ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2882 เห็นคนตายแล้วจะไม่ช่วยไม่ได้นะ

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2882 เห็นคนตายแล้วจะไม่ช่วยไม่ได้นะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้ยินจงเจิ้งทาวขอร้อง แน่นอนว่าเย่ฉางหมิ่นไม่สามารถปฏิเสธได้ เธอจึงกล่าวว่า“คุณรอเดี๋ยวนะ ฉันจะโทรหาเย่เฉินเดี๋ยวนี้แหละ”

จงเจิ้งทาวถอนหายใจเบาๆหนึ่งครั้ง แล้วพูดอย่างสิ้นหวัง“ได้ครับ งั้นรบกวนคุณด้วยนะฉางหมิ่น”

“ไม่เป็นไร”เย่ฉางหมิ่นพูดปลอบใจว่า“เจิ้งทาว คุณอย่าเสียใจไปเลย ฉันคิดว่าจากนิสัยของเทียนหยู่เขาไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่จริงๆนั่นแหละ ไปดัดนิสัยเขาสักสามปีอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้ ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตในวงการบันเทิงต่อไป กลัวว่าจะทำให้เขายิ่งเป็นคนที่มีประโยชน์ได้ยากขึ้น”

จงเจิ้งทาวกล่าวอย่างจริงจัง“เห้อ คุณพูดถูก!ผมบอกเขาตั้งนานแล้วว่าให้เขาอย่าทำเรื่องพวกนี้โดยไม่คิด เจ้าเด็กคนนี้พูดยังไงก็ไม่ฟัง ถ้าเขาไม่เข้าวงการนี้ คงไม่ต้องมีเรื่องอย่างทุกวันนี้……”

เย่ฉางหมิ่นจึงกล่าวว่า“เวลาสามปีจะบอกว่าสั้นมันก็ไม่สั้น จะนานก็ไม่นาน เย่เฉินคงอยากจะแค่ดัดนิสัยของเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะต้องปกป้องเขาแน่นอน คุณอย่าเป็นห่วงเขามากเกินไปนะคะ”

พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็กล่าวว่า“อีกทั้ง พูดจากจริงนะ อันที่จริงเรื่องมันดำเนินมาถึงตอนนี้ บทสรุปสุดท้ายไม่ถือว่าแย่ ขอแค่ปิดเรื่องนี้ให้มิด อย่าให้รั่วไหลออกไป ศักดิ์ศรีของตระกูลจงก็จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่คุณติดต่อกับต้นสังกัดของเขาด้วยนะ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นคนของสาธารณะ จู่ๆหายตัวไปแบบนี้ จะต้องดึงดูดการคาดเดาของผู้คนแน่ๆ ทางที่ดีให้หาเหตุผลที่สมเหตุสมผล บอกกับสาธารณชนด้วย”

จงเจิ้งทาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างสิ้นหวังว่า“งั้นก็ประกาศกับคนภายนอกว่าเขาเตรียมถอนตัวจากวงการเพื่อไปเรียนต่อแล้วกัน เด็กคนนี้วันๆไม่เรียนรู้วิชา ผมคิดจะส่งเขาไปเรียนเมืองนอกสักพัก ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ยุโรป เวลาสามปีเท่านั้น แต่สุดท้ายตีให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมไป ดูตอนนี้สิ ต้องไปอยู่บนเรือสามปี มันต่างจากการไปเรียนวิชาที่ต่างประเทศยังไง?”

เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างปลอบใจ“เอาล่ะ คุณอย่าโมโหไปเลย ฉันคิดว่าวิธีของคุณดีมากเลย เดี๋ยวให้เทียนหยู่ประกาศกับต้นสังกัดของเขา บอกว่าเทียนหยู่ตระหนักได้แล้วว่าการเรียนสำคัญกว่า ประกาศถอนตัวออกจากวงการอย่างเป็นทางการ ยังสามารถให้คนหลงเหลือความทรงจำที่ดีว่าไปเรียนต่างประเทศด้วย”

พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็พูดต่อว่า“ถ้าสามปีนี้ ทำให้เทียนหยู่ปล่อยวางนิสัยคุณชายได้ ก็ถือได้ว่ามีความโชคร้ายในความโชคดี”

จงเจิ้งทาวตอบอืม แล้วกล่าวว่า“ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเยอะเลยครับ”

เย่ฉางหมิ่นหัวเราะ“สบายใจแล้วใช่ไหมคะ?งั้นคืนนี้ฉันจะทำให้ร่างกายคุณสบายเหมือนกัน!”

