บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 292 สุดยอดเมืองหลวง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 292 สุดยอดเมืองหลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 292 สุดยอดเมืองหลวง

ตอนที่ 292

สุดยอดเมืองหลวง

“ทําเมืองที่นี่มันถึงได้แห้งแล้งแบบนี้ล่ะ”ไปจูเหวินถามระหว่างขบวนเสด็จของทั้งอาณาจักรภู่และอาณาจักรชินกําลังเดินทางร่วมกันเพื่อมุ่งไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรโฮ

“เอ่อ…เดี๋ยวเจ้าก็เข้าใจ”องค์ชายใหญ่แห่งอาณาจักรชินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา สภาพบ้านเมืองที่พวกไปจูเหวินผ่านทางมานั้นเรียกได้ว่าไร้ชีวิตชีวาอย่างมาก ทําเอาไปจูเหวินรู้สึกละเหี่ยใจขึ้น มาถนัดตาจะบอกว่าน้ําแล้งก็คงไม่ใช่เพราะทางที่พวกมันผ่านมานั้นกลับมีแม่น้ําสายใหญ่ที่มีน้ําไหลอย่างไม่ขาดแคลนอยู่ตลอด แม้ แต่ปาเขารอบๆเองก็เขียวชอุ่มดีแต่กลับมีเพียงในเมืองเท่านั้นที่ผู้ คนดูจะไม่ค่อยมีความสุขนัก

“อาจจะไม่ใช่เพราะธรรมชาติก็ได้” เหม่ยหลินว่าพลางมองสภาพบ้านเมือง เหตุผลที่ทําให้ภาพดูย่ําแย่เพราะบ้านเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้ซ่อมแซม ทุกบ้านล้วนมีจุดแตกหักทั้งใหญ่เล็กเต็มไปหมดราวกับชาวบ้านในเมืองนี้ไม่มีเงินพอจะซ่อมบ้านตัวเอง

ปังๆๆๆๆ!! ในขณะที่ขบวนเสด็จกําลังแล่นเข้าสู่เมืองหลวง เสียงประทัดก็ดังขึ้นทันที แถมชาวเมืองต่างพากันมาห้อมล้อมขบวนเสด็จส่งเสียงโห่ร้องยินดีจนอื้ออึงไปหมด

“นี่มันอะไรกัน?”ไปจูเหวินที่พึ่งเคยมาครั้งแรกรวมทั้งเหม่ยหลินและลูกสาวเองก็มีท่าที่งุนงงเช่นกัน ไม่ใช่เพราะตกใจเสียงประทัดแต่เพราะการประดับตกแต่งงานพิธีของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรโฮต่างหาก

“ก็อย่างที่เจ้าเห็นนั่นล่ะ” องค์จักรพรรดิพูดพลางเชิดหน้าขึ้นเพื่อตอบรับเสียงต้อนรับของชาวเมือง ภายในกําแพงเมืองหลวงนั้นแตกต่างจากเมืองอื่นๆที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิงราวกับคนละอาณาจักรที่นี่มี การตกแต่งที่หรูหรามาก แม้แต่บ้านชาวบ้านธรรมดายังสร้างด้วยไม้อย่างดีด้วยฝีมืองานที่ประณีตอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่งดงามไปทุกมุมจริงๆ

 

“ยินดีต้อนรับ” ทันทีที่ชบวนเสด็จเดินทางมาถึงภายในวังหลวงที่บันไดทางขึ้นไปยังตัววังปรากฏกลุ่มขุนนางในชุดสีแดงสวยงามจํานวนมากยืนเรียงแถวกันเพื่อต้อนรับการมาถึงของขบวนเสด็จของทั้งสองอาณาจักร

“ยินดีต้อนรับองค์จักรพรรดิอาณาจักรชิน องค์จักรพรรดิอาณาจักร” ชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับด้วยท่าที่ยิ่งใหญ่ เครื่องประดับบนตัวมันนั้นหรูหรามาก เรียกได้ว่าสีแสบตาโดดเด่น กว่าขององค์จักรพรรดิองค์อื่นหลายเท่าตัวทําเอาไปจูเหวินได้กลิ่นแปลกๆขึ้นมาทันที

“เป็นอาณาจักรในฝันสินะ” เหม่ยหลินว่าพลางเดินออกมาจากรถม้าแทบไม่ต้องเดาก็ทราบได้ทันทีว่าทําไมเมืองอื่นๆถึงมีสภาพเช่นนั้นท่าทางอาณาจักรโฮจะเป็นอาณาจักรที่รีดไถภาษีจากประชาชนเมืองอื่นๆมาปรนเปรอให้เมืองหลวงเมืองเดียวเท่านั้นเห็นท่าที่มีความสุขของชาวเมืองหลวงก็รู้แล้วพวกมันแทบทุกคนจะสวมเสื้อผ้าสวยงามอยู่ในบ้านหรูหราใหญ่โตแต่กลับมีจํานวนน้อยหากเทียบกับเมืองหลวงของอาณาจักรอื่นหรือก็คือความเหลื่อมล้ําทางสังคมสูงมากนั่นเอง

“มาสิหลินเอ๋อ เจ้ามากับแม่มา”เหม่ยหลินพูดพลางชวนให้ไปหลินเดินออกจากรถม้าไปพร้อมกับตนสําหรับเชื้อพระวงศ์ที่เดินทางมานั้นต่างมีพรมแดงปูต้อนรับอยู่แล้ว

 

“ค้า”ไปหลินว่าพลางกระโดดลงจากรถม้าไปด้วยท่าที่น่ารักน่าชังรวมทั้งพวกหลินหลินที่อยู่ในชุดน่ารักกว่าทุกทีอีกต่างหาก

“โอ้ นั่นนะหรือสางงามอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักร” เหล่าขุนนางต่างพากันมองไปทางเหม่ยหลินกันถ้วนหน้าเรื่องความงามของนางนั้นโด่งดังไปจนถึงอาณาจักรอื่นเลยทีเดียว

“แต่ทําไมมากับขบวนเสด็จของอาณาจักรชินล่ะ” ชายคนหนึ่งถามพลางมองเหม่ยหลินและบุตรสาวที่กําลังเดินบนพรมสีแทงที่ปูขึ้นไปถึงตัววัง

“ถ้าจําไม่ผิด นางจะเป็นภรรยาขององค์ชายชินอี้แห่งอาณาจักรชินนะสิ” ชายอีกคนตอบพลางกลืนน้ําลายลงคอสาวงามมีเจ้าของแล้วแม้จะผิดแต่ก็อดที่จะจ้องมองไม่ได้

 

“กรรรร” ยังไม่ทันได้เข้าไปในวัง อยู่ๆสิงโต 2 ตัวก็ลุกพรวดขึ้นขู่ไปทางพวกเหม่ยหลินสองตนนั้นเป็นสิงโตอสูรระดับหยกขาวเป็นอสูรที่แข็งแกร่งมากหากเทียบกับอาณาจักรอื่นที่ไม่ค่อยเลี้ยงอสูรเอาไว้ในวัง

“ท่านแม่สิงโตล่ะ”ไปหลินว่าพลางเดินเข้าไปจับแผงคอของสิงโตอย่างรวดเร็ว ทําเอาเหล่าขุนนางพากันใจหายวาบสิงโตสองตนนี้เป็นสิงโตที่ได้รับมาจากอาณาจักรอื่น มันถูกฝึกมาดีแล้วก็จริงแต่หากเข้าไปจับตัวมันเข้ามีหวังได้เกิดเรื่องแน่

“ไปหลิน อย่าวิ่งแบบนั้นสิจะ” เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มบางๆ ในงานพิธีแบบนี้จะต้องสํารวมแม้เด็กจะไม่โดนต่อว่าเพราะยังเป็นเด็กแต่หากปล่อยไปโดยไม่ว่ากล่าวตักเตือนนางอาจจะทําไปจนโตก็ได้

“ค้า”ไปหลินว่าพลางลูบแผงคอของสิงโตตนหนึ่ง ทําให้สิงโตตัวนั้นส่งเสียงครืดออกมาราวกับแมว

 

“กรรร” กับไปหลินนั้นไม่มีปัญหา เพราะนางมีพลังดึงดูดเหล่าอสูร แต่พวกหลินหลินนั้นไม่ใช่พวกนางเป็นอสูรต่างถิ่นแถมยังมีพลังสูงมากสําหรับสิงโตทั้งสองที่โดนฝึกมาให้คอยตรวงจับเหล่าอสูรที่จะมาทําอันตรายในวังแล้วพวกมันหวาดระแวงเป็นอย่างมาก

 

“ไม่ต้องกลัว พวกนางเป็นพี่ๆของข้าเองไม่ทําอะไรหรอก”ไปหดินยิ้มพลางลูบแผงขนของสิงโตอีกตนเบาๆทําให้สิงโตทั้งสองลดท่าที่ดุร้ายลง

“ท่านหญิง เกรงว่าเราจะให้อสูรเข้าไปในงานไม่ได้นะขอรับ” ชายคนหนึ่งพูดพลางเดินเข้ามาหาเหม่ยหลินด้วยท่าที่ประหม่า

 

“ พวกนางไม่ทําอะไรหรอกเจ้าค่ะ” เหม่ยหลินตอบพลางมองไปทางพวกหลินหลิน แม้จะครู่เดียวแต่พวกสิงโตก็มีปฏิกิริยากับพวกหลินหลินทําให้เหล่าทหารทราบทันทีว่าพวกนางเป็นอสูรเพราะพวกนางไม่มีพลังวิญญาณ

“เจ้าจะบอกว่าให้อสูรของหลานข้าเข้าไม่ได้งั้นหรือ”องค์จักรพรรดิอาณาจักรซินที่มากับไปจูเหวินพูดด้วยท่าที่ประหลาดใจพวกมันไม่เคยพาอสูรมาเลยไม่ทราบกฎข้อนี้ แต่จริงๆเมืองหลวงส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมให้อสูรเข้าอยู่แล้ว

“มะ ไม่ได้ขอรับองค์จักรพรรดิอาณาจักรชิน”ทหารคนนั้นว่าพลางก้มหัวลงต่ํา

“แบบนี้ท่าทางจะเป็นปัญหาเสียแล้ว”อู่หมิงที่พึ่งลงจากรถมาได้ยินเรื่องเข้าให้ ที่ผมของหลินหลินยังมีเครื่องประดับของราชวงศ์อ๋อยู่ทําให้นางไปไหนมาไหนในวังหลวงอาณาจักรธุ์ได้ตามสบาย ส่วนอาณาจักรชิ้นเป็นครอบครัวของไปจูเหวินพวกนางจึงไม่โดนห้าม

“ข้าองค์จักรพรรดิอาณาจักรชินขอเป็นประกันให้พวกนาง เจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าแบบนี้เข้าใจไหม” องค์จักรพรรดิอาณาจักรชินว่าพลางมองไปทางพวกหลินหลินอย่างเอ็นดู มันชวนไปจูเหวินมาโดยไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ตัวมันเองก็ไม่อยากให้พวกหลินหลินต้ องเอาแต่รอด้านนอกเสียเท่าไหร่

“ข้าเองก็รับประกันด้วยเช่นกัน นอกจากหยกในวังแล้วข้ารับประกันว่าพวกนางไม่เป็นอันตรายกับใครหรืออะไรทั้งนั้น” หมิงว่าพลางยิ้มออกมาทําเอาหลินหลินทําแก้มปองทันที เครื่องประดับที่ มันให้นางก็ไม่ได้กินซะหน่อยทําไมทุกคนชอบหยอกนางเรื่องกา รกินอยู่เรื่อยเลย

หลังจากทหารคนนั้นเข้าไปปรึกษาด้านในพักหนึ่งมันก็กลับออกมาและบอกว่าสามารถให้พวกหลินหลินเข้าไปในวังได้แต่ต้องติดแผ่นป้ายทองคําเอาไว้เท่านั้น

 

“สมแล้วที่เป็นงานใหญ่ มีแต่คนใหญ่คนโตมาจริงๆ”อู่เทียนเหวินว่าพลางมองไปรอบๆห้องโถงที่เต็มไปด้วยผู้คนในงานนี้มีแต่คนมีชื่อเสียงของแต่ละอาณาจักรมาทั้งนั้น ไม่ใช่แค่องค์จักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์เท่านั้นยังมีเหล่ายอดฝีมือพ่อค้าชื่อดังรวมทั้งผู้มีชื่อเสียงในด้านต่างๆอีกมากมายที่แค่มองหน้าก็ทราบชื่อทันที

“ว่าแล้วว่าท่านต้องมาฝ่าบาท” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างของหยุนฟางที่เดินเข้ามาหาอี้หมิง ที่ข้างตัวนางนั้นมีเซียนดาบยืนอยู่ด้วยทําให้ทราบได้ทันทีว่าพวกนางถูกเชิญมาในฐานะยอดฝีมือของอาณาจักรอี้นั่นเอง

 

“โถ่เอ้ย ท่านกลับไปฝึกแค่ 5 ปีก็แซงข้าซะแล้วแบบนี้อันดับข้าก็ตกออีกแล้วสิ” หยุนฟางว่าพลางยิ้มร่าไม่ได้มีท่าที่เสียใจอย่างที่พูดเลย

“ขอโทษด้วย” อู่หมิงว่าพลางยิ้มเจื่อนๆช่วงหลังมานี่ชาวบ้านสนใจอันดับจอมยุทธของอาณาจักรมาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าหนังสืออันดับจอมยุทธไปเก็บข้อมูลมาจากไหนถึงได้ทราบระดับพลังและความแข็งแกร่งของแต่ละคนได้แม้แต่อูหมิงที่ไปฝึกวิชากับอาจารย์ที่อาณาจักรชูก็ยังมีการเคลื่อนไหวตลอดราวกับมีคนคอยติดตามดูไม่มีผิด

“ข้าพูดไปอย่างนั้นละ” หยุนฟางว่าพลางหัวเราะร่า

 

