ปล้นสวรรค์ 198 เธอคนนั้น

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 198 เธอคนนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPHะบทที่ 198 เธอคนนั้น

 

อาเข่อหันกล้องมือถือถ่ายไปที่เย่หยู เธอแค่นเสียงและแสร้งทําเป็นโกรธ “เฮอะ ในเมื่อทุกคนอยากเห็นเย่หยู งั้น เราก็จะได้เห็นล่ะนะ”

 

ในห้องไลฟ์สด ผู้ชมจํานวนเกือบหนึ่งล้านพบว่าฉากที่อยู่ ตรงหน้าเปลี่ยนไป และเย่หยูปรากฏขึ้นที่หน้าจอ

 

“โห เย่หยูมาแล้ว ทุกคนรีบจับภาพเขาเร็วเข้า”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ แล้วเอากลับบ้านเพื่อจะได้อุ่นเตียง”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ พากลับบ้านแล้วทอดซะ จากนั้นก็เอามันไปให้เด็กข้างบ้าน”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ พากลับบ้านแล้วแขวนไว้บนเตียง ร้ายกาจมาก”

 

พออ่านหน้าจอที่เลื่อนขึ้นมา หน้าของอาเข่อก็ดําคล้ําลง เจ้าพวกนี้พอได้แล้ว นี่มันความเห็นบ้าๆแบบไหนกัน

 

ไม่กี่นาทีต่อมา อาเข่อกลอกตาแล้วส่งยิ้มร้ายๆให้เย่หยู ใครให้นายขโมยความเด่นดังของฉันไปล่ะ

 

“แค่ก แค่ก!” อาเข่อกระแอมแล้วพูดยิ้มๆว่า “พวกคุณ พอได้แล้ว ช่วยมองโต๊ะที่มีลูกค้านั่งด้านหลังเย่หยูหน่อยเห็นอะไรบ้างไหม”

 

กลุ่มเพื่อนๆ ในห้องไลฟ์สดมองไปทางด้านหลังของเย่หยู ตามสัญชาตญาณที่ห่างออกไปสองโต๊ะมีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ที่ส่วนหน้าของร้าน

 

“คุณมองหาอะไรเหรอ ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นชาวอเมริกันและหล่อเหลาเอาการ แต่เขายังห่างชั้นจากเย่หยูมาก”

 

“นั่นไม่ถูกนะ อาเข่ออยากให้ดูคนสวยต่างหาก”

 

“เธอเป็นชาวจีนอย่างนั้นเหรอ เอ.พูดตามตรงนะ เธอดูสวยกว่าอาเข่อเสียอีก”

 

“เอ๊ะ ไม่รู้สึกว่าเธอคุ้นๆหน้าบ้างเหรอ”

 

กลุ่มเพื่อนๆ มองดูสาวสวยจากเมืองจีนที่อยู่ด้านหลังเย่หยู หลายคนมองเธอจนใจลอย

 

“ฉันเข้าใจแล้ว เธอก็คือเวินเมิ่ง”

 

“ใช่ ถูกต้อง ดารานําหญิงเรื่องยุคทองที่เป็นสาวสวยคือเธอนั่นเอง

 

“ต้องเป็นเวินเมิ่งแน่ๆ เธอสวยมากเลยนะ”

 

“ฉันอยากรู้ว่าทําไมเธอถึงปลีกตัวจากวงการไปทั้งที่กําลังดังมาก เกือบหนึ่งปีแล้วถูกไหม”

 

“เกือบหนึ่งปี เฮ้อ มันเป็นเพราะเศรษฐกิจแน่เลย และฉันต้องถูกลืมแน่ถ้าฉันไม่ได้ออกสู่สาธารณชนกว่าหนึ่งปีแบบนี้”

 

เมื่ออ่านจอบุลเล็ตสกรีนที่มีสารพัดความเห็นทางห้องไลฟ์สด อาเข่อก็นึกออกทันที “เธอนั่นเอง” อาเข่อร้องออกมา มิน่าล่ะถึงได้คุ้นหน้า”

 

อาเข่อมองไปที่เวินเมิ่ง จากนั้นก็มองเย่หยูแล้วถามอย่างสงสัยว่า “เย่หยู นายรู้จักเวินเมิ่งด้วยเหรอ เธอเป็นดาราสาวคนดังเมื่อปีก่อน”

 

เย่หยูหันหน้าไป มองไปที่เวินเมิ่งแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยดูหนังที่เธอแสดงมาก่อน แต่เคยเห็นเธอครั้งหนึ่ง”

 

“ครั้งเดียวเหรอ”

 

ประกายตาเย่หยูเต็มไปด้วยความทรงจําแห่งความหลัง เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกแล้ว ครั้งสุดท้ายที่พบเธอมีรูปโฉมเปลี่ยนไปอย่างมาก”

 

เวินเมิ่งนอนป่วยอยู่บนเตียง ดูทรุดโทรมและไม่ตอบสนองกับโลกภายนอก

 

ตอนนี้เวินเมิ่งถึงแม้จะผอมไปนิด แต่ก็ยังมีเสน่ห์เหมือนในอดีต

 

เวินเมิ่งมองไปที่เลสแด็ทซึ่งนั่งตรงข้ามเธอ แล้วพูดเสียงเย็นว่า “คุณเลสแด็ท ขอฉันถามได้ไหมว่าทําไมถึงตามหาฉัน”

 

ใบหน้าของเลสสแตทมีรอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้น “คุณเวินเมิ่ง ผมอยากรู้ว่าคุณพิจารณาข้อเสนอของผมหรือยัง”

 

เวินเมิ่งขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณเลสแด็ท ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้”

 

ดวงตาของเลสแท็ททอแววโกรธกรุ่น และรอยยิ้มบนใบหน้าหายวับไป “ทําไม ตอนคุณมาสหรัฐอเมริกา คุณไม่มีทั้งคนรู้จักและเงินทอง ซึ่งผมมีสิ่งนั้นทั้งหมด ทําไมถึงไม่คิดถึงผม”

 

ใบหน้างดงามของเวินเมิ่งเย็นชาเหมือนรูปสลักน้ําแข็ง แต่เธอยังคงงดงาม ความสวยของเธอนั้นไร้ผู้เทียบได้ “คุณเลสแต๊ท ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันมาที่อเมริกาเพื่อทุ่มเทให้กับอาชีพนักแสดง

 

เวินเมิ่งมองเลสแต็ทและกล่าวว่า “และฉันต้องมีความสัมพันธ์ในแบบที่มีความรัก ไม่ใช่แบบที่มีแค่เงินและอํานาจ”

 

เลสแต็ทนั่งเอนหลัง แล้วยกมือขึ้นกอดอก พลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เวินเมิ่ง คุณก็อยู่ในวงการบันเทิง แต่กลับคุยเรื่องความรักกับผมงั้นเหรอ ฮ่าๆ นั่นตลกดีนะว่าไหม”

 

ดวงตาของเวินเมิ่งทอประกายโกรธวาววับ จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ ในสายตาของฉัน พวกคุณทุกคนเป็นคนที่น่าสมเพช ในสายตาของฉัน เงินเท่านั้นที่สําคัญ สิ่งที่มีค่าที่สุดนั้นสูญเสียไปแล้ว”

 

ขณะที่เวินเมิ่งกับเลสแต็ทคุยกันอยู่นั้น ในห้องไลฟ์สดของอาเข่อ การพูดคุยเรื่องของเงินเมิงยังดําเนินต่อไป

 

“ตอนนั้น คนดังที่ฉันติดตามก็คือเวินเมิ่ง เธอเป็นหนึ่งในดาราหญิงไม่กี่คนที่ไม่มีข่าวลือเสียหายในวงการบันเทิง”

“ไม่ใช่เพราะเธอนั้นหาได้ยาก แต่มีเธอเพียงคนเดียวต่างหาก”

 

“เฮ้อ ไม่รู้ว่าทําไมเวินเมิ่งถึงเกษียณเมื่อหลายปีก่อน แย่จังเลยนะ ไม่อย่างนั้น เราก็คงจะไม่ต้องเจอเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้”

 

“เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ข่าวของเวินเมิ่งและตกหลุมรัก ไม่อย่างนั้นทําไมเธอถึงอยู่กับหนุ่มอเมริกันคนนั้นล่ะ”

 

“เป็นไปไม่ได้ ดูจากสีหน้าเย็นชาของเวินเมิ่งแล้ว ดูไม่เหมือนเธอคบหาเขาเป็นคนรักเลยสักนิด”

 

ปัง!

 

มีเสียงดังสนั่นมาจากโต๊ะที่เวินเมิ่งนั่งอยู่ เลสแท็ทตบโต๊ะ แล้วพูดหยันๆว่า “เวินเมิ่ง คุณกับผมอยู่วงการนี้กันทั้งคู่ ทําไมคุณยังเสแสร้งว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ล่ะ”

 

เขามองเวินเมิ่งอย่างละโมบ และใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้น “เวินเมิ่ง ผมทําแบบนี้เพื่อประโยขน์ของคุณนะ ตราบใดที่คุณทําตามผม คุณมีทั้งเส้นสายและเงินทอง พอถึงตอนนั้นอาชีพนักแสดงของคุณจะยิ่งรุ่งโรจน์ไปอีก”

 

สายตาของเวินเมิ่งคมกริบ เธอลุกขึ้นแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อาชีพนักแสดงเป็นความฝันของฉัน แต่มันจะไม่เข้าไปปนกับความเป็นจริงแน่นอน”

 

“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” เลสแด็ทลิ้งไปพักหนึ่ง ดวงตาเขาทอแววร้ายกาจ แล้วหัวเราะออกมาดังลั่น “เวินเมิ่ง เวินเมิ่ง เวินเมิ่ง คุณตัดสินผู้คนได้จากประสบการณ์ที่เจอมาหรือความยากลําบากของชีวิต คุณไม่รู้เหรอว่าพอคุณเข้ามาในวงการบันเทิงแล้ว คุณจะไม่มีวันออกไปได้อีก”

 

ริมฝีปากของเลสเต็ทโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา แล้วก็พูดขึ้นว่า “ในวงการนี้ คุณอยากคุยเรื่องความรักที่ใสบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ เหลวไหลจริง”

 

เวินเมิ่งไม่สนใจสิ่งที่เลสแด็ทกล่าว เธอมองเขาด้วยสาย ตาสมเพชแล้วพูดยิ้มๆว่า “ความรัก คือสิ่งที่คนอย่างคุณไม่มีวันจะเข้าใจ”

 

พอเวินเมิ่งพูดจบ ก็หมุนตัวตั้งท่าจะจากไป ก็พอดีกับที่หางตาของเธอเห็นเงาร่างคนผู้หนึ่งเข้า เงาร่างที่ประทับฝัง ลึกลงในหัวใจของเธอและไม่มีวันลบออกไปได้

 

เป็นเขาใช่ไหม

 

เวินเมิงได้แต่ยืนนิ่งอย่างมีนงง ความคิดของเธอว่างเปล่า หลังผ่านไปสักพัก เธอก็ได้สติและเต็มไปด้วยความยินดี

 

เมื่อเห็นเวินเมิ่งตั้งท่าจะจากไป เลสแด็ทก็โกรธจัด แต่จู่ๆเขากลับพบว่าเวินเมิ่งยังไม่ได้จากไป นี่ทําให้เขายินดีแล้ว พูดอย่างนิ่งสงบว่า “อะไรกัน คุณเวินเมิ่งคิดจนถี่ถ้วนแล้วใช่ไหม ฮ่าๆ อย่างที่ผมว่าไว้ ขอให้คุณทําตามที่ผมบอก อย่าว่าแต่ชีวิตที่หรูหราเลย แม้แต่อาชีพนักแสดงของคุณ ผมก็ส่งคุณให้เป็นนักแสดงระดับท็อปได้”

 

“ในที่สุด ฉันก็ได้พบเธออีก”

 

ในตอนนั้นเอง ไม่มีเงาของเลสแด็ทในสายตาของเวินเมิ่ง เพราะเธอเอาแต่จ้องมองร่างของเย่หยูอย่างโง่งม เธอย ลิรอยยิ้มเมื่อกล่าวด้วยน้ําเสียงอบอุ่นว่า “ดีใจที่พบเธอที่นี่”

 

ในพริบตานั้น เหมือนพระอาทิตย์ส่องแสงทําให้หิมะและ น้ําแข็งละลายหายไป

 

เหมือนน้ําแข็งที่ห่อหุ้มรอบตัวของเวินเมิ่งละลายไปจนหมด เธอดูเปล่งประกายด้วยพลังชีวิตใหม่และมีเสน่ห์จับตามากยิ่งขึ้น

 

“เดี๋ยว เวินเมิ่ง คุณกําลังมองใครอยู่”

 

เลสแตทรับรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติจนได้ ดูเหมือนเวินเมิ่งคนนี้ เพิ่งพบบุคคลสําคัญอย่างที่สุด เขาใช่คนรักของเธอหรือเปล่า เมื่อเขามองตามสายตาของเวินเมิง เขาก็เห็นว่าสายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่คนคนหนึ่งเท่านั้น เป็นหนุ่มน้อยจากเมืองจีน

 

เวินเมิ่งอดใจไม่ไหวจนต้องเดินไปหาเย่หยู หลังไปถึงข้างกายเขา เวินเมิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างระวังว่า “ฉันพบเธออีกแล้ว”

 

เย่หยูมองดูเวินเมิ่ง ซึ่งสวมชุดเดรสยาวสีขาว ให้กลิ่นอายอันเย็นชา เขายิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “เห็นแล้วว่าเธอหายดีแล้ว มันดีจังเลยนะ”

 

อาเข่อเบิกตากว้าง มองไปที่เย่หยู แล้วหันไปมองเวินเมิ่ง ดวงตาของเธอก็เป็นประกายวาววาบ

 

นี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน

 

คนดูทุกคนที่ชมไลฟ์สดของอาเข่อ เพียงเสี้ยววินาทีก็พากันรีเฟรชหน้าจอกันยกใหญ่

 

“ตามข้อสรุปของฉัน เย่หยูกับเวินเมิ่งต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาแน่” ”

 

“ฮ่าๆ ในที่สุด ก็ถึงตาฉัน โกกิ มีความจริงเพียงหนึ่งเดียว เวินเมิ่งตกหลุมรักเย่หยูแน่นอน”

 

“แย่แล้ว เย่หยูเป็นขวัญใจของเราแท้ๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนรอดจากเสน่ห์ของเย่หยูได้ แต่มีข้อยกเว้น ไม่รวมอาเข่อนะ เพราะอาเข่อเป็นของทุกคน”

 

“อย่าบอกฉันนะว่าการที่เวินเมิ่งออกจากวงการเกี่ยวข้องกับเย่หยูด้วย จุ๊ๆ ฉันเดาไม่ออกเลย”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ปล้นสวรรค์ 198 เธอคนนั้น

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 198 เธอคนนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

SPHะบทที่ 198 เธอคนนั้น

 

อาเข่อหันกล้องมือถือถ่ายไปที่เย่หยู เธอแค่นเสียงและแสร้งทําเป็นโกรธ “เฮอะ ในเมื่อทุกคนอยากเห็นเย่หยู งั้น เราก็จะได้เห็นล่ะนะ”

 

ในห้องไลฟ์สด ผู้ชมจํานวนเกือบหนึ่งล้านพบว่าฉากที่อยู่ ตรงหน้าเปลี่ยนไป และเย่หยูปรากฏขึ้นที่หน้าจอ

 

“โห เย่หยูมาแล้ว ทุกคนรีบจับภาพเขาเร็วเข้า”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ แล้วเอากลับบ้านเพื่อจะได้อุ่นเตียง”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ พากลับบ้านแล้วทอดซะ จากนั้นก็เอามันไปให้เด็กข้างบ้าน”

 

“จับตัวคนเก่งให้ได้ พากลับบ้านแล้วแขวนไว้บนเตียง ร้ายกาจมาก”

 

พออ่านหน้าจอที่เลื่อนขึ้นมา หน้าของอาเข่อก็ดําคล้ําลง เจ้าพวกนี้พอได้แล้ว นี่มันความเห็นบ้าๆแบบไหนกัน

 

ไม่กี่นาทีต่อมา อาเข่อกลอกตาแล้วส่งยิ้มร้ายๆให้เย่หยู ใครให้นายขโมยความเด่นดังของฉันไปล่ะ

 

“แค่ก แค่ก!” อาเข่อกระแอมแล้วพูดยิ้มๆว่า “พวกคุณ พอได้แล้ว ช่วยมองโต๊ะที่มีลูกค้านั่งด้านหลังเย่หยูหน่อยเห็นอะไรบ้างไหม”

 

กลุ่มเพื่อนๆ ในห้องไลฟ์สดมองไปทางด้านหลังของเย่หยู ตามสัญชาตญาณที่ห่างออกไปสองโต๊ะมีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ที่ส่วนหน้าของร้าน

 

“คุณมองหาอะไรเหรอ ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นชาวอเมริกันและหล่อเหลาเอาการ แต่เขายังห่างชั้นจากเย่หยูมาก”

 

“นั่นไม่ถูกนะ อาเข่ออยากให้ดูคนสวยต่างหาก”

 

“เธอเป็นชาวจีนอย่างนั้นเหรอ เอ.พูดตามตรงนะ เธอดูสวยกว่าอาเข่อเสียอีก”

 

“เอ๊ะ ไม่รู้สึกว่าเธอคุ้นๆหน้าบ้างเหรอ”

 

กลุ่มเพื่อนๆ มองดูสาวสวยจากเมืองจีนที่อยู่ด้านหลังเย่หยู หลายคนมองเธอจนใจลอย

 

“ฉันเข้าใจแล้ว เธอก็คือเวินเมิ่ง”

 

“ใช่ ถูกต้อง ดารานําหญิงเรื่องยุคทองที่เป็นสาวสวยคือเธอนั่นเอง

 

“ต้องเป็นเวินเมิ่งแน่ๆ เธอสวยมากเลยนะ”

 

“ฉันอยากรู้ว่าทําไมเธอถึงปลีกตัวจากวงการไปทั้งที่กําลังดังมาก เกือบหนึ่งปีแล้วถูกไหม”

 

“เกือบหนึ่งปี เฮ้อ มันเป็นเพราะเศรษฐกิจแน่เลย และฉันต้องถูกลืมแน่ถ้าฉันไม่ได้ออกสู่สาธารณชนกว่าหนึ่งปีแบบนี้”

 

เมื่ออ่านจอบุลเล็ตสกรีนที่มีสารพัดความเห็นทางห้องไลฟ์สด อาเข่อก็นึกออกทันที “เธอนั่นเอง” อาเข่อร้องออกมา มิน่าล่ะถึงได้คุ้นหน้า”

 

อาเข่อมองไปที่เวินเมิ่ง จากนั้นก็มองเย่หยูแล้วถามอย่างสงสัยว่า “เย่หยู นายรู้จักเวินเมิ่งด้วยเหรอ เธอเป็นดาราสาวคนดังเมื่อปีก่อน”

 

เย่หยูหันหน้าไป มองไปที่เวินเมิ่งแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยดูหนังที่เธอแสดงมาก่อน แต่เคยเห็นเธอครั้งหนึ่ง”

 

“ครั้งเดียวเหรอ”

 

ประกายตาเย่หยูเต็มไปด้วยความทรงจําแห่งความหลัง เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกแล้ว ครั้งสุดท้ายที่พบเธอมีรูปโฉมเปลี่ยนไปอย่างมาก”

 

เวินเมิ่งนอนป่วยอยู่บนเตียง ดูทรุดโทรมและไม่ตอบสนองกับโลกภายนอก

 

ตอนนี้เวินเมิ่งถึงแม้จะผอมไปนิด แต่ก็ยังมีเสน่ห์เหมือนในอดีต

 

เวินเมิ่งมองไปที่เลสแด็ทซึ่งนั่งตรงข้ามเธอ แล้วพูดเสียงเย็นว่า “คุณเลสแด็ท ขอฉันถามได้ไหมว่าทําไมถึงตามหาฉัน”

 

ใบหน้าของเลสสแตทมีรอยยิ้มมั่นใจปรากฏขึ้น “คุณเวินเมิ่ง ผมอยากรู้ว่าคุณพิจารณาข้อเสนอของผมหรือยัง”

 

เวินเมิ่งขมวดคิ้วแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คุณเลสแด็ท ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้”

 

ดวงตาของเลสแท็ททอแววโกรธกรุ่น และรอยยิ้มบนใบหน้าหายวับไป “ทําไม ตอนคุณมาสหรัฐอเมริกา คุณไม่มีทั้งคนรู้จักและเงินทอง ซึ่งผมมีสิ่งนั้นทั้งหมด ทําไมถึงไม่คิดถึงผม”

 

ใบหน้างดงามของเวินเมิ่งเย็นชาเหมือนรูปสลักน้ําแข็ง แต่เธอยังคงงดงาม ความสวยของเธอนั้นไร้ผู้เทียบได้ “คุณเลสแต๊ท ฉันบอกคุณไปแล้วว่าฉันมาที่อเมริกาเพื่อทุ่มเทให้กับอาชีพนักแสดง

 

เวินเมิ่งมองเลสแต็ทและกล่าวว่า “และฉันต้องมีความสัมพันธ์ในแบบที่มีความรัก ไม่ใช่แบบที่มีแค่เงินและอํานาจ”

 

เลสแต็ทนั่งเอนหลัง แล้วยกมือขึ้นกอดอก พลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เวินเมิ่ง คุณก็อยู่ในวงการบันเทิง แต่กลับคุยเรื่องความรักกับผมงั้นเหรอ ฮ่าๆ นั่นตลกดีนะว่าไหม”

 

ดวงตาของเวินเมิ่งทอประกายโกรธวาววับ จากนั้นก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ ในสายตาของฉัน พวกคุณทุกคนเป็นคนที่น่าสมเพช ในสายตาของฉัน เงินเท่านั้นที่สําคัญ สิ่งที่มีค่าที่สุดนั้นสูญเสียไปแล้ว”

 

ขณะที่เวินเมิ่งกับเลสแต็ทคุยกันอยู่นั้น ในห้องไลฟ์สดของอาเข่อ การพูดคุยเรื่องของเงินเมิงยังดําเนินต่อไป

 

“ตอนนั้น คนดังที่ฉันติดตามก็คือเวินเมิ่ง เธอเป็นหนึ่งในดาราหญิงไม่กี่คนที่ไม่มีข่าวลือเสียหายในวงการบันเทิง”

“ไม่ใช่เพราะเธอนั้นหาได้ยาก แต่มีเธอเพียงคนเดียวต่างหาก”

 

“เฮ้อ ไม่รู้ว่าทําไมเวินเมิ่งถึงเกษียณเมื่อหลายปีก่อน แย่จังเลยนะ ไม่อย่างนั้น เราก็คงจะไม่ต้องเจอเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้”

 

“เป็นไปได้ไหมว่าเขาได้ข่าวของเวินเมิ่งและตกหลุมรัก ไม่อย่างนั้นทําไมเธอถึงอยู่กับหนุ่มอเมริกันคนนั้นล่ะ”

 

“เป็นไปไม่ได้ ดูจากสีหน้าเย็นชาของเวินเมิ่งแล้ว ดูไม่เหมือนเธอคบหาเขาเป็นคนรักเลยสักนิด”

 

ปัง!

 

มีเสียงดังสนั่นมาจากโต๊ะที่เวินเมิ่งนั่งอยู่ เลสแท็ทตบโต๊ะ แล้วพูดหยันๆว่า “เวินเมิ่ง คุณกับผมอยู่วงการนี้กันทั้งคู่ ทําไมคุณยังเสแสร้งว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ล่ะ”

 

เขามองเวินเมิ่งอย่างละโมบ และใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้น “เวินเมิ่ง ผมทําแบบนี้เพื่อประโยขน์ของคุณนะ ตราบใดที่คุณทําตามผม คุณมีทั้งเส้นสายและเงินทอง พอถึงตอนนั้นอาชีพนักแสดงของคุณจะยิ่งรุ่งโรจน์ไปอีก”

 

สายตาของเวินเมิ่งคมกริบ เธอลุกขึ้นแล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อาชีพนักแสดงเป็นความฝันของฉัน แต่มันจะไม่เข้าไปปนกับความเป็นจริงแน่นอน”

 

“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” เลสแด็ทลิ้งไปพักหนึ่ง ดวงตาเขาทอแววร้ายกาจ แล้วหัวเราะออกมาดังลั่น “เวินเมิ่ง เวินเมิ่ง เวินเมิ่ง คุณตัดสินผู้คนได้จากประสบการณ์ที่เจอมาหรือความยากลําบากของชีวิต คุณไม่รู้เหรอว่าพอคุณเข้ามาในวงการบันเทิงแล้ว คุณจะไม่มีวันออกไปได้อีก”

 

ริมฝีปากของเลสเต็ทโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา แล้วก็พูดขึ้นว่า “ในวงการนี้ คุณอยากคุยเรื่องความรักที่ใสบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ เหลวไหลจริง”

 

เวินเมิ่งไม่สนใจสิ่งที่เลสแด็ทกล่าว เธอมองเขาด้วยสาย ตาสมเพชแล้วพูดยิ้มๆว่า “ความรัก คือสิ่งที่คนอย่างคุณไม่มีวันจะเข้าใจ”

 

พอเวินเมิ่งพูดจบ ก็หมุนตัวตั้งท่าจะจากไป ก็พอดีกับที่หางตาของเธอเห็นเงาร่างคนผู้หนึ่งเข้า เงาร่างที่ประทับฝัง ลึกลงในหัวใจของเธอและไม่มีวันลบออกไปได้

