บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 347 ลาหยุด

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 347 ลาหยุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 347

ลาหยุด

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการที่ค้างเอาไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งพูดพลางเดินเอาเอกสารที่ตรวจสอบแล้วมาวางไว้ให้ที่โต๊ะของไป๋จูเหวิน

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการงานล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว”หลิวหลงเดินเข้ามาทั้งๆที่ยังสวมชุดเกราะแม่ทัพอยู่ ทำให้ไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยิ้มบางๆออกมา

“พวกเจ้าไปเถอะ ไม่ต้องห่วงข้านักก็ได้”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางมองทั้งหลิวเมิ่งและหลิวหลง ตอนแรกพวกมันยังแค้นไป๋จูเหวินอยู่เลย มาวันนี้มันกลับห่วงงานบ้านเมืองมากกว่าการไปพบหน้าหลานชายคนแรกของพวกมันเสียอีก

หลังจากการบุกของอาณาจักรเฉินและจัดการความเข้าใจผิด ไป๋จูเหวินก็ได้ส่งตัวหลิวมู่เฉินไปอภิเษกกับองค์ชายเฉินคุณ หลังจากใช้เวลาอยู่นานในที่สุดองค์ชายเฉินคุณก็สามารถสร้างทายาทได้สำเร็จแถมยังเป็นองค์ชายอีกต่างหาก ทำให้พวกพี่น้องตระกูลหลิวดีใจกันอย่างมาก

“ถ้าพวกข้าไม่ทำเอาไว้ ท่านก็จะทำเองสินะ”หลิวเมิ่งว่าพลางจ้องไป๋จูเหวินด้วยท่าทีดุๆ นางอยู่กับไป๋จูเหวินมาหลายปี ทราบนิสัยมันดีอยู่ ขืนนางไม่จัดการงานล่วงหน้าเอาไว้ ไป๋จูเหวินจะเหมาหงานของหลิวหลงและตัวนางไปทำในช่วงที่นางไม่อยู่อย่างแน่นอน แบบนั้นนางไม่ชอบใจเลยในฐานะคนที่ต้องคอยดูแลสุขภาพของไป๋จูเหวินไปด้วย

“ท่านหลิวเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมๆกับหลิวอิง ท่าทางนางจะได้ยินเรื่องหลานคนแรกของพวกมันจากหลิวอิงไปแล้วแน่ๆ

“ใช่แล้วองค์หญิง ท่านอยากจะไปด้วยหรือเปล่า”หลิวเมิ่งถามพลางยิ้มบางๆ ช่วงหลังมานี่ไป๋จูเหวินปล่อยให้ไป๋หลินได้ออกไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยขึ้น แม้จะยังไม่เคยออกจากอาณาจักรไป๋คนเดียวก็ตาม

“อยากไปเจ้าค่ะ ข้าชอบเด็กตัวเล็กๆ แล้วก็อยากอุ้มด้วย”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีตื่นเต้น ตั้งแต่นางได้อุ้มอู๋เทียนหมิงนางก็มีท่าทีจะเอ็นดูเด็กเล็กๆขึ้นมาก แม้จะชอบเข้าไปวุ่นวายจนเด็กๆรำคาญก็ตาม

“ไป๋หลิน พวกน้าเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินนะ”เหม่ยหลินท้วง ความจริงการเดินทางจากวังหลวงไปยังทางเหนือของอาณาจักรไป๋ที่ไป๋หลินเคยเดินทางไปนั้นไกลกว่าเดินทางไปอาณาจักรเฉินเสียอีก แต่เพราะมันอยู่คนละอาณาจักรเหม่ยหลินเลยอดเป็นห่วงไม่ได้ แถมหลิวเมิ่ง หลิวหลง หลิวอิง รวมทั้งหลิวเซียนที่อยู่เมืองหลวงเก่าเองก็ลางานไปหมด ทำให้เหม่ยหลินและไป๋จูเหวินไม่ว่างไปด้วยเลย

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะพระมเหสี พวกเราไปในนามแขกบ้านแขกเมือง รับรองว่าอาณาจักรเฉินต้องต้อนรับอย่างดีและรับรองความปลอดภัยอย่างมากแน่นอนเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งเสนอออกมาด้วยท่าทีใจดี

“ไม่ต้องห่วง มีข้าไปด้วยไม่ปล่อยให้องค์หญิงบาดเจ็บหรอก”หลิวหลงว่าพลางยิ้มออกมา อย่างที่พวกมันบอกคราวนี้ไม่ใช่การเดินทางคนเดียว แต่เป็นการเดินทางกับเหล่าขุนนางต่างหาก

“ก็ได้ แต่เจ้าห้ามก่อเรื่องให้พวกน้าๆนะ”เหม่ยหลินเห็นไป๋หลินทำตาเหมือนจะบอกว่าพวกน้าๆพูดขนาดนี้แล้วท่านแม่ยังไม่ยอมอีกหรือก็ได้แต่ถอนหายใจ

“เย้ พี่ไป๋ไป่ พี่ชิว ไปเก็บของกันเถอะ”ไป๋หลินว่าพลางวิ่งกลับไปที่ห้องของตนเอง ทำเอาพวกน้าๆตระกูลหลิวได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“ไป๋น้อย ทำไมเจ้าดีใจขนาดนั้นกัน”ไป๋ไป่ถามพลางเดินตามไป๋หลินมาด้วยท่าทีสงสัย ปกติไป๋หลินก็ดีใจออกมาทางสีหน้าอยู่แล้ว แต่คราวนี้เหมือนจะลิงโลดกว่าปกติ

“โถ่ พี่ไป๋ไป่ อาณาจักรเฉินไม่ได้มองข้าเป็นองค์หญิงนี่นา ถ้าไปที่นั่นประชาชนคงไม่รู้แน่ๆว่าข้าเป็นองค์หญิง”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะคิดคักด้วยท่าทีมีความสุข ถึงจะได้เดินทางมากขึ้นแต่ในอาณาจักรไป๋ อาณาจักรอู๋ และ อาณาจักรชิน ไป๋หลินแทบไม่มีทางเดินตลาดได้โดยไม่ปิดหน้าปิดตาแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนใน 3 อาณาจักรนี้ไป๋หลินก็คือองค์หญิงทั้งสิ้น แต่หากเป็นอาณาจักรอื่นอย่างอาณาจักรเฉินละก็ นางสามารถเดินกลางตลาดได้โดยไม่โดนคนอื่นจับได้แน่ๆ

“องค์หญิง ท่านจะหนีเที่ยวอีกแล้วหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีจับผิด

“เปล่า ข้าแค่จะไปเยี่ยมชมบ้านเมืองของเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง”ไป๋หลินตอบพลางหลบสายตาชิงชิว

“ก็ได้ขอรับ แต่ต้องไปหลังจากงานฉลองจบแล้วนะขอรับ”ชิงชิวว่าพลางยิ้มบางๆ แม้มันจะมีหน้าที่คอยจับตามองไม่ให้ไป๋หลินหนีเที่ยว แต่หากเป็นช่วงเวลาที่ทำได้ไม่กระทบคนอื่น ชิงชิวก็มีปล่อยไป๋หลินไปบ้างเช่นกัน

“เจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มหวานพลางกลับห้องมาจัดของอย่างร่าเริง พอได้ไปเที่ยวทีไรไป๋หลินก็ร่าเริงเช่นนี้ตลอด แน่นอนว่าคราวนี้เป็นกรณีพิเศษ

.

.

การเดินทางไปอาณาจักรเฉิน สามารถเดินทางไปเมืองชายแดนทาวตะวันตกเฉียงเหนือได้ทันที แต่เพราะหลิวเซียนยังทำงานอยู่ที่เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ ทำให้พวกหลิวหลงตัดสินใจเดินทางไปเมืองหลวงเก่าก่อนจะเดินทางไปอาณาจักรเฉิน

“ท่านป้ารูบี้”ไหนๆก็มาถึงเมืองหลวงเก่าแล้ว ไป๋หลินก็มาหารูบี้ที่โรงงานผลิตด้วยเช่นกัน แม้หัวรถจักรจะสร้างเสร็จไปแล้ว แต่รูบี้ก็ยังรั้งอยู่อาณาจักรไป๋ไม่ได้ไปไหน นั่นเพราะยังมีงานอีกมากมายที่นางอยากจะทดลองเพิ่ม ล่าสุดนางผลิตแสงไฟที่สามารถใช้พลังงานจากแร่ธาตุสายฟ้าชนิดหนึ่งในการสะสมพลังวิญญาณให้ดวงไฟสามารถใช้ได้ตลอดทั้งคืน มันสว่างกว่าคบเพลิงมาก หากทำสำเร็จรูบี้บอกว่าหากเปิดดวงไฟทั้งหมดพร้อมกัน ทั้งเมืองจะสว่างไม่ต่างจากตอนกลางวันเลย

“หลินเอ๋อ เจ้ามาด้วยงั้นเหรอ”รูบี้ถามพลางรับกอดหลานสาวอย่างยินดี ส่วนทางด้านหลิวหลงและพี่น้องตระกูลหลิวแยกไปหาหลิวเซียนอีกมุมหนึ่ง ทำให้ชิงชิวเลือกที่จะเดินชมสิ่งประดิษฐ์ที่วางกองอยู่บนโต๊ะ

“สนใจงั้นเหรอ”เพิร์ลที่ยืนอยู่ข้างๆถามพลางมองมาทางชิงชิวที่กำลังมองสิ่งประดิษฐ์ของรูบี้ด้วยท่าทีสนใจ

“ขอรับ ข้าประทับใจรถไฟมากเลยขอรับ เพราะมันอาณาจักรเราเลยเหมือนแคบลง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มออกมา การเดินทางที่สะดวกสะบายและรวดเร็วทำให้เมืองใกล้ๆกันรู้จักกันมากขึ้น ทุกวันนี้ข่าวของทางเหนือมาถึงทางใต้ในเวลาไม่นานเสียด้วยซ้ำ

“งั้นเหรอ สนใจชิ้นไหนบอกข้าได้นะ”เพิร์ลยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้ชิงชิว บอกตามตรงว่าตอนแรกชิงชิวอึ้งกับความเหมือนกันของเพิร์ลกับองค์จักรพรรดิมากกว่าสิ่งประดิษฐ์อีก หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงไป๋หลินเล่าให้ฟังมาก่อนมันคงงงไปแล้ว

“เจ้านี่…คืออะไรหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองเม็ดยาที่วางอยู่บนโต๊ะ เจ้านี่ไม่เข้ากับของบนโต๊ะที่สุดแล้ว เพราะของชิ้นอื่นๆเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากแร่ต่างๆ มีเพียงเม็ดยาเม็ดนี้เท่านั้นที่ต่างไป

“เจ้านี่เหรอ มันคือยาหลอมรวมอสูร”เพิร์ลตอบพลางหยิบเม็ดยาขึ้นมา ตัวมันนอกจากดูแลอาณาจักรทางเหนือให้ไป๋จูเหวินแล้วก็ทำตัวเหมือนผู้ช่วยของรูบี้เกือบตลอดเวลา ทำให้มันทราบรายระเอียดของสิ่งประดิษฐ์มากทีเดียว

“ยาหลอมรวมอสูร?”ชิงชิวไม่เคยได้ยินเรื่องยาเม็ดนี้มาก่อน มันเลยไม่เข้าใจว่าเพิร์ลหมายถึงอะไร

“เจ้ารู้จักกลุ่มนักล่าอสูรหรือเปล่า”แค่มองหน้าชิงชิวเพิร์ลก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจเลยถามออกไปเพื่อจะอธิบายต่อ

“ขอรับ”ชิงชิวพยักหน้า กลุ่มนักล่าอสูรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับองค์มเหสี โดยมีอสูรขององค์จักรพรรดินามหงเยว่ควบคุมดูแล ในอาณาจักรอื่นพวกมันมีหน้าที่เข้าไปในเขคอสูรเพื่อล่าเอาวัตถุดิบจำเป็นออกมา ส่วนในอาณาจักรไป๋ พวกมันมีหน้าที่สำรวจการเติบโตของค่ายกลอสูร ทำให้ตำแหน่งของพวกมันในอาณาจักรไป๋เหมือนผู้ตรวจการมากกว่านักล่าเสียอีก

“ยาต้นแบบของยาเม็ดนี้เป็นยาที่ทำให้กลุ่มนักล่าอสูรสามารถกลืนแก่นอสูรและซึมซับพลังอสูรได้”เพิร์ลตอบพลางยิ้มบางๆ

“ต้นแบบ? งั้นหมายความว่าเม็ดนี้ไม่เหมือนต้นแบบหรือขอรับ”ชิงชิวถามด้วยท่าทีสนใจ มันทราบมานานแล้วว่ากลุ่มนักล่าอสูรมีการใช้พลังอสูรด้วย แต่มันก็พึ่งทราบนี้เองว่าที่มาของพลังอสูรนั้นมาจากยาเม็ดนี้เอง

“ใช่ นี่เป็นยาที่องค์จักรพรรดิส่งมาให้ท่านหลิวเซียนช่วยพัฒนา ถึงจะยังไม่สำเร็จแต่ก็มาไกลทีเดียว”เพิร์ลโยนเม็ดยาขึ้นฟ้าพลางรับกลับเข้ามาในมือ แต่เดิมยาที่ใช้หลอมรวมกับแก่นอสูรสามารถใช้กับแก่นอสูรระดับต่ำเท่านั้น ต่อมาไป๋จูเหวินพัฒนามันให้สามารถรวมกับแก่นอสูรระดับหยกได้ และเมื่อส่งมาให้หลิวเซียนขัดเกลาอีกครั้ง ตอนนี้ตัวยามีโอกาสหลอมรวมกับแก่นอสูรระดับมายาได้เลยทีเดียว หรือก็คือมันสามารถสร้างผู้มีพลังอสูรระดับเหม่ยหลินขึ้นมาได้ แต่เพราะยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันเลยยังมีโอกาสสำเร็จเพียง 3 ใน 10 ส่วนเท่านั้น

“ยอดไปเลยขอรับ ข้าเองก็อยากมีพลังอสูรบ้าง”ชิงชิวว่าพลางทำตาโต อาณาจักรไป๋ตอนนี้เป็นอาณาจักรที่มนุษย์และอสูรอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ตัวตนของนักล่าอสูรเหมือนดั่งตัวตนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ฝ่าย

“งั้นก็ลองดูสิ เอาไว้เจ้าหาแก่นอสูรดีๆได้ก็ลองดู แต่เจ้าต้องเลือกดีๆล่ะ”เพิร์ลยิ้มพลางส่งเม็ดยาให้ชิงชิวไป

“จะดีหรือขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปครู่ใหญ่ เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรในตอนนี้นั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก มันต่างกับการเข้าร่วมกองทัพที่ต้องใช้กำลังกาย เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรต้องศึกษาข้อมูลของอสูรและเขตอสูรเป็นจำนวนมากถึงจะสามารถสอบเข้าได้ แถมตำแหน่งยังไม่ค่อนว่างอีกต่างหาก

“เม็ดนี้มันเป็นผลงานที่ผิดพลาด ของแบบนี้ในมิติของข้ามีอีกเป็นร้อยเม็ดเลย”เพิร์ลว่าพลางหัวเราะออกมา ที่เอามาตั้งไว้ตรงนี้ก็แค่เอามาประดับผลงานเท่านั้นเอง

“ขอรับ งั้นข้าไม่เกลงใจนะขอรับ”ชิงชิวยิ้มพลางรับยามาอย่างยินดี

.

.

“เพิร์ล เจ้าเห็นยาหลอมรวมอสูรที่วางอยู่บนโต๊ะไหม”หลังจากพวกพี่น้องตระกูลหลิวเดินทางไปขึ้นรถไฟแล้ว รูบี้ก็พึ่งสังเกตุว่าบนโต๊ะไม่มีเม็ดยาที่วางทิ้งเอาไว้

“ข้าให้เจ้าหนูที่เป็นองครักษ์ของไป๋หลินไป มีอะไรงั้นเหรอ”เพิร์ลถามพลางทำงานในมือต่ออยางสบายอารมณ์

“อย่าบอกนะว่าเจ้าให้มันกิน”รูบี้หน้าซีดทันที ทำเอาเพิร์ลต้องหยุดมือจากงานที่ทำอยู่

“ก็ใช่..ยานั่นมีโอกาสสำเร็จแค่ 3 ใน 10 ส่วนไม่ใช่เหรอ”เพิร์ลตอบพลางกระพริบตาปริบๆ

“ก็ใช่…..แต่ถ้าหลอมรวมกับแก่นอสูรไม่สำเร็จ เด็กคนนั้นจะตานเลยนะ”รูบี้ตัวสั่นสะท้านด้วยความตกใจ อาจจะเพราะผลงานชิ้นนี้เป็นของหลิวเซียน เพิร์ลเลยไม่ได้จดจำรายระเอียดให้ดี ที่ยาเหล่านี้ยังไม่ถูกส่งกลับไปให้ไป๋จูเหวินเพราะโอกาสสำเร็จยังน้อย แถมถ้าพลาดก็เท่ากับฆ่าคนที่กินลงไปเลย

“เจ้าพูดจริงงั้นเหรอ แย่แล้ว”เพิร์ลลุกพรวดไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะรีบเขียนจดหมายไปหาหลิวเซียนทันที หากส่งไปตอนนี้น่าจะยังทัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 347 ลาหยุด

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 347 ลาหยุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 347

ลาหยุด

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการที่ค้างเอาไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งพูดพลางเดินเอาเอกสารที่ตรวจสอบแล้วมาวางไว้ให้ที่โต๊ะของไป๋จูเหวิน

“องค์จักรพรรดิ ข้าจัดการงานล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว”หลิวหลงเดินเข้ามาทั้งๆที่ยังสวมชุดเกราะแม่ทัพอยู่ ทำให้ไป๋จูเหวินที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยิ้มบางๆออกมา

“พวกเจ้าไปเถอะ ไม่ต้องห่วงข้านักก็ได้”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางมองทั้งหลิวเมิ่งและหลิวหลง ตอนแรกพวกมันยังแค้นไป๋จูเหวินอยู่เลย มาวันนี้มันกลับห่วงงานบ้านเมืองมากกว่าการไปพบหน้าหลานชายคนแรกของพวกมันเสียอีก

หลังจากการบุกของอาณาจักรเฉินและจัดการความเข้าใจผิด ไป๋จูเหวินก็ได้ส่งตัวหลิวมู่เฉินไปอภิเษกกับองค์ชายเฉินคุณ หลังจากใช้เวลาอยู่นานในที่สุดองค์ชายเฉินคุณก็สามารถสร้างทายาทได้สำเร็จแถมยังเป็นองค์ชายอีกต่างหาก ทำให้พวกพี่น้องตระกูลหลิวดีใจกันอย่างมาก

“ถ้าพวกข้าไม่ทำเอาไว้ ท่านก็จะทำเองสินะ”หลิวเมิ่งว่าพลางจ้องไป๋จูเหวินด้วยท่าทีดุๆ นางอยู่กับไป๋จูเหวินมาหลายปี ทราบนิสัยมันดีอยู่ ขืนนางไม่จัดการงานล่วงหน้าเอาไว้ ไป๋จูเหวินจะเหมาหงานของหลิวหลงและตัวนางไปทำในช่วงที่นางไม่อยู่อย่างแน่นอน แบบนั้นนางไม่ชอบใจเลยในฐานะคนที่ต้องคอยดูแลสุขภาพของไป๋จูเหวินไปด้วย

“ท่านหลิวเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินเหรอเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมๆกับหลิวอิง ท่าทางนางจะได้ยินเรื่องหลานคนแรกของพวกมันจากหลิวอิงไปแล้วแน่ๆ

“ใช่แล้วองค์หญิง ท่านอยากจะไปด้วยหรือเปล่า”หลิวเมิ่งถามพลางยิ้มบางๆ ช่วงหลังมานี่ไป๋จูเหวินปล่อยให้ไป๋หลินได้ออกไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยขึ้น แม้จะยังไม่เคยออกจากอาณาจักรไป๋คนเดียวก็ตาม

“อยากไปเจ้าค่ะ ข้าชอบเด็กตัวเล็กๆ แล้วก็อยากอุ้มด้วย”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีตื่นเต้น ตั้งแต่นางได้อุ้มอู๋เทียนหมิงนางก็มีท่าทีจะเอ็นดูเด็กเล็กๆขึ้นมาก แม้จะชอบเข้าไปวุ่นวายจนเด็กๆรำคาญก็ตาม

“ไป๋หลิน พวกน้าเมิ่งจะไปอาณาจักรเฉินนะ”เหม่ยหลินท้วง ความจริงการเดินทางจากวังหลวงไปยังทางเหนือของอาณาจักรไป๋ที่ไป๋หลินเคยเดินทางไปนั้นไกลกว่าเดินทางไปอาณาจักรเฉินเสียอีก แต่เพราะมันอยู่คนละอาณาจักรเหม่ยหลินเลยอดเป็นห่วงไม่ได้ แถมหลิวเมิ่ง หลิวหลง หลิวอิง รวมทั้งหลิวเซียนที่อยู่เมืองหลวงเก่าเองก็ลางานไปหมด ทำให้เหม่ยหลินและไป๋จูเหวินไม่ว่างไปด้วยเลย

“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะพระมเหสี พวกเราไปในนามแขกบ้านแขกเมือง รับรองว่าอาณาจักรเฉินต้องต้อนรับอย่างดีและรับรองความปลอดภัยอย่างมากแน่นอนเจ้าค่ะ”หลิวเมิ่งเสนอออกมาด้วยท่าทีใจดี

“ไม่ต้องห่วง มีข้าไปด้วยไม่ปล่อยให้องค์หญิงบาดเจ็บหรอก”หลิวหลงว่าพลางยิ้มออกมา อย่างที่พวกมันบอกคราวนี้ไม่ใช่การเดินทางคนเดียว แต่เป็นการเดินทางกับเหล่าขุนนางต่างหาก

“ก็ได้ แต่เจ้าห้ามก่อเรื่องให้พวกน้าๆนะ”เหม่ยหลินเห็นไป๋หลินทำตาเหมือนจะบอกว่าพวกน้าๆพูดขนาดนี้แล้วท่านแม่ยังไม่ยอมอีกหรือก็ได้แต่ถอนหายใจ

“เย้ พี่ไป๋ไป่ พี่ชิว ไปเก็บของกันเถอะ”ไป๋หลินว่าพลางวิ่งกลับไปที่ห้องของตนเอง ทำเอาพวกน้าๆตระกูลหลิวได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

“ไป๋น้อย ทำไมเจ้าดีใจขนาดนั้นกัน”ไป๋ไป่ถามพลางเดินตามไป๋หลินมาด้วยท่าทีสงสัย ปกติไป๋หลินก็ดีใจออกมาทางสีหน้าอยู่แล้ว แต่คราวนี้เหมือนจะลิงโลดกว่าปกติ

“โถ่ พี่ไป๋ไป่ อาณาจักรเฉินไม่ได้มองข้าเป็นองค์หญิงนี่นา ถ้าไปที่นั่นประชาชนคงไม่รู้แน่ๆว่าข้าเป็นองค์หญิง”ไป๋หลินว่าพลางหัวเราะคิดคักด้วยท่าทีมีความสุข ถึงจะได้เดินทางมากขึ้นแต่ในอาณาจักรไป๋ อาณาจักรอู๋ และ อาณาจักรชิน ไป๋หลินแทบไม่มีทางเดินตลาดได้โดยไม่ปิดหน้าปิดตาแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะที่ไหนใน 3 อาณาจักรนี้ไป๋หลินก็คือองค์หญิงทั้งสิ้น แต่หากเป็นอาณาจักรอื่นอย่างอาณาจักรเฉินละก็ นางสามารถเดินกลางตลาดได้โดยไม่โดนคนอื่นจับได้แน่ๆ

“องค์หญิง ท่านจะหนีเที่ยวอีกแล้วหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีจับผิด

“เปล่า ข้าแค่จะไปเยี่ยมชมบ้านเมืองของเพื่อนบ้านเท่านั้นเอง”ไป๋หลินตอบพลางหลบสายตาชิงชิว

“ก็ได้ขอรับ แต่ต้องไปหลังจากงานฉลองจบแล้วนะขอรับ”ชิงชิวว่าพลางยิ้มบางๆ แม้มันจะมีหน้าที่คอยจับตามองไม่ให้ไป๋หลินหนีเที่ยว แต่หากเป็นช่วงเวลาที่ทำได้ไม่กระทบคนอื่น ชิงชิวก็มีปล่อยไป๋หลินไปบ้างเช่นกัน

“เจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มหวานพลางกลับห้องมาจัดของอย่างร่าเริง พอได้ไปเที่ยวทีไรไป๋หลินก็ร่าเริงเช่นนี้ตลอด แน่นอนว่าคราวนี้เป็นกรณีพิเศษ

.

.

การเดินทางไปอาณาจักรเฉิน สามารถเดินทางไปเมืองชายแดนทาวตะวันตกเฉียงเหนือได้ทันที แต่เพราะหลิวเซียนยังทำงานอยู่ที่เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ ทำให้พวกหลิวหลงตัดสินใจเดินทางไปเมืองหลวงเก่าก่อนจะเดินทางไปอาณาจักรเฉิน

“ท่านป้ารูบี้”ไหนๆก็มาถึงเมืองหลวงเก่าแล้ว ไป๋หลินก็มาหารูบี้ที่โรงงานผลิตด้วยเช่นกัน แม้หัวรถจักรจะสร้างเสร็จไปแล้ว แต่รูบี้ก็ยังรั้งอยู่อาณาจักรไป๋ไม่ได้ไปไหน นั่นเพราะยังมีงานอีกมากมายที่นางอยากจะทดลองเพิ่ม ล่าสุดนางผลิตแสงไฟที่สามารถใช้พลังงานจากแร่ธาตุสายฟ้าชนิดหนึ่งในการสะสมพลังวิญญาณให้ดวงไฟสามารถใช้ได้ตลอดทั้งคืน มันสว่างกว่าคบเพลิงมาก หากทำสำเร็จรูบี้บอกว่าหากเปิดดวงไฟทั้งหมดพร้อมกัน ทั้งเมืองจะสว่างไม่ต่างจากตอนกลางวันเลย

“หลินเอ๋อ เจ้ามาด้วยงั้นเหรอ”รูบี้ถามพลางรับกอดหลานสาวอย่างยินดี ส่วนทางด้านหลิวหลงและพี่น้องตระกูลหลิวแยกไปหาหลิวเซียนอีกมุมหนึ่ง ทำให้ชิงชิวเลือกที่จะเดินชมสิ่งประดิษฐ์ที่วางกองอยู่บนโต๊ะ

“สนใจงั้นเหรอ”เพิร์ลที่ยืนอยู่ข้างๆถามพลางมองมาทางชิงชิวที่กำลังมองสิ่งประดิษฐ์ของรูบี้ด้วยท่าทีสนใจ

“ขอรับ ข้าประทับใจรถไฟมากเลยขอรับ เพราะมันอาณาจักรเราเลยเหมือนแคบลง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มออกมา การเดินทางที่สะดวกสะบายและรวดเร็วทำให้เมืองใกล้ๆกันรู้จักกันมากขึ้น ทุกวันนี้ข่าวของทางเหนือมาถึงทางใต้ในเวลาไม่นานเสียด้วยซ้ำ

“งั้นเหรอ สนใจชิ้นไหนบอกข้าได้นะ”เพิร์ลยิ้มพลางเดินเข้าไปใกล้ชิงชิว บอกตามตรงว่าตอนแรกชิงชิวอึ้งกับความเหมือนกันของเพิร์ลกับองค์จักรพรรดิมากกว่าสิ่งประดิษฐ์อีก หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงไป๋หลินเล่าให้ฟังมาก่อนมันคงงงไปแล้ว

“เจ้านี่…คืออะไรหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองเม็ดยาที่วางอยู่บนโต๊ะ เจ้านี่ไม่เข้ากับของบนโต๊ะที่สุดแล้ว เพราะของชิ้นอื่นๆเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากแร่ต่างๆ มีเพียงเม็ดยาเม็ดนี้เท่านั้นที่ต่างไป

“เจ้านี่เหรอ มันคือยาหลอมรวมอสูร”เพิร์ลตอบพลางหยิบเม็ดยาขึ้นมา ตัวมันนอกจากดูแลอาณาจักรทางเหนือให้ไป๋จูเหวินแล้วก็ทำตัวเหมือนผู้ช่วยของรูบี้เกือบตลอดเวลา ทำให้มันทราบรายระเอียดของสิ่งประดิษฐ์มากทีเดียว

“ยาหลอมรวมอสูร?”ชิงชิวไม่เคยได้ยินเรื่องยาเม็ดนี้มาก่อน มันเลยไม่เข้าใจว่าเพิร์ลหมายถึงอะไร

“เจ้ารู้จักกลุ่มนักล่าอสูรหรือเปล่า”แค่มองหน้าชิงชิวเพิร์ลก็เข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจเลยถามออกไปเพื่อจะอธิบายต่อ

“ขอรับ”ชิงชิวพยักหน้า กลุ่มนักล่าอสูรเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับองค์มเหสี โดยมีอสูรขององค์จักรพรรดินามหงเยว่ควบคุมดูแล ในอาณาจักรอื่นพวกมันมีหน้าที่เข้าไปในเขคอสูรเพื่อล่าเอาวัตถุดิบจำเป็นออกมา ส่วนในอาณาจักรไป๋ พวกมันมีหน้าที่สำรวจการเติบโตของค่ายกลอสูร ทำให้ตำแหน่งของพวกมันในอาณาจักรไป๋เหมือนผู้ตรวจการมากกว่านักล่าเสียอีก

“ยาต้นแบบของยาเม็ดนี้เป็นยาที่ทำให้กลุ่มนักล่าอสูรสามารถกลืนแก่นอสูรและซึมซับพลังอสูรได้”เพิร์ลตอบพลางยิ้มบางๆ

“ต้นแบบ? งั้นหมายความว่าเม็ดนี้ไม่เหมือนต้นแบบหรือขอรับ”ชิงชิวถามด้วยท่าทีสนใจ มันทราบมานานแล้วว่ากลุ่มนักล่าอสูรมีการใช้พลังอสูรด้วย แต่มันก็พึ่งทราบนี้เองว่าที่มาของพลังอสูรนั้นมาจากยาเม็ดนี้เอง

“ใช่ นี่เป็นยาที่องค์จักรพรรดิส่งมาให้ท่านหลิวเซียนช่วยพัฒนา ถึงจะยังไม่สำเร็จแต่ก็มาไกลทีเดียว”เพิร์ลโยนเม็ดยาขึ้นฟ้าพลางรับกลับเข้ามาในมือ แต่เดิมยาที่ใช้หลอมรวมกับแก่นอสูรสามารถใช้กับแก่นอสูรระดับต่ำเท่านั้น ต่อมาไป๋จูเหวินพัฒนามันให้สามารถรวมกับแก่นอสูรระดับหยกได้ และเมื่อส่งมาให้หลิวเซียนขัดเกลาอีกครั้ง ตอนนี้ตัวยามีโอกาสหลอมรวมกับแก่นอสูรระดับมายาได้เลยทีเดียว หรือก็คือมันสามารถสร้างผู้มีพลังอสูรระดับเหม่ยหลินขึ้นมาได้ แต่เพราะยังไม่เสร็จสมบูรณ์มันเลยยังมีโอกาสสำเร็จเพียง 3 ใน 10 ส่วนเท่านั้น

“ยอดไปเลยขอรับ ข้าเองก็อยากมีพลังอสูรบ้าง”ชิงชิวว่าพลางทำตาโต อาณาจักรไป๋ตอนนี้เป็นอาณาจักรที่มนุษย์และอสูรอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว ตัวตนของนักล่าอสูรเหมือนดั่งตัวตนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ฝ่าย

“งั้นก็ลองดูสิ เอาไว้เจ้าหาแก่นอสูรดีๆได้ก็ลองดู แต่เจ้าต้องเลือกดีๆล่ะ”เพิร์ลยิ้มพลางส่งเม็ดยาให้ชิงชิวไป

“จะดีหรือขอรับ”ชิงชิวอึ้งไปครู่ใหญ่ เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรในตอนนี้นั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก มันต่างกับการเข้าร่วมกองทัพที่ต้องใช้กำลังกาย เพราะการเข้ากลุ่มนักล่าอสูรต้องศึกษาข้อมูลของอสูรและเขตอสูรเป็นจำนวนมากถึงจะสามารถสอบเข้าได้ แถมตำแหน่งยังไม่ค่อนว่างอีกต่างหาก

“เม็ดนี้มันเป็นผลงานที่ผิดพลาด ของแบบนี้ในมิติของข้ามีอีกเป็นร้อยเม็ดเลย”เพิร์ลว่าพลางหัวเราะออกมา ที่เอามาตั้งไว้ตรงนี้ก็แค่เอามาประดับผลงานเท่านั้นเอง

“ขอรับ งั้นข้าไม่เกลงใจนะขอรับ”ชิงชิวยิ้มพลางรับยามาอย่างยินดี

.

.

“เพิร์ล เจ้าเห็นยาหลอมรวมอสูรที่วางอยู่บนโต๊ะไหม”หลังจากพวกพี่น้องตระกูลหลิวเดินทางไปขึ้นรถไฟแล้ว รูบี้ก็พึ่งสังเกตุว่าบนโต๊ะไม่มีเม็ดยาที่วางทิ้งเอาไว้

“ข้าให้เจ้าหนูที่เป็นองครักษ์ของไป๋หลินไป มีอะไรงั้นเหรอ”เพิร์ลถามพลางทำงานในมือต่ออยางสบายอารมณ์

“อย่าบอกนะว่าเจ้าให้มันกิน”รูบี้หน้าซีดทันที ทำเอาเพิร์ลต้องหยุดมือจากงานที่ทำอยู่

“ก็ใช่..ยานั่นมีโอกาสสำเร็จแค่ 3 ใน 10 ส่วนไม่ใช่เหรอ”เพิร์ลตอบพลางกระพริบตาปริบๆ

“ก็ใช่…..แต่ถ้าหลอมรวมกับแก่นอสูรไม่สำเร็จ เด็กคนนั้นจะตานเลยนะ”รูบี้ตัวสั่นสะท้านด้วยความตกใจ อาจจะเพราะผลงานชิ้นนี้เป็นของหลิวเซียน เพิร์ลเลยไม่ได้จดจำรายระเอียดให้ดี ที่ยาเหล่านี้ยังไม่ถูกส่งกลับไปให้ไป๋จูเหวินเพราะโอกาสสำเร็จยังน้อย แถมถ้าพลาดก็เท่ากับฆ่าคนที่กินลงไปเลย

“เจ้าพูดจริงงั้นเหรอ แย่แล้ว”เพิร์ลลุกพรวดไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะรีบเขียนจดหมายไปหาหลิวเซียนทันที หากส่งไปตอนนี้น่าจะยังทัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+