“จริงๆข้าดีใจจะตายที่ท่านกลับมา ท่านน่ะไม่เหมาะกับตําแหน่งองค์จักรพรรดิหรอก” หยุนฟางพูดเช่นนั้นออกมากลับทําให้อูหมิง มรับในทันทีตลอดมานี่ก็มีแต่นางกระมังที่ยังคงบอกว่ามันไม่เหมาะกับตําแหน่งองค์จักรพรรดิ

“โอ้ น่านท่านไปไม่ใช่หรือ” อยู่ๆเสียงชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นในงานตัวมันนั้นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราและมีบริวาณเดินตามมาเป็นจํานวนมาก

 

“พูดถึงก็เจอตัวเลย” หยุนฟางว่าพลางทําสีหน้าไม่พอใจเสียเท่าไหร่ ชายที่อยู่หน้าประตูนั้นคือไช่จินเจ้าของสํานักพิมพ์ของหนังสือจัดอันดับจอมยุทธที่ว่ามันส่งศิษย์ของมันออกไปสืบเรื่องราว ในอาณาจักรต่างๆจนมีข่าวกรองมากมายแม้ตอนนี้มันจะ ยังทําหนังสือจัดอันดับจอมยุทธอยู่ แต่เงินที่มันได้จริงๆนั้นมาจากการค้าข่าวทั้งสิ้น ได้ข่าวว่าวิชาของมันแปลกประหลาดจับทางยากมันผสมวิชาตนเองกับวิชาลบพลังวิญญาณของพวกมือสังหารทําให้ลูกศิษย์ของมันไปมาเร้นลับอย่างกับหนูในคูน้ําไม่มีผิด

“ไช่จิน เจ้าเองก็มาด้วยงั้นหรือ”ไปจูเหวินถามพลางมองไช่จินที่เดินเข้ามาไช่จินที่แต่ก่อนเป็นเพียงนักเล่านิทานกลางวงเหล้ายามนี้กลับดูสง่างามราวกับเศรษฐีผู้มั่งคั่งไม่มีผิด แน่นอนเพราะการค้าข่าวของมันนั่นเอง

 

“แน่นอน ข้ามีสาขาตั้งหลายอาณาจักร องค์จักรพรรดิอาณาจักรโฮต้องเชิญข้าอยู่แล้ว”ไช่จินว่าพลางยืดอกอย่างภูมิใจ

“ไปจูเหวินเจ้ารู้จักกับไช่จินด้วยงั้นหรือ”อูหมิงถามพลางมองไช่จินด้วยท่าทีแปลกใจ กลุ่มของไช่จินไปมาลี้ลับไม่แน่นอน ต่อให้เป็นธุ์หมิงต่อให้อยากเจอมันก็ไม่ใช่ว่าจะได้เจอ ไม่คิดว่าไปจูเหิวนจะรู้จักคนเช่นนี้ด้วย

“องค์จักรพรรดิอูหมิง ท่านดูถูกท่านไปเกินไปแล้ว”ไช่จินว่าพลางยิ้มกว้าง

“ท่านไปผู้นี้นอกจากจะเป็นสหายเก่าแก่ของข้าแล้วท่านยังเป็นผู้ร่วมทุนรายใหญ่ของสํานักข้าอีกด้วย เรียกได้ว่าพวกข้านั้นติดหนี้บุญคุณท่านไปอยู่ก็ว่าได้”ไช่จินว่าพลางยิ้มกว้างการประกาศออกไปเช่นนี้ทําให้พวกคนในห้องต่างเข้าใจทันทีว่าเหตุใดไช่จินถึงไม่เคย ขายข่าวเกี่ยวกับกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรอู่เลยโดยเฉพาะสูตร ยาที่ทําให้คนสามารถผสานกับพลังอสูรได้

“โอ้ท่านคือพี่เหม่ยหลินใช่หรือไม่ ข้าไม่ได้ไปร่วมงานแต่งท่านต้องขออภัยด้วย แต่ข้าส่งลูกน้องไปแสดงความยินดีนะ”ไช่จินยิ้มทะเล้นพลางก้มหัวให้เหม่ยหลินอย่างสง่างาม

“นี่คงจะเป็นบุตรสาวของท่านสินะ เรื่องของนางเป็นเรื่องลึกลับหนึ่งสําหรับข้าเลยนะ พี่ไปท่านพานางไปเลี้ยงที่ไหนกันแน่ ลูกน้องของข้ายังตาบสืบไม่เจอเลย”ไช่จินว่าพลางยิ้มร่า ท่าทางมันยังเป็นเจ้าตั้งปวนอารมณ์ดีเช่นเดิม

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 292 สุดยอดเมืองหลวง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 292 สุดยอดเมืองหลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 292 สุดยอดเมืองหลวง

ตอนที่ 292

สุดยอดเมืองหลวง

“ทําเมืองที่นี่มันถึงได้แห้งแล้งแบบนี้ล่ะ”ไปจูเหวินถามระหว่างขบวนเสด็จของทั้งอาณาจักรภู่และอาณาจักรชินกําลังเดินทางร่วมกันเพื่อมุ่งไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรโฮ

“เอ่อ…เดี๋ยวเจ้าก็เข้าใจ”องค์ชายใหญ่แห่งอาณาจักรชินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา สภาพบ้านเมืองที่พวกไปจูเหวินผ่านทางมานั้นเรียกได้ว่าไร้ชีวิตชีวาอย่างมาก ทําเอาไปจูเหวินรู้สึกละเหี่ยใจขึ้น มาถนัดตาจะบอกว่าน้ําแล้งก็คงไม่ใช่เพราะทางที่พวกมันผ่านมานั้นกลับมีแม่น้ําสายใหญ่ที่มีน้ําไหลอย่างไม่ขาดแคลนอยู่ตลอด แม้ แต่ปาเขารอบๆเองก็เขียวชอุ่มดีแต่กลับมีเพียงในเมืองเท่านั้นที่ผู้ คนดูจะไม่ค่อยมีความสุขนัก

“อาจจะไม่ใช่เพราะธรรมชาติก็ได้” เหม่ยหลินว่าพลางมองสภาพบ้านเมือง เหตุผลที่ทําให้ภาพดูย่ําแย่เพราะบ้านเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้ซ่อมแซม ทุกบ้านล้วนมีจุดแตกหักทั้งใหญ่เล็กเต็มไปหมดราวกับชาวบ้านในเมืองนี้ไม่มีเงินพอจะซ่อมบ้านตัวเอง

ปังๆๆๆๆ!! ในขณะที่ขบวนเสด็จกําลังแล่นเข้าสู่เมืองหลวง เสียงประทัดก็ดังขึ้นทันที แถมชาวเมืองต่างพากันมาห้อมล้อมขบวนเสด็จส่งเสียงโห่ร้องยินดีจนอื้ออึงไปหมด

“นี่มันอะไรกัน?”ไปจูเหวินที่พึ่งเคยมาครั้งแรกรวมทั้งเหม่ยหลินและลูกสาวเองก็มีท่าที่งุนงงเช่นกัน ไม่ใช่เพราะตกใจเสียงประทัดแต่เพราะการประดับตกแต่งงานพิธีของเมืองหลวงแห่งอาณาจักรโฮต่างหาก

“ก็อย่างที่เจ้าเห็นนั่นล่ะ” องค์จักรพรรดิพูดพลางเชิดหน้าขึ้นเพื่อตอบรับเสียงต้อนรับของชาวเมือง ภายในกําแพงเมืองหลวงนั้นแตกต่างจากเมืองอื่นๆที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิงราวกับคนละอาณาจักรที่นี่มี การตกแต่งที่หรูหรามาก แม้แต่บ้านชาวบ้านธรรมดายังสร้างด้วยไม้อย่างดีด้วยฝีมืองานที่ประณีตอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่งดงามไปทุกมุมจริงๆ

 

“ยินดีต้อนรับ” ทันทีที่ชบวนเสด็จเดินทางมาถึงภายในวังหลวงที่บันไดทางขึ้นไปยังตัววังปรากฏกลุ่มขุนนางในชุดสีแดงสวยงามจํานวนมากยืนเรียงแถวกันเพื่อต้อนรับการมาถึงของขบวนเสด็จของทั้งสองอาณาจักร

“ยินดีต้อนรับองค์จักรพรรดิอาณาจักรชิน องค์จักรพรรดิอาณาจักร” ชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับด้วยท่าที่ยิ่งใหญ่ เครื่องประดับบนตัวมันนั้นหรูหรามาก เรียกได้ว่าสีแสบตาโดดเด่น กว่าขององค์จักรพรรดิองค์อื่นหลายเท่าตัวทําเอาไปจูเหวินได้กลิ่นแปลกๆขึ้นมาทันที

“เป็นอาณาจักรในฝันสินะ” เหม่ยหลินว่าพลางเดินออกมาจากรถม้าแทบไม่ต้องเดาก็ทราบได้ทันทีว่าทําไมเมืองอื่นๆถึงมีสภาพเช่นนั้นท่าทางอาณาจักรโฮจะเป็นอาณาจักรที่รีดไถภาษีจากประชาชนเมืองอื่นๆมาปรนเปรอให้เมืองหลวงเมืองเดียวเท่านั้นเห็นท่าที่มีความสุขของชาวเมืองหลวงก็รู้แล้วพวกมันแทบทุกคนจะสวมเสื้อผ้าสวยงามอยู่ในบ้านหรูหราใหญ่โตแต่กลับมีจํานวนน้อยหากเทียบกับเมืองหลวงของอาณาจักรอื่นหรือก็คือความเหลื่อมล้ําทางสังคมสูงมากนั่นเอง

“มาสิหลินเอ๋อ เจ้ามากับแม่มา”เหม่ยหลินพูดพลางชวนให้ไปหลินเดินออกจากรถม้าไปพร้อมกับตนสําหรับเชื้อพระวงศ์ที่เดินทางมานั้นต่างมีพรมแดงปูต้อนรับอยู่แล้ว

 

“ค้า”ไปหลินว่าพลางกระโดดลงจากรถม้าไปด้วยท่าที่น่ารักน่าชังรวมทั้งพวกหลินหลินที่อยู่ในชุดน่ารักกว่าทุกทีอีกต่างหาก

“โอ้ นั่นนะหรือสางงามอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักร” เหล่าขุนนางต่างพากันมองไปทางเหม่ยหลินกันถ้วนหน้าเรื่องความงามของนางนั้นโด่งดังไปจนถึงอาณาจักรอื่นเลยทีเดียว

“แต่ทําไมมากับขบวนเสด็จของอาณาจักรชินล่ะ” ชายคนหนึ่งถามพลางมองเหม่ยหลินและบุตรสาวที่กําลังเดินบนพรมสีแทงที่ปูขึ้นไปถึงตัววัง

“ถ้าจําไม่ผิด นางจะเป็นภรรยาขององค์ชายชินอี้แห่งอาณาจักรชินนะสิ” ชายอีกคนตอบพลางกลืนน้ําลายลงคอสาวงามมีเจ้าของแล้วแม้จะผิดแต่ก็อดที่จะจ้องมองไม่ได้

 

“กรรรร” ยังไม่ทันได้เข้าไปในวัง อยู่ๆสิงโต 2 ตัวก็ลุกพรวดขึ้นขู่ไปทางพวกเหม่ยหลินสองตนนั้นเป็นสิงโตอสูรระดับหยกขาวเป็นอสูรที่แข็งแกร่งมากหากเทียบกับอาณาจักรอื่นที่ไม่ค่อยเลี้ยงอสูรเอาไว้ในวัง

“ท่านแม่สิงโตล่ะ”ไปหลินว่าพลางเดินเข้าไปจับแผงคอของสิงโตอย่างรวดเร็ว ทําเอาเหล่าขุนนางพากันใจหายวาบสิงโตสองตนนี้เป็นสิงโตที่ได้รับมาจากอาณาจักรอื่น มันถูกฝึกมาดีแล้วก็จริงแต่หากเข้าไปจับตัวมันเข้ามีหวังได้เกิดเรื่องแน่

“ไปหลิน อย่าวิ่งแบบนั้นสิจะ” เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มบางๆ ในงานพิธีแบบนี้จะต้องสํารวมแม้เด็กจะไม่โดนต่อว่าเพราะยังเป็นเด็กแต่หากปล่อยไปโดยไม่ว่ากล่าวตักเตือนนางอาจจะทําไปจนโตก็ได้

“ค้า”ไปหลินว่าพลางลูบแผงคอของสิงโตตนหนึ่ง ทําให้สิงโตตัวนั้นส่งเสียงครืดออกมาราวกับแมว

 

“กรรร” กับไปหลินนั้นไม่มีปัญหา เพราะนางมีพลังดึงดูดเหล่าอสูร แต่พวกหลินหลินนั้นไม่ใช่พวกนางเป็นอสูรต่างถิ่นแถมยังมีพลังสูงมากสําหรับสิงโตทั้งสองที่โดนฝึกมาให้คอยตรวงจับเหล่าอสูรที่จะมาทําอันตรายในวังแล้วพวกมันหวาดระแวงเป็นอย่างมาก

 

“ไม่ต้องกลัว พวกนางเป็นพี่ๆของข้าเองไม่ทําอะไรหรอก”ไปหดินยิ้มพลางลูบแผงขนของสิงโตอีกตนเบาๆทําให้สิงโตทั้งสองลดท่าที่ดุร้ายลง

“ท่านหญิง เกรงว่าเราจะให้อสูรเข้าไปในงานไม่ได้นะขอรับ” ชายคนหนึ่งพูดพลางเดินเข้ามาหาเหม่ยหลินด้วยท่าที่ประหม่า

 

“ พวกนางไม่ทําอะไรหรอกเจ้าค่ะ” เหม่ยหลินตอบพลางมองไปทางพวกหลินหลิน แม้จะครู่เดียวแต่พวกสิงโตก็มีปฏิกิริยากับพวกหลินหลินทําให้เหล่าทหารทราบทันทีว่าพวกนางเป็นอสูรเพราะพวกนางไม่มีพลังวิญญาณ

“เจ้าจะบอกว่าให้อสูรของหลานข้าเข้าไม่ได้งั้นหรือ”องค์จักรพรรดิอาณาจักรซินที่มากับไปจูเหวินพูดด้วยท่าที่ประหลาดใจพวกมันไม่เคยพาอสูรมาเลยไม่ทราบกฎข้อนี้ แต่จริงๆเมืองหลวงส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมให้อสูรเข้าอยู่แล้ว

“มะ ไม่ได้ขอรับองค์จักรพรรดิอาณาจักรชิน”ทหารคนนั้นว่าพลางก้มหัวลงต่ํา

“แบบนี้ท่าทางจะเป็นปัญหาเสียแล้ว”อู่หมิงที่พึ่งลงจากรถมาได้ยินเรื่องเข้าให้ ที่ผมของหลินหลินยังมีเครื่องประดับของราชวงศ์อ๋อยู่ทําให้นางไปไหนมาไหนในวังหลวงอาณาจักรธุ์ได้ตามสบาย ส่วนอาณาจักรชิ้นเป็นครอบครัวของไปจูเหวินพวกนางจึงไม่โดนห้าม

“ข้าองค์จักรพรรดิอาณาจักรชินขอเป็นประกันให้พวกนาง เจ้าไปบอกเจ้านายเจ้าแบบนี้เข้าใจไหม” องค์จักรพรรดิอาณาจักรชินว่าพลางมองไปทางพวกหลินหลินอย่างเอ็นดู มันชวนไปจูเหวินมาโดยไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ตัวมันเองก็ไม่อยากให้พวกหลินหลินต้ องเอาแต่รอด้านนอกเสียเท่าไหร่

“ข้าเองก็รับประกันด้วยเช่นกัน นอกจากหยกในวังแล้วข้ารับประกันว่าพวกนางไม่เป็นอันตรายกับใครหรืออะไรทั้งนั้น” หมิงว่าพลางยิ้มออกมาทําเอาหลินหลินทําแก้มปองทันที เครื่องประดับที่ มันให้นางก็ไม่ได้กินซะหน่อยทําไมทุกคนชอบหยอกนางเรื่องกา รกินอยู่เรื่อยเลย

หลังจากทหารคนนั้นเข้าไปปรึกษาด้านในพักหนึ่งมันก็กลับออกมาและบอกว่าสามารถให้พวกหลินหลินเข้าไปในวังได้แต่ต้องติดแผ่นป้ายทองคําเอาไว้เท่านั้น

 

“สมแล้วที่เป็นงานใหญ่ มีแต่คนใหญ่คนโตมาจริงๆ”อู่เทียนเหวินว่าพลางมองไปรอบๆห้องโถงที่เต็มไปด้วยผู้คนในงานนี้มีแต่คนมีชื่อเสียงของแต่ละอาณาจักรมาทั้งนั้น ไม่ใช่แค่องค์จักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์เท่านั้นยังมีเหล่ายอดฝีมือพ่อค้าชื่อดังรวมทั้งผู้มีชื่อเสียงในด้านต่างๆอีกมากมายที่แค่มองหน้าก็ทราบชื่อทันที

“ว่าแล้วว่าท่านต้องมาฝ่าบาท” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างของหยุนฟางที่เดินเข้ามาหาอี้หมิง ที่ข้างตัวนางนั้นมีเซียนดาบยืนอยู่ด้วยทําให้ทราบได้ทันทีว่าพวกนางถูกเชิญมาในฐานะยอดฝีมือของอาณาจักรอี้นั่นเอง

 

“โถ่เอ้ย ท่านกลับไปฝึกแค่ 5 ปีก็แซงข้าซะแล้วแบบนี้อันดับข้าก็ตกออีกแล้วสิ” หยุนฟางว่าพลางยิ้มร่าไม่ได้มีท่าที่เสียใจอย่างที่พูดเลย

“ขอโทษด้วย” อู่หมิงว่าพลางยิ้มเจื่อนๆช่วงหลังมานี่ชาวบ้านสนใจอันดับจอมยุทธของอาณาจักรมาก ไม่ทราบเหมือนกันว่าหนังสืออันดับจอมยุทธไปเก็บข้อมูลมาจากไหนถึงได้ทราบระดับพลังและความแข็งแกร่งของแต่ละคนได้แม้แต่อูหมิงที่ไปฝึกวิชากับอาจารย์ที่อาณาจักรชูก็ยังมีการเคลื่อนไหวตลอดราวกับมีคนคอยติดตามดูไม่มีผิด

“ข้าพูดไปอย่างนั้นละ” หยุนฟางว่าพลางหัวเราะร่า

 

“จริงๆข้าดีใจจะตายที่ท่านกลับมา ท่านน่ะไม่เหมาะกับตําแหน่งองค์จักรพรรดิหรอก” หยุนฟางพูดเช่นนั้นออกมากลับทําให้อูหมิง มรับในทันทีตลอดมานี่ก็มีแต่นางกระมังที่ยังคงบอกว่ามันไม่เหมาะกับตําแหน่งองค์จักรพรรดิ

“โอ้ น่านท่านไปไม่ใช่หรือ” อยู่ๆเสียงชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นในงานตัวมันนั้นแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราและมีบริวาณเดินตามมาเป็นจํานวนมาก

 

“พูดถึงก็เจอตัวเลย” หยุนฟางว่าพลางทําสีหน้าไม่พอใจเสียเท่าไหร่ ชายที่อยู่หน้าประตูนั้นคือไช่จินเจ้าของสํานักพิมพ์ของหนังสือจัดอันดับจอมยุทธที่ว่ามันส่งศิษย์ของมันออกไปสืบเรื่องราว ในอาณาจักรต่างๆจนมีข่าวกรองมากมายแม้ตอนนี้มันจะ ยังทําหนังสือจัดอันดับจอมยุทธอยู่ แต่เงินที่มันได้จริงๆนั้นมาจากการค้าข่าวทั้งสิ้น ได้ข่าวว่าวิชาของมันแปลกประหลาดจับทางยากมันผสมวิชาตนเองกับวิชาลบพลังวิญญาณของพวกมือสังหารทําให้ลูกศิษย์ของมันไปมาเร้นลับอย่างกับหนูในคูน้ําไม่มีผิด

“ไช่จิน เจ้าเองก็มาด้วยงั้นหรือ”ไปจูเหวินถามพลางมองไช่จินที่เดินเข้ามาไช่จินที่แต่ก่อนเป็นเพียงนักเล่านิทานกลางวงเหล้ายามนี้กลับดูสง่างามราวกับเศรษฐีผู้มั่งคั่งไม่มีผิด แน่นอนเพราะการค้าข่าวของมันนั่นเอง

 

“แน่นอน ข้ามีสาขาตั้งหลายอาณาจักร องค์จักรพรรดิอาณาจักรโฮต้องเชิญข้าอยู่แล้ว”ไช่จินว่าพลางยืดอกอย่างภูมิใจ

“ไปจูเหวินเจ้ารู้จักกับไช่จินด้วยงั้นหรือ”อูหมิงถามพลางมองไช่จินด้วยท่าทีแปลกใจ กลุ่มของไช่จินไปมาลี้ลับไม่แน่นอน ต่อให้เป็นธุ์หมิงต่อให้อยากเจอมันก็ไม่ใช่ว่าจะได้เจอ ไม่คิดว่าไปจูเหิวนจะรู้จักคนเช่นนี้ด้วย

“องค์จักรพรรดิอูหมิง ท่านดูถูกท่านไปเกินไปแล้ว”ไช่จินว่าพลางยิ้มกว้าง

“ท่านไปผู้นี้นอกจากจะเป็นสหายเก่าแก่ของข้าแล้วท่านยังเป็นผู้ร่วมทุนรายใหญ่ของสํานักข้าอีกด้วย เรียกได้ว่าพวกข้านั้นติดหนี้บุญคุณท่านไปอยู่ก็ว่าได้”ไช่จินว่าพลางยิ้มกว้างการประกาศออกไปเช่นนี้ทําให้พวกคนในห้องต่างเข้าใจทันทีว่าเหตุใดไช่จินถึงไม่เคย ขายข่าวเกี่ยวกับกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรอู่เลยโดยเฉพาะสูตร ยาที่ทําให้คนสามารถผสานกับพลังอสูรได้

“โอ้ท่านคือพี่เหม่ยหลินใช่หรือไม่ ข้าไม่ได้ไปร่วมงานแต่งท่านต้องขออภัยด้วย แต่ข้าส่งลูกน้องไปแสดงความยินดีนะ”ไช่จินยิ้มทะเล้นพลางก้มหัวให้เหม่ยหลินอย่างสง่างาม

“นี่คงจะเป็นบุตรสาวของท่านสินะ เรื่องของนางเป็นเรื่องลึกลับหนึ่งสําหรับข้าเลยนะ พี่ไปท่านพานางไปเลี้ยงที่ไหนกันแน่ ลูกน้องของข้ายังตาบสืบไม่เจอเลย”ไช่จินว่าพลางยิ้มร่า ท่าทางมันยังเป็นเจ้าตั้งปวนอารมณ์ดีเช่นเดิม

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+