 

เป็นเขาใช่ไหม

 

เวินเมิงได้แต่ยืนนิ่งอย่างมีนงง ความคิดของเธอว่างเปล่า หลังผ่านไปสักพัก เธอก็ได้สติและเต็มไปด้วยความยินดี

 

เมื่อเห็นเวินเมิ่งตั้งท่าจะจากไป เลสแด็ทก็โกรธจัด แต่จู่ๆเขากลับพบว่าเวินเมิ่งยังไม่ได้จากไป นี่ทําให้เขายินดีแล้ว พูดอย่างนิ่งสงบว่า “อะไรกัน คุณเวินเมิ่งคิดจนถี่ถ้วนแล้วใช่ไหม ฮ่าๆ อย่างที่ผมว่าไว้ ขอให้คุณทําตามที่ผมบอก อย่าว่าแต่ชีวิตที่หรูหราเลย แม้แต่อาชีพนักแสดงของคุณ ผมก็ส่งคุณให้เป็นนักแสดงระดับท็อปได้”

 

“ในที่สุด ฉันก็ได้พบเธออีก”

 

ในตอนนั้นเอง ไม่มีเงาของเลสแด็ทในสายตาของเวินเมิ่ง เพราะเธอเอาแต่จ้องมองร่างของเย่หยูอย่างโง่งม เธอย ลิรอยยิ้มเมื่อกล่าวด้วยน้ําเสียงอบอุ่นว่า “ดีใจที่พบเธอที่นี่”

 

ในพริบตานั้น เหมือนพระอาทิตย์ส่องแสงทําให้หิมะและ น้ําแข็งละลายหายไป

 

เหมือนน้ําแข็งที่ห่อหุ้มรอบตัวของเวินเมิ่งละลายไปจนหมด เธอดูเปล่งประกายด้วยพลังชีวิตใหม่และมีเสน่ห์จับตามากยิ่งขึ้น

 

“เดี๋ยว เวินเมิ่ง คุณกําลังมองใครอยู่”

 

เลสแตทรับรู้ว่ามีสิ่งผิดปกติจนได้ ดูเหมือนเวินเมิ่งคนนี้ เพิ่งพบบุคคลสําคัญอย่างที่สุด เขาใช่คนรักของเธอหรือเปล่า เมื่อเขามองตามสายตาของเวินเมิง เขาก็เห็นว่าสายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่คนคนหนึ่งเท่านั้น เป็นหนุ่มน้อยจากเมืองจีน

 

เวินเมิ่งอดใจไม่ไหวจนต้องเดินไปหาเย่หยู หลังไปถึงข้างกายเขา เวินเมิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดอย่างระวังว่า “ฉันพบเธออีกแล้ว”

 

เย่หยูมองดูเวินเมิ่ง ซึ่งสวมชุดเดรสยาวสีขาว ให้กลิ่นอายอันเย็นชา เขายิ้มน้อยๆ แล้วกล่าวว่า “เห็นแล้วว่าเธอหายดีแล้ว มันดีจังเลยนะ”

 

อาเข่อเบิกตากว้าง มองไปที่เย่หยู แล้วหันไปมองเวินเมิ่ง ดวงตาของเธอก็เป็นประกายวาววาบ

 

นี่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน

 

คนดูทุกคนที่ชมไลฟ์สดของอาเข่อ เพียงเสี้ยววินาทีก็พากันรีเฟรชหน้าจอกันยกใหญ่

 

“ตามข้อสรุปของฉัน เย่หยูกับเวินเมิ่งต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาแน่” ”

 

“ฮ่าๆ ในที่สุด ก็ถึงตาฉัน โกกิ มีความจริงเพียงหนึ่งเดียว เวินเมิ่งตกหลุมรักเย่หยูแน่นอน”

 

“แย่แล้ว เย่หยูเป็นขวัญใจของเราแท้ๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนรอดจากเสน่ห์ของเย่หยูได้ แต่มีข้อยกเว้น ไม่รวมอาเข่อนะ เพราะอาเข่อเป็นของทุกคน”

 

“อย่าบอกฉันนะว่าการที่เวินเมิ่งออกจากวงการเกี่ยวข้องกับเย่หยูด้วย จุ๊ๆ ฉันเดาไม่ออกเลย”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+