บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 323 ร่วมงาน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 323 ร่วมงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 323

ร่วมงาน

“หยุดก่อน”ไป๋จูเหวินรีบห้ามหลิวเมิ่งเอาไว้ ก่อนที่นางจะทำอะไรไปมากกว่านี้ นี่นางจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่ทราบ

“เรื่องพี่น้องของเจ้า ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาพลางก้มลงหยิบเสื้อตัวนอกของหลิวเมิ่งกลับไปใส่ให้เหมือนเดิม แม้นางจะมีท่าทีกลัวที่ไป๋จูเหวินเข้าไปใกล้ แต่พอเห็นมันไม่ได้ทำอะไรนอกจากเอาเสื้อมาคลุมตัวนางเอาไว้เฉยๆนางก็ลดท่าทีหวาดกลัวลง

“ข้าไม่ได้เป็นคนใจร้ายอะไรขนาดนั้น แล้วก็ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนด้วย”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้นนางก็มีท่าทีประหลาดใจไม่น้อย ปกติขุนนางซื่อสัตว์กับราชวงศ์ของนางมาก ไป๋จูเหวินกลับทำให้พวกมันยอมทำตามได้ไม่ยาก ทำให้นางคิดว่าไป๋จูเหวินต้องใช้วิธีโหดร้ายอย่างการจับลูกเมียของพวกขุนนางเป็นตัวประกัน หรือขู่เอาชีวิตแน่ๆ

“เจ้าเองก็จะไปอยู่ที่วังนอกเมืองก็ได้ ข้าจะให้คนของข้าเฝ้าระวังเอาไว้ พวกเจ้าจะได้ปลอดภัย”ไป๋จูเหวินตอบพลางกลับไปนั่งที่เก้าอี้ ตัวมันมีภรรยาแสนงดงามอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลยสักนิดแม้จะเป็นหญิงงามสมกับคำว่าเจ้าหญิงก็ตาม

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่รับใช้ท่านเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน”องค์หญิงหลิวเมิ่งตอบด้วยท่าทีแน่วแน่ นางยังไม่หายกังวลเรื่องของไป๋จูเหวิน อย่างน้อยนางก็อยากจะอยู่ในวังหลวงคอยจับตาการเคลื่อนไหวของไป๋จูเหวินเอาไว้ หากมีอันตรายกับพี่น้องของนางจะได้ส่งข่าวได้ หรือหากมันทำเรื่องเลวร้ายนางก็จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อหยุดมัน

“ถ้าอย่างนั้น….เจ้าก็ลองรับหน้าที่ผู้ช่วยข้าดูไหม”ไป๋จูเหวินเสนอ ตัวมันต้องการลดความข้องใจของคนอาณาจักรหลิวอยู่แล้ว หากองค์หญิงหลิวเมิ่งช่วยมันทำงาน คนที่ไม่ยอมติดตามมันในตอนแรกอาจจะเปิดใจก็เป็นได้

“ได้เจ้าค่ะ…เช่นนั้นข้าจะกลับไปที่คุก”องค์หญิงหลิวเมิ่งเห็นไป๋จูเหวินยอมทำตามก็โล่งใจขึ้นมาก อย่างน้อยครอบครัวที่เหลืออยู่ของนางก็ปลอดภัยดี

“ไม่ต้อง เจ้าทำงานเป็นผู้ช่วยของข้าแล้ว กลับไปพักที่ห้องของเจ้าเถอะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางเรียกทหารให้ไปส่งตัวหลิวเมิ่งที่ห้อง ก่อนจะให้ทหารอสูร 2 ตนรับหน้าที่พาองค์หญิงและองค์ชายที่เหลือไปที่วังนอกเมืองซึ่งเป็นวังสำหรับเที่ยวพักผ่อนของเชื้อพระวงศ์อาณาจักรหลิวที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออก ที่นั่นอยู่บนเขาปลอดภัยและสวยงาม ในช่วงที่ไป๋จูเหวินปรับเปลี่ยนอาณาจักรให้พวกเชื้อพระวงศ์ไปอยู่ที่นั่นนับว่าสะดวกกับมันมาก

.

.

“พวกอสูรอย่างเจ้ามันไม่เข้าใจอะไรจริงๆ” ในเช้าวันต่อมาเป็นครั้งแรกที่เหล่าขุนนางมนุษย์และขุนนางอสูรเข้าร่วมประชุมกันเป็นครั้งแรก แต่บรรยากาศของการประชุมกลับดุเดือดอย่างน่าประหลาด

“หมายความว่ายังไง ไอ้หญ้าเฟืองฟ้านี่มันมีราคายังไง”ขุนนางอสูรถามด้วยความงุนงง อยู่ๆขุนนางมนุษย์ก็เสนอเรื่องการส่งออกหญ้าเฟืองฟ้า ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แก้ปวดให้อาณาจักรอินและอาณาจักรชู แต่ขุนนางอสูรกลับงงกันเป็นแถบว่าทำไมมนุษย์ถึงเอาวัชพืชมาขายกันหน้าตาเฉย

“ท่านกวางหิมะ ถึงในเขตอสูรจะมีหญ้าแบบนี้มากมาย แต่สำหรับมนุษย์แล้วพวกมันเป็นของหายากและมีราคา”ขุนนางมนุษย์คนหนึ่งตอบด้วยท่าทีสงบกว่าคนก่อนมาก

“อีกไม่นานที่นี่ก็จะกลายเป็นค่ายกลอสูรแล้ว ของแบบนั้นสามารถเก็บได้ตามพื้น มันจะขายได้งั้นหรือ”อสูรงูเผือกถามด้วยท่าทีสงสัย สำหรับพวกมันแล้วมองหญ้าแบบนี้เป็นของมีค่าไม่ได้จริงๆ

“สำหรับมนุษย์ที่ไม่มีพลังวิญญาณแล้ว ต่อให้มีปัญญาซื้อสมุนไพรล้ำค่า แต่ร่างกายของพวกมันก็ทนไม่ได้หรอก”ขุนนางมนุษย์ตอบ

“อืม…เหมือนพวกอสูรระดับต่ำสินะ”เหล่าอสูรเริ่มปรับความเข้าใจพลางนึกภาพตาม สมุนไพรบางตัวที่พวกมันกินเพื่อเพิ่มพลังเล็กน้อย พอเอาให้อสูรระดับต่ำกินกลับตายเสียอย่างนั้น

“ในเมื่อมีผู้ต้องการ ไม่ว่าของจะแย่แค่ไหนก็สามารถขายได้ทั้งนั้น”ขุนนางคนแรกตอบพลางจ้องเหล่าอสูรอย่างเอาจริงเอาจัง ท่าทางหวาดกลัวเมื่อวานอย่างกับเรื่องโกหกเลย

“อืม…เรื่องค้าขายคงต้องให้พวกมนุษย์จัดการจริงๆ”ขุนนางอสูรยกธงยอมแพ้ พวกมันอยู่กันไม่เคยทำการค้าขายเพราะในเขตอสูรต่างมีของที่พวกมันต้องการอยู่แล้ว สุดท้ายการประชุมเรื่องค้าขายฝ่ายขุนนางมนุษย์กุมอำนาจเหนือกว่าไปได้เกือบทุกเรื่อง แต่ถึงอย่างไรเรื่องการรบพวกขุนนางมนุษย์ก็ไว้ใจพวกขุนนางอสูรไม่น้อย ทำให้การประชุมดุเดือดเช่นนี้กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย

“ท่านอิงยี่ ข้าได้ข่าวว่าท่านรู้จักช่างฝีมือจำนวนมากใช่หรือไม่”หลังจากหมดหัวข้อประชุมที่ตกลงกันเอาไว้ในวันแรก ไป๋จูเหวินก็เรียกตัวขุนนางคนหนึ่งเอาไว้

“ขอรับองค์จักรพรรดิ อาณาจักรหลิวเรามีช่างฝีมือยอดเยี่ยมมากมายทีเดียว”ได้ยินคำตอบเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็ยิ้มออกมาบางๆ

“ดี พาข้าไปหาพวกมันหน่อย”ไป๋จูเหวินได้ยินเช่นนั้นก็มีอกดีใจเป็นอย่างมาก บอกตามตรงมันค่อนข้างห่วงเรื่องงานของรูบี้ไม่น้อย มันอยากได้คนไปช่วยงานรูบี้มากๆเพื่อขยายธุรกิจขนส่งให้อาณาจักรไป๋โดยไว

“แต่..พวกช่างฝีมืออยู่ที่เมืองทางตะวันตกนะขอรับ เดินทางร่วม 5 วันกว่าจะถึง”อิงยี่ตอบออกมาด้วยความกังวล พวกมันยังมีงานอีกมาก เกรงว่าเดินทางไปกลับ 10 วันจะทให้การงานล่าช้า

“ไม่เป็นไร ถ้าระยะทางแค่นั้นตอนเย็นก็กลับมาถึงแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางลูบหัวหลินหลินอย่างภูมิใจ หากไม่นับอสูรบินขนาดใหญ่ หรือพวกอสูรวิหคส่งสารแทบไม่มีใครเร็วเท่าหลินหลินเลย

“…………”ทั้งอิงยี่ ทั้งองค์หญิงหลิวเมิ่งที่ต้องติดตามไปด้วยได้แต่มองร่างอสูรของหลินหลินด้วยความตกใจ ตลอดวันที่ผ่านมาพวกมันเถียงกับอสูรหน้าดำคล่ำเครียดจนลืมไปเลยว่าพวกมันมีร่างจริงเช่นไร ทำเอาทั้งสองคนแอบตัวสั่นเล็กน้อย

“พี่ไป๋ ข้าไปด้วย”ไป๋ไป่ว่าพลางตามไป๋จูเหวินขึ้นไปบนหลังของหลินหลิน แม้จะกลัวๆแต่อิงยี่และหลิวเมิ่งก็ขึ้นมาบนหลังของหลินหลินด้วยท่าทีฝืนใจสุดๆ

“ทางตะวันตกสินะท่านอิงยี่”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางอิงยี่ที่กำลังลูบๆคลำๆแผ่นหลังของหลินหลิน พอขึ้นมานั่งแล้วมันรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำจากหินเลย

“ขะ ขอรับ”อิงยี่ตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ ส่วนหลิวเมิ่งนั้นนางยังไม่หายกลัวเลยเอาแต่เกาะหลังไป๋ไป่ไม่ปล่อย เอาเป็นว่าตอนนี้มันยังไม่ควรบอกนางสินะว่าไป๋ไป่จริงๆแล้วมีร่างเป็นมังกรหิน

“……..”อิงยี่อึ้งไปอีกครั้งเมื่อหลินหลินเริ่มออกเดินทาง ระยะทางที่รถม้าต้องเดินทาง 5 วันพวกมันจ้ำพรวดไม่กี่สิบนาทีก็แทบจะเดินครึ่งทางแล้ว ทำเอามันอดทึ่งไม่ได้กับความเร็วของหลินหลิน มิน่าเล่าในสงครามคราวก่อนพวกขุนนางฝ่ายบู้ถึงตกใจกับความเร็วในการขนส่งเสบียงของอาณาจักรอู๋ที่ใช้อสูรบินในการช่วยขนส่งนัก

หลังจากเดินทางมาถึงเมืองทางตะวันตก ไป๋จูเหวินก็เห็นโรงตีเหล็กจำนวนมาก ควันไฟ และ เสียงค้อนดังไปจนถึงหน้าเมือง

“อสูรรรร”ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ชาวเมืองก็พากันแตกตื่นเพราะเห็นหลินหลินเดินเข้ามาใกล้เสียแล้ว ทำให้ไป๋จูเหวินได้แต่ถอนหายใจพลางมองมาทางอิงยี่

“ท่านช่วยไปคุยกับชาวเมืองได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินสั่งเพราะข่าวการยึดอาณาจักรยังไปไม่ถึงชาวเมืองรอบๆเลย ทั้งนี้เพราะไป๋จูเหวินบุกยึดสำเร็จเร็วเกินไปก็ว่าได้ แถมการส่งข่าวธรรมดายังต้องใช้เวลา นี่มันเล่นใช้หลินหลินเดินทางเอาก็ย่อมมาไวกว่าข่าวอยู่แล้ว

“ขอรับ”อิงยี่ตอบพลางกระโดดลงไปจากหลังของหลินหลิน แล้ววิ่งเข้าไปห้ามทหารที่คอยรักษาความปลอดภัยให้เมืองอยู่

“ท่านอิงยี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”เพราะอิงยี่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงานของสมาคมช่างฝีมือ มันจึงมาเมืองแห่งนี้บ่อยๆ ทำให้เหล่าทหารและชาวเมืองคุ้นหน้ามันเป็นอย่างดี

“…..อาณาจักรของเรากลายเป็นอาณาจักรไป๋แล้ว ตอนนี้ท่านผู้อยู่บนหลังอสูรแมงมุมตนนั้นคือองค์จักรพรรดิองค์ใหม่ของเรา”อิงยี่อธิบาย แต่แทนที่จะทำให้คนในเมืองสงบ กลับทำให้แตกตื่นมากกว่าเดิมเสียอีก ทำเอาต้องใช้เวลาอีกหลายสิบนาทีเพื่อทำให้ทุกคนยอมฟังได้

“แล้วไง จักรพรรดิองค์ใหม่มีอะไรกับเมืองของเรา”เหล่าชาวเมืองมีท่าทีหวาดระแวงไป๋จูเหวินอย่างเห็นได้ชัด ทำเอามันได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วเดินเข้าไปหาตรงๆโดยให้หลินหลินกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ข้ามีงานมาให้พวกท่านทำ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปยังหัวหน้าสมาคมช่างฝีมือ

“งาน…พวกเราอยู่ภายใต้กฎของสมาคม ถึงท่านจะเป็นองค์จักรพรรดิก็จะมาใช้งานพวกเราฟรีไม่ได้หรอกนะ”ชายคนนั้นว่าพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีไม่พอใจ ได้ข่าวว่ามันยึดวังหลวงไปแล้ว ท่าทางมันจะให้พวกช่างฝีมือไปซ่อมเมืองหลวงกระมัง ป่านนี้ที่นั่นคงโดนทำลายจนพังยับเยินแล้ว

“แน่นอน ข้ามาที่นี่เพื่อจ้างงาน ก็ย่อมต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้พวกท่านอย่างสมน้ำสมเนื้อ”ไป๋จูเหวินตอบพลางเริ่มเล่าเรื่องที่ตนต้องการให้เหล่าช่างฝีมือฟัง โดยไป๋จูเหวินต้องการช่างช่างโลหะจำนวนมาก และ นักประดิษฐ์ที่มีความสามารถไปช่วยงานของรูบี้ การออกแบบหัวรถจักรเป็นงานใหม่ที่แม้แต่รูบี้ยังต้องคอยปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆไม่หยุด หากได้คนช่วยคิดน่าจะส่งผลดีกว่า

การตกลงงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้เนื้อหางานจะลำบากไปสักหน่อยเพราะต้องเดินทางไปยังวังหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลเอาการ และยังต้องจากลูกจากเมียไปทำงานที่นั่นเป็นแรมปีอีกต่างหาก แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับล่อใจอย่างมาก เนื่องเพราะไป๋จูเหวินมีเงินทุนมหาศาลจากตัวเองและน้าไก่ฟ้า ทำให้สามารถให้ค่าแรงที่น่าสนใจได้ แถมหากรับงานนี้ก็มีงานทำแน่นอนไปอีกหลายปี ทำให้ช่างโลหะที่ยังโสดหรือพวกที่แก่มากจนลูกเมียดูแลตัวเองได้แล้วสนใจที่จะไปร่วมงานไม่น้อย

“หลังจากนี้พวกเราจะส่งคนที่สนใจงานไปที่เมืองหลวง”หัวหน้าสมาคมช่างฝีมือตกลงรับงานอย่างไม่ยากเย็น เพียงแต่พวกมันต้องใช้เวลาตัดสินใจ เมื่อได้คนที่ต้องการจะไปช่วยงานแล้วจะให้ไปรายงานตัวที่เมืองหลวงทันที ทำให้ไป๋จูเหวินกลับไปยังเมืองหลวงได้ในตอนบ่าย และด้วยความเร็วของหลินหลินก็สามารถมาถึงเมืองหลวงได้ก่อนจะเย็นเสียอีก ทำเอาอิงยี่ติดอกติดใจความเร็วของอสูรเป็นอย่างมาก ทำเอามันรอเวลาที่ไป๋จูเหวินจะเปลี่ยนพื้นที่ของอาณาจักรหลิวเป็นค่ายกลอสูรขึ้นมาทันที หลังจากสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์และอสูรสำเร็จอาจจะมีบริการขนส่งโดยอสูรก็เป็นได้ แบบนั้นการเดินทางย่อมรวดเร็วเป็นแน่

หลังจากนั้นอีก 5 วันสมาคมช่างฝีมือก็ส่งคนงานที่ตกลงกันไว้มาที่เมืองหลวง ทางด้านไป๋จูเหวินเองก็จัดการสะสางงานจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะมันจะเดินทางไปส่งพวกมันที่เมืองหลวงเก่าด้วยตนเอง นอกจากนี้มันยังจะไปรับไป๋หลินและเหม่ยหลินมาที่เมืองหลวงใหม่นี้ด้วย

“องค์จักรพรรดิ กระหม่อมขอไปด้วยขอรับ”อิงยี่ดูเหมือนจะติดอกติดใจการเดินทางร่วมกับไป๋จูเหวินไปแล้ว หลังจากเดินทางคราวก่อนมันก็เสนอตัวจะไปช่วยงานที่เมืองหลวงเก่าด้วยตนเอง แน่นอนว่ายังมีหลิวเมิ่งคอยติดตามไปด้วย ความรู้ที่นางสะสมมาจากการเป็นองค์หญิงช่วยไป๋จูเหวินได้มากทีเดียว คนที่แนะนำว่าอิงยี่สามารถหาช่างฝีมือให้ได้ก็คือองค์หญิงหลิวเมิ่งนี่เองเช่นกัน

แม้นางจะอยู่กับไป๋จูเหวินเพื่อจับตามอง แต่ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นองค์จักรพรรดที่ขยันทำงานดีทีเดียว แต่จะเป็นแค่ช่วงแรกหรือไม่เรื่องนี้นางต้องคอยดูต่อไป

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 323 ร่วมงาน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 323 ร่วมงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 323

ร่วมงาน

“หยุดก่อน”ไป๋จูเหวินรีบห้ามหลิวเมิ่งเอาไว้ ก่อนที่นางจะทำอะไรไปมากกว่านี้ นี่นางจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่ทราบ

“เรื่องพี่น้องของเจ้า ข้าจะทำตามที่เจ้าขอ”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาพลางก้มลงหยิบเสื้อตัวนอกของหลิวเมิ่งกลับไปใส่ให้เหมือนเดิม แม้นางจะมีท่าทีกลัวที่ไป๋จูเหวินเข้าไปใกล้ แต่พอเห็นมันไม่ได้ทำอะไรนอกจากเอาเสื้อมาคลุมตัวนางเอาไว้เฉยๆนางก็ลดท่าทีหวาดกลัวลง

“ข้าไม่ได้เป็นคนใจร้ายอะไรขนาดนั้น แล้วก็ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนด้วย”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้นนางก็มีท่าทีประหลาดใจไม่น้อย ปกติขุนนางซื่อสัตว์กับราชวงศ์ของนางมาก ไป๋จูเหวินกลับทำให้พวกมันยอมทำตามได้ไม่ยาก ทำให้นางคิดว่าไป๋จูเหวินต้องใช้วิธีโหดร้ายอย่างการจับลูกเมียของพวกขุนนางเป็นตัวประกัน หรือขู่เอาชีวิตแน่ๆ

“เจ้าเองก็จะไปอยู่ที่วังนอกเมืองก็ได้ ข้าจะให้คนของข้าเฝ้าระวังเอาไว้ พวกเจ้าจะได้ปลอดภัย”ไป๋จูเหวินตอบพลางกลับไปนั่งที่เก้าอี้ ตัวมันมีภรรยาแสนงดงามอยู่แล้ว ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายเลยสักนิดแม้จะเป็นหญิงงามสมกับคำว่าเจ้าหญิงก็ตาม

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่รับใช้ท่านเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน”องค์หญิงหลิวเมิ่งตอบด้วยท่าทีแน่วแน่ นางยังไม่หายกังวลเรื่องของไป๋จูเหวิน อย่างน้อยนางก็อยากจะอยู่ในวังหลวงคอยจับตาการเคลื่อนไหวของไป๋จูเหวินเอาไว้ หากมีอันตรายกับพี่น้องของนางจะได้ส่งข่าวได้ หรือหากมันทำเรื่องเลวร้ายนางก็จะพยายามอย่างที่สุดเพื่อหยุดมัน

“ถ้าอย่างนั้น….เจ้าก็ลองรับหน้าที่ผู้ช่วยข้าดูไหม”ไป๋จูเหวินเสนอ ตัวมันต้องการลดความข้องใจของคนอาณาจักรหลิวอยู่แล้ว หากองค์หญิงหลิวเมิ่งช่วยมันทำงาน คนที่ไม่ยอมติดตามมันในตอนแรกอาจจะเปิดใจก็เป็นได้

“ได้เจ้าค่ะ…เช่นนั้นข้าจะกลับไปที่คุก”องค์หญิงหลิวเมิ่งเห็นไป๋จูเหวินยอมทำตามก็โล่งใจขึ้นมาก อย่างน้อยครอบครัวที่เหลืออยู่ของนางก็ปลอดภัยดี

“ไม่ต้อง เจ้าทำงานเป็นผู้ช่วยของข้าแล้ว กลับไปพักที่ห้องของเจ้าเถอะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางเรียกทหารให้ไปส่งตัวหลิวเมิ่งที่ห้อง ก่อนจะให้ทหารอสูร 2 ตนรับหน้าที่พาองค์หญิงและองค์ชายที่เหลือไปที่วังนอกเมืองซึ่งเป็นวังสำหรับเที่ยวพักผ่อนของเชื้อพระวงศ์อาณาจักรหลิวที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออก ที่นั่นอยู่บนเขาปลอดภัยและสวยงาม ในช่วงที่ไป๋จูเหวินปรับเปลี่ยนอาณาจักรให้พวกเชื้อพระวงศ์ไปอยู่ที่นั่นนับว่าสะดวกกับมันมาก

.

.

“พวกอสูรอย่างเจ้ามันไม่เข้าใจอะไรจริงๆ” ในเช้าวันต่อมาเป็นครั้งแรกที่เหล่าขุนนางมนุษย์และขุนนางอสูรเข้าร่วมประชุมกันเป็นครั้งแรก แต่บรรยากาศของการประชุมกลับดุเดือดอย่างน่าประหลาด

“หมายความว่ายังไง ไอ้หญ้าเฟืองฟ้านี่มันมีราคายังไง”ขุนนางอสูรถามด้วยความงุนงง อยู่ๆขุนนางมนุษย์ก็เสนอเรื่องการส่งออกหญ้าเฟืองฟ้า ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แก้ปวดให้อาณาจักรอินและอาณาจักรชู แต่ขุนนางอสูรกลับงงกันเป็นแถบว่าทำไมมนุษย์ถึงเอาวัชพืชมาขายกันหน้าตาเฉย

“ท่านกวางหิมะ ถึงในเขตอสูรจะมีหญ้าแบบนี้มากมาย แต่สำหรับมนุษย์แล้วพวกมันเป็นของหายากและมีราคา”ขุนนางมนุษย์คนหนึ่งตอบด้วยท่าทีสงบกว่าคนก่อนมาก

“อีกไม่นานที่นี่ก็จะกลายเป็นค่ายกลอสูรแล้ว ของแบบนั้นสามารถเก็บได้ตามพื้น มันจะขายได้งั้นหรือ”อสูรงูเผือกถามด้วยท่าทีสงสัย สำหรับพวกมันแล้วมองหญ้าแบบนี้เป็นของมีค่าไม่ได้จริงๆ

“สำหรับมนุษย์ที่ไม่มีพลังวิญญาณแล้ว ต่อให้มีปัญญาซื้อสมุนไพรล้ำค่า แต่ร่างกายของพวกมันก็ทนไม่ได้หรอก”ขุนนางมนุษย์ตอบ

“อืม…เหมือนพวกอสูรระดับต่ำสินะ”เหล่าอสูรเริ่มปรับความเข้าใจพลางนึกภาพตาม สมุนไพรบางตัวที่พวกมันกินเพื่อเพิ่มพลังเล็กน้อย พอเอาให้อสูรระดับต่ำกินกลับตายเสียอย่างนั้น

“ในเมื่อมีผู้ต้องการ ไม่ว่าของจะแย่แค่ไหนก็สามารถขายได้ทั้งนั้น”ขุนนางคนแรกตอบพลางจ้องเหล่าอสูรอย่างเอาจริงเอาจัง ท่าทางหวาดกลัวเมื่อวานอย่างกับเรื่องโกหกเลย

“อืม…เรื่องค้าขายคงต้องให้พวกมนุษย์จัดการจริงๆ”ขุนนางอสูรยกธงยอมแพ้ พวกมันอยู่กันไม่เคยทำการค้าขายเพราะในเขตอสูรต่างมีของที่พวกมันต้องการอยู่แล้ว สุดท้ายการประชุมเรื่องค้าขายฝ่ายขุนนางมนุษย์กุมอำนาจเหนือกว่าไปได้เกือบทุกเรื่อง แต่ถึงอย่างไรเรื่องการรบพวกขุนนางมนุษย์ก็ไว้ใจพวกขุนนางอสูรไม่น้อย ทำให้การประชุมดุเดือดเช่นนี้กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย

“ท่านอิงยี่ ข้าได้ข่าวว่าท่านรู้จักช่างฝีมือจำนวนมากใช่หรือไม่”หลังจากหมดหัวข้อประชุมที่ตกลงกันเอาไว้ในวันแรก ไป๋จูเหวินก็เรียกตัวขุนนางคนหนึ่งเอาไว้

“ขอรับองค์จักรพรรดิ อาณาจักรหลิวเรามีช่างฝีมือยอดเยี่ยมมากมายทีเดียว”ได้ยินคำตอบเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็ยิ้มออกมาบางๆ

“ดี พาข้าไปหาพวกมันหน่อย”ไป๋จูเหวินได้ยินเช่นนั้นก็มีอกดีใจเป็นอย่างมาก บอกตามตรงมันค่อนข้างห่วงเรื่องงานของรูบี้ไม่น้อย มันอยากได้คนไปช่วยงานรูบี้มากๆเพื่อขยายธุรกิจขนส่งให้อาณาจักรไป๋โดยไว

“แต่..พวกช่างฝีมืออยู่ที่เมืองทางตะวันตกนะขอรับ เดินทางร่วม 5 วันกว่าจะถึง”อิงยี่ตอบออกมาด้วยความกังวล พวกมันยังมีงานอีกมาก เกรงว่าเดินทางไปกลับ 10 วันจะทให้การงานล่าช้า

“ไม่เป็นไร ถ้าระยะทางแค่นั้นตอนเย็นก็กลับมาถึงแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางลูบหัวหลินหลินอย่างภูมิใจ หากไม่นับอสูรบินขนาดใหญ่ หรือพวกอสูรวิหคส่งสารแทบไม่มีใครเร็วเท่าหลินหลินเลย

“…………”ทั้งอิงยี่ ทั้งองค์หญิงหลิวเมิ่งที่ต้องติดตามไปด้วยได้แต่มองร่างอสูรของหลินหลินด้วยความตกใจ ตลอดวันที่ผ่านมาพวกมันเถียงกับอสูรหน้าดำคล่ำเครียดจนลืมไปเลยว่าพวกมันมีร่างจริงเช่นไร ทำเอาทั้งสองคนแอบตัวสั่นเล็กน้อย

“พี่ไป๋ ข้าไปด้วย”ไป๋ไป่ว่าพลางตามไป๋จูเหวินขึ้นไปบนหลังของหลินหลิน แม้จะกลัวๆแต่อิงยี่และหลิวเมิ่งก็ขึ้นมาบนหลังของหลินหลินด้วยท่าทีฝืนใจสุดๆ

“ทางตะวันตกสินะท่านอิงยี่”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางอิงยี่ที่กำลังลูบๆคลำๆแผ่นหลังของหลินหลิน พอขึ้นมานั่งแล้วมันรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำจากหินเลย

“ขะ ขอรับ”อิงยี่ตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ ส่วนหลิวเมิ่งนั้นนางยังไม่หายกลัวเลยเอาแต่เกาะหลังไป๋ไป่ไม่ปล่อย เอาเป็นว่าตอนนี้มันยังไม่ควรบอกนางสินะว่าไป๋ไป่จริงๆแล้วมีร่างเป็นมังกรหิน

“……..”อิงยี่อึ้งไปอีกครั้งเมื่อหลินหลินเริ่มออกเดินทาง ระยะทางที่รถม้าต้องเดินทาง 5 วันพวกมันจ้ำพรวดไม่กี่สิบนาทีก็แทบจะเดินครึ่งทางแล้ว ทำเอามันอดทึ่งไม่ได้กับความเร็วของหลินหลิน มิน่าเล่าในสงครามคราวก่อนพวกขุนนางฝ่ายบู้ถึงตกใจกับความเร็วในการขนส่งเสบียงของอาณาจักรอู๋ที่ใช้อสูรบินในการช่วยขนส่งนัก

หลังจากเดินทางมาถึงเมืองทางตะวันตก ไป๋จูเหวินก็เห็นโรงตีเหล็กจำนวนมาก ควันไฟ และ เสียงค้อนดังไปจนถึงหน้าเมือง

“อสูรรรร”ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ชาวเมืองก็พากันแตกตื่นเพราะเห็นหลินหลินเดินเข้ามาใกล้เสียแล้ว ทำให้ไป๋จูเหวินได้แต่ถอนหายใจพลางมองมาทางอิงยี่

“ท่านช่วยไปคุยกับชาวเมืองได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินสั่งเพราะข่าวการยึดอาณาจักรยังไปไม่ถึงชาวเมืองรอบๆเลย ทั้งนี้เพราะไป๋จูเหวินบุกยึดสำเร็จเร็วเกินไปก็ว่าได้ แถมการส่งข่าวธรรมดายังต้องใช้เวลา นี่มันเล่นใช้หลินหลินเดินทางเอาก็ย่อมมาไวกว่าข่าวอยู่แล้ว

“ขอรับ”อิงยี่ตอบพลางกระโดดลงไปจากหลังของหลินหลิน แล้ววิ่งเข้าไปห้ามทหารที่คอยรักษาความปลอดภัยให้เมืองอยู่

“ท่านอิงยี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”เพราะอิงยี่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องงานของสมาคมช่างฝีมือ มันจึงมาเมืองแห่งนี้บ่อยๆ ทำให้เหล่าทหารและชาวเมืองคุ้นหน้ามันเป็นอย่างดี

“…..อาณาจักรของเรากลายเป็นอาณาจักรไป๋แล้ว ตอนนี้ท่านผู้อยู่บนหลังอสูรแมงมุมตนนั้นคือองค์จักรพรรดิองค์ใหม่ของเรา”อิงยี่อธิบาย แต่แทนที่จะทำให้คนในเมืองสงบ กลับทำให้แตกตื่นมากกว่าเดิมเสียอีก ทำเอาต้องใช้เวลาอีกหลายสิบนาทีเพื่อทำให้ทุกคนยอมฟังได้

“แล้วไง จักรพรรดิองค์ใหม่มีอะไรกับเมืองของเรา”เหล่าชาวเมืองมีท่าทีหวาดระแวงไป๋จูเหวินอย่างเห็นได้ชัด ทำเอามันได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วเดินเข้าไปหาตรงๆโดยให้หลินหลินกลับคืนร่างเป็นมนุษย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

“ข้ามีงานมาให้พวกท่านทำ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปยังหัวหน้าสมาคมช่างฝีมือ

“งาน…พวกเราอยู่ภายใต้กฎของสมาคม ถึงท่านจะเป็นองค์จักรพรรดิก็จะมาใช้งานพวกเราฟรีไม่ได้หรอกนะ”ชายคนนั้นว่าพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีไม่พอใจ ได้ข่าวว่ามันยึดวังหลวงไปแล้ว ท่าทางมันจะให้พวกช่างฝีมือไปซ่อมเมืองหลวงกระมัง ป่านนี้ที่นั่นคงโดนทำลายจนพังยับเยินแล้ว

“แน่นอน ข้ามาที่นี่เพื่อจ้างงาน ก็ย่อมต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้พวกท่านอย่างสมน้ำสมเนื้อ”ไป๋จูเหวินตอบพลางเริ่มเล่าเรื่องที่ตนต้องการให้เหล่าช่างฝีมือฟัง โดยไป๋จูเหวินต้องการช่างช่างโลหะจำนวนมาก และ นักประดิษฐ์ที่มีความสามารถไปช่วยงานของรูบี้ การออกแบบหัวรถจักรเป็นงานใหม่ที่แม้แต่รูบี้ยังต้องคอยปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆไม่หยุด หากได้คนช่วยคิดน่าจะส่งผลดีกว่า

การตกลงงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น แม้เนื้อหางานจะลำบากไปสักหน่อยเพราะต้องเดินทางไปยังวังหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลเอาการ และยังต้องจากลูกจากเมียไปทำงานที่นั่นเป็นแรมปีอีกต่างหาก แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับล่อใจอย่างมาก เนื่องเพราะไป๋จูเหวินมีเงินทุนมหาศาลจากตัวเองและน้าไก่ฟ้า ทำให้สามารถให้ค่าแรงที่น่าสนใจได้ แถมหากรับงานนี้ก็มีงานทำแน่นอนไปอีกหลายปี ทำให้ช่างโลหะที่ยังโสดหรือพวกที่แก่มากจนลูกเมียดูแลตัวเองได้แล้วสนใจที่จะไปร่วมงานไม่น้อย

“หลังจากนี้พวกเราจะส่งคนที่สนใจงานไปที่เมืองหลวง”หัวหน้าสมาคมช่างฝีมือตกลงรับงานอย่างไม่ยากเย็น เพียงแต่พวกมันต้องใช้เวลาตัดสินใจ เมื่อได้คนที่ต้องการจะไปช่วยงานแล้วจะให้ไปรายงานตัวที่เมืองหลวงทันที ทำให้ไป๋จูเหวินกลับไปยังเมืองหลวงได้ในตอนบ่าย และด้วยความเร็วของหลินหลินก็สามารถมาถึงเมืองหลวงได้ก่อนจะเย็นเสียอีก ทำเอาอิงยี่ติดอกติดใจความเร็วของอสูรเป็นอย่างมาก ทำเอามันรอเวลาที่ไป๋จูเหวินจะเปลี่ยนพื้นที่ของอาณาจักรหลิวเป็นค่ายกลอสูรขึ้นมาทันที หลังจากสร้างความสัมพันธ์กับมนุษย์และอสูรสำเร็จอาจจะมีบริการขนส่งโดยอสูรก็เป็นได้ แบบนั้นการเดินทางย่อมรวดเร็วเป็นแน่

หลังจากนั้นอีก 5 วันสมาคมช่างฝีมือก็ส่งคนงานที่ตกลงกันไว้มาที่เมืองหลวง ทางด้านไป๋จูเหวินเองก็จัดการสะสางงานจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเพราะมันจะเดินทางไปส่งพวกมันที่เมืองหลวงเก่าด้วยตนเอง นอกจากนี้มันยังจะไปรับไป๋หลินและเหม่ยหลินมาที่เมืองหลวงใหม่นี้ด้วย

“องค์จักรพรรดิ กระหม่อมขอไปด้วยขอรับ”อิงยี่ดูเหมือนจะติดอกติดใจการเดินทางร่วมกับไป๋จูเหวินไปแล้ว หลังจากเดินทางคราวก่อนมันก็เสนอตัวจะไปช่วยงานที่เมืองหลวงเก่าด้วยตนเอง แน่นอนว่ายังมีหลิวเมิ่งคอยติดตามไปด้วย ความรู้ที่นางสะสมมาจากการเป็นองค์หญิงช่วยไป๋จูเหวินได้มากทีเดียว คนที่แนะนำว่าอิงยี่สามารถหาช่างฝีมือให้ได้ก็คือองค์หญิงหลิวเมิ่งนี่เองเช่นกัน

แม้นางจะอยู่กับไป๋จูเหวินเพื่อจับตามอง แต่ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นองค์จักรพรรดที่ขยันทำงานดีทีเดียว แต่จะเป็นแค่ช่วงแรกหรือไม่เรื่องนี้นางต้องคอยดูต่อไป

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+