกัน”ไก่ฟ้า หงอนทองว่าพลางรอให้ลูกนกตัวเท่าลูกเจี๊ยบบินขึ้นมาจนถึงข้างหูมันเจ้าลูกนกส่งเสียงจิ้บๆไม่นานไก่ฟ้า หงอนทองก็พยักหน้าเข้าใจช้าๆ

 

“ดูเหมือนจูเอ๋อจะไปกับองค์ชายเพื่อเจรจาเรื่องบางอย่าง ที่อาณาจักรงหรือจูนี่ล่ะ”ไก่ฟ้าหงอนทองตอบพลางกระพือปีกตามมังกรที่ไปจูเหวินขี่ไปช้าๆ

 

“จริงอย่างที่ลูกน้องเจ้าเลย สถาณการณ์แบบนี้ไม่สู้ดีจ ริงๆ” ขณะกําลังบินตามไปจูเหวิน พวกราชาก็ได้เห็นสภาพการรบเบื้องล่างระหว่างบินผ่าน เมืองหน้าด่านแต่ละเมื่อ งต่างโดนข้าศึกรุมล้อมไม่ต่ํากว่า 2 – 3 เท่าต้องบอกว่า เหลือเชื่อมากแล้วที่เมืองไม่แตกเสียที

 

“เอาไงดี ลงไปช่วยสักหน่อยไหม” ราชสีห์เพลิงถามพลาง เรียกลูกไฟออกมรอบๆตัว ด้านล่างมีคนระดับเทียนเซียนขั้น 10 อยู่ไม่น้อยบ้างยังมียอดฝีมืออีกด้วย ท่าทางจะได้สนุก แน่ๆ

 

“นี่ไม่ใช่เขตของเรานะ” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางเดินมามองส นามรบเบื้องล่าง ที่นี่เป็นเมืองต่อจากเมืองที่จัดพิธีอภิเษกขอ งซูหลาน ทําให้ภายในเมืองมีเซียนหมัดอยู่ด้วย แต่อีกฝั่งก็เตรียมตัวมาดีไม่น้อย คนระดับยอดฝีมือก็เอามาถึง 2 คนเพื่อจัดการเซียนหมัดโดยเฉพาะ

 

“ในฐานะราชาแล้ว เราไม่ควรเข้าไปสอดการต่อสู้ของ อาณาจักรอื่น” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางมองกองกําลังเบื้องล่างนิ่ง

 

“แต่ตอนนี้ราชามีแค่มังกรธรณีตนเดียวเท่านั้นไม่ใช่ เหรอ”ราชสีห์เพลิงยิ้มกว้าง ตอนนี้แม้จะยังถูกเรียกว่าราชาแต่พวกมันก็ยอดเขตทั้งหมดให้มังกรธรณีไปแล้วจริงๆ

 

“ก็ใช่ไง” เปรี้ยง! พยัคฆ์อัสนีพูดจบร่า งของมันก็แปลเปลี่ยนเป็นสายห้าพุ่งวาบลงไปกลางวงล้อมของศัตรูที่ล้อมเมืองของอาณาจักรอู่เอาไว้

 

“นานๆทีก็ออกแรงสักน่อยเถอะ”ราชสีห์เพลิงยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโดดลงไปร่วมการต่อสู้ด้วยอีกคน

 

ตูม! บริเวณที่ราชสีห์เพลิงตกลงไปทําเอารอบๆเผาไห ม้และกลายเป็นหลุมราวกับอุกกาบาตตกกระแทกพื้น

 

“เกิดอะไรขึ้น” นอกจากคนของฝ่ายอาณาจักรฮัวแล้วแม้ แต่พวกคนในเมืองของอาณาจักรอี้ยังพากันตกใจกันยกใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“มะ ไม่ทราบขอรับ เมื่อครู่เหมือนมีสายฟ้าฟาดใส่ กลางกลุ่มข้าศึก หลังจากนั้นก็มีลูกไฟตกลงมาอีกลูกขอรับ” ทหารรายงานด้วยสีหน้าแตกตื่น เพราะระยะ ห่างค่อนข้างมากพวกทหารของอาณาจักรภู่จึงไม่ทราบว่าที่ตกลงมาคืออะไร

 

“หรือสวรรค์จะลงทัณฑ์พวกมันแล้ว”เจ้า เมืองว่าพลางยิ้มออกมา

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+