ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 1352

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 1352 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บรรพบุรุษของจีน มักคิดถึงเรื่องทำอย่างไรถึงจะทำตัวเองให้ดี ถึงจะต่อสู้ พวกเราก็ทำได้เพียงแค่สู้กับตัวเอง สู้กับเราในพรุ่งนี้ และสู้กับตัวเองในตอนนี้!”

“สู้กับตัวเอง เพื่ออยู่ให้เหนือกว่าตอนนี้และตัวเองที่ผ่านมา เราต่อสู้กับตัวเองในด้านการแพทย์ เพื่อที่จะได้อายุยืนนาน เราสู้กับตัวเองในด้านเทคโนโลยีการทำเกษตร เพื่อเลี้ยงดูคนให้มากขึ้น เราสู้กับตัวเองในด้านศิลปะต่อสู้ เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น”

พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินจึงหันกลับไปมองอิโตะ นานาโกะ แล้วเอ่ยถามเธอว่า“ถ้าเริ่มจากนี้เป็นต้นไป ไม่ให้คุณเข้าแข่งขันใดๆอีก หรือคุณจะยอมปล่อยโอกาสการพัฒนาตัวเอง กระทั่งยอมปล่อยศิลปะการต่อสู้ไป?”

อิดตะ นานาโกะจึงพูดไปว่า“แน่นอนว่าไม่มีทาง!ถึงจะไม่ให้แข่งขันรายการไหนอีก ฉันก็จะไม่มีวันยอมทิ้งศิลปะการต่อสู้ไปแน่!”

เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า“ก็แค่นั้นแหละ คุณชอบในศิลปะการต่อสู้ และไม่ได้เอาศิลปะการต่อสู้ไปโจมตีผู้อื่น ดังนั้น จะชนะหรือไม่ จะสำคัญอย่างไร?ถึงจะแพ้ในการแข่งขัน ไม่ได้รับรางวัลใดๆ แล้วมันจะมีอะไรสำคัญล่ะ?ขอแค่ทำให้ตัวเองมีคุณค่า ความชอบในศิลปะการต่อสู้ ก็พอแล้ว”

อิโตะ นานาโกะค่อยๆโค้งคำนับเขาช้าๆ แล้วพูดอย่างจริงใจ“ขอบคุณค่ะเย่เฉินซัง นานาโกะเข้าใจแล้วค่ะ!”

เย่เฉินพูด“การแข่งขันพรุ่งนี้ต้องพยายามให้ดีนะ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็อย่าได้ใส่ใจ แค่เอาด้านที่ดีที่สุดของตัวเองแสดงออกมาก็เพียงพอแล้ว”

อิโตะ นานาโกะพยักหน้าอย่างตั้งใจ“เย่เฉินซังวางใจเถอะ ฉันจะทุ่มแรงกายทั้งหมดเลยค่ะ!”

พูดจบ เมื่อเธอนึกถึงรอบรองชนะเลิศ เย่เฉินก็ใช้สายตาปวดใจเล็กน้อยมองมาที่ตนเอง เธอจึงถามด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข“เย่เฉินซังคะ การแข่งขันรอบที่แล้วของฉัน ทำไมดีไหมคะ?”

เย่เฉินที่ได้ยินเธอพูดถึงการแข่งครั้งก่อน เมื่อนึกถึงฉากที่เธอถูกคู่ต่อสู้โจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ในใจของเขายังคงรู้สึกได้ถึงความปวดใจ

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพูดอย่างจริงจังว่า“ผมคิดว่าการแข่งขันครั้งก่อนของคุณทำได้เยี่ยมมากเลยครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจจุดหนึ่ง ตอนนั้นทำไมคุณถึงปล่อยให้คู่ต่อสู้โจมตีซ้ำๆล่ะ?ความจริงความแข็งแกร่งของคุณสูงกว่าคู่ต่อสู้ ถ้าหากคุณโต้ตอบอย่างเด็ดเดี่ยวตั้งแต่ต้น คุณอาจจะไม่ได้รับบาดเจ็บก็ได้ แต่คุณกลับปล่อยโอกาสให้คู่ต่อสู้ ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

อิโตะ นานาโกะพูดอย่างเขินอาย“อันที่จริง……ตอนนั้นฉันต้องการชนะด้วยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้คู่ต่อสู้โจมตีฉันในตอนเริ่มแรก เพื่อค้นหาข้อบกพร่องของคู่ต่อสู้”

เย่เฉินอดที่จะแปลกใจไม่ได้“การแข่งขัน ชนะก็พอ ทำไมต้องใช้กระบวนท่าเดียวเพื่อปราบศัตรูด้วยล่ะ?”

ในมุมมองของเย่เฉิน การโจมตีด้วยกระบวนท่าเดียวของอิโตะ นานาโกะ มันยังคงแตกต่างจากกระบวนท่าเดียวเพื่อปราบศัตรูของฉินเอ้าเสวี่ยนเป็นอย่างมาก

เพราะความแข็งแกร่งโดยรวมของฉินเอ้าเสวี่ยน สามารถใช้กระบวนท่าเดียวเพื่อปราบศัตรูได้ ดังนั้นกระบวนท่าเดียวเพื่อปราบศัตรูสำหรับเธอแล้ว จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร กระทั่งอาจจะพูดได้ว่ามันเป็นอะไรที่ง่ายมาก

แต่ ความแข็งแกร่งของอิโตะ นานาโกะ ถึงแม้จะแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการจู่โจมเพียงครั้งเดียวได้ ดังนั้นจึงเท่ากับว่าเธอออกโจทย์ปัญหาที่ยากให้กับตัวเองมากๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะยืนกรานจะเดินบนทางที่ยากที่สุด ในการแข่งขันเธอคง ไม่ถูกคู่ต่อสู้โจมตีหลายครั้งขนาดนี้

ตอนนี้อิโตะ นานาโกะจึงยิ่งเขินอายมากยิ่งขึ้น เธอพูดอย่างจริงจังว่า“ฉัน……ประเด็นคือฉัน……ความหวังของฉันคือหวังว่าเย่เฉินซังจะ……ประทับใจฉัน……”

เย่เฉินที่ได้ยินดังนั้น จึงอดที่จะตะลึงงันไม่ได้

เพื่อตนอย่างนั้นเหรอ?

ผู้หญิงคนนี้ โง่เกินไปรึเปล่า?

เพื่อให้ตัวเองประทับใจ เธอถึงกับยืนอยู่บนสังเวียนให้คู่ต่อสู้โจมตีครั้งแล้วครั้งเล่างั้นเหรอ?ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามไม่ระวังล่ะ โจมตีจนบาดเจ็บหนักขึ้นมา จะทำอย่างไร?

พอคิดมาถึงตรงนี้ เขาจึงอดเอ่ยถามไม่ได้ว่า“เพื่อให้ผมประทับใจ เลยทำให้ตนเองตกอยู่ในอันตรายขนาดนั้น คุณคิดว่ามันคุ้มไหม?”

“คุ้มสิคะ!”อิโตะ นานาโกะพูดอย่างแน่วแน่และจริงจัง“ในช่วงเวลาหนึ่ง ฉันอยู่บนสังเวียนมองเห็นสายตาของเย่เฉินซัง ฉันไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดรึเปล่า แต่ในตอนที่ฉันเห็นสายตาของคุณนั้น ทันใจนั้นก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันคุ้มค่ามาก……”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด