ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2998

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2998 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่งรั่งหลินได้ยินคำพูดนี้ ก็ตอบอย่างอึดอัดเล็กน้อยว่า “คุณซูคะ แม้ว่าฉันจะมาที่ตี้เหากรุ๊ปได้ปีนึงแล้ว แต่พูดความจริงนะคะ ฉันยังไม่เคยเจอท่านประธานของพวกเรามาก่อนเลย เหมือนว่าเขาจะไม่เคยเข้ามาบริษัทเลย งานของบริษัทล้วนมีคุณหวังตงเสวี่ยนรองประธานหวังรับผิดชอบค่ะ ไม่ก็ฉันช่วยคุณแนะนำให้เธอ?”

“แบบนี้หรอคะ” ซูจือหยูเข้าใจในทันที ดูแล้ว ต่งรั่งหลินไม่รู้ตัวตนสองด้านของเย่เฉิน

คิดถึงนี่ เธอแอบยิ้มในใจ “ต่งรั่งหลินนี่ก็โง่จริงๆ เธอมาต้องมาจินหลิงเพื่อเย่เฉินแน่ๆ แต่มานานขนาดนี้แล้วแม้แต่ตัวตนของเย่เฉินก็ยังไม่รู้….”

ต่งรั่งหลินสังเกตเห็นว่า สายตาที่ซูจือหยูมองตัวเอง ดูแปลกอยู่ไม่มากก็น้อย

เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะมองซูจือหยู แต่เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ต่งรั่งหลินรู้สึกว่าเวลาตัวเองอยู่ต่อหน้าซูจือหยูก็มักรู้สึกกดดันมากอยู่เสมอ ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “งั้น ชูหรัน เย่เฉิน ในเมื่อพวกเธอจะกลับกับคุณซู งั้นฉันก็ไม่ส่งพวกเธอแล้วนะ พี่ชายฉันยังรอฉันอยู่ที่ลานจอดรถ ฉันไปก่อนละ”

พูดจบ เธอก็รีบพูดกับซูจือหยูอีกว่า “คุณซูคะ ฉันไปก่อนนะคะ ขับรถกันช้าๆนะคะ”

ซูจือหยูพยักหน้า แล้วนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบพูดว่า “ใช่สิคุณต่ง ช่วงนี้ฉันน่าจะต้องอยู่ที่เมืองจินหลิง พวกเราสองคนก็ถือได้ว่าเป็นการได้เจอคนรู้จักในพื้นที่ไกลบ้าน ไม่ก็คุณให้ช่องทางติดต่อของคุณไว้ให้กับฉันหน่อยแล้วกันค่ะ ถ้าหากว่ามีเวลาแล้วฉันเลี้ยงข้าวคุณ”

แม้ว่าต่งรั่งหลินจะรู้จักซูจือหยู แต่ถ้าตามระดับแล้ว เธอห่างไกลจากซูจือหยูมากเลยละ

ความแตกต่างของทั้งสองคน เป็นความแตกต่างราวห้ากับเหวที่ว่ถึงแม้จะอยู่ในงานเลี้ยงเดียวกัน ก็ไม่มีทางได้นั่งโต๊ะเดียวกันแบบนั้น ดังนั้นเธอกับซูจือหยูจึงไม่มีช่องทางติดต่อซึ่งกันและกัน และยิ่งไม่เคยกินข้าวด้วยกันเองเป็นการส่วนตัว

ตอนนี้ซูจือหยูเสนอตัวชวนเธอกินข้าวด้วยกัน ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความสนใจอยู่บ้าง

ดังนั้นต่งรั่งหลินแทบจะไม่ลังเลก็ตอบตกลงแล้ว แล้วรีบล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาพูดว่า “ได้สิคะคุณซู ช่วงเวลาที่ฉันมาจินหลิงจะต้องนานกว่าคุณแน่นอน เพราะงั้นฉันเลี้ยงคุณดีกว่าค่ะ ยังไงฉันก็นับเป็นเจ้าถิ่นอยู่ครึ่งหนึ่ง”

ซูจือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิคะ คุณเลี้ยงฉันก่อน แล้ววันหลังฉันค่อยเลี้ยงคุณคืนก็เหมือนกัน”

ต่งรั่งหลินรีบพูดว่า “ได้ค่ะ คุณซู พวกเราสองคนเพิ่มวีแชทกันเถอะ ฉันสแกนคุณเองค่ะ”

ซูจือหยูพยักหน้า ลวงเอาโทรศัพท์ออกมา ค้นหาคิวอาร์โค้ดวีแชทของตัวเอง จากนั้นก็ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของต่งรั่งหลิน

วินาทีที่เพิ่มเพื่อนกับซูจือหยู เบื้องลึกหัวใจของต่งรั่งหลิน มีความตื่นเต้นกระโดดโลดโผนอยู่บ้างจริงๆ

นี่จะโทษว่าเธอหัวสูงไม่ได้ เพราะยังไงซะเธอก็โตมาในสภาพแวดล้อมสังคมระดับสูงของเย่นจิง

ส่วนอำนาจของตระกูลต่ง เทียบกับสังคมระดับสูงของทั้งเย่นจิงแล้ว ก็สามารถอยู่ได้แค่ในระดับกลางถึงล่างเท่านั้น

ดังนั้น คนในระดับอย่างพวกเขา คุ้นชินกับการหาทางรอดในสังคมระดับสูงกันทั้งนั้น และก็จะรักษาโอกาสที่จะสามารถเข้าหาผู้คนระดับสูงอันดับต้นๆในทุกครั้งมากๆ

เพียงแต่ เย่เฉินเห็นว่าซูจือหยูทำตัวดีกับต่งรั่งหลินก่อน และถึงขั้นอยากจะชวนกินข้าวเป็นการส่วนตัว ในใจเกิดความสงสัย ไม่เข้าใจซูจือหยูผู้หญิงคนนี้ว่าอยากจะทำอะไร

เมื่อทั้งสองคนเพิ่มวีแชทกันแล้ว ทุกคนก็เดินมาลานจอดรถด้วยกัน รถของต่งรั่งหลินและรถของซูจือหยูไม่ได้จอดอยู่ในโซนเดียวกัน ดังนั้นจึงโบกมือลากับทั้งสามคนที่ทางเข้าลานจอดรถ

เย่เฉินและเซียวชูหรันตามซูจือหยู หารถของเธอจนเจอ

เย่เฉินไม่คิดเลยว่า ซูจือหยูออกจากบ้านคนเดียว แล้วรถที่ขับจะเป็น Audi Q5 Off-Road ที่ธรรมดาขนาดนี้ ห่างไกลจากฐานะของเธอมากจริงๆ

ซูจือหยูมองดูเย่เฉินและเซียวชูหรัน พูดยิ้มๆว่า “รถไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หวังว่าทั้งสองคนจะไม่รังเกียจนะคะ”

เซียวชูหรันรีบพูดว่า “จะเป็นงั้นได้ไงละคะ นี่มันดีมากแล้วค่ะ!”

ซูจือหยูพูดยิ้มๆว่า “พวกคุณไม่รังเกียจก็ดีแล้วค่ะ งั้นพวกคุณสองสามีภรรยานั่งเบาะหลังแล้วกันค่ะ”

“ค่ะ” เซียชูหรันตอบรับคำหนึ่ง แล้วก็ขึ้นเบาะหลังรถQ5พร้อมกับเย่เฉิน แล้วซูจือหยูก็สตาร์ตรถ ขับรถไปยัง Tomson Riviera

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2998

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2998 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่งรั่งหลินได้ยินคำพูดนี้ ก็ตอบอย่างอึดอัดเล็กน้อยว่า “คุณซูคะ แม้ว่าฉันจะมาที่ตี้เหากรุ๊ปได้ปีนึงแล้ว แต่พูดความจริงนะคะ ฉันยังไม่เคยเจอท่านประธานของพวกเรามาก่อนเลย เหมือนว่าเขาจะไม่เคยเข้ามาบริษัทเลย งานของบริษัทล้วนมีคุณหวังตงเสวี่ยนรองประธานหวังรับผิดชอบค่ะ ไม่ก็ฉันช่วยคุณแนะนำให้เธอ?”

“แบบนี้หรอคะ” ซูจือหยูเข้าใจในทันที ดูแล้ว ต่งรั่งหลินไม่รู้ตัวตนสองด้านของเย่เฉิน

คิดถึงนี่ เธอแอบยิ้มในใจ “ต่งรั่งหลินนี่ก็โง่จริงๆ เธอมาต้องมาจินหลิงเพื่อเย่เฉินแน่ๆ แต่มานานขนาดนี้แล้วแม้แต่ตัวตนของเย่เฉินก็ยังไม่รู้….”

ต่งรั่งหลินสังเกตเห็นว่า สายตาที่ซูจือหยูมองตัวเอง ดูแปลกอยู่ไม่มากก็น้อย

เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะมองซูจือหยู แต่เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ต่งรั่งหลินรู้สึกว่าเวลาตัวเองอยู่ต่อหน้าซูจือหยูก็มักรู้สึกกดดันมากอยู่เสมอ ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “งั้น ชูหรัน เย่เฉิน ในเมื่อพวกเธอจะกลับกับคุณซู งั้นฉันก็ไม่ส่งพวกเธอแล้วนะ พี่ชายฉันยังรอฉันอยู่ที่ลานจอดรถ ฉันไปก่อนละ”

พูดจบ เธอก็รีบพูดกับซูจือหยูอีกว่า “คุณซูคะ ฉันไปก่อนนะคะ ขับรถกันช้าๆนะคะ”

ซูจือหยูพยักหน้า แล้วนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบพูดว่า “ใช่สิคุณต่ง ช่วงนี้ฉันน่าจะต้องอยู่ที่เมืองจินหลิง พวกเราสองคนก็ถือได้ว่าเป็นการได้เจอคนรู้จักในพื้นที่ไกลบ้าน ไม่ก็คุณให้ช่องทางติดต่อของคุณไว้ให้กับฉันหน่อยแล้วกันค่ะ ถ้าหากว่ามีเวลาแล้วฉันเลี้ยงข้าวคุณ”

แม้ว่าต่งรั่งหลินจะรู้จักซูจือหยู แต่ถ้าตามระดับแล้ว เธอห่างไกลจากซูจือหยูมากเลยละ

ความแตกต่างของทั้งสองคน เป็นความแตกต่างราวห้ากับเหวที่ว่ถึงแม้จะอยู่ในงานเลี้ยงเดียวกัน ก็ไม่มีทางได้นั่งโต๊ะเดียวกันแบบนั้น ดังนั้นเธอกับซูจือหยูจึงไม่มีช่องทางติดต่อซึ่งกันและกัน และยิ่งไม่เคยกินข้าวด้วยกันเองเป็นการส่วนตัว

ตอนนี้ซูจือหยูเสนอตัวชวนเธอกินข้าวด้วยกัน ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความสนใจอยู่บ้าง

ดังนั้นต่งรั่งหลินแทบจะไม่ลังเลก็ตอบตกลงแล้ว แล้วรีบล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาพูดว่า “ได้สิคะคุณซู ช่วงเวลาที่ฉันมาจินหลิงจะต้องนานกว่าคุณแน่นอน เพราะงั้นฉันเลี้ยงคุณดีกว่าค่ะ ยังไงฉันก็นับเป็นเจ้าถิ่นอยู่ครึ่งหนึ่ง”

ซูจือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิคะ คุณเลี้ยงฉันก่อน แล้ววันหลังฉันค่อยเลี้ยงคุณคืนก็เหมือนกัน”

ต่งรั่งหลินรีบพูดว่า “ได้ค่ะ คุณซู พวกเราสองคนเพิ่มวีแชทกันเถอะ ฉันสแกนคุณเองค่ะ”

ซูจือหยูพยักหน้า ลวงเอาโทรศัพท์ออกมา ค้นหาคิวอาร์โค้ดวีแชทของตัวเอง จากนั้นก็ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของต่งรั่งหลิน

วินาทีที่เพิ่มเพื่อนกับซูจือหยู เบื้องลึกหัวใจของต่งรั่งหลิน มีความตื่นเต้นกระโดดโลดโผนอยู่บ้างจริงๆ

นี่จะโทษว่าเธอหัวสูงไม่ได้ เพราะยังไงซะเธอก็โตมาในสภาพแวดล้อมสังคมระดับสูงของเย่นจิง

ส่วนอำนาจของตระกูลต่ง เทียบกับสังคมระดับสูงของทั้งเย่นจิงแล้ว ก็สามารถอยู่ได้แค่ในระดับกลางถึงล่างเท่านั้น

ดังนั้น คนในระดับอย่างพวกเขา คุ้นชินกับการหาทางรอดในสังคมระดับสูงกันทั้งนั้น และก็จะรักษาโอกาสที่จะสามารถเข้าหาผู้คนระดับสูงอันดับต้นๆในทุกครั้งมากๆ

เพียงแต่ เย่เฉินเห็นว่าซูจือหยูทำตัวดีกับต่งรั่งหลินก่อน และถึงขั้นอยากจะชวนกินข้าวเป็นการส่วนตัว ในใจเกิดความสงสัย ไม่เข้าใจซูจือหยูผู้หญิงคนนี้ว่าอยากจะทำอะไร

เมื่อทั้งสองคนเพิ่มวีแชทกันแล้ว ทุกคนก็เดินมาลานจอดรถด้วยกัน รถของต่งรั่งหลินและรถของซูจือหยูไม่ได้จอดอยู่ในโซนเดียวกัน ดังนั้นจึงโบกมือลากับทั้งสามคนที่ทางเข้าลานจอดรถ

เย่เฉินและเซียวชูหรันตามซูจือหยู หารถของเธอจนเจอ

เย่เฉินไม่คิดเลยว่า ซูจือหยูออกจากบ้านคนเดียว แล้วรถที่ขับจะเป็น Audi Q5 Off-Road ที่ธรรมดาขนาดนี้ ห่างไกลจากฐานะของเธอมากจริงๆ

ซูจือหยูมองดูเย่เฉินและเซียวชูหรัน พูดยิ้มๆว่า “รถไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หวังว่าทั้งสองคนจะไม่รังเกียจนะคะ”

เซียวชูหรันรีบพูดว่า “จะเป็นงั้นได้ไงละคะ นี่มันดีมากแล้วค่ะ!”

ซูจือหยูพูดยิ้มๆว่า “พวกคุณไม่รังเกียจก็ดีแล้วค่ะ งั้นพวกคุณสองสามีภรรยานั่งเบาะหลังแล้วกันค่ะ”

“ค่ะ” เซียชูหรันตอบรับคำหนึ่ง แล้วก็ขึ้นเบาะหลังรถQ5พร้อมกับเย่เฉิน แล้วซูจือหยูก็สตาร์ตรถ ขับรถไปยัง Tomson Riviera

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 2998

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 2998 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ต่งรั่งหลินได้ยินคำพูดนี้ ก็ตอบอย่างอึดอัดเล็กน้อยว่า “คุณซูคะ แม้ว่าฉันจะมาที่ตี้เหากรุ๊ปได้ปีนึงแล้ว แต่พูดความจริงนะคะ ฉันยังไม่เคยเจอท่านประธานของพวกเรามาก่อนเลย เหมือนว่าเขาจะไม่เคยเข้ามาบริษัทเลย งานของบริษัทล้วนมีคุณหวังตงเสวี่ยนรองประธานหวังรับผิดชอบค่ะ ไม่ก็ฉันช่วยคุณแนะนำให้เธอ?”

“แบบนี้หรอคะ” ซูจือหยูเข้าใจในทันที ดูแล้ว ต่งรั่งหลินไม่รู้ตัวตนสองด้านของเย่เฉิน

คิดถึงนี่ เธอแอบยิ้มในใจ “ต่งรั่งหลินนี่ก็โง่จริงๆ เธอมาต้องมาจินหลิงเพื่อเย่เฉินแน่ๆ แต่มานานขนาดนี้แล้วแม้แต่ตัวตนของเย่เฉินก็ยังไม่รู้….”

ต่งรั่งหลินสังเกตเห็นว่า สายตาที่ซูจือหยูมองตัวเอง ดูแปลกอยู่ไม่มากก็น้อย

เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะมองซูจือหยู แต่เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ต่งรั่งหลินรู้สึกว่าเวลาตัวเองอยู่ต่อหน้าซูจือหยูก็มักรู้สึกกดดันมากอยู่เสมอ ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “งั้น ชูหรัน เย่เฉิน ในเมื่อพวกเธอจะกลับกับคุณซู งั้นฉันก็ไม่ส่งพวกเธอแล้วนะ พี่ชายฉันยังรอฉันอยู่ที่ลานจอดรถ ฉันไปก่อนละ”

พูดจบ เธอก็รีบพูดกับซูจือหยูอีกว่า “คุณซูคะ ฉันไปก่อนนะคะ ขับรถกันช้าๆนะคะ”

ซูจือหยูพยักหน้า แล้วนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบพูดว่า “ใช่สิคุณต่ง ช่วงนี้ฉันน่าจะต้องอยู่ที่เมืองจินหลิง พวกเราสองคนก็ถือได้ว่าเป็นการได้เจอคนรู้จักในพื้นที่ไกลบ้าน ไม่ก็คุณให้ช่องทางติดต่อของคุณไว้ให้กับฉันหน่อยแล้วกันค่ะ ถ้าหากว่ามีเวลาแล้วฉันเลี้ยงข้าวคุณ”

แม้ว่าต่งรั่งหลินจะรู้จักซูจือหยู แต่ถ้าตามระดับแล้ว เธอห่างไกลจากซูจือหยูมากเลยละ

ความแตกต่างของทั้งสองคน เป็นความแตกต่างราวห้ากับเหวที่ว่ถึงแม้จะอยู่ในงานเลี้ยงเดียวกัน ก็ไม่มีทางได้นั่งโต๊ะเดียวกันแบบนั้น ดังนั้นเธอกับซูจือหยูจึงไม่มีช่องทางติดต่อซึ่งกันและกัน และยิ่งไม่เคยกินข้าวด้วยกันเองเป็นการส่วนตัว

ตอนนี้ซูจือหยูเสนอตัวชวนเธอกินข้าวด้วยกัน ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความสนใจอยู่บ้าง

ดังนั้นต่งรั่งหลินแทบจะไม่ลังเลก็ตอบตกลงแล้ว แล้วรีบล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาพูดว่า “ได้สิคะคุณซู ช่วงเวลาที่ฉันมาจินหลิงจะต้องนานกว่าคุณแน่นอน เพราะงั้นฉันเลี้ยงคุณดีกว่าค่ะ ยังไงฉันก็นับเป็นเจ้าถิ่นอยู่ครึ่งหนึ่ง”

ซูจือหยูพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิคะ คุณเลี้ยงฉันก่อน แล้ววันหลังฉันค่อยเลี้ยงคุณคืนก็เหมือนกัน”

ต่งรั่งหลินรีบพูดว่า “ได้ค่ะ คุณซู พวกเราสองคนเพิ่มวีแชทกันเถอะ ฉันสแกนคุณเองค่ะ”

ซูจือหยูพยักหน้า ลวงเอาโทรศัพท์ออกมา ค้นหาคิวอาร์โค้ดวีแชทของตัวเอง จากนั้นก็ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของต่งรั่งหลิน

วินาทีที่เพิ่มเพื่อนกับซูจือหยู เบื้องลึกหัวใจของต่งรั่งหลิน มีความตื่นเต้นกระโดดโลดโผนอยู่บ้างจริงๆ

นี่จะโทษว่าเธอหัวสูงไม่ได้ เพราะยังไงซะเธอก็โตมาในสภาพแวดล้อมสังคมระดับสูงของเย่นจิง

ส่วนอำนาจของตระกูลต่ง เทียบกับสังคมระดับสูงของทั้งเย่นจิงแล้ว ก็สามารถอยู่ได้แค่ในระดับกลางถึงล่างเท่านั้น

ดังนั้น คนในระดับอย่างพวกเขา คุ้นชินกับการหาทางรอดในสังคมระดับสูงกันทั้งนั้น และก็จะรักษาโอกาสที่จะสามารถเข้าหาผู้คนระดับสูงอันดับต้นๆในทุกครั้งมากๆ

เพียงแต่ เย่เฉินเห็นว่าซูจือหยูทำตัวดีกับต่งรั่งหลินก่อน และถึงขั้นอยากจะชวนกินข้าวเป็นการส่วนตัว ในใจเกิดความสงสัย ไม่เข้าใจซูจือหยูผู้หญิงคนนี้ว่าอยากจะทำอะไร

เมื่อทั้งสองคนเพิ่มวีแชทกันแล้ว ทุกคนก็เดินมาลานจอดรถด้วยกัน รถของต่งรั่งหลินและรถของซูจือหยูไม่ได้จอดอยู่ในโซนเดียวกัน ดังนั้นจึงโบกมือลากับทั้งสามคนที่ทางเข้าลานจอดรถ

เย่เฉินและเซียวชูหรันตามซูจือหยู หารถของเธอจนเจอ

เย่เฉินไม่คิดเลยว่า ซูจือหยูออกจากบ้านคนเดียว แล้วรถที่ขับจะเป็น Audi Q5 Off-Road ที่ธรรมดาขนาดนี้ ห่างไกลจากฐานะของเธอมากจริงๆ

ซูจือหยูมองดูเย่เฉินและเซียวชูหรัน พูดยิ้มๆว่า “รถไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หวังว่าทั้งสองคนจะไม่รังเกียจนะคะ”

เซียวชูหรันรีบพูดว่า “จะเป็นงั้นได้ไงละคะ นี่มันดีมากแล้วค่ะ!”

ซูจือหยูพูดยิ้มๆว่า “พวกคุณไม่รังเกียจก็ดีแล้วค่ะ งั้นพวกคุณสองสามีภรรยานั่งเบาะหลังแล้วกันค่ะ”

“ค่ะ” เซียชูหรันตอบรับคำหนึ่ง แล้วก็ขึ้นเบาะหลังรถQ5พร้อมกับเย่เฉิน แล้วซูจือหยูก็สตาร์ตรถ ขับรถไปยัง Tomson Riviera

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+