ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3086

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3086 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซูจือหยูมองแววตาที่แน่วแน่ของเย่เฉิน ก็ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจ   ในเวลานี้ ภายในก้นบึ้งในใจของเธอมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลึกๆ   อันที่จริง เธอก็ทราบว่าเย่เฉินเอ่ยนั้นเป็นความจริง หากไม่เห็นแก่หน้าเธอและซูรั่วหลี พ่อของเธอซูโสว่เต้าก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ที่ซีเรียได้   การที่ไปที่ซีเรียได้นั้น ก็เป็นพระคุณของเย่เฉินแล้ว   ตอนนี้ตนยังไปอ้อนวอนขอให้เย่เฉินถอยให้หนึ่งก้าว ช่างเป็นเรื่องที่เกินสมควรเสียจริง   ดังนั้น เธอจึงเอ่ยกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะผู้มีพระคุณ ฉันผิดเอง ตอนนั้นที่คุณตัดสินใจเรื่องนี้ ฉันก็ยอมรับเงื่อนไขสามปีของคุณแล้ว ไม่ควรที่จะมาขอร้องให้คุณถอยหนึ่งก้าวในเวลานี้…”   เย่เฉินโบกไม้โบกมือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเธอ การที่เธอขอร้องให้เห็นใจเขาก็เป็นเรื่องปกติ”   สิ้นเสียง เขาก็มองเวลา เอ่ยว่า: “เอาล่ะ พูดกันพอเท่านี้เถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว เธอต้องไปเตรียมตัวอีก”   “ค่ะ!” ซูจือหยูพยักหน้า เอ่ยว่า: “เดี๋ยวฉันขอไปทวนบทการแถลงกับคุณอิโตะก่อนสักรอบ”   เย่เฉินในเวลานี้คิดอยู่ในใจว่า: “เห็นทีว่าสองวันนี้ฉันต้องไปซีเรียสักครั้งซะแล้ว!”   เย่เฉินคิดว่า หากตนไปที่ซีเรียนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง   เขาสามารถใช้วิธีกระโดดร่มระดับต่ำเหมือนอย่างครั้งที่แล้วได้ เขาเชื่อว่าจะต้องสามารถผ่านการล้อมของสำนักว่านหลงได้อย่างสบายแน่นอน   ทว่า ถ้าหากเขาต้องการที่จะนำตัวซูโสว่เต้าออกมา ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายโดยสิ้นเชิง   ดังนั้นไปให้เร็วสักหน่อย จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเยอะหน่อย ดูว่าจะมีวิธีการที่ดีอะไรหรือไม่   มิเช่นนั้นหากขัดจังหวะพิธีบูชาบรรพบุรุษไป ไม่สามารถให้ซูโสว่เต้าไปสำนึกผิดต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ได้ แล้วตนจะบอกกับพ่อแม่ตนอย่างไร?   อีกทั้ง อย่างน้อยๆ เย่เฉินก็มีความกังวลใจเล็กน้อย การคุ้มกันของฮามิดจะสามารถต่อต้านการจู่โจมของทหารนับสองหมื่นนายของสำนักว่านหลงได้หรือไม่   หากว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งแล้ว สำนักว่านหลงเห็นว่าการล้อมไว้ไม่สำเร็จ จนไร้สติไป ยอมที่จะชดใช้ด้วยคนนับพันนับหมื่นรายทำลายฮามิดพร้อมกับทหารรัฐบาล เช่นนั้นฮามิดก็ไม่แน่ว่าจะรับไหวจริงๆ   ดังนั้นตนเร่งจัดการสองเรื่องให้เสร็จโดยเร็ว ป้องกันเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก!   ……   เย่เฉินและซูจือหยูมายังห้องรับรองแขกวีไอพีพร้อมกัน อิโตะ นานาโกะ ซ่งหวั่นถิงรวมถึงเฮ่อจือชิว ในเวลานี้ล้วนนั่งกันอยู่บนโซฟา   อิโตะ นานาโกะหยิบใบสคริปต์ขึ้นมา กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเฮ่อจือชิวอยู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา ภายในดวงตาอยู่ๆ ก็มีความชอบผุดขึ้นมา รีบลุกขึ้นมา ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “เย่เฉินซัง คุณมาแล้วเหรอคะ!”   เย่เฉินยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย จากนั้นเฮ่อจือชิวก็ลุกขึ้นตาม พร้อมเอ่ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “คุณเย่ คุณมาแล้วเหรอคะ…”   ซ่งหวั่นถิงเห็นเย่เฉิน ก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน: “อาจารย์เย่คุณมาแล้วเหรอคะ!”   เย่เฉินยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับสาวๆ พร้อมเอ่ยว่า: “อีกสักครู่จะต้องลำบากทุกท่าน จัดงานแถลงข่าวนี้ให้ดีๆ แล้วนะครับ บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดของพวกเรา มีหุ้นส่วนสาวสวยสองคน CEO คนสวยหนึ่งคน แล้วก็ยังมีพาร์ทเนอร์กลยุทธ์หนึ่งคน พวกคุณสาวสวยทั้งสี่คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนเป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน เชื่อว่างานแถลงข่าวในวันนี้จะต้องทำให้ผู้คนตราตรึงไม่ลืมอย่างแน่นอน!”   ซ่งหวั่นถิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ คุณชมพวกเราเกินไปแล้วค่ะ ถ้าจะบอกว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน พวกเขาทั้งสามคนใช่ แต่ว่าฉันอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมกับคำนี้หรอกค่ะ…อีกทั้งวันนี้ฉันก็แค่มาร่วมเป็นตัวประกอบด้วยเท่านั้นเอง ตัวหลักคือพวกเขาสามคนต่างหาก”   อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ยขึ้นทันที: “พี่หวั่นถิงถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ ในพวกเราทั้งสามคน มีแค่พี่คนเดียวที่มีความเป็นกุลสตรี ถ้าจะให้พูดว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน ฉันว่ามีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ!”   ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม: “โธ่ๆ นานาโกะวันเวลาที่เธออยู่ที่หัวเซี่ยนี้ ไม่เรียนรู้อะไรเลย แต่ความสามารถให้การพูดมารยาทในสังคมเนี่ยเยี่ยมยอดจริงๆ เลยนะ!”   อิโตะ นานาโกะกะพริบตาอย่างซุกซน ยิ้มแฉ่งพร้อมเอ่ยว่า: “ครูผู้เลื่องชื่อก่อเกิดศิษย์ผู้สูงส่งนี่คะ เรียนรู้ความสามารถกับพี่หวั่นถิงทั้งวัน แน่นอนว่าฉันจะต้องมีความพัฒนาน่ะสิ!”   เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกคุณเลิกชมกันเองได้แล้ว อีกสักพักถ้าเข้างานแถลงการณ์แล้วยังไม่ปกติแบบนี้ คนภายนอกต้องคิดว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด บริษัทนี้เชื่อถือไม่ได้แน่นอน

ซูจือหยูมองแววตาที่แน่วแน่ของเย่เฉิน ก็ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจ

 

ในเวลานี้ ภายในก้นบึ้งในใจของเธอมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลึกๆ

 

อันที่จริง เธอก็ทราบว่าเย่เฉินเอ่ยนั้นเป็นความจริง หากไม่เห็นแก่หน้าเธอและซูรั่วหลี พ่อของเธอซูโสว่เต้าก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ที่ซีเรียได้

 

การที่ไปที่ซีเรียได้นั้น ก็เป็นพระคุณของเย่เฉินแล้ว

 

ตอนนี้ตนยังไปอ้อนวอนขอให้เย่เฉินถอยให้หนึ่งก้าว ช่างเป็นเรื่องที่เกินสมควรเสียจริง

 

ดังนั้น เธอจึงเอ่ยกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะผู้มีพระคุณ ฉันผิดเอง ตอนนั้นที่คุณตัดสินใจเรื่องนี้ ฉันก็ยอมรับเงื่อนไขสามปีของคุณแล้ว ไม่ควรที่จะมาขอร้องให้คุณถอยหนึ่งก้าวในเวลานี้…”

 

เย่เฉินโบกไม้โบกมือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเธอ การที่เธอขอร้องให้เห็นใจเขาก็เป็นเรื่องปกติ”

 

สิ้นเสียง เขาก็มองเวลา เอ่ยว่า: “เอาล่ะ พูดกันพอเท่านี้เถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว เธอต้องไปเตรียมตัวอีก”

 

“ค่ะ!” ซูจือหยูพยักหน้า เอ่ยว่า: “เดี๋ยวฉันขอไปทวนบทการแถลงกับคุณอิโตะก่อนสักรอบ”

 

เย่เฉินในเวลานี้คิดอยู่ในใจว่า: “เห็นทีว่าสองวันนี้ฉันต้องไปซีเรียสักครั้งซะแล้ว!”

 

เย่เฉินคิดว่า หากตนไปที่ซีเรียนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

 

เขาสามารถใช้วิธีกระโดดร่มระดับต่ำเหมือนอย่างครั้งที่แล้วได้ เขาเชื่อว่าจะต้องสามารถผ่านการล้อมของสำนักว่านหลงได้อย่างสบายแน่นอน

 

ทว่า ถ้าหากเขาต้องการที่จะนำตัวซูโสว่เต้าออกมา ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายโดยสิ้นเชิง

 

ดังนั้นไปให้เร็วสักหน่อย จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเยอะหน่อย ดูว่าจะมีวิธีการที่ดีอะไรหรือไม่

 

มิเช่นนั้นหากขัดจังหวะพิธีบูชาบรรพบุรุษไป ไม่สามารถให้ซูโสว่เต้าไปสำนึกผิดต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ได้ แล้วตนจะบอกกับพ่อแม่ตนอย่างไร?

 

อีกทั้ง อย่างน้อยๆ เย่เฉินก็มีความกังวลใจเล็กน้อย การคุ้มกันของฮามิดจะสามารถต่อต้านการจู่โจมของทหารนับสองหมื่นนายของสำนักว่านหลงได้หรือไม่

 

หากว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งแล้ว สำนักว่านหลงเห็นว่าการล้อมไว้ไม่สำเร็จ จนไร้สติไป ยอมที่จะชดใช้ด้วยคนนับพันนับหมื่นรายทำลายฮามิดพร้อมกับทหารรัฐบาล เช่นนั้นฮามิดก็ไม่แน่ว่าจะรับไหวจริงๆ

 

ดังนั้นตนเร่งจัดการสองเรื่องให้เสร็จโดยเร็ว ป้องกันเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก!

 

……

 

เย่เฉินและซูจือหยูมายังห้องรับรองแขกวีไอพีพร้อมกัน อิโตะ นานาโกะ ซ่งหวั่นถิงรวมถึงเฮ่อจือชิว ในเวลานี้ล้วนนั่งกันอยู่บนโซฟา

 

อิโตะ นานาโกะหยิบใบสคริปต์ขึ้นมา กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเฮ่อจือชิวอยู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา ภายในดวงตาอยู่ๆ ก็มีความชอบผุดขึ้นมา รีบลุกขึ้นมา ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “เย่เฉินซัง คุณมาแล้วเหรอคะ!”

 

เย่เฉินยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย จากนั้นเฮ่อจือชิวก็ลุกขึ้นตาม พร้อมเอ่ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “คุณเย่ คุณมาแล้วเหรอคะ…”

 

ซ่งหวั่นถิงเห็นเย่เฉิน ก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน: “อาจารย์เย่คุณมาแล้วเหรอคะ!”

 

เย่เฉินยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับสาวๆ พร้อมเอ่ยว่า: “อีกสักครู่จะต้องลำบากทุกท่าน จัดงานแถลงข่าวนี้ให้ดีๆ แล้วนะครับ บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดของพวกเรา มีหุ้นส่วนสาวสวยสองคน CEO คนสวยหนึ่งคน แล้วก็ยังมีพาร์ทเนอร์กลยุทธ์หนึ่งคน พวกคุณสาวสวยทั้งสี่คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนเป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน เชื่อว่างานแถลงข่าวในวันนี้จะต้องทำให้ผู้คนตราตรึงไม่ลืมอย่างแน่นอน!”

 

ซ่งหวั่นถิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ คุณชมพวกเราเกินไปแล้วค่ะ ถ้าจะบอกว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน พวกเขาทั้งสามคนใช่ แต่ว่าฉันอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมกับคำนี้หรอกค่ะ…อีกทั้งวันนี้ฉันก็แค่มาร่วมเป็นตัวประกอบด้วยเท่านั้นเอง ตัวหลักคือพวกเขาสามคนต่างหาก”

 

อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ยขึ้นทันที: “พี่หวั่นถิงถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ ในพวกเราทั้งสามคน มีแค่พี่คนเดียวที่มีความเป็นกุลสตรี ถ้าจะให้พูดว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน ฉันว่ามีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ!”

 

ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม: “โธ่ๆ นานาโกะวันเวลาที่เธออยู่ที่หัวเซี่ยนี้ ไม่เรียนรู้อะไรเลย แต่ความสามารถให้การพูดมารยาทในสังคมเนี่ยเยี่ยมยอดจริงๆ เลยนะ!”

 

อิโตะ นานาโกะกะพริบตาอย่างซุกซน ยิ้มแฉ่งพร้อมเอ่ยว่า: “ครูผู้เลื่องชื่อก่อเกิดศิษย์ผู้สูงส่งนี่คะ เรียนรู้ความสามารถกับพี่หวั่นถิงทั้งวัน แน่นอนว่าฉันจะต้องมีความพัฒนาน่ะสิ!”

 

เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกคุณเลิกชมกันเองได้แล้ว อีกสักพักถ้าเข้างานแถลงการณ์แล้วยังไม่ปกติแบบนี้ คนภายนอกต้องคิดว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด บริษัทนี้เชื่อถือไม่ได้แน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3086

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3086 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซูจือหยูมองแววตาที่แน่วแน่ของเย่เฉิน ก็ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจ   ในเวลานี้ ภายในก้นบึ้งในใจของเธอมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลึกๆ   อันที่จริง เธอก็ทราบว่าเย่เฉินเอ่ยนั้นเป็นความจริง หากไม่เห็นแก่หน้าเธอและซูรั่วหลี พ่อของเธอซูโสว่เต้าก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ที่ซีเรียได้   การที่ไปที่ซีเรียได้นั้น ก็เป็นพระคุณของเย่เฉินแล้ว   ตอนนี้ตนยังไปอ้อนวอนขอให้เย่เฉินถอยให้หนึ่งก้าว ช่างเป็นเรื่องที่เกินสมควรเสียจริง   ดังนั้น เธอจึงเอ่ยกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะผู้มีพระคุณ ฉันผิดเอง ตอนนั้นที่คุณตัดสินใจเรื่องนี้ ฉันก็ยอมรับเงื่อนไขสามปีของคุณแล้ว ไม่ควรที่จะมาขอร้องให้คุณถอยหนึ่งก้าวในเวลานี้…”   เย่เฉินโบกไม้โบกมือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเธอ การที่เธอขอร้องให้เห็นใจเขาก็เป็นเรื่องปกติ”   สิ้นเสียง เขาก็มองเวลา เอ่ยว่า: “เอาล่ะ พูดกันพอเท่านี้เถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว เธอต้องไปเตรียมตัวอีก”   “ค่ะ!” ซูจือหยูพยักหน้า เอ่ยว่า: “เดี๋ยวฉันขอไปทวนบทการแถลงกับคุณอิโตะก่อนสักรอบ”   เย่เฉินในเวลานี้คิดอยู่ในใจว่า: “เห็นทีว่าสองวันนี้ฉันต้องไปซีเรียสักครั้งซะแล้ว!”   เย่เฉินคิดว่า หากตนไปที่ซีเรียนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง   เขาสามารถใช้วิธีกระโดดร่มระดับต่ำเหมือนอย่างครั้งที่แล้วได้ เขาเชื่อว่าจะต้องสามารถผ่านการล้อมของสำนักว่านหลงได้อย่างสบายแน่นอน   ทว่า ถ้าหากเขาต้องการที่จะนำตัวซูโสว่เต้าออกมา ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายโดยสิ้นเชิง   ดังนั้นไปให้เร็วสักหน่อย จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเยอะหน่อย ดูว่าจะมีวิธีการที่ดีอะไรหรือไม่   มิเช่นนั้นหากขัดจังหวะพิธีบูชาบรรพบุรุษไป ไม่สามารถให้ซูโสว่เต้าไปสำนึกผิดต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ได้ แล้วตนจะบอกกับพ่อแม่ตนอย่างไร?   อีกทั้ง อย่างน้อยๆ เย่เฉินก็มีความกังวลใจเล็กน้อย การคุ้มกันของฮามิดจะสามารถต่อต้านการจู่โจมของทหารนับสองหมื่นนายของสำนักว่านหลงได้หรือไม่   หากว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งแล้ว สำนักว่านหลงเห็นว่าการล้อมไว้ไม่สำเร็จ จนไร้สติไป ยอมที่จะชดใช้ด้วยคนนับพันนับหมื่นรายทำลายฮามิดพร้อมกับทหารรัฐบาล เช่นนั้นฮามิดก็ไม่แน่ว่าจะรับไหวจริงๆ   ดังนั้นตนเร่งจัดการสองเรื่องให้เสร็จโดยเร็ว ป้องกันเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก!   ……   เย่เฉินและซูจือหยูมายังห้องรับรองแขกวีไอพีพร้อมกัน อิโตะ นานาโกะ ซ่งหวั่นถิงรวมถึงเฮ่อจือชิว ในเวลานี้ล้วนนั่งกันอยู่บนโซฟา   อิโตะ นานาโกะหยิบใบสคริปต์ขึ้นมา กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเฮ่อจือชิวอยู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา ภายในดวงตาอยู่ๆ ก็มีความชอบผุดขึ้นมา รีบลุกขึ้นมา ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “เย่เฉินซัง คุณมาแล้วเหรอคะ!”   เย่เฉินยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย จากนั้นเฮ่อจือชิวก็ลุกขึ้นตาม พร้อมเอ่ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “คุณเย่ คุณมาแล้วเหรอคะ…”   ซ่งหวั่นถิงเห็นเย่เฉิน ก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน: “อาจารย์เย่คุณมาแล้วเหรอคะ!”   เย่เฉินยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับสาวๆ พร้อมเอ่ยว่า: “อีกสักครู่จะต้องลำบากทุกท่าน จัดงานแถลงข่าวนี้ให้ดีๆ แล้วนะครับ บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดของพวกเรา มีหุ้นส่วนสาวสวยสองคน CEO คนสวยหนึ่งคน แล้วก็ยังมีพาร์ทเนอร์กลยุทธ์หนึ่งคน พวกคุณสาวสวยทั้งสี่คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนเป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน เชื่อว่างานแถลงข่าวในวันนี้จะต้องทำให้ผู้คนตราตรึงไม่ลืมอย่างแน่นอน!”   ซ่งหวั่นถิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ คุณชมพวกเราเกินไปแล้วค่ะ ถ้าจะบอกว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน พวกเขาทั้งสามคนใช่ แต่ว่าฉันอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมกับคำนี้หรอกค่ะ…อีกทั้งวันนี้ฉันก็แค่มาร่วมเป็นตัวประกอบด้วยเท่านั้นเอง ตัวหลักคือพวกเขาสามคนต่างหาก”   อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ยขึ้นทันที: “พี่หวั่นถิงถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ ในพวกเราทั้งสามคน มีแค่พี่คนเดียวที่มีความเป็นกุลสตรี ถ้าจะให้พูดว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน ฉันว่ามีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ!”   ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม: “โธ่ๆ นานาโกะวันเวลาที่เธออยู่ที่หัวเซี่ยนี้ ไม่เรียนรู้อะไรเลย แต่ความสามารถให้การพูดมารยาทในสังคมเนี่ยเยี่ยมยอดจริงๆ เลยนะ!”   อิโตะ นานาโกะกะพริบตาอย่างซุกซน ยิ้มแฉ่งพร้อมเอ่ยว่า: “ครูผู้เลื่องชื่อก่อเกิดศิษย์ผู้สูงส่งนี่คะ เรียนรู้ความสามารถกับพี่หวั่นถิงทั้งวัน แน่นอนว่าฉันจะต้องมีความพัฒนาน่ะสิ!”   เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกคุณเลิกชมกันเองได้แล้ว อีกสักพักถ้าเข้างานแถลงการณ์แล้วยังไม่ปกติแบบนี้ คนภายนอกต้องคิดว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด บริษัทนี้เชื่อถือไม่ได้แน่นอน

ซูจือหยูมองแววตาที่แน่วแน่ของเย่เฉิน ก็ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจ

 

ในเวลานี้ ภายในก้นบึ้งในใจของเธอมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลึกๆ

 

อันที่จริง เธอก็ทราบว่าเย่เฉินเอ่ยนั้นเป็นความจริง หากไม่เห็นแก่หน้าเธอและซูรั่วหลี พ่อของเธอซูโสว่เต้าก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ที่ซีเรียได้

 

การที่ไปที่ซีเรียได้นั้น ก็เป็นพระคุณของเย่เฉินแล้ว

 

ตอนนี้ตนยังไปอ้อนวอนขอให้เย่เฉินถอยให้หนึ่งก้าว ช่างเป็นเรื่องที่เกินสมควรเสียจริง

 

ดังนั้น เธอจึงเอ่ยกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะผู้มีพระคุณ ฉันผิดเอง ตอนนั้นที่คุณตัดสินใจเรื่องนี้ ฉันก็ยอมรับเงื่อนไขสามปีของคุณแล้ว ไม่ควรที่จะมาขอร้องให้คุณถอยหนึ่งก้าวในเวลานี้…”

 

เย่เฉินโบกไม้โบกมือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเธอ การที่เธอขอร้องให้เห็นใจเขาก็เป็นเรื่องปกติ”

 

สิ้นเสียง เขาก็มองเวลา เอ่ยว่า: “เอาล่ะ พูดกันพอเท่านี้เถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว เธอต้องไปเตรียมตัวอีก”

 

“ค่ะ!” ซูจือหยูพยักหน้า เอ่ยว่า: “เดี๋ยวฉันขอไปทวนบทการแถลงกับคุณอิโตะก่อนสักรอบ”

 

เย่เฉินในเวลานี้คิดอยู่ในใจว่า: “เห็นทีว่าสองวันนี้ฉันต้องไปซีเรียสักครั้งซะแล้ว!”

 

เย่เฉินคิดว่า หากตนไปที่ซีเรียนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

 

เขาสามารถใช้วิธีกระโดดร่มระดับต่ำเหมือนอย่างครั้งที่แล้วได้ เขาเชื่อว่าจะต้องสามารถผ่านการล้อมของสำนักว่านหลงได้อย่างสบายแน่นอน

 

ทว่า ถ้าหากเขาต้องการที่จะนำตัวซูโสว่เต้าออกมา ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายโดยสิ้นเชิง

 

ดังนั้นไปให้เร็วสักหน่อย จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเยอะหน่อย ดูว่าจะมีวิธีการที่ดีอะไรหรือไม่

 

มิเช่นนั้นหากขัดจังหวะพิธีบูชาบรรพบุรุษไป ไม่สามารถให้ซูโสว่เต้าไปสำนึกผิดต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ได้ แล้วตนจะบอกกับพ่อแม่ตนอย่างไร?

 

อีกทั้ง อย่างน้อยๆ เย่เฉินก็มีความกังวลใจเล็กน้อย การคุ้มกันของฮามิดจะสามารถต่อต้านการจู่โจมของทหารนับสองหมื่นนายของสำนักว่านหลงได้หรือไม่

 

หากว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งแล้ว สำนักว่านหลงเห็นว่าการล้อมไว้ไม่สำเร็จ จนไร้สติไป ยอมที่จะชดใช้ด้วยคนนับพันนับหมื่นรายทำลายฮามิดพร้อมกับทหารรัฐบาล เช่นนั้นฮามิดก็ไม่แน่ว่าจะรับไหวจริงๆ

 

ดังนั้นตนเร่งจัดการสองเรื่องให้เสร็จโดยเร็ว ป้องกันเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก!

 

……

 

เย่เฉินและซูจือหยูมายังห้องรับรองแขกวีไอพีพร้อมกัน อิโตะ นานาโกะ ซ่งหวั่นถิงรวมถึงเฮ่อจือชิว ในเวลานี้ล้วนนั่งกันอยู่บนโซฟา

 

อิโตะ นานาโกะหยิบใบสคริปต์ขึ้นมา กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเฮ่อจือชิวอยู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา ภายในดวงตาอยู่ๆ ก็มีความชอบผุดขึ้นมา รีบลุกขึ้นมา ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “เย่เฉินซัง คุณมาแล้วเหรอคะ!”

 

เย่เฉินยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย จากนั้นเฮ่อจือชิวก็ลุกขึ้นตาม พร้อมเอ่ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “คุณเย่ คุณมาแล้วเหรอคะ…”

 

ซ่งหวั่นถิงเห็นเย่เฉิน ก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน: “อาจารย์เย่คุณมาแล้วเหรอคะ!”

 

เย่เฉินยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับสาวๆ พร้อมเอ่ยว่า: “อีกสักครู่จะต้องลำบากทุกท่าน จัดงานแถลงข่าวนี้ให้ดีๆ แล้วนะครับ บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดของพวกเรา มีหุ้นส่วนสาวสวยสองคน CEO คนสวยหนึ่งคน แล้วก็ยังมีพาร์ทเนอร์กลยุทธ์หนึ่งคน พวกคุณสาวสวยทั้งสี่คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนเป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน เชื่อว่างานแถลงข่าวในวันนี้จะต้องทำให้ผู้คนตราตรึงไม่ลืมอย่างแน่นอน!”

 

ซ่งหวั่นถิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ คุณชมพวกเราเกินไปแล้วค่ะ ถ้าจะบอกว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน พวกเขาทั้งสามคนใช่ แต่ว่าฉันอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมกับคำนี้หรอกค่ะ…อีกทั้งวันนี้ฉันก็แค่มาร่วมเป็นตัวประกอบด้วยเท่านั้นเอง ตัวหลักคือพวกเขาสามคนต่างหาก”

 

อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ยขึ้นทันที: “พี่หวั่นถิงถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ ในพวกเราทั้งสามคน มีแค่พี่คนเดียวที่มีความเป็นกุลสตรี ถ้าจะให้พูดว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน ฉันว่ามีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ!”

 

ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม: “โธ่ๆ นานาโกะวันเวลาที่เธออยู่ที่หัวเซี่ยนี้ ไม่เรียนรู้อะไรเลย แต่ความสามารถให้การพูดมารยาทในสังคมเนี่ยเยี่ยมยอดจริงๆ เลยนะ!”

 

อิโตะ นานาโกะกะพริบตาอย่างซุกซน ยิ้มแฉ่งพร้อมเอ่ยว่า: “ครูผู้เลื่องชื่อก่อเกิดศิษย์ผู้สูงส่งนี่คะ เรียนรู้ความสามารถกับพี่หวั่นถิงทั้งวัน แน่นอนว่าฉันจะต้องมีความพัฒนาน่ะสิ!”

 

เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกคุณเลิกชมกันเองได้แล้ว อีกสักพักถ้าเข้างานแถลงการณ์แล้วยังไม่ปกติแบบนี้ คนภายนอกต้องคิดว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด บริษัทนี้เชื่อถือไม่ได้แน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3086

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3086 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซูจือหยูมองแววตาที่แน่วแน่ของเย่เฉิน ก็ถอนหายใจอยู่ลึกๆ ในใจ

ในเวลานี้ ภายในก้นบึ้งในใจของเธอมีความรู้สึกผิดผุดขึ้นมาลึกๆ

อันที่จริง เธอก็ทราบว่าเย่เฉินเอ่ยนั้นเป็นความจริง หากไม่เห็นแก่หน้าเธอและซูรั่วหลี พ่อของเธอซูโสว่เต้าก็คงไม่มีโอกาสที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ที่ซีเรียได้

การที่ไปที่ซีเรียได้นั้น ก็เป็นพระคุณของเย่เฉินแล้ว

ตอนนี้ตนยังไปอ้อนวอนขอให้เย่เฉินถอยให้หนึ่งก้าว ช่างเป็นเรื่องที่เกินสมควรเสียจริง

ดังนั้น เธอจึงเอ่ยกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิดว่า: “ขอโทษด้วยค่ะผู้มีพระคุณ ฉันผิดเอง ตอนนั้นที่คุณตัดสินใจเรื่องนี้ ฉันก็ยอมรับเงื่อนไขสามปีของคุณแล้ว ไม่ควรที่จะมาขอร้องให้คุณถอยหนึ่งก้าวในเวลานี้…”

เย่เฉินโบกไม้โบกมือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเธอ การที่เธอขอร้องให้เห็นใจเขาก็เป็นเรื่องปกติ”

สิ้นเสียง เขาก็มองเวลา เอ่ยว่า: “เอาล่ะ พูดกันพอเท่านี้เถอะ งานแถลงข่าวใกล้จะเริ่มแล้ว เธอต้องไปเตรียมตัวอีก”

“ค่ะ!” ซูจือหยูพยักหน้า เอ่ยว่า: “เดี๋ยวฉันขอไปทวนบทการแถลงกับคุณอิโตะก่อนสักรอบ”

เย่เฉินในเวลานี้คิดอยู่ในใจว่า: “เห็นทีว่าสองวันนี้ฉันต้องไปซีเรียสักครั้งซะแล้ว!”

เย่เฉินคิดว่า หากตนไปที่ซีเรียนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง

เขาสามารถใช้วิธีกระโดดร่มระดับต่ำเหมือนอย่างครั้งที่แล้วได้ เขาเชื่อว่าจะต้องสามารถผ่านการล้อมของสำนักว่านหลงได้อย่างสบายแน่นอน

ทว่า ถ้าหากเขาต้องการที่จะนำตัวซูโสว่เต้าออกมา ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นคนนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายโดยสิ้นเชิง

ดังนั้นไปให้เร็วสักหน่อย จะได้มีเวลาในการเตรียมตัวเยอะหน่อย ดูว่าจะมีวิธีการที่ดีอะไรหรือไม่

มิเช่นนั้นหากขัดจังหวะพิธีบูชาบรรพบุรุษไป ไม่สามารถให้ซูโสว่เต้าไปสำนึกผิดต่อหน้าสุสานของพ่อแม่ได้ แล้วตนจะบอกกับพ่อแม่ตนอย่างไร?

อีกทั้ง อย่างน้อยๆ เย่เฉินก็มีความกังวลใจเล็กน้อย การคุ้มกันของฮามิดจะสามารถต่อต้านการจู่โจมของทหารนับสองหมื่นนายของสำนักว่านหลงได้หรือไม่

หากว่าหลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งแล้ว สำนักว่านหลงเห็นว่าการล้อมไว้ไม่สำเร็จ จนไร้สติไป ยอมที่จะชดใช้ด้วยคนนับพันนับหมื่นรายทำลายฮามิดพร้อมกับทหารรัฐบาล เช่นนั้นฮามิดก็ไม่แน่ว่าจะรับไหวจริงๆ

ดังนั้นตนเร่งจัดการสองเรื่องให้เสร็จโดยเร็ว ป้องกันเวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก!

……

เย่เฉินและซูจือหยูมายังห้องรับรองแขกวีไอพีพร้อมกัน อิโตะ นานาโกะ ซ่งหวั่นถิงรวมถึงเฮ่อจือชิว ในเวลานี้ล้วนนั่งกันอยู่บนโซฟา

อิโตะ นานาโกะหยิบใบสคริปต์ขึ้นมา กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างกับเฮ่อจือชิวอยู่ เมื่อเห็นเย่เฉินเข้ามา ภายในดวงตาอยู่ๆ ก็มีความชอบผุดขึ้นมา รีบลุกขึ้นมา ยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “เย่เฉินซัง คุณมาแล้วเหรอคะ!”

เย่เฉินยิ้มส่งให้เธอเล็กน้อย จากนั้นเฮ่อจือชิวก็ลุกขึ้นตาม พร้อมเอ่ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย: “คุณเย่ คุณมาแล้วเหรอคะ…”

ซ่งหวั่นถิงเห็นเย่เฉิน ก็ลุกขึ้นพร้อมเอ่ยอย่างสุภาพเช่นเดียวกัน: “อาจารย์เย่คุณมาแล้วเหรอคะ!”

เย่เฉินยิ้มพร้อมพยักหน้าให้กับสาวๆ พร้อมเอ่ยว่า: “อีกสักครู่จะต้องลำบากทุกท่าน จัดงานแถลงข่าวนี้ให้ดีๆ แล้วนะครับ บริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดของพวกเรา มีหุ้นส่วนสาวสวยสองคน CEO คนสวยหนึ่งคน แล้วก็ยังมีพาร์ทเนอร์กลยุทธ์หนึ่งคน พวกคุณสาวสวยทั้งสี่คนไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนเป็นหญิงงามที่สุดในแผ่นดิน เชื่อว่างานแถลงข่าวในวันนี้จะต้องทำให้ผู้คนตราตรึงไม่ลืมอย่างแน่นอน!”

ซ่งหวั่นถิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เอ่ยว่า: “อาจารย์เย่ คุณชมพวกเราเกินไปแล้วค่ะ ถ้าจะบอกว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน พวกเขาทั้งสามคนใช่ แต่ว่าฉันอายุมากแล้ว ไม่เหมาะสมกับคำนี้หรอกค่ะ…อีกทั้งวันนี้ฉันก็แค่มาร่วมเป็นตัวประกอบด้วยเท่านั้นเอง ตัวหลักคือพวกเขาสามคนต่างหาก”

อิโตะ นานาโกะรีบเอ่ยขึ้นทันที: “พี่หวั่นถิงถ่อมตัวเกินไปแล้วค่ะ ในพวกเราทั้งสามคน มีแค่พี่คนเดียวที่มีความเป็นกุลสตรี ถ้าจะให้พูดว่าสาวสวยที่สุดในแผ่นดิน ฉันว่ามีแค่พี่คนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ!”

ซ่งหวั่นถิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม: “โธ่ๆ นานาโกะวันเวลาที่เธออยู่ที่หัวเซี่ยนี้ ไม่เรียนรู้อะไรเลย แต่ความสามารถให้การพูดมารยาทในสังคมเนี่ยเยี่ยมยอดจริงๆ เลยนะ!”

อิโตะ นานาโกะกะพริบตาอย่างซุกซน ยิ้มแฉ่งพร้อมเอ่ยว่า: “ครูผู้เลื่องชื่อก่อเกิดศิษย์ผู้สูงส่งนี่คะ เรียนรู้ความสามารถกับพี่หวั่นถิงทั้งวัน แน่นอนว่าฉันจะต้องมีความพัฒนาน่ะสิ!”

เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกคุณเลิกชมกันเองได้แล้ว อีกสักพักถ้าเข้างานแถลงการณ์แล้วยังไม่ปกติแบบนี้ คนภายนอกต้องคิดว่าบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด บริษัทนี้เชื่อถือไม่ได้แน่นอน

บทที่ 3086

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+