ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา 17

Now you are reading ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา Chapter 17 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.17 – อดีตหัวหน้าที่เป็นเหมือนพี่สาว

Translator : Reheikichi / Author

[ ไม่เจอกันนานนะทรูเอท ]

คริสยิ้มขณะที่เห็นผมเดินผ่านประตูโรงเรียนมา

[ เพราะคริส ผมถึงถูกเรียกว่าคนน่าสงสัยจนได้ ]

[ หมายถึงเรื่องอะไรนะ? ]

ผมไม่ได้ต้องการคำตอบกลับมาอยู่แล้ว

และคริสก็ไม่ได้ตอบเพราะเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องล้อเธอเล่น

[ แล้ว? มาทำอะไรล่ะ? ]

[ อาร๊ะ? ถ้าไม่มีธุระก็มาหาไม่ได้เหรอ? ]

[ ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก… ]

จนถึงตอนนี้พอเจอหน้ากันก็จะมีภารกิจตลอด ดังนั้นจึงคิดหนักใจเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้

เพราะผมไม่คุ้นเคยในการคุยเรื่องไร้สาระกับคริส จากนั้นคริสก็พลางถอนหายใจเล็กๆ

[ แค่มาดูเฉยๆ ว่าสนุกกับชีวิตในโรงเรียนรึเปล่านะ ]

[ …. เป็นห่วงสินะ ]

[ เพราะฉันต้องรับผิดชอบที่แนะนำโรงเรียนนี้ให้… แต่คิดว่าคงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะมั้ง เมื่อกี้เห็นเดินกับเด็กผู้หญิงน่ารักด้วยนี่นา หรือว่าจะเป็นแฟนงั้นเหรอ หืม? ]

คริสเอามือป้องปากและหัวเราะดูสนุก

ตลอดมาคริสชอบกวนประสาทผมแบบนี้เสมอ ไม่เปลี่ยนไปเลยแฮะ

[ อย่างที่รู้นั้นแหละ ผมชอบผู้หญิงอายุมากกว่า ]

[ อ อะ อายุมากกว่า? ฉะ ฉันที่อายุยี่สิบแล้วก็ด้วยนะสิ? ]

[ ไม่รู้สิน้า ]

ผมไม่รู้อายุจริงๆ ของคริส แต่มีข่าวลือจากในองค์กรว่าอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ยังไงก็เถอะ คนเราจะปลอมแปลงข้อมูลมันง่ายนิดเดียว เป็นไปได้ว่านั่นอาจจะไม่ใช่อายุที่แท้จริงของคริสก็ได้

[ ชีวิตในโรงเรียนของผมก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ได้อยู่ในแผนกสามัญตามที่ต้องการและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ]

[ เหรอ… ถ้าแบบนั้นก็ดี ว่าแต่หาเพื่อนได้บ้างรึยัง? ]

[ อ่อ เมื่อไม่นานนี้ก็เพิ่งไปจีบสาวกับเพื่อนมานะ ]

[ จะ จีบสาว!? นี่นายไปทำอะไรที่โรงเรียนกันเนี่ย!? ]

[ คริส ดูเหมือนผมจะมีพรสวรรค์ในการจีบสาวอย่างไม่น่าเหลือเชื่อเลยล่ะ ]

[ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนนะ! ฉันชักจะไม่ทันแล้ว ว่ามันเรื่องอะไร! ]

เมื่อก่อนผมไม่เคยใช้ชีวิตตามใจตัวเองเลย จึงไม่รู้ว่าเมื่อก่อนนิสัยของตัวเองเป็นยังไงกันแน่… แต่ตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าตัวผมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เรื่องปกคอเสื้อยับที่เอลิเซียบอกนั่นก็ถือเป็นหลักฐานแสดงได้หนึ่งที่บอกว่าผมเปลี่ยนไป

[ ก็นะ คนเราน่ะเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนไปด้วย ผมเองก็สนุกกับการเปลี่ยนไปอยู่เช่นกัน ]

[ เอ่อ… ยังไงก็แล้วแต่… ช่วยอย่าไปจีบสาวอีกนะ…? ไม่งั้นฉันคงเสียใจแน่ที่แนะนำนายให้ไปโรงเรียน ]

อันที่จริงเพราะผมมีคดีหนึ่งกับมิเซ่อยู่ ดังนั้นคงไม่จีบสาวอีกแล้ว

[ อา… แล้วหลังจากนั้นก็มีเรื่องนิดหน่อย ]

เมื่อคริสเห็นว่าผมจะกลับเข้าเรื่อง

จึงปาดเหงื่อบนหน้าผาก พลางถอนหายใจ

[ ในหมู่นักเรียนมีข่าวลือว่า [ มีการแจกตั้วเข้าแผนกผู้กล้าให้กับลูกของพวกขุนนาง ตอบแทนเรื่องสนับสนุนเงินทุน ] เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? ]

[  ….ใช่ แต่ฉันเองก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานนี้เอง… เพราะอยากเข้าแผนกผู้กล้าได้ ทางตระกูลจะโดนมองอย่างดูดีมากกว่าและจำนวนที่ส่งลูกๆ มาเข้าก็มากขึ้น ทำให้มีการเลือกปฏิบัติอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยมีการมองว่าสอบเข้าเป็นเพียงฉากหน้าโดยไม่ได้สนใจการสอบเข้าเลย… ไม่สิ อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ]

[ …โลกนี้ใช่ว่าจะเท่าเทียมสินะ ]

[ อา เรื่องนั้นก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ]

คริสพูดอย่างเหนื่อยหน่าย

ยังไงก็เถอะ ตอนนี้คริสกำลังทำอะไรอยู่นะ?

[ แล้วคริสล่ะ ตอนนี้ไม่เป็นไรเหรอ? ]

ผมถามคริสด้วยความเป็นห่วง

[ ก็ไม่เป็นไรหรอก งานที่ทำก็เหมือนกับงานเมื่อก่อน… แต่คงบอกไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน ]

ซึ่งเป็นการบอกนัยๆ ว่างานที่ทำอยู่เป็นขององค์กร “เบื้องหลัง”

ผมพลางนึกถึงองค์กร

[ …ยังไงก็เป็นองค์กรเบื้องหลังเหมือนเดิมสินะ ]

[ …อืม ]

คริสหลบสายตาขณะที่ตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

ในองค์กรพิเศษของเรานั้น ยังสังกัดอยู่กับองค์กรแม่อื่นอยู่อีก

――หน่วยข้อมูลป้องกันราชอาณาจักร

พูดง่ายๆ ก็คือองค์กรที่ขจัดความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ ….. เป็นองค์กรเพื่อปกป้องประเทศ

แม้จะไม่มีจอมมารแล้วก็ตาม บนโลกเราก็ยังเต็มไปด้วยความขัดแย้งอยู่อีกมากมาย

หน่วยป้องกันราชอาณาจักรมีหน้าที่สืบข้อมูล เป็นหน่วยข่าวกองของประเทศ

ภารกิจส่วนใหญ่จะเป็นการสืบข่าว แต่หากจำเป็นก็มีงานลอบสังหารสมาชิกคนสำคัญของประเทศอื่น บางกรณีก็ภารกิจลับๆ ภายในประเทศ

เดิมทีองค์กรของผม เด็กที่ถูกเลี้ยงในองค์กรก็ต้องไปสังกัดหน่วยนี้ด้วย

ไม่ต้องมีเหตุผลใด หน่วยข้อมูลป้องกันราชอาณาจักรภายในก็เป็นหน่วยที่รับแต่งานสกปรกเหมือนกับองค์กรเก่าของเขา กำจัด ทรมาน และจับกุม

ผมนั้นถูกเลือกมาอยู่ในองค์กรเลยทันที แต่ได้ยินว่าคนอื่นๆ จะเคยเป็นสมาชิกของหน่วยนี้มาก่อน

[ ต่อจากจอมมาร คราวนี้ก็เป็นมนุษย์ที่อยู่ฝั่งศัตรูสินะ? ดูไม่น่าจะใช่งานที่จะมีความสุขเลยแฮะ ]

[ ก็จริง… ฉันเองก็เกลียดงานนี้ ที่ทุกวันต้องเอาแต่ระแวงผู้คน ]

เพราะบทสนทนาของเราเริ่มจะเครียดขึ้น คริสจึงเงยหน้าขึ้นและได้เปลี่ยนเรื่องคุย

[ พูดก็พูดเถอะ รู้ตัวบ้างไหมทรูเอท ว่าในองค์กรอื่นน่ะนายดังมากเลยนะ ]

[ ดัง? ถ้าขาดคนผมก็พร้อมจะรับงานให้ได้นะ… แต่ถ้ามากๆ ก็ไม่ไหว ]

[ งานแต่ละอย่างก็มีแต่ไร้สาระทั้งนั้นแหละ แล้ว [ คทาสไนเปอร์ ] ของรักของทรูเอทก็ยังอยู่ในการควบคุมขององค์กรอยู่เลย ]

[ งั้นเหรอ… จะว่าไป คทาอันนั้นใครรับช่วงต่อล่ะ? ]

[ ยังไม่มีใครรับช่วงต่อหรอก พูดตามตรงไม่มีคนใช้มันได้มากกว่า… เดิมทีมันก็เป็นของที่ถูกสร้างมาเพื่อทรูเอทเท่านั้นล่ะนะ ]

ผมจึงถามคริสออกไปต่อสิ่งที่กังวลอยู่มาตลอด

[ คริส… ช่วยตอบมาตามตรงทีสิ ที่จริงหลังจากยุบองค์กรแล้ว ผมก็ยังต้องไปสังกัดอยู่หน่วยนั้นสินะ? ]

คริสทำใบหน้าลำบากใจ แต่หลังจากนั้นก็ตอบออกมา

[ ใช่ ถูกต้องแล้ว แต่ฉันปฏิเสธไปเพราะเหตุผลอย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ ]

[ …. ไม่งั้นผมคงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระสินะ ]

คริสพยักหน้า

อย่างที่คิดไว้ ผมเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในโลก “เบื้องหลัง”

บางทีคงจะอยู่ในโลก “เบื้องหลัง” จนตาย แต่คริสก็หาทางแหวกช่องโหว่อันน้อยนิดให้กว้างและให้ผมหนีออกมาจนได้ แม้ผมจะไม่รู้ว่าปลายทางนี้มีอะไรรออยู่ ถึงอย่างนั้น… ผมก็เชื่อ ว่าการได้เข้าเรียนก็ดีใจมากแล้ว

[ ขอบคุณ… ต้องขอบคุณคริสจริงๆ ]

[ ด้วยความยินดี ]

[ ถ้าคริสอายุไม่ห่างจากผมมาก คงจะขอแต่งงานไปแล้วล่ะ ]

[ ไม่ห่างมาก!! นี่คิดว่าฉันอายุเท่าไหร่กันยะ!? ]

คริสทำหน้าโกรธ

แต่จู่ๆ เธอก็กลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งและหยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อ มันคือ “กระเป๋าสื่อสาร” คริสใส่พลังเวทและเริ่มคุยกับใครบางคน

หลังจากคุยจบ เธอก็มองมายังผมด้วยสายตาจริงจัง

[ ขอโทษด้วยแต่เวลาพักหมดซะแล้ว ฉันคงต้องกลับไปทำงานแล้วล่ะ ]

[ แล้วงานคราวนี้ที่ทำเป็นงานแบบไหนนะ? แต่ถ้าตอบไม่ได้ ก็ไม่ต้องตอบหรอกนะ… ]

[ อืมม.. ก็นะ แต่จะบอกให้ก็ไม่เสียหายหรอกงานคราวนี้น่ะนะ ไม่นานนี้ท่านโรเบิร์ต เทอร์แกรนด์ลูกชายคนที่สองของดยุคพร้อมกับภาคีอัศวินที่เป็นคนคุ้มกันจะมาที่เมืองหลวง เลยได้รับภารกิจให้ไปคุ้มกัน คราวนี้เลยไม่ใช่งานสกปรก แต่เป็นงาน”เอาใจ(เลียแข้งเลียขา)” ซะมากกว่า ]

[ คุ้มกัน… งานแบบนั้นไม่ใช่ของอัศวินเหรอ? ]

[ ท่านโรเบิร์ตกังวล เพราะโลกมันไม่สงบสุขทันทีหรอกหลังจบสงคราม จึงไม่รู้ว่าตนจะปลอดภัยรึไม่… ก็แค่คุ้มกันระหว่างทางเท่านั้น พอมาถึงเมืองหลวงก็หมดหน้าที่แล้วล่ะ ]

คริสพูดด้วยท่าทางรำคาญ

[ แต่ทำไมภาคีอัศวินถึงมาอยู่ที่เมืองหลวงได้ล่ะ? ]

[ เรื่องนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ …. แต่ฉันคิดว่าน่าจะมีงานใหญ่อีกไม่นานนี้แน่ รอคอยไปแล้วกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งเลยล่ะ ]

คริสตอบผมกลับมาและกลับส้นเท้า

งานใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนราชวงศ์ มันอะไรกันนะ…?

ผมพลางคาดเดาว่ามันเกิดอะไรขึ้นพลางเดินกลับไปยังโรงอาหาร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด