ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2525

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2525 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 2525

ประตูสัญญาณจินหลิง เป็นแบรนด์อาหารท้องถิ่นขนานแท้ในเมืองจินหลิง อยู่ในเมืองจินหลิงมีหลายสาขา ขายอาหารเมืองจินหลิงแท้ๆ
และเป็นที่ชื่นซอบของคนในท้องถิ่น

มาถึงที่ทางเข้าประตูสัญญาณจินหลิง เฮ่อหยว่นเจียงก็แนะนำให้กับเย่เฉิน: “บรรพบุรุษสามชั่วอายุคนของฉันก็เป็นคนท้องถิ่นในเมืองจิน
หลิงโดยแท้ ตั้งแต่ที่ฉันเกิดมาจนเป็นวัยรุ่น ก็ใช้วิตอยู่ที่เมืองจินหลิงมาโตยตลอด ต่อมาไปเรียนต่อที่สำหรัฐอเมริกา ก็ปักหลักอยู่ที่
สหรัฐอเมริกา ช่วงนี้จากกันมานานหลายสิบปีกลับมาใช้วิตอยู่ ก็รู้สึกในทันทีว่าอาหารของบ้านเกิดช่างเย้ายวนใจเกินไปแล้ว กินยังไงก็ไม่เบื่อ
เม้ว่าโรงอาหรอาจารย์ของโรงเรียนจะมีอาหารหลากหลายให้รับประทานฟรึ ทุกกลางวันฉันยังต้องวิ่งมาทานที่นี่อยู่ดี ได้ทานอาหารเมืองจิน
หลิงแท้ๆคำหนึ่ง”

หลังจากที่พูตจบ เขาถามเฉินว่า: “แต่ว่นายใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจิ้นหลิงมานานหลายปี จะทานจนเบื่อตั้งนานแล้วหรือเปล่า?”

เยเฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “อันที่จริงเรื่องกินผมไม่ค่อยเรื่องมาก ในช่วงสิบปีที่อยู่สถานเลี้ยงเกกำพร้า ซุปใสทุกวัน ผมก็ไม่ได้รู้สึก
ว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม ต่อมาไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง ทุกวันก็น้ำเปล่ากับหมั่นโถวก็รู้สึกว่าไม่เลว”

เฮ่อหยว่นเจิ่ยงถอนหายใจอย่างอดไม่ได้: “ช่วงวิตนายเผชิญมาก่อนอายุแปดปี มีเยงไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถเปรียบเทียบได้ ตก
อยู่ใต้ก้มเหวที่เดียวมานานหลายปีนี้ นายปรับตัวมาได้ยังไง?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ตอนที่ผมยังเด็กมากพ่อแม่ก็สอนผมว่าไม่ยินดีด้วยเรื่องของวัตถุไม่ทุกข์โศกด้วยเรื่องของตนเอง ดังนั้นสิ่งนี้
สำหรับผม ก็ไม่มีอะไรต้องปรับตัว ในเมื่อมาแล้วก็จงสงบใจอยู่ที่ ให้เป็นสุขเถิด ไม่ว่าจะเป็นวิตอยู่ดีกินดี หรือว่าเป็นกัดก้อนเกลือกิน อันที่จริง
ในความคิดของผมก้ไม่ได้แตกต่างอะไรก้น”

ช่อหยว่นเจี้ยงพูดอย่างทอดถอนหายใจว่า: “ตรงนี้ของนายเหมือนกับแม่ของนายทุกประการจริงๆ ตอนที่พวกเราเรียนระดับปริญญาตรี
แม่ของนายไม่เพียงแต่อาศัยความสามารถได้รับทุนการศึกษาทั้งหมดมาเท่านั้น แต่ยังไปทำงานในร้านอาหารนอกโรงเรียนช่วงหลังเลิกเรียน
ทุกวัน ปกติใช้จ่ายก็ประหยัดไม่สุรุยสุร่าย ไม่เคยมเฟือยหรูหรา”

“ฉันจำได้ว่าช่วงนั้น สิ้นสุดทุกภาตการศึกษา แม่ของนายก็จะใช้เงินที่เก็บระหว่างภาคการศึกษาออกไปท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นแบก
กระเป๋าสะพายท่องเที่ยวอย่างประหยัดเงิน เวลานั้นพวกเราก็คิดว่าฐานะทางบ้านของแม่นายยากจนมาก ต่อมาถึงได้รู้ว่า อำนาจของในตระกูล
ของแม่นาย นับได้ว่าเป็นที่สุดของในหมู่คนจีนในโลก…”.

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เธอที่อยู่ในความทรงจำของผม ก็เป็นคนประหยัดจริงๆ ในวันธรรมดาก็จะสอนให้ผมประหยัดห้ามสิ้นเปลืองอยู่
เสมอ ตอนที่ทานอาหารถึงขนาดไม่ให้เหลือข้าวแแต่เมลืตเดียว ตรงนี้ก็เหมือนกับพ่อของผมมากเช่นกัน อันที่จริงพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ค่อย
ใฝ่หาวัตถุสิ่งของอะไรเลย”

เฮ่อหยว่นเจียงก็พูดอย่างเห็นด้วย: “ดังนั้นแม่ของนายและพ่อของนายสามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้ ตอนที่พวกเขาน่จะเป็นความ
สนุกสนานแห่งวัยเยาร์ที่สุด ก็หลุดพันจากการใฝ่หาวัตถุสิ่งของและใฝ่ต่ำ ไม่เหมือนพวกเรา ตอนที่วัยรุ่นทุกวันก็เอาแต่คิดหาเงินเก็บรวบรวม
ทรัพย์สินและให้ได้ชื่อเสียงจอมปลอมมา”

จากนั้น เฮ่อหยว่นเจียงก็ก้าวเข้าไปในร้านอาหารก่อน และทำทำทางเชิญให้กับเย่เฉิน

เย่เฉินรีบตามหลังเขาเข้าไป ในเวลานี้ห้องโถงที่ชั้นหนึ่งของร้านอาหารโกลาหลไปด้วยผู้คนแล้ว

ร้านอาหารท้องถิ่นของเมืองจินหลิง ค่อนช้างคล้ายกับร้านน้ำชาของในเย่นจิง โดยพื้นฐานชั้นหนึ่งก็เป็นห้องโถง วางโต๊ะมากมาย และคน
ก็มากมาย ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงค่อนข้างเสียงดัง แต่ว่าผู้คนจำนวนมากก็ชื่นชอบความรู้สึกยุ่งเหยินแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นตรงกลางของชั้นหนึ่ง ยังมีเวทีเล็กๆ ให้คนมาร้องเล่นงิ้วโตยเฉพาะ ในเวลานี้ มีนักแสดงสองคนกำลังร้องเพลงงิ้วคนซ้นอยู่
บนเวที

หลังจากที่เฮ่อหยว่นเจียงเข้า ก็ชี้ไปที่มันได และพูดกับเย่เฉินว่า: “เย่เฉิน ฉันจองที่นั่งไว้บนชั้นสอง ขั้นบนสะอาดกว่า พวกเราขึ้นไปกัน
เถอะ”

“ครับ”

เดินขึ้นมาถึงชั้นสอง สภาพแวดล้อมก็สะอาดขึ้นเล็กน้อย เมื่อพนักงานคนหนึ่งเห็นสองคนเข้ามา ก็รีบมาถึงตรงหน้า และพูดอย่างสุภาพ:
“ด็อกเตอร์เฮ่อคุณมาแล้วเหรอ!”

เฮ่อหยว่นเจียงพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยังคงเป็นที่นั่งเก่าเหมือนเต้ม ฉันบอกกล่าวกับผู้จัดของพวกคุณไว้แล้ว”

พนักงานพูดว่า: “ผู้จัดการของพวกเราบอกกับฉันแล้ว คุณทั้งสองท่านตามฉันมาเถอะ”

ที่นั่งที่เฮ่อหยวนเจียงเลือก เป็นที่เก้าอี้นั่งงซิดริมหน้าต่าง คือโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กทำจากไม่ซุง คนสามารถนั่งได้ทั้งสี่ด้าน ดังนั้นสองคนจึง
นั่งใกล้หน้าต่างตรงข้ามกัน

เฮ่อหยว่นเจียงยื่นเมนูมาให้หนึ่งเล่ม และพูดกับเย์เฉินว่า: “เย่เฉิน นายมาสั่งอาหาร ดูสิว่าซอบทานอะไรบ้าง”

เย่เฉินโมกมือ และพูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณอาเช่อ คุณมาสั่งเถอะ ผมจะกินได้ทุกอย่างที่คุณสั่ง”

หลังจากที่พูดจบ ทันใดนั้นเขาก็อยู่ที่นั่งไม่ไกลใกล้หน้าต่างที่เหมือนกัน พบว่าร่างที่คุ้นเคยสองร่าง

ทั้งสองร่างนี้คนแก่กับคนหนุ่ม เป็นสองทวดหลานที่เห็น ตอนที่เขากำลังอยู่ในห้องทำงานของเฮ่อหยว่นเจียง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2525

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2525 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 2525

ประตูสัญญาณจินหลิง เป็นแบรนด์อาหารท้องถิ่นขนานแท้ในเมืองจินหลิง อยู่ในเมืองจินหลิงมีหลายสาขา ขายอาหารเมืองจินหลิงแท้ๆ
และเป็นที่ชื่นซอบของคนในท้องถิ่น

มาถึงที่ทางเข้าประตูสัญญาณจินหลิง เฮ่อหยว่นเจียงก็แนะนำให้กับเย่เฉิน: “บรรพบุรุษสามชั่วอายุคนของฉันก็เป็นคนท้องถิ่นในเมืองจิน
หลิงโดยแท้ ตั้งแต่ที่ฉันเกิดมาจนเป็นวัยรุ่น ก็ใช้วิตอยู่ที่เมืองจินหลิงมาโตยตลอด ต่อมาไปเรียนต่อที่สำหรัฐอเมริกา ก็ปักหลักอยู่ที่
สหรัฐอเมริกา ช่วงนี้จากกันมานานหลายสิบปีกลับมาใช้วิตอยู่ ก็รู้สึกในทันทีว่าอาหารของบ้านเกิดช่างเย้ายวนใจเกินไปแล้ว กินยังไงก็ไม่เบื่อ
เม้ว่าโรงอาหรอาจารย์ของโรงเรียนจะมีอาหารหลากหลายให้รับประทานฟรึ ทุกกลางวันฉันยังต้องวิ่งมาทานที่นี่อยู่ดี ได้ทานอาหารเมืองจิน
หลิงแท้ๆคำหนึ่ง”

หลังจากที่พูตจบ เขาถามเฉินว่า: “แต่ว่นายใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจิ้นหลิงมานานหลายปี จะทานจนเบื่อตั้งนานแล้วหรือเปล่า?”

เยเฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “อันที่จริงเรื่องกินผมไม่ค่อยเรื่องมาก ในช่วงสิบปีที่อยู่สถานเลี้ยงเกกำพร้า ซุปใสทุกวัน ผมก็ไม่ได้รู้สึก
ว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม ต่อมาไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง ทุกวันก็น้ำเปล่ากับหมั่นโถวก็รู้สึกว่าไม่เลว”

เฮ่อหยว่นเจิ่ยงถอนหายใจอย่างอดไม่ได้: “ช่วงวิตนายเผชิญมาก่อนอายุแปดปี มีเยงไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถเปรียบเทียบได้ ตก
อยู่ใต้ก้มเหวที่เดียวมานานหลายปีนี้ นายปรับตัวมาได้ยังไง?”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ตอนที่ผมยังเด็กมากพ่อแม่ก็สอนผมว่าไม่ยินดีด้วยเรื่องของวัตถุไม่ทุกข์โศกด้วยเรื่องของตนเอง ดังนั้นสิ่งนี้
สำหรับผม ก็ไม่มีอะไรต้องปรับตัว ในเมื่อมาแล้วก็จงสงบใจอยู่ที่ ให้เป็นสุขเถิด ไม่ว่าจะเป็นวิตอยู่ดีกินดี หรือว่าเป็นกัดก้อนเกลือกิน อันที่จริง
ในความคิดของผมก้ไม่ได้แตกต่างอะไรก้น”

ช่อหยว่นเจี้ยงพูดอย่างทอดถอนหายใจว่า: “ตรงนี้ของนายเหมือนกับแม่ของนายทุกประการจริงๆ ตอนที่พวกเราเรียนระดับปริญญาตรี
แม่ของนายไม่เพียงแต่อาศัยความสามารถได้รับทุนการศึกษาทั้งหมดมาเท่านั้น แต่ยังไปทำงานในร้านอาหารนอกโรงเรียนช่วงหลังเลิกเรียน
ทุกวัน ปกติใช้จ่ายก็ประหยัดไม่สุรุยสุร่าย ไม่เคยมเฟือยหรูหรา”

“ฉันจำได้ว่าช่วงนั้น สิ้นสุดทุกภาตการศึกษา แม่ของนายก็จะใช้เงินที่เก็บระหว่างภาคการศึกษาออกไปท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นแบก
กระเป๋าสะพายท่องเที่ยวอย่างประหยัดเงิน เวลานั้นพวกเราก็คิดว่าฐานะทางบ้านของแม่นายยากจนมาก ต่อมาถึงได้รู้ว่า อำนาจของในตระกูล
ของแม่นาย นับได้ว่าเป็นที่สุดของในหมู่คนจีนในโลก…”.