จงเจิ้งทาวก็รู้สึกหยุบหยิบที่หัวใจ จึงรีบถามว่า“ตอนนี้คุณมีธุระอะไรไหม?ถ้าไม่มีล่ะก็ มาที่บ้านผมไหมล่ะ?เทียนหยู่ไม่อยู่บ้านพอดี”

เย่ฉางหมิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะ“ทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้นด้วย?”

พูดจบ ก็ไม่รอให้จงเจิ้งทาวพูดอะไร เธอก็พูดต่ออย่างเขินๆว่า“ฝั่งฉันใกล้เสร็จแล้วล่ะค่ะ รอฉันแป๊บนะคะ อีกยี่สิบนาทีก็น่าจะถึงบ้านคุณแล้วค่ะ”

จงเจิ้งทาวดีใจมาก จึงรีบพูดว่า“คุณรีบหน่อยนะครับ ผมจะรอคุณที่บ้าน ทานดินเนอร์ที่บ้านผมเสร็จแล้ว ถ้ากลางคืนไม่มีอะไรก็อย่ากลับเลยค้างด้วยกันเนี่ยแหละ”

“ก็ได้ค่ะ”เย่ฉางหมิ่นไม่คิดอะไร แล้วตอบกลับว่า“เอาแบบนี้นะคะ ฉันจะโทรหาเย่เฉินก่อน ดูสิว่าเขาจะให้คุณคุยกับเทียนหยู่ไหม”

“ได้ครับ!”

เย่ฉางหมิ่นวางสาย ด้านหนึ่งก็ให้คนช่วยเธอสวมเสื้อผ้า อีกด้านก็โทรหาเย่เฉิน เธอพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจงว่า“เย่เฉิน เมื่อกี้ฉันคุยกับพ่อของเทียนหยู่แล้วนะ เขาได้ยินว่าจงเทียนหยู่ล่วงเกินขัดแย้งกับนาย ขอโทษด้วยจริงๆนะ ดังนั้นนายจะลงโทษจงเทียนหยู่ เขาไม่มีความเห็นอะไร เนื่องจากเด็กคนนี้ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก อบรมสั่งสอนเขาหน่อยก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”

เย่เฉินคิดไม่ถึงว่า ผู้เป็นอาที่ขอร้องอ้อนวอนให้จงเทียนหยู่ในสายเมื่อครู่ จะเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2882 เห็นคนตายแล้วจะไม่ช่วยไม่ได้นะ

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2882 เห็นคนตายแล้วจะไม่ช่วยไม่ได้นะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้ยินจงเจิ้งทาวขอร้อง แน่นอนว่าเย่ฉางหมิ่นไม่สามารถปฏิเสธได้ เธอจึงกล่าวว่า“คุณรอเดี๋ยวนะ ฉันจะโทรหาเย่เฉินเดี๋ยวนี้แหละ”

จงเจิ้งทาวถอนหายใจเบาๆหนึ่งครั้ง แล้วพูดอย่างสิ้นหวัง“ได้ครับ งั้นรบกวนคุณด้วยนะฉางหมิ่น”

“ไม่เป็นไร”เย่ฉางหมิ่นพูดปลอบใจว่า“เจิ้งทาว คุณอย่าเสียใจไปเลย ฉันคิดว่าจากนิสัยของเทียนหยู่เขาไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่จริงๆนั่นแหละ ไปดัดนิสัยเขาสักสามปีอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็ได้ ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตในวงการบันเทิงต่อไป กลัวว่าจะทำให้เขายิ่งเป็นคนที่มีประโยชน์ได้ยากขึ้น”

จงเจิ้งทาวกล่าวอย่างจริงจัง“เห้อ คุณพูดถูก!ผมบอกเขาตั้งนานแล้วว่าให้เขาอย่าทำเรื่องพวกนี้โดยไม่คิด เจ้าเด็กคนนี้พูดยังไงก็ไม่ฟัง ถ้าเขาไม่เข้าวงการนี้ คงไม่ต้องมีเรื่องอย่างทุกวันนี้……”

เย่ฉางหมิ่นจึงกล่าวว่า“เวลาสามปีจะบอกว่าสั้นมันก็ไม่สั้น จะนานก็ไม่นาน เย่เฉินคงอยากจะแค่ดัดนิสัยของเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะต้องปกป้องเขาแน่นอน คุณอย่าเป็นห่วงเขามากเกินไปนะคะ”

พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็กล่าวว่า“อีกทั้ง พูดจากจริงนะ อันที่จริงเรื่องมันดำเนินมาถึงตอนนี้ บทสรุปสุดท้ายไม่ถือว่าแย่ ขอแค่ปิดเรื่องนี้ให้มิด อย่าให้รั่วไหลออกไป ศักดิ์ศรีของตระกูลจงก็จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่คุณติดต่อกับต้นสังกัดของเขาด้วยนะ เนื่องจากตอนนี้เขาเป็นคนของสาธารณะ จู่ๆหายตัวไปแบบนี้ จะต้องดึงดูดการคาดเดาของผู้คนแน่ๆ ทางที่ดีให้หาเหตุผลที่สมเหตุสมผล บอกกับสาธารณชนด้วย”

จงเจิ้งทาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างสิ้นหวังว่า“งั้นก็ประกาศกับคนภายนอกว่าเขาเตรียมถอนตัวจากวงการเพื่อไปเรียนต่อแล้วกัน เด็กคนนี้วันๆไม่เรียนรู้วิชา ผมคิดจะส่งเขาไปเรียนเมืองนอกสักพัก ไปเรียนต่อปริญญาโทที่ยุโรป เวลาสามปีเท่านั้น แต่สุดท้ายตีให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมไป ดูตอนนี้สิ ต้องไปอยู่บนเรือสามปี มันต่างจากการไปเรียนวิชาที่ต่างประเทศยังไง?”

เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างปลอบใจ“เอาล่ะ คุณอย่าโมโหไปเลย ฉันคิดว่าวิธีของคุณดีมากเลย เดี๋ยวให้เทียนหยู่ประกาศกับต้นสังกัดของเขา บอกว่าเทียนหยู่ตระหนักได้แล้วว่าการเรียนสำคัญกว่า ประกาศถอนตัวออกจากวงการอย่างเป็นทางการ ยังสามารถให้คนหลงเหลือความทรงจำที่ดีว่าไปเรียนต่างประเทศด้วย”

พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็พูดต่อว่า“ถ้าสามปีนี้ ทำให้เทียนหยู่ปล่อยวางนิสัยคุณชายได้ ก็ถือได้ว่ามีความโชคร้ายในความโชคดี”

จงเจิ้งทาวตอบอืม แล้วกล่าวว่า“ได้ยินคุณพูดแบบนี้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเยอะเลยครับ”

เย่ฉางหมิ่นหัวเราะ“สบายใจแล้วใช่ไหมคะ?งั้นคืนนี้ฉันจะทำให้ร่างกายคุณสบายเหมือนกัน!”

จงเจิ้งทาวก็รู้สึกหยุบหยิบที่หัวใจ จึงรีบถามว่า“ตอนนี้คุณมีธุระอะไรไหม?ถ้าไม่มีล่ะก็ มาที่บ้านผมไหมล่ะ?เทียนหยู่ไม่อยู่บ้านพอดี”

เย่ฉางหมิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะ“ทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้นด้วย?”

พูดจบ ก็ไม่รอให้จงเจิ้งทาวพูดอะไร เธอก็พูดต่ออย่างเขินๆว่า“ฝั่งฉันใกล้เสร็จแล้วล่ะค่ะ รอฉันแป๊บนะคะ อีกยี่สิบนาทีก็น่าจะถึงบ้านคุณแล้วค่ะ”

จงเจิ้งทาวดีใจมาก จึงรีบพูดว่า“คุณรีบหน่อยนะครับ ผมจะรอคุณที่บ้าน ทานดินเนอร์ที่บ้านผมเสร็จแล้ว ถ้ากลางคืนไม่มีอะไรก็อย่ากลับเลยค้างด้วยกันเนี่ยแหละ”

“ก็ได้ค่ะ”เย่ฉางหมิ่นไม่คิดอะไร แล้วตอบกลับว่า“เอาแบบนี้นะคะ ฉันจะโทรหาเย่เฉินก่อน ดูสิว่าเขาจะให้คุณคุยกับเทียนหยู่ไหม”

“ได้ครับ!”

เย่ฉางหมิ่นวางสาย ด้านหนึ่งก็ให้คนช่วยเธอสวมเสื้อผ้า อีกด้านก็โทรหาเย่เฉิน เธอพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจงว่า“เย่เฉิน เมื่อกี้ฉันคุยกับพ่อของเทียนหยู่แล้วนะ เขาได้ยินว่าจงเทียนหยู่ล่วงเกินขัดแย้งกับนาย ขอโทษด้วยจริงๆนะ ดังนั้นนายจะลงโทษจงเทียนหยู่ เขาไม่มีความเห็นอะไร เนื่องจากเด็กคนนี้ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก อบรมสั่งสอนเขาหน่อยก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”

เย่เฉินคิดไม่ถึงว่า ผู้เป็นอาที่ขอร้องอ้อนวอนให้จงเทียนหยู่ในสายเมื่อครู่ จะเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+