บุตรอสูรบรรพกาล 297 สังหารมาร

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter 297 สังหารมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 296 สังหารมาร

ตอนที่ 296 สังหารมาร

“บ้าเอ้ย” ท่ามกลางความวุ่นวายที่มีทั้งการต่อสู้และผู้คนที่กําลังหลบหนี ร่างของไช่จินกลับไม่ยอมหนีไปไหน ตัวมันยืนอยู่บนยอดหลังคา พลางเขียนตัวอักษรลงในกระดาษอย่างต่อเนื่อง

“ทําไมไม่หนีไปเล่า เจ้าบ้าเอ้ย”ไช่จินด่าตัวเองพลางเขียนข้อมูลสิ่งที่มันเห็นตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทา การต่อสู้ระดับนี้มันทําอะไรไม่ได้เลย แต่มันกลับหนีไปไม่ได้เพราะการต่อสู้ครั้งนี้คือการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เหล่ายอดฝีมือต่างน้ํานั่นกันอย่างจริงจัง แม้แต่มารที่มันหาข่าวไม่ได้ก็ปรากฏตัวออกมา หากมันหนีไปมันต้องพลาดข้อมูลแน่ๆ

 

ผลัก! ตูม!! ฝามือของไป๋จูเหวินและกระบองของตะกละต่างโจมตีใส่ร่างกายของกันและกันอย่างรุนแรง ด้วยกําลังของทั้งคู่สมควร จะสร้างความเสียหายหนักให้กับศัตรูของมันได้แล้ว แต่เพราะผิวหนังแมงมุมและไขมันของตะกละทําให้การโจมตีของทั้งสองแทบจะไร้ผล ทําให้กลายเป็นภาพทั้งสองคนยืนแลกการโจมตีกันอยู่แบบนั้น ทางฝั่งตะกละนั้นยังพอว่า แต่ทางฝั่งไป๋จูเหวินนี่สิ นี่มันกําลังแลกหมัดกับมารระดับเจ้าสวรรค์เชียวนะ

 

“ท่านพี่ ข้า”เหม่ยหลินกําลังจะเข้าไปช่วยไป๋จูเหวินหลังจากพาไปหลินไปหลบในตัวปราสาทแล้ว แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปหาไป๋จูเหวิน ร่างๆหนึ่งก็ร่วงลงมาที่พื้นตรงหน้านางเสียก่อน

“อัก…”อาวุโสเทียนหมิงกระอักเลือดออกมาพลางพยายามลุกขึ้นอีกครั้งอย่างยากลําบาก

“ไอ้แก่ ลุกขึ้นมา”ราคะยิ้มพลางกางพัดหยกขาวออกจนสุด พริบตานั้นรอบกายของนางก็ปรากฏอิ่มน้ําแข็ง 8 เล่มพุ่งเข้าใส่อาวุโสเทียนหมิงอย่างต่อเนื่อง

เคร้งๆๆๆๆ กระบี่ในมือของเหม่ยหลินฟันลิ่มน้ําแข็งพวกนั้นจนหมด ทําให้อาวุโสเทียนหมิงพอจะมีเวลาพักบ้าง

“นังมารนั่นแข็งแกร่งจริงๆ” อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางเกร็งนิ้วตนเองยิงดัชนีกระบี่ออกไปอีกครั้ง

เครั้ง !! ดัชนีกระบี่ของอาวุโสเทียนหมิงกระแทกก้อนน้ําแข็งที่ราคะสร้างขึ้นมาจนแตก แต่ก็ยังทะลุเข้าไปถึงตัวนางไม่ได้

 

เคร็งๆๆๆๆ ไม่ปล่อยให้ราคะได้โจมตีอาวุโสเทียนหมิงซ้ํา เหม่ยหลินพุ่งขึ้นไปด้วยร่างที่ปรากฏไอสีทองออกมารอบตัว เพียงพริบตาเดียวนางก็ฟันน้ําแข็งรอบตัวราคะจนแตกไม่มีชิ้นดี ก่อนจะใช้ฝ่ามือปักษาบินอยู่สวรรค์เข้าโจมตีนางที่ลอยอยู่กลางอากาศเข้าอย่างจัง

 

“เจ้า…”ราคะพูดพลางมองเหม่ยหลินด้วยท่าที่แปลกใจ พลังฝีมือของนางไม่ธรรมดาเลย บางที่อาจจะรุนแรงกว่าเจ้าแก่เมื่อครู่ก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามือของเหม่ยหลินก็ยังทําอะไรนางได้ไม่มากอยู่ดี

 

แควกก!! เหม่ยหลินเปลี่ยนกระบวนท่ากระบี่ในมือขวาเพื่อโจมตีใส่ราคะ แต่กลับเกี่ยวได้แค่เสื้อของนางเท่านั้น

“ยัยนี่” ราคะกัดฟันกรอดพลางใช้พัดหยกขาวฟาดใส่เหม่ยหลินอย่างจัง แต่เหม่ยหลินก็สามารถเรียกกําแพงน้ําออกมาป้องกันตนเองได้อย่างทันท่วงที ทําให้พัดหยกขาวเสียกําลังไปมาก

 

“มิน่าละ พลังของเจ้าถึงอ่อนลง” อาวุโสเทียนหมิงพูดพลางมองไปตรงเสื้อผ้าที่ขาดไปของราคะ บนร่างของนางปรากฏผิวหนังสีม่วงเป็นจ้ำ และนั่นก็ไม่ใช่ร่องรอยที่เกิดจากการต่อสู้แน่ๆ

“พิษของพี่ปักเป้า”เหม่ยหลินพูดพลางเบิกตากว้าง นางได้ฟังจากไป๋จูเหวินแล้วว่ามารที่เป็นหญิงโดนพิษปักเป้าของอสูรปักเป้าเข้าไป ตลอด 5 ปีมานี้แม้จะเอาชีวิตรอดและเพิ่มพูนพลังได้ แต่ท่าทางราคะจะยังรักษาพิษของอสูรปักเป้าไม่ได้ นับว่าโชคดีแค่ไหนกันเชียว หากนางไม่ติดพิษบางที่นางอาจจะแข็งแกร่งกว่าตอนนี้มากก็ได้

เพียเหม่ยหลินเห็นแบบนั้นก็รีบส่งฝ่ามือของตนเองเข้าโจมตีทันที แต่จุดประสงค์ของเหม่ยหลินเปลี่ยนไปมาก นางไม่ได้จะสร้างความเสียหายให้ราคะอีกแล้ว นางต้องการส่งพลังของตนเองเข้าไปปั่นปวนพลังของมารราคะ เพื่อกระตุ้นพิษปักเป้าในร่างของนาง หากทําแบบนั้นนางต้องอ่อนแอลงแน่ๆ

 

เปรี้ยง!! ร่างของอาวุโสเทียนหมิงทะยานเข้ามาโจมตีราคะด้วยอีกแรง ดัชนีกระบี่ของมันบังคับได้ดั่งใจและยังรุนแรง ทําให้สามารถโจมตีผ่านร่างของเหม่ยหลินเข้าไปหาราคะได้อย่างง่ายดาย ทําเอาราคะเริ่มมือไม้ปั่นป่วนอีกครั้ง เพราะฝั่งหนึ่งก็ปั่นป่วนอีกฝั่งหนึ่งก็พยายามจี้จุดอ่อนของนาง

ตูม!! อีกฝั่งหนึ่งทางด้านของไป๋จูเหวิน ตัวมันที่กําลังแลกหมัดกับตะกละอยู่นั้นก็เริ่มจะเห็นผลบ้างแล้ว

“อากกก” ตะกละร้องออกมาพลางกุมท้องของตัวเองเอาไว้ แม้จะสลายพลังได้ แต่พอโดนฝ่ามือเพลิงพิโรธต่อๆกันหลายครั้งเข้าก็เริ่มรับไม่ไหว ทําให้ตอนนี้ไป๋จูเหวินมีแววจะชนะมากขึ้น แถมอู๋หมิงยังช่วยท่าโจมตีของตะกละเอาไว้ทําให้กระบองของมันฟาดใส่ไป๋จูเหวินได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

เปรี้ยง! สายฟ้าฟาดลงมายังกระบี่ของอู๋หมิง ก่อนที่มันจะแยกร่างตนเองออกเป็น 8 ร่างเข้ากระหน่ําโจมตีตะกละอย่างต่อเนื่อง แม้ร่างกายของมันจะสามารถสลายแรงกระบีได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกจุดกระบี่ทัณฑ์สวรรค์ของอู๋หมิงแทงไปทั่วร่างเพื่อหาจุดอ่อนของตะกละ

“เจ็บบบบบบ”ตะกละร้องออกมาเมื่อโดนกระบี่แทงไปนับไม่ถ้วน หากไม่ใช่เพราะผิวหนังของมันหนาขนาดนี้คงไม่จบแค่เจ็บหรอก

เปรี้ยง!! อู๋หมิงส่งสายฟ้าเข้าไปโจมตีร่างของตะกละด้วย แม้ที่ท้องจะไม่ได้ผล แต่ข้อพับและส่วนหัวยังสามารถส่งสายฟ้าเข้าไปสร้างความเสียหายได้ ทําให้แขนขาของตะกละขยับช้าลงมาก

ตูม!! กระสุนวายุของตะกละพุ่งเข้าหาร่างแยกของอู๋หมิง จนร่างแยกสลายหายไปไม่เหลือชิ้นดี ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่พวกมันรู้จักอสูรปักเป้ามาก่อนเลยเคยชินกับการยิงกระสุนวายุดี ทําให้ทั้งอู๋หมิงทั้งไป๋จูเหวินสามารถเดาทางกระสุนวายุของตะกละได้ไม่ยาก แม้คนด้านหลังจะต้องรับเคราะห์ไปบ้างก็ตาม

“อากกกกก” ตะกละร้องลั่นพลางยกแขนขึ้นมาปิดหน้าแล้ววิ่งเข้าหาไป๋จูเหวินทั้งตัว ด้วยกําลังของมันและน้ําหนักมหาศาลขนาดนี้ ต่อให้มีกําแพงนับสิบๆชั้นขวางอยู่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ไป๋จูเหวินกลับใช้ฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาต้านรับเอาไว้จนร่างของตะกละหยุดไป

“ไม่จริง ตัวก็ผอมทําไมแรงเยอะขนาดนี้” ตะกละว่าพลางยกกระบองหวดใส่ไป๋จูเหวิน แต่กระบองของมันกลับทําอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้เลย ผิวหนังของมันแข็งเกินมนุษย์ไปแล้ว

 

“ตาย ตาย ตาย” ตะกละว่าพลางหวดกระบองใส่ไปงูเหวินที่กําลังรวบรวมพลังอยู่ ตั้งแต่เมื่อครู่แล้วมันปล่อยให้อู๋หมิงถ่วงเวลาเอาไว้โดยไม่โจมตีเลย แต่ถึงตะกละจะเข้าถึงตัวไป๋จูเหวินก็ยังไม่หยุดรวบรวมพลังแต่อย่างไร

เปรี้ยง!! อู๋หมิงเห็นไป๋จูเหวินไม่ยอมโจมตีออกมาก็เข้าไปขัดตะกละทันที เพียงพริบตาเดียวกระบี่ของอู๋หมิงก็ทั้งปาด แทง เฉือน ใส่ร่างของตะกละไปหลายสิบหลาบร้อยกระบี่ แถมยังเสริมด้วยดัชนีกระบี่อีกต่างหาก ทําเอาตะกละต้องยกแขนขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันจุดอ่อน

“…”อู๋หมิงมองไปทางไป๋จูเหวิน มันรวบรวมพลังนานเกินไปแล้ว หากจะใช้ฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกก็ไม่น่าจะต้องรวบรวมพลังขนาดนี้นี่

“อู๋หมิง หลบไป”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปด้านหลังของตะกละ เมื่อเห็นชัดแล้วว่าด้านหลังของตะกละไม่มีใครอยู่ไป๋จูเหวินจึงปล่อยพลังที่รวบรวมมาตั้งแต่เมื่อครู่ออกไป

 

ตูม!! ฝ่ามือเพลิงพิฆาตที่ใช้พลังทั้งหมดของไป๋จูเหวินในตอนนี้ต่อให้เป็นพุงที่เต็มไปด้วยไขมันของตะกละก็ต้องได้รับความเสียหายหนักแน่ๆ

 

บึม!! ร่างของตะกละลอยหรือไปกระแทกวังหลวงของอาณาจักรโฮจนพังไม่มีชิ้นดี แถมร่างของตะกละยังโดนพลังโจมตีของฝามือเพลิงพิฆาตซัดจนลากเอาทั้งพื้นทั้งตัวปราสาทหายไปทั้งแถบ แม้แต่บ้านเมืองด้านนอกยังหายไปเป็นทางยาว

ฟิวๆๆๆๆ กระบองในมือของตะกละปลิวหรือไปบนอากาศอย่างไร้การควบคุม

 

เปรี้ยง!! กระบองของตะกละกระแทกเข้ากับหลังของอัตตาที่กําลังสู้กับพวกไปไปเข้าอย่างจัง ทําให้อัตตาเสียจังหวะบังคับทหารรากไม้ไป

ตูม! กรงเล็บสีขาวของไปไปอาศัยจังหวะนั้นอัดร่างของอัตตาลงไปกับพื้น เพราะพลังของทั้งคู่สูงมาก ทําให้การต่อสู้ยึดเยื้อมาพักใหญ่แล้ว ร่างของไปไปที่เป็นหินอ่อนมีรอยแตกเป็นจํานวนมาก เห็นได้ชัดเลยว่านางแลกการโจมตีกับอัตตาอย่างหนักแค่ไหน

“บ้าเอ้ย” อัตตาว่าพลางผลักกรงเล็บของไปไปออก แต่เพราะกระบองที่เข้ามากระแทกเมื่อครู่ทําเอาหัวไหล่ของมันข้างหนึ่งบาดเจ็บเข้าให้ ส่งผลให้มันส่งแรงออกมาได้ไม่เต็มที่

 

ตูม! กรงเล็บของไปไปกดร่างของอัตตาเอาไว้ได้เสียที ก่อนที่นางจะกางปีกทั้ง 6 ออกทั้งๆที่ยังเหยียบร่างของมันเอาไว้แบบนั้น

“บ้าเอ้ย” อัตตาคํารามพลางหันไปมองที่มาของกระบอง อย่างน้อยมันก็อยากจะรู้ว่าใครคือผู้ลอบโจมตีมันกันแน่

 

“…”สิ่งสุดท้ายที่อัตตาเห็นคือร่างของตะกละที่และไม่เหลือชิ้นดี พลังป้องกันของตะกละสูงมากแม้แต่ในหมู่มาร ใครกันที่ฆ่ามันให้เป็นสภาพเช่นนั้นได้

ฉีกๆๆๆๆ อัตตาคงไม่ได้มีโอกาสได้หาคําตอบอีกแล้ว เพราะปีกของไปไปแทงเข้าใสร่างของมันเป็นแผลใหญ่เลยทีเดียว

“เลือดสีดําแบบนี้คงไม่อร่อย”ไปไปว่าพลางแยกปีกทั้ง 6 ข้างออก ทําให้ร่างของอัตตาขาดเป็นชิ้นๆในทันที ก่อนที่ไปไปจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์แล้วนอนแผ่ไปทั้งๆแบบนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางต้องต่อสู้จริงจังขนาดนี้ ทําเอาทั้งพลใจและพลังกายแทบจะเหือดแห่งเลย

 

“ไปไป…” หลินหลินพูดพลางนอนลงข้างๆไปไปเช่นกัน นางเอกก็รับการโจมตีของอัตตาเข้าไปเยอะ แต่เพราะเกราะของนางแข็งมากทําให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่ แต่การฝืนสู้กับมาร ระดับเจ้าสวรรค์ที่เกือบจะเป็นขั้น 2 อยู่แล้วนั้นหนักหนาไม่น้อย เลยทําเอาพวกแมงมุมทั้ง 3 ตนหมดแรงไปตามกันๆ

 

ตุบอีกคนที่หมดแรงไปด้วยนั้นคงหนีไม่พ้นไป๋จูเหวิน ฝ่ามือเพลิงพิฆาตนั้นใช้แรงมหาศาลมาก ยิ่งพลังของไป๋จูเหวินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้พลังมากเท่านั้น ทําเอาแสงสีทองของพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เริ่มเปล่งประกายออกมาเพื่อฟื้นฟูพลังของไป๋จูเหวินในทันที

“เท่านี้ก็เหลือแต่เฟิงมี่สินะ”อู๋หมิงว่าพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่อาวุโสเทียนหมิงกับเหม่ยหลินกําลังต่อสู้กับราคะอยู่

 

ตูม!! ร่างๆหนึ่งร่วงลงมากระแทกพื้นข้างๆตัวอู๋หมิงแทบจะทันทีที่มันเงยหน้าขึ้นมอง แต่พริบตานั้นดวงตาของอู๋หมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที

“อา…อาจารย์”อู๋หมิงร่างสะท้านเฮือกเมื่อหันไปมองร่างของอา วุโสเทียนหมิงที่ร่วงลงมาเมื่อครู่ ที่อกของมันปรากฏอิ่มน้ําแข็งแทงทะลุจากอกไปจนถึงด้านหลัง เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นบาดแผลสาหัสแน่ๆ

“อาจารย์ ท่าน”อู๋หมิงร่างเย็นเฉียบไปทันทีเมื่อเห็นบาดแผลของอาจารย์ มันรีบตรงเข้าไปดูว่าอาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง แม้แต่ไป๋จูเหวินเองก็รีบเปลี่ยนดวงตาเป็นสีเขียวทันทีเพื่อตรวจสอบอาการของอาวุโสเทียนหมิง

“” ดวงตาของไป๋จูเหวินว่างเปล่าทันทีเมื่อเห็นบาดแผลภายใน ลิ่มน้ําแข็งแทงทะลุหัวใจ ต่อให้เป็นมันหรือน้ามังกรก็คง……..

 

“เฟิงมี่ เจ้า”อู๋หมิงปล่อยพลังออกมาจนรอบๆสั่นสะเทือน กระบี่ในมือของมันสั่นจนเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ชี้กระบีไปทางเฟิงมี่ ก่อนจะพุ่งวาบเข้าหานางอย่างรวดเร็ว

 

“นังมารชั่ว”อู๋หมิงคํารามก้องพร้อมน้ําตาที่เอ่อล้นออกมา เป้าหมายของมันตอนนี้มีแค่การฆ่านางให้ตายด้วยมือของมันเท่านั้น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาล 297 สังหารมาร

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter 297 สังหารมาร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 296 สังหารมาร

ตอนที่ 296 สังหารมาร

“บ้าเอ้ย” ท่ามกลางความวุ่นวายที่มีทั้งการต่อสู้และผู้คนที่กําลังหลบหนี ร่างของไช่จินกลับไม่ยอมหนีไปไหน ตัวมันยืนอยู่บนยอดหลังคา พลางเขียนตัวอักษรลงในกระดาษอย่างต่อเนื่อง

“ทําไมไม่หนีไปเล่า เจ้าบ้าเอ้ย”ไช่จินด่าตัวเองพลางเขียนข้อมูลสิ่งที่มันเห็นตรงหน้าด้วยมือที่สั่นเทา การต่อสู้ระดับนี้มันทําอะไรไม่ได้เลย แต่มันกลับหนีไปไม่ได้เพราะการต่อสู้ครั้งนี้คือการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่เหล่ายอดฝีมือต่างน้ํานั่นกันอย่างจริงจัง แม้แต่มารที่มันหาข่าวไม่ได้ก็ปรากฏตัวออกมา หากมันหนีไปมันต้องพลาดข้อมูลแน่ๆ

 

ผลัก! ตูม!! ฝามือของไป๋จูเหวินและกระบองของตะกละต่างโจมตีใส่ร่างกายของกันและกันอย่างรุนแรง ด้วยกําลังของทั้งคู่สมควร จะสร้างความเสียหายหนักให้กับศัตรูของมันได้แล้ว แต่เพราะผิวหนังแมงมุมและไขมันของตะกละทําให้การโจมตีของทั้งสองแทบจะไร้ผล ทําให้กลายเป็นภาพทั้งสองคนยืนแลกการโจมตีกันอยู่แบบนั้น ทางฝั่งตะกละนั้นยังพอว่า แต่ทางฝั่งไป๋จูเหวินนี่สิ นี่มันกําลังแลกหมัดกับมารระดับเจ้าสวรรค์เชียวนะ

 

“ท่านพี่ ข้า”เหม่ยหลินกําลังจะเข้าไปช่วยไป๋จูเหวินหลังจากพาไปหลินไปหลบในตัวปราสาทแล้ว แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปหาไป๋จูเหวิน ร่างๆหนึ่งก็ร่วงลงมาที่พื้นตรงหน้านางเสียก่อน

“อัก…”อาวุโสเทียนหมิงกระอักเลือดออกมาพลางพยายามลุกขึ้นอีกครั้งอย่างยากลําบาก

“ไอ้แก่ ลุกขึ้นมา”ราคะยิ้มพลางกางพัดหยกขาวออกจนสุด พริบตานั้นรอบกายของนางก็ปรากฏอิ่มน้ําแข็ง 8 เล่มพุ่งเข้าใส่อาวุโสเทียนหมิงอย่างต่อเนื่อง

เคร้งๆๆๆๆ กระบี่ในมือของเหม่ยหลินฟันลิ่มน้ําแข็งพวกนั้นจนหมด ทําให้อาวุโสเทียนหมิงพอจะมีเวลาพักบ้าง

“นังมารนั่นแข็งแกร่งจริงๆ” อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางเกร็งนิ้วตนเองยิงดัชนีกระบี่ออกไปอีกครั้ง

เครั้ง !! ดัชนีกระบี่ของอาวุโสเทียนหมิงกระแทกก้อนน้ําแข็งที่ราคะสร้างขึ้นมาจนแตก แต่ก็ยังทะลุเข้าไปถึงตัวนางไม่ได้

 

เคร็งๆๆๆๆ ไม่ปล่อยให้ราคะได้โจมตีอาวุโสเทียนหมิงซ้ํา เหม่ยหลินพุ่งขึ้นไปด้วยร่างที่ปรากฏไอสีทองออกมารอบตัว เพียงพริบตาเดียวนางก็ฟันน้ําแข็งรอบตัวราคะจนแตกไม่มีชิ้นดี ก่อนจะใช้ฝ่ามือปักษาบินอยู่สวรรค์เข้าโจมตีนางที่ลอยอยู่กลางอากาศเข้าอย่างจัง

 

“เจ้า…”ราคะพูดพลางมองเหม่ยหลินด้วยท่าที่แปลกใจ พลังฝีมือของนางไม่ธรรมดาเลย บางที่อาจจะรุนแรงกว่าเจ้าแก่เมื่อครู่ก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามือของเหม่ยหลินก็ยังทําอะไรนางได้ไม่มากอยู่ดี

 

แควกก!! เหม่ยหลินเปลี่ยนกระบวนท่ากระบี่ในมือขวาเพื่อโจมตีใส่ราคะ แต่กลับเกี่ยวได้แค่เสื้อของนางเท่านั้น

“ยัยนี่” ราคะกัดฟันกรอดพลางใช้พัดหยกขาวฟาดใส่เหม่ยหลินอย่างจัง แต่เหม่ยหลินก็สามารถเรียกกําแพงน้ําออกมาป้องกันตนเองได้อย่างทันท่วงที ทําให้พัดหยกขาวเสียกําลังไปมาก

 

“มิน่าละ พลังของเจ้าถึงอ่อนลง” อาวุโสเทียนหมิงพูดพลางมองไปตรงเสื้อผ้าที่ขาดไปของราคะ บนร่างของนางปรากฏผิวหนังสีม่วงเป็นจ้ำ และนั่นก็ไม่ใช่ร่องรอยที่เกิดจากการต่อสู้แน่ๆ

“พิษของพี่ปักเป้า”เหม่ยหลินพูดพลางเบิกตากว้าง นางได้ฟังจากไป๋จูเหวินแล้วว่ามารที่เป็นหญิงโดนพิษปักเป้าของอสูรปักเป้าเข้าไป ตลอด 5 ปีมานี้แม้จะเอาชีวิตรอดและเพิ่มพูนพลังได้ แต่ท่าทางราคะจะยังรักษาพิษของอสูรปักเป้าไม่ได้ นับว่าโชคดีแค่ไหนกันเชียว หากนางไม่ติดพิษบางที่นางอาจจะแข็งแกร่งกว่าตอนนี้มากก็ได้

เพียเหม่ยหลินเห็นแบบนั้นก็รีบส่งฝ่ามือของตนเองเข้าโจมตีทันที แต่จุดประสงค์ของเหม่ยหลินเปลี่ยนไปมาก นางไม่ได้จะสร้างความเสียหายให้ราคะอีกแล้ว นางต้องการส่งพลังของตนเองเข้าไปปั่นปวนพลังของมารราคะ เพื่อกระตุ้นพิษปักเป้าในร่างของนาง หากทําแบบนั้นนางต้องอ่อนแอลงแน่ๆ

 

เปรี้ยง!! ร่างของอาวุโสเทียนหมิงทะยานเข้ามาโจมตีราคะด้วยอีกแรง ดัชนีกระบี่ของมันบังคับได้ดั่งใจและยังรุนแรง ทําให้สามารถโจมตีผ่านร่างของเหม่ยหลินเข้าไปหาราคะได้อย่างง่ายดาย ทําเอาราคะเริ่มมือไม้ปั่นป่วนอีกครั้ง เพราะฝั่งหนึ่งก็ปั่นป่วนอีกฝั่งหนึ่งก็พยายามจี้จุดอ่อนของนาง

ตูม!! อีกฝั่งหนึ่งทางด้านของไป๋จูเหวิน ตัวมันที่กําลังแลกหมัดกับตะกละอยู่นั้นก็เริ่มจะเห็นผลบ้างแล้ว

“อากกก” ตะกละร้องออกมาพลางกุมท้องของตัวเองเอาไว้ แม้จะสลายพลังได้ แต่พอโดนฝ่ามือเพลิงพิโรธต่อๆกันหลายครั้งเข้าก็เริ่มรับไม่ไหว ทําให้ตอนนี้ไป๋จูเหวินมีแววจะชนะมากขึ้น แถมอู๋หมิงยังช่วยท่าโจมตีของตะกละเอาไว้ทําให้กระบองของมันฟาดใส่ไป๋จูเหวินได้ไม่กี่ครั้งเท่านั้น

เปรี้ยง! สายฟ้าฟาดลงมายังกระบี่ของอู๋หมิง ก่อนที่มันจะแยกร่างตนเองออกเป็น 8 ร่างเข้ากระหน่ําโจมตีตะกละอย่างต่อเนื่อง แม้ร่างกายของมันจะสามารถสลายแรงกระบีได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกจุดกระบี่ทัณฑ์สวรรค์ของอู๋หมิงแทงไปทั่วร่างเพื่อหาจุดอ่อนของตะกละ

“เจ็บบบบบบ”ตะกละร้องออกมาเมื่อโดนกระบี่แทงไปนับไม่ถ้วน หากไม่ใช่เพราะผิวหนังของมันหนาขนาดนี้คงไม่จบแค่เจ็บหรอก

เปรี้ยง!! อู๋หมิงส่งสายฟ้าเข้าไปโจมตีร่างของตะกละด้วย แม้ที่ท้องจะไม่ได้ผล แต่ข้อพับและส่วนหัวยังสามารถส่งสายฟ้าเข้าไปสร้างความเสียหายได้ ทําให้แขนขาของตะกละขยับช้าลงมาก

ตูม!! กระสุนวายุของตะกละพุ่งเข้าหาร่างแยกของอู๋หมิง จนร่างแยกสลายหายไปไม่เหลือชิ้นดี ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่พวกมันรู้จักอสูรปักเป้ามาก่อนเลยเคยชินกับการยิงกระสุนวายุดี ทําให้ทั้งอู๋หมิงทั้งไป๋จูเหวินสามารถเดาทางกระสุนวายุของตะกละได้ไม่ยาก แม้คนด้านหลังจะต้องรับเคราะห์ไปบ้างก็ตาม

“อากกกกก” ตะกละร้องลั่นพลางยกแขนขึ้นมาปิดหน้าแล้ววิ่งเข้าหาไป๋จูเหวินทั้งตัว ด้วยกําลังของมันและน้ําหนักมหาศาลขนาดนี้ ต่อให้มีกําแพงนับสิบๆชั้นขวางอยู่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ไป๋จูเหวินกลับใช้ฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาต้านรับเอาไว้จนร่างของตะกละหยุดไป

“ไม่จริง ตัวก็ผอมทําไมแรงเยอะขนาดนี้” ตะกละว่าพลางยกกระบองหวดใส่ไป๋จูเหวิน แต่กระบองของมันกลับทําอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้เลย ผิวหนังของมันแข็งเกินมนุษย์ไปแล้ว

 

“ตาย ตาย ตาย” ตะกละว่าพลางหวดกระบองใส่ไปงูเหวินที่กําลังรวบรวมพลังอยู่ ตั้งแต่เมื่อครู่แล้วมันปล่อยให้อู๋หมิงถ่วงเวลาเอาไว้โดยไม่โจมตีเลย แต่ถึงตะกละจะเข้าถึงตัวไป๋จูเหวินก็ยังไม่หยุดรวบรวมพลังแต่อย่างไร

เปรี้ยง!! อู๋หมิงเห็นไป๋จูเหวินไม่ยอมโจมตีออกมาก็เข้าไปขัดตะกละทันที เพียงพริบตาเดียวกระบี่ของอู๋หมิงก็ทั้งปาด แทง เฉือน ใส่ร่างของตะกละไปหลายสิบหลาบร้อยกระบี่ แถมยังเสริมด้วยดัชนีกระบี่อีกต่างหาก ทําเอาตะกละต้องยกแขนขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันจุดอ่อน

“…”อู๋หมิงมองไปทางไป๋จูเหวิน มันรวบรวมพลังนานเกินไปแล้ว หากจะใช้ฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกก็ไม่น่าจะต้องรวบรวมพลังขนาดนี้นี่

“อู๋หมิง หลบไป”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปด้านหลังของตะกละ เมื่อเห็นชัดแล้วว่าด้านหลังของตะกละไม่มีใครอยู่ไป๋จูเหวินจึงปล่อยพลังที่รวบรวมมาตั้งแต่เมื่อครู่ออกไป

 

ตูม!! ฝ่ามือเพลิงพิฆาตที่ใช้พลังทั้งหมดของไป๋จูเหวินในตอนนี้ต่อให้เป็นพุงที่เต็มไปด้วยไขมันของตะกละก็ต้องได้รับความเสียหายหนักแน่ๆ

 

บึม!! ร่างของตะกละลอยหรือไปกระแทกวังหลวงของอาณาจักรโฮจนพังไม่มีชิ้นดี แถมร่างของตะกละยังโดนพลังโจมตีของฝามือเพลิงพิฆาตซัดจนลากเอาทั้งพื้นทั้งตัวปราสาทหายไปทั้งแถบ แม้แต่บ้านเมืองด้านนอกยังหายไปเป็นทางยาว

ฟิวๆๆๆๆ กระบองในมือของตะกละปลิวหรือไปบนอากาศอย่างไร้การควบคุม

 

เปรี้ยง!! กระบองของตะกละกระแทกเข้ากับหลังของอัตตาที่กําลังสู้กับพวกไปไปเข้าอย่างจัง ทําให้อัตตาเสียจังหวะบังคับทหารรากไม้ไป

ตูม! กรงเล็บสีขาวของไปไปอาศัยจังหวะนั้นอัดร่างของอัตตาลงไปกับพื้น เพราะพลังของทั้งคู่สูงมาก ทําให้การต่อสู้ยึดเยื้อมาพักใหญ่แล้ว ร่างของไปไปที่เป็นหินอ่อนมีรอยแตกเป็นจํานวนมาก เห็นได้ชัดเลยว่านางแลกการโจมตีกับอัตตาอย่างหนักแค่ไหน

“บ้าเอ้ย” อัตตาว่าพลางผลักกรงเล็บของไปไปออก แต่เพราะกระบองที่เข้ามากระแทกเมื่อครู่ทําเอาหัวไหล่ของมันข้างหนึ่งบาดเจ็บเข้าให้ ส่งผลให้มันส่งแรงออกมาได้ไม่เต็มที่

 

ตูม! กรงเล็บของไปไปกดร่างของอัตตาเอาไว้ได้เสียที ก่อนที่นางจะกางปีกทั้ง 6 ออกทั้งๆที่ยังเหยียบร่างของมันเอาไว้แบบนั้น

“บ้าเอ้ย” อัตตาคํารามพลางหันไปมองที่มาของกระบอง อย่างน้อยมันก็อยากจะรู้ว่าใครคือผู้ลอบโจมตีมันกันแน่

 

“…”สิ่งสุดท้ายที่อัตตาเห็นคือร่างของตะกละที่และไม่เหลือชิ้นดี พลังป้องกันของตะกละสูงมากแม้แต่ในหมู่มาร ใครกันที่ฆ่ามันให้เป็นสภาพเช่นนั้นได้

ฉีกๆๆๆๆ อัตตาคงไม่ได้มีโอกาสได้หาคําตอบอีกแล้ว เพราะปีกของไปไปแทงเข้าใสร่างของมันเป็นแผลใหญ่เลยทีเดียว

“เลือดสีดําแบบนี้คงไม่อร่อย”ไปไปว่าพลางแยกปีกทั้ง 6 ข้างออก ทําให้ร่างของอัตตาขาดเป็นชิ้นๆในทันที ก่อนที่ไปไปจะกลับคืนร่างเป็นมนุษย์แล้วนอนแผ่ไปทั้งๆแบบนั้น นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางต้องต่อสู้จริงจังขนาดนี้ ทําเอาทั้งพลใจและพลังกายแทบจะเหือดแห่งเลย

 

“ไปไป…” หลินหลินพูดพลางนอนลงข้างๆไปไปเช่นกัน นางเอกก็รับการโจมตีของอัตตาเข้าไปเยอะ แต่เพราะเกราะของนางแข็งมากทําให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่ แต่การฝืนสู้กับมาร ระดับเจ้าสวรรค์ที่เกือบจะเป็นขั้น 2 อยู่แล้วนั้นหนักหนาไม่น้อย เลยทําเอาพวกแมงมุมทั้ง 3 ตนหมดแรงไปตามกันๆ

 

ตุบอีกคนที่หมดแรงไปด้วยนั้นคงหนีไม่พ้นไป๋จูเหวิน ฝ่ามือเพลิงพิฆาตนั้นใช้แรงมหาศาลมาก ยิ่งพลังของไป๋จูเหวินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้พลังมากเท่านั้น ทําเอาแสงสีทองของพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เริ่มเปล่งประกายออกมาเพื่อฟื้นฟูพลังของไป๋จูเหวินในทันที

“เท่านี้ก็เหลือแต่เฟิงมี่สินะ”อู๋หมิงว่าพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่อาวุโสเทียนหมิงกับเหม่ยหลินกําลังต่อสู้กับราคะอยู่

 

ตูม!! ร่างๆหนึ่งร่วงลงมากระแทกพื้นข้างๆตัวอู๋หมิงแทบจะทันทีที่มันเงยหน้าขึ้นมอง แต่พริบตานั้นดวงตาของอู๋หมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจทันที

“อา…อาจารย์”อู๋หมิงร่างสะท้านเฮือกเมื่อหันไปมองร่างของอา วุโสเทียนหมิงที่ร่วงลงมาเมื่อครู่ ที่อกของมันปรากฏอิ่มน้ําแข็งแทงทะลุจากอกไปจนถึงด้านหลัง เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นบาดแผลสาหัสแน่ๆ

“อาจารย์ ท่าน”อู๋หมิงร่างเย็นเฉียบไปทันทีเมื่อเห็นบาดแผลของอาจารย์ มันรีบตรงเข้าไปดูว่าอาจารย์เป็นอย่างไรบ้าง แม้แต่ไป๋จูเหวินเองก็รีบเปลี่ยนดวงตาเป็นสีเขียวทันทีเพื่อตรวจสอบอาการของอาวุโสเทียนหมิง

“” ดวงตาของไป๋จูเหวินว่างเปล่าทันทีเมื่อเห็นบาดแผลภายใน ลิ่มน้ําแข็งแทงทะลุหัวใจ ต่อให้เป็นมันหรือน้ามังกรก็คง……..

 

“เฟิงมี่ เจ้า”อู๋หมิงปล่อยพลังออกมาจนรอบๆสั่นสะเทือน กระบี่ในมือของมันสั่นจนเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ชี้กระบีไปทางเฟิงมี่ ก่อนจะพุ่งวาบเข้าหานางอย่างรวดเร็ว

 

“นังมารชั่ว”อู๋หมิงคํารามก้องพร้อมน้ําตาที่เอ่อล้นออกมา เป้าหมายของมันตอนนี้มีแค่การฆ่านางให้ตายด้วยมือของมันเท่านั้น

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+