ปล้นสวรรค์ 12 จับรางวัลอีกครั้ง

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 12 จับรางวัลอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPH:บทที่ 12 จับรางวัลอีกครั้ง
“ปู่ ผมกลับมาแล้ว” เมื่อเย่หยูเข้ามาใกล้ประตู เขาเห็นปู่ของเขา เย่เว่ยเกา กำลังนำอาหารจานร้อน
ไปวางไว้ที่โต๊ะ
เมื่อเย่เว่ยเกาได้ยินเสียง
เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและเผยรอยยิ้มบนหน้าที่แก่ชราของเขา
“เสี่ยวหยูกลับมาแล้ว ปู่เพิ่งอุ่นอาหารมาให้ รีบมากินสิ!”
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ
เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม เย่เว่ยเกาอายุมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้านอนไว เย่หยูนอนลงบนเตียงเขา เขารู้สึกระส่ำระส่ายจนทำให้ไม่สามารถหลับลงได้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เย่หยูต่อสู้กับอันธพาลที่มีความรู้สึกเจตนาจะฆ่าแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแค่คนอ่อนแอเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา
ชายรอยสักงูพูดถูก ถึงแม้สมรรถภาพร่างกายของเขาจะดีมาก
เขาไม่ได้เป็นผู้ศิลปะป้องกันตัว และไม่รู้ว่าจะจู่โจมอย่างไร ไม่เช่นนั้น การต่อสู้คงไม่จบเร็วขนาดนี้
เมื่อนึกถึงท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า เย่หยูคิดอีกครั้งเกี่ยวกับรางวัลล็อตเตอรรี่ แม้ว่าชื่อของมันจะแปลกแต่ผลกระทบกลับดีเกินคาด หากไม่ใช่เพราะท่าออกกำลังกายชุดนี้ เย่หยูอาจจะถูกชายรอยสักงูทุ่มลงบนพื้น
ระบบพูดว่าชุดออกกำลังกายที่ออกมาจะเพิ่มสมรรถภาพร่างกายได้ถึง 5 เท่า
เย่หยูกระโดดลงจากเตียง เขาทำท่าออกกำลังบนพื้นที่ว่างในห้อง
ออกกำลังกายยืดร่างกายการขยายทรวงอก
เคลื่อนไหวด้วยการกระโดด
หลังจากที่อบอุ่นร่างกายเสร็จ ขั้นต่อไปจะจริงจังมากขึ้น นึกถึงการเคลื่อนไหวในความคิด เย่หยูปากกระตุก
นี้มันผิดปกติมากเกินไป ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา? นี้มันคือสิ่งที่มนุษย์ทำได้จริงๆหรอ?
เพียงดึงการเคลื่อนไหวธรรมดาๆออกมา
การเคลื่อนไหวง่ายๆเป็นขั้นตอนจะทำลายทำลายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ แม้แต่อาจารย์โยคะยังไม่สามารถทำท่าผิดปกติๆแบบนี้ได้
“บ้าเอ้ย! นี่มันเคล็ดลับแปลกๆประเภทไหนเนี่ย? พวกเขาจะทำให้ผู้คนกลายเป็นบ้า!”
เย่หยูด่าทออย่างเงียบๆ เขาบิดเอวและสะโพกจนเกือบจะเป็นเกลียวแป้งทอด
พื้นที่เย่หยูยืนอยู เปียกเนื่องจากเหงื่อของเขา
ด้วยร่างกายปัจจุบันของเย่หยู
เขาจะไม่มีเหงื่อแม้จะวิ่งด้วยความเร็ว 5000 เมตร อย่างไรก็ตาม ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ท่า เย่หยูกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ
โป๊ะ!
เย่หยูไม่สามารถทรงตัวในท่านี้ได้ จึงทำให้เขาล้มลงบนพื้น เข้าเหนื่อยจนลิ้นห้อยและหอบหายใจอย่างหนัก จนดูเหมือนว่าเขากำลังจะตาย
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเย่หยูก็ฟืนตัวแล้วนอนบนพื้นแต่ยังไม่ยินดีที่จะเคลื่อนไหว
“ฟิ้ว… เสร็จละ!”
“ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะตายไม่ช้า​ ฉันอยากจะรู้จริงว่าจักรวรรดิซิงฮั่นสนับสนุนท่าออกกำลังกายอย่างไร”
เย่หยูนอนลงบนพื้น มองไปยังเพดานที่อยู่เหนือเขาในขณะที่เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง
จริงๆแล้ว เย่หยูผิด​ ในจักรวรรดิซิงฮั่น การทำท่าออกกำลังกายทำขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยการเคลื่อนไหวทีละขั้น ทีละขั้น
เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนทุกวันเป็นเวลา 7 ถึง 8 ปีเท่านั้นที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้ครบทุกท่วงท่า ไม่เหมือนเย่หยู คนที่สามารถจบทุกกระบวนท่าภายในครั้งแรก
โชคดีที่มันเป็นพรสวรรค์ที่แฝงไว้
ความเหนื่อยล้ามากๆจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น
คลื่นความร้อนถูกปล่อยออกมาจากไขกระดูกเย่หยู เขารู้ว่าร่างกายของเขาอุ่นและผ่อนคลาย ราว
กับว่าเขากำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อนซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสบายมาก
หลังจากยืนขึ้น เย่หยูบิดเอวเล็กน้อย​ เขารู้สึกว่าเขาคล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อน​และเขารู้สึกเจ็บปวดกล้ามเหนื่อย
เย่หยูขมวดคิ้ว เขาไม่น่ารีบร้อนเกินไป ทำแค่วันละหนึ่งครั้งในลิมิทของเขาก็พอ
อย่างไรก็ตาม หากความคิดนี้เป็นทีรู้กันในจักรวรรดิซิงฮั่น พวกเขาอาจจะอ้าปากค้างในเรื่องที่ต้องทำวันละครั้ง? แค่ทรงตัวท่าเดียวก็ใช้พลังงานของคนปกติทั้งหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะทำครบเซ็ท
“มนุษย์: เย่หยู(ผู้ผึกตน​ เลเวล 1 )”
“รูปร่าง: ร่างกายแห่งจิตวิญญาณดาบ”
“การขโมย รวม: 0”
“คะแนนเต๋าชั้นสูง: 80/1000”
“ความสามารถ: ทักษะไพ่บิน, สุดยอดการคำนวน”
“ทักษะท่าร่าง: “ท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า(เริ่มต้น)​”
“จับรางวัล: 1 “
เอ่อ?
เย่หยูมองไปยังแผงระบบในความคิด ท่าออกกำลังกายอยู่ในระดับเริ่มต้น
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทำงานหนัก และพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะอยู่ในระดับสูงให้ได้
ตอนนี้ สมรรถภาพร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
ยิ่งไปกว่านั้น เพราะมันไม่ได้รับรองว่าคุณจะกลายเป็นฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จการช่วยสาวสวยในครั้งต่อไปได้ ยังคงมีโอกาสอีกครั้งที่จำทำเท่
เย่หยูถูมือของเขาเข้าด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว จับรางวัล ไปกัน!
ในอาคารโรงเรียนมัธยมเซียงหยู
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยกำลังพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองไปยังนอกหน้าต่าง
ภายใต้ชุดสูทที่ถูกรีดมาอย่างดีเผยให้เห็นพุง
มันทำให้รู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ มีผมเส้นบางๆบนหัวที่เงาวาวและดวงตาที่ใหญ่เท่าเม็ดถั่วของเขาเบิกกว้าง พยายามอย่างมากที่จะเผยให้เห็นถึงร่องรอยที่สง่างาม
มืออ้วนๆของเขากำลังถือมือถือแนบไปที่หูของขา
“อย่ากังวลไปเลยหลานชายนายเป็นคนน่าสงสาร! ลุงของนายจะทำให้เขาออกจากโรงเรียนในอีก
ไม่ช้า!”
“ไม่มีปัญหา! เขากล้าทำร้ายลุงงั้นหรอ?”
“ลุงรู้ เขาชื่อเย่หยู ใช่ไหม?”
แม้ว่าชายวัยกลางคนอ้วนเตี้ยคนนี้จะดูน่าขยะแขยงแต่เขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในโรงเรียนมัธยม
เซียงหยู
จูเหลียง หัวหน้าสำนักการศึกษา
แน่นอน ความจริงที่เขาได้เลื่อนขั้นไม่ได้หมายถึงว่าเขาโดดเด่นแต่ดีแต่เขามีน้องสาวที่ดี หนึ่งในผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมต้นเซียงหยู หยาน เฟิงอี
จูเหลียงเป็นลุงของโอวหยางหยู
เขาเพิ่งคุยกับโอหยางหยูเสร็จและพยายามหาปัญหาใส่เย่หยูภายใต้คำสั่งโอหยางหยู
จูเหลียงวางมือถือลงมองนักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียนทีละคนๆ ปากของเขาโค้งเหมือนกำลังยิ้ม
เยาะ เด็กที่น่าสงสารอย่างเย่หยูคงต้องการพลิกสวรรค์เป็นแน่
เย่หยูเดินเข้าโรงเรียนอย่างช้าๆโดยไม่สนใจนักเรียนสาวที่กำลังมองเขาอย่างชื่นชม เขาเดินตรง
ไปยังอาคารเรียน
“สวัสดี พี่ชายสุดหล่อ ฉันชื่อฉินชิง คลาส 3 ทำไมถึงไม่เคยเห็นนายมาก่อนละ?”
เสียงใสดังเข้ามาในหูของเย่หยู และเมื่อเย่หยูหันหลังกลับไป
เขาย่นคิ้วเล็กน้อย
เธอไม่ใช่คนที่น่าเกลียดอะไร ตรงกันข้าม​ ฉินชิงเป็นคนน่ารัก เธอมีใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือ
นิ้วเรียวยาวและขาที่ยาวทั้งคู่ เธอดูขาวมาก!
สิ่งที่ทำให้เย่หยูย่นคิ้วเป็นผลมาจากการคาดคะเนขั้นสูง
“ผู้หญิงอายุ 18 ปี สูง 173 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 90 จิน(45กก.)​ ใบหน้าซีด คิ้วดก
ตาเฉี่ยวขึ้นโหนกแก้มสูงเล็กน้อย ขาใหญ่ 2.5 เซนติเมตร ดูเหมือนนะ… “
โดยรวมแล้ว ฉินชิงเป็นคนใจแคบ ถ่อมตนและเป็นคนยากไร้
“เธอเป็นอะไร?”
เย่หยูมองไปยังฉินชิง
คนที่มีรอยยิ้มที่จริงใจบนหน้าและพูดอย่างไม่สนใจว่า
“อะ แฮ่ม…”
“หืม… นายไม่สนใจอยากจะมีเพื่อนใหม่หรอ?”
หลังจากที่ฉินชิงพูดจบ
เธอก็ก้มหัวลงแล้วเผยให้เห็นแก้มแดงๆบนหน้าหน้า เธอยื่นมืออกมาดึง
กระโปรงเพื่อที่จะพยายามปิดขาที่ยาวเกินไปของเธอ
“ไม่สนใจ!”
หลังจากที่เย่หยู​พูดจบ เขาก็เมินฉินชิงและก็เดินตรงออกไป
“เดี๋ยว!”
ฉินชิงตะโกนข้างหลังเย่หยู
“ทำไม?”
“ขอโทษนะ เธอหน้าอกเล็กไป และฉันไม่ชอบแบบนี้!”
ราวกับสายฟ้าฟาดลงบนฉินชิง ทำให้เหมือนเธอช้าทั้งตัว
เมื่อฉินชิงกลับมาได้สติ เย่หยูก็ได้จากเธอไปแล้ว
ฉินชิงกำมือของเธอแน่นและแววตาของเธอก็ฉายแววแห่งความเกลียดชัง
“ถุย! ทำมาเป็นเสแสร้ง ก็แค่ผีน่าสงสารตัวหนึ่ง หล่อก็ไม่หล่อสักนิด ฉันต้องใช้แผนสำรองแล้วละ น่าเสียดาย “
ในห้องเรียนมัธยม 1 เย่หยูเดินเข้าไปในห้องเสียงดังจากครูทำให้ห้องเงียบทันที หลังจากนั้นใน
ไม่ช้านักเรียนสองสามคนก็เริ่มกระซิบกัน
“ทำไมเย่หยูถึงไม่เป็นอะไรละ?”
“ฉันได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกเขาให้ไปที่ป่า”
“ใช่ โอหยางหยูไม่ง่ายเลยนะที่จะคุยด้วย ดูเหมือนเย่หยูจะไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“เฮ้!เสแสร้งว่าเป็นหลานชาย และเราจะทำอะไรได้ “
“บางทีเขาอาจจะเสียเงินไปเยอะ”

สายตาเย่หยูเปล่งประกาย เมินเฉยพวกเขา เขาเพียงนั่งลงบนเก้าอี้
“เย่หยู ได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกให้นายไปที่ป่าเมื่อวานไม่ใช่หรอ?”
ฮันเสวี่ย ถามเย่หยูระหว่างที่เรียนเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา
เย่หยูเผยให้เห็นรอยยิ้มและพูดว่า
“ไม่เป็นไร ฉันคุยกับโอหยางหยูอย่างเป็นมิตร จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้มาหาเรื่องฉันแล้ว”
“อ่อ ดีแล้ว ฉันกังวลเรื่องนายอยู่…”
“นี่เธอกังวลว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บหรอ? “
“มั่นใจได้เลย ฉันแข็งแรงมาก!”
เย่หยูยกแขนขึ้นมาและเบ่งกล้ามให้ดู
“เอ่อ? เย่หยู นายพันอะไรไว้ที่ข้อมือหนะ? มันสวยมาก “
ฮันเสวี่ยพบว่าเย่หยูสวมโซ่เงินที่พันรอบข้อมือของเขา และมีขวดแก้วเล็กๆห้อยอยู่ เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ของดีหนะ!”
เย่หยูคลายโซ่ออกแล้วถือขวดเล็กๆไว้ในมือ และมองไปที่มัน
นอกเหนือจากโซ่เงินแล้ว ก็มีขวดที่มีขนาดเท่านิ้วโป้งที่ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ
ขวดแก้วคริสตัลที่เต็มไปด้วยของเหลวจำนวนมาก
ขณะที่กำลังเคลิ้ม มันประกายเป็นแสงดวงดาว
ดูเหมือนมันจะมีเวทย์มนต์วิเศษอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ปล้นสวรรค์ 12 จับรางวัลอีกครั้ง

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 12 จับรางวัลอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPH:บทที่ 12 จับรางวัลอีกครั้ง
“ปู่ ผมกลับมาแล้ว” เมื่อเย่หยูเข้ามาใกล้ประตู เขาเห็นปู่ของเขา เย่เว่ยเกา กำลังนำอาหารจานร้อน
ไปวางไว้ที่โต๊ะ
เมื่อเย่เว่ยเกาได้ยินเสียง
เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและเผยรอยยิ้มบนหน้าที่แก่ชราของเขา
“เสี่ยวหยูกลับมาแล้ว ปู่เพิ่งอุ่นอาหารมาให้ รีบมากินสิ!”
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ
เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม เย่เว่ยเกาอายุมากแล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้านอนไว เย่หยูนอนลงบนเตียงเขา เขารู้สึกระส่ำระส่ายจนทำให้ไม่สามารถหลับลงได้ วันนี้เป็นครั้งแรกที่เย่หยูต่อสู้กับอันธพาลที่มีความรู้สึกเจตนาจะฆ่าแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแค่คนอ่อนแอเมื่ออยู่ตรงหน้าเขา
ชายรอยสักงูพูดถูก ถึงแม้สมรรถภาพร่างกายของเขาจะดีมาก
เขาไม่ได้เป็นผู้ศิลปะป้องกันตัว และไม่รู้ว่าจะจู่โจมอย่างไร ไม่เช่นนั้น การต่อสู้คงไม่จบเร็วขนาดนี้
เมื่อนึกถึงท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า เย่หยูคิดอีกครั้งเกี่ยวกับรางวัลล็อตเตอรรี่ แม้ว่าชื่อของมันจะแปลกแต่ผลกระทบกลับดีเกินคาด หากไม่ใช่เพราะท่าออกกำลังกายชุดนี้ เย่หยูอาจจะถูกชายรอยสักงูทุ่มลงบนพื้น
ระบบพูดว่าชุดออกกำลังกายที่ออกมาจะเพิ่มสมรรถภาพร่างกายได้ถึง 5 เท่า
เย่หยูกระโดดลงจากเตียง เขาทำท่าออกกำลังบนพื้นที่ว่างในห้อง
ออกกำลังกายยืดร่างกายการขยายทรวงอก
เคลื่อนไหวด้วยการกระโดด
หลังจากที่อบอุ่นร่างกายเสร็จ ขั้นต่อไปจะจริงจังมากขึ้น นึกถึงการเคลื่อนไหวในความคิด เย่หยูปากกระตุก
นี้มันผิดปกติมากเกินไป ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้ขึ้นมา? นี้มันคือสิ่งที่มนุษย์ทำได้จริงๆหรอ?
เพียงดึงการเคลื่อนไหวธรรมดาๆออกมา
การเคลื่อนไหวง่ายๆเป็นขั้นตอนจะทำลายทำลายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ แม้แต่อาจารย์โยคะยังไม่สามารถทำท่าผิดปกติๆแบบนี้ได้
“บ้าเอ้ย! นี่มันเคล็ดลับแปลกๆประเภทไหนเนี่ย? พวกเขาจะทำให้ผู้คนกลายเป็นบ้า!”
เย่หยูด่าทออย่างเงียบๆ เขาบิดเอวและสะโพกจนเกือบจะเป็นเกลียวแป้งทอด
พื้นที่เย่หยูยืนอยู เปียกเนื่องจากเหงื่อของเขา
ด้วยร่างกายปัจจุบันของเย่หยู
เขาจะไม่มีเหงื่อแม้จะวิ่งด้วยความเร็ว 5000 เมตร อย่างไรก็ตาม ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ท่า เย่หยูกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อ
โป๊ะ!
เย่หยูไม่สามารถทรงตัวในท่านี้ได้ จึงทำให้เขาล้มลงบนพื้น เข้าเหนื่อยจนลิ้นห้อยและหอบหายใจอย่างหนัก จนดูเหมือนว่าเขากำลังจะตาย
หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเย่หยูก็ฟืนตัวแล้วนอนบนพื้นแต่ยังไม่ยินดีที่จะเคลื่อนไหว
“ฟิ้ว… เสร็จละ!”
“ดูเหมือนว่าฉันกำลังจะตายไม่ช้า​ ฉันอยากจะรู้จริงว่าจักรวรรดิซิงฮั่นสนับสนุนท่าออกกำลังกายอย่างไร”
เย่หยูนอนลงบนพื้น มองไปยังเพดานที่อยู่เหนือเขาในขณะที่เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง
จริงๆแล้ว เย่หยูผิด​ ในจักรวรรดิซิงฮั่น การทำท่าออกกำลังกายทำขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยการเคลื่อนไหวทีละขั้น ทีละขั้น
เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนทุกวันเป็นเวลา 7 ถึง 8 ปีเท่านั้นที่จะสามารถเคลื่อนไหวได้ครบทุกท่วงท่า ไม่เหมือนเย่หยู คนที่สามารถจบทุกกระบวนท่าภายในครั้งแรก
โชคดีที่มันเป็นพรสวรรค์ที่แฝงไว้
ความเหนื่อยล้ามากๆจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น
คลื่นความร้อนถูกปล่อยออกมาจากไขกระดูกเย่หยู เขารู้ว่าร่างกายของเขาอุ่นและผ่อนคลาย ราว
กับว่าเขากำลังแช่อยู่ในน้ำพุร้อนซึ่งมันทำให้เขารู้สึกสบายมาก
หลังจากยืนขึ้น เย่หยูบิดเอวเล็กน้อย​ เขารู้สึกว่าเขาคล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อน​และเขารู้สึกเจ็บปวดกล้ามเหนื่อย
เย่หยูขมวดคิ้ว เขาไม่น่ารีบร้อนเกินไป ทำแค่วันละหนึ่งครั้งในลิมิทของเขาก็พอ
อย่างไรก็ตาม หากความคิดนี้เป็นทีรู้กันในจักรวรรดิซิงฮั่น พวกเขาอาจจะอ้าปากค้างในเรื่องที่ต้องทำวันละครั้ง? แค่ทรงตัวท่าเดียวก็ใช้พลังงานของคนปกติทั้งหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะทำครบเซ็ท
“มนุษย์: เย่หยู(ผู้ผึกตน​ เลเวล 1 )”
“รูปร่าง: ร่างกายแห่งจิตวิญญาณดาบ”
“การขโมย รวม: 0”
“คะแนนเต๋าชั้นสูง: 80/1000”
“ความสามารถ: ทักษะไพ่บิน, สุดยอดการคำนวน”
“ทักษะท่าร่าง: “ท่าออกกำลังกาย​ 36 ท่า(เริ่มต้น)​”
“จับรางวัล: 1 “
เอ่อ?
เย่หยูมองไปยังแผงระบบในความคิด ท่าออกกำลังกายอยู่ในระดับเริ่มต้น
ดูเหมือนว่าเขาจะต้องทำงานหนัก และพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะอยู่ในระดับสูงให้ได้
ตอนนี้ สมรรถภาพร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
ยิ่งไปกว่านั้น เพราะมันไม่ได้รับรองว่าคุณจะกลายเป็นฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จการช่วยสาวสวยในครั้งต่อไปได้ ยังคงมีโอกาสอีกครั้งที่จำทำเท่
เย่หยูถูมือของเขาเข้าด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอีกแล้ว จับรางวัล ไปกัน!
ในอาคารโรงเรียนมัธยมเซียงหยู
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนเตี้ยกำลังพิงอยู่ที่หน้าต่าง มองไปยังนอกหน้าต่าง
ภายใต้ชุดสูทที่ถูกรีดมาอย่างดีเผยให้เห็นพุง
มันทำให้รู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ มีผมเส้นบางๆบนหัวที่เงาวาวและดวงตาที่ใหญ่เท่าเม็ดถั่วของเขาเบิกกว้าง พยายามอย่างมากที่จะเผยให้เห็นถึงร่องรอยที่สง่างาม
มืออ้วนๆของเขากำลังถือมือถือแนบไปที่หูของขา
“อย่ากังวลไปเลยหลานชายนายเป็นคนน่าสงสาร! ลุงของนายจะทำให้เขาออกจากโรงเรียนในอีก
ไม่ช้า!”
“ไม่มีปัญหา! เขากล้าทำร้ายลุงงั้นหรอ?”
“ลุงรู้ เขาชื่อเย่หยู ใช่ไหม?”
แม้ว่าชายวัยกลางคนอ้วนเตี้ยคนนี้จะดูน่าขยะแขยงแต่เขาก็เป็นที่รู้จักกันดีในโรงเรียนมัธยม
เซียงหยู
จูเหลียง หัวหน้าสำนักการศึกษา
แน่นอน ความจริงที่เขาได้เลื่อนขั้นไม่ได้หมายถึงว่าเขาโดดเด่นแต่ดีแต่เขามีน้องสาวที่ดี หนึ่งในผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมต้นเซียงหยู หยาน เฟิงอี
จูเหลียงเป็นลุงของโอวหยางหยู
เขาเพิ่งคุยกับโอหยางหยูเสร็จและพยายามหาปัญหาใส่เย่หยูภายใต้คำสั่งโอหยางหยู
จูเหลียงวางมือถือลงมองนักเรียนที่เข้ามาในโรงเรียนทีละคนๆ ปากของเขาโค้งเหมือนกำลังยิ้ม
เยาะ เด็กที่น่าสงสารอย่างเย่หยูคงต้องการพลิกสวรรค์เป็นแน่
เย่หยูเดินเข้าโรงเรียนอย่างช้าๆโดยไม่สนใจนักเรียนสาวที่กำลังมองเขาอย่างชื่นชม เขาเดินตรง
ไปยังอาคารเรียน
“สวัสดี พี่ชายสุดหล่อ ฉันชื่อฉินชิง คลาส 3 ทำไมถึงไม่เคยเห็นนายมาก่อนละ?”
เสียงใสดังเข้ามาในหูของเย่หยู และเมื่อเย่หยูหันหลังกลับไป
เขาย่นคิ้วเล็กน้อย
เธอไม่ใช่คนที่น่าเกลียดอะไร ตรงกันข้าม​ ฉินชิงเป็นคนน่ารัก เธอมีใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือ
นิ้วเรียวยาวและขาที่ยาวทั้งคู่ เธอดูขาวมาก!
สิ่งที่ทำให้เย่หยูย่นคิ้วเป็นผลมาจากการคาดคะเนขั้นสูง
“ผู้หญิงอายุ 18 ปี สูง 173 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 90 จิน(45กก.)​ ใบหน้าซีด คิ้วดก
ตาเฉี่ยวขึ้นโหนกแก้มสูงเล็กน้อย ขาใหญ่ 2.5 เซนติเมตร ดูเหมือนนะ… “
โดยรวมแล้ว ฉินชิงเป็นคนใจแคบ ถ่อมตนและเป็นคนยากไร้
“เธอเป็นอะไร?”
เย่หยูมองไปยังฉินชิง
คนที่มีรอยยิ้มที่จริงใจบนหน้าและพูดอย่างไม่สนใจว่า
“อะ แฮ่ม…”
“หืม… นายไม่สนใจอยากจะมีเพื่อนใหม่หรอ?”
หลังจากที่ฉินชิงพูดจบ
เธอก็ก้มหัวลงแล้วเผยให้เห็นแก้มแดงๆบนหน้าหน้า เธอยื่นมืออกมาดึง
กระโปรงเพื่อที่จะพยายามปิดขาที่ยาวเกินไปของเธอ
“ไม่สนใจ!”
หลังจากที่เย่หยู​พูดจบ เขาก็เมินฉินชิงและก็เดินตรงออกไป
“เดี๋ยว!”
ฉินชิงตะโกนข้างหลังเย่หยู
“ทำไม?”
“ขอโทษนะ เธอหน้าอกเล็กไป และฉันไม่ชอบแบบนี้!”
ราวกับสายฟ้าฟาดลงบนฉินชิง ทำให้เหมือนเธอช้าทั้งตัว
เมื่อฉินชิงกลับมาได้สติ เย่หยูก็ได้จากเธอไปแล้ว
ฉินชิงกำมือของเธอแน่นและแววตาของเธอก็ฉายแววแห่งความเกลียดชัง
“ถุย! ทำมาเป็นเสแสร้ง ก็แค่ผีน่าสงสารตัวหนึ่ง หล่อก็ไม่หล่อสักนิด ฉันต้องใช้แผนสำรองแล้วละ น่าเสียดาย “
ในห้องเรียนมัธยม 1 เย่หยูเดินเข้าไปในห้องเสียงดังจากครูทำให้ห้องเงียบทันที หลังจากนั้นใน
ไม่ช้านักเรียนสองสามคนก็เริ่มกระซิบกัน
“ทำไมเย่หยูถึงไม่เป็นอะไรละ?”
“ฉันได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกเขาให้ไปที่ป่า”
“ใช่ โอหยางหยูไม่ง่ายเลยนะที่จะคุยด้วย ดูเหมือนเย่หยูจะไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“เฮ้!เสแสร้งว่าเป็นหลานชาย และเราจะทำอะไรได้ “
“บางทีเขาอาจจะเสียเงินไปเยอะ”

สายตาเย่หยูเปล่งประกาย เมินเฉยพวกเขา เขาเพียงนั่งลงบนเก้าอี้
“เย่หยู ได้ยินมาว่าโอหยางหยูบอกให้นายไปที่ป่าเมื่อวานไม่ใช่หรอ?”
ฮันเสวี่ย ถามเย่หยูระหว่างที่เรียนเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา
เย่หยูเผยให้เห็นรอยยิ้มและพูดว่า
“ไม่เป็นไร ฉันคุยกับโอหยางหยูอย่างเป็นมิตร จนถึงตอนนี้เขาไม่ได้มาหาเรื่องฉันแล้ว”
“อ่อ ดีแล้ว ฉันกังวลเรื่องนายอยู่…”
“นี่เธอกังวลว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บหรอ? “
“มั่นใจได้เลย ฉันแข็งแรงมาก!”
เย่หยูยกแขนขึ้นมาและเบ่งกล้ามให้ดู
“เอ่อ? เย่หยู นายพันอะไรไว้ที่ข้อมือหนะ? มันสวยมาก “
ฮันเสวี่ยพบว่าเย่หยูสวมโซ่เงินที่พันรอบข้อมือของเขา และมีขวดแก้วเล็กๆห้อยอยู่ เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ของดีหนะ!”
เย่หยูคลายโซ่ออกแล้วถือขวดเล็กๆไว้ในมือ และมองไปที่มัน
นอกเหนือจากโซ่เงินแล้ว ก็มีขวดที่มีขนาดเท่านิ้วโป้งที่ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ
ขวดแก้วคริสตัลที่เต็มไปด้วยของเหลวจำนวนมาก
ขณะที่กำลังเคลิ้ม มันประกายเป็นแสงดวงดาว
ดูเหมือนมันจะมีเวทย์มนต์วิเศษอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+