ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน 68 เซียวไห่หลงเสแสร้งแกล้งทำ

Now you are reading ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน Chapter 68 เซียวไห่หลงเสแสร้งแกล้งทำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 68 เซียวไห่หลงเสแสร้งแกล้งทำ

เมื่อเห็นเซียวไห่หลงโทรมา ต่งรั่งหลินไม่อยากรับสายเท่าไหร่

เธอไม่รู้สึกดีอะไรกับเซียวไห่หลง อีกทั้ง เธอมองแรงจูงใจของเซียวไห่หลงออก เขาอยากตีสนิทกับตน เพื่อดึงดูดความสนใจจากตน

แต่ว่า ตนไม่ได้รู้สึกสนใจคนแบบนี้จริงๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสาย

ทว่าเซียวไห่หลงกลับไม่ยอมแพ้ หลังจากโทรติดต่อกันหลายครั้ง ต่งรั่งหลินจึงรับสายด้วยความจนปัญญา เอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก:“ไห่หลง คุณมีธุระ?"

เซียวไห่หลงรีบพูด:“รั่งหลิง ผมได้ยินว่าคุณย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแล้ว?"

ต่งรั่งหลินถามด้วยความสงสัย:“ทำไมข่าวของคุณถึงไวจริงๆนะคะ?"

เซียวไห่หลงยิ้ม:“ผมมีเพื่อนหลายคนทำงานที่ตี้เหากรุ๊ปของคุณ บอกว่าได้รับประกาศใหม่จากบริษัท ดังนั้นจึงบอกผม"

"อื้ม" ต่งรั่งหลินพูด:“ใช่ค่ะย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแล้ว"

"ยินดีด้วยนะครับ!” เซียวไห่หลงพูดด้วยความดีใจ:“ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ มีอนาคตก้าวไกล!ครั้งนี้โชคดีของคุณมาถึงแล้วจริงๆครับ!"

ต่งรั่งหลินพูดเสียงเรียบ:“ขอบคุณ"

เซียวไห่หลงพูดขึ้นอีก:“รั่งหลิน คุณดูสิ คุณมาเมืองจินหลิงได้สักพักแล้ว ก่อนหน้านั้นตอนอยู่ที่เทียนเซียงฝู่ ทะเลาะกันไม่ดีเท่าไหร่ เพื่อแสดงความเสียใจของผม ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณ ประจวบเหมาะวันนี้คุณย้ายตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เป็นวันที่ดี ควรจะฉลองสักหน่อย คุณคิดว่ายังไงครับ?"

ต่งรั่งหลินเอ่ยปากพูดปฏิเสธ:“แต่ว่าวันนี้ฉันอาจจะต้องทำงานล่วงเวลา……"

เซียวไห่หลงพูด:“รั่งหลิน เรื่องดีๆก็ต้องฉลองให้ทันเวลาสิครับ ไม่อย่างนั้น วันพรุ่งนี้ก็ไม่รู้สึกถึงความสุขนี้แล้ว คุณเองก็ไม่มีเพื่อนในเมืองจินหลินเท่าไหร่ ผมว่าพวกเราสองคนไปฉลองด้วยกันดีกว่า ไม่ต้องเรียกคนอื่น เงียบหน่อย คุณคิดว่ายังไงครับ?"

ต่งรั่งหลินหวั่นไหวเล็กน้อย

พูดตามจริง เธออยากจะฉลองมากจริงๆ

แต่ว่า เซียวชูหรันไม่มา เธอจึงไม่รู้จะไปฉลองกับใคร

ตอนนี้เซียวไห่หลงเป็นฝ่ายโทรมาเอง ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่มีอยู่ของตน

ถึงแม้เซียวไห่หลงคนนี้จะหน้าซื่อใจคดไปสักหน่อย แต่ฉลองสองคน ดีกว่าฉลองหนึ่งคน

เมื่อคิดได้แบบนี้ ต่งรั่งหลินจึงพูด:“ถ้าอย่างนั้นคุณส่งที่อยู่มาให้ฉันนะคะ"

"ครับ ผมจองร้านอาหารจินหลิงไว้แล้ว หลังจากที่คุณไปถึง แจ้งชื่อผมก็พอแล้วครับ"

ต่งรั่งหลินพยักหน้า พูด:“ค่ะ เดี๋ยวฉันไป"

……

ต่งรั่งหลินออกจากบริษัท นั่งรถไปยังร้านอาหารจินหลิง

ถึงแม้ที่นี่จะไม่สามารถเทียบกับเทียนเซียงฝู่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารหรูในเมืองจินหลิง

เซียวไห่หลงในตอนนี้สวมชุดสูท เซทผม ยืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างมีสง่า รอต่งรั่งหลิน

เพียงแต่ ในมือของเขามีผ้าพันแผล ทำลายบุคลิกที่เขาพยายามสร้างขึ้นมา

ต่งรั่งหลินแต่งกายด้วยชุดไปรเวท สวมกางเกงยีนส์ ใบหน้าอ่อนเยาว์สดใส ตอนที่เธอเดินลงมาจากรถยนต์ ดึงดูดทุกสายตาให้หันไปมอง

เซียวไห่หลงรู้สึกเป็นเกียรติมาก รีบเดินไปต้อนรับ พร้อมกับพูด:“รั่งหลิน วันนี้คุณสวยมากเลยครับ เชิญเข้าครับ ทุกอย่างเตรียมเอาไว้หมดแล้ว"

"ขอบคุณค่ะ" ต่งรั่งหลินยิ้มตามมารยาท

เมื่อทั้งสองนั่งลง อาหารก็เสิร์ฟจนครบอย่างรวดเร็ว

เซียวไห่หลงบอกให้บริกรเปิดไวน์แดงชั้นดี พูดแสดงความยินดี:“รั่งหลิน วันนี้เป็นวันที่ดี ไม่ว่ายังไงก็ต้องดื่มไวน์ฉลองกันหน่อย!”

ต่งรั่งหลินรีบพูด:“ไม่ดื่มไวน์แล้วค่ะ ดื่มแค่น้ำผลไม้ก็พอแล้วมั้ง"

"ได้ยังไงครับ!”

เดิมทีเซียวไห่หลงยังอยากอาศัยโอกาสนี้มอมเหล้าต่งรั่งหลิน ดูว่าจะมีโอกาสลงมือหรือเปล่า ทว่าสุดท้ายต่งรั่งหลินกลับปฏิเสธในการดื่ม ทำให้เขาผิดหวังมาก

ต่งรั่งหลินผายมือพร้อมกับพูด:“ขอโทษด้วยนะคะไห่หลง ฉันไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ไม่อยากดื่มจริงๆ คราวหน้ามีโอกาสค่อยดื่มนะคะ"

ความเป็นจริง ต่งรั่งหลินพอจะเดาออกว่าเซียวไห่หลงมีจุดประสงค์อะไร อีกทั้งเธอรู้จักปกป้องตนเองสูง ดังนั้นจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด คืนนี้ไม่มีวันดื่มกับเซียวไห่หลงอย่างแน่นอน

เซียวไห่หลงเห็นว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเธอได้ ภายในใจรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าออกมา จึงพูดขึ้น:“ไม่ดื่มก็ไม่ดื่มครับ พวกเราดื่มน้ำผลไม้ก็เหมือนกัน"

ต่งรั่งหลินพยักหน้า:“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ!”

ในเวลาเดียว นั่งอยู่โต๊ะด้านข้างพวกเขา ชายหนุ่มที่มีบุคลิกอ่อนโยน จ้องมองต่งรั่งหลินไม่หยุด

ตั้งแต่ต่งรั่งหลินเดินเข้ามา เขาก็ถูกหน้าตาและบุคลิกของต่งรั่งหลินดึงดูด

ในสายตาของเขา ผู้หญิงคนนี้สวยมาก อีกทั้งยังมีบุคลิกที่ไม่ธรรมดา เป็นนางฟ้าลงมาจุติชัดๆ!

มองอย่างพิจารณาครู่หนึ่ง เมื่อพบว่าหญิงสาวกับผู้ชายที่นั่งตรงข้ามเธอดูเหมือนจะไม่ใช่แฟนกัน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจ จะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือเด็ดขาด

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มเหยียดตัวลุกขึ้น เดินไปที่โต๊ะของต่งรั่งหลินและเซียวไห่หลง พูดกับต่งรั่งหลิน:“คุณครับ ตั้งแต่คุณเดินเข้ามาในร้านอาหาร ผมก็ตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น ไม่รู้ว่าคุณพอจะให้ช่องทางติดต่อกับผมหน่อยได้ไหมครับ?"

ต่งรั่งหลินตะลึงงัน

คิดไม่ถึงว่า มากินข้าวที่นี่ จะถูกจีบ

เซียวไห่หลงเองก็โมโหเป็นอย่างมาก

ให้ตายสิ คนโง่โผล่มาจากไหน? ไม่เห็นหรอว่าตนกำลังจีบเธออยู่? ถึงได้กล้ามาจีบผู้หญิงของตน มันกำลังรนหาที่ตายใช่ไหม?

ด้วยเหตุนี้ ไม่รอต่งรั่งหลินพูด เขาก็พูดเสียงเย็นยะเยือก:“คุณเป็นใครครับ? มาป่วนที่โต๊ะของเราทำไม?"

ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ:“ผมคุยกับคุณผู้หญิงคนนี้ เกี่ยวอะไรกับคุณครับ?"

พูดจบ เขาก็พูดกับต่งรั่งหลิน:“คุณครับ เมื่อกี้ผมจ้องมองคุณมานานแล้ว เดิมทีไม่อยากเสียมารยาทเข้ามารบกวน แต่เพราะผมหวั่นไหวกับคุณมากจริงๆ กลัวว่าจะพลาดโอกาสนี้ ดังนั้นได้โปรดอภัยให้ผมด้วยนะครับ"

เวลานี้เซียวไห่หลงโมโหทันที!

ให้ตายสิ เชี้ยอะไรเนี่ย ถึงได้กล้าแย่งผู้หญิงของตน?

ด้วยเหตุนี้เขาจึงด่าหยาบทันที:“ผมขอเตือนคุณ ถ้ารู้จักคิดก็ไสหัวไปไกลๆ! หากคุณยังกล้าพูดมากหรือแอบมอง ผมจะควักลูกตาของคุณออกมา!”

ชายหนุ่มหันไปมองต่งรั่งหลิน เอ่ยถาม:“แฟนหรอครับ?"

ต่งรั่งหลินส่ายหน้า

ชายหนุ่มจึงหันไปทางเซียวไห่หลง พูด:“ในเมื่อคุณไม่ใช่แฟนของเธอ ถ้าอย่างนั้นผมสารภาพรักกับคุณคนสวย คงไม่เกี่ยวกับคุณมั้งครับ?"

เซียวไห่หลงหัวเราะเย็นยะเยือก พูด:“ผมไม่ชอบการที่คุณมองเธอ คุณก็มองไม่ได้!”

ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วเอ่ยพูด:“ดูเหมือนคุณจะเก่งมาก?"

เซียวไห่หลงหัวเราะในลำคอ:“ไอ้หนุ่ม ฉันคือคนตระกูลเซียว รู้ตัวก็ไสหัวไปไกลๆ อย่าหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว!”

ภายในใจของต่งรั่งหลินรู้สึกแย่เล็กน้อย

หนึ่งเธอไม่ชอบการสารภาพตรงๆของชายหนุ่มคนนี้

สองเธอไม่ชอบท่าทีเหมือนตนเองใหญ่ที่สุดของเซียวไห่หลง

เวลานี้ สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปทันที จ้องมองเซียวไห่หลงแล้วพูดเสียงเย็นยะเยือก:“ตระกูลเซียวเป็นแค่เชี้ยอะไร? แล้วคุณเป็นแค่ตัวอะไร? ผมขอเตือน อย่ามาเสแสร้งกับผม ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณเดินเข้ามา นอนออกไป!”

เซียวไห่หลงกัดฟันแน่น ภายในใจโมโหอย่างมาก

คนอะไรก็กล้าแสแสร้งกับตนจนหมด!

เลี้ยงข้าวต่งรั่งหลินครั้งแรก ตนก็ขายหน้า ถ้าครั้งนี้ตนไม่ลงมือให้เขาเห็นสักหน่อย ขายหน้าต่อหน้าต่งรั่งหลินอีกครั้ง คิดจะจีบเธอคงเป็นไปไม่ได้แล้ว

เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาไม่พูดอะไร คว้าขวดไวน์บนโต๊ะ ตะโกนด่าเสียงดัง:“มึงมัวแต่พล่ามอะไรอยู่!รนหาที่ตายนะมึง!”

พูดจบ ขวดไวน์กระแทกลงไปบนศีรษะของชายหนุ่ม!

เพล้งเสียงดังขึ้น กระแทกลงไปจนอีกฝ่ายเลือดออก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด