พวกเรารออยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์สักพัก จากนั้นก็ถูกพนักงานต้อนรับเรียกมา

แต่ละคนต่างได้รับแบบฟอร์มที่ระบุผลการสอบพลังเวทเอาไว้

[ อืม ก็นะ ก็คงได้ประมาณนี้ล่ะ ]

อลิเซียพูดพร้อมกับดูแผ่นกระดาษในมือ

[ มาโชว์ให้ดูเลยนะ ]

เราเห็นด้วยกับข้อเสนอของกุเร็น

จากนั้นเราทุกคนก็โชว์แผ่นกระดาษในมือให้ดูพร้อมกัน

กุเร็นกับเอลิเซียดูจะมั่นใจมาก

กลับกันมิเซ่สีหน้าราวกับโลกนี้จบสิ้นแล้ว

***********

● เอลิเซีย มิลิชตัน

พลังเวท : B

ความเร็วของพลังเวท : B

ความอึดของพลังเวท : D

การควบคุมพลังเวท : D

***********

***********

● กุเร็น อิบาส

พลังเวท : C

ความเร็วของพลังเวท : D

ความอึดของพลังเวท : A

การควบคุมพลังเวท : E

***********

***********

● ทรูเอท

พลังเวท : D

ความเร็วของพลังเวท : B

ความอึดของพลังเวท : C

การควบคุมพลังเวท : B

***********

***********

● มิเซ่ โฮเนส

พลังเวท : D

ความเร็วของพลังเวท : E

ความอึดของพลังเวท : D

การควบคุมพลังเวท : C

***********

[ ฉันอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุดเลยนี่ค่ะ… ฮือฮือฮือ ]

มิเซ่พึมพำขณะที่น้ำตาเอ่อล้น พวกเราจึงทำได้เพียงทำหน้าลำบากใจและเงียบไว้เฉยๆ

[ สำหรับคราวนี้ จุดที่น่าทึ่งที่สุดก็คือความอึดของเวทมนตร์ของกุเร็นนี่ล่ะ ]

ผมพูดขณะที่ชี้ไปที่กระดาษของกุเร็น

ผลการทดสอบของเขาสุดยอดมาก จากการสอบก็นึกไว้แล้วล่ะว่าจะได้คะแนนสูง แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้ระดับ A

[ แน่นอน ถ้าเป็นทหารหรือนักผจญภัยมืออาชีพก็คงจะได้ระดับ B … ส่วนใหญ่ระดับ A นี่เป็นของหัวหน้าอัศวินหรือรองอัศวินเลยนะ …แต่กลับไม่เก่งเรื่องการใช้เวท หรือว่านายจะเคยฝึกหรือมีประสบการณ์มาก่อนนะ? ]

[ ไม่นะ… ไม่มีเลย ความจริงฉันไม่มีประสบการณ์อะไรแบบนั้นหรอก จริงๆ ก็ตกใจที่ผลการสอบออกมาแบบนี้เหมือนกัน ]

พลังเวทสามารถปรับปรุงได้ด้วยความพยายาม แต่พรสวรรค์เองก็ส่งผลเช่นกัน

ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว ที่จะเป็นพรสวรรค์ที่เขามีมาแต่เกิด

[ ทรูเอทต่ำกว่าที่ฉันคาดไว้นะ ถ้ากุเร็นยังระดับ A ได้ ฉันคิดว่าเรื่องความอึดของพลังเวททรูเอทก็น่าจะได้ระดับ A ซะอีก ]

เอลิเซียพูดขณะที่มองกระดาษของผม

[ ให้ค่าผมมากเกินไปแล้วล่ะ แต่เดิมกุเร็นต่างหากที่ผิดปกติ ระดับ B เองก็ถือว่าสูงมากแล้วนะ ]

[ แต่เวทที่นายใช้… 《กระสุนเวท》น่ะมันเร็วสุดๆ เลยนี่ ดังนั้นถึงจะมีความอึดของพลังเวทหรือความเร็วการใช้เวทอยู่ในระดับ B ฉันก็ไม่แปลกใจเลยล่ะ ถึงฉันจะระดับ B เหมือนกันแต่ใช้เวทมนตร์เร็วเท่านายไม่ได้หรอกนะ ]

[ เข้าใจผิดแล้วล่ะ เธอแค่ตีความหมายของเวทมนตร์ผิดเท่านั้นเอง ]

เอลิเซียเอียงหัว

[ ความเร็วของเวทมนตร์ พูดสั้นๆ ก็คือความเร็วในการใช้เวทมนตร์จนเสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่ความเร็วของตัวเวทมนตร์ ]

[ …ในกรณีนั้น แปลว่านายใช้《กระสุนเวท》ในตอนที่การใช้เวทมนตร์เกือบจะสมบูรณ์เหรอ? ]

สมกับเป็นสายเลือดของวีรบุรุษเลยนะ

ผมไม่ได้ใช้《กระสุนเวท》ต่อหน้าเอลิเซียบ่อยมากนัก แต่การวิเคราะห์ของเธอก็ถูกต้อง

 

อย่างไรก็ตามแม้การวิเคราะห์จะถูกต้อง แต่ความรู้ที่มีอยู่มันผิด

มันจึงส่ายหน้าและอธิบายต่อ

[ ความเร็วของเวทมนตร์น่ะนะ… หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ละก็อย่างการคัดลอกภาพวาดที่มีความซับซ้อนในเวลาเดียวกันเวลาที่ใช้การในดำเนินการเวทก็จะเสร็จสิ้นต่างกัน แต่ถ้าเป็นภาพง่ายๆ … อย่างสามเหลี่ยมหรือวงกลมล่ะ เวลาที่เวทมนตร์จะเสร็จสิ้นก็จะเท่ากัน ]

[ …เข้าใจแล้วล่ะ สรุปก็คือถ้าเป็นเวทมนตร์ง่ายๆ แต่ถ้าฝึกฝนทุกคนก็สามารถใช้ได้อย่างรวดเร็วสินะ ]

[ ถูกต้อง ที่ใช้เวทมนตร์ได้เร็วไม่ใช่ความสามารถพิเศษอะไร แต่เพราะผมใช้เวทมนตร์ง่ายๆ ต่างหาก ]

เอลิเซียแสดงท่าทีเข้าใจ

กุเร็นจึงถามขึ้น

[ ถ้าอย่างนั้น เรื่องพลังเวทล่ะ เพราะ《กระสุนเวท》ของทรูเอทมันทรงพลังมากเลยไม่ใช่เหรอ? ]

[ อ่อ นั่นก็แค่การอัดเวทน่ะ ]

[ อัดเวท? ]

กุเร็นเอียงหัว

[ หนึ่งในเทคนิคในการจัดเรียงการร่ายเวท ด้วยการสะสมพลังขณะที่ใช้งานเวทจะสามารถทำให้เพิ่มพลังของเวทมนตร์ได้ ]

[ หืม เรื่องนั้นไม่รู้มาก่อนเลยนะ ยังไม่ได้สอนในชั้นเรียนเลยไม่ใช่เหรอ? ]

[ ถ้างั้นไม่ไปที่ห้องสมุดแล้วศึกษาดูล่ะ? การบีบอัดค่อนข้างจะใช้ได้สะดวกเชียวนะ ]

เมื่อเห็นกุเร็นทำสีหน้าประทับใจ ผมก็ค่อยโล่งอก

เอลิเซีย กุเร็น ทั้งคู่เป็นคนที่มีความพรสวรรค์ในการต่อสู้สูงและการสังเกตดีเยี่ยม

คำอธิบายที่บอกทั้งสองคนจึงต้องใช้ความจริง

 

แต่―――― ยังไงก็ถือว่าผมเลี่ยงคำถามไปได้แล้ว

 

ในตอนที่ทำภารกิจ ผมไม่มีเวลามาสนใจเรื่องปลีกย่อยแบบนี้หรอก

ผมคงจะโดนกุเร็นสงสัยแน่… ถ้าไม่ได้บอกกับพวกเขาไปว่าไปห้องสมุดในตอนนั้น

[ พลังเวทส่วนใหญ่จะมาจากพรสวรรค์ แต่สามารถชดเชยได้ด้วยอุปกรณ์เวท ดังนั้นความสามารถทางเวทมนตร์ของแต่ละคนใช่ว่าจะวัดได้จากพลังเวทเพียงอย่างเดียว …เพราะงั้นล่ะ มิเซ่ไม่ต้องเศร้าไปหรอกนะ ความแข็งแกร่งของการต่อสู้ขั้นพื้นฐานที่จะสอบต่อไปต่างหากที่สำคัญกว่า ]

เมื่อผมบอกเธอเช่นนั้น มิเซ่ก็พยักหน้าและตอบ [ ค่ะ ]

ดูเหมือนจะเสียความมั่นใจไปหมดแล้ว แต่ผลการสอบของมิเซ่ก็เท่ากับค่าเฉลี่ยของนักเรียนปกตินะ

ก็แค่อีกสามคนยกเว้นมิเซ่ มีพลังต่อสู้สูงกว่านักเรียนทั่วไปเท่านั้นเอง

จะไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมันก็ไม่ได้อะไรหรอก… แต่ถึงพวกเขาจะพูดอะไรไป เธอก็คงไม่เชื่ออยู่ดี

[ เฮ้ พวกแก รอเดี๋ยวสิ ]

ในตอนนั้นเอง

นักเรียนแผนกผู้กล้าที่อยู่ใกล้ๆ ก็เดินมาหาเรา

[ ได้ยินมาว่า… แกได้ระดับ B งั้นเรอะ? ]

เด็กหนุ่มของแผนกผู้กล้าพูดขณะที่จ้องหน้าผม

[ อา ]

[ ว่าไงนะ ――ยะ อย่ามาล้อเล่น! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ]

เด็กหนุ่มแผนกผู้ชายทำท่าทีร้อนรน

ตะโกนใส่หน้าพนักงานต้อนรับเคาน์เตอร์

[ อย่างเจ้าหมอนี่มันใช้เวทมนตร์ระดับ D ไม่ได้ด้วยซ้ำ! แต่มันกลับวัดค่าผลได้ระดับ B เนี่ยนะ? ]

[ ถ ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะค่ะ ]

พนักงานต้อนรับมีท่าทีสับสน

จากแบบฟอร์มที่กรอกเพื่อขอใบอนุญาตประเภทที่สอง ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาคือลูกของชนชั้นสูง เขาหันหน้ามองผมและหันไปมาอย่างดูแคลน

[ เสียงเอะอะอะไรกัน! ]

เสียงผู้ชายดังมาจากที่ชั้นสอง

จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง ผมสีน้ำตาลแดงที่ยาวถึงข้างหลังดูเหมือนแผงคอของสิงโต กล้ามที่โตยิ่งกว่ากุเร็น

[ กิลมาสเตอร์รีอัส เบอเรน ผู้ที่ถูกเรียกว่าปรมาจารย์… อ อะไรกัน? ]

เด็กหนุ่มของแผนกผู้กล้ามีท่าทีสับสนเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาก็ชี้มาที่ผมและให้อธิบายสถานการณ์ทันที

[ ก็เจ้าหมอนั้นน่ะสิ มันใช้เวทมนตร์ระดับ D ไม่ได้ด้วยซ้ำ! แต่กลับวัดพลังเวทได้ระดับ B มันเป็นไปไม่ได้! ]

[ …พอเข้าใจเรื่องราวแล้ว แน่นอนมันเป็นกรณีหายาก ปกติแล้วระดับจะสัมพันธ์กับเวทมนตร์ที่ใช้ได้ ปกติหากใช้เวทมนตร์ระดับ D ไม่ได้ ควรจะวัดระดับได้ประมาณ D หรือ E มากกว่า ]

อย่างนั้นเหรอ? ….

ถึงแม้จะพูดออกมาแบบนั้นก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้โกงจริงๆ

เมื่อฟังจากที่เด็กหนุ่มแผนกผู้กล้าอธิบาย กิลด์มาสเตอร์ก็มองมายังผม

[ เอาล่ะ ขอฟังเรื่องราวของทางเจ้าบ้าง… เจ้าชื่ออะไร? ]

[ ทรูเอท ]

[ อา ทรูเอทเจ้าโกงรึ? ]

[ ไม่ได้โกง ]

[ ยืนยันคำตอบว่าเช่นนั้นสินะ ]

ดูน่ารำคาญชะมัด

[ เอาล่ะ เข้าใจแล้ว จากนี้การวัดผลการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน ข้าจะคุมสอบให้เอง ]

กิลด์มาสเตอร์พูด

[ ตราบใดที่ข้าเป็นผู้คุมสอบ จะไม่ให้มีการโกงเกิดขึ้นเด็ดขาด หากทรูเอทโกงผลของการสอบเวทมนตร์จริง ในการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน การโกงนั้นจะต้องส่งผลออกมาอย่างแน่นอน… ถ้าแบบนี้เจ้าคงพอใจใช่มั้ย? ]

เด็กหนุ่มของแผนกผู้กล้าพยักหน้าด้วยใบหน้าซับซ้อน

หรือผมก็ควรจะพยักหน้าด้วย?

 

ดูน่ารำคาญเหมือนโดนต้องโดนบังคับให้เขาต้องมาคุมสอบ เจอเรื่องลำบากอีกแล้วสิ

 

[ เข้าใจแล้ว ]

ผมพยักหน้าและกิลด์มาสเตอร์ก็ทำสีหน้าโล่งใจ

[ ตามกฏของการสอบ แสดงพลังของเจ้าให้ข้าเห็นซะ ]