ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3107

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3107 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!” เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?” “โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!” …… หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้ ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า “น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่!” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที” ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?” เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน” ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!”

เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?”

“โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!”

……

หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว

เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่

เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง

เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน

ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย

ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา

ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง

ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง

คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้

ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ

แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า “น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่!”

เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที”

ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?”

เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน”

ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3107

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3107 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!” เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?” “โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!” …… หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่ เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้ ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า “น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่!” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที” ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!” หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?” เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน” ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!”

เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?”

“โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!”

……

หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว

เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่

เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง

เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน

ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย

ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา

ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง

ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง

คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้

ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ

แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า “น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่!”

เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที”

ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?”

เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน”

ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 3107

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 3107 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ว่านพั่วจวินกัดฟันและกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งแข็งกร้าวกับกองกำลังของรัฐบาลมากนัก ในเมื่อพวกเขาต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด งั้นคุณควรมีส่วนร่วมในรายละเอียดเฉพาะของการเจรจาสงบศึกคราวนี้ด้วย เป็นการดีที่สุดถ้าคุณสามารถชะลอจังหวะและความคืบหน้าของการเจรจาสงบศึก แต่ถ้ากองกำลังของรัฐบาลตัดสินใจแล้ว คุณต้องแสดงท่าทีไม่ประนีประนอมทันที และให้ทหารของพวกเราเฝ้าอยู่ที่นั่น รอจนกว่าผมจะทำสิ่งสำคัญที่นี่เสร็จก่อนแล้วค่อยไปแก้ปัญหาทางโน้น!”
เฉินจงเหล่ยทำได้เพียงตกลงและกล่าวว่า “งั้นตอนบ่ายผมจะไปพบคนของฮามิดก่อน เพื่อดูว่าทัศนคติของพวกเขาว่าเป็นอย่างไร?”
“โอเค” ว่านพั่วจวินกำชับ “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องถ่วงเวลาฮามิดและกองกำลังของรัฐบาล และอย่าปล่อยให้พวกเขาตกลงกันเป็นการส่วนตัว ถ้ากองกำลังของรัฐบาลรอไม่ได้อยากจะถอนตัว บอกพวกเขาว่าผมว่านพั่วจวินใช้ชื่อเสียงของตนเองรับประกัน ไม่ว่าฮามิดจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธปัจจัยสำรองมากแค่ไหน ผมจะกำจัดเขาก่อนสิ้นเดือนเมษายน ผมเชื่อว่าพวกเขาเคยได้ยินถึงความสามารถของผม!”
……
หลังจากเฉินจงเหล่ยตกลงที่จะเจรจาสงบศึก คนกลางก็รายงานข่าวดังกล่าวไปยังฮามิดอย่างรวดเร็ว
เวลาสำหรับการเจรจาสงบศึกถูกกำหนดไว้ที่เวลา 15.00 น. ของวันนี้ สำหรับสถานที่การเจรจาสงบศึกนั้นอยู่ที่ค่ายทหารที่เฉินจงเหล่ยและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลประจำการอยู่
เพียงแต่อีกฝ่ายไม่ได้แจ้งพิกัดตำแหน่งเฉพาะของสถานที่ประจำการ แต่ให้พิกัดสถานที่รับส่งแก่ฮามิด และขอให้นักบินของฮามิดส่งผู้แทนเจรจาไปยังสถานที่รับส่งก่อน จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาจะพาคนผู้แทนเจรจาไปสถานที่เจรจาเอง
เย่เฉินรู้แรงจูงใจที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างชัดเจน พวกเขากลัวว่าตำแหน่งของผู้นำจะรั่วไหล และเกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นฮามิดจะยิงกระสุนปืนใหญ่ไปที่พิกัดนั้นโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่คัดค้าน
ฮามิดยังเรียกร้องเงื่อนไขสามข้อกับอีกฝ่าย
ประการแรก ที่โต๊ะเจรจา นอกเหนือจากผู้แทนเจรจาของตนเองแล้ว สำนักว่านหลงและกองทัพของรัฐบาลจะต้องส่งผู้บัญชาการระดับสูงสุดของพวกเขามาเจรจามิฉะนั้นพวกเขาจะถูกยกเลิกการเจรจา
ประการที่สอง ผู้แทนเจรจาของตนเองจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกจากฐานทัพของตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นเฮลิคอปเตอร์จะถอดอาวุธและกระสุนทั้งหมดออก และอีกฝ่ายต้องสัญญาอย่างชัดเจนว่าทหารทั้งหมดจะไม่ยิงเฮลิคอปเตอร์ของฝ่ายตนเอง
ประการที่สาม ไม่ว่าผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องไม่ทำร้ายผู้แทนเจรจาของตนเอง
คำขอทั้งสามข้อของเขานั้นสมเหตุสมผล ดังนั้นจึงได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
เวลา 14.30 น. เย่เฉินสวมชุดลายพรางและหน้ากากอนามัย เตรียมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฮามิดเพื่อไปยังสถานที่รับส่งที่ตกลงกับอีกฝ่ายไว้
ฮามิดกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เฉินเป็นอย่างมาก เพราะกลัวว่าเย่เฉินจะประสบเคราะห์กรรมหลังจากเข้าไปในถ้ำเสือ
แต่เมื่อเย่เฉินได้ตัดสินใจแล้ว เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถโน้มน้าวเย่เฉินได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งเย่เฉินไปที่เฮลิคอปเตอร์และกล่าวอย่างจริงใจว่า “น้องชาย ดูแลตนเองด้วย ผมจะรอคุณกลับมาอยู่ที่นี่!”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวราบเรียบว่า “หลังจากผมไปแล้ว มัดซูโสว่เต้าเอาไว้ และเมื่อผมกลับมาแล้วผมจะพาเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์และจากไปทันที”
ฮามิดรีบกล่าวว่า “โอเค น้องชาย คุณวางใจเถอะ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
หลังจากกล่าวจบ ฮามิดก็ถามเขาอีกครั้งว่า “น้องชาย หลังจากคุณควบคุมพญาหมาป่าเนตรเขียวได้แล้ว คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?”
เย่เฉินกล่าวโดยไม่ลังเล “เมื่อถึงเวลานั้นผมจะพาเขาไปด้วย แต่มันอาจจะทำให้คุณลำบากเล็กน้อย เพราะสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีนี้กับคุณอย่างแน่นอน”
ฮามิดกล่าวอย่างไม่แยแสว่า “ผมได้ฆ่าทหารของสำนักว่านหลงไปแล้ว 2,500 คน และถ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนก็ไม่เป็นไร!”

บทที่ 3107

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+