บุตรอสูรบรรพกาล 99 ความรักของจิ้งจอก

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter 99 ความรักของจิ้งจอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 99

ความรักของจิ้งจอก

 

“พาข้าไปที่หมู่บ้านที”อสูรจิ้งจอกที่นั่งอยู่บนหลังอสูรกวางพูดด้วยท่าทีอ่อนหวานพร้อมมองร่างของหยงเวยในอ้อมกอดนิ่ง

“ขอรับ”อสูรกวางว่าพลางเดินไปตามคำสั่งแม้จะมีท่าทีไม่พอใจนักก็ตาม

“ทำไมท่านต้องยึดติดกับเด็กคนนั้นด้วย”อสูรกวางว่าพลางเดินเข้ามาในหมู่บ้านที่เคยเป็นหมู่บ้านของหยงเวยมาก่อน

“เรื่องแบบนี้เจ้าไม่เข้าใจหรอก”อสูรจิ้งจอกว่าพลางลงจากหลังของอสูรกวาง นางพาหยงเวยเข้าไปในบ้านหลังเก่าที่นางและหยงเวยเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันช้าๆพลางจุดไฟในเตาเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในห้องให้อุ่นขึ้นแม้ความหนาวเย็นเพียงเท่านี้จะไม่สามารถทำอะไรหยงเวยได้ก็ตาม

“ลูกแม่ เจ้ายังโรกธแม่อยู่งั้นเหรอ”อสูรจิ้งจอกว่าพลางลูบเส้นผมของหยงเวยเบาๆ สำหรับอสูรจิ้งจอกที่มีอายุมาหลายพันปีแล้วหยงเวยที่พึ่งอายุ 20 ต้นๆไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อยอ่อนต่อโลกเลย ยิ่งเป็นสมัยก่อนที่มันยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาเข้าไปใหญ่

.

.

ขณะนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังแม่ลูก อสูรจิ้งจอกก็พลันนึกถึงวันแรกที่ได้พบกับมนุษย์คนหนึ่งนยอดเขาหิมะ มันเห็นมนุษย์ที่นานๆจะโผล่เข้ามาในเขตของนาง เพียงแต่มันไม่เหมือนผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่เข้ามาบุกเขตของนางอย่างทุกที มันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีพลังวิญญาณติดตัวไม่มาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยฝึกฝนเลยก็ว่าได้

“กรรรร”ที่ด้านหลังของมนุษย์คนนั้นปรากฏร่างของหมาป่าฝูงหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามหลังชายคนนั้นมาด้วยท่าทีน่าหวาดกลัว ท่าทางมันจะหนีมาในเขตของนางเพราะโดนพวกหมาป่าไล่ตามมาแน่ๆ

“…..”อสูรจิ้งจอกมองฝูงหมาป่าที่กำลังไล่กัดชายคนนั้นด้วยท่าทีเฉยเมย มนุษย์นั้นมีมากมาย จะตายไปสักคนสองคนก็ไม่เป็นปัญหาอะไรกับนางเลย เพียงแต่นางเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายเลยส่งพลังอสูรออกไปหยุดพวกหมาป่าเอาไว้

“เอ๋ง…”พวกหมาป่าร้องเสียงหลงก่อนจะหันหลังหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังอสูรระดับนางแค่ไล่หมาป่าที่ไม่ใช่แม้แต่อสูรก็กระทำได้ง่ายราวผ่อนลมหายใจ

“เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า”อสูรจิ้งจอกกลายร่างเป็นมนุษย์พลางเดินออกมาจากเงาไม้ นางมองร่างของชายหนุ่มตรงหน้าว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายปรอดภัยดีนางก็เลิกมองไป

“….มะ ไม่เป็นไร”ชายคนนั้นมองมาทางนางด้วยท่าทีตะลึงงัน หรือว่านางจะแปลงกายได้ไม่แนบเนียนกัน….

“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าที่หมู่บ้านมาก่อน เจ้าเป็นใครกันแน่”ชายหนุ่มถามพลางมองอสูรจิ้งจอกตาไม่กระพริบ จะเรียกว่าเป็นธรรมชาติของอสูรจิ้งจอกก็ว่าได้ที่จะแปลงกายได้งดงามจนเหล่าชายหนุ่มต้องหลงไหล นางเองก็สามารถแปลงกายได้งดงามไม่ต่างจากอสูรจิ้งจอกนางอื่นๆเลย

“ข้าเป็นคนของหมู่บ้านอื่น”นางโกหกพลางเตรียมจะเดินหนี

“เป็นไปไม่ได้ ที่ตินเขาลูกนี้มีเพียงหมู่บ้านของเราเท่านั้น หากเจ้าไม่ใช่คนของหมู่บ้านเราเจ้าก็เป็นอสูรจำแลงมาแล้ว”ชายหนุ่มเดาได้ถูกต้อง เพราะมีอสูรจำนวนมากสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ ในหมู่บ้านของมันเลยมีเรื่องเล่าน่ากลัวเอาไว้สอนเด็กๆ ว่าหากเจอคนไม่คุ้นหน้าบนเขา ระวังว่ามันจะเป็นอสูรจำแลงมา

“ใช่ ข้าเป็นอสูร”อสูรจิ้งจอกว่าพลางเดินต่อ ในเมื่อรู้แล้วก้เท่านั้น นางคงปลอมตัวได้แม่แนบเนียนจริงๆ

“งั้นเจ้าก็เป็นคนช่วยข้าเอาไว้สินะ ข้าขอบใจเจ้ามาก”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มกว้าง

“ข้าแค่เบื่อเท่านั้น คราวหน้าข้าอาจจะเป็นคนฆ่าเจ้าก็ได้”อสูรจิ้งจอกตอบพลางเดินหายเข้าป่าไป

“ข้ามาหาเจ้าอีกได้ไหม”อยู่ๆชายหนุ่มก็ถามออกมาทำเอาอสูรจิ้งจอกชะงักขาไปครู่หนึ่ง แต่นางไม่คิดจะเจอมันอีกนางเลยเดินเข้าป่าไป

.

.

หลายเดือนต่อมา ชายหนุ่มขึ้นเขามาทุกเช้าราวกับเป็นกิจวัตรประจำวัน มันเดินมารอราวกับอยากพบใครอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะลงเขาไปด้วยท่าทีผิดหวัง บางวันมามาพร้อมของฝากวางทิ้งไว้ที่กลางทุ่งหิมะ บางวันมามาทั้งๆที่ร่างกายมีบาดแผลโดนหมาป่าทำร้าย ทำให้อสูรจิ้งจอกที่เห็นทุกอย่างมีอาการร้อนรุ่มใจอย่างประหลาด

“เจ้าบ้า..เจ้ามาทำอะไรทุกวัน”อสูรจิ้งจอกทนไม่ไหว นางเดินออกมาด้วยร่างมนุษย์พลางต่อว่าชายหนุ่มในทันที          “ข้าแค่อยากจะมาขอบคุณ”ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกว้าง

“เจ้าโกหก”อสูรจิ้งจอกขมวดคิ้ว นางสัมผัสได้ว่ามันโกหก แม้จะไม่ทราบว่าจริงๆแล้วมันต้องการอะไรก็ตาม

“…ก็ได้ ข้าแค่อยากมาหาเจ้า”ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มเขินๆ

“มาหาข้า?”อสูรจิ้งจอกขมวดคิ้วอย่างงุนงง ทำไมมนุษย์ต้องมาหานางด้วย

“ใช่ ข้าตกหลุมรักเจ้าตั้งแต่แรกเห็นเลย”ชายหนุ่มตอบด้วยท่าทีหนักแน่น แม้จะเหมือนล้อเล่นแต่นางก็สัมผัสได้ว่ามันไม่ได้โกหก

“เจ้ามันบ้า ข้าเป็นอสูรจะมาหลงรักข้าได้ยังไง”อสูรจิ้งจอกว่าพลางหันหลังเดินหนี

“ข้าไม่สนหรอก”ชายหนุ่มตอบก่อนที่อสูรจิ้งจอกจะเดินหายไปในความมืด

หลายวันต่อมา ชายหนุ่มก็ยังคงมาทุกวันราวกับมันมีเวลาว่างมากนัก มันทำเช่นเดิมอยู่แบบนี้ต่อไปๆเป็นเวลาหลายเดือนทำเอาอสูรจิ้งจอกเริ่มหงุดหงิด

เพียงแต่….

“เจ้านั่นหายไปไหน”อสูรจิ้งจอกขมวดคิ้วพลางมองทุ่งหิมะว่างเปล่าที่ชายหนุ่มมักจะมานั่งอยู่เสมอ

ตุบ…นางทะยานลงมาจากภายในป่าอย่างรวดเร็วก่อนจะตรงไปที่หมู่บ้านของชายหนุ่ม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนางถึงลงเขามา แต่นางหยุดกังวลไม่ได้ว่าชายหนุ่มจะเป็นอะไรหรือเปล่า

คลืดดดด…..อสูรจิ้งจอกเปิดประตูบ้านของชายหนุ่มออกพลางเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครสังเกตุเห็นเลยแม้แต่คนเดียว โชคดีที่นางยังจำกลิ่นของมันได้ทำให้สามารถหาตัวมันเจอได้ไม่ยาก

“เจ้า…”ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงมองอสูรจิ้งจอกด้วยความตกใจ มันไม่คิดว่านางจะลงมาด้วยตัวเองแบบนี้

“เจ้าเป็นอะไร”อสูรจิ้งจอกถามพลางมองร่างของชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ มันมีท่าทีอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่มันสามารถปีนเขาได้หลายๆวันติดต่อกันโดยไม่ป่วยแท้ๆ

“ขอโทษที วันนี้ข้าลุกไม่ไหว”ชายหนุ่มว่าพลางพยายามลุกขึ้น มันทำให้อสูรจิ้งจอกได้เห็นบาดแผลที่หน้าอกของมัน

“หมาป่าอีกแล้ว เจ้าไปทำอะไรให้พวกมันถึงได้จองล้างจองผลาญเจ้านัก”อสูรจิ้งจอกว่าพลางยื่นมมือมาสัมผัสหน้าอกของชายหนุ่ม รอยข่วนและรอยเขี้ยวจำนวนมากปรากฏบนร่างของมัน เรียกได้ว่าที่มันรอดมาได้ก็อาศัยดวงอย่างเดียวแล้ว

“ไม่รู้สิ”ชายหนุ่มยิ้มพลางมองฝ่ามือของอสูรจิ้งจอกนิ่ง ปกตินางแทบไม่ให้มันเข้าใกล้ แต่วันนี้นางกลับเข้ามาหามันเองทำเอามันยิ้มไม่หยุด จะบอกว่าคุ้มค่าจริงๆที่โดนหมาป่าเล่นงานก็ได้

แปะ

“อากกกก”อยู่ๆอสูรจิ้งจอกก็ทายาบางอย่างลงบนร่างของชายหนุ่มทำเอาชายหนุ่มร้องเสียงหลงออกมา

“เกิดอะไรขึ้น”ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องชาวบ้านต่างพากันเข้ามาด้วยความเป็นห่วง

“มะ ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มว่าพลางกุมบาดแผลของตนอย่างเจ็บปวด

“นางแค่ทายาให้ข้าเท่านั้น”ชายหนุ่มพยายามอธิบายพลางชี้ไปที่แผลของตนที่มีสมุนไพรบางอย่างโปะเอาไว้ แม้จะทำให้มันเจ็บในตอนแรกแต่พักหนึ่งมันก็ทำให้อาการปวดตุบๆบนกล้ามเนื้อเบาลง

