พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1132 เจ้าจงใจสร้างความอัปยศให้ข้า

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1132 เจ้าจงใจสร้างความอัปยศให้ข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>ทางนี้กำลังยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างลำพองใจ สองพี่น้องฝาแฝดก็ส่งข่าวมา บอกเรื่องที่อันหรูอวี้มาขอเงินของพวกนางไปหนึ่งหมื่นล้านผลึกแดง</p>
<p>ทั้งสองไม่รู้ว่าอันหรูอวี้และคนอื่นๆ จะกลับมาเมื่อไร จึงไม่สะดวกจะมาหา คิดไปคิดมาก็ใช้ระฆังดาราส่งข่าวมาบอกดีกว่า</p>
<p>เงินของเหมียวอี้ไม่ได้เก็บมาจากพื้น ถึงแม้ยังต้องจ่ายสิ่งที่ควรจ่าย แต่สิ่งที่ควรลงบัญชีก็ยังต้องลงบัญชี กฎระเบียบนี้อวิ๋นจือชิวตั้งขึ้นมาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน สิ่งที่ควรจ่ายก็จ่ายได้ แต่จะจ่ายมั่วซั่วหรือจ่ายอย่างเลอะเลือนไม่ได้ ไม่อย่างนั้นยามในบ้านเกิดเรื่องขึ้นจะหาเงินมาไม่ได้ แบบนั้นก็แสดงว่าอวิ๋นจือชิวเป็นเมียที่ดูแลบ้านไม่ดี กฎระเบียบนี้สองพี่น้องฝาแฝดรู้อย่างชัดเจน หนึ่งหมื่นล้านผลึกแดงไม่ใช่จำนวนน้อยๆ</p>
<p>ถึงแม้ในใจอวิ๋นจือชิวจะรู้ชัดว่าการที่อันหรูอวี้นำเงินไปนั้นเกี่ยวข้องมู่ฝานจวิน แต่ก็ยังตอบกลับผ่านระฆังดาราว่า : ใช้เงินกับมารดาตัวเองคือสิ่งที่ควรทำ ให้เงินไปพอรึเปล่า? ถ้าไม่พอข้าจะส่งไปให้อีก?</p>
<p>สองพี่น้องฝาแฝดตอบกลับมา : พอแล้ว พอแล้ว!</p>
<p>เป็นอย่างที่อันหรูอวี้คิดไว้ สองพี่น้องใจกว้างมากเมื่ออยู่ต่อหน้ามารดา คำบางคำพูดไปเพื่อปลอบใจมารดาเท่านั้น การเบิกเงินในบ้านมากมายขนาดนี้ในรวดเดียว ในใจทั้งสองก็เป็นกังวลเหมือนกัน ในใต้หล้ามีนักพรตมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถนำเงินหนึ่งหมื่นล้านผลึกแดงออกมาใช้ได้ทุกเมื่อ อวิ๋นจือชิวเชื่อใจพวกนาง ไม่เคยปล่อยให้พวกนางขาดเงิน ส่วนที่ควรจะแบ่งสรรให้พวกนาง อวิ๋นจือชิวก็แบ่งสรรให้ครบถ้วน แต่พวกนางก็ไม่ควรจะใช้เงินซี้ซั้วใช่มั้ยล่ะ?</p>
<p>และสองพี่น้องก็ไม่ได้บอกเช่นกันว่าอันหรูอวี้ขอยืมเงินไป เพียงเพราะทั้งสองกตัญญูต่อมารดา จะไปขอให้แม่ตัวเองคืนเงินได้อย่างไร เงินก้อนนี้จึงเท่ากับให้ไปโดยไม่ได้กลับคืน ในใจย่อมรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง</p>
<p>ทว่าหลังจากได้ฟังคำพูดของอวิ๋นจือชิว ไม่เพียงแค่ไม่ตำหนิพวกนาง ทั้งยังบอกว่าจะนำมาเพิ่มให้ด้วย ทำให้ทั้งสองซาบซึ้งมาก ในใจก็รู้สึกสงบลงแล้วเช่นกัน</p>
