บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง “ชินอี้ รับนี่ไปสิ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนำมีดพกขนาดเล็กจนดูเหมือนมีดโกนหนวดเสียมากกว่ายื่นให้กับไป๋ชินอี้ แน่นอนว่าตัวมีนั้นทำจากโลหะมีค่าชนิดที่สามารถเอาไปเทียบกระบี่ทัณฑ์สวรรค์และดาบราชันศาสตราได้เลย แต่ที่สำคัญจริงๆคือด้ามมีดที่ทำจากกิ่งไม้ที่ชิงชิวนำกลับมาต่างหาก หลังจากมอบมันให้กับท่านน้ามังกร ท่านก็เอามันไปปลูกเพื่อรักษาสภาพเอาไว้แล้วตัดส่วนหนึ่งออกมาเพื่อใช้งาน แม้จะตัดออกมาจนเนื้อไม้แห้งแล้วกลิ่นที่สามารถกลบกลิ่นอายของชินอี้ได้ก็ยังคงอยู่ ส่วนเหตุผลที่ต้องทำด้ามมีดที่มีขนาดเล็กจนพอดีมือเด็ก 3 ขวบก็เพราะกลิ่นของมันกระจายไปไกลมาก ขนาดเท่านี้ก็ยังสามารถส่งกลิ่นหอมออกไปจากตัวชินอี้ได้เกือบร้อยเมตร “นี่เป็นของขวัญจากพี่สาวของเจ้า อย่าลืมไปขอบคุณนางล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยมีไป๋หลินโบกมืออยู่ข้างหลัง “ขอบคุณขอรับ”ชินอี้ว่าพลางพูดขอบคุณไปทางไป๋หลิน ทำให้นางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทีเดียว “ชินอี้ แม่มีข่าวดีจะบอกลูกนะ”เหม่ยหลินว่ายิ้มออกมา “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรหรือขอรับท่านแม่”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ “เพราะมีดของพี่สาวเจ้าให้มา แม่ก็เลยจะอนุญาตใหเจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณได้แล้ว”ได้ยินที่เหม่ยหลินพูด ชินอี้ก็ยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่เกิด แต่ชินอี้ก็เป็นคนตระกูลไป๋ เรื่องการฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นย่อมทำได้แน่นอน เพียงแต่บิดาและมารดาคอยห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอสูรบุกวังอีก “ข้าอยากฝึกขอรับ”ชินอี้ว่าพลางทำตาลุกวาว รอบตัวมันมีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ตัวมันกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แค่หกล้มก็มีบาดแผลได้แล้ว บอกตามตรงว่ามันไม่ชอบเลย “แต่เจ้าต้องสัญญากับแม่นะ”เหม่ยหลินว่าพลางดึงตัวบุตรชายเข้ามากอด “สัญญาอะไรหรือขอรับ”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ “เจ้าต้องพกมีดเล่นนี้ติดตัวเสมอ เข้าใจหรือเปล่า”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมา บุตรชายสามารถฝึกพลังได้เสียที นางก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งแล้วเช่นกัน “ขอรับ ข้าสัญญา”ชินอี้ตอบรับด้วยท่าทางแข็งขัน ทำให้คนรอบข้างยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู . . “รอบนี้หนักน่าดูเลยนะ”มังกรธรณีพูดพลางจัดสมุนไพรออกมาวางบนผ้าช้าๆ แม้จะได้อาจูช่วยรักษาจนเบาขึ้นแล้ว แต่ร่างกายของราชสีห์เพลิงก็บาดเจ็บหนักไม่ใช่น้อยจริงๆ “ระดับมันต่างกันขนาดนั้นนี่นะ”ราชสีห์เพลิว่าพลางหัวเราะออกมา คราวนี้มันฝืนสู้กับนางพญาผีเสื้อนับว่าเกินกำลังจริงๆ “เอ่อ…..ข้าต้องขอโทษจริงๆนะ”นางพญาผีเสื้อที่นั่งอยู่พูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด พวกมันพูดอย่างกับนางไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียอย่างนั้น “ไม่ต้องถือสาหรอก ข้าเองก็รุนแรงไปเหมือนกัน….”ราชสีห์เพลิงพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ เพราะตอนนี้ข้างกายของนางพญาผีเสื้อมีร่างของอสูรนกกับนางพญาผึ้งที่ต่างก็บาดเจ็บหนักยิ่งกว่าราชสีห์เพลิงเสียอีก อสูรนกกระดูกหักหลายท่อน โดยเฉพาะปีกทั้งสองข้างที่แทบจะขยับไม่ได้ ส่วนนางพญาผึ้งร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ปีกของนางโดนเผาไป โชคดีที่นางเป็นอสูรเลยยังสามารถฟื้นฟูปีกตนเองได้ แต่ต้องใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียว “ของข้ามัน..ไม่ใช่ความผิดท่านทั้งหมดหรอกเจ้าค่ะ”อสูรนกว่าพลางมองปีกของตนเอง ตอนที่โดนราชสีห์เพลิงต่อยจนร่วงครั้งแรกก็มีแค่กระดูกส่วนปีกเท่านั้นที่หัก แต่ที่เสียหายไปทั้งร่างแบบนี้เพราะนางฝืนโจมตีไป๋ไป่จนร่วงลงพื้นต่างหาก “เรื่องที่แล้วมาก็แล้วไปเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางถอนหายใจออกมา บุตรสาวของมันก็เจ็บหนักเช่นกัน เรียกได้ว่ามันเองก็ปวดใจไม่น้อย แต่พวกนางก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไป๋แล้วก็ช่วยไม่ได้ แถมเรื่องที่เกิดขึ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดี หลังจากกลับมาไป๋ไป่ก็มาถามมันเกี่ยวกับการควบคุมพลังธาตุรวมทั้งไปรบเร้าแม่ของนางให้สอนเรื่องการบินอีกต่างหาก ปกติไป๋ไป่ไม่เคยทำแบบนี้ เรียกได้ว่าการพ่ายแพ้ในครั้งนี้มอบความพยายามให้กับไป๋ไป่ก็คงไม่ผิด มังกรธรณีจึงไม่ได้โกรธแค้นอะไรเหล่าอสูรที่ทำร้ายบุตรสาวมันเสียเท่าไหร่ “ว่าแต่..เจ้าเสือไปไหนล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามพลางรับเอาสมุนไพรที่มังกรธรณีส่งมาให้ “กลับไปหาลูกๆที่เขตอสูรผาไร้ก้นละมั้ง เจ้ามีธุระอะไรกับมันหรือไง”มังกรธรณีตอบพลางเดินไปดูอาการของพวกนางพญาผีเสื้อต่อ หลังจากรวมอาณาจักรโฮกับหลิวเข้าเป็นอาณาจักรไป๋ พวกมันก็มาอาศัยที่เมืองหลวงของอาณาจักรไป๋กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งเขตอสูรผาไร้ก้นที่พวกตนอยู่มานับพันปีไม่ได้ สุดท้ายเลยให้เหล่าภรรยาของพวกตนอยู่ดูแล นอกจากจื่อหนิ่งที่อยู่ในวังทองแล้วทั้งราชินีมังกรและพยัคฆ์เมฆาต่างอยู่ที่เขตอสูรผาไร้กันทั้งนั้น “ข้ามีเรื่องจะขอร้องมันนิดหน่อย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มออกมา “ขอร้องมัน? ท่าทางเจ้าจะเจ็บหนักจริงๆ”มังกรธรณีทำหน้างงออกมาทันที แม้จะอยู่ร่วมกันมานานมากแล้ว แต่พวกมันเหล่าราชาก็ไม่ค่อยได้ยืมแรงของอีกฝ่ายเท่าไหร่ อาจจะเป็นศักดิ์ศรีแปลกๆก็เป็นได้ “ข้ามีของต้องตอบแทนนี่นะ”ราชสีห์เพลิงหัวเราะพลางเดินออกไปจากห้องสมุนไพรของมังกรธรณีไป ตัวราชสีห์เพลิงยังติดค้างหนี้ชีวิตชิงชิวอยู่ มันเลยอยากจะหาอะไรไปตอบแทนเสียหน่อย แต่อาวุธชิงชิวก็มีแล้ว ยาช่วยฝึกฝนก็เหมือนจะไม่จำเป็น มันเลยอยากจะลองคิดค้นวิชาให้ชิงชิวสามารถใช้ได้ดู “เอาล่ะ ต่อไปก็พวกเจ้า”มังกรธรณีว่าพลางเริ่มตรวจอาการของพวกนางพญาผีเสื้อทีละตน กระดูกของอสูรนกได้ไป๋จูเหวินช่วยผ่าตัดรักษาไปแล้ว เหลือเพียงรอให้อาการดีขึ้นเท่านั้น ส่วนนางพญาผึ้งเองก็ได้แต่รอพลังของตนเองฟื้นฟูปีกเท่านั้น พวกนางทั้งสองเพียงรับยาช่วยฟื้นฟูก็พอเพียงแล้ว “แล้ว…เจ้าบาดเจ็บตรงไหนกัน”มังกรธรณีถามพลางมองมาทางนางพญาผีเสื้อ นางดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งไป๋หลินทั้งไป๋จูเหวินต่างก็ยืนยันว่านางไม่ได้บาดเจ็บอะไรอยู่แล้ว ทำไมนางยังมาห้องสมุนไพรของมันอีก “ท่านช่วยตรวจสมองได้หรือไม่ ข้าคิดว่าข้าอาจจะมีปัญหาที่ตรงศีรษะ”นางพญาผีเสื้อก้มหน้าลงน้อยๆเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ “สมอง? มันมีปัญหาอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีกระพริบตาปริบๆ หรือนางจะโดนราชสีห์เพลิงต่อยจนกระเทือนถึงสมองกัน “หลังจากต่อจบการต่อสู้ ข้าก็เห็นภาพบางอย่างในความคิดเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางจับไปที่หน้าผากของตน “มันเหมือนภาพติดตาบางอย่างที่ข้าลบมันออกไม่ได้”นางพญาผีเสื้อถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ นางไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลย บอกตามตรงว่านางกังวลมาตลอดการเดินทางเลยทีเดียว “ภาพติดตา? เจ้าพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเป็นภาพอะไร”มังกรธรณีถามด้วยความสงสัย อาการของนางแปลกๆเกินไป “เป็นภาพตอนข้าต่อสู้กับราชสีห์เพลิงเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางมองมาทางมังกรธรณีด้วยท่าทีเป็นกังวล ตั้งแต่จบการต่อสู้มานางก็สลัดภาพเหตุการณ์ตอนนั้นไม่หลุดเสียที บอกตามตรงว่าภาพตอนราชสีห์เพลิงฝืนตัวสู้กับนางเต็มกำลังยังคงติดอยู่ในสมองของนางไม่จางหาย แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่มันก็ยังพุ่งเข้ามาหาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ภาพร่างของมันที่เข้ามาโจมตีตนนั้นช่างลืมเลือนได้ยากจริงๆ “เอ่อ….”มังกรธรณีสะอึกไปพลางมองนางพญาผีเสื้อที่กำลังมีท่าทีกังวลอยู่ “พอเจ้าเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง”มังกรธรณีถามพลางถอนหายใจออกมาน้อยๆ ท่าทางจะไม่ใช่โรคแปลกประหลาดอะไรเสียแล้ว “แปลกๆเจ้าค่ะ มันไม่เหมือนหวาดกลัวเสียทีเดียว แต่ร่างกายของข้าก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้ม นางเคยหวาดกลัวสุดขีดตอนที่อสูรแมงมุมบุกเข้าไปในหุบเขา ตอนนั้นภาพของอสูรแมงมุมก็ตามหลอกหลอนนางแบบนี้เช่นกัน แต่กับภาพของราชสีห์เพลิงนั้นต่างกันออกไป “อืม…ตอนที่เห็นภาพ หัวใจเจ้าเต้นเร็วหรือเปล่า”มังกรธรณีถามให้แน่ใจ “เจ้าค่ะ เต้นแรงมากจนน่าประหลาดใจ หรือข้าจะเป็นโรคหัวใจกันแน่”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที อสูรจะเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร พวกมันมีชีวิตยืนยาวเป็นพันๆปี ร่างกายแข็งแรงกว่าสัตว์ป่านับหมื่นนับแสนเท่า โรคธรรมดาเช่นนั้นจะไปเป็นได้อย่างไร “จะว่าโรคหัวใจก็ไม่เชิง”มังกรธรณีทบทวนพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้จะไม่ใช่โรคหัวใจที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของหัวใจ แต่โรคที่นางพญาผีเสื้อเป็นก็นับเป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งเช่นกัน “โรคนี้เรียกกันว่าไข้ใจ มันไม่มีวิธีรักษาหรอกนะ”มังกรธรณีตอบพลางเก็บสมุนไพรของตนกลับไป “แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามด้วยท่าทีตกใจ ท่าทางของนางตอนนี้ไม่เหมือนอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 เลยแม้แต่น้อย “เจ้ารู้สึกตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิงใช่หรือไม่”มังกรธรณีถามออกมาพลางยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ท่าทางมันคงต้องช่วยเหลือพี่น้องของมันเสียหน่อยแล้ว “เจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบออกมาตามตรง “เช่นนั้นก็ได้แต่ทำความคุ้นเคยเท่านั้น”มังกรธรณีตอบพลางกอดอกแน่นเหมือนกำลังพูดเรื่องคอขาดบาดตายไม่มีผิด “คุ้นเคย คุ้นเคยอย่างไรหรือเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามพลางทำตาโตด้วยความประหลาดใจ “เจ้าก็ต้องอยู่ใกล้ชิดราชสีห์เพลิงให้มากขึ้น อาการของเจ้าอาจจะเบาลงก็ได้”มังกรธรณียิ้มพลางตบบ่านางพญาผีเสื้อเบาๆ เอาเป็นว่าอย่างไรก็พยายามเข้าแล้วกัน “เจ้าค่ะ ข้าจะลองดู”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีลังเล นางตื่นเต้นมากตอนอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิง นางเลยไม่กล้าเข้าใกล้มันเท่าไหร่ นางไม่มั่นใจนักว่าจะฝืนเข้าไปหามันได้หรือไม่ “ท่านหมอ”อยู่ๆอสูรนกกับนางพญาผีเสื้อก็เอ่ยปากออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ “มีอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางหญิงสาวทั้งสอง “ความจริงแล้วพวกข้าเองก็มีอาการเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ”อสูรนกตอบด้วยท่าทีลุกลนแปลกๆ “อาการของพวกเจ้า เหมือนนางพญาผีเสื้อเลยงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองอสูรนกกับนางพญาผึ้งด้วยท่าทีลำบากใจ “เจ้าค่ะ พวกเราเองก็ต้องเข้าใกล้ท่านราชสีห์ด้วยหรือไม่เจ้าคะ”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จะว่าไปตามธรรมชาติของสิงโตจ่าฝูงก็มีตัวเมียหลายตัวนี่นะ… “พวกเจ้าเองก็ต้องทำเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาการก็จะไม่เบาขี้น”มังกรธรณีตอบด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก ทำให้พวกนางทั้ง 3 ตนมองตากันช้าๆ “ท่านมังกรธรณีเจ้าคะ”ทั้ง 3 ยังไม่ทันออกจากห้องไป อยู่ๆก็มีอสูรตนใหม่เข้ามาในห้องสมุนไพรของมันอีกตน “ข้ามีอาการแปลกๆเจ้าค่ะ บางทีข้าอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองก็ได้”เสียงของอาจูทำให้มังกรธรณีได้แต่ยิ้มอย่างลำบากใจ นี่เจ้าก็ด้วยงั้นหรือ?

ตอนที่ 381

อาการบาดเจ็บตกค้าง

“ชินอี้ รับนี่ไปสิ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนำมีดพกขนาดเล็กจนดูเหมือนมีดโกนหนวดเสียมากกว่ายื่นให้กับไป๋ชินอี้ แน่นอนว่าตัวมีนั้นทำจากโลหะมีค่าชนิดที่สามารถเอาไปเทียบกระบี่ทัณฑ์สวรรค์และดาบราชันศาสตราได้เลย แต่ที่สำคัญจริงๆคือด้ามมีดที่ทำจากกิ่งไม้ที่ชิงชิวนำกลับมาต่างหาก หลังจากมอบมันให้กับท่านน้ามังกร ท่านก็เอามันไปปลูกเพื่อรักษาสภาพเอาไว้แล้วตัดส่วนหนึ่งออกมาเพื่อใช้งาน แม้จะตัดออกมาจนเนื้อไม้แห้งแล้วกลิ่นที่สามารถกลบกลิ่นอายของชินอี้ได้ก็ยังคงอยู่ ส่วนเหตุผลที่ต้องทำด้ามมีดที่มีขนาดเล็กจนพอดีมือเด็ก 3 ขวบก็เพราะกลิ่นของมันกระจายไปไกลมาก ขนาดเท่านี้ก็ยังสามารถส่งกลิ่นหอมออกไปจากตัวชินอี้ได้เกือบร้อยเมตร

“นี่เป็นของขวัญจากพี่สาวของเจ้า อย่าลืมไปขอบคุณนางล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยมีไป๋หลินโบกมืออยู่ข้างหลัง

“ขอบคุณขอรับ”ชินอี้ว่าพลางพูดขอบคุณไปทางไป๋หลิน ทำให้นางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทีเดียว

“ชินอี้ แม่มีข่าวดีจะบอกลูกนะ”เหม่ยหลินว่ายิ้มออกมา

“ข่าวดี? ข่าวดีอะไรหรือขอรับท่านแม่”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ

“เพราะมีดของพี่สาวเจ้าให้มา แม่ก็เลยจะอนุญาตใหเจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณได้แล้ว”ได้ยินที่เหม่ยหลินพูด ชินอี้ก็ยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่เกิด แต่ชินอี้ก็เป็นคนตระกูลไป๋ เรื่องการฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นย่อมทำได้แน่นอน เพียงแต่บิดาและมารดาคอยห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอสูรบุกวังอีก

“ข้าอยากฝึกขอรับ”ชินอี้ว่าพลางทำตาลุกวาว รอบตัวมันมีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ตัวมันกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แค่หกล้มก็มีบาดแผลได้แล้ว บอกตามตรงว่ามันไม่ชอบเลย

“แต่เจ้าต้องสัญญากับแม่นะ”เหม่ยหลินว่าพลางดึงตัวบุตรชายเข้ามากอด

“สัญญาอะไรหรือขอรับ”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ

“เจ้าต้องพกมีดเล่นนี้ติดตัวเสมอ เข้าใจหรือเปล่า”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมา บุตรชายสามารถฝึกพลังได้เสียที นางก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งแล้วเช่นกัน

“ขอรับ ข้าสัญญา”ชินอี้ตอบรับด้วยท่าทางแข็งขัน ทำให้คนรอบข้างยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

.

.

“รอบนี้หนักน่าดูเลยนะ”มังกรธรณีพูดพลางจัดสมุนไพรออกมาวางบนผ้าช้าๆ แม้จะได้อาจูช่วยรักษาจนเบาขึ้นแล้ว แต่ร่างกายของราชสีห์เพลิงก็บาดเจ็บหนักไม่ใช่น้อยจริงๆ

“ระดับมันต่างกันขนาดนั้นนี่นะ”ราชสีห์เพลิว่าพลางหัวเราะออกมา คราวนี้มันฝืนสู้กับนางพญาผีเสื้อนับว่าเกินกำลังจริงๆ

“เอ่อ…..ข้าต้องขอโทษจริงๆนะ”นางพญาผีเสื้อที่นั่งอยู่พูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด พวกมันพูดอย่างกับนางไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียอย่างนั้น

“ไม่ต้องถือสาหรอก ข้าเองก็รุนแรงไปเหมือนกัน….”ราชสีห์เพลิงพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ เพราะตอนนี้ข้างกายของนางพญาผีเสื้อมีร่างของอสูรนกกับนางพญาผึ้งที่ต่างก็บาดเจ็บหนักยิ่งกว่าราชสีห์เพลิงเสียอีก อสูรนกกระดูกหักหลายท่อน โดยเฉพาะปีกทั้งสองข้างที่แทบจะขยับไม่ได้ ส่วนนางพญาผึ้งร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ปีกของนางโดนเผาไป โชคดีที่นางเป็นอสูรเลยยังสามารถฟื้นฟูปีกตนเองได้ แต่ต้องใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียว

“ของข้ามัน..ไม่ใช่ความผิดท่านทั้งหมดหรอกเจ้าค่ะ”อสูรนกว่าพลางมองปีกของตนเอง ตอนที่โดนราชสีห์เพลิงต่อยจนร่วงครั้งแรกก็มีแค่กระดูกส่วนปีกเท่านั้นที่หัก แต่ที่เสียหายไปทั้งร่างแบบนี้เพราะนางฝืนโจมตีไป๋ไป่จนร่วงลงพื้นต่างหาก

“เรื่องที่แล้วมาก็แล้วไปเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางถอนหายใจออกมา บุตรสาวของมันก็เจ็บหนักเช่นกัน เรียกได้ว่ามันเองก็ปวดใจไม่น้อย แต่พวกนางก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไป๋แล้วก็ช่วยไม่ได้ แถมเรื่องที่เกิดขึ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดี หลังจากกลับมาไป๋ไป่ก็มาถามมันเกี่ยวกับการควบคุมพลังธาตุรวมทั้งไปรบเร้าแม่ของนางให้สอนเรื่องการบินอีกต่างหาก ปกติไป๋ไป่ไม่เคยทำแบบนี้ เรียกได้ว่าการพ่ายแพ้ในครั้งนี้มอบความพยายามให้กับไป๋ไป่ก็คงไม่ผิด มังกรธรณีจึงไม่ได้โกรธแค้นอะไรเหล่าอสูรที่ทำร้ายบุตรสาวมันเสียเท่าไหร่

“ว่าแต่..เจ้าเสือไปไหนล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามพลางรับเอาสมุนไพรที่มังกรธรณีส่งมาให้

“กลับไปหาลูกๆที่เขตอสูรผาไร้ก้นละมั้ง เจ้ามีธุระอะไรกับมันหรือไง”มังกรธรณีตอบพลางเดินไปดูอาการของพวกนางพญาผีเสื้อต่อ หลังจากรวมอาณาจักรโฮกับหลิวเข้าเป็นอาณาจักรไป๋ พวกมันก็มาอาศัยที่เมืองหลวงของอาณาจักรไป๋กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งเขตอสูรผาไร้ก้นที่พวกตนอยู่มานับพันปีไม่ได้ สุดท้ายเลยให้เหล่าภรรยาของพวกตนอยู่ดูแล นอกจากจื่อหนิ่งที่อยู่ในวังทองแล้วทั้งราชินีมังกรและพยัคฆ์เมฆาต่างอยู่ที่เขตอสูรผาไร้กันทั้งนั้น

“ข้ามีเรื่องจะขอร้องมันนิดหน่อย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มออกมา

“ขอร้องมัน? ท่าทางเจ้าจะเจ็บหนักจริงๆ”มังกรธรณีทำหน้างงออกมาทันที แม้จะอยู่ร่วมกันมานานมากแล้ว แต่พวกมันเหล่าราชาก็ไม่ค่อยได้ยืมแรงของอีกฝ่ายเท่าไหร่ อาจจะเป็นศักดิ์ศรีแปลกๆก็เป็นได้

“ข้ามีของต้องตอบแทนนี่นะ”ราชสีห์เพลิงหัวเราะพลางเดินออกไปจากห้องสมุนไพรของมังกรธรณีไป ตัวราชสีห์เพลิงยังติดค้างหนี้ชีวิตชิงชิวอยู่ มันเลยอยากจะหาอะไรไปตอบแทนเสียหน่อย แต่อาวุธชิงชิวก็มีแล้ว ยาช่วยฝึกฝนก็เหมือนจะไม่จำเป็น มันเลยอยากจะลองคิดค้นวิชาให้ชิงชิวสามารถใช้ได้ดู

“เอาล่ะ ต่อไปก็พวกเจ้า”มังกรธรณีว่าพลางเริ่มตรวจอาการของพวกนางพญาผีเสื้อทีละตน กระดูกของอสูรนกได้ไป๋จูเหวินช่วยผ่าตัดรักษาไปแล้ว เหลือเพียงรอให้อาการดีขึ้นเท่านั้น ส่วนนางพญาผึ้งเองก็ได้แต่รอพลังของตนเองฟื้นฟูปีกเท่านั้น พวกนางทั้งสองเพียงรับยาช่วยฟื้นฟูก็พอเพียงแล้ว

“แล้ว…เจ้าบาดเจ็บตรงไหนกัน”มังกรธรณีถามพลางมองมาทางนางพญาผีเสื้อ นางดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งไป๋หลินทั้งไป๋จูเหวินต่างก็ยืนยันว่านางไม่ได้บาดเจ็บอะไรอยู่แล้ว ทำไมนางยังมาห้องสมุนไพรของมันอีก

“ท่านช่วยตรวจสมองได้หรือไม่ ข้าคิดว่าข้าอาจจะมีปัญหาที่ตรงศีรษะ”นางพญาผีเสื้อก้มหน้าลงน้อยๆเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่างอยู่

“สมอง? มันมีปัญหาอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีกระพริบตาปริบๆ หรือนางจะโดนราชสีห์เพลิงต่อยจนกระเทือนถึงสมองกัน

“หลังจากต่อจบการต่อสู้ ข้าก็เห็นภาพบางอย่างในความคิดเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางจับไปที่หน้าผากของตน

“มันเหมือนภาพติดตาบางอย่างที่ข้าลบมันออกไม่ได้”นางพญาผีเสื้อถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ นางไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลย บอกตามตรงว่านางกังวลมาตลอดการเดินทางเลยทีเดียว

“ภาพติดตา? เจ้าพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเป็นภาพอะไร”มังกรธรณีถามด้วยความสงสัย อาการของนางแปลกๆเกินไป

“เป็นภาพตอนข้าต่อสู้กับราชสีห์เพลิงเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางมองมาทางมังกรธรณีด้วยท่าทีเป็นกังวล ตั้งแต่จบการต่อสู้มานางก็สลัดภาพเหตุการณ์ตอนนั้นไม่หลุดเสียที บอกตามตรงว่าภาพตอนราชสีห์เพลิงฝืนตัวสู้กับนางเต็มกำลังยังคงติดอยู่ในสมองของนางไม่จางหาย แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่มันก็ยังพุ่งเข้ามาหาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ภาพร่างของมันที่เข้ามาโจมตีตนนั้นช่างลืมเลือนได้ยากจริงๆ

“เอ่อ….”มังกรธรณีสะอึกไปพลางมองนางพญาผีเสื้อที่กำลังมีท่าทีกังวลอยู่

“พอเจ้าเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง”มังกรธรณีถามพลางถอนหายใจออกมาน้อยๆ ท่าทางจะไม่ใช่โรคแปลกประหลาดอะไรเสียแล้ว

“แปลกๆเจ้าค่ะ มันไม่เหมือนหวาดกลัวเสียทีเดียว แต่ร่างกายของข้าก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้ม นางเคยหวาดกลัวสุดขีดตอนที่อสูรแมงมุมบุกเข้าไปในหุบเขา ตอนนั้นภาพของอสูรแมงมุมก็ตามหลอกหลอนนางแบบนี้เช่นกัน แต่กับภาพของราชสีห์เพลิงนั้นต่างกันออกไป

“อืม…ตอนที่เห็นภาพ หัวใจเจ้าเต้นเร็วหรือเปล่า”มังกรธรณีถามให้แน่ใจ

“เจ้าค่ะ เต้นแรงมากจนน่าประหลาดใจ หรือข้าจะเป็นโรคหัวใจกันแน่”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที อสูรจะเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร พวกมันมีชีวิตยืนยาวเป็นพันๆปี ร่างกายแข็งแรงกว่าสัตว์ป่านับหมื่นนับแสนเท่า โรคธรรมดาเช่นนั้นจะไปเป็นได้อย่างไร

“จะว่าโรคหัวใจก็ไม่เชิง”มังกรธรณีทบทวนพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้จะไม่ใช่โรคหัวใจที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของหัวใจ แต่โรคที่นางพญาผีเสื้อเป็นก็นับเป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งเช่นกัน

“โรคนี้เรียกกันว่าไข้ใจ มันไม่มีวิธีรักษาหรอกนะ”มังกรธรณีตอบพลางเก็บสมุนไพรของตนกลับไป

“แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามด้วยท่าทีตกใจ ท่าทางของนางตอนนี้ไม่เหมือนอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 เลยแม้แต่น้อย

“เจ้ารู้สึกตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิงใช่หรือไม่”มังกรธรณีถามออกมาพลางยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ท่าทางมันคงต้องช่วยเหลือพี่น้องของมันเสียหน่อยแล้ว

“เจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบออกมาตามตรง

“เช่นนั้นก็ได้แต่ทำความคุ้นเคยเท่านั้น”มังกรธรณีตอบพลางกอดอกแน่นเหมือนกำลังพูดเรื่องคอขาดบาดตายไม่มีผิด

“คุ้นเคย คุ้นเคยอย่างไรหรือเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามพลางทำตาโตด้วยความประหลาดใจ

“เจ้าก็ต้องอยู่ใกล้ชิดราชสีห์เพลิงให้มากขึ้น อาการของเจ้าอาจจะเบาลงก็ได้”มังกรธรณียิ้มพลางตบบ่านางพญาผีเสื้อเบาๆ เอาเป็นว่าอย่างไรก็พยายามเข้าแล้วกัน

“เจ้าค่ะ ข้าจะลองดู”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีลังเล นางตื่นเต้นมากตอนอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิง นางเลยไม่กล้าเข้าใกล้มันเท่าไหร่ นางไม่มั่นใจนักว่าจะฝืนเข้าไปหามันได้หรือไม่

“ท่านหมอ”อยู่ๆอสูรนกกับนางพญาผีเสื้อก็เอ่ยปากออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ

“มีอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางหญิงสาวทั้งสอง

“ความจริงแล้วพวกข้าเองก็มีอาการเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ”อสูรนกตอบด้วยท่าทีลุกลนแปลกๆ

“อาการของพวกเจ้า เหมือนนางพญาผีเสื้อเลยงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองอสูรนกกับนางพญาผึ้งด้วยท่าทีลำบากใจ

“เจ้าค่ะ พวกเราเองก็ต้องเข้าใกล้ท่านราชสีห์ด้วยหรือไม่เจ้าคะ”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จะว่าไปตามธรรมชาติของสิงโตจ่าฝูงก็มีตัวเมียหลายตัวนี่นะ…

“พวกเจ้าเองก็ต้องทำเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาการก็จะไม่เบาขี้น”มังกรธรณีตอบด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก ทำให้พวกนางทั้ง 3 ตนมองตากันช้าๆ

“ท่านมังกรธรณีเจ้าคะ”ทั้ง 3 ยังไม่ทันออกจากห้องไป อยู่ๆก็มีอสูรตนใหม่เข้ามาในห้องสมุนไพรของมันอีกตน

“ข้ามีอาการแปลกๆเจ้าค่ะ บางทีข้าอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองก็ได้”เสียงของอาจูทำให้มังกรธรณีได้แต่ยิ้มอย่างลำบากใจ นี่เจ้าก็ด้วยงั้นหรือ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 381 อาการบาดเจ็บตกค้าง “ชินอี้ รับนี่ไปสิ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนำมีดพกขนาดเล็กจนดูเหมือนมีดโกนหนวดเสียมากกว่ายื่นให้กับไป๋ชินอี้ แน่นอนว่าตัวมีนั้นทำจากโลหะมีค่าชนิดที่สามารถเอาไปเทียบกระบี่ทัณฑ์สวรรค์และดาบราชันศาสตราได้เลย แต่ที่สำคัญจริงๆคือด้ามมีดที่ทำจากกิ่งไม้ที่ชิงชิวนำกลับมาต่างหาก หลังจากมอบมันให้กับท่านน้ามังกร ท่านก็เอามันไปปลูกเพื่อรักษาสภาพเอาไว้แล้วตัดส่วนหนึ่งออกมาเพื่อใช้งาน แม้จะตัดออกมาจนเนื้อไม้แห้งแล้วกลิ่นที่สามารถกลบกลิ่นอายของชินอี้ได้ก็ยังคงอยู่ ส่วนเหตุผลที่ต้องทำด้ามมีดที่มีขนาดเล็กจนพอดีมือเด็ก 3 ขวบก็เพราะกลิ่นของมันกระจายไปไกลมาก ขนาดเท่านี้ก็ยังสามารถส่งกลิ่นหอมออกไปจากตัวชินอี้ได้เกือบร้อยเมตร “นี่เป็นของขวัญจากพี่สาวของเจ้า อย่าลืมไปขอบคุณนางล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยมีไป๋หลินโบกมืออยู่ข้างหลัง “ขอบคุณขอรับ”ชินอี้ว่าพลางพูดขอบคุณไปทางไป๋หลิน ทำให้นางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทีเดียว “ชินอี้ แม่มีข่าวดีจะบอกลูกนะ”เหม่ยหลินว่ายิ้มออกมา “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรหรือขอรับท่านแม่”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ “เพราะมีดของพี่สาวเจ้าให้มา แม่ก็เลยจะอนุญาตใหเจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณได้แล้ว”ได้ยินที่เหม่ยหลินพูด ชินอี้ก็ยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่เกิด แต่ชินอี้ก็เป็นคนตระกูลไป๋ เรื่องการฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นย่อมทำได้แน่นอน เพียงแต่บิดาและมารดาคอยห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอสูรบุกวังอีก “ข้าอยากฝึกขอรับ”ชินอี้ว่าพลางทำตาลุกวาว รอบตัวมันมีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ตัวมันกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แค่หกล้มก็มีบาดแผลได้แล้ว บอกตามตรงว่ามันไม่ชอบเลย “แต่เจ้าต้องสัญญากับแม่นะ”เหม่ยหลินว่าพลางดึงตัวบุตรชายเข้ามากอด “สัญญาอะไรหรือขอรับ”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ “เจ้าต้องพกมีดเล่นนี้ติดตัวเสมอ เข้าใจหรือเปล่า”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมา บุตรชายสามารถฝึกพลังได้เสียที นางก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งแล้วเช่นกัน “ขอรับ ข้าสัญญา”ชินอี้ตอบรับด้วยท่าทางแข็งขัน ทำให้คนรอบข้างยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู . . “รอบนี้หนักน่าดูเลยนะ”มังกรธรณีพูดพลางจัดสมุนไพรออกมาวางบนผ้าช้าๆ แม้จะได้อาจูช่วยรักษาจนเบาขึ้นแล้ว แต่ร่างกายของราชสีห์เพลิงก็บาดเจ็บหนักไม่ใช่น้อยจริงๆ “ระดับมันต่างกันขนาดนั้นนี่นะ”ราชสีห์เพลิว่าพลางหัวเราะออกมา คราวนี้มันฝืนสู้กับนางพญาผีเสื้อนับว่าเกินกำลังจริงๆ “เอ่อ…..ข้าต้องขอโทษจริงๆนะ”นางพญาผีเสื้อที่นั่งอยู่พูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด พวกมันพูดอย่างกับนางไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียอย่างนั้น “ไม่ต้องถือสาหรอก ข้าเองก็รุนแรงไปเหมือนกัน….”ราชสีห์เพลิงพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ เพราะตอนนี้ข้างกายของนางพญาผีเสื้อมีร่างของอสูรนกกับนางพญาผึ้งที่ต่างก็บาดเจ็บหนักยิ่งกว่าราชสีห์เพลิงเสียอีก อสูรนกกระดูกหักหลายท่อน โดยเฉพาะปีกทั้งสองข้างที่แทบจะขยับไม่ได้ ส่วนนางพญาผึ้งร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ปีกของนางโดนเผาไป โชคดีที่นางเป็นอสูรเลยยังสามารถฟื้นฟูปีกตนเองได้ แต่ต้องใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียว “ของข้ามัน..ไม่ใช่ความผิดท่านทั้งหมดหรอกเจ้าค่ะ”อสูรนกว่าพลางมองปีกของตนเอง ตอนที่โดนราชสีห์เพลิงต่อยจนร่วงครั้งแรกก็มีแค่กระดูกส่วนปีกเท่านั้นที่หัก แต่ที่เสียหายไปทั้งร่างแบบนี้เพราะนางฝืนโจมตีไป๋ไป่จนร่วงลงพื้นต่างหาก “เรื่องที่แล้วมาก็แล้วไปเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางถอนหายใจออกมา บุตรสาวของมันก็เจ็บหนักเช่นกัน เรียกได้ว่ามันเองก็ปวดใจไม่น้อย แต่พวกนางก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไป๋แล้วก็ช่วยไม่ได้ แถมเรื่องที่เกิดขึ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดี หลังจากกลับมาไป๋ไป่ก็มาถามมันเกี่ยวกับการควบคุมพลังธาตุรวมทั้งไปรบเร้าแม่ของนางให้สอนเรื่องการบินอีกต่างหาก ปกติไป๋ไป่ไม่เคยทำแบบนี้ เรียกได้ว่าการพ่ายแพ้ในครั้งนี้มอบความพยายามให้กับไป๋ไป่ก็คงไม่ผิด มังกรธรณีจึงไม่ได้โกรธแค้นอะไรเหล่าอสูรที่ทำร้ายบุตรสาวมันเสียเท่าไหร่ “ว่าแต่..เจ้าเสือไปไหนล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามพลางรับเอาสมุนไพรที่มังกรธรณีส่งมาให้ “กลับไปหาลูกๆที่เขตอสูรผาไร้ก้นละมั้ง เจ้ามีธุระอะไรกับมันหรือไง”มังกรธรณีตอบพลางเดินไปดูอาการของพวกนางพญาผีเสื้อต่อ หลังจากรวมอาณาจักรโฮกับหลิวเข้าเป็นอาณาจักรไป๋ พวกมันก็มาอาศัยที่เมืองหลวงของอาณาจักรไป๋กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งเขตอสูรผาไร้ก้นที่พวกตนอยู่มานับพันปีไม่ได้ สุดท้ายเลยให้เหล่าภรรยาของพวกตนอยู่ดูแล นอกจากจื่อหนิ่งที่อยู่ในวังทองแล้วทั้งราชินีมังกรและพยัคฆ์เมฆาต่างอยู่ที่เขตอสูรผาไร้กันทั้งนั้น “ข้ามีเรื่องจะขอร้องมันนิดหน่อย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มออกมา “ขอร้องมัน? ท่าทางเจ้าจะเจ็บหนักจริงๆ”มังกรธรณีทำหน้างงออกมาทันที แม้จะอยู่ร่วมกันมานานมากแล้ว แต่พวกมันเหล่าราชาก็ไม่ค่อยได้ยืมแรงของอีกฝ่ายเท่าไหร่ อาจจะเป็นศักดิ์ศรีแปลกๆก็เป็นได้ “ข้ามีของต้องตอบแทนนี่นะ”ราชสีห์เพลิงหัวเราะพลางเดินออกไปจากห้องสมุนไพรของมังกรธรณีไป ตัวราชสีห์เพลิงยังติดค้างหนี้ชีวิตชิงชิวอยู่ มันเลยอยากจะหาอะไรไปตอบแทนเสียหน่อย แต่อาวุธชิงชิวก็มีแล้ว ยาช่วยฝึกฝนก็เหมือนจะไม่จำเป็น มันเลยอยากจะลองคิดค้นวิชาให้ชิงชิวสามารถใช้ได้ดู “เอาล่ะ ต่อไปก็พวกเจ้า”มังกรธรณีว่าพลางเริ่มตรวจอาการของพวกนางพญาผีเสื้อทีละตน กระดูกของอสูรนกได้ไป๋จูเหวินช่วยผ่าตัดรักษาไปแล้ว เหลือเพียงรอให้อาการดีขึ้นเท่านั้น ส่วนนางพญาผึ้งเองก็ได้แต่รอพลังของตนเองฟื้นฟูปีกเท่านั้น พวกนางทั้งสองเพียงรับยาช่วยฟื้นฟูก็พอเพียงแล้ว “แล้ว…เจ้าบาดเจ็บตรงไหนกัน”มังกรธรณีถามพลางมองมาทางนางพญาผีเสื้อ นางดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งไป๋หลินทั้งไป๋จูเหวินต่างก็ยืนยันว่านางไม่ได้บาดเจ็บอะไรอยู่แล้ว ทำไมนางยังมาห้องสมุนไพรของมันอีก “ท่านช่วยตรวจสมองได้หรือไม่ ข้าคิดว่าข้าอาจจะมีปัญหาที่ตรงศีรษะ”นางพญาผีเสื้อก้มหน้าลงน้อยๆเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ “สมอง? มันมีปัญหาอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีกระพริบตาปริบๆ หรือนางจะโดนราชสีห์เพลิงต่อยจนกระเทือนถึงสมองกัน “หลังจากต่อจบการต่อสู้ ข้าก็เห็นภาพบางอย่างในความคิดเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางจับไปที่หน้าผากของตน “มันเหมือนภาพติดตาบางอย่างที่ข้าลบมันออกไม่ได้”นางพญาผีเสื้อถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ นางไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลย บอกตามตรงว่านางกังวลมาตลอดการเดินทางเลยทีเดียว “ภาพติดตา? เจ้าพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเป็นภาพอะไร”มังกรธรณีถามด้วยความสงสัย อาการของนางแปลกๆเกินไป “เป็นภาพตอนข้าต่อสู้กับราชสีห์เพลิงเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางมองมาทางมังกรธรณีด้วยท่าทีเป็นกังวล ตั้งแต่จบการต่อสู้มานางก็สลัดภาพเหตุการณ์ตอนนั้นไม่หลุดเสียที บอกตามตรงว่าภาพตอนราชสีห์เพลิงฝืนตัวสู้กับนางเต็มกำลังยังคงติดอยู่ในสมองของนางไม่จางหาย แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่มันก็ยังพุ่งเข้ามาหาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ภาพร่างของมันที่เข้ามาโจมตีตนนั้นช่างลืมเลือนได้ยากจริงๆ “เอ่อ….”มังกรธรณีสะอึกไปพลางมองนางพญาผีเสื้อที่กำลังมีท่าทีกังวลอยู่ “พอเจ้าเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง”มังกรธรณีถามพลางถอนหายใจออกมาน้อยๆ ท่าทางจะไม่ใช่โรคแปลกประหลาดอะไรเสียแล้ว “แปลกๆเจ้าค่ะ มันไม่เหมือนหวาดกลัวเสียทีเดียว แต่ร่างกายของข้าก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้ม นางเคยหวาดกลัวสุดขีดตอนที่อสูรแมงมุมบุกเข้าไปในหุบเขา ตอนนั้นภาพของอสูรแมงมุมก็ตามหลอกหลอนนางแบบนี้เช่นกัน แต่กับภาพของราชสีห์เพลิงนั้นต่างกันออกไป “อืม…ตอนที่เห็นภาพ หัวใจเจ้าเต้นเร็วหรือเปล่า”มังกรธรณีถามให้แน่ใจ “เจ้าค่ะ เต้นแรงมากจนน่าประหลาดใจ หรือข้าจะเป็นโรคหัวใจกันแน่”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที อสูรจะเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร พวกมันมีชีวิตยืนยาวเป็นพันๆปี ร่างกายแข็งแรงกว่าสัตว์ป่านับหมื่นนับแสนเท่า โรคธรรมดาเช่นนั้นจะไปเป็นได้อย่างไร “จะว่าโรคหัวใจก็ไม่เชิง”มังกรธรณีทบทวนพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้จะไม่ใช่โรคหัวใจที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของหัวใจ แต่โรคที่นางพญาผีเสื้อเป็นก็นับเป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งเช่นกัน “โรคนี้เรียกกันว่าไข้ใจ มันไม่มีวิธีรักษาหรอกนะ”มังกรธรณีตอบพลางเก็บสมุนไพรของตนกลับไป “แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามด้วยท่าทีตกใจ ท่าทางของนางตอนนี้ไม่เหมือนอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 เลยแม้แต่น้อย “เจ้ารู้สึกตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิงใช่หรือไม่”มังกรธรณีถามออกมาพลางยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ท่าทางมันคงต้องช่วยเหลือพี่น้องของมันเสียหน่อยแล้ว “เจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบออกมาตามตรง “เช่นนั้นก็ได้แต่ทำความคุ้นเคยเท่านั้น”มังกรธรณีตอบพลางกอดอกแน่นเหมือนกำลังพูดเรื่องคอขาดบาดตายไม่มีผิด “คุ้นเคย คุ้นเคยอย่างไรหรือเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามพลางทำตาโตด้วยความประหลาดใจ “เจ้าก็ต้องอยู่ใกล้ชิดราชสีห์เพลิงให้มากขึ้น อาการของเจ้าอาจจะเบาลงก็ได้”มังกรธรณียิ้มพลางตบบ่านางพญาผีเสื้อเบาๆ เอาเป็นว่าอย่างไรก็พยายามเข้าแล้วกัน “เจ้าค่ะ ข้าจะลองดู”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีลังเล นางตื่นเต้นมากตอนอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิง นางเลยไม่กล้าเข้าใกล้มันเท่าไหร่ นางไม่มั่นใจนักว่าจะฝืนเข้าไปหามันได้หรือไม่ “ท่านหมอ”อยู่ๆอสูรนกกับนางพญาผีเสื้อก็เอ่ยปากออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ “มีอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางหญิงสาวทั้งสอง “ความจริงแล้วพวกข้าเองก็มีอาการเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ”อสูรนกตอบด้วยท่าทีลุกลนแปลกๆ “อาการของพวกเจ้า เหมือนนางพญาผีเสื้อเลยงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองอสูรนกกับนางพญาผึ้งด้วยท่าทีลำบากใจ “เจ้าค่ะ พวกเราเองก็ต้องเข้าใกล้ท่านราชสีห์ด้วยหรือไม่เจ้าคะ”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จะว่าไปตามธรรมชาติของสิงโตจ่าฝูงก็มีตัวเมียหลายตัวนี่นะ… “พวกเจ้าเองก็ต้องทำเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาการก็จะไม่เบาขี้น”มังกรธรณีตอบด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก ทำให้พวกนางทั้ง 3 ตนมองตากันช้าๆ “ท่านมังกรธรณีเจ้าคะ”ทั้ง 3 ยังไม่ทันออกจากห้องไป อยู่ๆก็มีอสูรตนใหม่เข้ามาในห้องสมุนไพรของมันอีกตน “ข้ามีอาการแปลกๆเจ้าค่ะ บางทีข้าอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองก็ได้”เสียงของอาจูทำให้มังกรธรณีได้แต่ยิ้มอย่างลำบากใจ นี่เจ้าก็ด้วยงั้นหรือ?

ตอนที่ 381

อาการบาดเจ็บตกค้าง

“ชินอี้ รับนี่ไปสิ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนำมีดพกขนาดเล็กจนดูเหมือนมีดโกนหนวดเสียมากกว่ายื่นให้กับไป๋ชินอี้ แน่นอนว่าตัวมีนั้นทำจากโลหะมีค่าชนิดที่สามารถเอาไปเทียบกระบี่ทัณฑ์สวรรค์และดาบราชันศาสตราได้เลย แต่ที่สำคัญจริงๆคือด้ามมีดที่ทำจากกิ่งไม้ที่ชิงชิวนำกลับมาต่างหาก หลังจากมอบมันให้กับท่านน้ามังกร ท่านก็เอามันไปปลูกเพื่อรักษาสภาพเอาไว้แล้วตัดส่วนหนึ่งออกมาเพื่อใช้งาน แม้จะตัดออกมาจนเนื้อไม้แห้งแล้วกลิ่นที่สามารถกลบกลิ่นอายของชินอี้ได้ก็ยังคงอยู่ ส่วนเหตุผลที่ต้องทำด้ามมีดที่มีขนาดเล็กจนพอดีมือเด็ก 3 ขวบก็เพราะกลิ่นของมันกระจายไปไกลมาก ขนาดเท่านี้ก็ยังสามารถส่งกลิ่นหอมออกไปจากตัวชินอี้ได้เกือบร้อยเมตร

“นี่เป็นของขวัญจากพี่สาวของเจ้า อย่าลืมไปขอบคุณนางล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนโดยมีไป๋หลินโบกมืออยู่ข้างหลัง

“ขอบคุณขอรับ”ชินอี้ว่าพลางพูดขอบคุณไปทางไป๋หลิน ทำให้นางยิ้มออกมาอย่างมีความสุขทีเดียว

“ชินอี้ แม่มีข่าวดีจะบอกลูกนะ”เหม่ยหลินว่ายิ้มออกมา

“ข่าวดี? ข่าวดีอะไรหรือขอรับท่านแม่”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ

“เพราะมีดของพี่สาวเจ้าให้มา แม่ก็เลยจะอนุญาตใหเจ้าฝึกฝนพลังวิญญาณได้แล้ว”ได้ยินที่เหม่ยหลินพูด ชินอี้ก็ยิ้มออกมาทันที แม้จะไม่มีพลังวิญญาณมาตั้งแต่เกิด แต่ชินอี้ก็เป็นคนตระกูลไป๋ เรื่องการฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นย่อมทำได้แน่นอน เพียงแต่บิดาและมารดาคอยห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องอสูรบุกวังอีก

“ข้าอยากฝึกขอรับ”ชินอี้ว่าพลางทำตาลุกวาว รอบตัวมันมีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น ตัวมันกลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่แค่หกล้มก็มีบาดแผลได้แล้ว บอกตามตรงว่ามันไม่ชอบเลย

“แต่เจ้าต้องสัญญากับแม่นะ”เหม่ยหลินว่าพลางดึงตัวบุตรชายเข้ามากอด

“สัญญาอะไรหรือขอรับ”ชินอี้ถามพลางกระพริบตาปริบๆ

“เจ้าต้องพกมีดเล่นนี้ติดตัวเสมอ เข้าใจหรือเปล่า”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมา บุตรชายสามารถฝึกพลังได้เสียที นางก็หมดห่วงไปเรื่องหนึ่งแล้วเช่นกัน

“ขอรับ ข้าสัญญา”ชินอี้ตอบรับด้วยท่าทางแข็งขัน ทำให้คนรอบข้างยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

.

.

“รอบนี้หนักน่าดูเลยนะ”มังกรธรณีพูดพลางจัดสมุนไพรออกมาวางบนผ้าช้าๆ แม้จะได้อาจูช่วยรักษาจนเบาขึ้นแล้ว แต่ร่างกายของราชสีห์เพลิงก็บาดเจ็บหนักไม่ใช่น้อยจริงๆ

“ระดับมันต่างกันขนาดนั้นนี่นะ”ราชสีห์เพลิว่าพลางหัวเราะออกมา คราวนี้มันฝืนสู้กับนางพญาผีเสื้อนับว่าเกินกำลังจริงๆ

“เอ่อ…..ข้าต้องขอโทษจริงๆนะ”นางพญาผีเสื้อที่นั่งอยู่พูดด้วยใบหน้าสำนึกผิด พวกมันพูดอย่างกับนางไม่ได้อยู่ตรงนี้เสียอย่างนั้น

“ไม่ต้องถือสาหรอก ข้าเองก็รุนแรงไปเหมือนกัน….”ราชสีห์เพลิงพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ เพราะตอนนี้ข้างกายของนางพญาผีเสื้อมีร่างของอสูรนกกับนางพญาผึ้งที่ต่างก็บาดเจ็บหนักยิ่งกว่าราชสีห์เพลิงเสียอีก อสูรนกกระดูกหักหลายท่อน โดยเฉพาะปีกทั้งสองข้างที่แทบจะขยับไม่ได้ ส่วนนางพญาผึ้งร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ปีกของนางโดนเผาไป โชคดีที่นางเป็นอสูรเลยยังสามารถฟื้นฟูปีกตนเองได้ แต่ต้องใช้เวลาพักใหญ่เลยทีเดียว

“ของข้ามัน..ไม่ใช่ความผิดท่านทั้งหมดหรอกเจ้าค่ะ”อสูรนกว่าพลางมองปีกของตนเอง ตอนที่โดนราชสีห์เพลิงต่อยจนร่วงครั้งแรกก็มีแค่กระดูกส่วนปีกเท่านั้นที่หัก แต่ที่เสียหายไปทั้งร่างแบบนี้เพราะนางฝืนโจมตีไป๋ไป่จนร่วงลงพื้นต่างหาก

“เรื่องที่แล้วมาก็แล้วไปเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางถอนหายใจออกมา บุตรสาวของมันก็เจ็บหนักเช่นกัน เรียกได้ว่ามันเองก็ปวดใจไม่น้อย แต่พวกนางก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไป๋แล้วก็ช่วยไม่ได้ แถมเรื่องที่เกิดขึ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดี หลังจากกลับมาไป๋ไป่ก็มาถามมันเกี่ยวกับการควบคุมพลังธาตุรวมทั้งไปรบเร้าแม่ของนางให้สอนเรื่องการบินอีกต่างหาก ปกติไป๋ไป่ไม่เคยทำแบบนี้ เรียกได้ว่าการพ่ายแพ้ในครั้งนี้มอบความพยายามให้กับไป๋ไป่ก็คงไม่ผิด มังกรธรณีจึงไม่ได้โกรธแค้นอะไรเหล่าอสูรที่ทำร้ายบุตรสาวมันเสียเท่าไหร่

“ว่าแต่..เจ้าเสือไปไหนล่ะ”ราชสีห์เพลิงถามพลางรับเอาสมุนไพรที่มังกรธรณีส่งมาให้

“กลับไปหาลูกๆที่เขตอสูรผาไร้ก้นละมั้ง เจ้ามีธุระอะไรกับมันหรือไง”มังกรธรณีตอบพลางเดินไปดูอาการของพวกนางพญาผีเสื้อต่อ หลังจากรวมอาณาจักรโฮกับหลิวเข้าเป็นอาณาจักรไป๋ พวกมันก็มาอาศัยที่เมืองหลวงของอาณาจักรไป๋กันมาพักใหญ่แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งเขตอสูรผาไร้ก้นที่พวกตนอยู่มานับพันปีไม่ได้ สุดท้ายเลยให้เหล่าภรรยาของพวกตนอยู่ดูแล นอกจากจื่อหนิ่งที่อยู่ในวังทองแล้วทั้งราชินีมังกรและพยัคฆ์เมฆาต่างอยู่ที่เขตอสูรผาไร้กันทั้งนั้น

“ข้ามีเรื่องจะขอร้องมันนิดหน่อย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มออกมา

“ขอร้องมัน? ท่าทางเจ้าจะเจ็บหนักจริงๆ”มังกรธรณีทำหน้างงออกมาทันที แม้จะอยู่ร่วมกันมานานมากแล้ว แต่พวกมันเหล่าราชาก็ไม่ค่อยได้ยืมแรงของอีกฝ่ายเท่าไหร่ อาจจะเป็นศักดิ์ศรีแปลกๆก็เป็นได้

“ข้ามีของต้องตอบแทนนี่นะ”ราชสีห์เพลิงหัวเราะพลางเดินออกไปจากห้องสมุนไพรของมังกรธรณีไป ตัวราชสีห์เพลิงยังติดค้างหนี้ชีวิตชิงชิวอยู่ มันเลยอยากจะหาอะไรไปตอบแทนเสียหน่อย แต่อาวุธชิงชิวก็มีแล้ว ยาช่วยฝึกฝนก็เหมือนจะไม่จำเป็น มันเลยอยากจะลองคิดค้นวิชาให้ชิงชิวสามารถใช้ได้ดู

