ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2968 ทางข้างหน้ามืดมนไปหมด

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2968 ทางข้างหน้ามืดมนไปหมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงได้ยินแบบนี้ สองพ่อลูกก็นอนนิ่งอึ้งอยู่บนเตียงเป็นเวลาหลายนาที

เซียวไห่หลงยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก เขาจึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณย่า….คุณย่าคงไม่ได้ล้อผมเล่นหรอกใช่ไหม กำลังแหย่ผมอยู่หรือเปล่า?

“ฉันก็อยากให้มันเป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนกันนั้นแหละ!” นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยพูดอย่างเครียดแค้น “ฉันก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกัน ว่ากุ้ยเหรินคนนั้นของเวยเวยจะเป็นเขา ถ้าเลือกได้ล่ะก็ ฉันยอมให้เป็นคนอื่นดีกว่าเป็นเขาเสียอีก”

เซียวไห่หลงมีสีหน้าสงสัย “แต่….แต่ว่าทำไมเย่เฉินต้องช่วยเวยเวยด้วยล่ะ? ถ้าว่ากันตามเหตุผลเขาแค้นพวกเรา ก็ควรที่จะรอสมน้ำหน้าพวกเราสิ ทำไมต้องช่วยเราด้วยล่ะ?”

เซียวเวยเวยเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “นี่พี่ พี่อย่าเอาความคิดคับแคบไปตัดสินคนอื่นสิ ก็จริงที่พี่เขยเคยโกรธแค้นเรา แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเราไปหาเรื่องครอบครัวของพี่เขยหลายต่อหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นพี่เขยก็ไม่เคยเป็นฝ่ายมาหาเรื่องเราก่อนเลย!”

เซียวไห่หลงพูดอย่างฮึดฮัด “ที่หาเรื่องพวกเขา ก็เพราะว่าพวกเขาเอาแต่ทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรายังไงล่ะ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลยเอาแค่เรื่องเซียวชูหรันก็ได้ ตอนนั้นคุณย่าให้เธอหย่ากับเย่เฉินตั้งแต่แรก แต่เธอไม่เชื่อฟัง ต่อมาพอไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่นิดหน่อย ก็แยกตัวออกจากบริษัทเซี่ยวซื่อไปอาศัยอยู่กันตามลำพัง แล้วไหนจะเซียวฉางควานกับภรรยานั่นอีก ไม่รู้บุญคุณคุณย่าเลยสักนิด แค่คุณย่าจะย้ายไปอยู่ที่บ้านพวกเขาด้วย พวกเขาก็ค้านหัวชนฝา แถมยังส่งตัวคุณย่าเข้าเรือนจำอีก!”

เซียวเวยเวยตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถึงขนาดนี้แล้วทำไมพี่ยังไม่เข้าใจอีก? พี่ไม่เคยสำนึกเลยเหรอว่าที่ผ่านมาเราเป็นฝ่ายผิดทั้งนั้น? ในเมื่อพี่ชูหรันไม่ยอมหย่ากับเย่เฉิน แล้วเรามีสิทธิ์อะไรไปบังคับเธอ? คำว่าแต่งงานได้อย่างอิสระ รักได้อย่างอิสระ คนทั้งประเทศเขารณรงค์กันมาเป็นชาติแล้ว ทำไมพวกเราไม่เคารพการตัดสินใจของพวกเขาล่ะ?”

“ส่วนเรื่องที่พี่ชูหรันแยกตัวออกไปอยู่อาศัยกับครอบครัวตามลำพัง ทำไมเธอถึงเลือกทำอย่างนั้น ในใจพี่ก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ?”

“พี่ชูหรันเป็นฝ่ายขอแบกรับทุกอย่าง เพื่อสัญญาของตี้เหากรุ๊ป ถ้าว่ากันตามเหตุผลคุณย่าก็ควรทำตามสัญญา มอบตำแหน่งประธานให้เธอ แต่ว่าพี่ทำอะไร? พี่พูดให้ร้ายเธอต่อหน้าคุณย่า ซ้ำยังใส่ร้ายป้ายสีว่าเธอเล่นชู้กับจางเหวินเห้า สุดท้ายก็ยุยุงให้คุณย่ายกตำแหน่งประธานให้พี่ แค่ครั้งนั้นก็ถือว่าทำร้ายหัวใจของพี่ชูหรันจนเป็นโพลงไปหมดแล้ว ถ้าเป็นฉันฉันก็ไม่อยู่ที่บริษัทเซียวซื่อต่อหรอก!”

หน้าของเซียวไห่หลงเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดง อยากโต้กลับ แต่กลับหาข้อโต้กลับไม่เจอ ดังนั้นจึงเอ่ยพูดอย่างหน้าด้านๆว่า “เรื่องนี้จะยังไม่พูดถึง มาพูดถึงเรื่องที่พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่ หลังใหญ่โตขนาดนั้น ก็ควรที่จะเชิญคุณย่าไปอยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง?”

“แล้วมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ?” เซียวเวยเวยเอ่ยพูด “ขอพูดอะไรในใจหน่อยนะ คุณย่าไม่ชอบหน้าครอบครัวของพวกเขามาตลอด ไม่ใช่แค่ไม่เคยปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขนะ แต่ยังไปสร้างความไม่สบายใจให้พวกเขาแทบจะวันเว้นวัน แล้วไหนจะไล่พวกเขาออกจากบ้านอีก แล้วทำไมพวกเขาต้องเชิญคุณย่าไปอยู่ที่บ้านด้วยล่ะ? ใจเขาใจเราหน่อย ถ้าพี่เป็นพวกเขา พี่จะทำยังไง?”

แม้ว่านายหญิงใหญ่เซียวจะรู้สึกขัดใจ แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบออกไปตรงๆ เพราะถึงยังไงตอนนี้เซียวเวยเวยก็เป็นเสาหลักของครอบครัว อีกอย่างเมื่อกี้ยังเกือบจะหักหน้าเธอ ตอนนี้จึงไม่กล้าโต้เถียงอีกฝ่าย ดังนั้นจึงทำได้แค่นั่งลงอีกด้านเหมือนคนมีความผิด ไม่พูดไม่จา

เซียวไห่หลงไม่รู้จะโต้กลับคำพูดของเซียวเวยเวยยังไง จึงเอ่ยพูดอย่างหน้าดำหน้าแดง “งั้นก็แปลว่าความแค้นของแม่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ใช่ไหม? เย่เฉินส่งแม่เราไปที่เหมืองถ่านหินดำนะ เรื่องนี้แกให้อภัยเขาได้เหรอ?!”

เซียวเวยเวยย้อนถาม “แล้วพี่ว่า ทำไมเย่เฉินต้องส่งแม่เราไปที่เหมืองถ่านหินดำล่ะ?”

เซียวไห่หลงใบ้รับประทานไปชั่วขณะ

จริงๆแล้วเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ต้นตอของเรื่องนี้คือพ่อแม่เอาแต่ผูกใจเจ็บต่อครอบครัวเย่เฉิน พวกเขาร่วมมือกับคนอื่น เพื่อวางกับดับหม่าหลัน เพียงแต่คาดคิดไม่ถึงว่าจะถูกเย่เฉินช่วยออกมาได้

ดังนั้น ถ้าพูดกันตามตรง เรื่องของแม่ก็คือหาเรื่องใส่ตัวดีๆนี่เอง ต่อให้ตามเช็ดตามล้างแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2968 ทางข้างหน้ามืดมนไปหมด

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2968 ทางข้างหน้ามืดมนไปหมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงได้ยินแบบนี้ สองพ่อลูกก็นอนนิ่งอึ้งอยู่บนเตียงเป็นเวลาหลายนาที

เซียวไห่หลงยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่นัก เขาจึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณย่า….คุณย่าคงไม่ได้ล้อผมเล่นหรอกใช่ไหม กำลังแหย่ผมอยู่หรือเปล่า?

“ฉันก็อยากให้มันเป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนกันนั้นแหละ!” นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยพูดอย่างเครียดแค้น “ฉันก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกัน ว่ากุ้ยเหรินคนนั้นของเวยเวยจะเป็นเขา ถ้าเลือกได้ล่ะก็ ฉันยอมให้เป็นคนอื่นดีกว่าเป็นเขาเสียอีก”

เซียวไห่หลงมีสีหน้าสงสัย “แต่….แต่ว่าทำไมเย่เฉินต้องช่วยเวยเวยด้วยล่ะ? ถ้าว่ากันตามเหตุผลเขาแค้นพวกเรา ก็ควรที่จะรอสมน้ำหน้าพวกเราสิ ทำไมต้องช่วยเราด้วยล่ะ?”

เซียวเวยเวยเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “นี่พี่ พี่อย่าเอาความคิดคับแคบไปตัดสินคนอื่นสิ ก็จริงที่พี่เขยเคยโกรธแค้นเรา แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าเราไปหาเรื่องครอบครัวของพี่เขยหลายต่อหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นพี่เขยก็ไม่เคยเป็นฝ่ายมาหาเรื่องเราก่อนเลย!”

เซียวไห่หลงพูดอย่างฮึดฮัด “ที่หาเรื่องพวกเขา ก็เพราะว่าพวกเขาเอาแต่ทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรายังไงล่ะ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลยเอาแค่เรื่องเซียวชูหรันก็ได้ ตอนนั้นคุณย่าให้เธอหย่ากับเย่เฉินตั้งแต่แรก แต่เธอไม่เชื่อฟัง ต่อมาพอไม่ได้รับความเป็นธรรมแค่นิดหน่อย ก็แยกตัวออกจากบริษัทเซี่ยวซื่อไปอาศัยอยู่กันตามลำพัง แล้วไหนจะเซียวฉางควานกับภรรยานั่นอีก ไม่รู้บุญคุณคุณย่าเลยสักนิด แค่คุณย่าจะย้ายไปอยู่ที่บ้านพวกเขาด้วย พวกเขาก็ค้านหัวชนฝา แถมยังส่งตัวคุณย่าเข้าเรือนจำอีก!”

เซียวเวยเวยตำหนิออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ถึงขนาดนี้แล้วทำไมพี่ยังไม่เข้าใจอีก? พี่ไม่เคยสำนึกเลยเหรอว่าที่ผ่านมาเราเป็นฝ่ายผิดทั้งนั้น? ในเมื่อพี่ชูหรันไม่ยอมหย่ากับเย่เฉิน แล้วเรามีสิทธิ์อะไรไปบังคับเธอ? คำว่าแต่งงานได้อย่างอิสระ รักได้อย่างอิสระ คนทั้งประเทศเขารณรงค์กันมาเป็นชาติแล้ว ทำไมพวกเราไม่เคารพการตัดสินใจของพวกเขาล่ะ?”

“ส่วนเรื่องที่พี่ชูหรันแยกตัวออกไปอยู่อาศัยกับครอบครัวตามลำพัง ทำไมเธอถึงเลือกทำอย่างนั้น ในใจพี่ก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ?”

“พี่ชูหรันเป็นฝ่ายขอแบกรับทุกอย่าง เพื่อสัญญาของตี้เหากรุ๊ป ถ้าว่ากันตามเหตุผลคุณย่าก็ควรทำตามสัญญา มอบตำแหน่งประธานให้เธอ แต่ว่าพี่ทำอะไร? พี่พูดให้ร้ายเธอต่อหน้าคุณย่า ซ้ำยังใส่ร้ายป้ายสีว่าเธอเล่นชู้กับจางเหวินเห้า สุดท้ายก็ยุยุงให้คุณย่ายกตำแหน่งประธานให้พี่ แค่ครั้งนั้นก็ถือว่าทำร้ายหัวใจของพี่ชูหรันจนเป็นโพลงไปหมดแล้ว ถ้าเป็นฉันฉันก็ไม่อยู่ที่บริษัทเซียวซื่อต่อหรอก!”

หน้าของเซียวไห่หลงเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดง อยากโต้กลับ แต่กลับหาข้อโต้กลับไม่เจอ ดังนั้นจึงเอ่ยพูดอย่างหน้าด้านๆว่า “เรื่องนี้จะยังไม่พูดถึง มาพูดถึงเรื่องที่พวกเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่ หลังใหญ่โตขนาดนั้น ก็ควรที่จะเชิญคุณย่าไปอยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง?”

“แล้วมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ?” เซียวเวยเวยเอ่ยพูด “ขอพูดอะไรในใจหน่อยนะ คุณย่าไม่ชอบหน้าครอบครัวของพวกเขามาตลอด ไม่ใช่แค่ไม่เคยปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างสงบสุขนะ แต่ยังไปสร้างความไม่สบายใจให้พวกเขาแทบจะวันเว้นวัน แล้วไหนจะไล่พวกเขาออกจากบ้านอีก แล้วทำไมพวกเขาต้องเชิญคุณย่าไปอยู่ที่บ้านด้วยล่ะ? ใจเขาใจเราหน่อย ถ้าพี่เป็นพวกเขา พี่จะทำยังไง?”

แม้ว่านายหญิงใหญ่เซียวจะรู้สึกขัดใจ แต่ก็ไม่กล้าโต้ตอบออกไปตรงๆ เพราะถึงยังไงตอนนี้เซียวเวยเวยก็เป็นเสาหลักของครอบครัว อีกอย่างเมื่อกี้ยังเกือบจะหักหน้าเธอ ตอนนี้จึงไม่กล้าโต้เถียงอีกฝ่าย ดังนั้นจึงทำได้แค่นั่งลงอีกด้านเหมือนคนมีความผิด ไม่พูดไม่จา

เซียวไห่หลงไม่รู้จะโต้กลับคำพูดของเซียวเวยเวยยังไง จึงเอ่ยพูดอย่างหน้าดำหน้าแดง “งั้นก็แปลว่าความแค้นของแม่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ใช่ไหม? เย่เฉินส่งแม่เราไปที่เหมืองถ่านหินดำนะ เรื่องนี้แกให้อภัยเขาได้เหรอ?!”

เซียวเวยเวยย้อนถาม “แล้วพี่ว่า ทำไมเย่เฉินต้องส่งแม่เราไปที่เหมืองถ่านหินดำล่ะ?”

เซียวไห่หลงใบ้รับประทานไปชั่วขณะ

จริงๆแล้วเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ต้นตอของเรื่องนี้คือพ่อแม่เอาแต่ผูกใจเจ็บต่อครอบครัวเย่เฉิน พวกเขาร่วมมือกับคนอื่น เพื่อวางกับดับหม่าหลัน เพียงแต่คาดคิดไม่ถึงว่าจะถูกเย่เฉินช่วยออกมาได้

ดังนั้น ถ้าพูดกันตามตรง เรื่องของแม่ก็คือหาเรื่องใส่ตัวดีๆนี่เอง ต่อให้ตามเช็ดตามล้างแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+