“ว่าแต่ เจ้าเป็นใคร”ชายหนุ่มอีกคนถามพลางมองอสูรจิ้งจอกอย่างไม่ไว้ใจ

“นางเป็นหมอยาที่เดินทางผ่านมา นางเห็นข้าบาดเจ็บเลยมาช่วย”ชายหนุ่มแก้ตัวให้อสูรจิ้งจอกเพราะเป็นที่ทราบกันว่าคนแปลกหน้าของหมู่บ้านแทบจะตีความได้ว่าเป็นอสูรทันที

“อย่างนั้นเหรอ นานแล้วที่หมู่บ้านเราไม่มีแขกมาเลย”ชายอีกคนว่าพลางกระแอมออกมา เพราะหมู่บ้านแห่งนี้อยู่เกือบจะติดเขตอสูรของอสูรจิ้งจอกเลย ทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้ามาเท่าไหร่ แขกที่นานๆจะโผล่มาทีก็มีแต่พวกที่จะมาบุกเขตอสูรทั้งนั้น

“ถ้างั้นพวกข้าไม่กวนเจ้าแล้ว”คนในหมู่บ้านเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรเลยพากันเดินออกไปช้าๆ ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันตามสบาย

น่าเสียดายที่อสูรจิ้งจอกไม่รู้วิชารักษา นางเลยทำได้เพียงนำสมุนไพรมาช่วยรักษาตามคำแนะนำของลูกน้องนางเท่านั้น แต่สมุนไพรในเขตอสูรมีหรือจะธรรมดาสามัญ ไม่นานชายหนุ่มก็หายสนิทเป็นปกติ

“เจ้าหายแล้วนี่”อสูรจิ้งจอกว่าพลางมองบาดแผลที่ปิดสนิทของชายหนุ่ม มันเนียนเรียบไม่มีแม้แต่แผลเป็นเสียด้วยซ้ำ

“ยัง ข้ายังไม่หาย”ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มกว้าง

“เจ้ากำลังโกหก”อสูรจิ้งจอกว่าพลางมองชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่พอใจ

“เปล่า ข้าไม่ได้โกหก”ชายหนุ่มเถียงพลางแกล้งทำท่าเจ็บปวด

“ข้ารู้ว่าเจ้าโกหก ลืมแล้วเหรอ”อสูรจิ้งจอกว่าพลางแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา เพราะนางสามารถจับโกหกได้นางเลยไม่พอใจหากทราบว่าใครกำลังโกหกใส่ตน

หมับ..อยู่ๆชายหนุ่มก็ดึงแขนของอสูรจิ้งจอกเอาไว้ แน่นอนว่าแรงของมันไม่มีทางสู้อสูรจิ้งจอกได้อยู่แล้ว เพียงแต่นางไม่ได้ขัดขืนอะไรทั้งนั้น ขณะนางกำลังหันไปถามว่าชายหนุ่มกำลังจำทำอะไร ริมฝีปากของชายหนุ่มก็โน้มเข้ามาหานางพร้อมกดลงบนริบฝีปากของนางในทันที

นางตกใจในวินาทีแรก แต่พอวินาทีต่อมานางกลับไม่ซัดชายหนุ่มจนกระเด็นแต่กลับยอมให้เขาจูบต่อไป อาจจะเพราะนางเป็นราชินีครองเขตอสูรมานานทำให้ไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางเช่นนี้ก็ได้ทำให้ความรู้สึกตรงหน้าเป็นความรู้สึกที่ประหลาด

ตุบ!….ชายหนุ่มกดร่างของอสูรจิ้งจอกลงกับพื้นทั้งๆที่ยังจูบนางอยู่ นางเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตนเองไม่ขัดขืน แถมยังตอบรับอีกฝ่ายเสียอีก แม้ชายหนุ่มจะเริ่มถอดเสื้อผ้าของนางออกนางก็ยังปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามห้วงอารม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด