พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า 1149 พิษประหลาด

Now you are reading พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า Chapter 1149 พิษประหลาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

<p>เมื่อเห็นหวงฝู่ยังพูดไม่ได้และยังขยับตัวไม่ได้ จงหลีค่วยก็ยื่นมือไปกดบ่านางเพื่อตรวจอาการ พอแน่ใจแล้วว่าถูกควบคุมไว้ ก็ร่ายอิทธิฤทธิ์ทำลายผนึกทันที</p>
<p>&#8220;เฮ่อ…&#8221; ตอนนี้หวงฝู่จวินโหรวถึงได้ถอนหายใจยาวออกมา จากนั้นก็ด่าสาดเสียเทเสีย &#8220;ไอ้เวรนั่นมันบังอาจลอบจู่โจมข้า!&#8221;</p>
<p>เมื่อปลดผนึกพลังอิทธิฤทธิ์แล้วก็มัดนางไม่อยู่ ใช้ความพยายามนิดหน่อยก็กำจัดตราอิทธิฤทธิ์ของเหมียวอี้ในเชือกมัดเซียนได้แล้ว จากนั้นก็ลงตราอิทธิฤทธิ์ของตัวเองลงไป เชือกมัดเซียนคลายตัวเองและตกอยู่ในมือนางทันที นางพลิกตัวตกลงพื้นแล้ว</p>
<p>&#8220;เป็นหนิว…เป็นเหมียวอี้ทำเหรอ?&#8221; จงหลีค่วยถาม</p>
<p>&#8220;นอกจากไอ้เวรนั่นแล้วยังจะมีใครแว้งกัดข้าได้ล่ะ!&#8221; หวงฝู่จวินโหรวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน</p>
<p>จงหลีค่วยขมวดคิ้ว &#8220;อยู่ดีๆ เขาจะมามัดเจ้าทำไม?&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้าจะไปรู้เหรอว่าเขาทำตัวลับๆ ล่อๆ เพราะคิดจะทำอะไร? เขาอยู่ข้างนอกรึเปล่า?&#8221;</p>
<p>&#8220;ไม่อยู่!&#8221;</p>
<p>หวงฝู่จวินโหรวกลอกลูกตา แล้วรีบออกไปตามหาด้านนอกจนทั่วพักหนึ่ง พอเห็นจงหลีค่วยที่อยู่ในลานบ้านอีกครั้ง ก็ถามอีกว่า &#8220;รู้รึเปล่าว่าเขาไปไหน?&#8221;</p>
<p>&#8220;ข้าเพิ่งกลับมา ยังคิดจะถามเจ้าอยู่เลยว่าเขาไปไหน…&#8221; พูดจบก็อกสั่นขวัญแขวนนิดหน่อย กังวลว่าเหมียวอี้จะทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรทำที่นี่ จึงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วบอกว่า &#8220;ตอนออกไปจากที่นี่คงจะมีคนเห็น ไปถามดูข้างนอกหน่อย&#8221; จงหลีค่วยตอบ</p>
<p>หวงฝู่จวินโหรวก็ไม่ไม่มีเวลามาหวีผมอีกแล้ว ปล่อยผมยุ่งสยาย</p>
<p>ทั้งสองทยอยกันถลันตัวออกไป เมื่อหาศิษย์ปราสาทดำเนินเซียนที่รับผิดชอบดูแลที่นี่พบแล้วถามนาง ก็พบว่าเหมียวอี้ออกไปแล้วจริงๆ ด้วย</p>
<p>&#8220;ไปที่ไหน?&#8221; จงหลีค่วยถามอีกว่า</p>
<p>ศิษย์หญิงที่ดูเหมือนแต่งงานแล้วคนนั้นครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง &#8220;ไปทางนั้นค่ะ&#8221;</p>
<p>&#8220;เจ้ารออยู่ที่นี่สักครู่! ข้าจะไปขอป้ายคำสั่งจากหวังเยี่ยนถง&#8221; จงหลีค่วยทิ้งคำพูดไว้แล้วเหาะออกไป ผ่านไปไม่นานก็ถือป้ายคำสั่งมาแล้ว กวักมือเรียกหวงฝู่จวินโหรวแต่ไกลๆ อีกฝ่ายเหาะตามไปทันที ทั้งสองออกไปพร้อมกัน</p>
<p>ศิษย์ปราสาทดำเนินเซียนกระจายกำลังเป็นร่างแหอยู่ทั่วดาวดำเนินเซียน ส่วนสภาพแวดล้อมของดาวดำเนินเซียนก็เห็นๆ กันอยู่ เห็นสภาพพื้นที่ใต้เมฆหมอกได้ยากมาก ดังนั้นเหมียวอี้จึงเหาะอยู่กลางอากาศอย่างไม่สนใจอะไร ถ้าไม่อยากให้ศิษย์ที่ดาวดำเนินเซียนพบตอนเหาะอยู่บนฟ้าก็คงยาก เวลาจงหลีค่วยกับหวงฝู่จวินโหรวเจอศิษย์ปราสาทดำเนินเซียนดักและสอบถาม พวกเขาก็ถามกลัยเช่นกัน และไม่นานก็แน่ใจทิศทางที่เหมียวอี้ไปแล้ว</p>
<p>&#8220;ใครกัน!&#8221;</p>
<p>บนยอดเขาข้างหน้ามีเสียงตะโกนดังมา เงาคนคนหนึ่งแฉลบผ่านฟ้ามาขวางทางเหมียวอี้ไว้ ด้านซ้ายด้านขวามีคนเหาะมาเพิ่มอีกสิบกว่าคน</p>
<p>เหมียวอี้ค่อนข้างจนใจ ระหว่างทางที่มานี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่โดนขวางทาง ปราสาทดำเนินเซียนพิทักษ์รักษาดาวดำเนินเซียนเข้มงวดพอสมควร แต่ก็ช่วยไม่ได้ สภาพด้านล่างของเมฆหมอก แม้แต่การแยกแยะทิศทางให้ชัดเจนยังทำได้ยากมาก ทำอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ค่อยสะดวก ทำเอาการเดินทางในครั้งนี้ของเขาไม่เป็นความลับอะไรเลย นี่ก็เป็นสาเหตุที่เขาไม่ได้เก็บหวงฝู่จวินโหรวเข้าในกระเป๋าสัตว์</p>
<p>ย่อมเกิดความเข้าใจผิดอยู่แล้ว ป้ายคำสั่งที่เหมียวอี้ยื่นให้ได้ยืนยันตัวตนแล้วว่าเป็นแขกที่มาชมทิวทัศน์ &#8216;ป้ายคำสั่ง&#8217; ของเขาไม่เหมือนป้ายคำสั่งที่หวังเยี่ยนถงมีไว้ครอบครองส่วนตัว แต่เป็นการทำหลักฐานยืนยันออกมา ว่าเขาคือแขกของปราสาทดำเนินเซียนที่มาเที่ยวเล่นที่นี่ ให้ศิษย์แต่ละคนอย่าเมินเฉยไม่ต้อนรับ</p>
<p>&#8220;ที่แท้ก็เป็นพี่เหมียว ผู้น้อยหลิวฮั่น ถ้ามีจุดไหนล่วงเกินก็ขออภัยด้วย&#8221; ชายหนุ่มที่ตรงหว่างคิ้วเผยวรยุทธ์บงกชทองขั้นห้ากุมหมัดคารวะ พอนำป้ายคำสั่งคืนให้ กลุ่มลูกศิษย์ที่วรยุทธ์ค่อนข้างต่ำที่ลอยอยู่ข้างหลังเขาก็แสดงท่าทีศัตรูเช่นกัน</p>
<p>&#8220;พี่หลิวทำตามหน้าที่ จะตำหนิได้อย่างไร&#8221; เหมียวอี้ยิ้มตอบพร้อมรับป้ายคำสั่งกลับมา</p>
<p>แต่พอหลิวฮั่นมองตามทิศทางที่เหมียวอี้จะไป ก็ขมวดคิ้วถามว่า &#8220;นี่พี่เหมียวจะไปเที่ยวเล่นข้างหน้าเหรอ?&#8221;</p>
<p>&#8220;ใช่แล้ว!&#8221; เหมียวอี้ตอบ แต่พอเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของอีกฝ่าย จึงถามหยั่งเชิงว่า &#8220;หรือว่ามีอะไรไม่เหมาะสม?&#8221;</p>
<p>หลิวฮั่นตอบว่า &#8220;พี่เหมียวต้องจำไว้ให้ดีนะ ถ้าไปต่อข้างหน้าอีกหนึ่งร้อยลี้ แล้วพบความผิดปกติอะไร ก็อย่าเดินไปข้างหน้าต่อเด็ดขาด ท่ามกลางเมฆหมอกในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ของที่นั่นซ่อนหมอกพิษเอาไว้ พิษร้ายแรวสุดๆ พิษนั้นรักษาไม่ได้ คนที่บุกเข้าไปแทบจะออกมาไม่ได้เลย ต่อให้โชคดีรอดชีวิตออกมาได้ แต่ก็สติฟั่นเฟือน ผู้อาวุโสหลายท่านของสำนักเราเคยโดนหมอกพิษนี้ ดังนั้นลูกศิษย์จึงไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ พี่เหมียวต้องระวังตัวนะ จะประเมินมันต่ำไม่ได้เด็ดขาด!&#8221;</p>
<p>เหมียวอี้อึ้งไปชั่วขณะ ตำแหน่งที่อีกฝ่ายบอกมา ก็คือจุดมุ่งหมายหาสมบัติที่ตนต้องการจะไปไม่ใช่เหรอ?</p>
<p>แต่ไม่นานก็เปลี่ยนความคิด มีความเป็นไปได้ว่าคนที่ซ่อนสมบัติทำให้ที่นั่นเป็นเขตต้องห้ามเพื่อปกป้องสมบัติ ประสบการณ์ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าตนไม่กลัวพิษ จึงกุมหมัดคารวะทันที &#8220;ขอบคุณที่พี่หลิวเตือน ข้าจะไปดูนิดหน่อย ไม่ล่วงล้ำเข้าไปแน่ ไม่รบกวนการเฝ้าเวรยามของพี่หลิวแล้ว ขอตัวก่อน!&#8221;</p>
<p>&#8220;ส่งตรงนี้!&#8221; หลิวฮั่นกุมหมัดส่ง หลังจากมองส่งเหมียวอี้เหาะหายไปในทะเลเมฆไกลๆ ก็ลูบเคราสั้นพลางขมวดคิ้วพึมพำ &#8220;คนนี้ทำไมหน้าคุ้นๆ? เหมียวอี้…เหมียวอี้…&#8221;</p>
<p>&#8220;อาจารย์อา เป็นอะไรไป? หรือว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า?&#8221; ลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ เห็นเขาทำท่าครุ่นคิด จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม</p>
<p>&#8220;ไม่มีอะไร!&#8221; หลิวฮั่นส่ายหน้า &#8220;ข้าแค่รู้สึกว่าคนคนนี้ค่อนข้างคุ้นตา คล้ายๆ ผู้บัญชาการใหญ่หนิวโหย่วเต๋อของตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวน&#8221;</p>
<p>&#8220;หนิวโหย่วเต๋อที่สั่งตัดหัวข้าทาสของชนชั้นสูงที่ตำหนักสวรรค์ไปสามพันกว่าคนนั่นน่ะเหรอ?&#8221; ศิษย์คนนั้นถามอย่างตกใจ</p>
<p>&#8220;นอกจากหนิวโหย่วเต๋อนั่นแล้วจะมีใครได้อีก ชื่อประเภทนี้ ถ้าอยากจะให้มีคนชื่อเดียวกันก็คงยาก&#8221; หลิวฮั่นตอบ</p>
<p>ศิษย์อีกคนบอกว่า &#8220;อาจารย์อา เกรงว่าคงจะจำผิดแล้วมั้ง ผู้บัญชาการใหญ่ของตำหนักสวรรค์จะมีบัตรผ่านของปราสาทดำเนินเซียนได้อย่างไร?&#8221;</p>
<p>หลิวฮั่นกล่าวอย่างลังเลว่า &#8220;ตอนนั้นที่หนิวโหย่วเต๋อสั่งตัดหัวคนสามพันกว่าคน ข้าได้รับคำสั่งให้จัดการธุระแล้วผ่านมาที่ดาวเทียนหยวน ตอนที่แวะพักตลาดสวรรค์เกิดเรื่องนี้ขึ้นพอดี ตอนนั้นข้าล้อมมุงดูอยู่ด้วย ในตอนนั้นเขาสวมเกราะรบแม่ทัพหนึ่งแถบของตำหนักสวรรค์ เผยใบหน้าออกมา ลักษณะมีพลังอำนาจ ใบหน้าหยิ่งผยิงดุร้าย ถ้าเทียบกับคนคนนี้ก็ต่างกันนิดหน่อย ข้าว่าข้าคงมองผิดไป คงจะแค่หน้าตาเหมือนกันเฉยๆ&#8221;</p>
<p>ถ้าเหมียวอี้ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเขา คาดว่าคงต้องมีปาดเหงื่อกันบ้าง ต้องนึกไม่ถึงแน่ๆ ว่าดาวดำเนินเซียนที่อยู่ไกลขนาดนี้จะมีคนรู้จักเขา นี่คือราคาที่ต้องจ่ายจากการทำตัวโดดเด่นในปีนั้น ไม่อย่างนั้นในบรรดาคนที่ไปมาหาสู่กับดาวเทียนหยวน จะมีสักกี่คนที่มีโอกาสเห็นว่าผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์เป็นใคร</p>
<p>หลิวฮั่นเพิ่งจะกลับมาถึงจวนถ้ำที่ต้องเฝ้าเวรยามได้ครู่เดียว จู่ๆ ระฆังดาราก็ส่งเสียงดัง ได้รับขาวจากลูกศิษย์อีกแล้ว มีคนแปลกหน้าสองคนบุกเข้ามาอีกแล้ว</p>
<p>ทำไมวันนี้มีแต่คนแปลกหน้ามาหา? หลิวฮั่นค่อนข้างแปลกใจ ออกไปดักคนไว้อีกครั้ง</p>
<p>คนที่ดักไว้ได้ย่อมไม่ใช่ใครอื่น เป็นจงหลีค่วยกับหวงฝู่จวินโหรวนั่นเอง การถูกซักถามเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้</p>
<p>เมื่อยืนยันที่มาที่ไปแล้ว จงหลีค่วยก็ถามคำถามเดียวกับที่ถามคนอื่นก่อนหน้านี้ &#8220;พี่หลิว เห็นคนที่ชื่อหนิวโหย่วเต๋อผ่านมาทางนี้บ้างหรือเปล่า?&#8221;</p>
<p>&#8220;มี! เพิ่งจะผ่านทางนี้ไปได้ไม่นาน&#8221; หลิวฮั่นพยักหน้าตอบ สายตาเขากวาดมองใบหน้าหวงฝู่จวินโหรวเป็นระยะพลางขมวดคิ้ว</p>
<p>&#8220;ไปทางไหนแล้ว?&#8221; หวงฝู่จวินโหรวถาม</p>
<p>หลิวฮั่นโบกมือชี้ แล้วก็เตือนทั้งสองเหมือนที่เตือนเหมียวอี้ก่อนหน้านี้ด้วย</p>
<p>ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง พอขอบคุณที่อีกฝ่ายชี้แนะ ก็ขอตัวอำลา แล้วเดินทางไปยังทิศทางที่เหมียวอี้ไป</p>
<p>ขณะที่มองส่งทั้งสองคล้อยหลังไป หลิวฮั่นก็ขมวดคิ้วมุ่น ข้างหลังมีลูกศิษย์ถามอีกว่า &#8220;อาจารย์อา อย่าบอกนะว่าเคยรู้จักอีก?&#8221;</p>
<p>หลิวฮั่นส่ายหน้าเบาๆ แล้วเรียกให้ทุกคนแยกย้าย แต่ระหว่างทางที่กลับมาจวนถ้ำ คิวที่ขมวดมุ่นกลับไม่เคยคลายออกเลย</p>
<p>ถึงแม้เขาจะไม่สนิทกับจงหลีค่วย แต่ก็เคยเห็นตอนที่จงหลีค่วยมาที่ปราสาทดำเนินเซียนในปีนั้น คนนี้คงจะเป็นจงหลีค่วยไม่ผิดแน่ แต่ปัญหาอยู่ที่ตัวหวงฝู่จวินโหรว ก่อนที่เหมียวอี้จะเปิดฉากสังหารใหญ่ที่ตลาดสวรรค์ เขาเคยผ่านมาพักที่ดาวเทียนหยวนไม่กี่วัน ตอนนั้นเคยนำยาเจี๋ยตันที่ได้ไปปล่อยขายให้ร้านค้าสมาคมวีรชน ถึงแม้คนที่มาต้อนรับเขาจะไม่ใช่หวงฝู่จวินโหรว แต่เขาก็เคยบังเอิญเหลือบไปเห็นหวงฝู่จวินโหรวนั่งคุยกับคนอื่นอยู่ในห้องส่วนตัว</p>
<p>พอบังเอิญเหลือบมองแวบหนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองหลายๆ ครั้ง เป็นเพราะความงามของหวงฝู่จวินโหรวก็เห็นๆ กันอยู่ เป็นเรื่องยากที่จะให้ผู้ชายปกติมองข้าม ด้วยเหตุนี้จึงถือโอกาสถามพนักงานว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เขาจึงค่อนข้างมีภาพของหวงฝู่จวินโหรวติดในความทรงจำ แต่หวงฝู่จวินโหรวในวันนี้ดันปล่อยผมยาวสยาย เปลี่ยนทรงผมแล้ว ถึงแม้หน้าตาจะงดงามชวนหวั่นไหวเหมือนเดิม แต่ก็ดูไม่ค่อยเหมือนแล้วจริงๆ</p>
<p>ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจสงสัยไม่หยุดก็คือ แค่เหมียวอี้คนเดียวที่หน้าตาเหมือนหนิวโหย่วเต๋อก็ว่าน่าสงสัยแล้ว ทำไมมีหวงโหรวที่หน้าตาเหมือนผู้จัดการร้านค้าสมาคมวีรชนโผล่มาด้วยล่ะ? สองคนที่หน้าตาคล้ายสองคนนั้นดันเป็นคนที่อยู่ในสถานที่เดียวกันด้วย แถมชื่อหวงฝู่จวินโหรวกับหวงโหรวก็ยังมีความเชื่อมโยงกันอีก&#8230;</p>
<p>ในตอนนี้เหมียวอี้มาถึงบริเวณที่อยู่ริมขอบจุดมุ่งหมายแล้ว เหยียบลงบนยอดเขาแห่งหนึ่งที่กำหนดไว้ มองทิวทัศน์โดยรอบจากตรงนี้ก็ยังโอ่อ่าสง่างามเหมือนเดิม แต่กลับมีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตน้อยลงหลายส่วน ไม่น่าเชื่อว่าเบื้องหน้าจะไม่เห็นสัตว์ปีกบินไปบินมาเลย เท่ากับพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่หลิวฮั่นพูดเป็นความจริง</p>
<p>เขาย่อมไม่หยุดอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างอื่นเขาอาจจะพะว้าพะวัง แต่กับยาพิษเขาไม่รู้สึกอะไร ถึงขั้นเป็นเรื่องดีสำหรับเขาในตอนนี้ด้วยซ้ำ แปลว่าบริเวณนี้ไม่มีศิษย์ปราสาทดำเนินเซียนเฝ้าอยู่ สามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้สะดวก</p>
<p>อิงจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เหมียวอี้ก็ถลันตัวพุ่งในแนวแนวเฉียงขึ้นไปบนฟ้าเหนือสถานที่เป้าหมาย เตรียมจะกำหนดจุดศูนย์กลางของสถานที่นั้นจากบนฟ้า</p>
<p>เมื่อล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าที่หลิวฮั่นเตือน ข้างหูเหมียวอี้ก็ได้ยินเสียงคน &#8220;นี่&#8221; ดังมารางๆ เหมือนเสียงนี้จะดังก้องอยู่ในหัวของเขา เขางงไปชั่วขณะ รีบหันมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นว่ามีใคร แต่เห็นจงหลีค่วยกับหวงฝู่จวินโหรวตามมาอยู่ไกลๆ</p>
<p>สองคนนี้มาได้อย่างไร? เหมียวอี้ค่อนข้างพูดไม่ออก สาเหตุที่เขามัดหวงฝู่จวินโหรวไว้ไม่ยอมพามา ก็เป็นเพราะการรักษาการณ์ของดาวดำเนินเซียนแน่นหนาเกินไป กลัวว่าการเดินทางครั้งนี้จะมีความผิดพลาดอะไร ที่ทิ้งหวงฝู่จวินโหรวเอาไว้ก็เพื่อความปลอดภัยของนางเอง ถ้าพูดจากอีกมุมมองหนึ่ง การที่มัดนางไว้แบบนี้ก็เพื่อให้รับมือได้สะดวก หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาจะได้ช่วยให้หวงฝู่ตัดความเกี่ยวข้องกับเขาได้ ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้ยังจะมาได้อีก</p>
<p>เมื่อเห็นคนที่มากับนางก็รู้แล้ว เหมียวอี้เรียกได้ว่าทั้งโมโหทั้งอยากขำ เดาว่าจงหลีค่วยคงจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นออกมา ตนอุตส่าห์ลงมือกับหวงฝู่ได้อย่างสะดวกราบรื่นแล้ว แต่ดันพลาดให้ลุงหนวด!</p>
<p>แต่สิ่งที่ทำให้เหมียวอี้แปลกใจก็คือ หรือว่าเมื่อครู่นี้เป็นพวกเขาสองคนที่ตะโกนเรียกตน? ไม่ใช่สิ ไม่เหมือนเสียงของสองคนนั้น ยังมีคนอื่นอีกเหรอ? เขารีบหันมองไปรอบๆ อีกครั้ง แต่ก็ไม่เห็นคนอื่น</p>
<p>ในขณะนี้เอง จู่ๆ ข้างหูก็มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังกรอกเข้ามาในหูโดยตรง เสียงแบบต่างๆ ที่ดังขึ้นในชั่วพริบตาเดียวทำให้เขาปวดหัวจนหัวแทบแยก โดยเฉพาะเสียงที่ดังชัดที่สุดท่ามกลางเสียงดังวุ่นวายนั้น &#8220;มานี่…มานี่สิ…&#8221; เป็นเสียงที่เรียกเขาไม่หยุด แยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของผู้ชายหรือผู้หญิง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน ไม่รู้ว่าจะเรียกให้ตนไปที่ไหน</p>
<p>สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงยิ่งกว่านั้นก็คือ ตั๊กแตนห้าตัวในกำไลเก็บสมบัติตื่นแล้ว มันร้อนรนกระสับกระส่ายอยู่ในกำไลเก็บสมบัติ เฮยทั่นที่อยู่ในกระเป๋าสัตว์ก็ไม่นอนแล้วเช่นกัน มันกำลังร้อนรนอยู่ในกระเป๋าสัตว์</p>
<p>เขาจำคำเตือนของหลิวฮั่นได้ สิ่งแรกที่เขาคิดได้ก็คือตัวเองโดนพิษเข้าแล้ว แต่จะเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?</p>
<p>มีหลิวฮั่นเตือนไว้ก่อนล่วงหน้า เขาจึงใช้เกราะอิทธิฤทธิ์ล่องหนก่อนที่จะล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าผืนนี้ ต่อให้พิษจะสามารถฝ่าทะลุเกราะอิทธิฤทธิ์ล่องหนได้ แต่ตนก็น่าจะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนบ้างสิถึงจะถูก จะได้ใช้วิชาอัคนีดาราเตรียมป้องกันได้ทันเวลา แต่ไม่น่าเชื่อว่าตนจะโดนพิษโดยไม่รู้สึกถึงเค้าลางเลยสักนิด? กระเป๋าสัตว์กับกำไลเก็บสมบัติยังไม่ได้เปิดใช้ พิษจะเข้าไปข้างในได้อย่างไร? ถ้าเป็นการโจมตีด้วยคลื่นเสียง ตั๊กแตนกับกับเฮยทั่นก็อยู่ในอีกมิติหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกรบกวนโดยคลื่นเสียง นี่มันเป็นพิษอะไรกันแน่?</p>
<p>…………………………</p>

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด