บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 309 ดูแลคนป่วย

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 309 ดูแลคนป่วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309

ดูแลคนป่วย

“ท่านตา มีแขกมาเหรอเจ้าคะ”วันรุ่งขึ้นหลังจากไป๋จูเหวินเดินทางไปยังอาณาจักรโฮ อยู่ๆที่เมืองร้อยแปดอสูรก็มีแขกคนหนึ่งมาหาถึงห้องประชุมของวังมังกร

“ไป๋หลิน มีอะไรเหรอ”หวงหลงถามออกมาพลางเดินไปหาหลานสาวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องประชุม

“ข้าอยากช่วยงานท่านตาด้วย”ไป๋หลินตอบพลางยิ้มอย่างใสซื่อ ทำเอาหวงหลงใจแทบละลาย

“งั้นเหรอ เจ้าอยากช่วยงานงั้นสินะ”แขกของหวงหลงพูดพลางยิ้มออกมา มันไม่ใช่ใครอื่นคนไกลแต่อย่างไร มันคือองค์จักรพรรดิของอาณาจักรอู๋ อู๋หมิงนั่นเอง

“ท่านลุง สวัสดีเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปประสานมือให้อู๋หมิงทีหนึ่ง

“เด็กดี”อู๋หมิงยิ้มรับพลางมองไป๋หลินอย่างอบอุ่นใจ เด็กน้อยคนนี้เอาความน่ารักของเหม่ยหลินมาเยอะทีเดียว ไปที่ไหนก็คงมีแต่คนเอ็นดู

“ท่านลุงมามีธุระอะไรเจ้าคะถึงได้มาที่นี่”ไป๋หลินถามพลางเลิกคิ้วเล็กๆของนางขึ้น ดวงตากลมๆของนางจ้องอู๋หมิงด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็นสุดๆ ทำเอาอู๋หมิงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆออกมา

“ข้าได้ข่าวว่าพ่อของเจ้ากลับมาแล้ว ก็เลยจะขอให้ไปดูอาการของสหายข้าหน่อย แต่ไม่คิดว่ามันจะเดินทางออกไปแล้ว”อู๋หมิงตอบพลางหัวเราะออกมา ความจริงมันสั่งให้คนกลุ่มนักล่าอสูรรายงานทันทีที่ไป๋จูเหวินกลับมา แต่เพราะเพิร์ลเข้ามาทำให้เหล่าอาวุโสมัวแต่ตกใจรวมกับเรื่องของพวกนักล่าค่าหัว สุดท้ายเลยลืมเรียกไป๋จูเหวินเข้าวังเสียสนิท

“งั้นข้าไปดูอาการให้เอง”ไป๋หลินว่าพลางยืดอกขึ้นอย่างมั่นใจ

“เจ้าเหรอ”อู๋หมิงแอบประหลาดใจนิดหน่อย หรือไป๋หลินจะเรียนวิชาแพทย์มาด้วยเช่นกัน แต่เด็ก 5 ขวบจะเรียนวิชาอะไรมามากมายเชียวหรือ?

“ข้าเรียนกับท่านน้ามังกรมาแล้ว ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”ไป๋หลินพูดด้วยความั่นใจล้นปรี่ ทำเอาอู๋หมิงยิ้มออกมา เห็นนางน่าเอ็นดูเช่นนี้อู๋หมิงก็พยักหน้าช้าๆ

“ก็ได้ งั้นเจ้าตามข้ามาที่วังหลวง ข้าจะให้เจ้าตรวจดูอาการของสหายข้าหน่อย”ความจริงอู๋หมิงไม่ได้หวังอะไรกับความสามารถของเด็ก 5 ขวบหรอก แต่ที่มันอยากให้ไป๋หลินไปเพราะนางอยากไปมากๆ และหากมีนางอยู่ด้วย บางทีหยุนฟางอาจจะผ่อนคลายลงก็ได้

“สหายของท่านลุงป่วยเป็นอะไรหรือเจ้าคะ”ไป๋หลินถามขณะขึ้นไปบนรถม้าของอู๋หมิง

“ก็พูดยาก นางพึ่งเสียอาจารย์ไปก็เลยไม่หลับไม่กินไม่นอน เอาแต่ฝึกดาบ”อู๋หมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา แม้จะได้ยาจากรูบี้มาแล้ว แต่ก็ช่วยได้แค่ให้นางได้นอนเท่านั้น แต่ถึงจะนอนหลับได้แต่นางก็ยังฝันร้ายอยู่ดี บางครั้งละเมอชื่ออาจารย์ออกมาจนอู๋หมิงได้ยินเสียด้วยซ้ำ

“แบบนั้นไม่ใช่โรคนี่เจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางเอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปากราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ก็จริง แต่เพราะแบบนั้นอาการของนางก็เลยไม่ดีขึ้นเลย”อู๋หมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา

“แบบนั้นก็ต้องทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นเจ้าค่ะ”ไป๋หลินสรุปออกมาตรงๆ แน่นอนว่าอู๋หมิงก็ทราบดี แต่การทำนั้นยากมาก

“ไป๋หลิน ตามลุงมา”เมื่อมาถึงวังหลวง อู๋หมิงก็พาไป๋หลินเข้าไปในเขตวังของตนเองทันที แน่นอนว่าเหล่าขุนนางรวมทั้งทหารพอเห็นไป๋หลินก็เดาได้แทบจะทันทีว่านางคือบุตรสาวของใคร เลยไม่มีใครเข้าไปห้ามเลยสักคน ยกเว้นนางข้าหลวงหลายๆคนเท่านั้นที่พากันมองไป๋หลินอย่างประหลาดใจ ก็ใครใช้ให้อู๋หมิงพาเด็กสาวน่ารักน่าชังเข้าไปในเขตของมเหสีเล่า ทำเอาช่วงนั้นมีข่าวลือว่าองค์จักรพรรดิแท้จริงแล้วที่ไม่ยอมมีมเหสีเสียทีเพราะเป็นพวกนิยมชมชอบเด็กเสียอย่างนั้น

“ทางนี้”อู๋หมิงเปิดประตูเข้าไปในเขตที่ตนให้หยุนฟางพักผ่อนอยู่ เมื่อเช้ามันป้อนยาให้หยุนฟางไปแล้ว นางคงหลับอยู่ในห้องไม่ได้ออกมาข้างนอก

“คนๆนี้คือสหายของท่านลุงหรือเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปหาหยุนฟางที่เตียง นางยังหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยาทำให้ไป๋หลินสามารถเข้าไปหานางอย่างใกล้ชิดได้ทันที

“…….”ไป๋หลินมองหยุนฟางด้วยดวงตาของนาง นางเกิดมาพร้อมความสามารถนี้นับว่าการควบคุมนั้นเหนือกว่าพ่อของนางมาก เมื่อนางอยากมองพลังวิญญาณนางก็มองได้ในทันที เมื่ออยากมองภายในร่างกายก็ไม่จำเป็นต้องสลับเปลี่ยนสีดวงตาเช่นไป๋จูเหวิน เพียงพริบตาเดียวนางก็มองร่างของของหยุนฟางจนทั่ว

ภายในนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้จะไม่ได้กินอะไรมานานแต่เพราะเป็นร่างกายของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้ไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ที่หนักคือสภาพจิตใจและพลังวิญญาณ แม้จะยังหลับอยู่พลังวิญญาณของนางก็ยังปั่นป่วน แบบนี้ห่างไกลจากอาการธาตุไฟเข้าแทรกไม่มาก ขืนปล่อยให้อารมณ์ของนางเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะไม่พ้นธาตุไฟเข้าแทรกจนเสียสติแน่ๆ

“เป็นไงบ้าง”อู๋หมิงถามพลางมองไป๋หลินนิ่ง นางดูตั้งใจมาก แถวท่าทางยังเหมือนพ่อของนางอีกต่างหาก ดวงตาของนางไม่ได้เปลี่ยนสีเหมือยของไป๋จูเหวิน เพียงแต่มีประกายสีออกมาจางๆเท่านั้น หากไม่คุ้นชินกับดวงตาของไป๋จูเหวินคงไม่ได้สังเกตุดวงตาของไป๋หลินแน่ๆ

“ข้าจะรักษาเอง”ไป๋หลินว่าพลางกำหมัดขึ้นมาตรงหน้าอกตัวเอง ดูท่าทางนางมั่นใจมากอู๋หมิงก็ได้แต่ยิ้มบางๆ

“เจ้าต้องระวังเอาไว้ พอนางตื่นขึ้นมานางจะเริ่มฝึกวิชาดาบ”อู๋หมิงเตือนพลางมองหยุนฟางที่นอนอยู่บนเตียง แม้จะฝึกดาบและฟาดฟันดาบไปมั่วๆ แต่หยุนฟางกลับฟาดออกมาอย่างไร้กำลัง แต่กับอู๋หมิงนั้นไม่เป็นไร แต่พลังระดับไป๋หลินอาจจะแย่ก็เป็นได้

“ข้าฝึกกระบี่กับท่านแม่บ่อยๆ ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง แต่ถึงอย่างนั้นอู๋หมิงก็ไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่มันจึงยกเลิกประชุมช่วงบ่ายไปเพื่ออยู่เฝ้าดูไป๋หลินไปก่อน ขืนนางได้รับบาดเจ็บเพราะหยุนฟางเข้า มันก็ไม่ทราบจะอธิบายกับไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินเช่นไรแน่ๆ

“ก่อนอื่นก็ห้องนี้”ไป๋หลินว่าพลางมองไปที่หน้าต่างรอบๆ ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่มุมสุดเพราะอู๋หมิงไม่อยากให้ใครมาเห็นหยุนฟางตอนนี้ ทำให้ห้องค่อนข้างมืด

ปึง…ไป๋หลินไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินไปเปิดหน้าต่างออกทุกบานเพื่อให้แสงเข้าถึง ก่อนจะเลือกเอาสมุนไพรที่ตนเก็บมาจากเทือกเขาเหมันต์ออกมาใส่ในแจกัน พลางเริ่มจัดห้องให้ดูสะอาดตาด้วยตนเอง

“ท่านแม่บอกว่าตื่นขึ้นในห้องสวยๆมันรู้สึกดีกว่าเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางผลักข้าวของไปมาเพื่อจัดห้องเสียใหม่ แต่เดิมห้องนี้จัดขึ้นเพื่อปิดเรื่องหยุนฟางเอาไว้ จึงคับแคบและมิดชิดไปหน่อยจริงๆ พอไป๋หลินจัดไปได้พักเดียวห้องก็โล่งไปเป็นกอง

“ต่อไปก็ที่สวน”ไป๋หลินพูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที นี่นางไม่ได้จะทำสวนมันตรงนี้เลยนะ?

“ไป๋หลิน ให้ลุงช่วยไหม”อู๋หมิงเห็นนางตั้งใจทำเช่นนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ มันเดินออกมาพร้อมเสนอตัวเข้าช่วยทันที

“ท่านลุง เอาของที่พังออกไปให้หมดเลยเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปที่โต๊ะหินอ่อนที่โดนดาบราชันศาสตราผ่าเป็นชิ้นๆ ต้นไม้ที่มีรอยฟัน รวมทั้งพื้นทางเดินที่แตกไปหลายจุด เอาจริงๆสภาพสวนมันก็ย่ำแย่จริงๆ

“เข้าใจแล้ว”อู๋หมิงยิ้มพลางเก็บเอาของเหล่านั้นเข้ามิติของตนเองไป ก่อนจะเรียกให้คนงานเข้ามาหาไป๋หลินและนำของแต่งสวนตามที่นางบอกเข้ามาใหม่

คลืนนนนนน!!! อยู่ๆต้นไม้จำนวนหนึ่งก็งอกออกมาแทนที่ต้นไม้ที่อู๋หมิงพึ่งถอนไป ทำให้ต้นไม้ที่มีรอยถูกฟันทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยต้นไม้ใหม่ที่ไป๋หลินปลูกขึ้นมาจากความสามารถธาตุไม้ที่นางเรียนมาจากน้ามังกร

“ไป๋หลิน…ต้นนี้หรือว่า”อู๋หมิงมองต้นท้อที่ไป๋หลินปลูกขึ้นมาด้วยความรู้สึกคุ้นๆแปลกๆ

“ข้าเอาเมล็ดของต้นท้ออสูรมาปลูก”ไป๋หลินตอบพลางเอาเมล็ดของต้นท้ออสูรออกมา แน่นอนว่าอู๋หมิงเคยเห็นต้นท้ออสูรแล้ว แม้จะไม่ต่างจากต้นท้อธรรมดามาก แต่มันให้ความรู้สึกต่างออกไปเล็กน้อย

“เอามาปลูกที่นี่จะดีเหรอ”อู๋หมิงถามพลางมองต้นท้ออสูรด้วยท่าทีลำบากใจ พวกน้าๆของไป๋จูเหวินหวงต้นไม้นั้นมาก ถึงกับต้องมีอสูรคอยเฝ้าเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไรมั้ง”ไป๋หลินหัวเราะแฮะๆออกมาพลางเริ่มไปทำงานอย่างอื่นต่อ พอเข้าช่วงบ่ายสวนก้เป็นอันเสร็จอย่างรวดเร็ว

“ท่านลุง ข้าเอาอสูรปลามาเลี้ยงในบ่อนี้ได้ไหม”ไป๋หลินถามพลางมองไปที่บ่อปลาที่สร้างเอาไว้ในสวนมาแต่แรก

“อย่าดีกว่า”อู๋หมิงส่ายหน้าพลางหัวเราะเจื่อนๆออกมา

“งั้นเดี๋ยวข้ามานะ”ไป๋หลินว่าพลางวิ่งออกไปจากส่วนของมเหสี ก่อนจะตรงไปยังห้องครัวทันที ความจริงแค่สั่งคำเดียวพวกนางข้าหลวงที่ทำงานอยู่ในครัวก็จะจัดเตรียมให้ทันที แต่ไป๋หลินต้องการจะทำด้วยตนเองเลยดุ่มๆเข้าไปในครัวท่ามกลางเหล่าข้าหลวงที่กำลังทำงานทันที

“คะ คุณหนู ไม่ทราบต้องการอะไรหรือเจ้าคะ”เหล่าสาวใช้สะดุ้งทันทีที่เห็นไป๋หลินเดินเข้ามา

“ข้าขอใช้ครัวหน่อยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางส่งสายตาขอร้องไปทางพวกนาง แน่นอนว่าพอโดนแบบนี้เข้าพวกนางก็ยอมเปิดทางให้ไป๋หลินอย่างง่ายดาย

“คุณหนู ท่านจะทำอะไรหรือขอรับ”บ่าวรับใช้ที่ทำหน้าที่คุมห้องครัวถามพลางมองวัตถุดิบที่ไป๋หลินไปหยิบมา ส่วนใหญ่ก็เป็นวัตถุดิบพื้นๆที่หาได้ตามบ้านทั่วไป

“ข้ามต้ม”ไป๋หลินตอบเสียงเรียบพลางนำน้ำมาตั้งไฟ แต่ข้าวต้มของนางไม่ได้ใช้เพียงวัตถุดิบธรรมดาเท่านั้น นางนำสมุนไพรจำนวนหนึ่งออกมาวางลงบนเขียง ก่อนจะนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งจนน้ำเริ่มเดือนไป๋หลินก็แยกเอาสมุนไพรที่ไม่ใช้ออก ก่อนจะเริ่มลงมือทำข้าวต้มอย่างเรียบง่าย ไม่นานนางก็กลับออกไปพร้อมข้าวต้มหม้อหนึ่งพร้อมถ้วยใบหนึ่ง

“ท่านลุง ข้ากลับมาแล้ว”ไป๋หลินว่าพลางเดินเอาข้ามต้มเข้าไปในห้องของหยุนฟางด้วยท่าทีตั้งอกตั้งใจมาก ทำให้อู๋หมิงต้องรีบเลื่อนโต๊ะมาวางไว้ข้างเตียงเพื่อรับถ้วยข้าวต้มของนางทันที

“ท่านป้ายังไม่ตื่นอีกเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเปิดฝาข้าวต้มออกมาจนกลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งไปทั่วห้อง

“ยัง”อู๋หมิงว่าพลางมองไปที่หยุนฟาง แต่คำว่ายังไม่ทันสุดเสียง ดวงตาของหยุนฟางก็เปิดออกช้าๆ แต่ดวงตาของนางไม่ได้มองไปทางอู๋หมิงหรือไป๋หลินเลยแม้แต่น้อย นางเอาแต่มองเพดายนิ่งไม่ไปไหน

“ท่านป้า ตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางโน้มตัวเข้าไปเพื่อให้หยุนฟางได้เห็นตนเอง

“…….”หยุนฟางไม่ได้ตอบ นางเพียงค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเหม่อมองภาพเบื้องหน้าด้วยอาการเหม่อลอย

“ท่านป้า…..”ไป๋หลินพยายามสะกิดหยุนฟาง แต่นางก็ไม่มีท่าทีจะตอบสนองเลย นี่นางพัฒนาจากฟูมฟายเป็นปิดใจแล้วงั้นหรือ?

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 309 ดูแลคนป่วย

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 309 ดูแลคนป่วย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 309

ดูแลคนป่วย

“ท่านตา มีแขกมาเหรอเจ้าคะ”วันรุ่งขึ้นหลังจากไป๋จูเหวินเดินทางไปยังอาณาจักรโฮ อยู่ๆที่เมืองร้อยแปดอสูรก็มีแขกคนหนึ่งมาหาถึงห้องประชุมของวังมังกร

“ไป๋หลิน มีอะไรเหรอ”หวงหลงถามออกมาพลางเดินไปหาหลานสาวที่กำลังเดินเข้ามาในห้องประชุม

“ข้าอยากช่วยงานท่านตาด้วย”ไป๋หลินตอบพลางยิ้มอย่างใสซื่อ ทำเอาหวงหลงใจแทบละลาย

“งั้นเหรอ เจ้าอยากช่วยงานงั้นสินะ”แขกของหวงหลงพูดพลางยิ้มออกมา มันไม่ใช่ใครอื่นคนไกลแต่อย่างไร มันคือองค์จักรพรรดิของอาณาจักรอู๋ อู๋หมิงนั่นเอง

“ท่านลุง สวัสดีเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปประสานมือให้อู๋หมิงทีหนึ่ง

“เด็กดี”อู๋หมิงยิ้มรับพลางมองไป๋หลินอย่างอบอุ่นใจ เด็กน้อยคนนี้เอาความน่ารักของเหม่ยหลินมาเยอะทีเดียว ไปที่ไหนก็คงมีแต่คนเอ็นดู

“ท่านลุงมามีธุระอะไรเจ้าคะถึงได้มาที่นี่”ไป๋หลินถามพลางเลิกคิ้วเล็กๆของนางขึ้น ดวงตากลมๆของนางจ้องอู๋หมิงด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็นสุดๆ ทำเอาอู๋หมิงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆออกมา

“ข้าได้ข่าวว่าพ่อของเจ้ากลับมาแล้ว ก็เลยจะขอให้ไปดูอาการของสหายข้าหน่อย แต่ไม่คิดว่ามันจะเดินทางออกไปแล้ว”อู๋หมิงตอบพลางหัวเราะออกมา ความจริงมันสั่งให้คนกลุ่มนักล่าอสูรรายงานทันทีที่ไป๋จูเหวินกลับมา แต่เพราะเพิร์ลเข้ามาทำให้เหล่าอาวุโสมัวแต่ตกใจรวมกับเรื่องของพวกนักล่าค่าหัว สุดท้ายเลยลืมเรียกไป๋จูเหวินเข้าวังเสียสนิท

“งั้นข้าไปดูอาการให้เอง”ไป๋หลินว่าพลางยืดอกขึ้นอย่างมั่นใจ

“เจ้าเหรอ”อู๋หมิงแอบประหลาดใจนิดหน่อย หรือไป๋หลินจะเรียนวิชาแพทย์มาด้วยเช่นกัน แต่เด็ก 5 ขวบจะเรียนวิชาอะไรมามากมายเชียวหรือ?

“ข้าเรียนกับท่านน้ามังกรมาแล้ว ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”ไป๋หลินพูดด้วยความั่นใจล้นปรี่ ทำเอาอู๋หมิงยิ้มออกมา เห็นนางน่าเอ็นดูเช่นนี้อู๋หมิงก็พยักหน้าช้าๆ

“ก็ได้ งั้นเจ้าตามข้ามาที่วังหลวง ข้าจะให้เจ้าตรวจดูอาการของสหายข้าหน่อย”ความจริงอู๋หมิงไม่ได้หวังอะไรกับความสามารถของเด็ก 5 ขวบหรอก แต่ที่มันอยากให้ไป๋หลินไปเพราะนางอยากไปมากๆ และหากมีนางอยู่ด้วย บางทีหยุนฟางอาจจะผ่อนคลายลงก็ได้

“สหายของท่านลุงป่วยเป็นอะไรหรือเจ้าคะ”ไป๋หลินถามขณะขึ้นไปบนรถม้าของอู๋หมิง

“ก็พูดยาก นางพึ่งเสียอาจารย์ไปก็เลยไม่หลับไม่กินไม่นอน เอาแต่ฝึกดาบ”อู๋หมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา แม้จะได้ยาจากรูบี้มาแล้ว แต่ก็ช่วยได้แค่ให้นางได้นอนเท่านั้น แต่ถึงจะนอนหลับได้แต่นางก็ยังฝันร้ายอยู่ดี บางครั้งละเมอชื่ออาจารย์ออกมาจนอู๋หมิงได้ยินเสียด้วยซ้ำ

“แบบนั้นไม่ใช่โรคนี่เจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางเอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปากราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“ก็จริง แต่เพราะแบบนั้นอาการของนางก็เลยไม่ดีขึ้นเลย”อู๋หมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา

“แบบนั้นก็ต้องทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นเจ้าค่ะ”ไป๋หลินสรุปออกมาตรงๆ แน่นอนว่าอู๋หมิงก็ทราบดี แต่การทำนั้นยากมาก

“ไป๋หลิน ตามลุงมา”เมื่อมาถึงวังหลวง อู๋หมิงก็พาไป๋หลินเข้าไปในเขตวังของตนเองทันที แน่นอนว่าเหล่าขุนนางรวมทั้งทหารพอเห็นไป๋หลินก็เดาได้แทบจะทันทีว่านางคือบุตรสาวของใคร เลยไม่มีใครเข้าไปห้ามเลยสักคน ยกเว้นนางข้าหลวงหลายๆคนเท่านั้นที่พากันมองไป๋หลินอย่างประหลาดใจ ก็ใครใช้ให้อู๋หมิงพาเด็กสาวน่ารักน่าชังเข้าไปในเขตของมเหสีเล่า ทำเอาช่วงนั้นมีข่าวลือว่าองค์จักรพรรดิแท้จริงแล้วที่ไม่ยอมมีมเหสีเสียทีเพราะเป็นพวกนิยมชมชอบเด็กเสียอย่างนั้น

“ทางนี้”อู๋หมิงเปิดประตูเข้าไปในเขตที่ตนให้หยุนฟางพักผ่อนอยู่ เมื่อเช้ามันป้อนยาให้หยุนฟางไปแล้ว นางคงหลับอยู่ในห้องไม่ได้ออกมาข้างนอก

“คนๆนี้คือสหายของท่านลุงหรือเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปหาหยุนฟางที่เตียง นางยังหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยาทำให้ไป๋หลินสามารถเข้าไปหานางอย่างใกล้ชิดได้ทันที

“…….”ไป๋หลินมองหยุนฟางด้วยดวงตาของนาง นางเกิดมาพร้อมความสามารถนี้นับว่าการควบคุมนั้นเหนือกว่าพ่อของนางมาก เมื่อนางอยากมองพลังวิญญาณนางก็มองได้ในทันที เมื่ออยากมองภายในร่างกายก็ไม่จำเป็นต้องสลับเปลี่ยนสีดวงตาเช่นไป๋จูเหวิน เพียงพริบตาเดียวนางก็มองร่างของของหยุนฟางจนทั่ว

ภายในนั้นไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้จะไม่ได้กินอะไรมานานแต่เพราะเป็นร่างกายของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้ไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ที่หนักคือสภาพจิตใจและพลังวิญญาณ แม้จะยังหลับอยู่พลังวิญญาณของนางก็ยังปั่นป่วน แบบนี้ห่างไกลจากอาการธาตุไฟเข้าแทรกไม่มาก ขืนปล่อยให้อารมณ์ของนางเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะไม่พ้นธาตุไฟเข้าแทรกจนเสียสติแน่ๆ

“เป็นไงบ้าง”อู๋หมิงถามพลางมองไป๋หลินนิ่ง นางดูตั้งใจมาก แถวท่าทางยังเหมือนพ่อของนางอีกต่างหาก ดวงตาของนางไม่ได้เปลี่ยนสีเหมือยของไป๋จูเหวิน เพียงแต่มีประกายสีออกมาจางๆเท่านั้น หากไม่คุ้นชินกับดวงตาของไป๋จูเหวินคงไม่ได้สังเกตุดวงตาของไป๋หลินแน่ๆ

“ข้าจะรักษาเอง”ไป๋หลินว่าพลางกำหมัดขึ้นมาตรงหน้าอกตัวเอง ดูท่าทางนางมั่นใจมากอู๋หมิงก็ได้แต่ยิ้มบางๆ

“เจ้าต้องระวังเอาไว้ พอนางตื่นขึ้นมานางจะเริ่มฝึกวิชาดาบ”อู๋หมิงเตือนพลางมองหยุนฟางที่นอนอยู่บนเตียง แม้จะฝึกดาบและฟาดฟันดาบไปมั่วๆ แต่หยุนฟางกลับฟาดออกมาอย่างไร้กำลัง แต่กับอู๋หมิงนั้นไม่เป็นไร แต่พลังระดับไป๋หลินอาจจะแย่ก็เป็นได้

“ข้าฝึกกระบี่กับท่านแม่บ่อยๆ ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง แต่ถึงอย่างนั้นอู๋หมิงก็ไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่มันจึงยกเลิกประชุมช่วงบ่ายไปเพื่ออยู่เฝ้าดูไป๋หลินไปก่อน ขืนนางได้รับบาดเจ็บเพราะหยุนฟางเข้า มันก็ไม่ทราบจะอธิบายกับไป๋จูเหวินกับเหม่ยหลินเช่นไรแน่ๆ

“ก่อนอื่นก็ห้องนี้”ไป๋หลินว่าพลางมองไปที่หน้าต่างรอบๆ ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่มุมสุดเพราะอู๋หมิงไม่อยากให้ใครมาเห็นหยุนฟางตอนนี้ ทำให้ห้องค่อนข้างมืด

ปึง…ไป๋หลินไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินไปเปิดหน้าต่างออกทุกบานเพื่อให้แสงเข้าถึง ก่อนจะเลือกเอาสมุนไพรที่ตนเก็บมาจากเทือกเขาเหมันต์ออกมาใส่ในแจกัน พลางเริ่มจัดห้องให้ดูสะอาดตาด้วยตนเอง

“ท่านแม่บอกว่าตื่นขึ้นในห้องสวยๆมันรู้สึกดีกว่าเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางผลักข้าวของไปมาเพื่อจัดห้องเสียใหม่ แต่เดิมห้องนี้จัดขึ้นเพื่อปิดเรื่องหยุนฟางเอาไว้ จึงคับแคบและมิดชิดไปหน่อยจริงๆ พอไป๋หลินจัดไปได้พักเดียวห้องก็โล่งไปเป็นกอง

“ต่อไปก็ที่สวน”ไป๋หลินพูดจบก็เดินออกจากห้องไปทันที นี่นางไม่ได้จะทำสวนมันตรงนี้เลยนะ?

“ไป๋หลิน ให้ลุงช่วยไหม”อู๋หมิงเห็นนางตั้งใจทำเช่นนั้นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ มันเดินออกมาพร้อมเสนอตัวเข้าช่วยทันที

“ท่านลุง เอาของที่พังออกไปให้หมดเลยเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปที่โต๊ะหินอ่อนที่โดนดาบราชันศาสตราผ่าเป็นชิ้นๆ ต้นไม้ที่มีรอยฟัน รวมทั้งพื้นทางเดินที่แตกไปหลายจุด เอาจริงๆสภาพสวนมันก็ย่ำแย่จริงๆ

“เข้าใจแล้ว”อู๋หมิงยิ้มพลางเก็บเอาของเหล่านั้นเข้ามิติของตนเองไป ก่อนจะเรียกให้คนงานเข้ามาหาไป๋หลินและนำของแต่งสวนตามที่นางบอกเข้ามาใหม่

คลืนนนนนน!!! อยู่ๆต้นไม้จำนวนหนึ่งก็งอกออกมาแทนที่ต้นไม้ที่อู๋หมิงพึ่งถอนไป ทำให้ต้นไม้ที่มีรอยถูกฟันทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยต้นไม้ใหม่ที่ไป๋หลินปลูกขึ้นมาจากความสามารถธาตุไม้ที่นางเรียนมาจากน้ามังกร

“ไป๋หลิน…ต้นนี้หรือว่า”อู๋หมิงมองต้นท้อที่ไป๋หลินปลูกขึ้นมาด้วยความรู้สึกคุ้นๆแปลกๆ

“ข้าเอาเมล็ดของต้นท้ออสูรมาปลูก”ไป๋หลินตอบพลางเอาเมล็ดของต้นท้ออสูรออกมา แน่นอนว่าอู๋หมิงเคยเห็นต้นท้ออสูรแล้ว แม้จะไม่ต่างจากต้นท้อธรรมดามาก แต่มันให้ความรู้สึกต่างออกไปเล็กน้อย

“เอามาปลูกที่นี่จะดีเหรอ”อู๋หมิงถามพลางมองต้นท้ออสูรด้วยท่าทีลำบากใจ พวกน้าๆของไป๋จูเหวินหวงต้นไม้นั้นมาก ถึงกับต้องมีอสูรคอยเฝ้าเลยทีเดียว

“ไม่เป็นไรมั้ง”ไป๋หลินหัวเราะแฮะๆออกมาพลางเริ่มไปทำงานอย่างอื่นต่อ พอเข้าช่วงบ่ายสวนก้เป็นอันเสร็จอย่างรวดเร็ว

“ท่านลุง ข้าเอาอสูรปลามาเลี้ยงในบ่อนี้ได้ไหม”ไป๋หลินถามพลางมองไปที่บ่อปลาที่สร้างเอาไว้ในสวนมาแต่แรก

“อย่าดีกว่า”อู๋หมิงส่ายหน้าพลางหัวเราะเจื่อนๆออกมา

“งั้นเดี๋ยวข้ามานะ”ไป๋หลินว่าพลางวิ่งออกไปจากส่วนของมเหสี ก่อนจะตรงไปยังห้องครัวทันที ความจริงแค่สั่งคำเดียวพวกนางข้าหลวงที่ทำงานอยู่ในครัวก็จะจัดเตรียมให้ทันที แต่ไป๋หลินต้องการจะทำด้วยตนเองเลยดุ่มๆเข้าไปในครัวท่ามกลางเหล่าข้าหลวงที่กำลังทำงานทันที

“คะ คุณหนู ไม่ทราบต้องการอะไรหรือเจ้าคะ”เหล่าสาวใช้สะดุ้งทันทีที่เห็นไป๋หลินเดินเข้ามา

“ข้าขอใช้ครัวหน่อยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางส่งสายตาขอร้องไปทางพวกนาง แน่นอนว่าพอโดนแบบนี้เข้าพวกนางก็ยอมเปิดทางให้ไป๋หลินอย่างง่ายดาย

“คุณหนู ท่านจะทำอะไรหรือขอรับ”บ่าวรับใช้ที่ทำหน้าที่คุมห้องครัวถามพลางมองวัตถุดิบที่ไป๋หลินไปหยิบมา ส่วนใหญ่ก็เป็นวัตถุดิบพื้นๆที่หาได้ตามบ้านทั่วไป

“ข้ามต้ม”ไป๋หลินตอบเสียงเรียบพลางนำน้ำมาตั้งไฟ แต่ข้าวต้มของนางไม่ได้ใช้เพียงวัตถุดิบธรรมดาเท่านั้น นางนำสมุนไพรจำนวนหนึ่งออกมาวางลงบนเขียง ก่อนจะนิ่งคิดอยู่พักหนึ่งจนน้ำเริ่มเดือนไป๋หลินก็แยกเอาสมุนไพรที่ไม่ใช้ออก ก่อนจะเริ่มลงมือทำข้าวต้มอย่างเรียบง่าย ไม่นานนางก็กลับออกไปพร้อมข้าวต้มหม้อหนึ่งพร้อมถ้วยใบหนึ่ง

“ท่านลุง ข้ากลับมาแล้ว”ไป๋หลินว่าพลางเดินเอาข้ามต้มเข้าไปในห้องของหยุนฟางด้วยท่าทีตั้งอกตั้งใจมาก ทำให้อู๋หมิงต้องรีบเลื่อนโต๊ะมาวางไว้ข้างเตียงเพื่อรับถ้วยข้าวต้มของนางทันที

“ท่านป้ายังไม่ตื่นอีกเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเปิดฝาข้าวต้มออกมาจนกลิ่นหอมอ่อนๆฟุ้งไปทั่วห้อง

“ยัง”อู๋หมิงว่าพลางมองไปที่หยุนฟาง แต่คำว่ายังไม่ทันสุดเสียง ดวงตาของหยุนฟางก็เปิดออกช้าๆ แต่ดวงตาของนางไม่ได้มองไปทางอู๋หมิงหรือไป๋หลินเลยแม้แต่น้อย นางเอาแต่มองเพดายนิ่งไม่ไปไหน

“ท่านป้า ตื่นแล้วเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินว่าพลางโน้มตัวเข้าไปเพื่อให้หยุนฟางได้เห็นตนเอง

“…….”หยุนฟางไม่ได้ตอบ นางเพียงค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเหม่อมองภาพเบื้องหน้าด้วยอาการเหม่อลอย

“ท่านป้า…..”ไป๋หลินพยายามสะกิดหยุนฟาง แต่นางก็ไม่มีท่าทีจะตอบสนองเลย นี่นางพัฒนาจากฟูมฟายเป็นปิดใจแล้วงั้นหรือ?

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+