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เธอที่อยู่ในความทรงจำของผม ก็เป็นคนประหยัดจริงๆ ในวันธรรมดาก็จะสอนให้ผมประหยัดห้ามสิ้นเปลืองอยู่
เสมอ ตอนที่ทานอาหารถึงขนาดไม่ให้เหลือข้าวแแต่เมลืตเดียว ตรงนี้ก็เหมือนกับพ่อของผมมากเช่นกัน อันที่จริงพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ค่อย
ใฝ่หาวัตถุสิ่งของอะไรเลย”

เฮ่อหยว่นเจียงก็พูดอย่างเห็นด้วย: “ดังนั้นแม่ของนายและพ่อของนายสามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้ ตอนที่พวกเขาน่จะเป็นความ
สนุกสนานแห่งวัยเยาร์ที่สุด ก็หลุดพันจากการใฝ่หาวัตถุสิ่งของและใฝ่ต่ำ ไม่เหมือนพวกเรา ตอนที่วัยรุ่นทุกวันก็เอาแต่คิดหาเงินเก็บรวบรวม
ทรัพย์สินและให้ได้ชื่อเสียงจอมปลอมมา”

จากนั้น เฮ่อหยว่นเจียงก็ก้าวเข้าไปในร้านอาหารก่อน และทำทำทางเชิญให้กับเย่เฉิน

เย่เฉินรีบตามหลังเขาเข้าไป ในเวลานี้ห้องโถงที่ชั้นหนึ่งของร้านอาหารโกลาหลไปด้วยผู้คนแล้ว

ร้านอาหารท้องถิ่นของเมืองจินหลิง ค่อนช้างคล้ายกับร้านน้ำชาของในเย่นจิง โดยพื้นฐานชั้นหนึ่งก็เป็นห้องโถง วางโต๊ะมากมาย และคน
ก็มากมาย ดังนั้นสภาพแวดล้อมจึงค่อนข้างเสียงดัง แต่ว่าผู้คนจำนวนมากก็ชื่นชอบความรู้สึกยุ่งเหยินแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นตรงกลางของชั้นหนึ่ง ยังมีเวทีเล็กๆ ให้คนมาร้องเล่นงิ้วโตยเฉพาะ ในเวลานี้ มีนักแสดงสองคนกำลังร้องเพลงงิ้วคนซ้นอยู่
บนเวที

หลังจากที่เฮ่อหยว่นเจียงเข้า ก็ชี้ไปที่มันได และพูดกับเย่เฉินว่า: “เย่เฉิน ฉันจองที่นั่งไว้บนชั้นสอง ขั้นบนสะอาดกว่า พวกเราขึ้นไปกัน
เถอะ”

“ครับ”

เดินขึ้นมาถึงชั้นสอง สภาพแวดล้อมก็สะอาดขึ้นเล็กน้อย เมื่อพนักงานคนหนึ่งเห็นสองคนเข้ามา ก็รีบมาถึงตรงหน้า และพูดอย่างสุภาพ:
“ด็อกเตอร์เฮ่อคุณมาแล้วเหรอ!”

เฮ่อหยว่นเจียงพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยังคงเป็นที่นั่งเก่าเหมือนเต้ม ฉันบอกกล่าวกับผู้จัดของพวกคุณไว้แล้ว”

พนักงานพูดว่า: “ผู้จัดการของพวกเราบอกกับฉันแล้ว คุณทั้งสองท่านตามฉันมาเถอะ”

ที่นั่งที่เฮ่อหยวนเจียงเลือก เป็นที่เก้าอี้นั่งงซิดริมหน้าต่าง คือโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กทำจากไม่ซุง คนสามารถนั่งได้ทั้งสี่ด้าน ดังนั้นสองคนจึง
นั่งใกล้หน้าต่างตรงข้ามกัน

เฮ่อหยว่นเจียงยื่นเมนูมาให้หนึ่งเล่ม และพูดกับเย์เฉินว่า: “เย่เฉิน นายมาสั่งอาหาร ดูสิว่าซอบทานอะไรบ้าง”

เย่เฉินโมกมือ และพูดด้วยรอยยิ้ม: “คุณอาเช่อ คุณมาสั่งเถอะ ผมจะกินได้ทุกอย่างที่คุณสั่ง”

หลังจากที่พูดจบ ทันใดนั้นเขาก็อยู่ที่นั่งไม่ไกลใกล้หน้าต่างที่เหมือนกัน พบว่าร่างที่คุ้นเคยสองร่าง

ทั้งสองร่างนี้คนแก่กับคนหนุ่ม เป็นสองทวดหลานที่เห็น ตอนที่เขากำลังอยู่ในห้องทำงานของเฮ่อหยว่นเจียง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+