<p>เมื่อเก็บระฆังดาราแล้ว อวิ๋นจือชิวก็ยิ้มบางๆ เป็นอย่างที่นางคาดไว้จริงๆ ด้วย ปราชญ์พวกนั้นมีเงินในมือไม่พอ แต่มู่ฝานจวินก็โหดใช้ได้เลย ไม่น่าเชื่อว่าจะกดดันให้อันหรูอวี้มาขอเงินกับลูกสาวของตัวเอง แต่จะว่าไปแล้ว ทางด้านมู่ฝานจวินก็ช่างเถอะ หงเฉินมีนิสัยดื้อด้านควบคุมยาก นางก็ไม่คิดจะกลั่นแกล้งนางเหมือนกัน</p>
<p>&#8220;เฮ้อ!&#8221; หลังจากยืนขึ้นในศาลา นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เรียกเชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์มาหา นางก็ต้องการไปเดินเล่นในตลาดเหมือนกัน</p>
<p>ก็ช่วยไม่ได้ นางยังต้องเตรียมของไว้ให้เยว่เหยาอีกเป็นกอง ของที่มอบให้เยว่เหยาต่างหากที่มีมูลค่ามหาศาลจริงๆ นางกังวลว่าจะไปตกอยู่ในมือมู่ฝานจวิน แต่ก็ช่วยไม่ได้ ของที่ให้เยว่เหยานั้นจำเป็นต้องให้ ไม่อย่างนั้นเหมียวอี้จะแตกคอกับนางจริงๆ กับเรื่องแบบนี้เหมียวอี้ไม่เหลือที่ไว้ให้นางต่อรองเลย&#8230;</p>
<p>ส่วนพวกอวิ๋นอ้าวเทียนที่เดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในตลาดสวรรค์ ก็ซื้อไหวเพียง &#8216;ของถูก&#8217; อย่างพวกแผนที่ดาวกับระฆังดารา หมื่นสองหมื่นล้านผลึกแดงซื้อของที่ดีกว่านี้ไม่ได้จริงๆ ดูเพื่อเปิดหูเปิดตาเพิ่มพูดความรู้ก็พอแล้ว</p>
<p>ในร้านค้าเจ็ดอารมณ์ เมื่อได้รู้จักของที่อยู่ในขวดหลากสีสันแล้ว ห้าปราชญ์ก็แอบส่งสายตาให้กัน ในที่สุดก็แน่ใจเรื่องที่มาที่ไปของแสงรัศมีบนโซ่ของเรือมังกรอเวจีแล้ว</p>
<p>แต่ของสิ่งนี้แพงจนเหลวไหล ในลูกแก้วพลังปรารถนาแฝงไปด้วยเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาที่มองไม่เห็น ถ้าอยากให้ปรากฏเป็นรูปร่างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การจะรวบรวมให้กลายเป็นของเหลวอยู่ในขวดก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าต้องใช้ลูกแก้วพลังปรารถนาไปเท่าไรกว่าจะได้ของเหลวออกมาสักขวด เดิมทีก็เป็นสิ่งที่พวกเขาซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว อีกทั้งปริมาณที่ใช้หลอมสร้างอาวุธก็ไม่ใช่น้อยๆ นักหลอมสมบัติส่วนใหญ่ก็ไม่หลอมสร้างอาวุธประเภทนี้เช่นกัน</p>
<p>อาวุธประเภทนี้แม้แต่เหมียวอี้ก็ซื้อมาใช้ไม่ไหวเช่นกัน ตอนนี้เยารั่วเซียนกำลังศึกษาค้นคว้าของประเภทนี้อยู่</p>
<p>ส่วนเครื่องมือรวบรวมเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา พวกอวิ๋นอ้าวเทียนกลับกวาดซื้อมาไว้ในมือ ยังเป็นมู่ฝานจวินที่ถ่ายทอดเสียงเตือนได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะซื้อเครื่องมือในร้านจนหมด เพราะของสิ่งนี้ราคาถูก &#8220;อย่าทำตัวสะดุดตาเกินไป เดี๋ยวค่อยให้ลูกน้องแบ่งกันเว้นช่วงมาซื้อ&#8221;</p>
<p>ที่พิภพใหญ่ ลูกแก้วพลังปรารถนาแทบจะมีแต่คนของตำหนักสวรรค์ที่ใช้งาน ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะใช้ไม่ได้ เพียงแต่ไม่ได้ใช้จำนนมากขนาดนั้นแน่นอน กลุ่มคนที่ไม่ใช่ขุนนางของตำหนักสวรรค์มาซื้อเครื่องมือรวบรวมเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาไปมากขนาดนี้ ก็จะทำให้คนอื่นสงสัยได้ง่าย ต้องสำรวมท่าทีสักหน่อย</p>
<p>ความคิดของห้าปราชญ์ไม่ซับซ้อนเลย พวกเขาจะส่งเครื่องมือพวกนี้กลับไปที่อาณาเขตของตัวเอง ให้พวกลูกน้องเก็บรวบรวมเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา</p>
<p>เมื่อออกจากร้านค้าเจ็ดอารมณ์มาแล้ว พวกเขากเดินไปที่ &#8216;ร้านสำนักเมฆาศัสตราวุธ&#8217; อีก</p>
<p>เมื่อเห็นคนพวกนี้มีสง่าราศีไม่ธรรมดา นึกว่ามีลูกค้ารายใหญ่ พนักงานเรียกได้ว่าเชิญทุกคนเข้าร้านอย่างเคารพนอบน้อม</p>
<p>อาวุธและของวิเศษต่างๆ ข้างในละลานตามาก มีตั้งแต่สินค้าระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง สินค้าระดับต่ำไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกอวิ๋นอ้าวเทียน ส่วนสินค้าระดับสูงแค่มองเห็นราคาก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พวกเขาหยิบอาวุธระดับสูงชิ้นหนึ่งขึ้นมาตรวจดูในมืออยู่เป็นระยะ</p>
<p>พนักงานพูดเป็นต่อยหอยอยู่ข้างๆ ย่อมต้องชมอยู่แล้วว่าสินค้าดี</p>
<p>พวกเขาก็ได้แค่ดูเฉยๆ พอดูเสร็จก็ไม่ได้ซื้อสักชิ้น หันหน้าเดินออกไปแล้ว พอพนักงานที่พูดจนคอแทบแห้งเห็นสถานการณ์แบบนี้ สีหน้าก็ไม่สบอารมณ์ทันที ดินตามพวกเขาไปตรงประตู แล้วพูดจาแปลกๆ เหมือนดูถูกว่า &#8220;แต่ละคนหน้าตาเหมือนคนแต่ทำนิสัยเหมือนสุนัข ไม่มีเงินก็อย่าเดินเพ่นพ่านไปทั่วสิ!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้รู้จักพนักงานคนนี้แน่นอน ในปีนั้นเหมียวอี้ก็เคยโดนพนักงานคนนี้ใช้คำพูดแบบเดียวกันดูถูกเหยียดหยาม</p>
<p>ห้าปราชญ์หยุดฝีเท้า หันมามองด้วยสายตาเย็นเยียบพร้อมกัน ลักษณะท่าทางแบบนั้นเพียงพอที่จะทำให้คนตกใจ ทำเอาพนักงานตกใจจนทำหน้าไม่ถูก แต่จากนั้นก็ทำท่าเหมือนเอาจริงอีก ใช้สองมือกอดออก แล้วพูดแขวะว่า &#8220;ทำไม? ยังคิดจะทำร้ายคนที่ตลาดสวรรค์อีกเหรอ? มาสิ! ข้าไม่โต้ตอบหรอก ถ้าเก่งนักก็ลองลงมือดูสิ!&#8221;</p>
<p>ห้าปราชญ์ไม่ได้รับความอัปยศแบบนี้มาหลายปีแล้ว ทั้งยังโดนดูถูกเพราะไม่มีเงิน อวิ๋นอ้าวเทียนหันตัวมา ผมยาวที่อยู่ข้างหลังปลิวสะบัดเล็กน้อย</p>
<p>แค่มองปราดเดียวพวกฉางเหลยก็รู้ว่าอวิ๋นอ้าวเทียนต้องการจะลงมือ จึงรีบห้ามเขาเอาไว้ ทุกคนไม่อยากก่อเรื่องที่นี่ จึงดันทุรังลากอวิ๋นอ้าวเทียนออกไปแล้ว</p>
<p>พนักงานที่อยู่ตรงประตูร้านโบกมืออย่างเหยียดหยาม พอหันตัวกลับมา จู่ๆ ก็พบว่าข้างหลังมีความผิดปกติ พอหันกลับมา เงาดำที่เหมือนเมฆไหลก็โผเข้ามาข้างหน้า</p>
<p>ยังไม่ทันจะรู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวเมฆไหลสีดำก็ม้วนกรอกเข้ามาในรูจมูกของเขาแล้ว</p>
<p>&#8220;อู…&#8221; พนักงานเอามือจับคอตัวเอง อยากจะพูดแต่เสียงก็ไม่ออก</p>
<p>อวิ๋นอ้าวเทียนที่กำหมัดเดินอยู่บนถนนพลันดีดนิ้วทั้งห้า วาดฝ่ามือเสียงดังสนั่น</p>
<p>พนักงานในร้านพลันลูกตาระเบิด บนคอมีเลือดสาดกระเด็นไปทั่วทิศ ศีรษะกลิ้งลงมาจากบนคอ ทั้งตัวล้มลงบนพื้นย่างเหี้ยมโหด</p>
<p>พวกฉางเหลยที่เดินอยู่ด้วยกันสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังอิทธิฤทธิ์บนตัวอวิ๋นอ้าวเทียน ขณะมองดูพลังอิทธิฤทธิ์ที่วนเวียนอยู่บนฝ่ามือใหญ่ของอีกฝ่าย แต่ละคนก็พูดไม่ออก พวกเขาไม่ได้รู้จักอวิ๋นอ้าวเทียนเป็นครั้ง ทั้งชีวิตนี้เคยประมือกับอวิ๋นอ้าวเทียนมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไป</p>
<p>สุดท้ายก็ยังเป็นมู่ฝานจวินที่กล่าวอย่างเย็นเยียบว่า &#8220;เขาอยากจะทดสอบว่าเหมียวอี้มีอำนาจเท่าไรเมื่ออยู่ที่นี่!&#8221;</p>
<p>ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่นางกลับเป็นคนแรกที่เดินเลี่ยงไป นำพวกลูกศิษย์เลี้ยวไปที่ถนนอีกสายหนึ่งแล้ว</p>
<p>พวกฉางเหลยก็ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องเหมือนกัน ต่างคนต่างเดินไปยังถนนที่อยู่ระหว่างร้านค้าร้านอื่น</p>
<p>พวกอวิ๋นเซี่ยวมองหน้ากันเลิกลั่ก กัดฟันเดินตามหลังบิดา เพียงแต่เหลียวซ้ายแลขวาอยู่เป็นระยะ</p>
<p>ผ่านไปไม่นาน ทหารสวรรค์กลุ่มหนึ่งก็พาผู้จัดการร้านค้าสำนักเมฆาศัสตราวุธลอยอยู่บนฟ้า อวิ๋นอ้าวเทียนแต่งตัวโดดเด่นมาก ผู้จัดการร้านคนนั้นชี้มาแต่ไกลๆ &#8220;เป็นพวกเขา!&#8221;</p>
<p>มีทางที่จะไม่สงสัยอวิ๋นอ้าวเทียน พนักงานที่ตายอย่างกะทันหันเพิ่งจะเกือบมีเรื่องกับอวิ๋นอ้าวเทียนแล้ว</p>
<p>พรึ่บๆ! คนกลุ่มหนึ่งแฉลบมาขวางพวกอวิ๋นอ้าวเทียนเอาไว้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการที่นำหน้าดันเป็นราชาปีศาจของทะเลดาวนักษัตร หลังจากเจออวิ๋นอ้าวเทียนก็ค่อนข้างพูดไม่ออก พบว่าท่านนี้กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว ขนาดอยู่ที่นี่ก็ยังกล้าลงมือฆ่าคน</p>
<p>&#8220;พาตัวไป!&#8221; พอผู้ช่วยผู้บัญชาการโบกมือ กลุ่มทหารสวรรค์ก็ควบคุมตัวพวกอวิ๋นอ้าวเทียนไป อวิ๋นอ้าวเทียนกลับไม่ได้ขัดขืนอะไร</p>
<p>เพียงแต่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม อวิ๋นอ้าวเทียนก็นำลูกๆ เดินออกมาจากจวนผู้บัญชาการเขตเมืองใต้อย่างสบายดี พอเดินอยู่บนถนนได้ไม่นาน ฉางเหลยและคนอื่นๆ ก็ทยอยกันเดินออกจากถนนสองฝั่งมารวมตัวกันอีกครั้ง</p>
<p>&#8220;ยาเจี๋ยตันขั้นหกอยู่ตรงไหน?&#8221; อวิ๋นอ้าวเทียนถาม</p>
<p>ร้านค้าสมาคมวีรชน หวงฝู่จวินโหรวที่อยู่ในห้องหรูหราก็ถูกแขกกลุ่มนี้ทำให้ตกใจเช่นกัน พนักงานถ่ายทอดเสียงบอกว่าอาจจะเป็นแขกคนสำคัญ</p>
<p>พอแหวกม่านออกมา ก็เห็นห้าคนที่นำกลุ่มมาเผยพลังอำนาจโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ละคนดูไม่ธรรมดา นั่นคือพลังอำนาจสะกดอารมณ์ที่หาพบได้น้อยจากตัวคนทั่วไป  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอยู่บนตัวคนที่อยู่เหนือผู้อื่นมาเป็นเวลานานเท่านั้น หวงฝู่จวินโหรวพบว่าสง่าราศีที่คนพวกนี้เผยออกมาในบางครั้งดูสูงส่งกว่าท่านปู่ของตัวเองด้วยซ้ำ นางรู้สึกตกใจ สงสัยว่าผู้ที่มาเป็นตัวละครประเภทไหนกัน?</p>
<p>นางเป็นคนมีโลกทัศน์กว้าง เคยเจอคนใหญ่คนโตมาไม่น้อย คุ้นเคยกับลักษณะพิเศษที่อยู่บนตัวคนพวกนี้ดี รู้ว่าการที่คนแบบนี้มาด้วยตัวเอง ก็แสดงว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ต้องการสินค้า จึงเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยตัวเองทันที</p>
<p>ใครจะคิดว่าพวกอวิ๋นอ้าวเทียนจะเดินอ้อมเจี๋ยตันขั้นห้า มีเฉพาะยาเจี๋ยตันขั้นหกที่ดูแล้วดูอีก ดังนั้นหวงฝู่จวินโหรวจึงนำยาเจี๋ยตันขั้นหกในร้านค้าที่ยังไม่ได้แสดงให้ดูออกมาทั้งหมดทันที</p>
<p>เพียงแต่ตอนสุดท้าย…หวงฝู่จวินโหรวก็ได้แต่ยิ้มทื่อๆ ส่งแขกอยู่ที่ประตูร้าน นางพูดไม่ออกมาก คนพวกนี้ดูทุกอย่างหมดแล้วแต่ไม่ซื้ออะไรเลย ออกไปแบบนี้แล้ว&#8230;</p>
<p>&#8220;วันนี้ปู่เจ้าพอมาถึงก็ฆ่าพนักงานของสำนักเมฆาศัสตราวุธเลย!&#8221;</p>
<p>เป็นตอนกลางคืน เหมียวอี้โผล่ออกมาจากทางใต้ดินในบ่อน้ำ พอเจออวิ๋นจือชิวก็บอกผลงานที่อวิ๋นอ้าวเทียนทำทันที</p>
<p>อวิ๋นจือชิวได้ยินแล้วตกใจ &#8220;ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ตอบอย่างจนใจ &#8220;จะเป็นอะไรได้ล่ะ? ตกอยู่ในมืออิงอู๋ตี๋พอดี ข้าจะดูปู่เจ้ารนหาที่ตายโดยไม่สนใจได้อย่างไร? แต่เดี๋ยวเจ้ากลับไปบอกปู๋เจ้าให้ชัดเจนเลยนะ ไม่ใช่ข้าคนเดียวที่มีอำนาจตัดสินใจที่นี่ ถ้าไปตกอยู่ในมือปี้เยว่ฮูหยินขึ้นมาจะลำบาก&#8221;</p>
<p>&#8220;เดี๋ยวข้าจะกลับไปคุย&#8221; อวิ๋นจือชิวพยักหน้าบอก สีหน้าค่อนข้างจริงจัง</p>
<p>&#8220;เจ้าจัดหาที่พักให้พวกนางเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?&#8221; เหมียวอี้เดินขึ้นตึกพลางเอ่ยถาม</p>
<p>&#8220;พวกนางอยู่ชัยภูมิถ้ำสวรรรค์คนละหลัง อยู่แบบนี้ก่อนแล้วกัน รอให้เจ้าหาที่พักให้พวกนางได้ค่อยแยกย้ายกัน&#8221;</p>
<p>&#8220;อวี้หนูเจียวอยู่ห้องไหน?&#8221;</p>
<p>พุ่งเป้าไปที่นางอีกแล้วหรอ? อวิ๋นจือชิวงงไปชั่วขณะ&#8221;เจ้าจะทำอะไร?&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้ตอบกลั้วหัวเราะว่า &#8220;ตอนกลางวันข้าบอกแล้วไม่ใช่รึไง ว่าคืนนี้จะให้นางปรนนิบัติ&#8221;</p>
<p>เมื่อเห็นเขาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าตนได้อย่างสบายใจ อวิ๋นจือชิวก็รู้ว่าเขาต้องมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ จึงกลอกตามองบนแล้วบอกว่า &#8220;ข้าว่านะหนิวเอ้อร์ เจ้าคงไม่ได้จงใจเอาเรื่องแบบนี้มาทารุณนางหรอกใช่มั้ย? อย่าทำตัวไร้สาระแบบนั้น ไหนๆ ก็แต่งงานเข้าบ้านมาแล้ว ยังมีอะไรต้องคิดเล็กคิดน้อยอีก แค่ขู่นิดหน่อยก็พอแล้ว!&#8221; นางชี้ไปที่ห้องอวี้หนูเจีย แต่ไม่ได้เดินตามเข้าไป</p>
<p>เหมียวอี้เข้ามาในห้องของอวี้หนูเจียว แล้วเคาะประตูโดยตรง พอชัยภูมิถ้ำสวรรรค์ที่อยู่ในห้องเปิดออก เขาก็เดินก้าวยาวเข้าไป</p>
<p>&#8220;นายท่าน!&#8221; หญิงรับใช้ทั้งสองที่รออยู่รีบเข้ามาคำนับต้อนรับ</p>
<p>พอเข้ามาก็เห็นอวี้หนูเจียวรับเข้ามากัดฟันย่อตัวคำนับ เป็นการทำแก้ขัดอย่างลวกๆ โดยแท้ ปรากฏว่าเหมียวอี้เดินเข้ามาคว้าข้อมือนางเดินเข้าห้องทันที</p>
<p>อวี้หนูเจียวประหม่าทันที ถามว่า &#8220;เจ้าคิดจะทำอะไร?&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้าจะทำอะไรได้ล่ะ?&#8221; เหมียวอี้ผลักอวี้หนูเจียวเข้าไปในห้องนอน หันตัวมาปิดประตู กันหญิงรับใช้สองคนไว้ข้างนอก แล้วเอามือไขว้หลังเดินวนรอบตัวอวี้หนูเจียวที่กำลังหวาดกลัว สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ตรงหน้านาง มองสำรวจศีรษะจดเท้าพร้อมบอกว่า &#8220;ถอดเสื้อผ้า!&#8221;</p>
<p>ตรงไปตรงมาเกินไปแล้ว! อวี้หนูเจียวพยายามเตรียมตัวยอมรับชะตากรรม แต่ตอนนี้ยังกัดฟันจนฟันแทบแตกแล้ว</p>
<p>เหมียวอี้ชี้นางพร้อมสั่งว่า &#8220;จะยืนอึ้งอะไร? ไม่รู้เหรอว่าต้องทำอะไร? ถอดเลย ถอดให้หมดเดี๋ยวนี้!&#8221;</p>
<p>อวี้หนูเจียวหน้าแดงก่ำด้วยวความโมโห ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า &#8220;เจ้าจงใจสร้างความอัปยศให้ข้า!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้รู้สึกบันเทิงทันที &#8220;ล้อเล่นแล้วมั้ง? เจ้าลองเรียกใครมาถามดูก็ได้ ว่าข้ากำลังสร้างความอัปยศให้เจ้ารึเปล่า มันเป็นกฎธรรมชาติตกลงมั้ย ตกลงเจ้าจะถอดหรือไม่ถอด?&#8221;</p>
<p>อวี้หนูเจียวโมโหแล้ว ตอบอย่างเคียดแค้นว่า &#8220;ไม่ถอด!&#8221;</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด