บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 289 เมืองสาขา

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 289 เมืองสาขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 289 เมืองสาขา

ตอนที่ 289

 

เมืองสาขา

 

“ไป๋หลิน ทําไมเจ้าถึงยอมให้พวกนั้นจับตัวกัน”ไป๋จูเหวินถาม หลังจากพิธีแต่งงานของต้าชิงและต้าเฉินจบลงด้วยดี

 

“ก็ข้าเห็นท่านพ่อมาแล้วนี่นา”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ นางมีประสาทสัมผัสที่ดีเช่นเดียวกับไป๋จูเหวิน นางสมควรจะรู้ตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือว่าพวกคนชุดม่วงนั้นจ้องจะจับตัวนางอยู่

 

“ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการให้พ่อไปจัดการพวกมันหรือไง”ไป๋จูเหวิน ถามพลางบีบจมูกของไป๋หลินเบาๆ แม้จะพึ่งอายุใกล้ 5 ขวบเท่านั้นแต่ไป๋หลินก็เป็นเด็กที่ฉลาดไม่น้อย ไป๋จูเหวินไม่คิดว่านางจะเป็นคนที่ยอมโดนจับได้ง่ายๆโดยไม่ทําอะไร

 

“ก็…พวกนั้นวางแผนจะปวนงานแต่งของอาชิงอาเฉินนี่นา”ไป๋หลินว่าพลางทําแก้มปอง แม้จะอยู่ไกลแต่ไป๋หลินก็ได้ยินที่พวกคนชุดม่วงพูดคุยกัน ทําให้นางไม่พอใจอย่างมากที่พวกนั้นวางแผนจะทําให้ให้งานแต่งของอาชิงอาเฉินต้องปั่นป่วน แถมนางยังสัมผัสพลังของไป๋จูเหวินได้ตั้งแต่ไกล เลยยอมให้พวกมันเข้ามาจับตัวแต่ก็พลาดไปนิดหน่อยตรงที่พวกมันยกตัวพี่ไป๋ไปกับหลินหลินไม่ไหว ไม่อย่างนั้นพวกมันคงพานางกับพวกพี่ๆไปที่สํานัก พอท่านพ่อไปช่วยพวกมันก็จะโดนจับคาหนังคาเขาหาข้ออ้างอะไรไม่ได้อีก แต่ถึงอย่างนั้นท่านพ่อก็ตามไปจัดการให้อยู่ดี แถมท่านอาเทียนเหวินยังมาช่วยกดดันให้อีก นับว่าประสบความสําเร็จมากกว่าที่คิดไว้อีก

 

“เจ้านี่นะ อย่าไปหลอกใช้คนอื่นนักสิ”ไป๋จูเหวินถอนหายใจ พลางมองลูกสาวที่กําลังหัวเราะคิกคักอยู่บนหลังของหลินหลินอย่างอารมณ์ดี

 

“ไป๋หลิน เจ้าต้องขอโทษท่านพ่อไม่ใช่หรือยังไง ท่านพ่อเป็นห่วงเจ้านะ” เหม่ยหลินว่าพลางนั่งลงข้างๆไป๋หลิน แม้จะวางแผนเอาไว้แล้ว แต่นางก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงแบบนี้

 

“ขอโทษค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะแหะๆออกมา

 

“ไป๋หลินดูสิ ตรงนั้นมีขบวนรถด้วย”ไป๋ไปว่าพลางชี้ไปทางเส้นทางดินที่ไป๋จูเหวินเคยเดินทางร่วมกับขบวนสินค้ามาก่อน ตอนนี้ไป๋จูเหวินใช้หลินหลินเดินทางทําให้ไม่ต้องใช้ทางดินเหมือนรถม้า แม้จะเดินทางลําบากนิดหน่อยเพราะขาของหลินหลินจมลงไปในทราย แต่เพราะขนาดใหญ่โตของนางทําให้ไม่เป็นปัญหาอะไรมากนอกจากเดินช้าลงเท่านั้น

 

“ว้าว ยาวเหยียดเลย”ไป๋หลินว่าพลางลุกไปดูขบวนสินค้าที่เดินทางกันบนทางดิน ทําเอาเหม่ยหลินที่พยายามจะดุไป๋หลินได้แต่ถอนหายใจ

 

“แต่ก็น่าคิดถึงเหมือนกันนะ” เหม่ยหลินว่าพลางหัวเราะออกมาจะว่าไปตอนเดินทางกับขบวนสินค้าไป๋จูเหวินแสดงท่าที่หึงหวงออกมานี่นา

 

หมับไป๋จูเหวินได้ยินเช่นนั้นก็ดึงเหม่ยหลินมานั่งข้างๆ พลางโอบนางเอาไว้เหมือนตอนเดินทางด้วยรถม้าตอนนั้นไม่มีผิด

 

“ท่านพี่”เหม่ยหลินยิ้มพลางซบไหล่ของไป๋จูเหวินช้าๆ

 

“ท่านพ่อๆ พวกเขาโบกมือให้เราด้วย”ไป๋หลินว่าพลางยกมือทักทายกับขบวนสินค้า

 

“พวกเขาคงชินแล้วล่ะนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ ไป๋จูเหวินต้องเดินทางมาอาณาจักรชินบ่อยๆเพราะคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอาณาจักรในที่สุดก็คือตัวไป๋จูเหวินนี่ล่ะ ทําให้เทียนเหวินไหว้วานมันบ่อยๆ แม้ตอนนั้นมันจะให้หงเยว่เป็นคนพามา แต่แมงมุมยักษ์ที่เดินไปมาในทะเลทรายก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของไป๋จูเหวินไปแล้ว ทําเอาขบวนสินค้าไม่แม้แต่จะกลัว แถมยังโบกมือทักทายอีกต่างหาก

 

สุดท้ายไป๋จูเหวินก็ต้องเดินทางร่วมกับขบวนสินค้าบ่อยๆเพราะนอกจากจะไม่โดนอสูรเล่นงานแล้วพวกโจรยังไม่กล้าเข้าใกล้แมงมุมยักษ์อีกต่างหาก ทําให้ในเส้นทางทะเลทรายแห่งนี้แมงมุมยักษ์กลายเป็นเทพคุ้มครองของเหล่านักเดินทางไปเลย และแน่นอนชื่อเสียงของไป๋จูเหวินก็ดังขึ้นในทางแปลกๆอีกต่างหาก

 

“ท่านพ่อ พอผ่านทะเลทรายนี้ไปเราจะไปเมืองหลวงของอาณาจักรชินกันใช่ไหมเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางกลับมานั่งบนตักของไป๋จูเหวิน

 

“ยังหรอก ก่อนจะไปที่นั่นเราต้องไปอีกที่ก่อน”ไป๋จูเหวินพูดพลางยิ้มบางๆ งานหลักๆของไป๋จูเหวินนั้นก็เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พวกมันจะไปนี่เอง

 

“นั่นมัน เหมือนเมืองร้อยแปดอสูรเลย”ไป๋หลินว่าพลางมองเมืองที่หลินหลินกําลังเดินทางเข้าไป

 

“ใช่ มันคือเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินยังไงล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ แม้โครงสร้างส่วนใหญ่จะลอกเมืองร้อยแปดอสูรมาเลยแต่ภายในก็มีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปไม่น้อย

 

ซึ่งเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินนั้นก็คือกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรชินเช่นกัน โดยไป๋จูเหวินที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสุรนั้นได้ส่งรองหัวหน้าคนก่อนมาดํารงตําแหน่งหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรที่อาณาจักรชิน และใช้พื้นที่เดิมของกลุ่มเขี้ยวโลหิตเพื่อสร้างเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินขึ้นมาใหม่ เพราะกลุ่มเขี้ยวโลหิตเดิมก็ทําหน้าที่หาทรัพยากรมาส่งตลาดของอาณาจักรซินเช่นกัน แม้การทําลายกลุ่มเขี้ยวโลหิตไปได้จะช่วยให้ราชวงศ์ชินพ้นภัย แต่ก็ทําให้ขาดกลุ่มงานล่าทรัพยากรในอาณาจักรชินเช่นกัน หลังจากปรึกษากับองค์จักรพรรดิไป๋จูเหวินก็ตกลงเข้ามาสร้างกลุ่มนักล่าอสูรในอาณาจักรชินนั่นเอง แต่เพราะระบบทํางานต่างกับของกลุ่มเขียวโลหิตมากไป๋จูเหวินจึงต้องเข้ามาดูแลบ่อยๆ แม้จะผ่านไป 5 ปีแล้วก็ยังไม่เข้าร่องเข้ารอยเลย

 

“เอ๋ งานอีกแล้วเหรอ”ไป๋หลินบ่นพลางมองไป๋จูเหวินที่กําลังเข้าไปในห้องประชุมของวังกิเลนซึ่งเป็นวังของเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรซิน

 

“พ่อถึงได้บอกเจ้าไงว่าพ่อต้องทํางาน”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวไป๋หลินเบาๆ

 

“งั้นไป๋หลินจะช่วยท่านพ่อทํางานด้วย”ไป๋หลินว่าพลางยกมือเหมือนจะช่วยอาสางานเอง

 

“ฮะๆ ไม่ต้องหรอก”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ มันรู้ว่าไป๋หลินฉลาด แต่ไป๋จูเหวินก็ไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเหนื่อยกับงานของตัวเองหรอก

 

“แต่ข้าเรียนกับท่านน้ามังกรมาแล้วนะ รับรองว่าต้องช่วยท่านพ่อได้แน่ๆ”ไป๋หลินว่าพลางยกมือขึ้นสองข้าง

 

“ก็ได้ งั้นเจ้ากับพวกไป๋ไปไปตรวจตราในเมืองตอนที่พ่อประชุมนะ หงเยว่เจ้าไปกับพวกนางด้วย”ได้ยินเช่นนั้นไป๋หลินก็ยิ้มกว้างทันที

 

“รับทราบเจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มพลางพาพวกไป๋ไปออกไปจากวังมังกรในทันที ทําเอาไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินได้แต่หัวเราะกันอยู่ด้านหลัง

 

“ท่านหัวหน้า” รองหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรคนก่อนพูดพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินก่อนจะพาไป๋จูเหวินเข้าไปในห้องประชุมเพื่อปรึกษาหารือกับคนอื่นๆ แม่ไป๋จูเหวินจะบอกพวกต้าชิงต้าเฉินว่าจะให้รองหัวหน้าคนเก่ามารับตําแหน่งแทนพวกมันที่ไปอยู่กับสํานักเทพจุติ แต่งานที่นี่ก็คงยุ่งไปอีกพักใหญ่ รองหัวคนก่อนทั้งซ้ายทั้งขวาต่างงานยุ่งจนล้นมือคงต้องให้ตําแหน่งรองหัวหน้าที่สาขาใหญ่ว่างไปก่อน

 

“สุดท้ายก็เหมือนให้ข้ามาเที่ยวชมเมืองเลยนี่นา” ทางด้านไป๋หลิน พอออกมาในเมืองได้พักหนึ่งก็เริ่มเอะใจกับภารกิจที่ไป๋จูเหวินมอบให้

 

“คิกๆ พวกเจ้าเป็นเด็กก็ทําตัวให้สมเด็กหน่อยเถอะ” หงเยว่ว่าพลางเดินตามพวกเด็กๆไปอย่างอารมณ์ดี ช่วงหลังมานี่นางช่วยงานอยู่ที่เมืองร้อยแปดอสูรอาณาจักรอยู่ตลอด ได้ออกมาผ่อนคลายกับพวกหลินหลินแบบนี้ก็โล่งขึ้นมาก

 

“ถ้างั้นพี่เยวพาข้าไปเที่ยวในตลาดหน่อยสิ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปที่ตลาดในเมือง กว่าพวกไป๋จูเหวินจะเดินทางมาถึงก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทําให้ผู้คนต่างพากันออกมาจับจ่ายใช้สอยในตลาดกันมากมาย แต่จํานวนคนก็น้อยกว่าคนของเมืองร้อยแปดอสูรในอาณาจักรอู๋หลายเท่า อาจจะเพราะเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินพึ่งสร้างเสร็จได้ไม่กี่ปีกระมัง

 

“พี่เยว่ นั่นอะไรเหรอ”ไป๋หลินถามพลางชี้ไปทางชายคนหนึ่งที่กําลังแบกแท่งฟางที่มีไม้เสียบอยู่ตามฟาง บนไม้เสียบเหล่านั้นมีบางอย่างสีแดงๆอยู่

 

“ พุทราเชื่อมเสียบไม้ละมั้ง เจ้าอยากกินงั้นหรือ” หงเยว่ถามพลางมองทางไป๋หลิน จะว่าไปนางก็อยู่แต่ในเขตอสูรมาตลอดนี่นา

 

“กินได้ด้วยเหรอ”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีสนใจ นางมองไกลๆนึกว่าเป็นของเล่นหรือเครื่องประดับเสียอีก

 

“ได้สิ แต่พี่ก็ไม่เคยกินหรอกนะ” หงเยวตอบพลางยิ้มบางๆ อสุรอย่างนางไม่ค่อยได้กินของกินมนุษย์เท่าไหร่หรอก ยิ่งช่วงหลังพลังของนางพัฒนาขึ้นแค่แก่นอสูรไม่กี่ก้อนก็อิ่มไปหลายวันแล้ว

 

“อื้อ ข้าอยากลอง”ไป๋หลินพยักหน้าพลางส่งสายตาอ้อนไปทางหงเยว่ ทําให้หงเยวยิ้มตอบก่อนจะเดินไปซื้อพุทราเชื่อมมาให้นาง แน่นอนว่านางไม่ลืมเอามาให้หลินหลิน ปิงปิง และ ไป๋ไปที่ทําหน้าเหมื่นอยากจะลองบ้าง

 

“ไม่อร่อยเลยอ่า” หลินหลินพูดพลางกัดพุทราเชื่อมไปพร้อมกับไม้เสียบ ช่วยไม่ได้นี่นานางชอบกินแต่แร่นี่นา แต่ถึงจะอย่างนั้นไป๋หลิน ไป๋ไป กับ ปิงปิงดูท่าจะชอบกันมาก แม้ปิงปิงจะแช่แข็งมันก่อนกินก็ตาม

 

แกรัก…เห็นคนอื่นๆกินกันหลินหลินเองก็ไม่อยากแปลกแยก นางเอาแร่สีแดงออกมา 5 ก้อนก่อนจะสร้างแท่งโลหะออกมาแท่งหนึ่งแทงใส่แร่พวกนั้นจนดูเหมือนพุทราเชื่อมไม่มีผิด ก่อนจะกัดกินทั้งๆแบบนั้นทําเอาหงเยาหัวเราะออกมาทันที

 

“พี่ไป๋ไปไม่กินเหมือนพี่หลินหลินเหรอ”ไป๋หลินถามพลางมองมาทางไป๋ไป นางเองก็เป็นมังกรหิน จะกินแร่บ้างก็ไม่แปลก

 

“ข้ากินได้หมดล่ะ”ไป๋ไปว่าพลางเคี้ยวพุทราเชื่อมตุ้ยๆ ถึงหงเยว่ จะบอกพวกนางว่าอย่ากินไม้เสียบเข้าไปด้วยคงไม่ทันแล้วละมั้ง โชคดีที่ไป๋หลินไม่ได้ทําตามด้วย

 

“คุณป้าคะ อันนั้นคืออะไรเหรอ”ไป๋หลินกินพุทราเชื่อมจนหมดแล้วหันไปมองร้านอาหารด้านข้างทันที นางไม่จําเป็นต้องกินอะไรเพื่อให้ท้องอิ่ม แต่การกินก็เป็นเรื่องที่หลายๆคนชอบ แน่นอนว่านางได้นิสัยนี้มาจากหลินหลินนั่นเอง

 

“จะจ่ะ…”คุณป้าคนขายตอบด้วยท่าที่สั่นเทา ที่นี่ไม่เหมือนเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรอู่ที่ไป๋หลินไปที่ไหนทุกคนก็ทราบดีว่านางคือบุตรสาวของเหม่ยหลินเพราะหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่เมืองร้อยแปดอสูรแห่งนี้ยังไม่เคยเห็นเหม่ยหลินภรรยาของหัวหน้ากลุ่มสาขาใหญ่ ทําให้พวกมันพากันตกใจกันจนตัวสั่นที่มีอสูรที่น่ากลัวมาเดินในเมือง หากไม่ใช่เพราะมีหงเยวที่มากับไป๋จูเหวินบ่อยๆเดินมาด้วยตลาดคงวายไปนานแล้ว

 

“ขอบคุณค่ะท่านป้า” แม้จะไม่ทราบว่าทําไมป้าคนขายอาหารถึงให้อาหารมาฟรีๆ แต่ไป๋หลินก็ยิ้มรับและขอบคุณอย่างน่ารักทําให้คุณป้ามีท่าที่ผ่อนคลายลงมาก

 

“ไป๋หลิน พ่อของเจ้าได้สอนการใช้เงินหรือเปล่า”หงเยวถามพลางมองไป๋หลินที่รับของมาฟรีๆโดยไม่ได้จ่ายเงินแต่อย่างไร

 

“ยังไม่ได้สอนค่ะ”ไป๋หลินตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ เพราะตอนแรกไป๋จูเหวินคิดจะให้ไป๋หลินอยู่ในเขตอสูรไปก่อนเลยยังไม่ได้สอนวิธีใช้เงิน แถมในเมืองร้อยแปดอสูรก็ไม่ได้ใช้เงินไปสํานักเทพจุติก มีเรื่องเสียก่อนยังไม่ได้ลงไปเที่ยวในตลาดเลย

 

“เวลาเจ้าจะซื้อของจากร้านค้าเจ้าต้องจ่ายเงินด้วยเข้าใจไหม” หงเยวว่าพลางยื่นเงินให้ป้าคนขาย แม้นางจะมีท่าทีเกรงใจ แต่พอโดนหงเยว่ก็บอกกับนางว่าเพื่อสอนน้องสาวป่าเจ้าของร้านก็รับไปแต่โดยดี

 

“คะ ข้าจะจําเอาไว้”ไป๋หลินตอบพลางมองไปทางป้าคนขาย

 

“ท่านป้า คราวหน้าข้าจะจ่ายเงินเองนะ”ไป๋หลินว่าพลางทําหน้าสํานึกผิด

 

“จะสาวน้อย คราวหน้ามาอีกนะ” ป้าเจ้าของร้าน ยิ้มด้วยใบหน้าชื่นใจหากไม่เกรงใจหงเยวที่เป็นอสูรประจําตัวของท่านหัวหน้าสาขาใหญ่ละก็นางคงขอเข้าไปกอดสักที่แล้วแน่ๆ

 

“พี่เยว่ ข้าขอไปอีกที่ได้ไหม”ไป๋หลินว่าพลางเดินออกมาจากตลาดหลังจากเที่ยวจนหมดตลาดแล้ว

 

“ไปที่ไหนล่ะ?”หงเยวถามพลางขมวดคิ้วงงๆ

 

“ข้าอยากไปเขต 1”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง ที่นี่เองก็แบ่งออกเป็น 11 เขตเช่นเดียวกับเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรอู่เช่นกันแต่ไป๋หลินจะไปเขต 1 ทําไมกัน?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 289 เมืองสาขา

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 289 เมืองสาขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 289 เมืองสาขา

ตอนที่ 289

 

เมืองสาขา

 

“ไป๋หลิน ทําไมเจ้าถึงยอมให้พวกนั้นจับตัวกัน”ไป๋จูเหวินถาม หลังจากพิธีแต่งงานของต้าชิงและต้าเฉินจบลงด้วยดี

 

“ก็ข้าเห็นท่านพ่อมาแล้วนี่นา”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ นางมีประสาทสัมผัสที่ดีเช่นเดียวกับไป๋จูเหวิน นางสมควรจะรู้ตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือว่าพวกคนชุดม่วงนั้นจ้องจะจับตัวนางอยู่

 

“ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการให้พ่อไปจัดการพวกมันหรือไง”ไป๋จูเหวิน ถามพลางบีบจมูกของไป๋หลินเบาๆ แม้จะพึ่งอายุใกล้ 5 ขวบเท่านั้นแต่ไป๋หลินก็เป็นเด็กที่ฉลาดไม่น้อย ไป๋จูเหวินไม่คิดว่านางจะเป็นคนที่ยอมโดนจับได้ง่ายๆโดยไม่ทําอะไร

 

“ก็…พวกนั้นวางแผนจะปวนงานแต่งของอาชิงอาเฉินนี่นา”ไป๋หลินว่าพลางทําแก้มปอง แม้จะอยู่ไกลแต่ไป๋หลินก็ได้ยินที่พวกคนชุดม่วงพูดคุยกัน ทําให้นางไม่พอใจอย่างมากที่พวกนั้นวางแผนจะทําให้ให้งานแต่งของอาชิงอาเฉินต้องปั่นป่วน แถมนางยังสัมผัสพลังของไป๋จูเหวินได้ตั้งแต่ไกล เลยยอมให้พวกมันเข้ามาจับตัวแต่ก็พลาดไปนิดหน่อยตรงที่พวกมันยกตัวพี่ไป๋ไปกับหลินหลินไม่ไหว ไม่อย่างนั้นพวกมันคงพานางกับพวกพี่ๆไปที่สํานัก พอท่านพ่อไปช่วยพวกมันก็จะโดนจับคาหนังคาเขาหาข้ออ้างอะไรไม่ได้อีก แต่ถึงอย่างนั้นท่านพ่อก็ตามไปจัดการให้อยู่ดี แถมท่านอาเทียนเหวินยังมาช่วยกดดันให้อีก นับว่าประสบความสําเร็จมากกว่าที่คิดไว้อีก

 

“เจ้านี่นะ อย่าไปหลอกใช้คนอื่นนักสิ”ไป๋จูเหวินถอนหายใจ พลางมองลูกสาวที่กําลังหัวเราะคิกคักอยู่บนหลังของหลินหลินอย่างอารมณ์ดี

 

“ไป๋หลิน เจ้าต้องขอโทษท่านพ่อไม่ใช่หรือยังไง ท่านพ่อเป็นห่วงเจ้านะ” เหม่ยหลินว่าพลางนั่งลงข้างๆไป๋หลิน แม้จะวางแผนเอาไว้แล้ว แต่นางก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงแบบนี้

 

“ขอโทษค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะแหะๆออกมา

 

“ไป๋หลินดูสิ ตรงนั้นมีขบวนรถด้วย”ไป๋ไปว่าพลางชี้ไปทางเส้นทางดินที่ไป๋จูเหวินเคยเดินทางร่วมกับขบวนสินค้ามาก่อน ตอนนี้ไป๋จูเหวินใช้หลินหลินเดินทางทําให้ไม่ต้องใช้ทางดินเหมือนรถม้า แม้จะเดินทางลําบากนิดหน่อยเพราะขาของหลินหลินจมลงไปในทราย แต่เพราะขนาดใหญ่โตของนางทําให้ไม่เป็นปัญหาอะไรมากนอกจากเดินช้าลงเท่านั้น

 

“ว้าว ยาวเหยียดเลย”ไป๋หลินว่าพลางลุกไปดูขบวนสินค้าที่เดินทางกันบนทางดิน ทําเอาเหม่ยหลินที่พยายามจะดุไป๋หลินได้แต่ถอนหายใจ

 

“แต่ก็น่าคิดถึงเหมือนกันนะ” เหม่ยหลินว่าพลางหัวเราะออกมาจะว่าไปตอนเดินทางกับขบวนสินค้าไป๋จูเหวินแสดงท่าที่หึงหวงออกมานี่นา

 

หมับไป๋จูเหวินได้ยินเช่นนั้นก็ดึงเหม่ยหลินมานั่งข้างๆ พลางโอบนางเอาไว้เหมือนตอนเดินทางด้วยรถม้าตอนนั้นไม่มีผิด

 

“ท่านพี่”เหม่ยหลินยิ้มพลางซบไหล่ของไป๋จูเหวินช้าๆ

 

“ท่านพ่อๆ พวกเขาโบกมือให้เราด้วย”ไป๋หลินว่าพลางยกมือทักทายกับขบวนสินค้า

 

“พวกเขาคงชินแล้วล่ะนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ ไป๋จูเหวินต้องเดินทางมาอาณาจักรชินบ่อยๆเพราะคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอาณาจักรในที่สุดก็คือตัวไป๋จูเหวินนี่ล่ะ ทําให้เทียนเหวินไหว้วานมันบ่อยๆ แม้ตอนนั้นมันจะให้หงเยว่เป็นคนพามา แต่แมงมุมยักษ์ที่เดินไปมาในทะเลทรายก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของไป๋จูเหวินไปแล้ว ทําเอาขบวนสินค้าไม่แม้แต่จะกลัว แถมยังโบกมือทักทายอีกต่างหาก

 

สุดท้ายไป๋จูเหวินก็ต้องเดินทางร่วมกับขบวนสินค้าบ่อยๆเพราะนอกจากจะไม่โดนอสูรเล่นงานแล้วพวกโจรยังไม่กล้าเข้าใกล้แมงมุมยักษ์อีกต่างหาก ทําให้ในเส้นทางทะเลทรายแห่งนี้แมงมุมยักษ์กลายเป็นเทพคุ้มครองของเหล่านักเดินทางไปเลย และแน่นอนชื่อเสียงของไป๋จูเหวินก็ดังขึ้นในทางแปลกๆอีกต่างหาก

 

“ท่านพ่อ พอผ่านทะเลทรายนี้ไปเราจะไปเมืองหลวงของอาณาจักรชินกันใช่ไหมเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางกลับมานั่งบนตักของไป๋จูเหวิน

 

“ยังหรอก ก่อนจะไปที่นั่นเราต้องไปอีกที่ก่อน”ไป๋จูเหวินพูดพลางยิ้มบางๆ งานหลักๆของไป๋จูเหวินนั้นก็เกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พวกมันจะไปนี่เอง

 

“นั่นมัน เหมือนเมืองร้อยแปดอสูรเลย”ไป๋หลินว่าพลางมองเมืองที่หลินหลินกําลังเดินทางเข้าไป

 

“ใช่ มันคือเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินยังไงล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ แม้โครงสร้างส่วนใหญ่จะลอกเมืองร้อยแปดอสูรมาเลยแต่ภายในก็มีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปไม่น้อย

 

ซึ่งเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินนั้นก็คือกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรชินเช่นกัน โดยไป๋จูเหวินที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสุรนั้นได้ส่งรองหัวหน้าคนก่อนมาดํารงตําแหน่งหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรที่อาณาจักรชิน และใช้พื้นที่เดิมของกลุ่มเขี้ยวโลหิตเพื่อสร้างเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินขึ้นมาใหม่ เพราะกลุ่มเขี้ยวโลหิตเดิมก็ทําหน้าที่หาทรัพยากรมาส่งตลาดของอาณาจักรซินเช่นกัน แม้การทําลายกลุ่มเขี้ยวโลหิตไปได้จะช่วยให้ราชวงศ์ชินพ้นภัย แต่ก็ทําให้ขาดกลุ่มงานล่าทรัพยากรในอาณาจักรชินเช่นกัน หลังจากปรึกษากับองค์จักรพรรดิไป๋จูเหวินก็ตกลงเข้ามาสร้างกลุ่มนักล่าอสูรในอาณาจักรชินนั่นเอง แต่เพราะระบบทํางานต่างกับของกลุ่มเขียวโลหิตมากไป๋จูเหวินจึงต้องเข้ามาดูแลบ่อยๆ แม้จะผ่านไป 5 ปีแล้วก็ยังไม่เข้าร่องเข้ารอยเลย

 

“เอ๋ งานอีกแล้วเหรอ”ไป๋หลินบ่นพลางมองไป๋จูเหวินที่กําลังเข้าไปในห้องประชุมของวังกิเลนซึ่งเป็นวังของเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรซิน

 

“พ่อถึงได้บอกเจ้าไงว่าพ่อต้องทํางาน”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวไป๋หลินเบาๆ

 

“งั้นไป๋หลินจะช่วยท่านพ่อทํางานด้วย”ไป๋หลินว่าพลางยกมือเหมือนจะช่วยอาสางานเอง

 

“ฮะๆ ไม่ต้องหรอก”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ มันรู้ว่าไป๋หลินฉลาด แต่ไป๋จูเหวินก็ไม่อยากให้ลูกสาวต้องมาเหนื่อยกับงานของตัวเองหรอก

 

“แต่ข้าเรียนกับท่านน้ามังกรมาแล้วนะ รับรองว่าต้องช่วยท่านพ่อได้แน่ๆ”ไป๋หลินว่าพลางยกมือขึ้นสองข้าง

 

“ก็ได้ งั้นเจ้ากับพวกไป๋ไปไปตรวจตราในเมืองตอนที่พ่อประชุมนะ หงเยว่เจ้าไปกับพวกนางด้วย”ได้ยินเช่นนั้นไป๋หลินก็ยิ้มกว้างทันที

 

“รับทราบเจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มพลางพาพวกไป๋ไปออกไปจากวังมังกรในทันที ทําเอาไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินได้แต่หัวเราะกันอยู่ด้านหลัง

 

“ท่านหัวหน้า” รองหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรคนก่อนพูดพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินก่อนจะพาไป๋จูเหวินเข้าไปในห้องประชุมเพื่อปรึกษาหารือกับคนอื่นๆ แม่ไป๋จูเหวินจะบอกพวกต้าชิงต้าเฉินว่าจะให้รองหัวหน้าคนเก่ามารับตําแหน่งแทนพวกมันที่ไปอยู่กับสํานักเทพจุติ แต่งานที่นี่ก็คงยุ่งไปอีกพักใหญ่ รองหัวคนก่อนทั้งซ้ายทั้งขวาต่างงานยุ่งจนล้นมือคงต้องให้ตําแหน่งรองหัวหน้าที่สาขาใหญ่ว่างไปก่อน

 

“สุดท้ายก็เหมือนให้ข้ามาเที่ยวชมเมืองเลยนี่นา” ทางด้านไป๋หลิน พอออกมาในเมืองได้พักหนึ่งก็เริ่มเอะใจกับภารกิจที่ไป๋จูเหวินมอบให้

 

“คิกๆ พวกเจ้าเป็นเด็กก็ทําตัวให้สมเด็กหน่อยเถอะ” หงเยว่ว่าพลางเดินตามพวกเด็กๆไปอย่างอารมณ์ดี ช่วงหลังมานี่นางช่วยงานอยู่ที่เมืองร้อยแปดอสูรอาณาจักรอยู่ตลอด ได้ออกมาผ่อนคลายกับพวกหลินหลินแบบนี้ก็โล่งขึ้นมาก

 

“ถ้างั้นพี่เยวพาข้าไปเที่ยวในตลาดหน่อยสิ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปที่ตลาดในเมือง กว่าพวกไป๋จูเหวินจะเดินทางมาถึงก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทําให้ผู้คนต่างพากันออกมาจับจ่ายใช้สอยในตลาดกันมากมาย แต่จํานวนคนก็น้อยกว่าคนของเมืองร้อยแปดอสูรในอาณาจักรอู๋หลายเท่า อาจจะเพราะเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรชินพึ่งสร้างเสร็จได้ไม่กี่ปีกระมัง

 

“พี่เยว่ นั่นอะไรเหรอ”ไป๋หลินถามพลางชี้ไปทางชายคนหนึ่งที่กําลังแบกแท่งฟางที่มีไม้เสียบอยู่ตามฟาง บนไม้เสียบเหล่านั้นมีบางอย่างสีแดงๆอยู่

 

“ พุทราเชื่อมเสียบไม้ละมั้ง เจ้าอยากกินงั้นหรือ” หงเยว่ถามพลางมองทางไป๋หลิน จะว่าไปนางก็อยู่แต่ในเขตอสูรมาตลอดนี่นา

 

“กินได้ด้วยเหรอ”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีสนใจ นางมองไกลๆนึกว่าเป็นของเล่นหรือเครื่องประดับเสียอีก

 

“ได้สิ แต่พี่ก็ไม่เคยกินหรอกนะ” หงเยวตอบพลางยิ้มบางๆ อสุรอย่างนางไม่ค่อยได้กินของกินมนุษย์เท่าไหร่หรอก ยิ่งช่วงหลังพลังของนางพัฒนาขึ้นแค่แก่นอสูรไม่กี่ก้อนก็อิ่มไปหลายวันแล้ว

 

“อื้อ ข้าอยากลอง”ไป๋หลินพยักหน้าพลางส่งสายตาอ้อนไปทางหงเยว่ ทําให้หงเยวยิ้มตอบก่อนจะเดินไปซื้อพุทราเชื่อมมาให้นาง แน่นอนว่านางไม่ลืมเอามาให้หลินหลิน ปิงปิง และ ไป๋ไปที่ทําหน้าเหมื่นอยากจะลองบ้าง

 

“ไม่อร่อยเลยอ่า” หลินหลินพูดพลางกัดพุทราเชื่อมไปพร้อมกับไม้เสียบ ช่วยไม่ได้นี่นานางชอบกินแต่แร่นี่นา แต่ถึงจะอย่างนั้นไป๋หลิน ไป๋ไป กับ ปิงปิงดูท่าจะชอบกันมาก แม้ปิงปิงจะแช่แข็งมันก่อนกินก็ตาม

 

แกรัก…เห็นคนอื่นๆกินกันหลินหลินเองก็ไม่อยากแปลกแยก นางเอาแร่สีแดงออกมา 5 ก้อนก่อนจะสร้างแท่งโลหะออกมาแท่งหนึ่งแทงใส่แร่พวกนั้นจนดูเหมือนพุทราเชื่อมไม่มีผิด ก่อนจะกัดกินทั้งๆแบบนั้นทําเอาหงเยาหัวเราะออกมาทันที

 

“พี่ไป๋ไปไม่กินเหมือนพี่หลินหลินเหรอ”ไป๋หลินถามพลางมองมาทางไป๋ไป นางเองก็เป็นมังกรหิน จะกินแร่บ้างก็ไม่แปลก

 

“ข้ากินได้หมดล่ะ”ไป๋ไปว่าพลางเคี้ยวพุทราเชื่อมตุ้ยๆ ถึงหงเยว่ จะบอกพวกนางว่าอย่ากินไม้เสียบเข้าไปด้วยคงไม่ทันแล้วละมั้ง โชคดีที่ไป๋หลินไม่ได้ทําตามด้วย

 

“คุณป้าคะ อันนั้นคืออะไรเหรอ”ไป๋หลินกินพุทราเชื่อมจนหมดแล้วหันไปมองร้านอาหารด้านข้างทันที นางไม่จําเป็นต้องกินอะไรเพื่อให้ท้องอิ่ม แต่การกินก็เป็นเรื่องที่หลายๆคนชอบ แน่นอนว่านางได้นิสัยนี้มาจากหลินหลินนั่นเอง

 

“จะจ่ะ…”คุณป้าคนขายตอบด้วยท่าที่สั่นเทา ที่นี่ไม่เหมือนเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรอู่ที่ไป๋หลินไปที่ไหนทุกคนก็ทราบดีว่านางคือบุตรสาวของเหม่ยหลินเพราะหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่เมืองร้อยแปดอสูรแห่งนี้ยังไม่เคยเห็นเหม่ยหลินภรรยาของหัวหน้ากลุ่มสาขาใหญ่ ทําให้พวกมันพากันตกใจกันจนตัวสั่นที่มีอสูรที่น่ากลัวมาเดินในเมือง หากไม่ใช่เพราะมีหงเยวที่มากับไป๋จูเหวินบ่อยๆเดินมาด้วยตลาดคงวายไปนานแล้ว

 

“ขอบคุณค่ะท่านป้า” แม้จะไม่ทราบว่าทําไมป้าคนขายอาหารถึงให้อาหารมาฟรีๆ แต่ไป๋หลินก็ยิ้มรับและขอบคุณอย่างน่ารักทําให้คุณป้ามีท่าที่ผ่อนคลายลงมาก

 

“ไป๋หลิน พ่อของเจ้าได้สอนการใช้เงินหรือเปล่า”หงเยวถามพลางมองไป๋หลินที่รับของมาฟรีๆโดยไม่ได้จ่ายเงินแต่อย่างไร

 

“ยังไม่ได้สอนค่ะ”ไป๋หลินตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ เพราะตอนแรกไป๋จูเหวินคิดจะให้ไป๋หลินอยู่ในเขตอสูรไปก่อนเลยยังไม่ได้สอนวิธีใช้เงิน แถมในเมืองร้อยแปดอสูรก็ไม่ได้ใช้เงินไปสํานักเทพจุติก มีเรื่องเสียก่อนยังไม่ได้ลงไปเที่ยวในตลาดเลย

 

“เวลาเจ้าจะซื้อของจากร้านค้าเจ้าต้องจ่ายเงินด้วยเข้าใจไหม” หงเยวว่าพลางยื่นเงินให้ป้าคนขาย แม้นางจะมีท่าทีเกรงใจ แต่พอโดนหงเยว่ก็บอกกับนางว่าเพื่อสอนน้องสาวป่าเจ้าของร้านก็รับไปแต่โดยดี

 

“คะ ข้าจะจําเอาไว้”ไป๋หลินตอบพลางมองไปทางป้าคนขาย

 

“ท่านป้า คราวหน้าข้าจะจ่ายเงินเองนะ”ไป๋หลินว่าพลางทําหน้าสํานึกผิด

 

“จะสาวน้อย คราวหน้ามาอีกนะ” ป้าเจ้าของร้าน ยิ้มด้วยใบหน้าชื่นใจหากไม่เกรงใจหงเยวที่เป็นอสูรประจําตัวของท่านหัวหน้าสาขาใหญ่ละก็นางคงขอเข้าไปกอดสักที่แล้วแน่ๆ

 

“พี่เยว่ ข้าขอไปอีกที่ได้ไหม”ไป๋หลินว่าพลางเดินออกมาจากตลาดหลังจากเที่ยวจนหมดตลาดแล้ว

 

“ไปที่ไหนล่ะ?”หงเยวถามพลางขมวดคิ้วงงๆ

 

“ข้าอยากไปเขต 1”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง ที่นี่เองก็แบ่งออกเป็น 11 เขตเช่นเดียวกับเมืองร้อยแปดอสูรแห่งอาณาจักรอู่เช่นกันแต่ไป๋หลินจะไปเขต 1 ทําไมกัน?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+