“เอาล่ะ ต่อไปก็พวกเจ้า”มังกรธรณีว่าพลางเริ่มตรวจอาการของพวกนางพญาผีเสื้อทีละตน กระดูกของอสูรนกได้ไป๋จูเหวินช่วยผ่าตัดรักษาไปแล้ว เหลือเพียงรอให้อาการดีขึ้นเท่านั้น ส่วนนางพญาผึ้งเองก็ได้แต่รอพลังของตนเองฟื้นฟูปีกเท่านั้น พวกนางทั้งสองเพียงรับยาช่วยฟื้นฟูก็พอเพียงแล้ว

“แล้ว…เจ้าบาดเจ็บตรงไหนกัน”มังกรธรณีถามพลางมองมาทางนางพญาผีเสื้อ นางดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งไป๋หลินทั้งไป๋จูเหวินต่างก็ยืนยันว่านางไม่ได้บาดเจ็บอะไรอยู่แล้ว ทำไมนางยังมาห้องสมุนไพรของมันอีก

“ท่านช่วยตรวจสมองได้หรือไม่ ข้าคิดว่าข้าอาจจะมีปัญหาที่ตรงศีรษะ”นางพญาผีเสื้อก้มหน้าลงน้อยๆเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่างอยู่

“สมอง? มันมีปัญหาอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีกระพริบตาปริบๆ หรือนางจะโดนราชสีห์เพลิงต่อยจนกระเทือนถึงสมองกัน

“หลังจากต่อจบการต่อสู้ ข้าก็เห็นภาพบางอย่างในความคิดเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางจับไปที่หน้าผากของตน

“มันเหมือนภาพติดตาบางอย่างที่ข้าลบมันออกไม่ได้”นางพญาผีเสื้อถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ นางไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนเลย บอกตามตรงว่านางกังวลมาตลอดการเดินทางเลยทีเดียว

“ภาพติดตา? เจ้าพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเป็นภาพอะไร”มังกรธรณีถามด้วยความสงสัย อาการของนางแปลกๆเกินไป

“เป็นภาพตอนข้าต่อสู้กับราชสีห์เพลิงเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบพลางมองมาทางมังกรธรณีด้วยท่าทีเป็นกังวล ตั้งแต่จบการต่อสู้มานางก็สลัดภาพเหตุการณ์ตอนนั้นไม่หลุดเสียที บอกตามตรงว่าภาพตอนราชสีห์เพลิงฝืนตัวสู้กับนางเต็มกำลังยังคงติดอยู่ในสมองของนางไม่จางหาย แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล แต่มันก็ยังพุ่งเข้ามาหาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ภาพร่างของมันที่เข้ามาโจมตีตนนั้นช่างลืมเลือนได้ยากจริงๆ

“เอ่อ….”มังกรธรณีสะอึกไปพลางมองนางพญาผีเสื้อที่กำลังมีท่าทีกังวลอยู่

“พอเจ้าเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง”มังกรธรณีถามพลางถอนหายใจออกมาน้อยๆ ท่าทางจะไม่ใช่โรคแปลกประหลาดอะไรเสียแล้ว

“แปลกๆเจ้าค่ะ มันไม่เหมือนหวาดกลัวเสียทีเดียว แต่ร่างกายของข้าก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นภาพนั้น”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีอ้อมแอ้ม นางเคยหวาดกลัวสุดขีดตอนที่อสูรแมงมุมบุกเข้าไปในหุบเขา ตอนนั้นภาพของอสูรแมงมุมก็ตามหลอกหลอนนางแบบนี้เช่นกัน แต่กับภาพของราชสีห์เพลิงนั้นต่างกันออกไป

“อืม…ตอนที่เห็นภาพ หัวใจเจ้าเต้นเร็วหรือเปล่า”มังกรธรณีถามให้แน่ใจ

“เจ้าค่ะ เต้นแรงมากจนน่าประหลาดใจ หรือข้าจะเป็นโรคหัวใจกันแน่”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที อสูรจะเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร พวกมันมีชีวิตยืนยาวเป็นพันๆปี ร่างกายแข็งแรงกว่าสัตว์ป่านับหมื่นนับแสนเท่า โรคธรรมดาเช่นนั้นจะไปเป็นได้อย่างไร

“จะว่าโรคหัวใจก็ไม่เชิง”มังกรธรณีทบทวนพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา แม้จะไม่ใช่โรคหัวใจที่เกิดจากการทำงานผิดพลาดของหัวใจ แต่โรคที่นางพญาผีเสื้อเป็นก็นับเป็นโรคหัวใจประเภทหนึ่งเช่นกัน

“โรคนี้เรียกกันว่าไข้ใจ มันไม่มีวิธีรักษาหรอกนะ”มังกรธรณีตอบพลางเก็บสมุนไพรของตนกลับไป

“แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามด้วยท่าทีตกใจ ท่าทางของนางตอนนี้ไม่เหมือนอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 เลยแม้แต่น้อย

“เจ้ารู้สึกตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิงใช่หรือไม่”มังกรธรณีถามออกมาพลางยิ้มด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ ท่าทางมันคงต้องช่วยเหลือพี่น้องของมันเสียหน่อยแล้ว

“เจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อตอบออกมาตามตรง

“เช่นนั้นก็ได้แต่ทำความคุ้นเคยเท่านั้น”มังกรธรณีตอบพลางกอดอกแน่นเหมือนกำลังพูดเรื่องคอขาดบาดตายไม่มีผิด

“คุ้นเคย คุ้นเคยอย่างไรหรือเจ้าคะ”นางพญาผีเสื้อถามพลางทำตาโตด้วยความประหลาดใจ

“เจ้าก็ต้องอยู่ใกล้ชิดราชสีห์เพลิงให้มากขึ้น อาการของเจ้าอาจจะเบาลงก็ได้”มังกรธรณียิ้มพลางตบบ่านางพญาผีเสื้อเบาๆ เอาเป็นว่าอย่างไรก็พยายามเข้าแล้วกัน

“เจ้าค่ะ ข้าจะลองดู”นางพญาผีเสื้อตอบด้วยท่าทีลังเล นางตื่นเต้นมากตอนอยู่ใกล้ราชสีห์เพลิง นางเลยไม่กล้าเข้าใกล้มันเท่าไหร่ นางไม่มั่นใจนักว่าจะฝืนเข้าไปหามันได้หรือไม่

“ท่านหมอ”อยู่ๆอสูรนกกับนางพญาผีเสื้อก็เอ่ยปากออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ

“มีอะไรงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางหญิงสาวทั้งสอง

“ความจริงแล้วพวกข้าเองก็มีอาการเช่นนั้นเหมือนกันเจ้าค่ะ”อสูรนกตอบด้วยท่าทีลุกลนแปลกๆ

“อาการของพวกเจ้า เหมือนนางพญาผีเสื้อเลยงั้นหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองอสูรนกกับนางพญาผึ้งด้วยท่าทีลำบากใจ

“เจ้าค่ะ พวกเราเองก็ต้องเข้าใกล้ท่านราชสีห์ด้วยหรือไม่เจ้าคะ”ได้ยินเช่นนั้นมังกรธรณีก็ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ จะว่าไปตามธรรมชาติของสิงโตจ่าฝูงก็มีตัวเมียหลายตัวนี่นะ…

“พวกเจ้าเองก็ต้องทำเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาการก็จะไม่เบาขี้น”มังกรธรณีตอบด้วยท่าทีจริงจังอย่างมาก ทำให้พวกนางทั้ง 3 ตนมองตากันช้าๆ

“ท่านมังกรธรณีเจ้าคะ”ทั้ง 3 ยังไม่ทันออกจากห้องไป อยู่ๆก็มีอสูรตนใหม่เข้ามาในห้องสมุนไพรของมันอีกตน

“ข้ามีอาการแปลกๆเจ้าค่ะ บางทีข้าอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนที่สมองก็ได้”เสียงของอาจูทำให้มังกรธรณีได้แต่ยิ้มอย่างลำบากใจ นี่เจ้าก็ด้วยงั้นหรือ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+