ปล้นสวรรค์ 121 ผีชุดขาว

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 121 ผีชุดขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPHะบทที่ 121 ผีชุดขาว

ผู้คนนับล้านที่กําลังนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขาต่างใจเต้น บางคนหลับตาแน่นไม่กล้าที่จะดูฉากนองเลือดที่กําลังจะตามมา

 

“โอ้พระเจ้า! ผีปรากฏขึ้นได้นั้นมาจากการดูดซับความกลัวของมนุษย์! ไม่แปลกใจเลยที่นี่จะทําให้ผู้คนกลัว”

 

“เห้อ! ถ้าอาเข่อ(อาเคย์)ไม่กลัวผีตั้งแต่แรก ผีตัวนั้นคงทําอะไรเธอไม่ได้!”

 

“ฟิ้ว! งั้นถ้าคนนั้นไม่กลัวผี จากนั้นผีก็จะไม่สามารถทําร้ายมนุษย์ได้ต่อไป?”

 

“ชิ! เผชิญหน้ากับผี ใครมันจะไม่กลัวกัน! ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะไปรู้ว่าผีมันจะมีอุบายอย่างอื่นอีก!”

 

“เอาอะไรมาพูดเนี่ย? พระเจ้า อาเข่อเป็นลม! ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ!”

 

ในวีดิโอ ผีคอยาวบิดคออย่างกับไส้เดือน ปากใหญ่เท่าอ่างล้างหน้า มันเผชิญอยู่กับอาเข่อราวกับว่าเล็งจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว

 

เมื่อเวลาผ่านไป เสียงตะโกนดังของชุดขาวก็หยุดลง 

 

“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”

 

คนที่เข้ามานั้นก็คือ เย่หยู

 

เมื่อเย่หยูขับรถมาถึงเชิงเขา เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาแว่วๆ แต่หลังจากนั้นในไม่ช้า ก็ไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกต่อไป

 

กลัวว่าจะเกิดบางอย่างกับอาเข่อ เย่หยูออกจากรถและใช้ความสามารถโดยเงาเคลื่อนที่มาถึงวิลล่าที่เชิงเขาทันที

 

เมื่อเห็นผีชุดขาวที่กําลังกลืนกินอาเข่อ เย่หยูก็ตะโกนออกไปอย่างตื่นตระหนก

 

“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”

 

“ปีศาจ?”

 

ผีชุดขาวหยุดกลืนกินอาเข่อ แต่กลับมองไปยังเย่หยูอย่างสนุก

 

“ปีศาจ? แกพูดถูก ฉันเป็นผี!”

 

เย่หยูมองไปที่ผีชุดขาว ฉายแววตาเย็นชาขณะพูดอย่างเยือกเย็น

 

“มนุษย์กับผีแตกต่างกัน ถ้าแกปล่อยผู้หญิงไป ทุกอย่างจะโอเค ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวไปเกิดใหม่ได้เลย! ”

 

“ฮิฮิ ฮิฮิ… เจ้าเด็กน้อย! แกจะอวดดีมากไปแล้วนะ!”

 

ออร่ารอบๆผีชุดขาวเริ่มเย็นยะเยือก ทําให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ําน้ําแข็ง

 

“แกอยากให้ฉันไปเกิดใหม่งั้นหรอ?”

 

ผีชุดขาวจ้องเย่หยูอย่างดุร้าย ตาทรงสามเหลี่ยมคู่นั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความโลภ

 

“งั้น ฉันจะกลืนแกลงไปก่อนละกัน!”

 

หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ ร่างของเธอก็หายแว้บไปแล้วไปปรากฏอยู่ตรงหน้าเย่หยู เธออ้าปากกว้างกัดไปที่หัวเย่หยู

 

เย่หยูถอยหลังออกมา แยกขาออกเล็กน้อยเขากําหมัดแน่นตรงเอวของเขา ผีชุดขาวหัวเราะอย่างชั่วร้าย

 

“ฮิฮิ มันเปล่าประโยชน์ การโจมตีด้วยร่างกายของแกมันไร้ประโยชน์ในการสู้กับฉัน!”

 

เมื่อเย่หยูปรากฏขึ้น ผู้ชมนับล้านต่างพากันตกตะลึงสักพักก่อนที่จะส่งเสียงเชียร์

 

” หวา! มีบางคนมาถึงแล้ว! รีบไปช่วยอาเข่อเร็ว!”

 

” ช่วยฉัน?! ยังมีอีกคนที่มาที่นี่เพื่อมาหาที่ตาย!”

 

“ใช่แล้ว! ถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงมุมข้างหลัง มันชัดเจนมากว่าเขาเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เธอสวมชุดนักเรี ยนด้วยซ้ํา!”

 

“เฮ้อ! ยิ่งหวังมากขึ้น ก็ยิ่งพบกับความผิดหวังมากขึ้น! ฉันสงสัยว่าถ้าสามารถเข้าพระลัทธิเต๋ได้ทันเวลา ”

 

เมื่อเห็นเย่หยูกําหมัดแน่นเพื่อที่จะสู้กับผี ผู้ชมที่อยู่หน้าจอทั้งหมดก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง

 

“เฮ้อ! เด็กหนุ่มนี้กําลังจะตายตั้งแต่อายุยังน้อย!”

 

” การแสดงที่ยอดเยี่ยมของฮีโร่ที่กําลังจะไปช่วยสาวงาม แต่กลับลงเอยด้วยการลงนรกไปพร้อมกัน!”

 

“ถึงแม้ว่าชะตากรรมของเด็กหนุ่มคนนี้จะถูกตัดสินแล้ว ฉันก็ยังจะอยากพูดอะไรบางอย่าง พ่อหนุ่มฮีโร่ นายทําดีมาก!”

 

ผีชุดขาวไม่ได้ดูเหมือนผิดหวังเลย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความหยอกล้อเหมือนกับหนูและแมว

 

” ครั้งนี้ ฉันจะกลืนแกลงไป!”

 

หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ เธอยืดคอออกมาข้างหน้าเพื่อกัดเย่หยูอีกครั้ง

 

เย่หยูกําหมัดแน่นไว้ที่เอวของเขาแล้วหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นผีชุดขาวกําลังเข้ามาที่ปราศจากความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาอ้าปากกว้างแล้วค่อยๆตะโกนออกมา

 

“แก่นแท้พลังวิญญาณแปด พังมันซะ!”

 

ตู๊ม!

 

โฮก!

 

ออกมาดั่งคลื่นพายุ

 

พลังชีวิตและเลือดของเย่หยูระเบิดออกมาทันที เสียงของพลังชีวิตและเลือดทที่ไหลพล่านเลือดแดงมังกรออกมาจากร่างเย่หยู หมุนวนขึ้นแล้วเปล่งเสียงคํารามของมังกรออกมา

 

หมัดของเย่หยูซัดไปที่ผีชุดขาวตรงๆ

 

“อ๊าา!”

ผีชุดขาวส่งเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองออกมา หมอกสีขาวมรณะที่ออกมาจากร่างก่อนที่จะลอยหายไปเข้าไปในความมืด ไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว

 

ฉากที่กําลังถ่ายทอดสดบนโทรศัพท์อาเข่อที่ไร้คนถ่าย

 

ผู้ชมที่กําลังนั่งชมฉากนี้อยู่ต่างพากันตกตะลึง ตาพวกเขาเบิกกว้างขณะจ้องไปยังหน้าจออย่างไม่

 

“ลูกตาฉันหลอกอะไรรึเปล่าเนี่ย? ฉันเหมือนกับเพิ่งเห็นมังกรเลือด?”

 

“เหี้ยเอ้ย! ผีชุดขาวถูกเด็กหนุ่มคนนี้จัดการจนบินไปไกลแล้ว?”

 

“เหี้ย!”

 

“ด้วยหมัดเดียวทําให้เกิดผลที่พิเศษเป็นแน่?”

 

“สุดยอด! หมัดนี้มันมีผลกระทบพิเศษอะไรนะ?”

 

“มันคืออะไร?” สุดยอดจรวดซึ่งเป็นชายร่างใหญ่กําลังพึมพํากับตัวเอง?”

 

“สุดยอดจรวด 99 ฉันรู้! นี่มันนักต่อสู้! บอดี้การ์ดของฉันเป็นนักต่อสู้ แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมังกรเลือดแดงเช่นกัน”

 

เย่หยูกําจัดผีชุดขาวออกไปได้ด้วยหมัดเดียว หลังจากเฝ้าระวังสักครู่ เขาก็พบว่าผีชุดขาวหยุดเคลื่อนไหวแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มมองดูสถานการณ์ของอาเข่อ

 

ขณะนี้ ตาของอาเข่อปิดแน่น ใบหน้าของเธอซีดและไม่เหลือรอยเลือดให้เห็น เธอดูเหมือนจะหวาดกลัวมากๆ

 

เย่หยูยื่นแขนออกไปแล้วปัดใต้จมูกอาเข่อ เมื่อเขาพบว่าอาเข่อยังหายใจและเพิ่งจะเป็นลม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

เย่หยูพยายามเขย่าไหล่อาเข่อแล้วตะโกน

 

“อาเข่อ ตื่น!”

 

“ผี! มันเป็นผี!”

 

อาเข่อยืนขึ้นทันที กรีดร้องแล้วหันหลังและกําลังจะวิ่งหนี

 

เย่หยูดึงอาเข่อกลับมาแล้วตะโกน

 

“ฉันเอง! ผีหนีไปเพราะฉันแล้ว!”

 

” พวกมันหนีไปแล้วหรอ?”

 

อาเข่อค่อยๆมองไปรอบๆแล้วพบว่าไม่มีร่องรอยของผีชุดขาว น้ําตาของเธอก็ไหลลงมาทันทีขณะพยายามเคนเสียง ที่สะอื้นแล้วพูดออกมาว่า

 

“วะอา… นั่นมันดีมาก! ในที่สุดพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว!”

 

อาเข่อเงยหน้าขึ้นแล้วมองเย่หยู เธอปาดน้ําตาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า

 

” ขอบคุณนายมาก! ถ้านายมาไม่ทันเวลา ฉันคงจะตายแน่ๆ”

 

เย่หยูมองอาเข่อที่กําลังร้องไห้ด้วยความดีใจอยู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

 

“ถ้าเจอผี ไม่ต้องโทรหาตํารวจ แต่ให้โทรหาฉันแทน สมกับเป็นเธอจริงๆ!”

 

อาเข่อเขินเล็กน้อยตอนที่มองเย่หยูพูด เธอกระซิบ

 

“ฉันกลัว นอกจากสมุดจดรายชื่อเบอร์โทรแล้ว รายชื่อของคุณขึ้นต้นด้วยเอ งั้นคุณก็ควรจะอยู่ระดับต้นๆ”

 

เย่หูตกใจและถามอย่างงงวย

 

“ขึ้นต้นด้วย A? มันต้องขึ้นต้นด้วย Y ไม่ใช่หรอ?”

 

อาเข่อรู้สึกตะลึงสักพัก ใบหน้าของเธอค่อยๆแดงและแววตาก็เหมือนกับเลื่อนลอย

 

“อั้ยหยา! ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น รีบลุกแล้วรีบไปได้แล้ว ที่นี่มันประหลาดเกินไป!”

 

เย่หยูพยักหน้า มันเป็นที่ที่ไม่ดีที่จะอยู่จริงๆ เขาหันหลังกลับและเดินจากอาเข่อไป

 

“จุ๊จุ๊จุ๊ ไปกันเถอะหรอ? นายจะไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะได้ออกไป!”

 

เสียงน่ากลัวเปล่งออกมาจากข้างหลังเย่หยู

 

เย่หยูหันหลังกลับทันที แล้วพบเพียงผีชุดขาวที่กําลังกลับมา

 

“อ๊าา!”

 

อาเข่อกรีดร้องขณะหลบอยู่ข้างหลังเย่หยู ร่างอันบอบบางที่กําลังสั่นเทาและไม่กล้ามองไปที่ผีชุดขาว

 

เสียงพึมพําที่ลอยขึ้นมาทําให้ผู้ชมนับล้านที่กําลังดูอยู่ห้องถ่ายทอดสดที่เห็นผีชุดขาวกลับมา

 

” บ้าเอ้ย! ผีตัวนี้นี่มันสู้ยากจริงๆ! ทําไมไม่ฆ่ามันด้วยหมัดโหดไปเลยหละ? ”

 

“นั้นมันไม่ถูก! ดูสิ ผีตัวนั้นเหมือนกับกลายร่าง”

 

“ใช่แล้ว! มันเป็นผีชุดขาวก่อนหน้านั้น แต่ตอนนี้ผีชุดขาวเปล่งแสงสีแดงเลือด!”

 

“อย่าบอกนะว่ามันกลายเป็นปีศาจชุดแดง? มีคนเคยกล่าวไว้ว่าผีที่ดุร้ายที่สุดก็คือปีศาจชุดแดง!”

 

เย่หยูมองไปยังผีชุดขาว เขาแสดงอาการนิ่งเฉยขณะพูดอย่างไม่แยแสว่า

“โย่ว! ไม่เลวนี่ นายดูหล่อขึ้นเยอะหลังจากเปลี่ยนชุดนะ”

 

ผีชุดขาวรู้สึกประหลาดใจชั่วขณะ จากนั้นแววตาที่โกรธก็ฉายขึ้นมาในพริบตาและพูดอย่างชั่วร้ายว่า

 

“ไอ้นักสู้เวรเอ้ย! ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากประสานมุกโลหิตดําก่อนเวลา เพื่อเป็นการชดเชย

 

คราวนี้ ฉันต้องกลืนกินพลังงานชีวิตและเลือดทั้งหมดของแกให้ได้”

 

“มุกกระหายโลหิต? ปีศาจชุดแดง?”

 

เย่หยูเลิกคิ้วและเงยหน้ามองผีชุดขาวแล้วถาม

 

“มันทําให้แกดูมั่นใจว่าจะต้านหมัดฉันได้อย่างงั้นหรอ?”

 

ผีชุดขาวพูดพร้อมหัวเราะเยาะ

 

“ดูเหมือนว่าแกจะไม่รู้เกี่ยวกับวิญญาณปีศาจสินะ! นักสู้ชั้นต่ําอย่างแกจะมาสู้กับวิญญาณปีศาจชุดแดง!”

 

“หึม! แกยังไม่ใช่ปีศาจชุดแดง แกจะพ้นคําโอ้อวดไปเพื่อ!”

 

เบื้องหลังเย่หยู อาเข่อยื่นหัวออกมาอย่างไม่รู้เวลาและเปล่าลมออกจากจมูกอย่างแรงใส่ผีชุดขาว

 

ผีชุดขาวตะลึงในคราแรก แล้วจากนั้นลมหนาวก็พัดกรรโชกราวกับเขาโกรธอย่างมาก เขาร้อง

 

โหยหวนขึ้นบนฟ้า

 

“บ้าเอ้ย! นี่มันความผิดของแก!”

 

เย่หยูมองผีชุดขาวที่กําลังบ้าไปแล้ว แล้วกระซิบกับอาเข่อว่า

 

“อาเข่อ ถอยหลังไป ปล่อยให้ฉันจัดการมัน!”

 

อาเข่อพยักหน้า เธอรู้ว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ เธอถอยหลังและสั่งโดรนให้กล้องหันไปที่ผีชุดขาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ปล้นสวรรค์ 121 ผีชุดขาว

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 121 ผีชุดขาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPHะบทที่ 121 ผีชุดขาว

ผู้คนนับล้านที่กําลังนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขาต่างใจเต้น บางคนหลับตาแน่นไม่กล้าที่จะดูฉากนองเลือดที่กําลังจะตามมา

 

“โอ้พระเจ้า! ผีปรากฏขึ้นได้นั้นมาจากการดูดซับความกลัวของมนุษย์! ไม่แปลกใจเลยที่นี่จะทําให้ผู้คนกลัว”

 

“เห้อ! ถ้าอาเข่อ(อาเคย์)ไม่กลัวผีตั้งแต่แรก ผีตัวนั้นคงทําอะไรเธอไม่ได้!”

 

“ฟิ้ว! งั้นถ้าคนนั้นไม่กลัวผี จากนั้นผีก็จะไม่สามารถทําร้ายมนุษย์ได้ต่อไป?”

 

“ชิ! เผชิญหน้ากับผี ใครมันจะไม่กลัวกัน! ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะไปรู้ว่าผีมันจะมีอุบายอย่างอื่นอีก!”

 

“เอาอะไรมาพูดเนี่ย? พระเจ้า อาเข่อเป็นลม! ครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ!”

 

ในวีดิโอ ผีคอยาวบิดคออย่างกับไส้เดือน ปากใหญ่เท่าอ่างล้างหน้า มันเผชิญอยู่กับอาเข่อราวกับว่าเล็งจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว

 

เมื่อเวลาผ่านไป เสียงตะโกนดังของชุดขาวก็หยุดลง 

 

“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”

 

คนที่เข้ามานั้นก็คือ เย่หยู

 

เมื่อเย่หยูขับรถมาถึงเชิงเขา เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาแว่วๆ แต่หลังจากนั้นในไม่ช้า ก็ไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกต่อไป

 

กลัวว่าจะเกิดบางอย่างกับอาเข่อ เย่หยูออกจากรถและใช้ความสามารถโดยเงาเคลื่อนที่มาถึงวิลล่าที่เชิงเขาทันที

 

เมื่อเห็นผีชุดขาวที่กําลังกลืนกินอาเข่อ เย่หยูก็ตะโกนออกไปอย่างตื่นตระหนก

 

“เจ้าปีศาจ หุบปาก!”

 

“ปีศาจ?”

 

ผีชุดขาวหยุดกลืนกินอาเข่อ แต่กลับมองไปยังเย่หยูอย่างสนุก

 

“ปีศาจ? แกพูดถูก ฉันเป็นผี!”

 

เย่หยูมองไปที่ผีชุดขาว ฉายแววตาเย็นชาขณะพูดอย่างเยือกเย็น

 

“มนุษย์กับผีแตกต่างกัน ถ้าแกปล่อยผู้หญิงไป ทุกอย่างจะโอเค ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวไปเกิดใหม่ได้เลย! ”

 

“ฮิฮิ ฮิฮิ… เจ้าเด็กน้อย! แกจะอวดดีมากไปแล้วนะ!”

 

ออร่ารอบๆผีชุดขาวเริ่มเย็นยะเยือก ทําให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ําน้ําแข็ง

 

“แกอยากให้ฉันไปเกิดใหม่งั้นหรอ?”

 

ผีชุดขาวจ้องเย่หยูอย่างดุร้าย ตาทรงสามเหลี่ยมคู่นั้นเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความโลภ

 

“งั้น ฉันจะกลืนแกลงไปก่อนละกัน!”

 

หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ ร่างของเธอก็หายแว้บไปแล้วไปปรากฏอยู่ตรงหน้าเย่หยู เธออ้าปากกว้างกัดไปที่หัวเย่หยู

 

เย่หยูถอยหลังออกมา แยกขาออกเล็กน้อยเขากําหมัดแน่นตรงเอวของเขา ผีชุดขาวหัวเราะอย่างชั่วร้าย

 

“ฮิฮิ มันเปล่าประโยชน์ การโจมตีด้วยร่างกายของแกมันไร้ประโยชน์ในการสู้กับฉัน!”

 

เมื่อเย่หยูปรากฏขึ้น ผู้ชมนับล้านต่างพากันตกตะลึงสักพักก่อนที่จะส่งเสียงเชียร์

 

” หวา! มีบางคนมาถึงแล้ว! รีบไปช่วยอาเข่อเร็ว!”

 

” ช่วยฉัน?! ยังมีอีกคนที่มาที่นี่เพื่อมาหาที่ตาย!”

 

“ใช่แล้ว! ถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงมุมข้างหลัง มันชัดเจนมากว่าเขาเป็นเพียงนักเรียนธรรมดาๆ เธอสวมชุดนักเรี ยนด้วยซ้ํา!”

 

“เฮ้อ! ยิ่งหวังมากขึ้น ก็ยิ่งพบกับความผิดหวังมากขึ้น! ฉันสงสัยว่าถ้าสามารถเข้าพระลัทธิเต๋ได้ทันเวลา ”

 

เมื่อเห็นเย่หยูกําหมัดแน่นเพื่อที่จะสู้กับผี ผู้ชมที่อยู่หน้าจอทั้งหมดก็ถอนหายใจอย่างผิดหวัง

 

“เฮ้อ! เด็กหนุ่มนี้กําลังจะตายตั้งแต่อายุยังน้อย!”

 

” การแสดงที่ยอดเยี่ยมของฮีโร่ที่กําลังจะไปช่วยสาวงาม แต่กลับลงเอยด้วยการลงนรกไปพร้อมกัน!”

 

“ถึงแม้ว่าชะตากรรมของเด็กหนุ่มคนนี้จะถูกตัดสินแล้ว ฉันก็ยังจะอยากพูดอะไรบางอย่าง พ่อหนุ่มฮีโร่ นายทําดีมาก!”

 

ผีชุดขาวไม่ได้ดูเหมือนผิดหวังเลย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความหยอกล้อเหมือนกับหนูและแมว

 

” ครั้งนี้ ฉันจะกลืนแกลงไป!”

 

หลังจากที่ผีชุดขาวพูดจบ เธอยืดคอออกมาข้างหน้าเพื่อกัดเย่หยูอีกครั้ง

 

เย่หยูกําหมัดแน่นไว้ที่เอวของเขาแล้วหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเห็นผีชุดขาวกําลังเข้ามาที่ปราศจากความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาอ้าปากกว้างแล้วค่อยๆตะโกนออกมา

 

“แก่นแท้พลังวิญญาณแปด พังมันซะ!”

 

ตู๊ม!

 

โฮก!

 

ออกมาดั่งคลื่นพายุ

 

พลังชีวิตและเลือดของเย่หยูระเบิดออกมาทันที เสียงของพลังชีวิตและเลือดทที่ไหลพล่านเลือดแดงมังกรออกมาจากร่างเย่หยู หมุนวนขึ้นแล้วเปล่งเสียงคํารามของมังกรออกมา

 

หมัดของเย่หยูซัดไปที่ผีชุดขาวตรงๆ

 

“อ๊าา!”

ผีชุดขาวส่งเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองออกมา หมอกสีขาวมรณะที่ออกมาจากร่างก่อนที่จะลอยหายไปเข้าไปในความมืด ไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว

 

ฉากที่กําลังถ่ายทอดสดบนโทรศัพท์อาเข่อที่ไร้คนถ่าย

 

ผู้ชมที่กําลังนั่งชมฉากนี้อยู่ต่างพากันตกตะลึง ตาพวกเขาเบิกกว้างขณะจ้องไปยังหน้าจออย่างไม่

 

“ลูกตาฉันหลอกอะไรรึเปล่าเนี่ย? ฉันเหมือนกับเพิ่งเห็นมังกรเลือด?”

 

“เหี้ยเอ้ย! ผีชุดขาวถูกเด็กหนุ่มคนนี้จัดการจนบินไปไกลแล้ว?”

 

“เหี้ย!”

 

“ด้วยหมัดเดียวทําให้เกิดผลที่พิเศษเป็นแน่?”

 

“สุดยอด! หมัดนี้มันมีผลกระทบพิเศษอะไรนะ?”

 

“มันคืออะไร?” สุดยอดจรวดซึ่งเป็นชายร่างใหญ่กําลังพึมพํากับตัวเอง?”

 

“สุดยอดจรวด 99 ฉันรู้! นี่มันนักต่อสู้! บอดี้การ์ดของฉันเป็นนักต่อสู้ แต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมังกรเลือดแดงเช่นกัน”

 

เย่หยูกําจัดผีชุดขาวออกไปได้ด้วยหมัดเดียว หลังจากเฝ้าระวังสักครู่ เขาก็พบว่าผีชุดขาวหยุดเคลื่อนไหวแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มมองดูสถานการณ์ของอาเข่อ

 

ขณะนี้ ตาของอาเข่อปิดแน่น ใบหน้าของเธอซีดและไม่เหลือรอยเลือดให้เห็น เธอดูเหมือนจะหวาดกลัวมากๆ

 

เย่หยูยื่นแขนออกไปแล้วปัดใต้จมูกอาเข่อ เมื่อเขาพบว่าอาเข่อยังหายใจและเพิ่งจะเป็นลม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

เย่หยูพยายามเขย่าไหล่อาเข่อแล้วตะโกน

 

“อาเข่อ ตื่น!”

 

“ผี! มันเป็นผี!”

 

อาเข่อยืนขึ้นทันที กรีดร้องแล้วหันหลังและกําลังจะวิ่งหนี

 

เย่หยูดึงอาเข่อกลับมาแล้วตะโกน

 

“ฉันเอง! ผีหนีไปเพราะฉันแล้ว!”

 

” พวกมันหนีไปแล้วหรอ?”

 

อาเข่อค่อยๆมองไปรอบๆแล้วพบว่าไม่มีร่องรอยของผีชุดขาว น้ําตาของเธอก็ไหลลงมาทันทีขณะพยายามเคนเสียง ที่สะอื้นแล้วพูดออกมาว่า

 

“วะอา… นั่นมันดีมาก! ในที่สุดพวกเราก็ปลอดภัยแล้ว!”

 

อาเข่อเงยหน้าขึ้นแล้วมองเย่หยู เธอปาดน้ําตาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า

 

” ขอบคุณนายมาก! ถ้านายมาไม่ทันเวลา ฉันคงจะตายแน่ๆ”

 

เย่หยูมองอาเข่อที่กําลังร้องไห้ด้วยความดีใจอยู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

 

“ถ้าเจอผี ไม่ต้องโทรหาตํารวจ แต่ให้โทรหาฉันแทน สมกับเป็นเธอจริงๆ!”

 

อาเข่อเขินเล็กน้อยตอนที่มองเย่หยูพูด เธอกระซิบ

 

“ฉันกลัว นอกจากสมุดจดรายชื่อเบอร์โทรแล้ว รายชื่อของคุณขึ้นต้นด้วยเอ งั้นคุณก็ควรจะอยู่ระดับต้นๆ”

 

เย่หูตกใจและถามอย่างงงวย

 

“ขึ้นต้นด้วย A? มันต้องขึ้นต้นด้วย Y ไม่ใช่หรอ?”

 

อาเข่อรู้สึกตะลึงสักพัก ใบหน้าของเธอค่อยๆแดงและแววตาก็เหมือนกับเลื่อนลอย

 

“อั้ยหยา! ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น รีบลุกแล้วรีบไปได้แล้ว ที่นี่มันประหลาดเกินไป!”

 

เย่หยูพยักหน้า มันเป็นที่ที่ไม่ดีที่จะอยู่จริงๆ เขาหันหลังกลับและเดินจากอาเข่อไป

 

“จุ๊จุ๊จุ๊ ไปกันเถอะหรอ? นายจะไม่ได้แม้แต่จะคิดที่จะได้ออกไป!”

 

เสียงน่ากลัวเปล่งออกมาจากข้างหลังเย่หยู

 

เย่หยูหันหลังกลับทันที แล้วพบเพียงผีชุดขาวที่กําลังกลับมา

 

“อ๊าา!”

 

อาเข่อกรีดร้องขณะหลบอยู่ข้างหลังเย่หยู ร่างอันบอบบางที่กําลังสั่นเทาและไม่กล้ามองไปที่ผีชุดขาว

 

เสียงพึมพําที่ลอยขึ้นมาทําให้ผู้ชมนับล้านที่กําลังดูอยู่ห้องถ่ายทอดสดที่เห็นผีชุดขาวกลับมา

 

” บ้าเอ้ย! ผีตัวนี้นี่มันสู้ยากจริงๆ! ทําไมไม่ฆ่ามันด้วยหมัดโหดไปเลยหละ? ”

 

“นั้นมันไม่ถูก! ดูสิ ผีตัวนั้นเหมือนกับกลายร่าง”

 

“ใช่แล้ว! มันเป็นผีชุดขาวก่อนหน้านั้น แต่ตอนนี้ผีชุดขาวเปล่งแสงสีแดงเลือด!”

 

“อย่าบอกนะว่ามันกลายเป็นปีศาจชุดแดง? มีคนเคยกล่าวไว้ว่าผีที่ดุร้ายที่สุดก็คือปีศาจชุดแดง!”

 

เย่หยูมองไปยังผีชุดขาว เขาแสดงอาการนิ่งเฉยขณะพูดอย่างไม่แยแสว่า

“โย่ว! ไม่เลวนี่ นายดูหล่อขึ้นเยอะหลังจากเปลี่ยนชุดนะ”

 

ผีชุดขาวรู้สึกประหลาดใจชั่วขณะ จากนั้นแววตาที่โกรธก็ฉายขึ้นมาในพริบตาและพูดอย่างชั่วร้ายว่า

 

“ไอ้นักสู้เวรเอ้ย! ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากประสานมุกโลหิตดําก่อนเวลา เพื่อเป็นการชดเชย

 

คราวนี้ ฉันต้องกลืนกินพลังงานชีวิตและเลือดทั้งหมดของแกให้ได้”

 

“มุกกระหายโลหิต? ปีศาจชุดแดง?”

 

เย่หยูเลิกคิ้วและเงยหน้ามองผีชุดขาวแล้วถาม

 

“มันทําให้แกดูมั่นใจว่าจะต้านหมัดฉันได้อย่างงั้นหรอ?”

 

ผีชุดขาวพูดพร้อมหัวเราะเยาะ

 

“ดูเหมือนว่าแกจะไม่รู้เกี่ยวกับวิญญาณปีศาจสินะ! นักสู้ชั้นต่ําอย่างแกจะมาสู้กับวิญญาณปีศาจชุดแดง!”

 

“หึม! แกยังไม่ใช่ปีศาจชุดแดง แกจะพ้นคําโอ้อวดไปเพื่อ!”

 

เบื้องหลังเย่หยู อาเข่อยื่นหัวออกมาอย่างไม่รู้เวลาและเปล่าลมออกจากจมูกอย่างแรงใส่ผีชุดขาว

 

ผีชุดขาวตะลึงในคราแรก แล้วจากนั้นลมหนาวก็พัดกรรโชกราวกับเขาโกรธอย่างมาก เขาร้อง

 

โหยหวนขึ้นบนฟ้า

 

“บ้าเอ้ย! นี่มันความผิดของแก!”

 

เย่หยูมองผีชุดขาวที่กําลังบ้าไปแล้ว แล้วกระซิบกับอาเข่อว่า

 

“อาเข่อ ถอยหลังไป ปล่อยให้ฉันจัดการมัน!”

 

อาเข่อพยักหน้า เธอรู้ว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ เธอถอยหลังและสั่งโดรนให้กล้องหันไปที่ผีชุดขาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+