ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3098

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3098 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เฉินคิดว่า หากต้องการให้ตนไปตามหาผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่ามกลางทหารนับหมื่น กระทั่งยังต้องควบคุมทางฝั่งนั้นไว้ด้วย เช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไร อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทางนั้นแซ่อะไรชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อถึงเวลานั้น ในทหารนับหมื่นคน ต่อให้ตนจะสามารถแฝงตัวเข้าไปได้อย่างราบรื่น แต่เกรงว่าไม่ถึงสองวันก็คงตามหาฝ่ายนั้นไม่เจอ พร้อมทั้งยืนยันสถานะของฝั่งนั้นได้ ทว่าเมื่อคิดปัญหานี้ด้วยมุมมองอื่นแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ตนเข้าไปหาเขาโดยตรงเลยก็ได้ ฮามิดได้ยินคำพูดของเย่เฉินแล้ว ก็ตกอกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยว่า: “จะได้ยังไงล่ะเนี่ย? น้องเย่ เรื่องแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ นายจะเข้าไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ยังไง?” เย่เฉินกลับยิ้มด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยว่า: “ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนการเจรจาของคุณ ไปเจรจากับฝ่ายนั้นด้วยความเปิดเผย นี่มันจะอันตรายได้ยังไงกัน? หรือคุณคิดว่าพวกเขาจะฆ่าผมทิ้งงั้นเหรอ?” ฮามิดเอ่ยต่อ: “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา! ตอนนี้ฝ่ายนั้นเกลียดฉันเข้ากระดูก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้นายเป็นตัวระบายความโกรธก็ได้!” เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ไม่หรอกครับ เมื่อพันปีก่อน บรรพบุรุษแต่เก่าของหัวเซี่ยเราเคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองประเทศรบกัน จำต้องมีฝ่ายเจรจาทั้งคู่ อีกทั้งนี่ก็คือหลักการที่ฐานทัพทั่วโลกยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เหมือนกับอนุสัญญาเจนีวา ในเมื่อกำหนดไว้แล้วว่าห้ามจงใจฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสงคราม อย่างนั้นประเทศทั้งหลายก็จะต้องทำตามหลักการพื้นฐานอันนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฟาสซิสต์ทั้งสองที่ไม่ทำตามในกฎเกณฑ์สากลใดๆ สุดท้ายจบลงยังไง เชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ดี” สิ้นเสียง เขาก็เอ่ยขึ้นอีก: “การที่สำนักว่านหลงพัฒนาอาณาเขตมาได้จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางอีก ถ้างั้นในหลักการพื้นฐานเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องยึดมั่นทำตาม” ฮามิดเอ่ย: “แต่ว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมให้ฉันไปเจรจาด้วยนี่นา ตอนนี้ความคิดของพวกเขาก็คือต้องการรบกับฉันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ได้ยินมาว่าพวกเขาได้ประกาศคำพูดข่มขู่มาว่า ขอแค่เป็นคนจากฐานทัพฉัน ต่อให้เป็นเสือหนึ่งตัว พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย” เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายมามากแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอะไร สถานการณ์ที่แท้จริงก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานะทางตันกับคุณแบบนี้ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย” สิ้นเสียง เย่เฉินก็เอ่ยวิเคราะห์ให้ฟังต่อ: “ทางตันแบบนี้ หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายที่ไม่เป็นผลดีจริงๆ ก็คือสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล” ฮามิด เอ่ยด้วยสีหน้ากลุ้มใจ: “น้องชาย อันที่จริงจากใจเลยนะ บางครั้งฉันก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก เวลาในการเตรียมตัวของฉันไม่ได้นานพอ ดังนั้นทรัพยากรเลยยังไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซึ่งมันห่างไกลจากกลยุทธ์เตรียมพร้อมสามปีที่นายต้องการในเมื่อก่อนอยู่มาก อีกทั้งตอนนี้จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว เกือบหมื่นรายที่กินอยู่ที่นี่ จะเพิ่มการสิ้นเปลืองทรัพยากรเร็วขึ้น อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น…” พูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็ถอนหายใจ เอ่ยด้วยความจริงจังว่า: “น้องชาย ถ้าใช้ประโยคหนึ่งของหัวเซี่ยมาบรรยายพี่ ก็คือหมูในอวยนะ!” เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หมูในอวยกลัวอะไร? ขอเพียงอวยมั่นคงพอ ฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายอวยที่มั่นคงนี้ของคุณลงภายในเวลาอันสั้นได้หรอก” สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “อีกทั้ง คุณต้องเข้าใจไว้อย่าง สถานะตอนนี้ของคุณ กับสถานะของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคุณจะถูกขังอยู่ในอวย แต่เดิมทีอวยนี้ก็เป็นรังของคุณ คุณก็แค่ถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น ในบ้านตัวเองมีอาหารการกินเพียบ คุณมีอะไรต้องกลัวอีก? ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัว คุณภาพชีวิตของคุณไม่มีทางที่จะต่ำลงเนื่องจากถูกขังไว้แน่นอน”

เย่เฉินคิดว่า หากต้องการให้ตนไปตามหาผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่ามกลางทหารนับหมื่น กระทั่งยังต้องควบคุมทางฝั่งนั้นไว้ด้วย เช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไร

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทางนั้นแซ่อะไรชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร

เมื่อถึงเวลานั้น ในทหารนับหมื่นคน ต่อให้ตนจะสามารถแฝงตัวเข้าไปได้อย่างราบรื่น แต่เกรงว่าไม่ถึงสองวันก็คงตามหาฝ่ายนั้นไม่เจอ พร้อมทั้งยืนยันสถานะของฝั่งนั้นได้

ทว่าเมื่อคิดปัญหานี้ด้วยมุมมองอื่นแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน

ตนเข้าไปหาเขาโดยตรงเลยก็ได้

ฮามิดได้ยินคำพูดของเย่เฉินแล้ว ก็ตกอกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยว่า: “จะได้ยังไงล่ะเนี่ย? น้องเย่ เรื่องแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ นายจะเข้าไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ยังไง?”

เย่เฉินกลับยิ้มด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยว่า: “ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนการเจรจาของคุณ ไปเจรจากับฝ่ายนั้นด้วยความเปิดเผย นี่มันจะอันตรายได้ยังไงกัน? หรือคุณคิดว่าพวกเขาจะฆ่าผมทิ้งงั้นเหรอ?”

ฮามิดเอ่ยต่อ: “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา! ตอนนี้ฝ่ายนั้นเกลียดฉันเข้ากระดูก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้นายเป็นตัวระบายความโกรธก็ได้!”

เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ไม่หรอกครับ เมื่อพันปีก่อน บรรพบุรุษแต่เก่าของหัวเซี่ยเราเคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองประเทศรบกัน จำต้องมีฝ่ายเจรจาทั้งคู่ อีกทั้งนี่ก็คือหลักการที่ฐานทัพทั่วโลกยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เหมือนกับอนุสัญญาเจนีวา ในเมื่อกำหนดไว้แล้วว่าห้ามจงใจฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสงคราม อย่างนั้นประเทศทั้งหลายก็จะต้องทำตามหลักการพื้นฐานอันนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฟาสซิสต์ทั้งสองที่ไม่ทำตามในกฎเกณฑ์สากลใดๆ สุดท้ายจบลงยังไง เชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ดี”

สิ้นเสียง เขาก็เอ่ยขึ้นอีก: “การที่สำนักว่านหลงพัฒนาอาณาเขตมาได้จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางอีก ถ้างั้นในหลักการพื้นฐานเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องยึดมั่นทำตาม”

ฮามิดเอ่ย: “แต่ว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมให้ฉันไปเจรจาด้วยนี่นา ตอนนี้ความคิดของพวกเขาก็คือต้องการรบกับฉันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ได้ยินมาว่าพวกเขาได้ประกาศคำพูดข่มขู่มาว่า ขอแค่เป็นคนจากฐานทัพฉัน ต่อให้เป็นเสือหนึ่งตัว พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย”

เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายมามากแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอะไร สถานการณ์ที่แท้จริงก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานะทางตันกับคุณแบบนี้ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย”

สิ้นเสียง เย่เฉินก็เอ่ยวิเคราะห์ให้ฟังต่อ: “ทางตันแบบนี้ หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายที่ไม่เป็นผลดีจริงๆ ก็คือสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล”

ฮามิด เอ่ยด้วยสีหน้ากลุ้มใจ: “น้องชาย อันที่จริงจากใจเลยนะ บางครั้งฉันก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก เวลาในการเตรียมตัวของฉันไม่ได้นานพอ ดังนั้นทรัพยากรเลยยังไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซึ่งมันห่างไกลจากกลยุทธ์เตรียมพร้อมสามปีที่นายต้องการในเมื่อก่อนอยู่มาก อีกทั้งตอนนี้จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว เกือบหมื่นรายที่กินอยู่ที่นี่ จะเพิ่มการสิ้นเปลืองทรัพยากรเร็วขึ้น อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น…”

พูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็ถอนหายใจ เอ่ยด้วยความจริงจังว่า: “น้องชาย ถ้าใช้ประโยคหนึ่งของหัวเซี่ยมาบรรยายพี่ ก็คือหมูในอวยนะ!”

เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หมูในอวยกลัวอะไร? ขอเพียงอวยมั่นคงพอ ฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายอวยที่มั่นคงนี้ของคุณลงภายในเวลาอันสั้นได้หรอก”

สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “อีกทั้ง คุณต้องเข้าใจไว้อย่าง สถานะตอนนี้ของคุณ กับสถานะของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคุณจะถูกขังอยู่ในอวย แต่เดิมทีอวยนี้ก็เป็นรังของคุณ คุณก็แค่ถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น ในบ้านตัวเองมีอาหารการกินเพียบ คุณมีอะไรต้องกลัวอีก? ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัว คุณภาพชีวิตของคุณไม่มีทางที่จะต่ำลงเนื่องจากถูกขังไว้แน่นอน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3098

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3098 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เฉินคิดว่า หากต้องการให้ตนไปตามหาผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่ามกลางทหารนับหมื่น กระทั่งยังต้องควบคุมทางฝั่งนั้นไว้ด้วย เช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไร อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทางนั้นแซ่อะไรชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อถึงเวลานั้น ในทหารนับหมื่นคน ต่อให้ตนจะสามารถแฝงตัวเข้าไปได้อย่างราบรื่น แต่เกรงว่าไม่ถึงสองวันก็คงตามหาฝ่ายนั้นไม่เจอ พร้อมทั้งยืนยันสถานะของฝั่งนั้นได้ ทว่าเมื่อคิดปัญหานี้ด้วยมุมมองอื่นแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ตนเข้าไปหาเขาโดยตรงเลยก็ได้ ฮามิดได้ยินคำพูดของเย่เฉินแล้ว ก็ตกอกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยว่า: “จะได้ยังไงล่ะเนี่ย? น้องเย่ เรื่องแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ นายจะเข้าไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ยังไง?” เย่เฉินกลับยิ้มด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยว่า: “ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนการเจรจาของคุณ ไปเจรจากับฝ่ายนั้นด้วยความเปิดเผย นี่มันจะอันตรายได้ยังไงกัน? หรือคุณคิดว่าพวกเขาจะฆ่าผมทิ้งงั้นเหรอ?” ฮามิดเอ่ยต่อ: “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา! ตอนนี้ฝ่ายนั้นเกลียดฉันเข้ากระดูก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้นายเป็นตัวระบายความโกรธก็ได้!” เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ไม่หรอกครับ เมื่อพันปีก่อน บรรพบุรุษแต่เก่าของหัวเซี่ยเราเคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองประเทศรบกัน จำต้องมีฝ่ายเจรจาทั้งคู่ อีกทั้งนี่ก็คือหลักการที่ฐานทัพทั่วโลกยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เหมือนกับอนุสัญญาเจนีวา ในเมื่อกำหนดไว้แล้วว่าห้ามจงใจฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสงคราม อย่างนั้นประเทศทั้งหลายก็จะต้องทำตามหลักการพื้นฐานอันนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฟาสซิสต์ทั้งสองที่ไม่ทำตามในกฎเกณฑ์สากลใดๆ สุดท้ายจบลงยังไง เชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ดี” สิ้นเสียง เขาก็เอ่ยขึ้นอีก: “การที่สำนักว่านหลงพัฒนาอาณาเขตมาได้จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางอีก ถ้างั้นในหลักการพื้นฐานเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องยึดมั่นทำตาม” ฮามิดเอ่ย: “แต่ว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมให้ฉันไปเจรจาด้วยนี่นา ตอนนี้ความคิดของพวกเขาก็คือต้องการรบกับฉันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ได้ยินมาว่าพวกเขาได้ประกาศคำพูดข่มขู่มาว่า ขอแค่เป็นคนจากฐานทัพฉัน ต่อให้เป็นเสือหนึ่งตัว พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย” เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายมามากแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอะไร สถานการณ์ที่แท้จริงก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานะทางตันกับคุณแบบนี้ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย” สิ้นเสียง เย่เฉินก็เอ่ยวิเคราะห์ให้ฟังต่อ: “ทางตันแบบนี้ หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายที่ไม่เป็นผลดีจริงๆ ก็คือสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล” ฮามิด เอ่ยด้วยสีหน้ากลุ้มใจ: “น้องชาย อันที่จริงจากใจเลยนะ บางครั้งฉันก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก เวลาในการเตรียมตัวของฉันไม่ได้นานพอ ดังนั้นทรัพยากรเลยยังไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซึ่งมันห่างไกลจากกลยุทธ์เตรียมพร้อมสามปีที่นายต้องการในเมื่อก่อนอยู่มาก อีกทั้งตอนนี้จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว เกือบหมื่นรายที่กินอยู่ที่นี่ จะเพิ่มการสิ้นเปลืองทรัพยากรเร็วขึ้น อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น…” พูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็ถอนหายใจ เอ่ยด้วยความจริงจังว่า: “น้องชาย ถ้าใช้ประโยคหนึ่งของหัวเซี่ยมาบรรยายพี่ ก็คือหมูในอวยนะ!” เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หมูในอวยกลัวอะไร? ขอเพียงอวยมั่นคงพอ ฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายอวยที่มั่นคงนี้ของคุณลงภายในเวลาอันสั้นได้หรอก” สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “อีกทั้ง คุณต้องเข้าใจไว้อย่าง สถานะตอนนี้ของคุณ กับสถานะของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคุณจะถูกขังอยู่ในอวย แต่เดิมทีอวยนี้ก็เป็นรังของคุณ คุณก็แค่ถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น ในบ้านตัวเองมีอาหารการกินเพียบ คุณมีอะไรต้องกลัวอีก? ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัว คุณภาพชีวิตของคุณไม่มีทางที่จะต่ำลงเนื่องจากถูกขังไว้แน่นอน”

เย่เฉินคิดว่า หากต้องการให้ตนไปตามหาผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่ามกลางทหารนับหมื่น กระทั่งยังต้องควบคุมทางฝั่งนั้นไว้ด้วย เช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไร

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทางนั้นแซ่อะไรชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร

เมื่อถึงเวลานั้น ในทหารนับหมื่นคน ต่อให้ตนจะสามารถแฝงตัวเข้าไปได้อย่างราบรื่น แต่เกรงว่าไม่ถึงสองวันก็คงตามหาฝ่ายนั้นไม่เจอ พร้อมทั้งยืนยันสถานะของฝั่งนั้นได้

ทว่าเมื่อคิดปัญหานี้ด้วยมุมมองอื่นแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน

ตนเข้าไปหาเขาโดยตรงเลยก็ได้

ฮามิดได้ยินคำพูดของเย่เฉินแล้ว ก็ตกอกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยว่า: “จะได้ยังไงล่ะเนี่ย? น้องเย่ เรื่องแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ นายจะเข้าไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ยังไง?”

เย่เฉินกลับยิ้มด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยว่า: “ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนการเจรจาของคุณ ไปเจรจากับฝ่ายนั้นด้วยความเปิดเผย นี่มันจะอันตรายได้ยังไงกัน? หรือคุณคิดว่าพวกเขาจะฆ่าผมทิ้งงั้นเหรอ?”

ฮามิดเอ่ยต่อ: “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา! ตอนนี้ฝ่ายนั้นเกลียดฉันเข้ากระดูก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้นายเป็นตัวระบายความโกรธก็ได้!”

เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ไม่หรอกครับ เมื่อพันปีก่อน บรรพบุรุษแต่เก่าของหัวเซี่ยเราเคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองประเทศรบกัน จำต้องมีฝ่ายเจรจาทั้งคู่ อีกทั้งนี่ก็คือหลักการที่ฐานทัพทั่วโลกยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เหมือนกับอนุสัญญาเจนีวา ในเมื่อกำหนดไว้แล้วว่าห้ามจงใจฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสงคราม อย่างนั้นประเทศทั้งหลายก็จะต้องทำตามหลักการพื้นฐานอันนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฟาสซิสต์ทั้งสองที่ไม่ทำตามในกฎเกณฑ์สากลใดๆ สุดท้ายจบลงยังไง เชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ดี”

สิ้นเสียง เขาก็เอ่ยขึ้นอีก: “การที่สำนักว่านหลงพัฒนาอาณาเขตมาได้จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางอีก ถ้างั้นในหลักการพื้นฐานเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องยึดมั่นทำตาม”

ฮามิดเอ่ย: “แต่ว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมให้ฉันไปเจรจาด้วยนี่นา ตอนนี้ความคิดของพวกเขาก็คือต้องการรบกับฉันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ได้ยินมาว่าพวกเขาได้ประกาศคำพูดข่มขู่มาว่า ขอแค่เป็นคนจากฐานทัพฉัน ต่อให้เป็นเสือหนึ่งตัว พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย”

เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายมามากแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอะไร สถานการณ์ที่แท้จริงก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานะทางตันกับคุณแบบนี้ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย”

สิ้นเสียง เย่เฉินก็เอ่ยวิเคราะห์ให้ฟังต่อ: “ทางตันแบบนี้ หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายที่ไม่เป็นผลดีจริงๆ ก็คือสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล”

ฮามิด เอ่ยด้วยสีหน้ากลุ้มใจ: “น้องชาย อันที่จริงจากใจเลยนะ บางครั้งฉันก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก เวลาในการเตรียมตัวของฉันไม่ได้นานพอ ดังนั้นทรัพยากรเลยยังไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซึ่งมันห่างไกลจากกลยุทธ์เตรียมพร้อมสามปีที่นายต้องการในเมื่อก่อนอยู่มาก อีกทั้งตอนนี้จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว เกือบหมื่นรายที่กินอยู่ที่นี่ จะเพิ่มการสิ้นเปลืองทรัพยากรเร็วขึ้น อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น…”

พูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็ถอนหายใจ เอ่ยด้วยความจริงจังว่า: “น้องชาย ถ้าใช้ประโยคหนึ่งของหัวเซี่ยมาบรรยายพี่ ก็คือหมูในอวยนะ!”

เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หมูในอวยกลัวอะไร? ขอเพียงอวยมั่นคงพอ ฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายอวยที่มั่นคงนี้ของคุณลงภายในเวลาอันสั้นได้หรอก”

สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “อีกทั้ง คุณต้องเข้าใจไว้อย่าง สถานะตอนนี้ของคุณ กับสถานะของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคุณจะถูกขังอยู่ในอวย แต่เดิมทีอวยนี้ก็เป็นรังของคุณ คุณก็แค่ถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น ในบ้านตัวเองมีอาหารการกินเพียบ คุณมีอะไรต้องกลัวอีก? ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัว คุณภาพชีวิตของคุณไม่มีทางที่จะต่ำลงเนื่องจากถูกขังไว้แน่นอน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3098

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3098 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เย่เฉินคิดว่า หากต้องการให้ตนไปตามหาผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่ามกลางทหารนับหมื่น กระทั่งยังต้องควบคุมทางฝั่งนั้นไว้ด้วย เช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นไปได้เท่าไร
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้โดยสิ้นเชิงว่า ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทางนั้นแซ่อะไรชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร
เมื่อถึงเวลานั้น ในทหารนับหมื่นคน ต่อให้ตนจะสามารถแฝงตัวเข้าไปได้อย่างราบรื่น แต่เกรงว่าไม่ถึงสองวันก็คงตามหาฝ่ายนั้นไม่เจอ พร้อมทั้งยืนยันสถานะของฝั่งนั้นได้
ทว่าเมื่อคิดปัญหานี้ด้วยมุมมองอื่นแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน
ตนเข้าไปหาเขาโดยตรงเลยก็ได้
ฮามิดได้ยินคำพูดของเย่เฉินแล้ว ก็ตกอกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยว่า: “จะได้ยังไงล่ะเนี่ย? น้องเย่ เรื่องแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ นายจะเข้าไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ยังไง?”
เย่เฉินกลับยิ้มด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยว่า: “ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนการเจรจาของคุณ ไปเจรจากับฝ่ายนั้นด้วยความเปิดเผย นี่มันจะอันตรายได้ยังไงกัน? หรือคุณคิดว่าพวกเขาจะฆ่าผมทิ้งงั้นเหรอ?”
ฮามิดเอ่ยต่อ: “ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา! ตอนนี้ฝ่ายนั้นเกลียดฉันเข้ากระดูก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้นายเป็นตัวระบายความโกรธก็ได้!”
เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “ไม่หรอกครับ เมื่อพันปีก่อน บรรพบุรุษแต่เก่าของหัวเซี่ยเราเคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองประเทศรบกัน จำต้องมีฝ่ายเจรจาทั้งคู่ อีกทั้งนี่ก็คือหลักการที่ฐานทัพทั่วโลกยึดมั่นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เหมือนกับอนุสัญญาเจนีวา ในเมื่อกำหนดไว้แล้วว่าห้ามจงใจฆ่าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในสงคราม อย่างนั้นประเทศทั้งหลายก็จะต้องทำตามหลักการพื้นฐานอันนี้ เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฟาสซิสต์ทั้งสองที่ไม่ทำตามในกฎเกณฑ์สากลใดๆ สุดท้ายจบลงยังไง เชื่อว่าคุณก็น่าจะรู้ดี”
สิ้นเสียง เขาก็เอ่ยขึ้นอีก: “การที่สำนักว่านหลงพัฒนาอาณาเขตมาได้จนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังต้องการตั้งรกรากอยู่ที่ตะวันออกกลางอีก ถ้างั้นในหลักการพื้นฐานเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องยึดมั่นทำตาม”
ฮามิดเอ่ย: “แต่ว่าพวกเขาก็ไม่อาจจะยอมให้ฉันไปเจรจาด้วยนี่นา ตอนนี้ความคิดของพวกเขาก็คือต้องการรบกับฉันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย ได้ยินมาว่าพวกเขาได้ประกาศคำพูดข่มขู่มาว่า ขอแค่เป็นคนจากฐานทัพฉัน ต่อให้เป็นเสือหนึ่งตัว พวกเขาก็จะไม่ยอมปล่อย”
เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “พวกเขาพูดคำพูดที่โหดร้ายมามากแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอะไร สถานการณ์ที่แท้จริงก็คือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานะทางตันกับคุณแบบนี้ มันไม่เป็นประโยชน์อะไรกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย”
สิ้นเสียง เย่เฉินก็เอ่ยวิเคราะห์ให้ฟังต่อ: “ทางตันแบบนี้ หากมองผิวเผินก็ดูเหมือนจะไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณ แต่ความจริงแล้ว ฝ่ายที่ไม่เป็นผลดีจริงๆ ก็คือสำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล”
ฮามิด เอ่ยด้วยสีหน้ากลุ้มใจ: “น้องชาย อันที่จริงจากใจเลยนะ บางครั้งฉันก็ไม่มีความมั่นใจเท่าไรนัก เวลาในการเตรียมตัวของฉันไม่ได้นานพอ ดังนั้นทรัพยากรเลยยังไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซึ่งมันห่างไกลจากกลยุทธ์เตรียมพร้อมสามปีที่นายต้องการในเมื่อก่อนอยู่มาก อีกทั้งตอนนี้จำนวนคนก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว เกือบหมื่นรายที่กินอยู่ที่นี่ จะเพิ่มการสิ้นเปลืองทรัพยากรเร็วขึ้น อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น…”
พูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็ถอนหายใจ เอ่ยด้วยความจริงจังว่า: “น้องชาย ถ้าใช้ประโยคหนึ่งของหัวเซี่ยมาบรรยายพี่ ก็คือหมูในอวยนะ!”
เย่เฉินยิ้ม เอ่ยว่า: “หมูในอวยกลัวอะไร? ขอเพียงอวยมั่นคงพอ ฝ่ายนั้นก็ไม่มีทางที่จะทำลายอวยที่มั่นคงนี้ของคุณลงภายในเวลาอันสั้นได้หรอก”
สิ้นเสียง เย่เฉินเอ่ยขึ้นอีกว่า: “อีกทั้ง คุณต้องเข้าใจไว้อย่าง สถานะตอนนี้ของคุณ กับสถานะของพวกเขานั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง แม้ว่าคุณจะถูกขังอยู่ในอวย แต่เดิมทีอวยนี้ก็เป็นรังของคุณ คุณก็แค่ถูกขังอยู่ในบ้านของตัวเองเท่านั้น ในบ้านตัวเองมีอาหารการกินเพียบ คุณมีอะไรต้องกลัวอีก? ไม่ใช่แค่ไม่ต้องกลัว คุณภาพชีวิตของคุณไม่มีทางที่จะต่ำลงเนื่องจากถูกขังไว้แน่นอน”

บทที่ 3098

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+